Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1919 วิญญาณอมตะตอบสนองโชค

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1919 วิญญาณอมตะตอบสนองโชค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1919 วิญญาณอมตะตอบสนองโชค

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ภาคเหนือน้อย

 

“ทุกคนเตรียมพร้อมหรือยัง?” เชี่ยเอ๋อยืนอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็ง

 

“พวกเราพร้อมแล้ว” ผู้ใช้วิญญาณหญิงระดับห้าเผ่ามนุษย์หิมะที่คุกเข่าลงบนพื้นตอบ

 

“เช่นนั้นก็ไปได้ จําไว้ว่าพวกเจ้าต้องดูแลพวกมันอย่างดีที่สุด หากพวกเจ้าพบปัญหาบางอย่าง รีบส่งข่าวทันที” เชี่ยเอ๋อกล่าว

 

“รับทราบ” ผู้ใช้วิญญาณหญิงระดับห้าเผ่ามนุษย์หิมะตอบรับก่อนจากไป

 

เซียเอ๋อถอนหายใจเล็กน้อย

 

ตั้งแต่นางได้รับมอบหมายจากฟางหยวนให้ดูแลที่นี่ นางทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการพัฒนาเผ่ามนุษย์หิมะ ด้วยความช่วยเหลือจากค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็งของฟางหยวนเซียเอ๋อ สามารถเพิ่มจ่านวนประชากรเผ่ามนุษย์หิมะได้ถึงสี่เท่า

 

“ในที่สุดสามีก็นําเผ่ามนุษย์เข้ามา หากข้ามเวลา ข้าก็ต้องการไปดูด้วยตาของตนเอง น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถออกจากที่นี่” เซียเอ๋อรู้สึกหดหูเล็กน้อย

 

ตั้งแต่ฟางหยวนกลืนกินถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ ร่องรอยของพลังงานแห่งเบนเส้นทางแห่งพลังปราณก็ทําให้มิติช่องว่างจักรพรรดิเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

 

เผ่ามนุษย์หิมะได้รับผลกระทบจากปราณน้ําแข็งที่เพิ่มมากขึ้น ทุกสองสามเดือน เซียเอ๋อต้องมาที่นี่เพื่อควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกน้ําแข็ง และจัดการปราณน้ําแข็งเหล่านั้นด้วยตนเอง

 

ปราณน้ําแข็งที่มากเกินไปจะส่งผลร้ายต่อเผ่ามนุษย์หิมะมากกว่าผลดี

 

นอกจากนั้นพื้นที่ของภาคเหนือน้อยก็จะได้รับผลกระทบและประสบปัญหาเช่นกัน

 

ไม่นานมานี้ฟางหยวนส่งจดหมายมาแจ้งเซี่ยเอ๋อว่า เขาจะวางเมืองของเผ่ามนุษย์ไว้ใกล้กับที่ตั้งเผ่ามนุษย์หิมะ เมื่อเวลานั้นมาถึง ฟางหยวนต้องการให้เซี่ยเอ๋อสร้างความสัมพันธ์กับเผ่ามนุษย์ที่มาใหม่และมอบของขวัญให้กับพวกเขา

 

เซียเอ๋อต้องปฏิบัติตามคําแนะนําของฟางหยวน แต่ในอดีตเผ่ามนุษย์หิมะของนางถูกเผ่ามนุษย์กดขี่มาตลอด ตอนนี้เมื่อนางต้องติดต่อกันเผ่ามนุษย์ นางจึงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

 

หากเป็นไปได้ เชี่ยเอ๋อต้องการให้ภาคเหนือน้อยทั้งหมดถูกปกครองโดยเผ่ามนุษย์หิมะ

 

แต่นั่นเป็นเพียงความฝัน

 

ฟางหยวนเป็นมนุษย์ เมื่อมิติช่องว่างของเขาพัฒนาไปถึงระดับหนึ่ง เขาจะนํามนุษ์เข้ามาอาศัยอยู่ เพราะนั่นคือสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์

 

ขณะที่กลุ่มมนุษย์หิมะกําลังออกเดินทาง กลุ่มมนุษย์หมึกของทะเลทรายตะวันตกน้อยก็ไปถึงจุดหมายแล้ว

 

โม่ดันซานลอยอยู่บนท้องฟ้าอย่างเงียบๆ

 

“มันก่าลังมา” ดวงตาของโม่ต้นซานส่องประกายแหลมคม

 

