Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคใต้น้อย

 

“ครืน ”

 

พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่รัศมีแสงจากท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปฐพีจะส่องประกายขึ้น

 

เฉกเช่นดินโคลนที่ถูกบั้นด้วยมือขนาดใหญ่ ภูมิประเทศเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง พื้นที่ตรงกลางจมลงขณะที่แผ่นดินรอบๆยกตัวขึ้น สุดท้ายมันกลายเป็นเป็นหุบเขาทรงกลม

 

พื้นที่ตรงกลางถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทําให้เกิดสภาพแวดล้อมที่แยกตัวออกจากโลกภายนอก

 

ไม่มีพืชพรรณเติบโตขึ้นภายในพื้นที่แห่งนี้ กระทั่งดินยังหายากเพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยเหล็กสีขาว

 

นี่คือหุบเขาแก่นแท้เหล็กขาว

 

ฟางหยวนได้รับวิธีการผลิตแหล่งทรัพยากรนี้รวมถึงวัสดุในการก่อสร้างมาจากตระกูลเฉิง

 

หุบเขาแก่นแท้เหล็กขาวเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดกลางที่สามารถผลิตแก่นแท้เหล็กขาวทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด

 

ด้วยทรัพยากรอมตะชนิดนี้ ฟางหยวนจะสามารถเลี้ยงดูวิญญาณอมตะใบมีดระดับเจ็ด 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่พบทรัพยากรที่เป็นแหล่งอาหารของวิญญาณอมตะใบมีดจากมิติช่องว่างของไท่ชิวจง แต่หลังจากค้นวิญญาณของเขา ฟางหยวนตระหนักว่าเขาตั้งใจสร้างแหล่งทรัพยากรนี้และพึงต่อรองราคากับเฉิงหูจาง

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงรีดไถตระกูลเฉิงโดยตรงและสามารถสร้างหุบเขาแก่นแท้เหล็กขาวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

 

เมื่อภารกิจนี้เสร็จสิ้น ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนก็เดินทางไปยังภูเขาตงฮัน

 

ภูเขาคริสตัลสีชมพูที่สูงตระหง่านสร้างเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่

 

ฟางหยวนโยนแก่นแท้อสูรวิญญาณลงไปที่ภูเขาตงฮันก่อนที่มันจะสร้างผลึกหินตงฮันจํานวนมากขึ้นมา

 

ภูเขาตงฮันฟื้นตัวขึ้นจนแทบจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แล้ว

 

มันฟื้นตัวขึ้นเก้าสิบเก้าส่วน แต่นี่เพียงพอแล้ว ฟางหยวนจะไม่ฟื้นฟูมันอย่างสมบูรณ์แบบเนื่องจากวังสวรรค์รู้จักภูมิประเทศเดิมของมัน แม้วิญญาณท่องแดนอมตะจะอยู่ในมือของฟางหยวน แต่ไม่สามารถกล่าวได้ว่าวังสวรรค์จะไม่มีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถเลียนแบบพลังอํานาจของวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

“หลังจากนี้ข้าจะสามารถผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวและเริ่มต้นธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้อีกครั้ง” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

มันไม่ง่ายเลยที่จะก้าวมาถึงจุดนี้ ฟางหยวนต้องใช้พลังงานอมตะจํานวนมหาศาล!

 

ภูเขาตงฮันเคยถูกทําลายมาก่อน มันถูกทําลายโดยปบึงทําให้มันกลายเป็นบ่อโคลน อย่างไรก็ตามเวลานั้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของภูเขาตงฮันยังอยู่

 

แต่ครั้งนี้ฟางหยวนมีเพียงชิ้นส่วนเล็กๆของภูเขาตงฮันขณะที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณส่วนใหญ่ถูกทําลายไปพร้อมกับการระเบิดตัวเองของภูเขาตงฮัน

 

ในกระบวนการฟื้นฟูภูเขาตงฮันครั้งนี้ ฟางหยวนได้สัมผัสถึงพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าที่เทพปีศาจจิตวิญญาณเคยใช้กับมัน

 

ฟางหยวนจะไม่สามารถฟื้นฟูภูเขาตงฮันหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งนี้

 

“ด้วยธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว วังสวรรค์ไม่สามารถจํากัดรายได้ของข้าอีกต่อไป”

 

“แต่ด้วยแหล่งทรัพยากรมากมายที่ได้รับจากผู้อมตะภาคใต้ ข้าสามารถบ่มเพาะได้โดยไม่ต้องฟังธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว”

 

“ข้าควรใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเหล่านี้ในการบ่มเพาะจิตวิญญาณของตัวข้าเอง”

