Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1798 แรงบันดาลใจแห่งพรหมลิขิต

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1798 แรงบันดาลใจแห่งพรหมลิขิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1798 แรงบันดาลใจแห่งพรหมลิขิต

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคใต้น้อย

 

“ครืน…”

 

พื้นดินสั่นสะเทือนก่อนที่แสงจากท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปฐพีจะปกคลุมพื้นที่รัศมีหนึ่งร้อย

 

ราวกับมือที่ไร้รูปลักษณ์กําลังปั้นดินที่อ่อนนุ่ม พื้นที่ตรงกลางเริ่มจมลงขณะที่แผ่นดินรอบนอกยกตัวขึ้นและก่อตัวเป็นหุบเขาทรงกลม

 

พื้นที่ตรงกลางถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทําให้เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่ตัดขาดจากภายนอก

 

ไม่มีพืชพรรณอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ กระทั่งดินยังหายากเพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยเหล็ก!

 

“นี่คือหุบเขาเหล็กขาว!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินชื่อเฉิงมองหุบเขาแห่งนี้ด้วยความตกใจ

 

ฟางหยวนใช้วิธีที่ทรงพลังสร้างแหล่งทรัพยากรระดับกลางขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม

 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาชื่อเฉิงได้พูดคุยกับผู้อมตะคนอื่นๆและตระหนักถึงความกว้างใหญ่ของมิติช่องว่างจักรพรรดิรวมถึงทรัพยากรมากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

 

รากฐานที่แข็งแกร่งนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้อมตะเหล่านี้ต่ออนาคตของพวกเขาเป็นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทําให้ซื่อเฉิงประหลาดใจยิ่งกว่าคือความกล้าหาญของฟางหยวน

 

ฟางหยวนกล้าต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าและมีเล็งเป้าไปที่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้

 

ไม่เพียงเขาจะโจมตีศัตรูแต่เขายังได้รับชัยชนะและสามารถจับผู้อมตะจํานวนมาก

 

หากไม่ใช่เพราะเชลยเหล่านี้ ฟางหยวนจะรีดไถทรัพยากรมากมายมาได้อย่างไร

 

เปรียบเทียบกับฟางหยวน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินขี้ขลาดเกินไป

 

“เราจะติดตามและฟังคําสั่งของท่านฟางหยวน!” ซื่อเฉิงถูกล่อลวงมากขึ้น เขาหลงใหลเสน่ห์ของฟางหยวนอย่างสมบูรณ์

 

ในช่วงเวลาเหล่านี้ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆช่วยจัดการแหล่งทรัพยากรที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ

 

ทรัพยากรถูกแจกจ่ายไปยังสถานที่ต่างๆอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมดุลที่สุด

 

ไม่มีความโกลาหลหรือความขัดแย้ง ทรัพยากรต่างๆสนับสนุนกันและกันทําให้พวกมันเติบโตได้อย่างเต็มที่

 

นี่เป็นผลจากการอนุมานอย่างพิถีพิถันของฟางหยวน

 

ครั้งนี้ฟางหยวนรีดไถทรัพยากรจากฝ่ายธรรมะของภาคใต้ได้ง่ายกว่าก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

 

การต่อต้านของผู้อมตะภาคใต้ลดน้อยลงเนื่องจากภาพเหตุการณ์ที่ฟางหยวนเปิดเผยในสวรรค์สีเหลืองแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถสังหารเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า สิ่งนี้ช่วยกระตุ้นฝ่ายธรรมะของภาคใต้ได้เป็นอย่างดี

 

“กระทั่งวังสวรรค์ยังพ่ายแพ้ปีศาจฟางหยวน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะล้มเหลวในการจัดการเขา”

 

ผู้อมตะภาคใต้ตระหนักถึงเรื่องนี้อยู่ภายใน

 

เพิ่มเติมด้วยประสบการณ์ในการกรรโชกทรัพย์ของฟางหยวน ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงทําได้เพียงยอมจํานนเท่านั้น

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนต้องการสร้างสระแก่นแท้ปี ดังนั้นเขาจึงรีดไถทรัพยากรอมตะ ค่ามากมาย สําหรับชีวิตนี้เขาเปลี่ยนความต้องการแต่พวกมันยังเป็นทรัพยากรอมตะที่ล้ําค่าเช่นเดิม

 

ส่วนเล็กๆของมันถูกนํามาสร้างแหล่งทรัพยากรเช่นหุบเขาเหล็กขาว

 

