Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1789 ข้อสงสัย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1789 ข้อสงสัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1789 ข้อสงสัย

 

วังสวรรค์

 

มันเต็มไปด้วยวิหารจํานวนนับไม่ถ้วน

 

ด้านหลังวิหารกลางมีหอคอยสูงที่ปกคลุมไปด้วยรัศมีแสงสีขาว

 

มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด หอคอยดวงตาสวรรค์

 

รอบๆหอคอยดวงตาสวรรค์ ผู้อมตะหลายคนกําลังจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

ผู้อมตะที่มีร่างกายแข็งแกร่งราวกับเสาหินกําลังเฝ้ามองอยู่ด้านนอก แม้เขาจะกําลังยืนอยู่ แต่เขาให้ความรู้สึกเหมือนเสาที่สามารถค้ํายันท้องฟ้าทั้งหมด

 

มันคือราชันมังกร!

 

“ท่านราชันมังกร” เทพธิดาจื่อเว่ยเดินเข้ามาหาราชันมังกร

 

“ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอยู่ในมือของฟางหยวน นั่นหมายความว่าเขารู้รายละเอียดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวม ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของวังสววรรค์จําลองมากจากหม้อหลอมรวม ดังนั้นข้าจึงสั่งให้พวกเขาดัดแปลงมัน” ราชันมังกรกล่าว

 

เทพธิดาจื่อเว่ยตอบด้วยความรู้สึกผิด “ข้าล้มเหลวในหน้าที่….”

 

ก่อนที่นางจะกล่าวจบ ราชันมังกรกลับขัดจังหวะ “ไม่จําเป็นต้องโทษตนเอง ข้าเชื่อว่าเจ้าทําอย่างดีที่สุดแล้ว อดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลง เราควรเผชิญหน้ากับปัจจุบันและวางแผนสําหรับอนาคต”

 

ราชันมังกรมองเทพธิดาจื่อเว่ยและถอนหายใจ “ตอนนี้วังสวรรค์สามารถควบคุมสถานการณ์ แต่ดูเหมือนการควบคุมของเราจะลดลงอย่างช้าๆ ฟางหยวน ผู้สืบทอดของเทพปีศาจบัว แดงสามารถต่อต้านพวกเรา เขาทําให้เฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเสียชีวิต ตอนนี้เขายังจับผู้อมตะภาคใต้จํานวนมาก แม้เขาจะเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไม่สามารถปฏิเสธจื่อเว่ย เจ้าจะจัดการอย่างไรต่อไป?”

 

ในชีวิตก่อนหน้าราชันมังกรไม่ได้ให้ความสําคัญกับฟางหยวน เขาคิดว่าฟางหยวนเป็นเพียงแมลงที่น่ารําคาญ

 

แต่ตอนนี้ชัยชนะของฟางหยวนทําให้ราชันมังกรตื่นตัว

 

เขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจและต้องเปิดปากถามแผนการของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างใจเย็น “สิ่งแรกคือการค้นหาเขา ตอนนี้ข้าส่งผู้อมตะระดับแปด สามคนไปยังภาคใต้เพื่อค้นหาร่องรอยของเขาแล้ว”

 

“นอกจากนี้เราจําเป็นต้องตอบโต้วิญญาณท่องแดนอมตะของเขา ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณท่องแดนอมตะ ฟางหยวนสามารถเคลื่อนไหวได้ตามความปรารถนา”

 

“ข้าเตรียมการหลอมรวมวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติไว้แล้ว”

 

วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติอยู่กับหลิวห่าวแต่ตอนนี้เขาถูกจับโดยฟางหยวน เทพธิดาจื่อเว่ยมั่นใจว่าวิธีลับของวังสวรรค์จะทําให้วิญญาณผนึกห้วงมิติระเบิดตัวเอง

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ พวกเขาจะสามารถต่อต้านวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

“หลังจากนี้ข้าจะเตรียมตัวป้องกันวิญญาณกาลเวลาของเขา” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างจริง

 

“ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆว่าฟางหยวนอาจใช้วิญญาณกาลเวลาเพื่อกําเนิดใหม่แล้ว”

 

“การต่อสู้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเราแพ้เพราะท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราถูกทําลาย

 

“เรื่องนี้น่าสงสัยเกินไป ฟงจิวเก้อทิ้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เอาไว้มากมาย เหตุใดฟางหยวนจึงสามารถระบุตําแหน่งและจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อปิดกั้นพวกเรา?”