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวนลดลงอย่างมากในเวลานี้

 

การยกระดับรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณอีกครั้งหมายความว่าฟางหยวนจะสามารถสะกดข่มทาสอสูรปีแรกกําเนิดได้มากขึ้น

 

น่าเสียดายที่แผนพัมนาทะเลทรายผีเขียวไม่ประสบความสําเร็จ ชิงโจวสามารถหลบหนี ตัวตนของซวนปู้จินถูกเปิดเผย ข้าไม่สามารถดําเนินแผนการล่าอสูรวิญญาณป่าได้อีก

 

“อย่างไรก็ตามข้าอาจขอความช่วยเหลือจากตระกูลฟาง..

 

ฟางหยวนพิจารณาถึงความเป็นไปได้

 

เขาต้องการบ่มเพาะจิตวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงต้องการวิญญาณความเด็ดเดี่ยวมากขึ้นและนั่นหมายความว่าเขาต้องใช้ดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตจํานวนมาก ดวงวิญญาณของผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถใช้ในเรื่องนี้ แก่นแท้อสูรวิญญาณยังเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

 

แต่เขาจะหาแก่นแท้อสูรวิญญาณมาจากที่ใด?

 

ราคาของแก่นแท้อสูรวิญญาณพุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยไม่ต้องสงสัยมันเป็นฝีมือของวังสวรรค์อย่างแน่นอน

 

ทะเลทรายตะวันตก ตระกูลฟาง

 

ห้องประชุม ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่

 

“ทุกคนดูจดหมายฉบับนี้” ชายชราที่มีผมขาวและเคราขาวเหมือนแผงคอราชสีห์กล่าว

 

เขาก็คือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง ฟางกง

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลฟาง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ ฟางตี้เฉิง ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สาม ฟางฮัวเฉิง รวมถึงฟางจื่อ ฟางเฉิน ฟางเล้ง และฟางหยุน ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่

 

พวกเขาอ่านข้อความและมีการแสดงออกที่แตกต่างกัน

 

ฟางเฉินกัดฟันกล่าว “ข้ารู้ว่าชวนจินไม่ใช่คนดี แต่ไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะเป็นฟางหยวนที่ปลอมตัวมา วังสวรรค์เปิดเผยตัวตนของเขาและตําหนิพวกเราว่าสมคบคิดกับปีศาจฟางหยวน ตระกูลของเราถูกกดดันโดยกองกําลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดเพราะปีศาจฟางหยวน! แต่เขายังต้องการให้เราจัดหาแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขา อืม เขากําลังฝันไป!”

 

ฟางเฉินแต่งงานเข้าสู่ตระกูลฟาง เขาเคยมีข้อพิพาททางวาจากับฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมมือกับปีศาจฟางหยวน

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งพิษฟางจื่อชําเลืองมองฟางเฉินและกล่าวเสียงเย็น “ฟางเฉิน นั่นหมายความว่าเจ้าต้องการปฏิเสธคําขอของฟางหยวนเช่นนั้นหรือ?”

 

ฟางเฉินตะลึง “ตระกูลฟางของเราต้องกลัวฟางหยวนงั้นหรือ? ตอนนี้กองกําลังฝ่ายธรรมะกําลังกดดันตระกูลฟางของเราโดยอ้างว่าพวกเราสมคบคิดกับสมาชิกฝ่ายปีศาจ หากเราทําข้อตกลงกับฟางหยวน พวกเขาจะมีข้ออ้างที่ยิ่งใหญ่เพื่อจัดการพวกเรา”

 

ฟางจื่อเงียบ

 

ในการเดินทางไปยังทะเลทรายผีเขียวคราวก่อน ตระกูลฟางสามารถเอาชนะผู้อมตะจากวังสวรรค์เฉินอี้และประสบความสําเร็จในการยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นพวกเขายังสามารถกําหราบสองผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ มันเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ของพวกเขา

 

แต่ในขณะที่พวกเขาได้กําไร ตระกูลฟางก็ต้องจ่ายราคามหาศาลเช่นกัน คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังของพวกเขาได้รับความเสียหายร้ายแรง นอกจากนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ความแข็งแกร่งของตระกูลฟางลดลงอย่างมาก เมื่อวังสวรรค์เปิดเผยเรื่องนี้ ตระกูลฟางจึงพบกับแรงกดดันจากกองกําลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดของทะเลทรายตะวันตก

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาจะปฏิเสธฟางหยวนได้จริงๆงั้นหรือ?