ส่วนใหญ่เป็นการเตรียมความพร้อมสําหรับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ

 

ในชีวิตนี้ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะมากกว่าชีวิตก่อนหน้า

 

วิญญาณอมตะส่วนใหญ่ในการครอบครองของเขาเป็นวิญญาณอมตะระดับหก พวกมันอ่อนแอเกินไปสําหรับผู้อมตะระดับแปด

 

การยกระดับวิญญาณอมตะจึงเป็นสิ่งจําเป็นต่อฟางหยวน

 

เขาเคยทําสิ่งนี้ในชีวิตก่อนหน้าและมันยิ่งง่ายกว่าในชีวิตนี้โดยเฉพาะเมื่อเขามีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจํานวนมาก

 

เขาวางแผนล่วงหน้าและเริ่มจัดเตรียมวัตถุดิบ

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิได้รับการพัฒนาไปมาก ตอนนี้มันใกล้เคียงกับจุดส ใสุดในชีวิตก่อนหน้าแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีมิติช่องว่างของหลิวห่าวและปาซื่อปารวมถึงถ้ําสวรรค์นักรบอสูรรออยู่

 

เขาคุ้นเคยกับท่าไม้ตายใหม่มากขึ้น มรดกที่แท้จริงต่างๆยังอยู่ระหว่างการทําความค้นคว้า ขณะที่ความเข้าใจบนเส้นทางมนุษย์ของเขาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

ฟางหยวนเข้าไปในสายธารแห่งกาลเวลาอีกครั้ง

 

เขาไม่ลืมร่างแยกกายาแห่งความฝัน แม้แผนการสําหรับร่างแยกกายาแห่งความฝันจะล้มเหลว แต่ฟางหยวนยังนึกถึงท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต

 

“บางทีข้าอาจสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตเพื่อนําร่างแยกกายาแห่งความฝันเข้าสู่ระดับอมตะ”

 

สี่ซุนจืออยู่ในวิหารอดีตปัจจุบันและเฝ้ามองสายธารแห่งกาลเวลาตลอดเวลา แต่พวกเขาไม่สามารถพบการคงอยู่ของฟางหยวน

 

เขาไปถึงเกาะบัวหินอย่างราบรื่นและใช้ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตกับร่างแยกกายาแห่งความฝัน

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับต้องผิดหวังเพราะร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 

“เป็นเพราะร่างแยกกายาแห่งความฝันกําเนิดจากอาณาจักรแห่งความฝัน ท่าไม้ตายส่วนใหญ่จึงไม่ส่งผลกระทบต่อมันงั้นหรือ?”

 

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่มีอนาคตที่กลายเป็นผู้อมตะ?”

 

ร่างแยกกายาแห่งความฝันเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าและอยู่ห่างจากขอบเขตอมตะเพียงไม่กี่ก้าว

 

แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมีอันตราย ฟางหยวนเลือกที่จะชะลอมันไว้ชั่วคราว

 

“หากตัวตนในอนาคตไม่มีผลเพราะร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่มีอนาคต นี่หมายความว่า มันไม่มีความหวังที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้างั้นหรือ?”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนรู้สึกสนใจเล็กน้อย

 

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเผยลิขิตสวรรค์ทันที

 

ท่าไม้ตายนี้สามารถเปิดเผยภัยพิบัติที่เป้าหมายต้องเผชิญ

 

แต่ผลลัพธ์ของมันคือความว่างเปล่า

 

ท่าไม้ตายอมตะเผยลิขิตสวรรค์ไม่มีผลต่อร่างแยกกายาแห่งความฝัน

 

“เป็นเพราะคุณสมบัติของร่างแยกกายาแห่งความฝันหรือเป็นเพราะท่าไม้ตายอมตะเผยลิขิตสวรรค์ในปัจจุบันไม่สามารถเปิดเผยภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝัน?”

