Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1898 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1898 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1898 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี

 

เมฆสีดําหมุนวนอยู่บนท้องฟ้า เสียงฟ้าร้องดังขี้อย่างไม่รู้สิ้นสุด

 

สายฟ้าสีแดงจํานวนนับไม่ถ้วนแลบลั่นอยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆสีด่า

 

มันคือภัยพิบัติใหญ่ หายนะสายฟ้าสีชาติ!

 

สายฟ้าสีแดงฟาดลงมาและสร้างเสียงระเบิดที่คมชัด

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะได้รับความเสียหายจากสายฟ้าสีแดง เศษชิ้นส่วนของมันบินขึ้นสู่อากาศก่อนจะกลายเป็นซากศพของวิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วน

 

ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ อู่ส่วยตรวจสอบตนเอง

 

เขาพบว่าเขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปฐพี่ ตอนนี้ชุดเกราะบนร่างกายของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก

 

ไม่ไกลจากเขามีผู้อมตะหญิงยืนอยู่ ใบหน้าของนางซีดขาว กลิ่นอายของนางค่อนข้างอ่อนแอ

 

นางใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งแสงเพื่อรักษาตนเอง ด้วยเหตุนี้ร่างกายของนางจึงปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว อย่างไรก็ตามใบหน้าและแขนขาของนางกลับมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งความมีดปรากฏอยู่

 

เห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งแสง แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งความมืดจํานวนมากบนร่างของนาง ทําให้อู่ส่วยประหลาดใจ

 

สิ่งที่แปลกประหลาดกว่านั้นก็คือไม่เพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืดจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พวกมันยังสามารถเปลี่ยนตําแหน่ง

 

ผู้อมตะหญิงคราม นางประสบความสําเร็จในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะ ขณะเดียวกันร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งความมืดก็ถูกหยุดไว้ชั่วคราว

 

ผู้อมตะหญิงหันหน้ามาทางอู่ส่วยและเผยรอยยิ้มขมขึ้น “ข้าไม่มีทางรอดแล้ว นี่เป็นวิธีรักษาที่ดีที่สุดของข้า แต่มันทําได้เพียงระงับอาการบาดเจ็บเอาไว้ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บของข้าจะปะทุขึ้นอีกครั้ง”

 

“เจิ้งหยาง สุดที่รักของข้า ข้าไม่สามารถไปกับเจ้าได้อีก เจ้าต้องมีชีวิตที่ดี” ผู้อมตะหญิงกล่าวด้วยน้ําตาที่ไหลนอง

 

“ไม่ มันต้องมีทาง ต้องมี! เจ้าต้องไม่สิ้นหวัง ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขของข้าสร้างขึ้นมาจากวิญญาณอมตะทั้งหมดที่ข้ามี มันมีพลังป้องกันเป็นอันดับหนึ่ง เรายังมีเวลา เจ้าต้องทํางานหนัก ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ!” อู่ส่วยตะโกนด้วยน้ําตาคลอเบ้า

 

อาณาจักรแห่งความฝันดําเนินไปด้วยตัวของมันเอง อู่ส่วยไม่สามารถควบคุมมัน

 

แต่หลังจากการสนทนานี้ อู่ส่วยก็สามารถควบคุมร่างกายได้ในที่สุด

 

“ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุข? ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน… ดวงตาของอู่ส่วยส่องประกายขึ้น

 

เขาเร่งตรวจสอบมิดช่องว่างของตน

 

มีพลังงานอมตะอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีวิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากแต่ไม่มีวิญญาณอมตะ

 

เป็นดังที่เพิ่งหยางกล่าว เขาใช้วิญญาณอมตะทั้งหมดเพื่อสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้

 

“นหมายความว่าข้าสามารถพึ่งพาคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เสียหายหลังนี้เท่านั้น อู่ส่วยคิด

 

เขาพยายามควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขมีโครงสร้างที่ซับซ้อน มันใช้วิญญาณนับร้อยล้านดวง ท่ามกลางพวกมันมีวิญญาณอมตะมากกว่ายี่สิบดวง

 

อู่ส่วยต้องทํางานอย่างหนักเพื่อค้นคว่ามัน

 

เพียงการวิเคราะห์คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ก็เป็นเรื่องที่ยากล่าบากมากแล้ว นอกจากนั้นข้ายังต้องใช้มันต่อต้านภัยพิบัติหายนะสายฟ้าสีชาติ!”