 

คําถามนี้ติดอยู่ในใจของผู้อมตะตระกูลฟางทั้งหมด

 

ตระกูลฟางสามารถปฏิเสธฟางหยวนหรือไม่?

 

พวกเขากําลังมีปัญหารอบด้าน แล้วพวกเขายังสามารถสร้างความขุ่นเคืองให้กับฟางหยวนในช่วงเวลาสําคัญเช่นนี้ได้อีกงั้นหรือ?

 

ปัจจุบันไม่มีผู้ใดในโลกไม่รู้ว่าฟางหยวนร้ายกาจและเจ้าเล่ห์มากเพียงใด นอกจากนั้นเขายังแข็งแกร่งมาก กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถจัดการเขา

 

คนผู้นี้ใช้ชีวิตอยู่เพียงลําพังโดยปราศจากโซ่ตรวนของญาติและคนรัก ไม่มีดินแดนหรือองค์กรใดที่เกี่ยวข้อง ตระกูลฟางไม่มีหนทางต่อรองกันเขา

 

ผู้อมตะตระกูลฟางเริ่มคิดถึงข้อมูลในอดีต ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปรอบๆเพื่อปล้นสะดมแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่อ

 

หากตระกูลฟางปฏิเสธฟางหยวน แล้วพวกเขาจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเช่นเดียวกับตระกูลจื่องั้นหรือ?

 

ตระกูลจื่อถูกฟางหยวนโจมตีโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกองกําลังอื่นของภาคใต้ หากเป็นตระกูลฟาง สถานการณ์ของพวกเขาจะยิ่งเลวร้ายมากกว่า

 

ไม่เพียงตระกูลฟางจะล้มเหลวในการขอกําลังเสริม แต่พวกเขาอาจถูกโจมตีซ้ำโดยกองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตก ตระกูลฟางจะกลายเป็นเผ่าไฟของภาคเหนือ ฐานทัพใหญ่ของพวกเขาจะถูกยึด ตระกูลของพวกเขาจะถูกทําลาย

 

“ฟางเล้ง ฟางหยุน พวกเจ้าคิดเห็นอย่างไร?” ฟางตี้เฉิงเปิดปากถาม

 

ฟางหยุนตะลึง พวกเขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก โดยปกติพวกเขาสามารถฟังอยู่ด้านข้างเท่านั้น พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวความคิดเห็นของตนในโอกาสเช่นนี้ “นี่ข้าไม่รู้ว่าควรทําอย่างไร? แต่ฟางหยวนเคยช่วยชีวิตข้า เขาเป็นผู้มีพระคุณของข้า ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่าพวกเราสร้างข้อตกลงกับเขาแล้วงั้นหรือ? มันไม่ควรจะเป็นปัญหาหากเราจะส่งแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขา อา…แน่นอนว่าข้าจะฟังการตัดสินใจของท่านพ่อ”

 

ใบหน้าของฟางตี้เฉิงมืดครื้มลงเล็กน้อย เขาชําเลืองมองบุตรชายบุญธรรมของตนก่อนจะหันหน้าไปทางฟางเล้ง

 

เปรียบเทียบกับฟางหยุนที่เจ้าเล่ห์ ฟางเล้งมีบุคลิกที่มั่นคงและได้รับการยอมรับจากผู้อมตะตระกูลฟางว่าเป็นความหวังในอนาคตของตระกูล

 

ฟางเล้งคิดก่อนกล่าว “ข้าสงสัยว่าทุกคนสังเกตเห็นหรือไม่ว่าฟางหยวนไม่ได้ใช้ชื่อซวนปู้จินในจดหมายฉบับนี้แต่ใช้ชื่อของเขาโดยตรง”

 

ฟางเฉินตะคอก “เพราะวังสวรรค์เปิดเผยตัวตนของเขาแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่ฟางหยวนจะใช้ตัวตนของซวนปู้จินอีก เขาอาจต้องการข่มขู่ตระกูลของเราโดยใช้ชื่อจริงของเขา เขาพยายามกล่าวว่าข้าคือฟางหยวน หากตระกูลฟางของพวกเจ้าไม่ปฏิบัติตามคําขอของข้า พวกเจ้าต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของข้า!”

 

ฟางเล้งยิ้ม “มีความหมายนี้อยู่จริงๆ ฟางหยวนมั่นใจว่าเขาสามารถสร้างปัญหาให้กับตระกูลฟางของเรา ข้าเชื่อว่าเขาสามารถทําได้ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเราควรยอมรับคําขอของฟางหยวน”

 

“อันใด!?” ฟางเฉินอุทานเสียงดัง

 

แต่ฟางตี้เฉิงโบกมือ “ปล่อยให้เขากล่าวต่อไป”

 

ฟางเฉินไม่กล้าพูดอีก

 

ฟางเล้งสูดหายใจลึกก่อนกล่าวต่อ “ทุกท่าน ตระกูลของเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยและได้รับแรงกดดันจากทุกสารทิศ เหตุผลเป็นเพราะพวกเราร่วมมือกับฟางหยวนจริงๆงั้นหรือ?”