 

ฟางหยวนสับสน

 

มีวิญญาณเพียงไม่กี่ดวงที่ส่งผลกระทบต่อร่างแยกกายาแห่งความฝัน

 

วิญญาณรากพฤกษาเป็นวิญญาณบนเส้นทางมนุษย์ กายาแห่งความฝันถูกพิจารณาว่าเป็นร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นวิธีบนเส้นทางมนุษย์จึงส่งผลกระทบต่อมัน

 

แต่วิญญาณดวงอื่นๆไม่ส่งผลกระทบต่อร่างแยกกายาแห่งความฝันเพราะมันถูกสร้างขึ้นจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ฟางหยวนอาศัยความได้เปรียบบนเส้นทางแห่งความฝันก้าวข้ามอุปสรรค แต่ตอนนี้เขากําลังพบปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไข

 

เช่นเดียวกับราชันมังกรหรือกระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ไม่สามารถทําสิ่งใดต่อหน้าอาณาจักรแห่งความฝัน มีวิธีการไม่มากที่ส่งผลกระทบต่ออาณาจักรแห่งความฝัน

 

ฟางหยวนสายศีรษะ

 

“ความเป็นไปได้มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน”

 

อย่างไรก็ตามความสําเร็จบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนยังไม่มีความคืบหน้า ห้าร้อยปีในชีวิตแรก ฟางหยวนไม่ได้ให้ความสําคัญกับการค้นคว้าเส้นทางแห่งความฝันแต่เป็นเส้นทางแห่งเลือด

 

หลังจากกลับมาจากสายธารแห่งกาลเวลา ฟางหยวนได้รับข่าวที่ทําให้เขาประหลาดใจเมื่อแผนการสร้างร่างแยกมนุษย์มังกรของเขามีความคืบหน้า

 

ตระกูลเซี่ยพบว่าตระกูลเฉิงมีเพลิงมังกรล่องคลื่นอยู่ในคลังสมบัติ ขณะนี้พวกเขากําลังอยู่ในขั้นตอนการทําธุรกรรม

 

“คลังสมบัติของตระกูลเฉิง มันควรเป็นมิติช่องว่างของผู้ก่อตั้งตระกูลเฉิง”

 

“หลังจากผู้ก่อตั้งตระกูลเฉิงเสียชีวิต มันถูกทิ้งไว้เบื้องหลังบนภูเขาเฉิงเหลียง ผู้อมตะทั่วไปไม่สามารถเข้าไป กระทั่งผู้อมตะตระกูลเฉิงก็ไม่รู้ว่ามันเป็นถ้ําสวรรค์หรือแดนศักดิ์สิทธิ์”

 

“ดูเหมือนรากฐานของมันจะลึกกว่าที่ข้าคาดเดา”

 

ฟางหยวนต้องอุทานด้วยความประหลาดใจกับรากฐานของตระกูลเฉิง

 

ตระกูลเฉิงเป็นหนึ่งในกองกําลังใหญ่ของภาคใต้ แต่เนื่องจากตําแหน่งทางภูมิศาสตร์ของพวกเขาค่อนข้างมีเอกลักษณ์และห่างไกลจากกองกําลังอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถรักษาความสัมพันธ์กับกองกําลังอื่นๆของภาคใต้

 

“หากตระกูลเซี่ยได้รับเพลิงมังกรล่องคลื่น อุปสรรคในแผนการสร้างร่างแยกมนุษย์มังกรของข้าจะลดลงครึ่งหนึ่ง”

 

ฟางหยวนรอคอยอย่างอดทน

 

เกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาค เขาได้รับประสบการณ์และเข้าใจมันมากขึ้นแล้ว ตอนนี้เขาสามารถใช้ปราณแสงสี่สีได้ในเวลาเดียวกัน

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาปะทุขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เขาพร้อมที่จะแยกดวงวิญญาณเพื่อสร้างร่างแยกมนุษย์มังกรแล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังบ่มเพาะจิตวิญญาณต่อไปจนถึงระดับแปดสิบล้านคน

 

ธุรกรรมอาณาจักรแห่งความฝันกับตระกูลจื่อยังดําเนินต่อไปอย่างลับๆ

 

จื่อชิวหยูยอมรับสถานการณ์ของเขาแล้ว

 

เขาทําพลาดไปแล้ว ตอนนี้เขาทําได้เพียงทําต่อไปเท่านั้น

 

แน่นอนว่าฟางหยวนไม่ลืมที่จะป้องกันตัวจากจื่อชิวหยู หลังจากทั้งหมดผู้อมตะระดับแปดล้วนไม่ใช่คนธรรมดา

 

โชคดีที่ฟางหยวนเลือกสนับสนุนตระกูลจื่อเพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับอนาคต

 

ตระกูลจื่อได้รับงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝัน สิ่งนี้ทําให้จื่อชิวหยูมีความสุขท่ามกลางความเจ็บปวด ตั้งแต่เขาทําเรื่องผิดพลาดร้ายแรงไปแล้ว เหตุใดตอนนี้เขาจะไม่ทําต่อ?