แสงสีรุ่งส่องประกายขึ้นบนท้องฟ้า ก่อนจะพุ่งลงสู่พื้นและกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่

 

มันคือเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำสวรรค์นักรบอสูร

 

ประตูเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์เปิดออกเพื่อต้อนรับผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์หมึกที่รออยู่ด้านนอก

 

ทั้งสองฝ่ายพบกันที่ประตูเมืองและติดต่อกันอย่างเป็นทางการ

 

เผ่ามนุษย์หมึกถูกกดดันโดยเผ่ามนุษย์มาตลอดเช่นกัน พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าการติดต่อมนุษย์ที่มาใหม่เหล่านี้จะง่ายนัก อย่างไรก็ตามทัศนคติที่เท่าเทียมของผู้คนเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ท่าให้พวกเขารู้สึกมีความสุขมาก

 

“นี่คือท่านโม่ตันซานใช่หรือไม่?” นักรบอินทรีย์บินเข้าไปหาโม่ตันซาน “จากนี้ไปเราต้องขอคําแนะนําจากท่าน”

 

“เช่นเดียวกัน เช่นเดียวกัน” โม่ตันซานยิ้ม “ท่านไม่จําเป็นต้องสุภาพมากเกินไป ที่นี้พวกเราล้วนเป็นพันธมิตร”

 

สวรรค์สีน้ําเงินน้อย

 

ดินเมฆรวมตัวกันและกลายเป็นทวีปขนาดเล็ก

 

แสงสีรุ้งน่าเมืองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนทวีปเมฆาที่ว่างเปล่าแห่งนี้

 

เมืองดังกล่าวปรากฏให้เห็นถึงร่องรอยของการถูกทําลายล่าง มันคือเมืองหลอมรวมดาราที่พบกับภัยพิบัติควันพิษ

 

ที่จุดศูนย์กลางของเมืองหลอมรวมดารา วิหารหอยทากดาราได้รับการสร้างขึ้นใหม่แล้ว มันคือคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ที่ฟางหยวนตั้งใจสร้างไว้ที่นี่

 

สําหรับเปลือกหอยทากดารา ฟางหยวนเก็บมันไว้ในคลังสมบัติ มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด หากทิ้งไว้ มันจะค่อยๆสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋และกลายเป็นไร้ประโยชน์

 

“นี่คือโลกของพ่อเจ้างั้นหรือ? ช่างใหญ่โตนัก” ราชาอสูรชราบินออกจากเมืองหลอมรวมดาราและถอนหายใจกล่าวกับอีกคน

 

เขาไม่ใช่ผู้ใดนอกจากเจิ้งปัต์ “นี่คือสวรรค์สีน้ําเงินน้อย มีสวรรค์ที่แตกต่างกันเก้าชั้นและพื้นพิภพอีกห้าภูมิภาค มันคือโลกของท่านพ่อ ข้ามั่นใจว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตที่ดีที่นี่”

 

ราชาอสูรพยักหน้าและถาม “เราจะติดต่อคนอื่นๆได้อย่างไร?”

 

“ใช้สิ่งนี้ มันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูล” เจิ้งปู่ตู้มอบวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับราชาอสูร

 

การบ่มเพาะของราชาอสูรอยู่ในระดับแปดแต่ความรู้ของเขาตื้นเขินมาก กระทั่งวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลก็ยังทําให้เขารู้สึกประหลาดใจและตกตะลึง “ข้าไม่อยากจะเชื่อว่ามีวิญญาณที่มีประโยชน์เช่นนี้อยู่ด้วย”

 

“นี่เป็นวิธีที่ดี มรดกที่แท้จริงนักรบอสูรก็กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน” เจิ้งปู่ยิ้มด้วยท่าทางเขินอาย “ท่านปู่ ข้าต้องขออภัยด้วย ก่อนหน้านี้ท่านพ่อของข้าต้องการให้ข้าเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”

 

ราชาอสูรพยักหน้า “ข้าเข้าใจ ข้าสงสัยว่าพ่อของเจ้าต้องการให้ข้าท่าสิ่งใด?”

 

“ตอนนี้เราต้องการให้ท่านปู่และนักรบอสูรคนอื่นๆเรียนรู้วิธีการบ่มเพาะดั้งเดิมของผู้ใช้วิญญาณ โลกภายนอกไม่ปลอดภัย เรามีศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่ที่นั่น” เจิ้งปู่ตู้กล่าวอย่างคลุมเครือ

 

ร่างของราชาอสูรสั่นสะท้านขึ้น “พ่อของเจ้าเต็มใจถ่ายทอดวิธีการบ่มเพาะที่แท้จริงให้กับพวกเรางั้นหรือ?” 

 

“แน่นอน เป็นเช่นนั้น หลังจากทั้งหมดพวกเราล้วนเป็นพันธมิตร” เจิ้งปู่ยิ้ม

 

ฟางหยวนยึดครองถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

 

การกําจัดหมื่นภัยพิบัติของถ้ําสวรรค์นักรบอสูร ทําให้เขาสูญเสียพลังงานอมตะไปเป็นจํานวนมาก

 

พลังอํานาจที่ฟางหยวนปลดปล่อยออกมา ทําให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งทะยานขึ้นถึงจุดสูงสุด

 

ต่อมา ด้วยความร่วมมือของเจิ้งปู่ต์ซึ่งเป็นเจ้าของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรคนใหม่ ฟางหยวนจึงประสบความสําเร็จในการกลืนกินถ้ําสวรรค์นักรบอสูรอย่างสมบูรณ์

 

ต่างจากชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนอนุมานและเตรียมการทั้งหมดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

 

หลังจากกลืนกินถ้ําสวรรค์นักรบอสูร เขาแยกถ้ําสวรรค์นักรบอสูรออกเป็นส่วนๆและวางมันไว้ในพื้นที่ต่างๆของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมีเมืองใหญ่และแหล่งทรัพยากรที่สําคัญหลายแห่ง

 

เมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ถูกวางไว้ที่ทะเลทรายตะวันตกน้อย หุบเขาทมิฬถูกวางไว้ที่ภาคใต้น้อย ป่าจิตวิญญาณธรรมชาติถูกวางไว้ที่ภาคกลางน้อย เมืองภูผาถูกวางไว้ที่ภาคเหนือน้อย และเมืองหลอมรวมดารากวางไว้ที่สวรรค์สีน้ําเงินน้อย

 

นอกเหนือจากนี้พวกมันก็ถูกจัดวางไว้ในสถานที่ที่เหมาะสม

 

การซึมซับผลประโยชน์ครั้งนี้ต้องใช้เวลา

 

การผสานระบบนิเวศต้องอาศัยเวลาและความพยายามของผู้อมตะ

 

ฟางหยวนได้รับท่าไม้ตายอมตะกลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอีกครั้ง จิตวิญญาณสวรรค์กิเลนยังมีชีวิตและอาศัยอยู่ในดินแดนส่วนที่ใหญ่ที่สุดของถ่าสวรรค์นักรบอสูร

 

ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมากกว่าสองแสนร่องรอยจากสิ่งนี้

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจากถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมากกว่าหนึ่งแสนร่องรอย แต่ชีวิตนี้เนื่องจากการจัดเตรียมของฟางหยวน มันทําให้เขาได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว

 

คือ ปิงชายฉวนต้องการสร้างความร่วมมือกับข้างั้นหรือ? เป็นเพียงเวลานี้ที่ข้อมูลนี้ถูกส่งมายังฟางหยวน

 

แม้ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะไม่สามารถติดต่อฟางหยวนได้โดยตรง แต่พวกเขาพบวิธีการบางอย่าง

 

พวกเขารู้ว่าฝ่ายธรรมะของภาคใต้เคยถูกกรรโชกทรัพย์โดยฟางหยวนมาก่อน พวกเขามีวิธีการติดต่อฟางหยวน ดังนั้นด้วยการทําธุรกรรม ถ้ําสวรรค์นิรันดรจึงได้รับวิธีติดต่อฟางหยวนในที่สุด

 

ปิงช่ายฉวนกล่าวกับฟางหยวนโดยตรงว่าต้องการสร้างความร่วมมือกับเขา

 

ชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนยังรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แต่ครั้งนี้เขาเข้าใจเหตุผลเป็นอย่างดี

 

“ปิงชายฉวนต้องการร่วมมือกับข้าและพยายามรวบรวมความแข็งแกร่งของทุกคนเพื่อฉกชิงวิญญาณชะตากรรม

 

ขณะเดียวกันข้าก็ต้องการใช้พวกเขาเป็นแนวหน้าในการโจมตีวังสวรรค์

 

ฟางหยวนต้องระวังหลายสิ่งในวังสวรรค์

 

ตัวอย่างเช่นภาพวาดของเทพอมตะบัวสวรรค์ หรือเกมหมากรุกระหว่างสองผู้อมตะระดับเก้าในศาลาแห่งความโศกเศร้า

 

ฟางหยวนตกลงร่วมมือกับปิงชายฉวน

 

สิ่งนี้ทําให้ปิงชายฉวนรู้สึกสงสัย “เหตุใดฟางหยวนจึงตกลงอย่างง่ายดาย? เขาควรสงสัยเจตนาของพวกเรา

 

ปิงชายฉวยขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าเขาควรหาโอกาสต่อสู้ร่วมกับฟางหยวนเพื่อแสดงความจริงใจ แต่หลังจากไตร่ตรอง ปิงชายฉวนไม่พบโอกาสที่เหมาะสม

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาไม่มีความกังวลนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกาะบัวหินหรือวังมังกร เขาสามารถใช้โอกาสเหล่านั้นร่วมมือกับฟางหยวนเพื่อแสดงความจริงใจ

 

แต่ในชีวิตนี้ ฟางหยวนเปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง เขาได้รับวังมังกร ขณะเดียวกันเขาก็ได้รับชัยชนะในสายธารแห่งกาลเวลา

 

วังสวรรค์

 

ฉินติงหลิงมองฟงจิวเก้อและยิ้ม “ครั้งนี้เจ้ามาพบข้าเป็นการส่วนตัว บอกข้าว่าเจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

นางมีทัศนคติที่ดีต่อผู้พิทักษ์เต่ผู้นี้

 

ฟงจิวเก้อลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าว “ข้าต้องการยืมวิญญาณอมตะตอบสนองโชคระดับแปดของผู้อาวุโส”

 

ฉินติงหลิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่นางจะสามารถตอบสนอง “แน่นอน ข้าจะให้เจ้ายืม”

 

หลังกล่าวจบคํา นางก็น่าวิญญาณอมตะตอบสนองโชคระดับแปดออกมามอบให้ฟงจิวเก้อ

 

ฟงจิวเก้อตกตะลึงเล็กน้อย

 

ฉินติงหลงกล่าว “ข้ารู้ว่าเจ้ากําลังสร้างท่าไม้ตายใหม่ วิญญาณอมตะดวงนี้ต้องมีความสําคัญมากสําหรับเจ้า มิฉะนั้นด้วยบุคลิกของเจ้า เจ้าจะไม่มาขอยืมวิญญาณอมตะจากข้า”

 

ฟงจิวเก้อพยักหน้าและรับวิญญาณอมตะตอบสนองโชคเอาไว้ “ถูกต้อง”

 

เขาสร้างเพลงพรหมลิขิตได้แปดสิบส่วนแล้ว เขาพบว่าวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาระดับแปดเพียงดวงเดียวไม่สามารถแบกรับความยิ่งใหญ่ของเพลงพรหมลิขิต เขาต้องการวิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งโชคอีกหนึ่งดวงเพื่อใช้เป็นแกนกลางของมัน

 

ด้วยความเข้าใจในปัจจุบันของฟงจิวเก้อ วิญญาณอมตะตอบสนองโชคระดับแปดมีความเหมาะสมมากที่สุด

 

ฉินติงหลิงถอนหายใจ “วิญญาณอมตะตอบสนองโชคไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยข้า มันมาจากเทพอมตะตะวันเดือด หากเจ้าสามารถใช้วิญญาณอมตะดวงนี้จัดการผู้อมตะภาคเหนือ นั่นจะดีมาก”

 

ฟงจิวเก่อขอบคุณฉินติงหลิงและกล่าวต่อ “นอกจากวิญญาณอมตะดวงนี้ ข้ายังต้องการไปที่สายธารแห่งกาลเวลาเพื่อเฝ้ามองเหตุการณ์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน”

 

ฉินติงหลิงขมวดคิ้ว “ตามที่ข้ารู้ วังสวรรค์กําลังทํางานอย่างเต็มที่ แต่เราพึ่งสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้ เพียงหลังเดียวเท่านั้น การไปยังสายธารแห่งกาลเวลาในเวลานี้เป็นเพียงการรนหาที่ตาย ให้ข้าตรวจสอบโชคของเจ้า บางทีอาจมีโอกาสที่ซ่อนอยู่”

 

ฟงจิวเก้อขอบคุณนางอีกครั้ง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1919 วิญญาณอมตะตอบสนองโชค

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1919 วิญญาณอมตะตอบสนองโชค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1919 วิญญาณอมตะตอบสนองโชค

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ภาคเหนือน้อย

 

“ทุกคนเตรียมพร้อมหรือยัง?” เชี่ยเอ๋อยืนอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็ง

 

“พวกเราพร้อมแล้ว” ผู้ใช้วิญญาณหญิงระดับห้าเผ่ามนุษย์หิมะที่คุกเข่าลงบนพื้นตอบ

 

“เช่นนั้นก็ไปได้ จําไว้ว่าพวกเจ้าต้องดูแลพวกมันอย่างดีที่สุด หากพวกเจ้าพบปัญหาบางอย่าง รีบส่งข่าวทันที” เชี่ยเอ๋อกล่าว

 

“รับทราบ” ผู้ใช้วิญญาณหญิงระดับห้าเผ่ามนุษย์หิมะตอบรับก่อนจากไป

 

เซียเอ๋อถอนหายใจเล็กน้อย

 

ตั้งแต่นางได้รับมอบหมายจากฟางหยวนให้ดูแลที่นี่ นางทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการพัฒนาเผ่ามนุษย์หิมะ ด้วยความช่วยเหลือจากค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็งของฟางหยวนเซียเอ๋อ สามารถเพิ่มจ่านวนประชากรเผ่ามนุษย์หิมะได้ถึงสี่เท่า

 

“ในที่สุดสามีก็นําเผ่ามนุษย์เข้ามา หากข้ามเวลา ข้าก็ต้องการไปดูด้วยตาของตนเอง น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถออกจากที่นี่” เซียเอ๋อรู้สึกหดหูเล็กน้อย

 

ตั้งแต่ฟางหยวนกลืนกินถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ ร่องรอยของพลังงานแห่งเบนเส้นทางแห่งพลังปราณก็ทําให้มิติช่องว่างจักรพรรดิเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

 

เผ่ามนุษย์หิมะได้รับผลกระทบจากปราณน้ําแข็งที่เพิ่มมากขึ้น ทุกสองสามเดือน เซียเอ๋อต้องมาที่นี่เพื่อควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกน้ําแข็ง และจัดการปราณน้ําแข็งเหล่านั้นด้วยตนเอง

 

ปราณน้ําแข็งที่มากเกินไปจะส่งผลร้ายต่อเผ่ามนุษย์หิมะมากกว่าผลดี

 

นอกจากนั้นพื้นที่ของภาคเหนือน้อยก็จะได้รับผลกระทบและประสบปัญหาเช่นกัน

 

ไม่นานมานี้ฟางหยวนส่งจดหมายมาแจ้งเซี่ยเอ๋อว่า เขาจะวางเมืองของเผ่ามนุษย์ไว้ใกล้กับที่ตั้งเผ่ามนุษย์หิมะ เมื่อเวลานั้นมาถึง ฟางหยวนต้องการให้เซี่ยเอ๋อสร้างความสัมพันธ์กับเผ่ามนุษย์ที่มาใหม่และมอบของขวัญให้กับพวกเขา

 

เซียเอ๋อต้องปฏิบัติตามคําแนะนําของฟางหยวน แต่ในอดีตเผ่ามนุษย์หิมะของนางถูกเผ่ามนุษย์กดขี่มาตลอด ตอนนี้เมื่อนางต้องติดต่อกันเผ่ามนุษย์ นางจึงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

 

หากเป็นไปได้ เชี่ยเอ๋อต้องการให้ภาคเหนือน้อยทั้งหมดถูกปกครองโดยเผ่ามนุษย์หิมะ

 

แต่นั่นเป็นเพียงความฝัน

 

ฟางหยวนเป็นมนุษย์ เมื่อมิติช่องว่างของเขาพัฒนาไปถึงระดับหนึ่ง เขาจะนํามนุษ์เข้ามาอาศัยอยู่ เพราะนั่นคือสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์

 

ขณะที่กลุ่มมนุษย์หิมะกําลังออกเดินทาง กลุ่มมนุษย์หมึกของทะเลทรายตะวันตกน้อยก็ไปถึงจุดหมายแล้ว

 

โม่ดันซานลอยอยู่บนท้องฟ้าอย่างเงียบๆ

 

“มันก่าลังมา” ดวงตาของโม่ต้นซานส่องประกายแหลมคม

 

