Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2031 ไล่ล่าและหลบหนี

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2031 ไล่ล่าและหลบหนี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2031 ไล่ล่าและหลบหนี

 

ฟางหยวนทําทุกอย่างตามแผนการเสมอ แม้การมาที่วังสวรรค์จะอันตราย แต่เขาก็เตรียมตัวมาอย่างเพียงพอ

 

ผลไม้ปราณกลายเป็นร่างแยกบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขาขณะที่ร่างหลักเข้าไปในวังมังกรแม้สนามรบจะเต็มไปด้วยผู้อมตะ แต่ไม่มีผู้ใดค้นพบความจริงเรื่องนี้

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งพลังปราณของฟางหยวนสูดหายใจลึก พลังปราณสีขาวทั้งหมดถูกุดูดซับเข้าสู่ร่างกายนของเขา

 

ต่อมาเขาก็สร้างกําแพงปราณและใช้มันผลักวังมังกรและเทพปีศาจจิตวิญญาณออกไป

 

ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณส่องประกายแหลมคม ปราณสีดําพุ่งออกจากร่างของเขาและปะทะกําแพงปราณทําให้เกิดเสียงดังไปทั่ว

 

วังมังกรใหญ่โตมาก มันไม่ง่ายที่จะหลบหรือทะลวงผ่านกําแพงปราณ

 

เมื่อกําแพงปราณกําลังจะพุ่งชนวังมังกร ประตูวังมังกรก็เปิดออก ฟางหยวนปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

 

ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต!

 

ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เขายกแขนขวาขึ้นและบีบนิ้วทั้งห้า

 

กําแพงปราณพังทลายลง กระแสลมปราณจํานวนนับไม่ถ้วนถูกดึงโดยพลังงานไร้รูปลักษณ์เข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวน

 

“ฟางหยวน!”

 

“เขาอยู่ที่นี่มาตลอด!”

 

“ท่านี้อีกครั้ง เขาเคยใช้ท่านทําลายก่าแพงปราณของเทพอมตะแรกกําเนิดระหว่างสงครามชะตากรรม!”

 

หัวใจของผู้อมตะทั้งหมดสั่นไหว

 

ใบหน้าของผู้อมตะวังสวรรค์กลายเป็นมืดครึม หลังจากพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมฟางหยวนกลายเป็นฝันร้ายสําหรับพวกเขา

 

ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์มีความสุขเมื่อเห็นฟางหยวนยืนอยู่ข้างพวกเขา

 

รูม่านตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณหดเล็กลง การแสดงของฟางหยวนทําให้เขารู้สึกประหลาดใจ ฟางหยวนถูกกดดันโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เหตุใดเขายังมีพลังการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

 

สนามรบตกสู่ความเงียบ

 

ฟางหยวนและบรรพชนทะเลปราณปรากฏตัวพร้อมกัน สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที

 

วังสวรรค์ปกป้องบรรพชนทะเลปราณ เทพปีศาจจิตวิญญาณในร่างท่านหญิงธุลีเย็นอยู่เพียงลําพังขณะที่ฟางหยวนยืนอยู่หน้าประตูวังมังกรผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามพร้อมที่จะเผชิญหน้ากัน

 

ในโลกใบนี้ความแข็งแกร่งสําคัญที่สุดการต่อสู้หลังจากนี้จะขึ้นอยู่กับสามคนนี้

 

“ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะไม่สามารถเป็นผู้นําในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ฉินติงหลิงลอบถอนหายใจก่อนจะถ่ายทอดเสียงไปหาบรรพชนทะเลปราณเพื่อสอบถามสถานการณ์ของเขา

 

บรรพชนทะเลปราณตอบกลับทันที “แม้ข้าจะสามารถกําจัดผลไม้ปราณแต่ข้าก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยข้าต้องการให้สมาชิกของวังสวรรค์ร่วมมือกันเพื่อก้าวข้ามวิกฤตนี้”

 

ฉินติงหลิงกล่าวอีกครั้ง “จุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวังสวรรค์ได้รับการแก้ไขแล้ว เรื่องนี้ต้องขอบคุณบรรพชนหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปวังสวรรค์จะตอบแทนท่านอย่างเหมาะสม!”

