Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1390 สายลมทั้งสี่

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1390 สายลมทั้งสี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เกราะหวนคืนสะท้อนมังกรวายุกลับไปที่วูหยง แต่ในเวลาเดียวกันร่างของวูหยงก็ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา

 

ท่าไม้ตายใหม่ถูกกระตุ้นใช้งานในที่สุด

 

หัตถ์ภูตวายุ!

 

มือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นและคว้าจับมังกรวายุเอาไว้ในพริบตา

 

มังกรวายุกรีดร้องอย่างน่าเวทนาก่อนที่มันจะระเบิดและกลายเป็นสายลมกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง

 

การแสดงออกของฟงจิวเก้อกลายเป็นเคร่งขรึม

 

มังกรวายุเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หัตถ์ภูตวายุกลับทรงพลังกว่ามาก!

 

หากฟงจิวเก้อถูกโจมตีโดยสิ่งนี้ ผลลัพธ์อาจน่าอนาถเกินกว่าผู้ใดจะจินตนาการถึง

 

หากฟางหยวนไม่เข้าแทรกแซงในช่วงเวลาสำคัญ ฟงจิวเก้อต้องเผชิญหน้ากับมังกรวายุและหัตถ์ภูตวายุในเวลาเดียวกัน นั่นจะเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก

 

การแสดงออกของวูหยงกลายเป็นไม่น่ามองเช่นกัน

 

เขาใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการเตรียมท่าไม้ตายนี้และคิดว่ามันจะสามารถเอาชนะฟงจิวเก้อ

 

แต่การแทรกแซงของฟางหยวนกลับทำลายความหวังของเขา

 

ในความเป็นจริงวูหยงตั้งใจใช้ท่าไม้ตายหัตถ์ภูตวายุจับตัวฟงจิวเก้อทั้งเป้น

 

หากเขาบรรลุเป้าหมายนี้ เขาจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล

 

ประการแรก หากวูหยงสามารถจับตัวตนเช่นฟงจิวเก้อ มันจะเพิ่มชื่อเสียงให้เขาและส่งอิทธิพลอย่างมากต่อฝ่ายธรรมะของภาคใต้

 

ประการที่สอง การจับเป็นฟงจิวเก้อจะไม่สร้างความขัดแย้งที่ไม่สามารถแก้ไขกับวังสวรรค์

 

หากเขาสามารถเจรจากับวังสวรรค์ เขาอาจได้รับวิญญาณอมตะจากค่ายกลวิญญาณกลับคืน แม้จะเป็นเพียงบางส่วน ศักดิ์ศรีของวูหยงในภาคใต้ก็ยังจะพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

มันจะทำให้ตระกูลวูเกิดเสถียรภาพ

 

แต่ฟางหยวนกลับขัดขวางแผนการของเขา

 

‘สองคนนี้…’

 

‘หากข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด ฟงจิวเก้อจะสามารถต่อต้านหรือกระทั่งตอบโต้’

 

‘หากข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับแปด แม้ข้าจะสามารถปราบปรามฟงจิวเก้อ แต่ข้าต้องผ่านเกราะหวนคืนของฟางหยวน เมื่อท่าไม้ตายถูกสะท้อนกลับ ข้าจะกลายฝ่ายที่พบกับความสูญเสีย’

 

เปลือกตาของวูหยงกระตุก

 

เขากำลังพบปัญหาและรู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

หากเขาเผชิญหน้าเพียงฟางหยวน วูหยงสามารถปฏิบัติกับฟางหยวนเช่นกระสอบทราย หากเขาเผชิญหน้ากับฟงจิวเก้อ เขายังสามารถกำหราบอีกฝ่าย

 

แต่การเผชิญหน้าสองคนพร้อมกัน…

 

วูหยงรู้สึกกังวล

 

‘มีความหวังไม่มากนักที่จะทำลายเกราะหวนคืนในระยะเวลาสั้นๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นท่าไม้ตายนี้และข้าไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา’

 

‘บางทีวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรอาจมีมาตรการตอบโต้เกราะหวนคืนแล้ว’

 

‘แต่วิธีเดียวในเวลานี้คือโจมตีพวกเขาต่อไปจนกว่าพวกเขาจะไม่สามารถรับมือการโจมตีของข้า เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะมีโอกาสฆ่าพวกเขา’

 