 

“ข้าอนุมานเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้งแต่ไม่สามารถหาคําตอบ มีเบาะแสน้อยเกินไป”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ

 

“วิญญาณกาลเวลาเป็นปัญหาจริงๆ” ราชันมังกรพยักหน้า “เจ้ามีวิธีจัดการกับมันหรือไม่?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า “ท่านราชันมังกร เราจะใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียมจัดการวิญญาณกาลเวลา แต่วิญญาณอมตะความเมตตาอยู่กับลั่วเว่ยหยิน”

 

“อืม” ราชันมังกรกล่าวเสียงต่ํา “ฟางหยวนใช้วิญญาณกาลเวลา เขาอาจไม่ได้ใช้มันเพียงลําพัง เขาน่าจะมีท่าไม้ตายอมตะ การใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียมเพื่อจัดการมันเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด”

 

“ถูกต้อง” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าวางแผนที่จะติดต่อลั่วเว่ยหยินในไม่ช้า ข้าจะขอยืมวิญญาณอมตะความเมตตาจากเขา”

 

ในช่วงเวลานี้ของชีวิตก่อนหน้า วังสวรรค์ยังไม่ได้ติดต่อลั่วเว่ยหยิน

 

แต่ผลกระทบหยดหมึกทําให้พวกเขาตัดสินใจเข้าหาลั่วเว่ยหยินล่วงหน้า

 

ราชันมังกรพยักหน้า “เจ้าต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อทดสอบการกําเนิดใหม่ของฟางหยวนใช่หรือไม่?”

 

“ถูกต้อง หากลั่วเว่ยหยินปฏิเสธ โอกาสที่ฟางหยวนจะกําเนิดใหม่มีสูงขึ้น นั่นเป็นเพราะท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียมของเราได้ตอบโต้ฟางหยวนไปแล้ว”

 

“หากลั่วเว่ยหยินตกลง มันหมายความว่าเราจะมีโอกาสใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียม หากฟางหยวนกําเนิดใหม่แล้ว เขาไม่น่าจะอนุญาตให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”

 

“ในเวลาเดียวกันพวกเราก็สามารถตรวจสอบทัศนคติของผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพรุ่นปัจจุบัน” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างช้าๆ

 

เมื่อเทพอมตะสวรรค์พิภพถูกกล่าวถึง ราชันมังกรแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน “ทํามัน”

 

“อย่างไรก็ตามแม้ลั่วเว่ยหยินจะปฏิเสธ เราก็ไม่จําเป็นต้องกังวลว่าเราจะไม่มีวิธีจัดการวิญญาณกาลเวลา”

 

“ตราบเท่าที่เราสามารถควบคุมสถานการณ์และดําเนินการตามแผนที่วางไว้ ไม่ว่าปีศาจฟางหยวนจะพยายามอย่างไร เขาก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์”

 

“ย้อนกลับไปกระทั่งเทพปีศาจบัวแดงยังล้มเหลว ไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงฟางหยวน”

 

ราชันมังกรกล่าวด้วยรอยยิ้มมั่นใจ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยลังเลเล็กน้อยก่อนถาม “ท่านราชันมังกร มีบางสิ่งที่ข้าไม่เข้าใจ ด้วยรากฐานของวังสวรรค์ เหตุใดเราต้องยืมวิญญาณเพื่อจัดการวิญญาณกาลเวลา เราขาดวิธีจัดการสิ่งนี้เช่นนั้นหรือ?”