 

ฉินติงหลิงพยายามให้ความช่วยเหลือบรรพชนทะเลปราณอย่างเต็มที่แต่ในจังหวะนี้วังมังกรกลับบินผ่านรูช่องโหว่ของวังสววรค์และหลบหนีเข้าสู่สวรรค์สีขาวอย่างกะทันหัน

 

ทุกคนมองวังมังกรด้วยความตกตะลึง

 

แม้ฟางหยวนจะปรากฏตัวและร่วมมือกับอู่ส่วย แต่พวกเขายังเลือกที่จะหลบหนี

 

“ดูเหมือนพลังของฟางหยวนยังไม่ฟื้นคืน”

 

“แม้ท่าไม้ตายก่อนหน้านี้จะดูดุร้ายและสามารถทําลายกําแพงปราณของบรรพชนทะเลปราณแต่นั่นน่าจะเป็นขีดจํากัดของเขาแล้ว!”

 

“พวกเราควรไล่ล่าหรือไม่? ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป ข้าเกรงว่าจะเป็นแผนการล่อลวงพวกเรา เขาอาจจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ด้านนอกและใช้มันซุ่มโจมตีพวกเรา”

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ลังเลขณะที่ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ลอบสาปแช่งอยู่ใน

 

หลังจากทั้งหมดผู้นําที่พวกเขาคาดหวังหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

 

ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ถูกทิ้งไว้ในวังสวรรรค์

 

“ฟางหยวน เจ้าจะหนีไปที่ใด ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าก็ต้องตาย!” เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะและใช้ร่างของท่านหญิงธุลีเย็นไล่ล่าวังมังกร

 

“โฮก…”

 

ชิงโจวคําราม พลังของมันกลับมาแล้ว แม้วิญญาณความเกลียดชังระดับเก้าจะยังไม่สมบูรณ์แต่กลิ่นอายของมันยังแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้า

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณ ข้าจะฆ่าเจ้า!” ชิงโจวไม่ลังเลที่จะไล่ล่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ดังนั้นในสนามรบวงสวรรค์จึงเหลือเพียงบรรพชนทะเลปราณ ผู้อมตะวังสวรรค์และผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์

 

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนมองหน้ากัน

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ

 

“เราจะตามไป!”

 

“ปกป้องวังมังกร!”

 

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนทํางานร่วมกันเป็นครั้งแรก พวกเขาตะโกนออกมาพร้อมกันและพุ่งออกจากวังสวรรค์ทันที

 

กองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ที่เหลือเร่งติดตามพวกเขาออกไป

 

“เราจะฆ่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่?” องค์ชายฟงเซี่ยถามฉินติงหลิง

 

ฉินติงหลิงมองไปทางบรรพชนทะเลปราณ นางไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ “ไม่ ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ กลายพันธุ์เป็นเพียงปัญหาเล็กๆ สิ่งสําคัญที่สุดคือฟางหยวน ทั้งสองคนไว้ข้างหลังเพื่อดูแล สถานที่ คนที่เหลือตามข้าออกไปไล่ล่าฟางหยวน!”

 

ฟางหยวนไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีในขณะนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฆ่าเขา

 

หากพวกเขาสามารถกําจัดฟางหยวน มันจะส่งผลดีต่อวงสวรรค์ พวกเขาจะได้รับมรดกและข้อ มูลมากมาย

 

กระทั่งวังสวรรค์จะไม่ได้รับสิ่งใดจากฟางหยวน เพียงความจริงที่ว่าเขาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของวังสวรรค์ มันก็ยังสามารถยกขวัญกําลังใจพวกเขาจะหลุดออกจากเงามืดจากความพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมและกลับมาเป็นกองถ่าลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง

 

“บรรพชน…” ฉินติงหลิงกําลังจะกล่าวแต่บรรพชนทะเลปราณกลับขัดจังหวะ

 