 

“มันไม่ใช่กรณีนั้น! เหตุผลที่แท้จริงคือพวกเราได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเราดูดซับกําไรเรียบร้อยแล้ว ตระกูลฟางจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของทะเลทรายตะวันตก เราจะมีพลังและอํานาจ สิ่งสําคัญคือผลประโยชน์ การพุ่งทะยานขึ้นของตระกูลฟางเป็นการเหยียบย่ำกองกําลังอื่น นี่คือเหตุผลที่กองกําลังอื่นไม่สามารถอดทนและร่วมมือกันกดกันพวกเรา”

 

“หากตระกูลของเราไม่ตอบสนองคําขอของฟางหยวนและทําลายความสัมพันธ์กับเขา กองกําลังอื่นจะปล่อยเราไปหรือไม่? แน่นอนว่าไม่! ตรงข้าม เราจะกลายเป็นศัตรูของฟางหยวนที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด หากปีศาจตนนี้ต้องการแก้แค้น มันอาจทําให้เราปวดหัวอย่างไม่รู้จบสิ้น

 

“แต่ด้วยการทําตามคําขอของฟางหยวน ไม่เพียงพวกเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่ทําไว้ก่อนหน้านี้ พวกเรายังสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์และหยิบยืมความแข็งแกร่งของเขาเพื่อจัดการกองกําลังอื่นๆ”

 

“แน่นอนว่าเราจะส่งแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขาอย่างลับๆหลังจากพูดคุยกับเขาแล้ว เราสามารถทําตัวราวกับเราทําลายความสัมพันธ์กับเขาไปแล้วอย่างสิ้นเชิง จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเราสูญเสียแก่นแท้อสูรวิญญาณระดับหกและระดับเจ็ด? พวกมันเป็นเพียงทรัพยากร ตราบเท่าที่ตระกูลฟางของเราสามารถก้าวข้ามความยากลําบากในครั้งนี้ พวกเราจะไม่ขาดแคลนทรัพยากรในอนาคต”

 

ห้องประชุมตกลงสู่ความเงียบ

 

ฟางตี้เฉิงหัวเราะคิกคัก

 

ฟางกงหัวเราะอย่างเต็มที่ “ดี เราจะทําเช่นนี้ ฟางหยุน เจ้าติดต่อฟางหยวน”

 

“อา…” ฟางหยุนมีนงง เห็นได้ชัดว่าฟางเล้งเป็นคนวิเคราะห์และเสนอความคิดเห็น แต่เหตุใดเขาถึงเป็นคนดําเนินการ? อย่างไรก็ตามเมื่อมันเป็นคําสั่งของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ฟางหยุนก็ต้องทําตามเท่านั้น

 

“ฟางเล้งผู้นี้มีวิสัยทัศน์ที่ดี เขาสามารถมองเห็นภาพรวม ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งและสองพยายามเลี้ยงดูเขาให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลฟางในอนาคต คนเช่นนี้จะมีรอยแปดเปื้อนด้วยการสมรู้ร่วมคิดกับปีศาจได้อย่างไร? ดังนั้นฟางหยุนจึงต้องเป็นผู้ทําภารกิจนี้” ฟางเฉินชําเลืองมองฟางหยุนผู้โง่เขลาด้วยความสงสาร

 

ความสงสารนี้มีความเห็นอกเห็นใจผสมอยู่ด้วย

 

เหตุใดฟางหยุนถึงได้รับภารกิจนี้?

 

นั่นเป็นเพราะฟางหยุนเป็นบุตรบุญธรรมของฟางตี้เฉิง

 

ตระกูลฟางแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งและฝ่ายของผู้อาวุโสสุงสุดลําดับที่สอง

 

สําหรับฟางเฉิน เขาเข้าใจสถานการณ์นี้อย่างชัดเจน โชคไม่ดีที่เขาเป็นเพียงคนนอกที่แต่งงานเข้าสู่ตระกูลฟาง พรสวรรค์ของเขาไร้ประโยชน์เพราะสถานะของเขา เขาสามารถเป็นได้เพียงหินรองเท้าของฟางเล้งเท่านั้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1616 คําเรียกร้องจากฟางหยวน