 

รอยยิ้มของราชันมังกรจางหายไป “สาเหตุมาจากเทพปีศาจบัวแดง เขาบอกกับข้าด้วยตนเองว่าเกาะบัวหินจํานวนมากของเขาไม่มีความเชื่อมโยงถึงกัน แต่พวกมันสามารถส่งอิทธิพลพิเศษ และทําให้เกิดเป็นท่าไม้ตายอมตะบางอย่าง นี่เป็นความภาคภูมิใจของเขา วิธีนี้จะส่งอิทธิพลต่อสายธารแห่งกาลเวลาและสิ่งมีชีวิตทั้งหมด”

 

ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดคือวิธีการหรือวิญญาณต่างๆที่สามารถต่อต้านวิญญาณ กาลเวลาจะไม่มีวันจบลงในมือของวังสวรรค์

 

ผู้อมตะที่สามารถตอบโต้วิญญาณกาลเวลาค่อยๆตีตัวออกห่างจากวังสวรรค์ ผู้อมตะของวังสวรรค์แทบไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านวิญญาณกาลเวลา

 

“อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปอิทธิพลนี้จะลดลงเรื่อยๆ วังสวรรค์ได้รับวิธีการบางอย่างที่สามารถขัดขวางวิญญาณกาลเวลา เจ้ารู้จักพวกมัน ส่วนใหญ่เป็นวิธีการที่ไม่น่าเชื่อถือและใช้ไม่ได้” ราชันมังกรกล่าว

 

“เป็นเช่นนั้น” เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงออกอย่างสงบแต่นางลอบตกใจอยู่ภายใน วิธีการของเทพปีศาจบัวแดงเกินขีดจํากัดของเส้นทางแห่งกาลเวลาไปแล้ว มันมีร่องรอยของพลังแห่งโชคชะตา

 

เขาไม่เพียงทําลายวิญญาณชะตากรรม แต่เขายังใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อเลียนแบบพลังอํานาจของวิญญาณชะตากรรม

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวต่อ “ หลังจากนี้ข้าจะปล่อยข่าวว่าฟางหยวนพยายามเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับแปด”

 

“ในเวลาเดียวกันข้าจะติดต่อวหยงและบังคับให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ต่อต้านฟางหยวน”

 

“สุดท้ายข้าจะเลี้ยงดูฟางเจิ้งอย่างเต็มที่ คนผู้นี้เป็นกุญแจสําคัญในการจัดการฟางหยวนที่สวรรค์ประทาน เขากําลังจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ”

 

ภาคกลาง

 

ฟางเจิ้งลอยอยู่ท่ามกลางฝนเลือดที่ค่อยๆสงบลง

 

เขาประสบความสําเร็จในการก้าวข้ามภัยพิบัติและปรับสมดุลพลังปราณทั้งสาม

 

ทันใดนั้นฟางเจิ้งพลันเปิดเปลือกตาขึ้น เขาสูดหายใจลึกก่อนจะโยนวิญญาณระดับห้าบนเส้นทางแห่งเลือดเข้าไปในกลุ่มก้อนพลังปราณ

 

“ยิ้ม!”

 

กลุ่มก้อนพลังปราณระเบิดออกและกลายเป็นมิติช่องว่างอมตะ

 

มิติช่องว่างระดับสูง!

 

วิญญาณระดับห้าบนเส้นทางแห่งเลือดของเขากลายเป็นวิญญาณอมตะเลือดล้างเลือด

 

“ฟางเจิ้ง ให้ข้าเข้าไปเร็ว ข้าจะช่วยเจ้าก้าวข้ามภัยพิบัติ!” ฟานซื่อหลิวถ่ายทอดเสียงมายังฟางเจิ้ง

 

“หือ?” ฟางเจิ้งขมวดคิ้วแสดงความไม่พอใจ มิติช่องว่างเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผู้อมตะ แต่ฟานซื่อหลิวกลับต้องการเข้าไป นี่ทําให้ฟางเจิ้งรู้สึกโกรธ

 

อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งกลับหยุดขมวดคิ้วอย่างกะทันหันและเปิดทางเข้ามิติช่องว่าง “แน่นอน ฟานซื่อหลิว เชิญเข้ามา”

 