“ไม่จําเป็นต้องกล่าวสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นเทพปีศาจจิตวิญญาณหรือฟางหยวนพวกเขาต่างเป็นปีศาจพวกเราเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะ พวกเราต้องกําจัดพวกเขาสถานการณ์เร่งด่วนเราต้องไล่ล่าพวกเขาเดี๋ยวนี้!”ในช่วงเวลาสําคัญบรรพชนทะเลปราณแสดงท่าทีของผู้นําฝ่ายธรรมะที่กล้าหาญออกมา

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกใกล้ชิดกับเขามากขึ้นหลังจากได้ยินถ้อยคําเหล่านี้

 

ฉินติงหลิงพยักหน้าอย่างจริงจัง หากปราศจากความช่วยเหลือจากบรรพชนทะเลปราณพวกเขาจะไม่สามารถไล่ล่าฟางหยวนได้อย่างปลอดภัย

 

“สถานการณ์ของร่างหลักแปลกมาก ข้าต้องดูแลเขาผู้อมตะวังสวรรค์เป็นเหยื่อสังเวชที่ดีกว่ากองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์!” บรรพชนทะเลปราณลอบวางแผนอยู่ภายใน

 

ด้วยวิธีนี้ วังมังกรจึงอยู่ด้านหน้าสุด ติดตามมาด้วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ถัดมาก็เป็นชิงโจว บรรพชนทะเลปราณ และผู้อมตะของวังสวรรค์

 

สําหรับกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ พวกเขาหลบหนีกลับไปหมดแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

ในวังมังกร

 

ฟางหยวนนั่งไขว้ขาปิดเปลือกตาอยู่บนพื้น เขากําลังใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์และมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์

 

ฟางหยวนเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลืองและรวบรวมวิญญาณที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วหลังจากได้รับวิญญาณที่จําเป็นและดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะให้เป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ความยาก ของมันก็แทบไม่มี

 

ฟางหยวนหยุดการทํางานของค่ายกลวิญญาณอมตะที่กําลังกําจัดเจตจํานงสวรรค์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ในไม่ช้าเจตจํานงสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

 

ฟางหยวนส่งเจตจํานงส่วนหนึ่งของเขาเข้าไปหาเจตจํานงสวรรค์

 

ต่อมาเขาก็ใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์และหลอมรวมเจตจํานงของตนเองเข้ากับเจตจํานงสวรรค์

 

จากนั้นเขาก็ใช้ท่าไม้ตายมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์

 

หลังจากไม่นาน ดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้น “ข้าสัมผัสได้…เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว!”

 

หากฟางหยวนต้องเปลี่ยนคําว่า สัมผัส เขาจะใช้คําว่า จับ

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์แต่ตอนนี้เขาสามารถควบคุมมันได้เป็นการชั่วคราว

 

ด้วยความก้าวหน้าครั้งสําคัญและความเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมของฟางหยวนมันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นในการปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เหล่านี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2031 ไล่ล่าและหลบหนี

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2031 ไล่ล่าและหลบหนี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2031 ไล่ล่าและหลบหนี

 

ฟางหยวนทําทุกอย่างตามแผนการเสมอ แม้การมาที่วังสวรรค์จะอันตราย แต่เขาก็เตรียมตัวมาอย่างเพียงพอ

 

ผลไม้ปราณกลายเป็นร่างแยกบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขาขณะที่ร่างหลักเข้าไปในวังมังกรแม้สนามรบจะเต็มไปด้วยผู้อมตะ แต่ไม่มีผู้ใดค้นพบความจริงเรื่องนี้

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งพลังปราณของฟางหยวนสูดหายใจลึก พลังปราณสีขาวทั้งหมดถูกุดูดซับเข้าสู่ร่างกายนของเขา

 

ต่อมาเขาก็สร้างกําแพงปราณและใช้มันผลักวังมังกรและเทพปีศาจจิตวิญญาณออกไป

 

ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณส่องประกายแหลมคม ปราณสีดําพุ่งออกจากร่างของเขาและปะทะกําแพงปราณทําให้เกิดเสียงดังไปทั่ว

 

วังมังกรใหญ่โตมาก มันไม่ง่ายที่จะหลบหรือทะลวงผ่านกําแพงปราณ

 

เมื่อกําแพงปราณกําลังจะพุ่งชนวังมังกร ประตูวังมังกรก็เปิดออก ฟางหยวนปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

 

ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต!

 

ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เขายกแขนขวาขึ้นและบีบนิ้วทั้งห้า

 

กําแพงปราณพังทลายลง กระแสลมปราณจํานวนนับไม่ถ้วนถูกดึงโดยพลังงานไร้รูปลักษณ์เข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวน

 

“ฟางหยวน!”

 

“เขาอยู่ที่นี่มาตลอด!”

 

“ท่านี้อีกครั้ง เขาเคยใช้ท่านทําลายก่าแพงปราณของเทพอมตะแรกกําเนิดระหว่างสงครามชะตากรรม!”

 

หัวใจของผู้อมตะทั้งหมดสั่นไหว

 

ใบหน้าของผู้อมตะวังสวรรค์กลายเป็นมืดครึม หลังจากพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมฟางหยวนกลายเป็นฝันร้ายสําหรับพวกเขา

 

ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์มีความสุขเมื่อเห็นฟางหยวนยืนอยู่ข้างพวกเขา

 

รูม่านตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณหดเล็กลง การแสดงของฟางหยวนทําให้เขารู้สึกประหลาดใจ ฟางหยวนถูกกดดันโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เหตุใดเขายังมีพลังการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

 

สนามรบตกสู่ความเงียบ

 

ฟางหยวนและบรรพชนทะเลปราณปรากฏตัวพร้อมกัน สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที

 

วังสวรรค์ปกป้องบรรพชนทะเลปราณ เทพปีศาจจิตวิญญาณในร่างท่านหญิงธุลีเย็นอยู่เพียงลําพังขณะที่ฟางหยวนยืนอยู่หน้าประตูวังมังกรผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามพร้อมที่จะเผชิญหน้ากัน

 

ในโลกใบนี้ความแข็งแกร่งสําคัญที่สุดการต่อสู้หลังจากนี้จะขึ้นอยู่กับสามคนนี้

 

“ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะไม่สามารถเป็นผู้นําในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ฉินติงหลิงลอบถอนหายใจก่อนจะถ่ายทอดเสียงไปหาบรรพชนทะเลปราณเพื่อสอบถามสถานการณ์ของเขา

 

บรรพชนทะเลปราณตอบกลับทันที “แม้ข้าจะสามารถกําจัดผลไม้ปราณแต่ข้าก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยข้าต้องการให้สมาชิกของวังสวรรค์ร่วมมือกันเพื่อก้าวข้ามวิกฤตนี้”

 

ฉินติงหลิงกล่าวอีกครั้ง “จุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวังสวรรค์ได้รับการแก้ไขแล้ว เรื่องนี้ต้องขอบคุณบรรพชนหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปวังสวรรค์จะตอบแทนท่านอย่างเหมาะสม!”

 

ฉินติงหลิงพยายามให้ความช่วยเหลือบรรพชนทะเลปราณอย่างเต็มที่แต่ในจังหวะนี้วังมังกรกลับบินผ่านรูช่องโหว่ของวังสววรค์และหลบหนีเข้าสู่สวรรค์สีขาวอย่างกะทันหัน

 

ทุกคนมองวังมังกรด้วยความตกตะลึง

 

แม้ฟางหยวนจะปรากฏตัวและร่วมมือกับอู่ส่วย แต่พวกเขายังเลือกที่จะหลบหนี

 

“ดูเหมือนพลังของฟางหยวนยังไม่ฟื้นคืน”

 

“แม้ท่าไม้ตายก่อนหน้านี้จะดูดุร้ายและสามารถทําลายกําแพงปราณของบรรพชนทะเลปราณแต่นั่นน่าจะเป็นขีดจํากัดของเขาแล้ว!”

 

“พวกเราควรไล่ล่าหรือไม่? ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป ข้าเกรงว่าจะเป็นแผนการล่อลวงพวกเรา เขาอาจจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ด้านนอกและใช้มันซุ่มโจมตีพวกเรา”

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ลังเลขณะที่ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ลอบสาปแช่งอยู่ใน

 

หลังจากทั้งหมดผู้นําที่พวกเขาคาดหวังหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

 

ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ถูกทิ้งไว้ในวังสวรรรค์

 

“ฟางหยวน เจ้าจะหนีไปที่ใด ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าก็ต้องตาย!” เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะและใช้ร่างของท่านหญิงธุลีเย็นไล่ล่าวังมังกร

 

“โฮก…”

 

ชิงโจวคําราม พลังของมันกลับมาแล้ว แม้วิญญาณความเกลียดชังระดับเก้าจะยังไม่สมบูรณ์แต่กลิ่นอายของมันยังแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้า

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณ ข้าจะฆ่าเจ้า!” ชิงโจวไม่ลังเลที่จะไล่ล่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ดังนั้นในสนามรบวงสวรรค์จึงเหลือเพียงบรรพชนทะเลปราณ ผู้อมตะวังสวรรค์และผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์

 

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนมองหน้ากัน

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ

 

“เราจะตามไป!”

 

“ปกป้องวังมังกร!”

 

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนทํางานร่วมกันเป็นครั้งแรก พวกเขาตะโกนออกมาพร้อมกันและพุ่งออกจากวังสวรรค์ทันที

 

กองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ที่เหลือเร่งติดตามพวกเขาออกไป

 

“เราจะฆ่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่?” องค์ชายฟงเซี่ยถามฉินติงหลิง

 

ฉินติงหลิงมองไปทางบรรพชนทะเลปราณ นางไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ “ไม่ ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ กลายพันธุ์เป็นเพียงปัญหาเล็กๆ สิ่งสําคัญที่สุดคือฟางหยวน ทั้งสองคนไว้ข้างหลังเพื่อดูแล สถานที่ คนที่เหลือตามข้าออกไปไล่ล่าฟางหยวน!”

 

ฟางหยวนไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีในขณะนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฆ่าเขา

 

หากพวกเขาสามารถกําจัดฟางหยวน มันจะส่งผลดีต่อวงสวรรค์ พวกเขาจะได้รับมรดกและข้อ มูลมากมาย

 

กระทั่งวังสวรรค์จะไม่ได้รับสิ่งใดจากฟางหยวน เพียงความจริงที่ว่าเขาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของวังสวรรค์ มันก็ยังสามารถยกขวัญกําลังใจพวกเขาจะหลุดออกจากเงามืดจากความพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมและกลับมาเป็นกองถ่าลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง

 

“บรรพชน…” ฉินติงหลิงกําลังจะกล่าวแต่บรรพชนทะเลปราณกลับขัดจังหวะ

 

“ไม่จําเป็นต้องกล่าวสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นเทพปีศาจจิตวิญญาณหรือฟางหยวนพวกเขาต่างเป็นปีศาจพวกเราเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะ พวกเราต้องกําจัดพวกเขาสถานการณ์เร่งด่วนเราต้องไล่ล่าพวกเขาเดี๋ยวนี้!”ในช่วงเวลาสําคัญบรรพชนทะเลปราณแสดงท่าทีของผู้นําฝ่ายธรรมะที่กล้าหาญออกมา

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกใกล้ชิดกับเขามากขึ้นหลังจากได้ยินถ้อยคําเหล่านี้

 

ฉินติงหลิงพยักหน้าอย่างจริงจัง หากปราศจากความช่วยเหลือจากบรรพชนทะเลปราณพวกเขาจะไม่สามารถไล่ล่าฟางหยวนได้อย่างปลอดภัย

 

“สถานการณ์ของร่างหลักแปลกมาก ข้าต้องดูแลเขาผู้อมตะวังสวรรค์เป็นเหยื่อสังเวชที่ดีกว่ากองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์!” บรรพชนทะเลปราณลอบวางแผนอยู่ภายใน

 

ด้วยวิธีนี้ วังมังกรจึงอยู่ด้านหน้าสุด ติดตามมาด้วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ถัดมาก็เป็นชิงโจว บรรพชนทะเลปราณ และผู้อมตะของวังสวรรค์

 

สําหรับกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ พวกเขาหลบหนีกลับไปหมดแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

ในวังมังกร

 

ฟางหยวนนั่งไขว้ขาปิดเปลือกตาอยู่บนพื้น เขากําลังใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์และมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์

 

ฟางหยวนเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลืองและรวบรวมวิญญาณที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วหลังจากได้รับวิญญาณที่จําเป็นและดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะให้เป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ความยาก ของมันก็แทบไม่มี

 

ฟางหยวนหยุดการทํางานของค่ายกลวิญญาณอมตะที่กําลังกําจัดเจตจํานงสวรรค์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ในไม่ช้าเจตจํานงสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

 

ฟางหยวนส่งเจตจํานงส่วนหนึ่งของเขาเข้าไปหาเจตจํานงสวรรค์

 

ต่อมาเขาก็ใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์และหลอมรวมเจตจํานงของตนเองเข้ากับเจตจํานงสวรรค์

 

จากนั้นเขาก็ใช้ท่าไม้ตายมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์

 

หลังจากไม่นาน ดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้น “ข้าสัมผัสได้…เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว!”

 

หากฟางหยวนต้องเปลี่ยนคําว่า สัมผัส เขาจะใช้คําว่า จับ

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์แต่ตอนนี้เขาสามารถควบคุมมันได้เป็นการชั่วคราว

 

ด้วยความก้าวหน้าครั้งสําคัญและความเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมของฟางหยวนมันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นในการปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เหล่านี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2031 ไล่ล่าและหลบหนี

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2031 ไล่ล่าและหลบหนี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2031 ไล่ล่าและหลบหนี

 

ฟางหยวนทําทุกอย่างตามแผนการเสมอ แม้การมาที่วังสวรรค์จะอันตราย แต่เขาก็เตรียมตัวมาอย่างเพียงพอ

 

ผลไม้ปราณกลายเป็นร่างแยกบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขาขณะที่ร่างหลักเข้าไปในวังมังกรแม้สนามรบจะเต็มไปด้วยผู้อมตะ แต่ไม่มีผู้ใดค้นพบความจริงเรื่องนี้

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งพลังปราณของฟางหยวนสูดหายใจลึก พลังปราณสีขาวทั้งหมดถูกุดูดซับเข้าสู่ร่างกายนของเขา

 

ต่อมาเขาก็สร้างกําแพงปราณและใช้มันผลักวังมังกรและเทพปีศาจจิตวิญญาณออกไป

 

ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณส่องประกายแหลมคม ปราณสีดําพุ่งออกจากร่างของเขาและปะทะกําแพงปราณทําให้เกิดเสียงดังไปทั่ว

 

วังมังกรใหญ่โตมาก มันไม่ง่ายที่จะหลบหรือทะลวงผ่านกําแพงปราณ

 

เมื่อกําแพงปราณกําลังจะพุ่งชนวังมังกร ประตูวังมังกรก็เปิดออก ฟางหยวนปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

 

ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต!

 

ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เขายกแขนขวาขึ้นและบีบนิ้วทั้งห้า

 

กําแพงปราณพังทลายลง กระแสลมปราณจํานวนนับไม่ถ้วนถูกดึงโดยพลังงานไร้รูปลักษณ์เข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวน

 

“ฟางหยวน!”

 

“เขาอยู่ที่นี่มาตลอด!”

 

“ท่านี้อีกครั้ง เขาเคยใช้ท่านทําลายก่าแพงปราณของเทพอมตะแรกกําเนิดระหว่างสงครามชะตากรรม!”

 

หัวใจของผู้อมตะทั้งหมดสั่นไหว

 

ใบหน้าของผู้อมตะวังสวรรค์กลายเป็นมืดครึม หลังจากพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมฟางหยวนกลายเป็นฝันร้ายสําหรับพวกเขา

 

ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์มีความสุขเมื่อเห็นฟางหยวนยืนอยู่ข้างพวกเขา

 

รูม่านตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณหดเล็กลง การแสดงของฟางหยวนทําให้เขารู้สึกประหลาดใจ ฟางหยวนถูกกดดันโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เหตุใดเขายังมีพลังการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

 

สนามรบตกสู่ความเงียบ

 

ฟางหยวนและบรรพชนทะเลปราณปรากฏตัวพร้อมกัน สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที

 

วังสวรรค์ปกป้องบรรพชนทะเลปราณ เทพปีศาจจิตวิญญาณในร่างท่านหญิงธุลีเย็นอยู่เพียงลําพังขณะที่ฟางหยวนยืนอยู่หน้าประตูวังมังกรผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามพร้อมที่จะเผชิญหน้ากัน

 

ในโลกใบนี้ความแข็งแกร่งสําคัญที่สุดการต่อสู้หลังจากนี้จะขึ้นอยู่กับสามคนนี้

 

“ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะไม่สามารถเป็นผู้นําในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ฉินติงหลิงลอบถอนหายใจก่อนจะถ่ายทอดเสียงไปหาบรรพชนทะเลปราณเพื่อสอบถามสถานการณ์ของเขา

 

บรรพชนทะเลปราณตอบกลับทันที “แม้ข้าจะสามารถกําจัดผลไม้ปราณแต่ข้าก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยข้าต้องการให้สมาชิกของวังสวรรค์ร่วมมือกันเพื่อก้าวข้ามวิกฤตนี้”

 

ฉินติงหลิงกล่าวอีกครั้ง “จุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวังสวรรค์ได้รับการแก้ไขแล้ว เรื่องนี้ต้องขอบคุณบรรพชนหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปวังสวรรค์จะตอบแทนท่านอย่างเหมาะสม!”

 

ฉินติงหลิงพยายามให้ความช่วยเหลือบรรพชนทะเลปราณอย่างเต็มที่แต่ในจังหวะนี้วังมังกรกลับบินผ่านรูช่องโหว่ของวังสววรค์และหลบหนีเข้าสู่สวรรค์สีขาวอย่างกะทันหัน

 

ทุกคนมองวังมังกรด้วยความตกตะลึง

 

แม้ฟางหยวนจะปรากฏตัวและร่วมมือกับอู่ส่วย แต่พวกเขายังเลือกที่จะหลบหนี

 

“ดูเหมือนพลังของฟางหยวนยังไม่ฟื้นคืน”

 

“แม้ท่าไม้ตายก่อนหน้านี้จะดูดุร้ายและสามารถทําลายกําแพงปราณของบรรพชนทะเลปราณแต่นั่นน่าจะเป็นขีดจํากัดของเขาแล้ว!”

 

“พวกเราควรไล่ล่าหรือไม่? ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป ข้าเกรงว่าจะเป็นแผนการล่อลวงพวกเรา เขาอาจจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ด้านนอกและใช้มันซุ่มโจมตีพวกเรา”

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ลังเลขณะที่ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ลอบสาปแช่งอยู่ใน

 

หลังจากทั้งหมดผู้นําที่พวกเขาคาดหวังหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

 

ผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ถูกทิ้งไว้ในวังสวรรรค์

 

“ฟางหยวน เจ้าจะหนีไปที่ใด ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าก็ต้องตาย!” เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะและใช้ร่างของท่านหญิงธุลีเย็นไล่ล่าวังมังกร

 

“โฮก…”

 

ชิงโจวคําราม พลังของมันกลับมาแล้ว แม้วิญญาณความเกลียดชังระดับเก้าจะยังไม่สมบูรณ์แต่กลิ่นอายของมันยังแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้า

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณ ข้าจะฆ่าเจ้า!” ชิงโจวไม่ลังเลที่จะไล่ล่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ดังนั้นในสนามรบวงสวรรค์จึงเหลือเพียงบรรพชนทะเลปราณ ผู้อมตะวังสวรรค์และผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์

 

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนมองหน้ากัน

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ

 

“เราจะตามไป!”

 

“ปกป้องวังมังกร!”

 

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนทํางานร่วมกันเป็นครั้งแรก พวกเขาตะโกนออกมาพร้อมกันและพุ่งออกจากวังสวรรค์ทันที

 

กองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ที่เหลือเร่งติดตามพวกเขาออกไป

 

“เราจะฆ่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่?” องค์ชายฟงเซี่ยถามฉินติงหลิง

 

ฉินติงหลิงมองไปทางบรรพชนทะเลปราณ นางไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ “ไม่ ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ กลายพันธุ์เป็นเพียงปัญหาเล็กๆ สิ่งสําคัญที่สุดคือฟางหยวน ทั้งสองคนไว้ข้างหลังเพื่อดูแล สถานที่ คนที่เหลือตามข้าออกไปไล่ล่าฟางหยวน!”