 

จื่อชิวหยไม่ต้องการเสี่ยงแต่ฟางหยวนดึงเขาเข้าสู่เส้นทางสายนี้ เขาทําได้เพียงกัดฟันและเดินหน้าต่อไปในขุมนรกเท่านั้น

 

ในเวลาว่าง ฟางหยวนจะค้นวิญญาณของเชลยอมตะ

 

แม้เขาจะเคยทําสิ่งนี้มาแล้วในชีวิตก่อนหน้า แต่เขายังทําซ้ําอีกครั้งในชีวิตนี้เพราะเขาต้องการตรวจสอบบางสิ่ง

 

นั่นคือผลกระทบหยดหมึก

 

เปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า มีความแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 

นี่ทําให้ฟางหยวนต้องครุ่นคิด ความรู้สึกลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายยังตกค้างอยู่ในใจของเขา

 

“นี่คือชะตากรรมงั้นหรือ?” ฟางหยวนรู้สึกราวกับสามารถสัมผัสถึงใยแมงมุมของวิญญาณชะตากรรม

 

ลางสังหรณ์บางอย่างค่อยๆแรงกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ

 

“หากข้าค้นคว้าเรื่องนี้ต่อไป ความเข้าใจเกี่ยวกับโชคชะตาของข้าจะลึกซึ้งขึ้น นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทําความเข้าใจวิญญาณชะตากรรม”

 

“หลังจากรวบรวมเบาะแสและอนุมาน ข้าอาจสามารถทําความเข้าใจท่าไม้ตายที่จะส่งผลกระทบต่อโชคชะตา”

 

“หากข้ารวมมันเข้ากับความลึกซึ้งบนเส้นทางแห่งโชค…มันอาจกลายเป็นพรหมลิขิต” จิตใจของฟางหยวนสั่นไหวเมื่อเกิดแรงบันดาลใจดังกล่าว

 

วังสวรรค์

 

ฟงจิวเก้อเดินทางไปที่หอเย็บปักถักร้อย

 

มันเป็นอาคารที่ประดับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามแต่สามารถมองเห็นร่องรอยของการทําลายล้างที่ถูกทิ้งไว้อย่างชัดเจน

 

บนยอดหอเย็บปักถักร้อยมีแผ่นหลังเปื้อนเลือดสามชิ้นราวกับธงที่สะบัดตัวไปตามสายลม พวกมันปลดปล่อยกลิ่นอายของความป่าเถื่อนและดึกดําบรรพออกมา

ย้อนกลับไปเมื่อเทพปีศาจคลั่งบุกวงสวรรค์ เขาถูกขัดขวางโดยหอเย็บปักถักร้อย ในที่สุดเทพปีศาจคลั่งก็ทําลายหอเย็บปักถักร้อยไปครึ่งหนึ่งซึ่งวังสวรรค์ไม่สามารถซ่อมแซมมัน นอกจากนั้น เขายังทิ้งแผ่นหนังเปื้อนเลือดเอาไว้ที่นี่สามชิ้น

 

ตั้งแต่ความพ่ายแพ้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟงจิวเก้อหมกหมุ่นอยู่กับบางสิ่ง

 

เขาไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงแต่เขามาที่นี่เพื่อทําความเข้าใจความลึกซึ้งบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจากแผ่นหนังเปื้อนเลือดทั้งสามชิ้นนี้

 

การเปลี่ยนแปลงชนิดนี้มีความพิเศษเพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงของพรหมลิขิต

 

เทพปีศาจคลั่งดุร้ายและทรงพลังมาก เขาสามารถทําลายหอเย็บปักถักร้อย แต่เขากลับทิ้งแผ่นหนังเนื้อ เลือดสามชิ้นไว้ที่นี่แทนการทําลายมัน นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด

 

วังสวรรค์ล้มเหลวในการบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ผู้อมตะภาคใต้ที่ไล่ล่าฟางหยวนกลายเป็นฝ่ายถูกจับกุม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเช่นเดียวกัน

 

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทําให้จิตวิญญาณของฟงจิวเก้อสั่นไหว

 

เขาเกิดแรงบันดาลใจขึ้นอย่างกะทันกัน

 

ริมฝีปากของฟงจิวเก้อยกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ดูเหมือนเพลงต่อไปของข้าจะเป็นเพลง…พรหมลิขิต”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1798 แรงบันดาลใจแห่งพรหมลิขิต

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1798 แรงบันดาลใจแห่งพรหมลิขิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1798 แรงบันดาลใจแห่งพรหมลิขิต

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคใต้น้อย

 

“ครืน…”

 

พื้นดินสั่นสะเทือนก่อนที่แสงจากท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปฐพีจะปกคลุมพื้นที่รัศมีหนึ่งร้อย

 

ราวกับมือที่ไร้รูปลักษณ์กําลังปั้นดินที่อ่อนนุ่ม พื้นที่ตรงกลางเริ่มจมลงขณะที่แผ่นดินรอบนอกยกตัวขึ้นและก่อตัวเป็นหุบเขาทรงกลม

 

พื้นที่ตรงกลางถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทําให้เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่ตัดขาดจากภายนอก

 

ไม่มีพืชพรรณอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ กระทั่งดินยังหายากเพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยเหล็ก!

 

“นี่คือหุบเขาเหล็กขาว!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินชื่อเฉิงมองหุบเขาแห่งนี้ด้วยความตกใจ

 

ฟางหยวนใช้วิธีที่ทรงพลังสร้างแหล่งทรัพยากรระดับกลางขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม

 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาชื่อเฉิงได้พูดคุยกับผู้อมตะคนอื่นๆและตระหนักถึงความกว้างใหญ่ของมิติช่องว่างจักรพรรดิรวมถึงทรัพยากรมากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

 

รากฐานที่แข็งแกร่งนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้อมตะเหล่านี้ต่ออนาคตของพวกเขาเป็นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทําให้ซื่อเฉิงประหลาดใจยิ่งกว่าคือความกล้าหาญของฟางหยวน

 

ฟางหยวนกล้าต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าและมีเล็งเป้าไปที่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้

 

ไม่เพียงเขาจะโจมตีศัตรูแต่เขายังได้รับชัยชนะและสามารถจับผู้อมตะจํานวนมาก

 

หากไม่ใช่เพราะเชลยเหล่านี้ ฟางหยวนจะรีดไถทรัพยากรมากมายมาได้อย่างไร

 

เปรียบเทียบกับฟางหยวน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินขี้ขลาดเกินไป

 

“เราจะติดตามและฟังคําสั่งของท่านฟางหยวน!” ซื่อเฉิงถูกล่อลวงมากขึ้น เขาหลงใหลเสน่ห์ของฟางหยวนอย่างสมบูรณ์

 

ในช่วงเวลาเหล่านี้ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆช่วยจัดการแหล่งทรัพยากรที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ

 

ทรัพยากรถูกแจกจ่ายไปยังสถานที่ต่างๆอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมดุลที่สุด

 

ไม่มีความโกลาหลหรือความขัดแย้ง ทรัพยากรต่างๆสนับสนุนกันและกันทําให้พวกมันเติบโตได้อย่างเต็มที่

 

นี่เป็นผลจากการอนุมานอย่างพิถีพิถันของฟางหยวน

 

ครั้งนี้ฟางหยวนรีดไถทรัพยากรจากฝ่ายธรรมะของภาคใต้ได้ง่ายกว่าก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

 

การต่อต้านของผู้อมตะภาคใต้ลดน้อยลงเนื่องจากภาพเหตุการณ์ที่ฟางหยวนเปิดเผยในสวรรค์สีเหลืองแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถสังหารเฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า สิ่งนี้ช่วยกระตุ้นฝ่ายธรรมะของภาคใต้ได้เป็นอย่างดี

 

“กระทั่งวังสวรรค์ยังพ่ายแพ้ปีศาจฟางหยวน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะล้มเหลวในการจัดการเขา”

 

ผู้อมตะภาคใต้ตระหนักถึงเรื่องนี้อยู่ภายใน

 

เพิ่มเติมด้วยประสบการณ์ในการกรรโชกทรัพย์ของฟางหยวน ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงทําได้เพียงยอมจํานนเท่านั้น

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนต้องการสร้างสระแก่นแท้ปี ดังนั้นเขาจึงรีดไถทรัพยากรอมตะ ค่ามากมาย สําหรับชีวิตนี้เขาเปลี่ยนความต้องการแต่พวกมันยังเป็นทรัพยากรอมตะที่ล้ําค่าเช่นเดิม

 

ส่วนเล็กๆของมันถูกนํามาสร้างแหล่งทรัพยากรเช่นหุบเขาเหล็กขาว

 

ส่วนใหญ่เป็นการเตรียมความพร้อมสําหรับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ

 

ในชีวิตนี้ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะมากกว่าชีวิตก่อนหน้า

 

วิญญาณอมตะส่วนใหญ่ในการครอบครองของเขาเป็นวิญญาณอมตะระดับหก พวกมันอ่อนแอเกินไปสําหรับผู้อมตะระดับแปด

 

การยกระดับวิญญาณอมตะจึงเป็นสิ่งจําเป็นต่อฟางหยวน

 

เขาเคยทําสิ่งนี้ในชีวิตก่อนหน้าและมันยิ่งง่ายกว่าในชีวิตนี้โดยเฉพาะเมื่อเขามีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจํานวนมาก

 

เขาวางแผนล่วงหน้าและเริ่มจัดเตรียมวัตถุดิบ

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิได้รับการพัฒนาไปมาก ตอนนี้มันใกล้เคียงกับจุดส ใสุดในชีวิตก่อนหน้าแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีมิติช่องว่างของหลิวห่าวและปาซื่อปารวมถึงถ้ําสวรรค์นักรบอสูรรออยู่

 

เขาคุ้นเคยกับท่าไม้ตายใหม่มากขึ้น มรดกที่แท้จริงต่างๆยังอยู่ระหว่างการทําความค้นคว้า ขณะที่ความเข้าใจบนเส้นทางมนุษย์ของเขาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

ฟางหยวนเข้าไปในสายธารแห่งกาลเวลาอีกครั้ง

 

เขาไม่ลืมร่างแยกกายาแห่งความฝัน แม้แผนการสําหรับร่างแยกกายาแห่งความฝันจะล้มเหลว แต่ฟางหยวนยังนึกถึงท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต

 

“บางทีข้าอาจสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตเพื่อนําร่างแยกกายาแห่งความฝันเข้าสู่ระดับอมตะ”

 

สี่ซุนจืออยู่ในวิหารอดีตปัจจุบันและเฝ้ามองสายธารแห่งกาลเวลาตลอดเวลา แต่พวกเขาไม่สามารถพบการคงอยู่ของฟางหยวน

 

เขาไปถึงเกาะบัวหินอย่างราบรื่นและใช้ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตกับร่างแยกกายาแห่งความฝัน

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับต้องผิดหวังเพราะร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 

“เป็นเพราะร่างแยกกายาแห่งความฝันกําเนิดจากอาณาจักรแห่งความฝัน ท่าไม้ตายส่วนใหญ่จึงไม่ส่งผลกระทบต่อมันงั้นหรือ?”

 

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่มีอนาคตที่กลายเป็นผู้อมตะ?”

 

ร่างแยกกายาแห่งความฝันเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าและอยู่ห่างจากขอบเขตอมตะเพียงไม่กี่ก้าว

 

แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมีอันตราย ฟางหยวนเลือกที่จะชะลอมันไว้ชั่วคราว

 

“หากตัวตนในอนาคตไม่มีผลเพราะร่างแยกกายาแห่งความฝันไม่มีอนาคต นี่หมายความว่า มันไม่มีความหวังที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้างั้นหรือ?”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนรู้สึกสนใจเล็กน้อย

 

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเผยลิขิตสวรรค์ทันที

 

ท่าไม้ตายนี้สามารถเปิดเผยภัยพิบัติที่เป้าหมายต้องเผชิญ

 

แต่ผลลัพธ์ของมันคือความว่างเปล่า

 

ท่าไม้ตายอมตะเผยลิขิตสวรรค์ไม่มีผลต่อร่างแยกกายาแห่งความฝัน

 

“เป็นเพราะคุณสมบัติของร่างแยกกายาแห่งความฝันหรือเป็นเพราะท่าไม้ตายอมตะเผยลิขิตสวรรค์ในปัจจุบันไม่สามารถเปิดเผยภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความฝัน?”