ฟานชื่อหลิวรู้สึกประหลาดใจ ฟางเจิ้งพึ่งกลายเป็นผู้อมตะ กระบวนการทั้งหมดยังไม่จบสิ้น แต่เขาเปลี่ยนวิธีการพูดและทัศนคติไปแล้วอย่างเป็นธรรมชาติ

 

“ดูเหมือนวังสวรรค์จะตั้งใจเลี้ยงดูฟางเจิ้งเพื่อจัดการฟางหยวนจริงๆ แท้จริงแล้วข้าค่อนข้างอิจฉา” ฟานซื้อหลิวเต็มไปด้วยความอิจฉา

 

หลายชั่วโมงต่อมาภัยพิบัติของฟางเจิ้งก็ผ่านพ้นไป ความอิจฉาของฟานซื่อหลิวพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

 

นั่นเป็นเพราะฟางเจิ้งสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดดวงที่สอง

 

วิญญาณอมตะเลือดเย็น!

 

หลังจากนั้นฟานชื่อหลิวก็มอบทรัพยากรบนเส้นทางแห่งเลือดจํานวนมหาศาลให้กับฟางเจิ้ง

 

ชัดเจนว่านิกายกระเรียนอมตะใช้ความพยายามอย่างมากในการเลี้ยงดูฟางเจิ้ง

 

นี่ทําให้ฟางเจิ้งกลายเป็นผู้อมตะระดับหกที่ร่ํารวยที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย

 

“นิกายทุ่มเทกับเจ้าเป็นอย่างมาก ฟางเจิ้ง อย่าทําให้พวกเราผิดหวัง” ฟานชื่อหลิวกล่าวด้วยน้ําเสียงแหบแห้ง

 

เพียงเห็นการแสดงออกที่ซับซ้อนของฟานชื่อหลิว ฟางเจิ้งก็เข้าใจและยังตกใจที่เขาได้รับกา รดูแลเป็นอย่างดี

 

โดยไม่คํานึงถึงแรงจูงใจของพวกเขา ในที่สุดข้าก็กลายเป็นผู้อมตะฟางหยวน ความแตกต่างระหว่างเจ้ากับข้าไม่ใช่ผู้อมตะกับมนุษย์อีกต่อไป”

 

ฟางเจิ้งส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปตรวจสอบมิติช่องว่างของตน “นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ของข้า นี่คือรากฐานของข้า!”

 

เขารู้สึกถึงอนาคตที่สดใส มันดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่ไม่สามารถหยั่งถึง

 

“ฟางหยวน แม้เจ้าจะแข็งแกร่ง แต่เจ้าก็ยังถูกบังคับให้หลบหนีออกจากภาคกลาง เจ้าไม่กล้าก้าวเท้าเข้ามาในภาคกลาง

 

“ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขา มันไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะสามารถจัดการเจ้า!”

 

“แม้ข้าจะเข้าใจเจ้า แต่ข้าจะไม่อภัยให้เจ้า โชคชะตามักล้อเล่นกับผู้คนเสมอ ไม่ว่าอย่างไรเราก็ยังเป็นศัตรู!”

 

ชีวิตนี้แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้า ฟางเพิ่งได้รับความสนใจและความช่วยเหลือมากขึ้น เขาก้าว เข้าสู่ขอบเขตอมตะเร็วกว่าครั้งก่อน

 

ในชีวิตก่อนหน้า ทุกคนรู้จักพลังปีศาจของฟางหยวน

 

แต่ชีวิตนี้วังสวรรค์ปกปิดข้อเท็จจริงเอาไว้ขณะที่สถานการณ์ของภาคใต้ยังไม่ถูกเปิดเผย

 

ดังนั้นฟางเจิ้งจึงไม่รู้ว่าเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเสียชีวิตไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าผู้อมตะของภาคใต้ถูกจับโดยฟางหยวน

 

สิ่งนี้ทําให้เขาเกิดความเข้าใจผิด เขาคิดว่าหลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ เขาจะสามารถเผชิญหน้ากับฟางหยวนได้อีกครั้ง