หากไม่มีโอกาสก็ต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ วูหยงก็หายไปจากวิสัยทัศน์ของฟางหยวนและฟงจิวเก้อ

 

“เขาอยู่ที่ใด?” ฟางหยวนมองไปที่ฟงจิวเก้อ

 

วูหยงถอยหนึ่งก้าวเพื่อเดินหน้าต่อ วิธีการตรวจสอบของฟางหยวนไม่ดีนักและไม่สามารถรับรู้ตำแหน่งของวูหยง

 

ฟงจิวเก้อส่ายศีรษะ “ดูเหมือนเขาจะใช้เขตแดนเพื่อซ่อนตัว”

 

กระทั่งฟงจิวเก้อยังพบเพียงรายละเอียดที่คลุมเครือเท่านั้น

 

เมื่อเขากล่าวจบ สนามรบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทันที

 

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว…”

 

สายลมกรรโชกแรงทำให้เกิดเสียงกรีดเฉือนอากาศ

 

ดาบสายลมก่อตัวขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีศัตรู

 

“ดี” ฟางหยวนไม่ตกใจแต่มีความสุข

 

อย่างไรก็ตามดาบสายลมกับพุ่งเข้าโจมตีฟงจิวเก้อ

 

วูหยงต้องการกำจัดฟงจิวเก้อก่อนจะจัดการฟางหยวน

 

นี่เป็นตัวเลือกที่ฉลาดมาก

 

เพราะมีเพียงฟงจิวเก้อเท่านั้นที่สามารถตอบโต้ เมื่อเขาตายหรือถูกจับกุม ฟางหยวนจะไม่สามารถทำสิ่งใด

 

ฟงจิวเก้อเผยรอยยิ้มสดใส “น่าสนใจ ข้ากำลังถูกดูแคลน”

 

น้ำเสียงของเขาไม่มีความโกรธแต่แฝงไว้ด้วยความยินดีและอยากรู้อยากเห็น

 

ฟงจิวเก้อส่งหมัดและฝ่ามือออกไปทำลายดาบสายลม

 

แต่หลังจากถูกทำลาย ดาบสายลมยังสามารถควบรวมเป็นดาบเล่มใหม่

 

ฟงจิวเก้อไม่กล้าปล่อยให้ดาบสายลมสัมผัสร่างกาย แต่กระทั่งเขาจะสามารถทำลายพวกมัน สถานการณ์ของเขาก็ยังไม่ดีนัก

 

ฟางหยวนรีบเข้าไปช่วยฟงจิวเก้อ

 

ดาบสายลมที่ปะทะร่างของฟางหยวนถูกสะท้อนกลับทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ถูกส่งกลับไปที่วูหยงแต่เป็นสนามรบแห่งนี้

 

แม้วูหยงจะเป็นผู้ควบคุมแต่เขาใช้เขตแดนเพื่อสร้างดาบสายลม ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกโจมตีโดยตรง

 

วูหยงซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งและรู้สึกเบิกบานใจเมื่อเห็นสิ่งนี้

 

ฟางหยวนพยายามป้องกันอย่างเงียบๆ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นเท่านั้น

 

สถานการณ์ของฟงจิวเก้อเริ่มดีขึ้นเมื่อได้รับการคุ้มครองจากฟางหยวน เขาคิดก่อนส่งเสียงไปหาฟางหยวน “ปกป้องข้าขณะที่ข้าทำลายเขตแดนนี้”

 

ฟางหยวนตะลึงก่อนจะเห็นด้วย

 

ก่อนหน้านี้เขาอนุมานมาแล้วว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำลายเขตแดนของวูหยงด้วยความแข็งแกร่งของเขา อีกด้านหนึ่งเขากำลังคิดวิธีทำลายกรงอากาศและใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเพื่อหลบหนี

 

ดังนั้นเขาจึงต้องถ่วงเวลาให้นานที่สุด

 

หากเขาปล่อยให้ฟงจิวเก้อต่อสู้กับวูหยงเพียงลำพัง ในไม่ช้าวูหยงจะสามารถปราบปรามฟงจิวเก้อและสามารถจัดการเขาได้ในที่สุด

 

ฟงจิวเก้ออาจมีพลังการต่อสู้ระดับแปดแต่เขายังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องเข้ามาช่วย

 

ฟงจิวเก้อเริ่มใช้ท่าไม้ตายของเขาและปล่อยให้ฟางหยวนป้องกัน

 