 

หัวใจของอู่ส่วยจมดิ่งลง เขารู้ว่าการสารวจครั้งนี้จะล้มเหลว

 

ดังคาด สถานการณ์พัฒนาไปตามความคาดหมายของเขา

 

อู่ส่วยพยายามใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะต่อต้านสายฟ้าสีแดง แต่มันไร้ประโยชน์

 

ความเข้าใจของเขาที่มีต่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ต่ําเกินไป แม้เขาจะต้องการแก้ไข แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากจุดใด

 

สุดท้ายสายฟ้าสีแดงก็ระเบิดทําลายคฤหาสน์วิญญาณอตมตะหลังนี้ อู่ส่วยและผู้อมตะหญิงกลายเป็นเหยื่อของภัยพิบัติ

 

หลังจากถูกส่งออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน อู่ส่วยเริ่มรักษาตนเอง

 

ตอนนี้ร่างหลักของฟางหยวนกําลังสํารวจถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า แต่ก่อนจากไปเขาทิ้งวิญญาณความเด็ดเดี่ยวและวิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันไว้กับอู่ส่วย

 

ด้วยวิญญาณความเด็ดเดี่ยว อาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณจึงไม่ใช่ปัญหาสําหรับส่วย

 

การสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันนี้แตกต่างจากการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันของวังมังกร อู่ส่วยสามารถสํารวจมันได้หลายครั้งจนกว่าเขาจะประสบความสําเร็จ

 

หลังจากล้มเหลวแปดครั้ง ในที่สุดอู่ส่วยก็เข้าใจป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขมากขึ้น

 

แม้อู่ส่วยจะไม่สามารถซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้แต่เขาก็สามารถรักษามันไว้

 

เมฆสีด่าหมุนวนอยู่บนท้องฟ้า สายฟ้าสีแดงค่อยๆเลือนหายไป

 

อย่างไรก็ตามภัยพิบัติใหม่กลับก่อตัวขึ้น

 

ผู้อมตะหญิงถอนหายใจ “เห้อ..มันเป็นความผิดของข้าที่ไม่ฟังท่าน ข้าค้นหาสถานที่ที่เทพปีศาจคลั่งเสียชีวิด สุดท้ายมันกลายเป็นสาเหตุของภัยพิบัติครั้งนี้”

 

“นี่เป็นปัญหาของข้าเพียงผู้เดียว เจิ้งหยาง ไปเถิด ข้าไม่ต้องการดึงท่านเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!”

 

ตอนนี้ผู้อมตะหญิงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างน่าอนาถ ร่องรอยของพลังงานแห่งเดบนเส้นทางแห่งความมืดกลnนกินร่างกายของนางไปเกือบทั้งหมด

 

อู่ส่วยยังไม่ได้วิเคราะห์สถานการณ์ของผู้อมตะหญิงเมื่อละอองฝนร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

 

แม้มันจะเป็นเพียงละอองฝน แต่มันกลับหนาวเย็นราวกับสามารถแช่แข็งดวงวิญญาณของผู้คน

 

ความร้อนและควันจากสายฟ้าสีแดงก่อนหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์

 

เสียงโหยหวนของภูตผีดังขึ้น เงาสีเทาเคลื่อนที่ลงมาจากเมฆสีด่าและทอดตัวยาวมาทางอู่ส่วย

 

หัวใจของคู่ส่วยจมดิ่งลง นี่คือภัยพิบัติใหญ่ ภูตผีน้ําแข็ง!”