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคใต้น้อย

 

“ครืน ”

 

พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่รัศมีแสงจากท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปฐพีจะส่องประกายขึ้น

 

เฉกเช่นดินโคลนที่ถูกบั้นด้วยมือขนาดใหญ่ ภูมิประเทศเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง พื้นที่ตรงกลางจมลงขณะที่แผ่นดินรอบๆยกตัวขึ้น สุดท้ายมันกลายเป็นเป็นหุบเขาทรงกลม

 

พื้นที่ตรงกลางถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทําให้เกิดสภาพแวดล้อมที่แยกตัวออกจากโลกภายนอก

 

ไม่มีพืชพรรณเติบโตขึ้นภายในพื้นที่แห่งนี้ กระทั่งดินยังหายากเพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยเหล็กสีขาว

 

นี่คือหุบเขาแก่นแท้เหล็กขาว

 

ฟางหยวนได้รับวิธีการผลิตแหล่งทรัพยากรนี้รวมถึงวัสดุในการก่อสร้างมาจากตระกูลเฉิง

 

หุบเขาแก่นแท้เหล็กขาวเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดกลางที่สามารถผลิตแก่นแท้เหล็กขาวทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด

 

ด้วยทรัพยากรอมตะชนิดนี้ ฟางหยวนจะสามารถเลี้ยงดูวิญญาณอมตะใบมีดระดับเจ็ด 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่พบทรัพยากรที่เป็นแหล่งอาหารของวิญญาณอมตะใบมีดจากมิติช่องว่างของไท่ชิวจง แต่หลังจากค้นวิญญาณของเขา ฟางหยวนตระหนักว่าเขาตั้งใจสร้างแหล่งทรัพยากรนี้และพึงต่อรองราคากับเฉิงหูจาง

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงรีดไถตระกูลเฉิงโดยตรงและสามารถสร้างหุบเขาแก่นแท้เหล็กขาวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

 

เมื่อภารกิจนี้เสร็จสิ้น ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนก็เดินทางไปยังภูเขาตงฮัน

 

ภูเขาคริสตัลสีชมพูที่สูงตระหง่านสร้างเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่

 

ฟางหยวนโยนแก่นแท้อสูรวิญญาณลงไปที่ภูเขาตงฮันก่อนที่มันจะสร้างผลึกหินตงฮันจํานวนมากขึ้นมา

 

ภูเขาตงฮันฟื้นตัวขึ้นจนแทบจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แล้ว

 

มันฟื้นตัวขึ้นเก้าสิบเก้าส่วน แต่นี่เพียงพอแล้ว ฟางหยวนจะไม่ฟื้นฟูมันอย่างสมบูรณ์แบบเนื่องจากวังสวรรค์รู้จักภูมิประเทศเดิมของมัน แม้วิญญาณท่องแดนอมตะจะอยู่ในมือของฟางหยวน แต่ไม่สามารถกล่าวได้ว่าวังสวรรค์จะไม่มีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถเลียนแบบพลังอํานาจของวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

“หลังจากนี้ข้าจะสามารถผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวและเริ่มต้นธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้อีกครั้ง” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

มันไม่ง่ายเลยที่จะก้าวมาถึงจุดนี้ ฟางหยวนต้องใช้พลังงานอมตะจํานวนมหาศาล!

 

ภูเขาตงฮันเคยถูกทําลายมาก่อน มันถูกทําลายโดยปบึงทําให้มันกลายเป็นบ่อโคลน อย่างไรก็ตามเวลานั้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของภูเขาตงฮันยังอยู่

 

แต่ครั้งนี้ฟางหยวนมีเพียงชิ้นส่วนเล็กๆของภูเขาตงฮันขณะที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณส่วนใหญ่ถูกทําลายไปพร้อมกับการระเบิดตัวเองของภูเขาตงฮัน

 

ในกระบวนการฟื้นฟูภูเขาตงฮันครั้งนี้ ฟางหยวนได้สัมผัสถึงพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าที่เทพปีศาจจิตวิญญาณเคยใช้กับมัน

 

ฟางหยวนจะไม่สามารถฟื้นฟูภูเขาตงฮันหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งนี้

 

“ด้วยธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว วังสวรรค์ไม่สามารถจํากัดรายได้ของข้าอีกต่อไป”

 

“แต่ด้วยแหล่งทรัพยากรมากมายที่ได้รับจากผู้อมตะภาคใต้ ข้าสามารถบ่มเพาะได้โดยไม่ต้องฟังธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว”

 

“ข้าควรใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเหล่านี้ในการบ่มเพาะจิตวิญญาณของตัวข้าเอง”