ความไว้วางใจนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้วูหยงจึงเร่งการโจมตี

 

ดาบสายลมไม่สามารถทำสิ่งใดฟางหยวนกับฟงจิวเก้อ

 

ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องที่แปลกประหลาดก็เริ่มดังขึ้น

 

หลายลมหายใจต่อมาประกายสายฟ้าก็แลบลั่นขึ้นรอบๆฟางหยวนและฟงจิวเก้อ

 

“ระวัง มันคือสายฟ้ามรกต” ฟงจิวเก้อเตือน

 

ประกายสายฟ้าทำให้ฟางหยวนต้องปิดเปลือกตาลง

 

เขาต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อเปลี่ยนดวงตาของเขาให้เป็นดวงตามังกร ด้วยวิธีนี้เขาจึงสามารถต้านทานประกายสายฟ้าเหล่านั้น

 

ฟางหยวนต้องรักษาเกราะหวนคืนเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาลแต่เปลี่ยนได้เพียงดวงตา

 

สายฟ้ามรกตฟาดลงมาที่ฟางหยวนก่อนจะสะท้อนกลับไปและสร้างความเสียหายให้กับสนามรบ

 

สายฟ้ามรกตบางส่วนพุ่งเข้าปะทะร่างของฟงจิวเก้อแต่มันกลับหายไปเมื่อเข้าใกล้เขา

 

ฟงจิวเก้อกำลังเตรียมท่าไม้ตายอมตะ แต่เขาไม่ได้พึ่งพาฟางหยวนอย่างสมบูรณ์ เขาใช้วิธีป้องกันบางอย่างเพื่อปกป้องตนเอง

 

ฟางหยวนโล่งใจเมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้

 

เมื่อเห็นว่าสายฟ้ามรกตไม่มีประโยชน์ วูหยงจึงเปลี่ยนวิธี เขาส่งไข่มุกสีเขียวลงมาราวกับสายฝน

 

“ระวัง มันคือน้ำค้างหยก” ฟงจิวเก้อเตือนอีกครั้ง

 

ไข่มุกสีเขียวโปรยปรายลงบนร่างของฟางหยวนแต่สะท้อนกลับออกไปเช่นเดิม

 

อย่างไรก็ตามฟงจิวเก้อทำได้ไม่ดีนัก

 

แม้ไข่มุกส่วนใหญ่จะหายไปแต่บางส่วนยังตกลงบนร่างของเขาและสร้างเสียงคมชัด

 

ร่างของฟงจิวเก้อราวกับเครื่องดนตรีในร่างมนุษย์ มันส่งเสียงอันไพเราะออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

วูหยงหัวเราะเสียงดังและเปิดเผยตัวเองออกมาราวกับเขากำชัยชนะเอาไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว “มันมีการโจมตีที่ซ่อนอยู่ ชื่อของมันคือเสียงอมตะ ฟงจิวเก้อ เจ้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเสียง เหตุใดเจ้าไม่สามารถประเมินการโจมตีนี้?”

 

เมื่อเสียงหัวเราะเของวูหยงหยุดลง เสียงสายลมก็เริ่มดังขึ้นในสนามรบ

 

เสียงลมอันแผ่วเบาดังก้องอยู่ในจิตใจของฟางหยวน เกราะหวนคืนของเขาเริ่มสั่นไหวราวกับระลอกคลื่น

 

‘ไม่ดีแล้ว เสียงอมตะมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางการโจมตีทั้งสี่รูปแบบ แม้ข้าจะมีเกราะหวนคืนแต่ข้าก็ทำได้เพียงป้องกันตนเองเท่านั้น แล้วข้าจะช่วยฟงจิวเก้อได้อย่างไร?’ หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

 

ท่าไม้ตายเขตแดนของวูหยงเรียกว่าสายลมทั้งสี่ มันสามารถใช้การโจมตีสี่รูปแบบ มันถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของตระกูลวูและส่งผ่านมาจากรุ่นสู่รุ่น

 

การโจมตีทั้งสี่รูปแบบคือ ดาบสายลม สายฟ้ามรกต น้ำค้างหยก และเสียงอมตะ

 

มันเป็นไพ่ตายของตระกูลวูที่ทำให้พวกเขาสามารถปกครองภาคใต้มาตลอดช่วงเวลาอันยาวนาน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด