Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1906 เขาคือฟางหยวน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1906 เขาคือฟางหยวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1906 เขาคือฟางหยวน

 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

 

เฉินกงเจิ้งบินเข้าไปหาปีศาจอมตะและแสดงออกด้วยความตื่นเต้น

 

“ในที่สุดข้าก็พบท่าน บรรพชนเฉินซาน!” เฉินกงเจิ้งตะโกนเสียงสั่น

 

แรงจูงใจที่แท้จริงของเขาในการมาที่นี้คือการช่วยเฉินซาน

 

เฉินซานเป็นผู้อมตะที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลเฉิน เขาเป็นอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน เมื่อเขายังเป็นผู้อมตะระดับหก ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปัญญากล่าวว่าเขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีพลังถึงระดับเก้า เขาจะเป็นผู้นําของทะเลตะวันออกเป็นเวลาหลายร้อยปี

 

อย่างไรก็ตามเฉินซานที่ไล่ล่าความแข็งแกร่งกลับเดินเข้าสู่เส้นทางสายปีศาจและเริ่มทําสิ่งชั่วร้าย

 

แม้ตระกูลเฉินจะลงโทษเขาแต่มันก็ไม่ใช่การลงโทษที่รุนแรง พวกเขาปกป้องเฉินซานมาตลอด

 

เฉินซานไม่ได้เปลี่ยนแปลงตนเอง เขายังเป็นผู้อมตะของฝ่ายธรรมะแต่ทําตัวเหมือนปีศาจ

 

ตระกูลเฉินช่วยปกปิดความจริงแต่พวกเขาไม่สามารถซ่อนมันจากเทพอมตะสวรรค์พิภพ

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพปราบปรามเฉินซานแต่ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขาต่อสาธารณชน

 

ตระกูลเฉินไม่กล้าเปิดเผยความจริงเช่นกัน พวกเขาประกาศออกไปว่าเฉินซานเสียชีวิตจากภัยพิบัติ

 

หลังจากเฉินกงเจิ้งจับฟางเจิ้ง วังสวรรค์ติดต่อเขาและบอกข้อมูลเกี่ยวกับเฉินซานเพื่อแลกเปลี่ยนกับฟางเจิ้ง

 

ด้วยเหตุนี้เฉินกงเจิ้งจึงได้เรียนรู้ว่าเฉินซานยังมีชีวิตอยู่และถูกขังไว้ในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า

 

เพื่อเข้าสู่ถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า เฉินกงเจิ้งระดมกําลังพลทั้งหมดของตระกูลเฉินเพื่อตรวจสอบและค้นหามันอย่างลับๆ

 

ในเวลานั้นเหรินซิ่วผิงกําลังต่อต้านเดี่ยวหมิงเฉิน เขาเปิดเผยเบาะแสเกี่ยวกับวาฬมังกรฟ้าออกไป

 

ตระกูลเฉินได้รับข่าวนี้ ดังนั้นเฉินกงเจิ้งจึงบังคับให้เหรินซิ่วผิงยอมจํานน

 

เมื่อเมี่ยวหมิงเฉินรวบรวมผู้อมตะและเดินทางมาค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เฉินกงเจิ้ง และเหรินซิ่วผิงจึงลอบติดตามมา

 

หลังจากนั้นมันก็นําไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ

 

เฉินกงเจิ้งพยายามทุกวิถีทางเพื่อค้นหาตําแหน่งของเฉินซาน หลังจากทําภารกิจไม่กี่ครั้ง เฉินฉีได้รับข้อมูลเกี่ยวกับทะเลปีศาจร่ําไห้

 

เฉินกงเจิ้งคาดเดาว่าปีศาจอมตะที่ถูกขังอยู่ในทะเลปีศาจร่ําไห้ก็คือเฉินซาน

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถมีความสุขได้นานนักเมื่อเขาได้ยินข่าวที่น่าสะพรึงกลัว

 

ชูอิงรับภารกิจฆ่าเฉินซาน!

 

เฉินกงเจิ้งตกใจมาก เขารีบติดต่อฟางหยวนและโกหกว่ากําลังตามหาวิญญาณอมตะตอบสนอง เขายังมอบทรัพยากรอมตะมากมายเพื่อแสดงความปรารถนาดีของเขา

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงนําเฉินกงเจิ้งมายังทะเลปีศาจร่าให้

 

เฉินกงเจิ้งรอคอยอย่างอดทนก่อนจะโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะในจังหวะที่สุดท้ายและปลดปล่อยเฉินซานออกมา

 

การเปลี่ยนแปลงนี้ทําให้ทุกคนนอกจากสมาชิกตระกูลเฉินตกตะลึง

 

การแสดงออกของเมียวหมิงเฉินและคนอื่นๆกลายเป็นมืดมน หัวใจของพวกเขาจมดิ่งลง

 

เฉินกงเจิ้งเป็นผู้อมตะระดับแปด เฉินซานก็เป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นกัน ย้อนกลับไปเขาถูกปราบปรามโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นการส่วนตัว นี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถมองข้ามของเขา

 

ด้วยการคงอยู่ของเฉินซาน ความแข็งแกร่งของตระกูลเฉินจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ไม่เพียงในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าแต่กระทั่งทะเลตะวันออกก็ยังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ

 

ตระกูลเฉินจะกลายเป็นกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดของทะเลตะวันออก

 

สิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากและนําผลประโยชน์มหาศาลมาสู่ตระกูลเฉิน

 

นี่คือเหตุผลที่เฉินกงเจิ้นปล่อยฟางเจิ้งให้วังสวรรค์ทันทีโดยไม่สนใจบรรพชนทะเลปราณ

 

“เจ้าเป็นทายาทตระกูลเฉินของข้างั้นหรือ?” เฉินซานมองเฉินกงเจิ้งด้วยดวงตาส่องประกายและพยักหน้า “เจ้าเป็นสมาชิกตระกูลเฉินจริงๆ มันนานเท่าใดแล้ว?”

 

เฉินซานกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง

 

เขาอยู่ในชุดคลุมสีเทาที่ขาดเป็นชิ้นๆ ใบหน้าของเขาซีดขาว เส้นผมยุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่า กลิ่นอายระดับแปดแผ่พุ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรุนแรง

 

เฉินกงเจิ้งตอบคําถามของเฉินซานและบอกว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพเสียชีวิตไปนานแล้ว

 

“เวลาผ่านไปนานมากแล้ว” เฉินซานถอนหายใจ “ท่านเทพอมตะสวรรค์พิภพเสียชีวิตแล้ว…”

 

ทัศนคติของเฉินซานที่มีต่อเทพอมตะสวรรค์พิภพค่อนข้างแปลก แม้เทพอมตะสวรรค์พิภพจะปราบปราม และยังเขาไว้ แต่เขายังเรียกฝ่ายหลังว่าท่านเทพ

 

หลังจากถอนหายใจ เฉินซานก็มองไปทางฟางหยวนและคนอื่นๆ

 

เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว “ดี ดูเหมือนตระกูลเฉินของข้าจะมีอัจฉริยะมากมาย”

 

เขาหยุดสายตาที่ฟางหยวนและกล่าวด้วยน้ําเสียงอบอุ่น “สหาย ข้าสามารถหลบหนีออกมาได้เพราะเจ้า เจ้าต้องการเข้าร่วมตระกูลเฉินและเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอกของเราหรือไม่?

 

เขาเชิญฟางหยวน!

 

แน่นอนว่าฟางหวนแสดงคุณค่าของเขาออกมาเพียงพอแล้ว

 

สถานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนคือสิ่งที่ตระกูลเฉินต้องการและเมื่อพิจารณาความสําเร็จกับอายุของเขา มันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะบรรลุเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลหลังจากนี้

 

เฉินกงเจิ้งป้องหมัดและกล่าวเสริม “ชูอิง ก่อนหน้านี้ข้าต้องโกหกแต่ข้าไม่มีทางเลือก การช่วยชีวิตบรรพชนเฉินซานมีความสําคัญอย่างยิ่งต่อตระกูลเฉิน ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”

 

ฟางหยวนพยักหน้าเบาๆและเผยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าข้าเข้าใจ หากเป็นข้า ข้าก็จะทําเช่นเดียวกัน”

 

“แต่ตระกูลเฉินต้องการรับสมัครข้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะและส่ายศีรษะ

 

เฉินกงเจิ้งกล่าวเสียงเย็น “สหาย เหตุใดเจ้าจึงหัวเราะ?”

 

ฟางหยวนยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “ตระกูลเฉินของเจ้าพยายามรับสมัครข้าด้วยรากฐานใด? พวกเจ้ามีคุณสมบัติไม่เพียงพอ!”

 

สายตาของเฉินกงเจิ้งกลายเป็นเย็นชา

 

ตระกูลเฉินเป็นกองกําลังใหญ่ของทะเลตะวันออก พวกเขาครอบครองทะเลขนาดใหญ่เจ็ดแห่งและทะเลขนาดกลางและทะเลขนาดเล็กอีกหลายพันแห่ง ตอนนี้พวกเขายังมีผู้อมตะระดับแปดถึงสองคน ด้วยความแข็งแกร่งนี้ พวกเขายังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะรับสมัครผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดเพียงคนเดียวงั้นหรือ?

 

“ชูอิง อย่ายโสให้มากนัก”

 

“ตระกูลเฉินของข้ากําลังให้โอกาสเจ้า นี่คือความเอื้อเฟื้อของบรรพชนเฉินซานของเรา”

 

“อย่าประเมินตนเองสูงเกินไป”

 

เฉินเซียวกับเฉินฉีเร่งกล่าวและบินเข้าไปรวมตัวกับเฉินซานกับเฉินกงเจิ้ง

 

ดวงตาของเฉินซานปรากฏเจตนาสังหาร เขามองไปที่ฟางหยวนและกล่าวเสียงเย็น “ชูอิง? ข้าขอเดือนเจ้า แม้การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพจะไม่อนุญาตให้ผู้อมตะภายนอกต่อสู้กันเอง แต่ข้าติดอยู่ที่นี้มานานแล้ว ข้าไม่ถูกจํากัดด้วยสิ่งนี้ ดังนั้นข้าสามารถโจมตีพวกเจ้า”

 

การแสดงออกของเมี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆเปลี่ยนแปลงไป ฝันร้ายของพวกเขากลายเป็นจริงในที่สุด

 

ขณะที่พวกเขากําลังหวาดกลัวและไม่รู้ว่าควรทําอย่างไร เสียงหัวเราะของฟางหยวนกลับดังขึ้น เขาชี้นิ้วไปที่เฉินซานและยั่วยุให้อีกฝ่ายโจมตี

 

เมี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆตกตะลึง

 

นี่คือความกล้าหาญหรือความโง่เขลา?

 

พวกเขาไม่สามารถบอกได้

 

เฉินซานกล่าวด้วยความโกรธ “เจ้ากําลังรนหาที่ตาย เช่นนั้นก็ไปตายซะ!”

 

หลังกล่าวจบคํา เขาเปิดปากและส่งคลื่นเสียงพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนทันที

 

คลื่นเสียงเคลื่อนที่ผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง

 

“บึม!”

 

ค่ายกลเสริมพังทลายลงในพริบตา

 

แรงระเบิดทําให้เกิดคลื่นยักษ์สูงหลายสิบเมตร สภาพแวดล้อมได้รับผลกระทบอย่างหนัก กลุ่มของเมียวหมิงเฉินรีบบินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยใบหน้าซีดเผือด

 

นี่เป็นการโจมตีระดับแปดที่แท้จริง มันน่ากลัวเกินไป จากมุมมองของพวกเขา มีโอกาสน้อยมากที่ชอิงจะรอดชีวิตจากสิ่งนี้

 

ในความเป็นจริงพวกเขาไม่สนใจสถานการณ์ของชองแต่กังวลเกี่ยวกับตนเองมากกว่า

 

เนื่องจากเฉินซานพิสูจน์คํากล่าวของเขาก่อนหน้านี้ด้วยการกระทํา เขาสามารถโจมตีกลุ่มของเมียวหมิงเฉินได้จริงๆ

 

“บรรพชนแข็งแกร่งมาก!” เฉินกงเพิ่งรู้ว่าเฉินซานไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเสียงเป็นเส้นทางหลัก การโจมตีบนเส้นทางแห่งเสียงก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา

 

“ชูอิงกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว!”

 

“ดี เขาตายแล้ว ข้าไม่ชอบเขาตั้งแต่แรก”

 

“เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่กลับท่าตัวหยิ่งยโสเพียงเพราะเขารู้ความลับบางอย่างของถ้ําสวรรค์วาฬ มังกรฟ้า ก่อนหน้านี้เขาไม่แยแสพวกเราแม้แต่น้อย

 

“เขากล้ายัวยผู้อมตะระดับแปด เขาสมควรตายจริงๆ…”

 

เฉินเซียวเริ่มกล่าวตะกุกตะกักเมื่อแสงสีเงินส่องประกายขึ้นท่ามกลางกลุ่มไอน้ําและหมอก

 

ชองยื่นมือไพล่หลังอยู่บนดาดฟ้าเรือสีเงินและเผยรอยยิ้มบาง

 

รูม่านตาของเฉินซานหดเล็กลง เขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด!?”