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1789 ข้อสงสัย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1789 ข้อสงสัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1789 ข้อสงสัย

 

วังสวรรค์

 

มันเต็มไปด้วยวิหารจํานวนนับไม่ถ้วน

 

ด้านหลังวิหารกลางมีหอคอยสูงที่ปกคลุมไปด้วยรัศมีแสงสีขาว

 

มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด หอคอยดวงตาสวรรค์

 

รอบๆหอคอยดวงตาสวรรค์ ผู้อมตะหลายคนกําลังจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

ผู้อมตะที่มีร่างกายแข็งแกร่งราวกับเสาหินกําลังเฝ้ามองอยู่ด้านนอก แม้เขาจะกําลังยืนอยู่ แต่เขาให้ความรู้สึกเหมือนเสาที่สามารถค้ํายันท้องฟ้าทั้งหมด

 

มันคือราชันมังกร!

 

“ท่านราชันมังกร” เทพธิดาจื่อเว่ยเดินเข้ามาหาราชันมังกร

 

“ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอยู่ในมือของฟางหยวน นั่นหมายความว่าเขารู้รายละเอียดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวม ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของวังสววรรค์จําลองมากจากหม้อหลอมรวม ดังนั้นข้าจึงสั่งให้พวกเขาดัดแปลงมัน” ราชันมังกรกล่าว

 

เทพธิดาจื่อเว่ยตอบด้วยความรู้สึกผิด “ข้าล้มเหลวในหน้าที่….”

 

ก่อนที่นางจะกล่าวจบ ราชันมังกรกลับขัดจังหวะ “ไม่จําเป็นต้องโทษตนเอง ข้าเชื่อว่าเจ้าทําอย่างดีที่สุดแล้ว อดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลง เราควรเผชิญหน้ากับปัจจุบันและวางแผนสําหรับอนาคต”

 

ราชันมังกรมองเทพธิดาจื่อเว่ยและถอนหายใจ “ตอนนี้วังสวรรค์สามารถควบคุมสถานการณ์ แต่ดูเหมือนการควบคุมของเราจะลดลงอย่างช้าๆ ฟางหยวน ผู้สืบทอดของเทพปีศาจบัว แดงสามารถต่อต้านพวกเรา เขาทําให้เฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเสียชีวิต ตอนนี้เขายังจับผู้อมตะภาคใต้จํานวนมาก แม้เขาจะเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไม่สามารถปฏิเสธจื่อเว่ย เจ้าจะจัดการอย่างไรต่อไป?”

 

ในชีวิตก่อนหน้าราชันมังกรไม่ได้ให้ความสําคัญกับฟางหยวน เขาคิดว่าฟางหยวนเป็นเพียงแมลงที่น่ารําคาญ

 

แต่ตอนนี้ชัยชนะของฟางหยวนทําให้ราชันมังกรตื่นตัว

 

เขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจและต้องเปิดปากถามแผนการของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างใจเย็น “สิ่งแรกคือการค้นหาเขา ตอนนี้ข้าส่งผู้อมตะระดับแปด สามคนไปยังภาคใต้เพื่อค้นหาร่องรอยของเขาแล้ว”

 

“นอกจากนี้เราจําเป็นต้องตอบโต้วิญญาณท่องแดนอมตะของเขา ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณท่องแดนอมตะ ฟางหยวนสามารถเคลื่อนไหวได้ตามความปรารถนา”

 

“ข้าเตรียมการหลอมรวมวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติไว้แล้ว”

 

วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติอยู่กับหลิวห่าวแต่ตอนนี้เขาถูกจับโดยฟางหยวน เทพธิดาจื่อเว่ยมั่นใจว่าวิธีลับของวังสวรรค์จะทําให้วิญญาณผนึกห้วงมิติระเบิดตัวเอง

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ พวกเขาจะสามารถต่อต้านวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

“หลังจากนี้ข้าจะเตรียมตัวป้องกันวิญญาณกาลเวลาของเขา” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างจริง

 

“ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆว่าฟางหยวนอาจใช้วิญญาณกาลเวลาเพื่อกําเนิดใหม่แล้ว”

 

“การต่อสู้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเราแพ้เพราะท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราถูกทําลาย

 

“เรื่องนี้น่าสงสัยเกินไป ฟงจิวเก้อทิ้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เอาไว้มากมาย เหตุใดฟางหยวนจึงสามารถระบุตําแหน่งและจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อปิดกั้นพวกเรา?”