 

อู่ส่วยต่อต้านภูตผีเหล่านี้ด้วยความยากล่าบาก

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขไม่มีพลังโจมตี มันสามารถป้องกันเท่านั้น

 

ด้วยเหตุนี้ส่วยจึงทําได้เพียงเฝ้ามองภูตผีเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาผ่านรูช่องโหว่ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

 

ภูตผีรัดพันร่างกายของผู้อมตะหญิงและกู้ส่วยเอาไว้ก่อนจะทําให้คนทั้งสองกลายเป็นประติมากรรมน้ําแข็ง

 

อู่ส่วยถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและแทบหมดสติทันทีที่ดวงวิญญาณกลับเข้าสู่ร่างกาย

 

“การโจมตีของภูตผีน้ําแข็งทําให้ข้าได้รับบาดเจ็บมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า!’ อู่ส่วยเผยรอยยิ้มขมขึ้น ในสถานการณ์นี้ เขาต้องพักฟื้นก่อนจะทดลองสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

 

อาการบาดเจ็บนี้ไม่ใช่ปัญหาของฟางหยวน แต่สําหรับอู่ส่วย มันแตกต่างออกไป

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของอู่ส่วยอยู่ในระดับสามสิบล้านคน แม้มันจะเพิ่มขึ้นหลังจากที่เขาฝึกฝนอยู่ในทะเลตะวันออก แต่มันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับร่างหลัก

 

อู่ส่วยเป็นมนุษย์มังกรที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งทาส การบ่มเพาะจิตวิญญาณเป็นเพียงส่วนสนับสนุน

 

แต่ร่างหลักของฟางหยวนมีร่างทารกอมตะ มันไม่มีความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต่า ดังนั้น เขาจึงสามารถบ่มเพาะจิตวิญญาณควบคู่กับเส้นทางสายอื่นได้อย่างไม่มีปัญหา

 

หลังจากพักผ่อนเพียงพอแล้ว อู่ส่วยก็เข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

 

เขาพบกับความล้มเหลวซ้ําแล้วซ้ําอีกแต่มันก็ทําให้เขาได้รับกําไรเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย

 

อู่ส่วยเรียนรู้คฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขและสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะสามท่าของมัน

 

ท่าแรกเรียกว่าสร้างภูเขาดิน ท่าที่สองเรียกว่าฝังศพอย่างสงบสุข ท่าที่สามเรียกว่ากลับคืนสู่ปฐพี

 

สิ่งที่ทําให้อู่ส่วยรู้สึกได้เปิดหูเปิดตาคือท่าไม้ตายอมตะสร้างภูเขาดิน

 

นี่เป็นท่าไม้ตายที่พิเศษมาก มันไม่มีพลังโจมตี ไม่สามารถรักษา ไม่ช่วยในการเคลื่อนไหว มันเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งค่ายกล ด้วยการใช้ท่าไม้ตายนี้ ผู้อมตะจะสามารถเติมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณได้เรื่อยๆ วิธีนี้สามารถใช้ได้โดยที่ผู้อมตะไม่จําเป็นต้องมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

การได้รับท่าไม้ตายนี้เหมือนกับการได้รับรากฐานของคฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุข

 

“ดังนั้นข้าเพียงต้องใช้ท่าไม้ตายนี้และเพิ่มวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี่เข้าไป จากนั้นคฤหาสน์ วิญญาณอมตะหลังนี้ก็จะฟื้นฟูขึ้นอีกครั้งด้วยตัวมันเอง

 

หลังจากเข้าใจสิ่งนี้ อู่ส่วยก็เริ่มซ่อมแซมป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขและอดทนต่อการโจมตีของภูตผีน้ําแข็ง

 

“บีม!”

 

ในช่วงเวลาที่เขากําลังซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ผู้อมตะหญิงกลับระเบิดตัวเอง การระเบิดครั้งนี้ทําให้อู่ส่วยตายทันทีขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“ข้ายังต้องดูแลหญิงผู้นี้” อู่ส่วยตระหนักถึงประเด็นนี้ขณะถูกส่งออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ท่าไม้ตายอมตะฝังศพอย่างสงบสุข!