แสงสีรุ่งส่องประกายขึ้นบนท้องฟ้า ก่อนจะพุ่งลงสู่พื้นและกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่

 

มันคือเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำสวรรค์นักรบอสูร

 

ประตูเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์เปิดออกเพื่อต้อนรับผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์หมึกที่รออยู่ด้านนอก

 

ทั้งสองฝ่ายพบกันที่ประตูเมืองและติดต่อกันอย่างเป็นทางการ

 

เผ่ามนุษย์หมึกถูกกดดันโดยเผ่ามนุษย์มาตลอดเช่นกัน พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าการติดต่อมนุษย์ที่มาใหม่เหล่านี้จะง่ายนัก อย่างไรก็ตามทัศนคติที่เท่าเทียมของผู้คนเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ท่าให้พวกเขารู้สึกมีความสุขมาก

 

“นี่คือท่านโม่ตันซานใช่หรือไม่?” นักรบอินทรีย์บินเข้าไปหาโม่ตันซาน “จากนี้ไปเราต้องขอคําแนะนําจากท่าน”

 

“เช่นเดียวกัน เช่นเดียวกัน” โม่ตันซานยิ้ม “ท่านไม่จําเป็นต้องสุภาพมากเกินไป ที่นี้พวกเราล้วนเป็นพันธมิตร”

 

สวรรค์สีน้ําเงินน้อย

 

ดินเมฆรวมตัวกันและกลายเป็นทวีปขนาดเล็ก

 

แสงสีรุ้งน่าเมืองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนทวีปเมฆาที่ว่างเปล่าแห่งนี้

 

เมืองดังกล่าวปรากฏให้เห็นถึงร่องรอยของการถูกทําลายล่าง มันคือเมืองหลอมรวมดาราที่พบกับภัยพิบัติควันพิษ

 

ที่จุดศูนย์กลางของเมืองหลอมรวมดารา วิหารหอยทากดาราได้รับการสร้างขึ้นใหม่แล้ว มันคือคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ที่ฟางหยวนตั้งใจสร้างไว้ที่นี่

 

สําหรับเปลือกหอยทากดารา ฟางหยวนเก็บมันไว้ในคลังสมบัติ มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด หากทิ้งไว้ มันจะค่อยๆสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋และกลายเป็นไร้ประโยชน์

 

“นี่คือโลกของพ่อเจ้างั้นหรือ? ช่างใหญ่โตนัก” ราชาอสูรชราบินออกจากเมืองหลอมรวมดาราและถอนหายใจกล่าวกับอีกคน

 

เขาไม่ใช่ผู้ใดนอกจากเจิ้งปัต์ “นี่คือสวรรค์สีน้ําเงินน้อย มีสวรรค์ที่แตกต่างกันเก้าชั้นและพื้นพิภพอีกห้าภูมิภาค มันคือโลกของท่านพ่อ ข้ามั่นใจว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตที่ดีที่นี่”

 

ราชาอสูรพยักหน้าและถาม “เราจะติดต่อคนอื่นๆได้อย่างไร?”

 

“ใช้สิ่งนี้ มันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูล” เจิ้งปู่ตู้มอบวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับราชาอสูร

 

การบ่มเพาะของราชาอสูรอยู่ในระดับแปดแต่ความรู้ของเขาตื้นเขินมาก กระทั่งวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลก็ยังทําให้เขารู้สึกประหลาดใจและตกตะลึง “ข้าไม่อยากจะเชื่อว่ามีวิญญาณที่มีประโยชน์เช่นนี้อยู่ด้วย”

 

“นี่เป็นวิธีที่ดี มรดกที่แท้จริงนักรบอสูรก็กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน” เจิ้งปู่ยิ้มด้วยท่าทางเขินอาย “ท่านปู่ ข้าต้องขออภัยด้วย ก่อนหน้านี้ท่านพ่อของข้าต้องการให้ข้าเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”

 

ราชาอสูรพยักหน้า “ข้าเข้าใจ ข้าสงสัยว่าพ่อของเจ้าต้องการให้ข้าท่าสิ่งใด?”

 

“ตอนนี้เราต้องการให้ท่านปู่และนักรบอสูรคนอื่นๆเรียนรู้วิธีการบ่มเพาะดั้งเดิมของผู้ใช้วิญญาณ โลกภายนอกไม่ปลอดภัย เรามีศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่ที่นั่น” เจิ้งปู่ตู้กล่าวอย่างคลุมเครือ

 

ร่างของราชาอสูรสั่นสะท้านขึ้น “พ่อของเจ้าเต็มใจถ่ายทอดวิธีการบ่มเพาะที่แท้จริงให้กับพวกเรางั้นหรือ?” 