 

ผู้อมตะทั้งหมดตกตะลึง

 

พวกเขาคุ้นเคยกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ ในความเป็นจริงไม่มีผู้อมตะของห้าภูมิภาคคนใดไม่รู้จักมัน

 

“นี่คือ…เรือรบหมื่นปี!” เหรินซิ่วผิงกรีดร้อง

 

“ชูอิงมีเรือรบหมื่นปี เขาเป็นผู้ใดกันแน่?” เฉินเซียวรู้สึกพูดไม่ออก

 

กลุ่มผู้อมตะจ้องมองฟางหยวนขณะที่เขาค่อยๆเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา

หลังจากรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขาปรากฏ หัวใจของกลุ่มผู้อมตะต่างสันสะท่านขึ้นอย่างรุนแรง

 

ฮวาซืออุทาน “เขาคือฟางหยวน!”

 

นางตกใจมาก นางรู้สึกว่าฟางหยวนสูงส่งเกินไป เขาอยู่ห่างไกลจากคนเช่นนางและไม่มีโอกาสที่จะได้พบกัน

 

นางไม่คาดหวังว่านางจะได้พบฟางหยวนจริงๆ

 

“เขาคือฟางหยวน!” กลุ่มผู้อมตะตระกูลเฉินกรีดร้อง

 

“เป็นเช่นนี้” เมี่ยวหมิงเฉินกลืนน้ําลายและเข้าใจเรื่องราวในที่สุด

 

ตอนนี้ไม่มีผู้ใดแปลกใจอีกต่อไปว่าเหตุใดชูอิงจึงมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเส้น ทางแห่งค่ายกลในความเป็นจริงนี้ยังเป็นเพียงเศษเสียวความแข็งแกร่งของฟางหยวนเท่านั้น

 

ทุกอย่างสมเหตุสมผลแล้ว

 

ใบหน้าของเฉินกงเจิ้งกลายเป็นซีดขาว เขากัดฟันแน่น เหงือเริ่มไหลลงมาจากหน้าผากของเขา

 

นี่คือจักรพรรดิปีศาจที่ยิ่งใหญ่แห่งยุค ฟางหยวน!

 

เฉินกงเจ๋งไม่แปลกใจอีกต่อไปว่าเหตุใดชูอิงจึงมีทัศนคติที่ไม่แยแสเมื่ออยู่ต่อหน้าสองผู้อมตะระดับแปด และยังแสดงความรังเกียจต่อตระกูลเฉิน

 

นี่เป็นเรื่องปกติ

 

ความโกรธทั้งหมดของเขาที่มีต่อความยโสของชูอิงหายไปอย่างสมบูรณ์

 

ฟางหยวนกลายั่วยุวังสวรรค์และฆ่าสมาชิกวงสวรรค์หลายคนขณะที่ตระกูลเฉินไม่สามารถเปรียบเทียบกับวังสวรรค์

 

หลังจากความโกรธสงบลง ความรู้สึกหวาดกลัวก็เข้าแทนที่

 

เขายั่วยุฟางหยวน เขากลายเป็นฝ่ายที่กําลังมีปัญหา

 

เฉินกงเจิ้งลอบถอนหายใจกับตนเอง เวลานี้พลังการต่อสู้ระดับแปดของเขาไม่สามารถมอบความมั่นใจให้กับเขาได้อีกต่อไป เขากําลังตื่นตระหนก

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เฉินซานเปิดปากถาม “ผู้ใดคือฟางหยวน?”

 

เฉินซานรู้สึกแปลกใจ ฟางหยวนปลดปล่อยกลิ่นอายระดับเจ็ดออกมาอย่างชัดเจน แต่เหตุใดทุกคนจึงหวาดกลัวเขา?

 

เฉินซานมองเฉินกงเจิ้งและตั้งคําถามด้วยสายตา เจ้าเป็นผู้อมตะระดับแปด เหตุใดเจ้าต้องกลัวผู้อมตะระดับเจ็ด?

 

แม้ฟางหยวนจะเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมา แต่เขาไม่ได้เปิดเผยกลิ่นอายระดับแปด

 

เฉินกงเจิ้งไม่สามารถรักษาความสงบ เขาไม่สามารถตัดสินฟางหยวนด้วยตรรกะทั่วไป ระดับการบ่มเพาะไม่สามารถบอกความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคนผู้นี้

 

ฟางหยวนเป็นปีศาจที่กลําเหยียบย่าวงสวรรค์ เขาทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะหกหลังของวังสวรรค์ เขาสังหารผู้อมตะมากมายของวังสวรรค์!