 

ด้วยท่าไม้ตายนี้ ผู้อมตะหญิงถูกผนึกไว้เป็นการชั่วคราว อาการบาดเจ็บของนางได้รับการรักษาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะอย่างช้าๆ

 

หลังจากซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ภัยพิบัติใหญ่ที่สามก็ปรากฏขึ้น

 

ดาวตกสีม่วงพุ่งลงมาจากท้องฟ้า นี่คือภัยพิบัติดาวตกพิษ

 

ดาวตกพิษพุ่งปะทะคฤหาสน์วิญญาณอมตะและท่าให้เกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นบนพื้นผิวของมัน

 

อู่ส่วยพยายามต่อต้านอย่างสุดความสามารถแต่ยังล้มเหลวหลายครั้ง

 

ภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สามรุนแรงเกินไป นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ อย่าบอกข้าว่า… หลังจากล้มเหลวหลายครั้ง อู่ส่วยก็เกิดแรงบันดาลใจบางอย่าง

 

เขาพยายามตรวจสอบผู้อมตะหญิง

 

“เจิ้งหยาง หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราได้พบกันอีกครั้ง ลาก่อน สุดที่รักของข้า”

 

ขณะที่อู่ส่วยพยายามป้องกันภัยพิบัติ นางก็บินออกไปจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

“บีม!”

 

นางระเบิดตัวเองและกลายเป็นเปลวเพลิงสีดําสนิทลุกไหม้อยู่กลางอากาศ

 

สวรรค์ราวกับโกรธจัดและส่งดาวตกพิษจํานวนมากลงมา เปลวเพลิงสีดําไม่ใหญ่นักแต่มันแข็งแกร่งมาก มันสามารถลดขนาดและจํานวนของดาวตกพิษ นี่ทําให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย

 

เมฆสีดําบนท้องฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง สายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาราวกับอสรพิษ เปลวเพลิงสีดําถูกสายฟ้าโจมตีอย่างดุเดือด แต่มันกลับขยายใหญ่ขึ้น

 

เปลวเพลิงสีดากลายเป็นหมอกสีขาวทอง

 

ภัยพิบัติใหญ่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขณะที่หมอกสีขาวทองก็เปลี่ยนเป็นสายลม ผลึกหิน ดอกไม้ ต้นหญ้า หรือกระทั่งสัตว์อสูรเพื่อต่อต้านมัน

 

สิ่งใดซ่อนอยู่ในร่างของหญิงผู้นี้ กระทั่งภัยพิบัติใหญ่ก็ไม่สามารถทําสิ่งใดกับมัน!” หัวใจของอู่ส่วยสั่นสะท้านขึ้น

 

เขารู้สึกว่าอาณาจักรแห่งความฝันนี้เก็บความลับบางอย่างในประวัติศาสตร์เอาไว้

 

นี่อาจเป็นเหตุผลเบื้องหลังการเสียชีวิตของเทพปีศาจคลั่ง มันอาจเกี่ยวกับความลับที่ลึกซึ้งที่สุดของสวรรค์พิภพ

 

ผู้อมตะหญิงเสียชีวิตแต่อาณาจักรแห่งความฝันยังดําเนินต่อไป

 

ขณะเดียวกันอู่ส่วยทําได้เพียงใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะปกป้องตนเองเท่านั้น

 

หลังจากผ่านภัยพิบัตินับครั้งไม่ถ้วน เปลวเพลิงสีดําก็ค่อยๆดับมอดลง

 

ภัยพิบัติจบลงเช่นกัน การต่อสู้ครั้งนี้กินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง

 

“มันคือสิ่งใดกันแน่?” หลังจากอาณาจักรแห่งความฝันสลายไป อู่ส่วยยังเต็มไปด้วยความตกใจและสงสัย

 

เขาใช้ความพยายามอย่างมากแต่รางวัลที่เขาได้รับก็ไม่น้อย

 

ดวงตาของฟางหยวนที่อยู่ในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าส่องประกายขึ้น

 

“โอ้ ขากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี่แล้ว”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1898 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1898 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1898 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี

 

เมฆสีดําหมุนวนอยู่บนท้องฟ้า เสียงฟ้าร้องดังขี้อย่างไม่รู้สิ้นสุด

 

สายฟ้าสีแดงจํานวนนับไม่ถ้วนแลบลั่นอยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆสีด่า

 

มันคือภัยพิบัติใหญ่ หายนะสายฟ้าสีชาติ!