 

“แน่นอน เป็นเช่นนั้น หลังจากทั้งหมดพวกเราล้วนเป็นพันธมิตร” เจิ้งปู่ยิ้ม

 

ฟางหยวนยึดครองถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

 

การกําจัดหมื่นภัยพิบัติของถ้ําสวรรค์นักรบอสูร ทําให้เขาสูญเสียพลังงานอมตะไปเป็นจํานวนมาก

 

พลังอํานาจที่ฟางหยวนปลดปล่อยออกมา ทําให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งทะยานขึ้นถึงจุดสูงสุด

 

ต่อมา ด้วยความร่วมมือของเจิ้งปู่ต์ซึ่งเป็นเจ้าของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรคนใหม่ ฟางหยวนจึงประสบความสําเร็จในการกลืนกินถ้ําสวรรค์นักรบอสูรอย่างสมบูรณ์

 

ต่างจากชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนอนุมานและเตรียมการทั้งหมดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

 

หลังจากกลืนกินถ้ําสวรรค์นักรบอสูร เขาแยกถ้ําสวรรค์นักรบอสูรออกเป็นส่วนๆและวางมันไว้ในพื้นที่ต่างๆของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมีเมืองใหญ่และแหล่งทรัพยากรที่สําคัญหลายแห่ง

 

เมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ถูกวางไว้ที่ทะเลทรายตะวันตกน้อย หุบเขาทมิฬถูกวางไว้ที่ภาคใต้น้อย ป่าจิตวิญญาณธรรมชาติถูกวางไว้ที่ภาคกลางน้อย เมืองภูผาถูกวางไว้ที่ภาคเหนือน้อย และเมืองหลอมรวมดารากวางไว้ที่สวรรค์สีน้ําเงินน้อย

 

นอกเหนือจากนี้พวกมันก็ถูกจัดวางไว้ในสถานที่ที่เหมาะสม

 

การซึมซับผลประโยชน์ครั้งนี้ต้องใช้เวลา

 

การผสานระบบนิเวศต้องอาศัยเวลาและความพยายามของผู้อมตะ

 

ฟางหยวนได้รับท่าไม้ตายอมตะกลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอีกครั้ง จิตวิญญาณสวรรค์กิเลนยังมีชีวิตและอาศัยอยู่ในดินแดนส่วนที่ใหญ่ที่สุดของถ่าสวรรค์นักรบอสูร

 

ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมากกว่าสองแสนร่องรอยจากสิ่งนี้

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจากถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมากกว่าหนึ่งแสนร่องรอย แต่ชีวิตนี้เนื่องจากการจัดเตรียมของฟางหยวน มันทําให้เขาได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว

 

คือ ปิงชายฉวนต้องการสร้างความร่วมมือกับข้างั้นหรือ? เป็นเพียงเวลานี้ที่ข้อมูลนี้ถูกส่งมายังฟางหยวน

 

แม้ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะไม่สามารถติดต่อฟางหยวนได้โดยตรง แต่พวกเขาพบวิธีการบางอย่าง

 

พวกเขารู้ว่าฝ่ายธรรมะของภาคใต้เคยถูกกรรโชกทรัพย์โดยฟางหยวนมาก่อน พวกเขามีวิธีการติดต่อฟางหยวน ดังนั้นด้วยการทําธุรกรรม ถ้ําสวรรค์นิรันดรจึงได้รับวิธีติดต่อฟางหยวนในที่สุด

 

ปิงช่ายฉวนกล่าวกับฟางหยวนโดยตรงว่าต้องการสร้างความร่วมมือกับเขา

 

ชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนยังรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แต่ครั้งนี้เขาเข้าใจเหตุผลเป็นอย่างดี

 

“ปิงชายฉวนต้องการร่วมมือกับข้าและพยายามรวบรวมความแข็งแกร่งของทุกคนเพื่อฉกชิงวิญญาณชะตากรรม

 

ขณะเดียวกันข้าก็ต้องการใช้พวกเขาเป็นแนวหน้าในการโจมตีวังสวรรค์

 

ฟางหยวนต้องระวังหลายสิ่งในวังสวรรค์

 