 

เขาโหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์ กระทั่งวังสวรรค์ก็ยังไม่สามารถทําสิ่งใดกับเขา

 

ตอนนี้ตระกูลเฉินสร้างความขุ่นเคืองให้กับฟางหยวน แม้พวกเขาจะมีผู้อมตะระดับแปดสองคน แต่เฉินกงเจิ้งยังไม่รู้สึกปลอดภัย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1906 เขาคือฟางหยวน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1906 เขาคือฟางหยวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1906 เขาคือฟางหยวน

 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

 

เฉินกงเจิ้งบินเข้าไปหาปีศาจอมตะและแสดงออกด้วยความตื่นเต้น

 

“ในที่สุดข้าก็พบท่าน บรรพชนเฉินซาน!” เฉินกงเจิ้งตะโกนเสียงสั่น

 

แรงจูงใจที่แท้จริงของเขาในการมาที่นี้คือการช่วยเฉินซาน

 

เฉินซานเป็นผู้อมตะที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลเฉิน เขาเป็นอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน เมื่อเขายังเป็นผู้อมตะระดับหก ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปัญญากล่าวว่าเขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีพลังถึงระดับเก้า เขาจะเป็นผู้นําของทะเลตะวันออกเป็นเวลาหลายร้อยปี

 

อย่างไรก็ตามเฉินซานที่ไล่ล่าความแข็งแกร่งกลับเดินเข้าสู่เส้นทางสายปีศาจและเริ่มทําสิ่งชั่วร้าย

 

แม้ตระกูลเฉินจะลงโทษเขาแต่มันก็ไม่ใช่การลงโทษที่รุนแรง พวกเขาปกป้องเฉินซานมาตลอด

 

เฉินซานไม่ได้เปลี่ยนแปลงตนเอง เขายังเป็นผู้อมตะของฝ่ายธรรมะแต่ทําตัวเหมือนปีศาจ

 

ตระกูลเฉินช่วยปกปิดความจริงแต่พวกเขาไม่สามารถซ่อนมันจากเทพอมตะสวรรค์พิภพ

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพปราบปรามเฉินซานแต่ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขาต่อสาธารณชน

 

ตระกูลเฉินไม่กล้าเปิดเผยความจริงเช่นกัน พวกเขาประกาศออกไปว่าเฉินซานเสียชีวิตจากภัยพิบัติ

 

หลังจากเฉินกงเจิ้งจับฟางเจิ้ง วังสวรรค์ติดต่อเขาและบอกข้อมูลเกี่ยวกับเฉินซานเพื่อแลกเปลี่ยนกับฟางเจิ้ง

 

ด้วยเหตุนี้เฉินกงเจิ้งจึงได้เรียนรู้ว่าเฉินซานยังมีชีวิตอยู่และถูกขังไว้ในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า

 

เพื่อเข้าสู่ถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า เฉินกงเจิ้งระดมกําลังพลทั้งหมดของตระกูลเฉินเพื่อตรวจสอบและค้นหามันอย่างลับๆ

 

ในเวลานั้นเหรินซิ่วผิงกําลังต่อต้านเดี่ยวหมิงเฉิน เขาเปิดเผยเบาะแสเกี่ยวกับวาฬมังกรฟ้าออกไป

 

ตระกูลเฉินได้รับข่าวนี้ ดังนั้นเฉินกงเจิ้งจึงบังคับให้เหรินซิ่วผิงยอมจํานน

 

เมื่อเมี่ยวหมิงเฉินรวบรวมผู้อมตะและเดินทางมาค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เฉินกงเจิ้ง และเหรินซิ่วผิงจึงลอบติดตามมา

 

หลังจากนั้นมันก็นําไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ

 

เฉินกงเจิ้งพยายามทุกวิถีทางเพื่อค้นหาตําแหน่งของเฉินซาน หลังจากทําภารกิจไม่กี่ครั้ง เฉินฉีได้รับข้อมูลเกี่ยวกับทะเลปีศาจร่ําไห้

 

เฉินกงเจิ้งคาดเดาว่าปีศาจอมตะที่ถูกขังอยู่ในทะเลปีศาจร่ําไห้ก็คือเฉินซาน

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถมีความสุขได้นานนักเมื่อเขาได้ยินข่าวที่น่าสะพรึงกลัว

 

ชูอิงรับภารกิจฆ่าเฉินซาน!