 

สายฟ้าสีแดงฟาดลงมาและสร้างเสียงระเบิดที่คมชัด

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะได้รับความเสียหายจากสายฟ้าสีแดง เศษชิ้นส่วนของมันบินขึ้นสู่อากาศก่อนจะกลายเป็นซากศพของวิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วน

 

ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ อู่ส่วยตรวจสอบตนเอง

 

เขาพบว่าเขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปฐพี่ ตอนนี้ชุดเกราะบนร่างกายของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก

 

ไม่ไกลจากเขามีผู้อมตะหญิงยืนอยู่ ใบหน้าของนางซีดขาว กลิ่นอายของนางค่อนข้างอ่อนแอ

 

นางใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งแสงเพื่อรักษาตนเอง ด้วยเหตุนี้ร่างกายของนางจึงปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว อย่างไรก็ตามใบหน้าและแขนขาของนางกลับมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งความมีดปรากฏอยู่

 

เห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งแสง แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งความมืดจํานวนมากบนร่างของนาง ทําให้อู่ส่วยประหลาดใจ

 

สิ่งที่แปลกประหลาดกว่านั้นก็คือไม่เพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืดจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พวกมันยังสามารถเปลี่ยนตําแหน่ง

 

ผู้อมตะหญิงคราม นางประสบความสําเร็จในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะ ขณะเดียวกันร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งความมืดก็ถูกหยุดไว้ชั่วคราว

 

ผู้อมตะหญิงหันหน้ามาทางอู่ส่วยและเผยรอยยิ้มขมขึ้น “ข้าไม่มีทางรอดแล้ว นี่เป็นวิธีรักษาที่ดีที่สุดของข้า แต่มันทําได้เพียงระงับอาการบาดเจ็บเอาไว้ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บของข้าจะปะทุขึ้นอีกครั้ง”

 

“เจิ้งหยาง สุดที่รักของข้า ข้าไม่สามารถไปกับเจ้าได้อีก เจ้าต้องมีชีวิตที่ดี” ผู้อมตะหญิงกล่าวด้วยน้ําตาที่ไหลนอง

 

“ไม่ มันต้องมีทาง ต้องมี! เจ้าต้องไม่สิ้นหวัง ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขของข้าสร้างขึ้นมาจากวิญญาณอมตะทั้งหมดที่ข้ามี มันมีพลังป้องกันเป็นอันดับหนึ่ง เรายังมีเวลา เจ้าต้องทํางานหนัก ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ!” อู่ส่วยตะโกนด้วยน้ําตาคลอเบ้า

 

อาณาจักรแห่งความฝันดําเนินไปด้วยตัวของมันเอง อู่ส่วยไม่สามารถควบคุมมัน

 

แต่หลังจากการสนทนานี้ อู่ส่วยก็สามารถควบคุมร่างกายได้ในที่สุด

 

“ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุข? ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน… ดวงตาของอู่ส่วยส่องประกายขึ้น

 

เขาเร่งตรวจสอบมิดช่องว่างของตน

 

มีพลังงานอมตะอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีวิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากแต่ไม่มีวิญญาณอมตะ

 

เป็นดังที่เพิ่งหยางกล่าว เขาใช้วิญญาณอมตะทั้งหมดเพื่อสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้

 

“นหมายความว่าข้าสามารถพึ่งพาคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เสียหายหลังนี้เท่านั้น อู่ส่วยคิด

 

เขาพยายามควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขมีโครงสร้างที่ซับซ้อน มันใช้วิญญาณนับร้อยล้านดวง ท่ามกลางพวกมันมีวิญญาณอมตะมากกว่ายี่สิบดวง

 

อู่ส่วยต้องทํางานอย่างหนักเพื่อค้นคว่ามัน

 

เพียงการวิเคราะห์คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ก็เป็นเรื่องที่ยากล่าบากมากแล้ว นอกจากนั้นข้ายังต้องใช้มันต่อต้านภัยพิบัติหายนะสายฟ้าสีชาติ!”

 

หัวใจของอู่ส่วยจมดิ่งลง เขารู้ว่าการสารวจครั้งนี้จะล้มเหลว

 

ดังคาด สถานการณ์พัฒนาไปตามความคาดหมายของเขา

 

อู่ส่วยพยายามใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะต่อต้านสายฟ้าสีแดง แต่มันไร้ประโยชน์

 

ความเข้าใจของเขาที่มีต่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ต่ําเกินไป แม้เขาจะต้องการแก้ไข แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากจุดใด

 

สุดท้ายสายฟ้าสีแดงก็ระเบิดทําลายคฤหาสน์วิญญาณอตมตะหลังนี้ อู่ส่วยและผู้อมตะหญิงกลายเป็นเหยื่อของภัยพิบัติ

 

หลังจากถูกส่งออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน อู่ส่วยเริ่มรักษาตนเอง

 

ตอนนี้ร่างหลักของฟางหยวนกําลังสํารวจถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า แต่ก่อนจากไปเขาทิ้งวิญญาณความเด็ดเดี่ยวและวิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันไว้กับอู่ส่วย

 

ด้วยวิญญาณความเด็ดเดี่ยว อาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณจึงไม่ใช่ปัญหาสําหรับส่วย

 

การสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันนี้แตกต่างจากการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันของวังมังกร อู่ส่วยสามารถสํารวจมันได้หลายครั้งจนกว่าเขาจะประสบความสําเร็จ

 

หลังจากล้มเหลวแปดครั้ง ในที่สุดอู่ส่วยก็เข้าใจป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขมากขึ้น

 

แม้อู่ส่วยจะไม่สามารถซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้แต่เขาก็สามารถรักษามันไว้

 

เมฆสีด่าหมุนวนอยู่บนท้องฟ้า สายฟ้าสีแดงค่อยๆเลือนหายไป

 

อย่างไรก็ตามภัยพิบัติใหม่กลับก่อตัวขึ้น

 

ผู้อมตะหญิงถอนหายใจ “เห้อ..มันเป็นความผิดของข้าที่ไม่ฟังท่าน ข้าค้นหาสถานที่ที่เทพปีศาจคลั่งเสียชีวิด สุดท้ายมันกลายเป็นสาเหตุของภัยพิบัติครั้งนี้”

 

“นี่เป็นปัญหาของข้าเพียงผู้เดียว เจิ้งหยาง ไปเถิด ข้าไม่ต้องการดึงท่านเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!”

 

ตอนนี้ผู้อมตะหญิงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างน่าอนาถ ร่องรอยของพลังงานแห่งเดบนเส้นทางแห่งความมืดกลnนกินร่างกายของนางไปเกือบทั้งหมด

 

อู่ส่วยยังไม่ได้วิเคราะห์สถานการณ์ของผู้อมตะหญิงเมื่อละอองฝนร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

 

แม้มันจะเป็นเพียงละอองฝน แต่มันกลับหนาวเย็นราวกับสามารถแช่แข็งดวงวิญญาณของผู้คน

 

ความร้อนและควันจากสายฟ้าสีแดงก่อนหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์

 

เสียงโหยหวนของภูตผีดังขึ้น เงาสีเทาเคลื่อนที่ลงมาจากเมฆสีด่าและทอดตัวยาวมาทางอู่ส่วย

 

หัวใจของคู่ส่วยจมดิ่งลง นี่คือภัยพิบัติใหญ่ ภูตผีน้ําแข็ง!”