 

“ข้าอนุมานเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้งแต่ไม่สามารถหาคําตอบ มีเบาะแสน้อยเกินไป”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ

 

“วิญญาณกาลเวลาเป็นปัญหาจริงๆ” ราชันมังกรพยักหน้า “เจ้ามีวิธีจัดการกับมันหรือไม่?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า “ท่านราชันมังกร เราจะใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียมจัดการวิญญาณกาลเวลา แต่วิญญาณอมตะความเมตตาอยู่กับลั่วเว่ยหยิน”

 

“อืม” ราชันมังกรกล่าวเสียงต่ํา “ฟางหยวนใช้วิญญาณกาลเวลา เขาอาจไม่ได้ใช้มันเพียงลําพัง เขาน่าจะมีท่าไม้ตายอมตะ การใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียมเพื่อจัดการมันเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด”

 

“ถูกต้อง” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าวางแผนที่จะติดต่อลั่วเว่ยหยินในไม่ช้า ข้าจะขอยืมวิญญาณอมตะความเมตตาจากเขา”

 

ในช่วงเวลานี้ของชีวิตก่อนหน้า วังสวรรค์ยังไม่ได้ติดต่อลั่วเว่ยหยิน

 

แต่ผลกระทบหยดหมึกทําให้พวกเขาตัดสินใจเข้าหาลั่วเว่ยหยินล่วงหน้า

 

ราชันมังกรพยักหน้า “เจ้าต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อทดสอบการกําเนิดใหม่ของฟางหยวนใช่หรือไม่?”

 

“ถูกต้อง หากลั่วเว่ยหยินปฏิเสธ โอกาสที่ฟางหยวนจะกําเนิดใหม่มีสูงขึ้น นั่นเป็นเพราะท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียมของเราได้ตอบโต้ฟางหยวนไปแล้ว”

 

“หากลั่วเว่ยหยินตกลง มันหมายความว่าเราจะมีโอกาสใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียม หากฟางหยวนกําเนิดใหม่แล้ว เขาไม่น่าจะอนุญาตให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”

 

“ในเวลาเดียวกันพวกเราก็สามารถตรวจสอบทัศนคติของผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพรุ่นปัจจุบัน” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างช้าๆ

 

เมื่อเทพอมตะสวรรค์พิภพถูกกล่าวถึง ราชันมังกรแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน “ทํามัน”

 

“อย่างไรก็ตามแม้ลั่วเว่ยหยินจะปฏิเสธ เราก็ไม่จําเป็นต้องกังวลว่าเราจะไม่มีวิธีจัดการวิญญาณกาลเวลา”

 

“ตราบเท่าที่เราสามารถควบคุมสถานการณ์และดําเนินการตามแผนที่วางไว้ ไม่ว่าปีศาจฟางหยวนจะพยายามอย่างไร เขาก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์”

 

“ย้อนกลับไปกระทั่งเทพปีศาจบัวแดงยังล้มเหลว ไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงฟางหยวน”

 

ราชันมังกรกล่าวด้วยรอยยิ้มมั่นใจ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยลังเลเล็กน้อยก่อนถาม “ท่านราชันมังกร มีบางสิ่งที่ข้าไม่เข้าใจ ด้วยรากฐานของวังสวรรค์ เหตุใดเราต้องยืมวิญญาณเพื่อจัดการวิญญาณกาลเวลา เราขาดวิธีจัดการสิ่งนี้เช่นนั้นหรือ?”