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวนลดลงอย่างมากในเวลานี้

 

การยกระดับรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณอีกครั้งหมายความว่าฟางหยวนจะสามารถสะกดข่มทาสอสูรปีแรกกําเนิดได้มากขึ้น

 

น่าเสียดายที่แผนพัมนาทะเลทรายผีเขียวไม่ประสบความสําเร็จ ชิงโจวสามารถหลบหนี ตัวตนของซวนปู้จินถูกเปิดเผย ข้าไม่สามารถดําเนินแผนการล่าอสูรวิญญาณป่าได้อีก

 

“อย่างไรก็ตามข้าอาจขอความช่วยเหลือจากตระกูลฟาง..

 

ฟางหยวนพิจารณาถึงความเป็นไปได้

 

เขาต้องการบ่มเพาะจิตวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงต้องการวิญญาณความเด็ดเดี่ยวมากขึ้นและนั่นหมายความว่าเขาต้องใช้ดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตจํานวนมาก ดวงวิญญาณของผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถใช้ในเรื่องนี้ แก่นแท้อสูรวิญญาณยังเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

 

แต่เขาจะหาแก่นแท้อสูรวิญญาณมาจากที่ใด?

 

ราคาของแก่นแท้อสูรวิญญาณพุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยไม่ต้องสงสัยมันเป็นฝีมือของวังสวรรค์อย่างแน่นอน

 

ทะเลทรายตะวันตก ตระกูลฟาง

 

ห้องประชุม ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่

 

“ทุกคนดูจดหมายฉบับนี้” ชายชราที่มีผมขาวและเคราขาวเหมือนแผงคอราชสีห์กล่าว

 

เขาก็คือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง ฟางกง

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลฟาง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ ฟางตี้เฉิง ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สาม ฟางฮัวเฉิง รวมถึงฟางจื่อ ฟางเฉิน ฟางเล้ง และฟางหยุน ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่

 

พวกเขาอ่านข้อความและมีการแสดงออกที่แตกต่างกัน

 

ฟางเฉินกัดฟันกล่าว “ข้ารู้ว่าชวนจินไม่ใช่คนดี แต่ไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะเป็นฟางหยวนที่ปลอมตัวมา วังสวรรค์เปิดเผยตัวตนของเขาและตําหนิพวกเราว่าสมคบคิดกับปีศาจฟางหยวน ตระกูลของเราถูกกดดันโดยกองกําลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดเพราะปีศาจฟางหยวน! แต่เขายังต้องการให้เราจัดหาแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขา อืม เขากําลังฝันไป!”

 

ฟางเฉินแต่งงานเข้าสู่ตระกูลฟาง เขาเคยมีข้อพิพาททางวาจากับฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมมือกับปีศาจฟางหยวน

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งพิษฟางจื่อชําเลืองมองฟางเฉินและกล่าวเสียงเย็น “ฟางเฉิน นั่นหมายความว่าเจ้าต้องการปฏิเสธคําขอของฟางหยวนเช่นนั้นหรือ?”

 

ฟางเฉินตะลึง “ตระกูลฟางของเราต้องกลัวฟางหยวนงั้นหรือ? ตอนนี้กองกําลังฝ่ายธรรมะกําลังกดดันตระกูลฟางของเราโดยอ้างว่าพวกเราสมคบคิดกับสมาชิกฝ่ายปีศาจ หากเราทําข้อตกลงกับฟางหยวน พวกเขาจะมีข้ออ้างที่ยิ่งใหญ่เพื่อจัดการพวกเรา”

 

ฟางจื่อเงียบ

 

ในการเดินทางไปยังทะเลทรายผีเขียวคราวก่อน ตระกูลฟางสามารถเอาชนะผู้อมตะจากวังสวรรค์เฉินอี้และประสบความสําเร็จในการยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นพวกเขายังสามารถกําหราบสองผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ มันเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ของพวกเขา

 

แต่ในขณะที่พวกเขาได้กําไร ตระกูลฟางก็ต้องจ่ายราคามหาศาลเช่นกัน คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังของพวกเขาได้รับความเสียหายร้ายแรง นอกจากนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ความแข็งแกร่งของตระกูลฟางลดลงอย่างมาก เมื่อวังสวรรค์เปิดเผยเรื่องนี้ ตระกูลฟางจึงพบกับแรงกดดันจากกองกําลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดของทะเลทรายตะวันตก

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาจะปฏิเสธฟางหยวนได้จริงๆงั้นหรือ?