 

อู่ส่วยต่อต้านภูตผีเหล่านี้ด้วยความยากล่าบาก

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขไม่มีพลังโจมตี มันสามารถป้องกันเท่านั้น

 

ด้วยเหตุนี้ส่วยจึงทําได้เพียงเฝ้ามองภูตผีเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาผ่านรูช่องโหว่ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

 

ภูตผีรัดพันร่างกายของผู้อมตะหญิงและกู้ส่วยเอาไว้ก่อนจะทําให้คนทั้งสองกลายเป็นประติมากรรมน้ําแข็ง

 

อู่ส่วยถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและแทบหมดสติทันทีที่ดวงวิญญาณกลับเข้าสู่ร่างกาย

 

“การโจมตีของภูตผีน้ําแข็งทําให้ข้าได้รับบาดเจ็บมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า!’ อู่ส่วยเผยรอยยิ้มขมขึ้น ในสถานการณ์นี้ เขาต้องพักฟื้นก่อนจะทดลองสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

 

อาการบาดเจ็บนี้ไม่ใช่ปัญหาของฟางหยวน แต่สําหรับอู่ส่วย มันแตกต่างออกไป

 

รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของอู่ส่วยอยู่ในระดับสามสิบล้านคน แม้มันจะเพิ่มขึ้นหลังจากที่เขาฝึกฝนอยู่ในทะเลตะวันออก แต่มันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับร่างหลัก

 

อู่ส่วยเป็นมนุษย์มังกรที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งทาส การบ่มเพาะจิตวิญญาณเป็นเพียงส่วนสนับสนุน

 

แต่ร่างหลักของฟางหยวนมีร่างทารกอมตะ มันไม่มีความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต่า ดังนั้น เขาจึงสามารถบ่มเพาะจิตวิญญาณควบคู่กับเส้นทางสายอื่นได้อย่างไม่มีปัญหา

 

หลังจากพักผ่อนเพียงพอแล้ว อู่ส่วยก็เข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

 

เขาพบกับความล้มเหลวซ้ําแล้วซ้ําอีกแต่มันก็ทําให้เขาได้รับกําไรเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย

 

อู่ส่วยเรียนรู้คฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขและสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะสามท่าของมัน

 

ท่าแรกเรียกว่าสร้างภูเขาดิน ท่าที่สองเรียกว่าฝังศพอย่างสงบสุข ท่าที่สามเรียกว่ากลับคืนสู่ปฐพี

 

สิ่งที่ทําให้อู่ส่วยรู้สึกได้เปิดหูเปิดตาคือท่าไม้ตายอมตะสร้างภูเขาดิน

 

นี่เป็นท่าไม้ตายที่พิเศษมาก มันไม่มีพลังโจมตี ไม่สามารถรักษา ไม่ช่วยในการเคลื่อนไหว มันเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งค่ายกล ด้วยการใช้ท่าไม้ตายนี้ ผู้อมตะจะสามารถเติมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณได้เรื่อยๆ วิธีนี้สามารถใช้ได้โดยที่ผู้อมตะไม่จําเป็นต้องมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

การได้รับท่าไม้ตายนี้เหมือนกับการได้รับรากฐานของคฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุข

 

“ดังนั้นข้าเพียงต้องใช้ท่าไม้ตายนี้และเพิ่มวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี่เข้าไป จากนั้นคฤหาสน์ วิญญาณอมตะหลังนี้ก็จะฟื้นฟูขึ้นอีกครั้งด้วยตัวมันเอง

 

หลังจากเข้าใจสิ่งนี้ อู่ส่วยก็เริ่มซ่อมแซมป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขและอดทนต่อการโจมตีของภูตผีน้ําแข็ง

 

“บีม!”

 

ในช่วงเวลาที่เขากําลังซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ผู้อมตะหญิงกลับระเบิดตัวเอง การระเบิดครั้งนี้ทําให้อู่ส่วยตายทันทีขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“ข้ายังต้องดูแลหญิงผู้นี้” อู่ส่วยตระหนักถึงประเด็นนี้ขณะถูกส่งออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ท่าไม้ตายอมตะฝังศพอย่างสงบสุข!