 

ฟางหยวนสับสน

 

มีวิญญาณเพียงไม่กี่ดวงที่ส่งผลกระทบต่อร่างแยกกายาแห่งความฝัน

 

วิญญาณรากพฤกษาเป็นวิญญาณบนเส้นทางมนุษย์ กายาแห่งความฝันถูกพิจารณาว่าเป็นร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นวิธีบนเส้นทางมนุษย์จึงส่งผลกระทบต่อมัน

 

แต่วิญญาณดวงอื่นๆไม่ส่งผลกระทบต่อร่างแยกกายาแห่งความฝันเพราะมันถูกสร้างขึ้นจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ฟางหยวนอาศัยความได้เปรียบบนเส้นทางแห่งความฝันก้าวข้ามอุปสรรค แต่ตอนนี้เขากําลังพบปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไข

 

เช่นเดียวกับราชันมังกรหรือกระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ไม่สามารถทําสิ่งใดต่อหน้าอาณาจักรแห่งความฝัน มีวิธีการไม่มากที่ส่งผลกระทบต่ออาณาจักรแห่งความฝัน

 

ฟางหยวนสายศีรษะ

 

“ความเป็นไปได้มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน”

 

อย่างไรก็ตามความสําเร็จบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนยังไม่มีความคืบหน้า ห้าร้อยปีในชีวิตแรก ฟางหยวนไม่ได้ให้ความสําคัญกับการค้นคว้าเส้นทางแห่งความฝันแต่เป็นเส้นทางแห่งเลือด

 

หลังจากกลับมาจากสายธารแห่งกาลเวลา ฟางหยวนได้รับข่าวที่ทําให้เขาประหลาดใจเมื่อแผนการสร้างร่างแยกมนุษย์มังกรของเขามีความคืบหน้า

 

ตระกูลเซี่ยพบว่าตระกูลเฉิงมีเพลิงมังกรล่องคลื่นอยู่ในคลังสมบัติ ขณะนี้พวกเขากําลังอยู่ในขั้นตอนการทําธุรกรรม

 

“คลังสมบัติของตระกูลเฉิง มันควรเป็นมิติช่องว่างของผู้ก่อตั้งตระกูลเฉิง”

 

“หลังจากผู้ก่อตั้งตระกูลเฉิงเสียชีวิต มันถูกทิ้งไว้เบื้องหลังบนภูเขาเฉิงเหลียง ผู้อมตะทั่วไปไม่สามารถเข้าไป กระทั่งผู้อมตะตระกูลเฉิงก็ไม่รู้ว่ามันเป็นถ้ําสวรรค์หรือแดนศักดิ์สิทธิ์”

 

“ดูเหมือนรากฐานของมันจะลึกกว่าที่ข้าคาดเดา”

 

ฟางหยวนต้องอุทานด้วยความประหลาดใจกับรากฐานของตระกูลเฉิง

 

ตระกูลเฉิงเป็นหนึ่งในกองกําลังใหญ่ของภาคใต้ แต่เนื่องจากตําแหน่งทางภูมิศาสตร์ของพวกเขาค่อนข้างมีเอกลักษณ์และห่างไกลจากกองกําลังอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถรักษาความสัมพันธ์กับกองกําลังอื่นๆของภาคใต้

 

“หากตระกูลเซี่ยได้รับเพลิงมังกรล่องคลื่น อุปสรรคในแผนการสร้างร่างแยกมนุษย์มังกรของข้าจะลดลงครึ่งหนึ่ง”

 

ฟางหยวนรอคอยอย่างอดทน

 

เกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาค เขาได้รับประสบการณ์และเข้าใจมันมากขึ้นแล้ว ตอนนี้เขาสามารถใช้ปราณแสงสี่สีได้ในเวลาเดียวกัน

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาปะทุขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เขาพร้อมที่จะแยกดวงวิญญาณเพื่อสร้างร่างแยกมนุษย์มังกรแล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังบ่มเพาะจิตวิญญาณต่อไปจนถึงระดับแปดสิบล้านคน

 

ธุรกรรมอาณาจักรแห่งความฝันกับตระกูลจื่อยังดําเนินต่อไปอย่างลับๆ

 

จื่อชิวหยูยอมรับสถานการณ์ของเขาแล้ว

 

เขาทําพลาดไปแล้ว ตอนนี้เขาทําได้เพียงทําต่อไปเท่านั้น

 

แน่นอนว่าฟางหยวนไม่ลืมที่จะป้องกันตัวจากจื่อชิวหยู หลังจากทั้งหมดผู้อมตะระดับแปดล้วนไม่ใช่คนธรรมดา

 

โชคดีที่ฟางหยวนเลือกสนับสนุนตระกูลจื่อเพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับอนาคต

 

ตระกูลจื่อได้รับงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝัน สิ่งนี้ทําให้จื่อชิวหยูมีความสุขท่ามกลางความเจ็บปวด ตั้งแต่เขาทําเรื่องผิดพลาดร้ายแรงไปแล้ว เหตุใดตอนนี้เขาจะไม่ทําต่อ?