 

คําถามนี้ติดอยู่ในใจของผู้อมตะตระกูลฟางทั้งหมด

 

ตระกูลฟางสามารถปฏิเสธฟางหยวนหรือไม่?

 

พวกเขากําลังมีปัญหารอบด้าน แล้วพวกเขายังสามารถสร้างความขุ่นเคืองให้กับฟางหยวนในช่วงเวลาสําคัญเช่นนี้ได้อีกงั้นหรือ?

 

ปัจจุบันไม่มีผู้ใดในโลกไม่รู้ว่าฟางหยวนร้ายกาจและเจ้าเล่ห์มากเพียงใด นอกจากนั้นเขายังแข็งแกร่งมาก กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถจัดการเขา

 

คนผู้นี้ใช้ชีวิตอยู่เพียงลําพังโดยปราศจากโซ่ตรวนของญาติและคนรัก ไม่มีดินแดนหรือองค์กรใดที่เกี่ยวข้อง ตระกูลฟางไม่มีหนทางต่อรองกันเขา

 

ผู้อมตะตระกูลฟางเริ่มคิดถึงข้อมูลในอดีต ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปรอบๆเพื่อปล้นสะดมแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่อ

 

หากตระกูลฟางปฏิเสธฟางหยวน แล้วพวกเขาจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเช่นเดียวกับตระกูลจื่องั้นหรือ?

 

ตระกูลจื่อถูกฟางหยวนโจมตีโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกองกําลังอื่นของภาคใต้ หากเป็นตระกูลฟาง สถานการณ์ของพวกเขาจะยิ่งเลวร้ายมากกว่า

 

ไม่เพียงตระกูลฟางจะล้มเหลวในการขอกําลังเสริม แต่พวกเขาอาจถูกโจมตีซ้ำโดยกองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตก ตระกูลฟางจะกลายเป็นเผ่าไฟของภาคเหนือ ฐานทัพใหญ่ของพวกเขาจะถูกยึด ตระกูลของพวกเขาจะถูกทําลาย

 

“ฟางเล้ง ฟางหยุน พวกเจ้าคิดเห็นอย่างไร?” ฟางตี้เฉิงเปิดปากถาม

 

ฟางหยุนตะลึง พวกเขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก โดยปกติพวกเขาสามารถฟังอยู่ด้านข้างเท่านั้น พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวความคิดเห็นของตนในโอกาสเช่นนี้ “นี่ข้าไม่รู้ว่าควรทําอย่างไร? แต่ฟางหยวนเคยช่วยชีวิตข้า เขาเป็นผู้มีพระคุณของข้า ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่าพวกเราสร้างข้อตกลงกับเขาแล้วงั้นหรือ? มันไม่ควรจะเป็นปัญหาหากเราจะส่งแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขา อา…แน่นอนว่าข้าจะฟังการตัดสินใจของท่านพ่อ”

 

ใบหน้าของฟางตี้เฉิงมืดครื้มลงเล็กน้อย เขาชําเลืองมองบุตรชายบุญธรรมของตนก่อนจะหันหน้าไปทางฟางเล้ง

 

เปรียบเทียบกับฟางหยุนที่เจ้าเล่ห์ ฟางเล้งมีบุคลิกที่มั่นคงและได้รับการยอมรับจากผู้อมตะตระกูลฟางว่าเป็นความหวังในอนาคตของตระกูล

 

ฟางเล้งคิดก่อนกล่าว “ข้าสงสัยว่าทุกคนสังเกตเห็นหรือไม่ว่าฟางหยวนไม่ได้ใช้ชื่อซวนปู้จินในจดหมายฉบับนี้แต่ใช้ชื่อของเขาโดยตรง”

 

ฟางเฉินตะคอก “เพราะวังสวรรค์เปิดเผยตัวตนของเขาแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่ฟางหยวนจะใช้ตัวตนของซวนปู้จินอีก เขาอาจต้องการข่มขู่ตระกูลของเราโดยใช้ชื่อจริงของเขา เขาพยายามกล่าวว่าข้าคือฟางหยวน หากตระกูลฟางของพวกเจ้าไม่ปฏิบัติตามคําขอของข้า พวกเจ้าต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของข้า!”