 

ด้วยท่าไม้ตายนี้ ผู้อมตะหญิงถูกผนึกไว้เป็นการชั่วคราว อาการบาดเจ็บของนางได้รับการรักษาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะอย่างช้าๆ

 

หลังจากซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ภัยพิบัติใหญ่ที่สามก็ปรากฏขึ้น

 

ดาวตกสีม่วงพุ่งลงมาจากท้องฟ้า นี่คือภัยพิบัติดาวตกพิษ

 

ดาวตกพิษพุ่งปะทะคฤหาสน์วิญญาณอมตะและท่าให้เกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นบนพื้นผิวของมัน

 

อู่ส่วยพยายามต่อต้านอย่างสุดความสามารถแต่ยังล้มเหลวหลายครั้ง

 

ภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สามรุนแรงเกินไป นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ อย่าบอกข้าว่า… หลังจากล้มเหลวหลายครั้ง อู่ส่วยก็เกิดแรงบันดาลใจบางอย่าง

 

เขาพยายามตรวจสอบผู้อมตะหญิง

 

“เจิ้งหยาง หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราได้พบกันอีกครั้ง ลาก่อน สุดที่รักของข้า”

 

ขณะที่อู่ส่วยพยายามป้องกันภัยพิบัติ นางก็บินออกไปจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

“บีม!”

 

นางระเบิดตัวเองและกลายเป็นเปลวเพลิงสีดําสนิทลุกไหม้อยู่กลางอากาศ

 

สวรรค์ราวกับโกรธจัดและส่งดาวตกพิษจํานวนมากลงมา เปลวเพลิงสีดําไม่ใหญ่นักแต่มันแข็งแกร่งมาก มันสามารถลดขนาดและจํานวนของดาวตกพิษ นี่ทําให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย

 

เมฆสีดําบนท้องฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง สายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาราวกับอสรพิษ เปลวเพลิงสีดําถูกสายฟ้าโจมตีอย่างดุเดือด แต่มันกลับขยายใหญ่ขึ้น

 

เปลวเพลิงสีดากลายเป็นหมอกสีขาวทอง

 

ภัยพิบัติใหญ่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขณะที่หมอกสีขาวทองก็เปลี่ยนเป็นสายลม ผลึกหิน ดอกไม้ ต้นหญ้า หรือกระทั่งสัตว์อสูรเพื่อต่อต้านมัน

 

สิ่งใดซ่อนอยู่ในร่างของหญิงผู้นี้ กระทั่งภัยพิบัติใหญ่ก็ไม่สามารถทําสิ่งใดกับมัน!” หัวใจของอู่ส่วยสั่นสะท้านขึ้น

 

เขารู้สึกว่าอาณาจักรแห่งความฝันนี้เก็บความลับบางอย่างในประวัติศาสตร์เอาไว้

 

นี่อาจเป็นเหตุผลเบื้องหลังการเสียชีวิตของเทพปีศาจคลั่ง มันอาจเกี่ยวกับความลับที่ลึกซึ้งที่สุดของสวรรค์พิภพ

 

ผู้อมตะหญิงเสียชีวิตแต่อาณาจักรแห่งความฝันยังดําเนินต่อไป

 

ขณะเดียวกันอู่ส่วยทําได้เพียงใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะปกป้องตนเองเท่านั้น

 

หลังจากผ่านภัยพิบัตินับครั้งไม่ถ้วน เปลวเพลิงสีดําก็ค่อยๆดับมอดลง

 

ภัยพิบัติจบลงเช่นกัน การต่อสู้ครั้งนี้กินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง

 

“มันคือสิ่งใดกันแน่?” หลังจากอาณาจักรแห่งความฝันสลายไป อู่ส่วยยังเต็มไปด้วยความตกใจและสงสัย

 

เขาใช้ความพยายามอย่างมากแต่รางวัลที่เขาได้รับก็ไม่น้อย

 

ดวงตาของฟางหยวนที่อยู่ในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าส่องประกายขึ้น

 

“โอ้ ขากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี่แล้ว”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+