 

เฉินกงเจิ้งตกใจมาก เขารีบติดต่อฟางหยวนและโกหกว่ากําลังตามหาวิญญาณอมตะตอบสนอง เขายังมอบทรัพยากรอมตะมากมายเพื่อแสดงความปรารถนาดีของเขา

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงนําเฉินกงเจิ้งมายังทะเลปีศาจร่าให้

 

เฉินกงเจิ้งรอคอยอย่างอดทนก่อนจะโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะในจังหวะที่สุดท้ายและปลดปล่อยเฉินซานออกมา

 

การเปลี่ยนแปลงนี้ทําให้ทุกคนนอกจากสมาชิกตระกูลเฉินตกตะลึง

 

การแสดงออกของเมียวหมิงเฉินและคนอื่นๆกลายเป็นมืดมน หัวใจของพวกเขาจมดิ่งลง

 

เฉินกงเจิ้งเป็นผู้อมตะระดับแปด เฉินซานก็เป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นกัน ย้อนกลับไปเขาถูกปราบปรามโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นการส่วนตัว นี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถมองข้ามของเขา

 

ด้วยการคงอยู่ของเฉินซาน ความแข็งแกร่งของตระกูลเฉินจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ไม่เพียงในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าแต่กระทั่งทะเลตะวันออกก็ยังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ

 

ตระกูลเฉินจะกลายเป็นกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดของทะเลตะวันออก

 

สิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากและนําผลประโยชน์มหาศาลมาสู่ตระกูลเฉิน

 

นี่คือเหตุผลที่เฉินกงเจิ้นปล่อยฟางเจิ้งให้วังสวรรค์ทันทีโดยไม่สนใจบรรพชนทะเลปราณ

 

“เจ้าเป็นทายาทตระกูลเฉินของข้างั้นหรือ?” เฉินซานมองเฉินกงเจิ้งด้วยดวงตาส่องประกายและพยักหน้า “เจ้าเป็นสมาชิกตระกูลเฉินจริงๆ มันนานเท่าใดแล้ว?”

 

เฉินซานกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง

 

เขาอยู่ในชุดคลุมสีเทาที่ขาดเป็นชิ้นๆ ใบหน้าของเขาซีดขาว เส้นผมยุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่า กลิ่นอายระดับแปดแผ่พุ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรุนแรง

 

เฉินกงเจิ้งตอบคําถามของเฉินซานและบอกว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพเสียชีวิตไปนานแล้ว

 

“เวลาผ่านไปนานมากแล้ว” เฉินซานถอนหายใจ “ท่านเทพอมตะสวรรค์พิภพเสียชีวิตแล้ว…”

 

ทัศนคติของเฉินซานที่มีต่อเทพอมตะสวรรค์พิภพค่อนข้างแปลก แม้เทพอมตะสวรรค์พิภพจะปราบปราม และยังเขาไว้ แต่เขายังเรียกฝ่ายหลังว่าท่านเทพ

 

หลังจากถอนหายใจ เฉินซานก็มองไปทางฟางหยวนและคนอื่นๆ

 

เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว “ดี ดูเหมือนตระกูลเฉินของข้าจะมีอัจฉริยะมากมาย”

 

เขาหยุดสายตาที่ฟางหยวนและกล่าวด้วยน้ําเสียงอบอุ่น “สหาย ข้าสามารถหลบหนีออกมาได้เพราะเจ้า เจ้าต้องการเข้าร่วมตระกูลเฉินและเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอกของเราหรือไม่?

 

เขาเชิญฟางหยวน!

 

แน่นอนว่าฟางหวนแสดงคุณค่าของเขาออกมาเพียงพอแล้ว

 

สถานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนคือสิ่งที่ตระกูลเฉินต้องการและเมื่อพิจารณาความสําเร็จกับอายุของเขา มันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะบรรลุเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลหลังจากนี้

 

เฉินกงเจิ้งป้องหมัดและกล่าวเสริม “ชูอิง ก่อนหน้านี้ข้าต้องโกหกแต่ข้าไม่มีทางเลือก การช่วยชีวิตบรรพชนเฉินซานมีความสําคัญอย่างยิ่งต่อตระกูลเฉิน ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”

 

ฟางหยวนพยักหน้าเบาๆและเผยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าข้าเข้าใจ หากเป็นข้า ข้าก็จะทําเช่นเดียวกัน”

 

“แต่ตระกูลเฉินต้องการรับสมัครข้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะและส่ายศีรษะ

 

เฉินกงเจิ้งกล่าวเสียงเย็น “สหาย เหตุใดเจ้าจึงหัวเราะ?”

 

ฟางหยวนยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “ตระกูลเฉินของเจ้าพยายามรับสมัครข้าด้วยรากฐานใด? พวกเจ้ามีคุณสมบัติไม่เพียงพอ!”

 

สายตาของเฉินกงเจิ้งกลายเป็นเย็นชา

 

ตระกูลเฉินเป็นกองกําลังใหญ่ของทะเลตะวันออก พวกเขาครอบครองทะเลขนาดใหญ่เจ็ดแห่งและทะเลขนาดกลางและทะเลขนาดเล็กอีกหลายพันแห่ง ตอนนี้พวกเขายังมีผู้อมตะระดับแปดถึงสองคน ด้วยความแข็งแกร่งนี้ พวกเขายังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะรับสมัครผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดเพียงคนเดียวงั้นหรือ?

 

“ชูอิง อย่ายโสให้มากนัก”

 

“ตระกูลเฉินของข้ากําลังให้โอกาสเจ้า นี่คือความเอื้อเฟื้อของบรรพชนเฉินซานของเรา”

 

“อย่าประเมินตนเองสูงเกินไป”

 

เฉินเซียวกับเฉินฉีเร่งกล่าวและบินเข้าไปรวมตัวกับเฉินซานกับเฉินกงเจิ้ง

 

ดวงตาของเฉินซานปรากฏเจตนาสังหาร เขามองไปที่ฟางหยวนและกล่าวเสียงเย็น “ชูอิง? ข้าขอเดือนเจ้า แม้การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพจะไม่อนุญาตให้ผู้อมตะภายนอกต่อสู้กันเอง แต่ข้าติดอยู่ที่นี้มานานแล้ว ข้าไม่ถูกจํากัดด้วยสิ่งนี้ ดังนั้นข้าสามารถโจมตีพวกเจ้า”

 

การแสดงออกของเมี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆเปลี่ยนแปลงไป ฝันร้ายของพวกเขากลายเป็นจริงในที่สุด

 

ขณะที่พวกเขากําลังหวาดกลัวและไม่รู้ว่าควรทําอย่างไร เสียงหัวเราะของฟางหยวนกลับดังขึ้น เขาชี้นิ้วไปที่เฉินซานและยั่วยุให้อีกฝ่ายโจมตี

 

เมี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆตกตะลึง

 

นี่คือความกล้าหาญหรือความโง่เขลา?

 

พวกเขาไม่สามารถบอกได้

 

เฉินซานกล่าวด้วยความโกรธ “เจ้ากําลังรนหาที่ตาย เช่นนั้นก็ไปตายซะ!”

 

หลังกล่าวจบคํา เขาเปิดปากและส่งคลื่นเสียงพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนทันที

 

คลื่นเสียงเคลื่อนที่ผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง

 

“บึม!”

 

ค่ายกลเสริมพังทลายลงในพริบตา

 

แรงระเบิดทําให้เกิดคลื่นยักษ์สูงหลายสิบเมตร สภาพแวดล้อมได้รับผลกระทบอย่างหนัก กลุ่มของเมียวหมิงเฉินรีบบินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยใบหน้าซีดเผือด

 

นี่เป็นการโจมตีระดับแปดที่แท้จริง มันน่ากลัวเกินไป จากมุมมองของพวกเขา มีโอกาสน้อยมากที่ชอิงจะรอดชีวิตจากสิ่งนี้

 

ในความเป็นจริงพวกเขาไม่สนใจสถานการณ์ของชองแต่กังวลเกี่ยวกับตนเองมากกว่า

 

เนื่องจากเฉินซานพิสูจน์คํากล่าวของเขาก่อนหน้านี้ด้วยการกระทํา เขาสามารถโจมตีกลุ่มของเมียวหมิงเฉินได้จริงๆ

 

“บรรพชนแข็งแกร่งมาก!” เฉินกงเพิ่งรู้ว่าเฉินซานไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเสียงเป็นเส้นทางหลัก การโจมตีบนเส้นทางแห่งเสียงก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา

 

“ชูอิงกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว!”

 

“ดี เขาตายแล้ว ข้าไม่ชอบเขาตั้งแต่แรก”

 

“เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่กลับท่าตัวหยิ่งยโสเพียงเพราะเขารู้ความลับบางอย่างของถ้ําสวรรค์วาฬ มังกรฟ้า ก่อนหน้านี้เขาไม่แยแสพวกเราแม้แต่น้อย

 

“เขากล้ายัวยผู้อมตะระดับแปด เขาสมควรตายจริงๆ…”

 

เฉินเซียวเริ่มกล่าวตะกุกตะกักเมื่อแสงสีเงินส่องประกายขึ้นท่ามกลางกลุ่มไอน้ําและหมอก

 

ชองยื่นมือไพล่หลังอยู่บนดาดฟ้าเรือสีเงินและเผยรอยยิ้มบาง

 

รูม่านตาของเฉินซานหดเล็กลง เขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด!?”