ตัวอย่างเช่นภาพวาดของเทพอมตะบัวสวรรค์ หรือเกมหมากรุกระหว่างสองผู้อมตะระดับเก้าในศาลาแห่งความโศกเศร้า

 

ฟางหยวนตกลงร่วมมือกับปิงชายฉวน

 

สิ่งนี้ทําให้ปิงชายฉวนรู้สึกสงสัย “เหตุใดฟางหยวนจึงตกลงอย่างง่ายดาย? เขาควรสงสัยเจตนาของพวกเรา

 

ปิงชายฉวยขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าเขาควรหาโอกาสต่อสู้ร่วมกับฟางหยวนเพื่อแสดงความจริงใจ แต่หลังจากไตร่ตรอง ปิงชายฉวนไม่พบโอกาสที่เหมาะสม

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาไม่มีความกังวลนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกาะบัวหินหรือวังมังกร เขาสามารถใช้โอกาสเหล่านั้นร่วมมือกับฟางหยวนเพื่อแสดงความจริงใจ

 

แต่ในชีวิตนี้ ฟางหยวนเปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง เขาได้รับวังมังกร ขณะเดียวกันเขาก็ได้รับชัยชนะในสายธารแห่งกาลเวลา

 

วังสวรรค์

 

ฉินติงหลิงมองฟงจิวเก้อและยิ้ม “ครั้งนี้เจ้ามาพบข้าเป็นการส่วนตัว บอกข้าว่าเจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

นางมีทัศนคติที่ดีต่อผู้พิทักษ์เต่ผู้นี้

 

ฟงจิวเก้อลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าว “ข้าต้องการยืมวิญญาณอมตะตอบสนองโชคระดับแปดของผู้อาวุโส”

 

ฉินติงหลิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่นางจะสามารถตอบสนอง “แน่นอน ข้าจะให้เจ้ายืม”

 

หลังกล่าวจบคํา นางก็น่าวิญญาณอมตะตอบสนองโชคระดับแปดออกมามอบให้ฟงจิวเก้อ

 

ฟงจิวเก้อตกตะลึงเล็กน้อย

 

ฉินติงหลงกล่าว “ข้ารู้ว่าเจ้ากําลังสร้างท่าไม้ตายใหม่ วิญญาณอมตะดวงนี้ต้องมีความสําคัญมากสําหรับเจ้า มิฉะนั้นด้วยบุคลิกของเจ้า เจ้าจะไม่มาขอยืมวิญญาณอมตะจากข้า”

 

ฟงจิวเก้อพยักหน้าและรับวิญญาณอมตะตอบสนองโชคเอาไว้ “ถูกต้อง”

 

เขาสร้างเพลงพรหมลิขิตได้แปดสิบส่วนแล้ว เขาพบว่าวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาระดับแปดเพียงดวงเดียวไม่สามารถแบกรับความยิ่งใหญ่ของเพลงพรหมลิขิต เขาต้องการวิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งโชคอีกหนึ่งดวงเพื่อใช้เป็นแกนกลางของมัน

 

ด้วยความเข้าใจในปัจจุบันของฟงจิวเก้อ วิญญาณอมตะตอบสนองโชคระดับแปดมีความเหมาะสมมากที่สุด

 

ฉินติงหลิงถอนหายใจ “วิญญาณอมตะตอบสนองโชคไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยข้า มันมาจากเทพอมตะตะวันเดือด หากเจ้าสามารถใช้วิญญาณอมตะดวงนี้จัดการผู้อมตะภาคเหนือ นั่นจะดีมาก”

 

ฟงจิวเก่อขอบคุณฉินติงหลิงและกล่าวต่อ “นอกจากวิญญาณอมตะดวงนี้ ข้ายังต้องการไปที่สายธารแห่งกาลเวลาเพื่อเฝ้ามองเหตุการณ์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน”

 

ฉินติงหลิงขมวดคิ้ว “ตามที่ข้ารู้ วังสวรรค์กําลังทํางานอย่างเต็มที่ แต่เราพึ่งสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้ เพียงหลังเดียวเท่านั้น การไปยังสายธารแห่งกาลเวลาในเวลานี้เป็นเพียงการรนหาที่ตาย ให้ข้าตรวจสอบโชคของเจ้า บางทีอาจมีโอกาสที่ซ่อนอยู่”

 

ฟงจิวเก้อขอบคุณนางอีกครั้ง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+