 

ฟางหยวนไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีในขณะนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฆ่าเขา

 

หากพวกเขาสามารถกําจัดฟางหยวน มันจะส่งผลดีต่อวงสวรรค์ พวกเขาจะได้รับมรดกและข้อ มูลมากมาย

 

กระทั่งวังสวรรค์จะไม่ได้รับสิ่งใดจากฟางหยวน เพียงความจริงที่ว่าเขาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของวังสวรรค์ มันก็ยังสามารถยกขวัญกําลังใจพวกเขาจะหลุดออกจากเงามืดจากความพ่ายแพ้ในสงครามชะตากรรมและกลับมาเป็นกองถ่าลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง

 

“บรรพชน…” ฉินติงหลิงกําลังจะกล่าวแต่บรรพชนทะเลปราณกลับขัดจังหวะ

 

“ไม่จําเป็นต้องกล่าวสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นเทพปีศาจจิตวิญญาณหรือฟางหยวนพวกเขาต่างเป็นปีศาจพวกเราเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะ พวกเราต้องกําจัดพวกเขาสถานการณ์เร่งด่วนเราต้องไล่ล่าพวกเขาเดี๋ยวนี้!”ในช่วงเวลาสําคัญบรรพชนทะเลปราณแสดงท่าทีของผู้นําฝ่ายธรรมะที่กล้าหาญออกมา

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกใกล้ชิดกับเขามากขึ้นหลังจากได้ยินถ้อยคําเหล่านี้

 

ฉินติงหลิงพยักหน้าอย่างจริงจัง หากปราศจากความช่วยเหลือจากบรรพชนทะเลปราณพวกเขาจะไม่สามารถไล่ล่าฟางหยวนได้อย่างปลอดภัย

 

“สถานการณ์ของร่างหลักแปลกมาก ข้าต้องดูแลเขาผู้อมตะวังสวรรค์เป็นเหยื่อสังเวชที่ดีกว่ากองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์!” บรรพชนทะเลปราณลอบวางแผนอยู่ภายใน

 

ด้วยวิธีนี้ วังมังกรจึงอยู่ด้านหน้าสุด ติดตามมาด้วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ถัดมาก็เป็นชิงโจว บรรพชนทะเลปราณ และผู้อมตะของวังสวรรค์

 

สําหรับกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์ พวกเขาหลบหนีกลับไปหมดแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

ในวังมังกร

 

ฟางหยวนนั่งไขว้ขาปิดเปลือกตาอยู่บนพื้น เขากําลังใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์และมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์

 

ฟางหยวนเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลืองและรวบรวมวิญญาณที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วหลังจากได้รับวิญญาณที่จําเป็นและดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะให้เป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ความยาก ของมันก็แทบไม่มี

 

ฟางหยวนหยุดการทํางานของค่ายกลวิญญาณอมตะที่กําลังกําจัดเจตจํานงสวรรค์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ในไม่ช้าเจตจํานงสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

 

ฟางหยวนส่งเจตจํานงส่วนหนึ่งของเขาเข้าไปหาเจตจํานงสวรรค์

 

ต่อมาเขาก็ใช้ท่าไม้ตายมนุษย์สัมผัสสวรรค์และหลอมรวมเจตจํานงของตนเองเข้ากับเจตจํานงสวรรค์

 

จากนั้นเขาก็ใช้ท่าไม้ตายมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์

 

หลังจากไม่นาน ดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้น “ข้าสัมผัสได้…เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว!”

 

หากฟางหยวนต้องเปลี่ยนคําว่า สัมผัส เขาจะใช้คําว่า จับ

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์แต่ตอนนี้เขาสามารถควบคุมมันได้เป็นการชั่วคราว

 

ด้วยความก้าวหน้าครั้งสําคัญและความเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมของฟางหยวนมันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นในการปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เหล่านี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+