 

รอยยิ้มของราชันมังกรจางหายไป “สาเหตุมาจากเทพปีศาจบัวแดง เขาบอกกับข้าด้วยตนเองว่าเกาะบัวหินจํานวนมากของเขาไม่มีความเชื่อมโยงถึงกัน แต่พวกมันสามารถส่งอิทธิพลพิเศษ และทําให้เกิดเป็นท่าไม้ตายอมตะบางอย่าง นี่เป็นความภาคภูมิใจของเขา วิธีนี้จะส่งอิทธิพลต่อสายธารแห่งกาลเวลาและสิ่งมีชีวิตทั้งหมด”

 

ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดคือวิธีการหรือวิญญาณต่างๆที่สามารถต่อต้านวิญญาณ กาลเวลาจะไม่มีวันจบลงในมือของวังสวรรค์

 

ผู้อมตะที่สามารถตอบโต้วิญญาณกาลเวลาค่อยๆตีตัวออกห่างจากวังสวรรค์ ผู้อมตะของวังสวรรค์แทบไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านวิญญาณกาลเวลา

 

“อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปอิทธิพลนี้จะลดลงเรื่อยๆ วังสวรรค์ได้รับวิธีการบางอย่างที่สามารถขัดขวางวิญญาณกาลเวลา เจ้ารู้จักพวกมัน ส่วนใหญ่เป็นวิธีการที่ไม่น่าเชื่อถือและใช้ไม่ได้” ราชันมังกรกล่าว

 

“เป็นเช่นนั้น” เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงออกอย่างสงบแต่นางลอบตกใจอยู่ภายใน วิธีการของเทพปีศาจบัวแดงเกินขีดจํากัดของเส้นทางแห่งกาลเวลาไปแล้ว มันมีร่องรอยของพลังแห่งโชคชะตา

 

เขาไม่เพียงทําลายวิญญาณชะตากรรม แต่เขายังใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อเลียนแบบพลังอํานาจของวิญญาณชะตากรรม

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวต่อ “ หลังจากนี้ข้าจะปล่อยข่าวว่าฟางหยวนพยายามเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับแปด”

 

“ในเวลาเดียวกันข้าจะติดต่อวหยงและบังคับให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ต่อต้านฟางหยวน”

 

“สุดท้ายข้าจะเลี้ยงดูฟางเจิ้งอย่างเต็มที่ คนผู้นี้เป็นกุญแจสําคัญในการจัดการฟางหยวนที่สวรรค์ประทาน เขากําลังจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ”

 

ภาคกลาง

 

ฟางเจิ้งลอยอยู่ท่ามกลางฝนเลือดที่ค่อยๆสงบลง

 

เขาประสบความสําเร็จในการก้าวข้ามภัยพิบัติและปรับสมดุลพลังปราณทั้งสาม

 

ทันใดนั้นฟางเจิ้งพลันเปิดเปลือกตาขึ้น เขาสูดหายใจลึกก่อนจะโยนวิญญาณระดับห้าบนเส้นทางแห่งเลือดเข้าไปในกลุ่มก้อนพลังปราณ

 

“ยิ้ม!”

 

กลุ่มก้อนพลังปราณระเบิดออกและกลายเป็นมิติช่องว่างอมตะ

 

มิติช่องว่างระดับสูง!

 

วิญญาณระดับห้าบนเส้นทางแห่งเลือดของเขากลายเป็นวิญญาณอมตะเลือดล้างเลือด

 

“ฟางเจิ้ง ให้ข้าเข้าไปเร็ว ข้าจะช่วยเจ้าก้าวข้ามภัยพิบัติ!” ฟานซื่อหลิวถ่ายทอดเสียงมายังฟางเจิ้ง

 

“หือ?” ฟางเจิ้งขมวดคิ้วแสดงความไม่พอใจ มิติช่องว่างเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผู้อมตะ แต่ฟานซื่อหลิวกลับต้องการเข้าไป นี่ทําให้ฟางเจิ้งรู้สึกโกรธ

 

อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งกลับหยุดขมวดคิ้วอย่างกะทันหันและเปิดทางเข้ามิติช่องว่าง “แน่นอน ฟานซื่อหลิว เชิญเข้ามา”

 