 

ฟางเล้งยิ้ม “มีความหมายนี้อยู่จริงๆ ฟางหยวนมั่นใจว่าเขาสามารถสร้างปัญหาให้กับตระกูลฟางของเรา ข้าเชื่อว่าเขาสามารถทําได้ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเราควรยอมรับคําขอของฟางหยวน”

 

“อันใด!?” ฟางเฉินอุทานเสียงดัง

 

แต่ฟางตี้เฉิงโบกมือ “ปล่อยให้เขากล่าวต่อไป”

 

ฟางเฉินไม่กล้าพูดอีก

 

ฟางเล้งสูดหายใจลึกก่อนกล่าวต่อ “ทุกท่าน ตระกูลของเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยและได้รับแรงกดดันจากทุกสารทิศ เหตุผลเป็นเพราะพวกเราร่วมมือกับฟางหยวนจริงๆงั้นหรือ?”

 

“มันไม่ใช่กรณีนั้น! เหตุผลที่แท้จริงคือพวกเราได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเราดูดซับกําไรเรียบร้อยแล้ว ตระกูลฟางจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของทะเลทรายตะวันตก เราจะมีพลังและอํานาจ สิ่งสําคัญคือผลประโยชน์ การพุ่งทะยานขึ้นของตระกูลฟางเป็นการเหยียบย่ำกองกําลังอื่น นี่คือเหตุผลที่กองกําลังอื่นไม่สามารถอดทนและร่วมมือกันกดกันพวกเรา”

 

“หากตระกูลของเราไม่ตอบสนองคําขอของฟางหยวนและทําลายความสัมพันธ์กับเขา กองกําลังอื่นจะปล่อยเราไปหรือไม่? แน่นอนว่าไม่! ตรงข้าม เราจะกลายเป็นศัตรูของฟางหยวนที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด หากปีศาจตนนี้ต้องการแก้แค้น มันอาจทําให้เราปวดหัวอย่างไม่รู้จบสิ้น

 

“แต่ด้วยการทําตามคําขอของฟางหยวน ไม่เพียงพวกเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่ทําไว้ก่อนหน้านี้ พวกเรายังสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์และหยิบยืมความแข็งแกร่งของเขาเพื่อจัดการกองกําลังอื่นๆ”

 

“แน่นอนว่าเราจะส่งแก่นแท้อสูรวิญญาณให้เขาอย่างลับๆหลังจากพูดคุยกับเขาแล้ว เราสามารถทําตัวราวกับเราทําลายความสัมพันธ์กับเขาไปแล้วอย่างสิ้นเชิง จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเราสูญเสียแก่นแท้อสูรวิญญาณระดับหกและระดับเจ็ด? พวกมันเป็นเพียงทรัพยากร ตราบเท่าที่ตระกูลฟางของเราสามารถก้าวข้ามความยากลําบากในครั้งนี้ พวกเราจะไม่ขาดแคลนทรัพยากรในอนาคต”

 

ห้องประชุมตกลงสู่ความเงียบ

 

ฟางตี้เฉิงหัวเราะคิกคัก

 

ฟางกงหัวเราะอย่างเต็มที่ “ดี เราจะทําเช่นนี้ ฟางหยุน เจ้าติดต่อฟางหยวน”

 

“อา…” ฟางหยุนมีนงง เห็นได้ชัดว่าฟางเล้งเป็นคนวิเคราะห์และเสนอความคิดเห็น แต่เหตุใดเขาถึงเป็นคนดําเนินการ? อย่างไรก็ตามเมื่อมันเป็นคําสั่งของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ฟางหยุนก็ต้องทําตามเท่านั้น

 

“ฟางเล้งผู้นี้มีวิสัยทัศน์ที่ดี เขาสามารถมองเห็นภาพรวม ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งและสองพยายามเลี้ยงดูเขาให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลฟางในอนาคต คนเช่นนี้จะมีรอยแปดเปื้อนด้วยการสมรู้ร่วมคิดกับปีศาจได้อย่างไร? ดังนั้นฟางหยุนจึงต้องเป็นผู้ทําภารกิจนี้” ฟางเฉินชําเลืองมองฟางหยุนผู้โง่เขลาด้วยความสงสาร

 

ความสงสารนี้มีความเห็นอกเห็นใจผสมอยู่ด้วย

 

เหตุใดฟางหยุนถึงได้รับภารกิจนี้?

 

นั่นเป็นเพราะฟางหยุนเป็นบุตรบุญธรรมของฟางตี้เฉิง

 

ตระกูลฟางแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งและฝ่ายของผู้อาวุโสสุงสุดลําดับที่สอง

 

สําหรับฟางเฉิน เขาเข้าใจสถานการณ์นี้อย่างชัดเจน โชคไม่ดีที่เขาเป็นเพียงคนนอกที่แต่งงานเข้าสู่ตระกูลฟาง พรสวรรค์ของเขาไร้ประโยชน์เพราะสถานะของเขา เขาสามารถเป็นได้เพียงหินรองเท้าของฟางเล้งเท่านั้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+