 

ผู้อมตะทั้งหมดตกตะลึง

 

พวกเขาคุ้นเคยกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ ในความเป็นจริงไม่มีผู้อมตะของห้าภูมิภาคคนใดไม่รู้จักมัน

 

“นี่คือ…เรือรบหมื่นปี!” เหรินซิ่วผิงกรีดร้อง

 

“ชูอิงมีเรือรบหมื่นปี เขาเป็นผู้ใดกันแน่?” เฉินเซียวรู้สึกพูดไม่ออก

 

กลุ่มผู้อมตะจ้องมองฟางหยวนขณะที่เขาค่อยๆเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา

หลังจากรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขาปรากฏ หัวใจของกลุ่มผู้อมตะต่างสันสะท่านขึ้นอย่างรุนแรง

 

ฮวาซืออุทาน “เขาคือฟางหยวน!”

 

นางตกใจมาก นางรู้สึกว่าฟางหยวนสูงส่งเกินไป เขาอยู่ห่างไกลจากคนเช่นนางและไม่มีโอกาสที่จะได้พบกัน

 

นางไม่คาดหวังว่านางจะได้พบฟางหยวนจริงๆ

 

“เขาคือฟางหยวน!” กลุ่มผู้อมตะตระกูลเฉินกรีดร้อง

 

“เป็นเช่นนี้” เมี่ยวหมิงเฉินกลืนน้ําลายและเข้าใจเรื่องราวในที่สุด

 

ตอนนี้ไม่มีผู้ใดแปลกใจอีกต่อไปว่าเหตุใดชูอิงจึงมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเส้น ทางแห่งค่ายกลในความเป็นจริงนี้ยังเป็นเพียงเศษเสียวความแข็งแกร่งของฟางหยวนเท่านั้น

 

ทุกอย่างสมเหตุสมผลแล้ว

 

ใบหน้าของเฉินกงเจิ้งกลายเป็นซีดขาว เขากัดฟันแน่น เหงือเริ่มไหลลงมาจากหน้าผากของเขา

 

นี่คือจักรพรรดิปีศาจที่ยิ่งใหญ่แห่งยุค ฟางหยวน!

 

เฉินกงเจ๋งไม่แปลกใจอีกต่อไปว่าเหตุใดชูอิงจึงมีทัศนคติที่ไม่แยแสเมื่ออยู่ต่อหน้าสองผู้อมตะระดับแปด และยังแสดงความรังเกียจต่อตระกูลเฉิน

 

นี่เป็นเรื่องปกติ

 

ความโกรธทั้งหมดของเขาที่มีต่อความยโสของชูอิงหายไปอย่างสมบูรณ์

 

ฟางหยวนกลายั่วยุวังสวรรค์และฆ่าสมาชิกวงสวรรค์หลายคนขณะที่ตระกูลเฉินไม่สามารถเปรียบเทียบกับวังสวรรค์

 

หลังจากความโกรธสงบลง ความรู้สึกหวาดกลัวก็เข้าแทนที่

 

เขายั่วยุฟางหยวน เขากลายเป็นฝ่ายที่กําลังมีปัญหา

 

เฉินกงเจิ้งลอบถอนหายใจกับตนเอง เวลานี้พลังการต่อสู้ระดับแปดของเขาไม่สามารถมอบความมั่นใจให้กับเขาได้อีกต่อไป เขากําลังตื่นตระหนก

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เฉินซานเปิดปากถาม “ผู้ใดคือฟางหยวน?”

 

เฉินซานรู้สึกแปลกใจ ฟางหยวนปลดปล่อยกลิ่นอายระดับเจ็ดออกมาอย่างชัดเจน แต่เหตุใดทุกคนจึงหวาดกลัวเขา?

 

เฉินซานมองเฉินกงเจิ้งและตั้งคําถามด้วยสายตา เจ้าเป็นผู้อมตะระดับแปด เหตุใดเจ้าต้องกลัวผู้อมตะระดับเจ็ด?

 

แม้ฟางหยวนจะเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมา แต่เขาไม่ได้เปิดเผยกลิ่นอายระดับแปด

 

เฉินกงเจิ้งไม่สามารถรักษาความสงบ เขาไม่สามารถตัดสินฟางหยวนด้วยตรรกะทั่วไป ระดับการบ่มเพาะไม่สามารถบอกความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคนผู้นี้

 

ฟางหยวนเป็นปีศาจที่กลําเหยียบย่าวงสวรรค์ เขาทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะหกหลังของวังสวรรค์ เขาสังหารผู้อมตะมากมายของวังสวรรค์!

 

เขาโหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์ กระทั่งวังสวรรค์ก็ยังไม่สามารถทําสิ่งใดกับเขา

 

ตอนนี้ตระกูลเฉินสร้างความขุ่นเคืองให้กับฟางหยวน แม้พวกเขาจะมีผู้อมตะระดับแปดสองคน แต่เฉินกงเจิ้งยังไม่รู้สึกปลอดภัย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+