 

จื่อชิวหยไม่ต้องการเสี่ยงแต่ฟางหยวนดึงเขาเข้าสู่เส้นทางสายนี้ เขาทําได้เพียงกัดฟันและเดินหน้าต่อไปในขุมนรกเท่านั้น

 

ในเวลาว่าง ฟางหยวนจะค้นวิญญาณของเชลยอมตะ

 

แม้เขาจะเคยทําสิ่งนี้มาแล้วในชีวิตก่อนหน้า แต่เขายังทําซ้ําอีกครั้งในชีวิตนี้เพราะเขาต้องการตรวจสอบบางสิ่ง

 

นั่นคือผลกระทบหยดหมึก

 

เปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า มีความแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 

นี่ทําให้ฟางหยวนต้องครุ่นคิด ความรู้สึกลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายยังตกค้างอยู่ในใจของเขา

 

“นี่คือชะตากรรมงั้นหรือ?” ฟางหยวนรู้สึกราวกับสามารถสัมผัสถึงใยแมงมุมของวิญญาณชะตากรรม

 

ลางสังหรณ์บางอย่างค่อยๆแรงกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ

 

“หากข้าค้นคว้าเรื่องนี้ต่อไป ความเข้าใจเกี่ยวกับโชคชะตาของข้าจะลึกซึ้งขึ้น นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทําความเข้าใจวิญญาณชะตากรรม”

 

“หลังจากรวบรวมเบาะแสและอนุมาน ข้าอาจสามารถทําความเข้าใจท่าไม้ตายที่จะส่งผลกระทบต่อโชคชะตา”

 

“หากข้ารวมมันเข้ากับความลึกซึ้งบนเส้นทางแห่งโชค…มันอาจกลายเป็นพรหมลิขิต” จิตใจของฟางหยวนสั่นไหวเมื่อเกิดแรงบันดาลใจดังกล่าว

 

วังสวรรค์

 

ฟงจิวเก้อเดินทางไปที่หอเย็บปักถักร้อย

 

มันเป็นอาคารที่ประดับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามแต่สามารถมองเห็นร่องรอยของการทําลายล้างที่ถูกทิ้งไว้อย่างชัดเจน

 

บนยอดหอเย็บปักถักร้อยมีแผ่นหลังเปื้อนเลือดสามชิ้นราวกับธงที่สะบัดตัวไปตามสายลม พวกมันปลดปล่อยกลิ่นอายของความป่าเถื่อนและดึกดําบรรพออกมา

ย้อนกลับไปเมื่อเทพปีศาจคลั่งบุกวงสวรรค์ เขาถูกขัดขวางโดยหอเย็บปักถักร้อย ในที่สุดเทพปีศาจคลั่งก็ทําลายหอเย็บปักถักร้อยไปครึ่งหนึ่งซึ่งวังสวรรค์ไม่สามารถซ่อมแซมมัน นอกจากนั้น เขายังทิ้งแผ่นหนังเปื้อนเลือดเอาไว้ที่นี่สามชิ้น

 

ตั้งแต่ความพ่ายแพ้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟงจิวเก้อหมกหมุ่นอยู่กับบางสิ่ง

 

เขาไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงแต่เขามาที่นี่เพื่อทําความเข้าใจความลึกซึ้งบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจากแผ่นหนังเปื้อนเลือดทั้งสามชิ้นนี้

 

การเปลี่ยนแปลงชนิดนี้มีความพิเศษเพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงของพรหมลิขิต

 

เทพปีศาจคลั่งดุร้ายและทรงพลังมาก เขาสามารถทําลายหอเย็บปักถักร้อย แต่เขากลับทิ้งแผ่นหนังเนื้อ เลือดสามชิ้นไว้ที่นี่แทนการทําลายมัน นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด

 

วังสวรรค์ล้มเหลวในการบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ผู้อมตะภาคใต้ที่ไล่ล่าฟางหยวนกลายเป็นฝ่ายถูกจับกุม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเช่นเดียวกัน

 

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทําให้จิตวิญญาณของฟงจิวเก้อสั่นไหว

 

เขาเกิดแรงบันดาลใจขึ้นอย่างกะทันกัน

 

ริมฝีปากของฟงจิวเก้อยกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ดูเหมือนเพลงต่อไปของข้าจะเป็นเพลง…พรหมลิขิต”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+