ฟานชื่อหลิวรู้สึกประหลาดใจ ฟางเจิ้งพึ่งกลายเป็นผู้อมตะ กระบวนการทั้งหมดยังไม่จบสิ้น แต่เขาเปลี่ยนวิธีการพูดและทัศนคติไปแล้วอย่างเป็นธรรมชาติ

 

“ดูเหมือนวังสวรรค์จะตั้งใจเลี้ยงดูฟางเจิ้งเพื่อจัดการฟางหยวนจริงๆ แท้จริงแล้วข้าค่อนข้างอิจฉา” ฟานซื้อหลิวเต็มไปด้วยความอิจฉา

 

หลายชั่วโมงต่อมาภัยพิบัติของฟางเจิ้งก็ผ่านพ้นไป ความอิจฉาของฟานซื่อหลิวพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

 

นั่นเป็นเพราะฟางเจิ้งสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดดวงที่สอง

 

วิญญาณอมตะเลือดเย็น!

 

หลังจากนั้นฟานชื่อหลิวก็มอบทรัพยากรบนเส้นทางแห่งเลือดจํานวนมหาศาลให้กับฟางเจิ้ง

 

ชัดเจนว่านิกายกระเรียนอมตะใช้ความพยายามอย่างมากในการเลี้ยงดูฟางเจิ้ง

 

นี่ทําให้ฟางเจิ้งกลายเป็นผู้อมตะระดับหกที่ร่ํารวยที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย

 

“นิกายทุ่มเทกับเจ้าเป็นอย่างมาก ฟางเจิ้ง อย่าทําให้พวกเราผิดหวัง” ฟานชื่อหลิวกล่าวด้วยน้ําเสียงแหบแห้ง

 

เพียงเห็นการแสดงออกที่ซับซ้อนของฟานชื่อหลิว ฟางเจิ้งก็เข้าใจและยังตกใจที่เขาได้รับกา รดูแลเป็นอย่างดี

 

โดยไม่คํานึงถึงแรงจูงใจของพวกเขา ในที่สุดข้าก็กลายเป็นผู้อมตะฟางหยวน ความแตกต่างระหว่างเจ้ากับข้าไม่ใช่ผู้อมตะกับมนุษย์อีกต่อไป”

 

ฟางเจิ้งส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปตรวจสอบมิติช่องว่างของตน “นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ของข้า นี่คือรากฐานของข้า!”

 

เขารู้สึกถึงอนาคตที่สดใส มันดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่ไม่สามารถหยั่งถึง

 

“ฟางหยวน แม้เจ้าจะแข็งแกร่ง แต่เจ้าก็ยังถูกบังคับให้หลบหนีออกจากภาคกลาง เจ้าไม่กล้าก้าวเท้าเข้ามาในภาคกลาง

 

“ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขา มันไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะสามารถจัดการเจ้า!”

 

“แม้ข้าจะเข้าใจเจ้า แต่ข้าจะไม่อภัยให้เจ้า โชคชะตามักล้อเล่นกับผู้คนเสมอ ไม่ว่าอย่างไรเราก็ยังเป็นศัตรู!”

 

ชีวิตนี้แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้า ฟางเพิ่งได้รับความสนใจและความช่วยเหลือมากขึ้น เขาก้าว เข้าสู่ขอบเขตอมตะเร็วกว่าครั้งก่อน

 

ในชีวิตก่อนหน้า ทุกคนรู้จักพลังปีศาจของฟางหยวน

 

แต่ชีวิตนี้วังสวรรค์ปกปิดข้อเท็จจริงเอาไว้ขณะที่สถานการณ์ของภาคใต้ยังไม่ถูกเปิดเผย

 

ดังนั้นฟางเจิ้งจึงไม่รู้ว่าเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเสียชีวิตไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าผู้อมตะของภาคใต้ถูกจับโดยฟางหยวน

 

สิ่งนี้ทําให้เขาเกิดความเข้าใจผิด เขาคิดว่าหลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ เขาจะสามารถเผชิญหน้ากับฟางหยวนได้อีกครั้ง

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+