Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2075 การฟื้นคืนของเทพ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2075 การฟื้นคืนของเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2075 การฟื้นคืนของเทพ

ภาคกลางแดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหล

“ปล่อยข่าไป!

“ถอย! นางคือปีศาจจื่อเวย!นางไม่ใช่คนที่พวกเราจะสามารถต่อต้าน!”

“โชคร้ายนักเราพึ่งบุกเข้ามาแต่กลับพบนางปีศาจจื่อเวย!”

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางถอนหายใจขณะพยายามหลบหนี

“ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าจากไปงั้นหรือ?”เทพธิดาจื่อเว่ยเย้ยหยันและปลดปล่อยแสงสีม่วงออกมาจากร่างแสงสีม่วงส่องลงมาจากท้องฟ้าผู้อมตะภาคกลางส่วนใหญ่เสียชีวิตอย่างน่าสังเวช ณ จุดเกิดเหตุมีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต

เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้อมตะระดับแปดและเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่เปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ดความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากเกินไป

หลังจากสังหารกลุ่มผู้อมตะเทพธิดาจื่อเว่ยโบกมือส่งดวงวิญญาณของคนตายไปยังอิงอู๋เซี่ย

“รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของนายท่านจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากกลืนกินพวกมัน”

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยกลับไม่รู้สึกยินดี เขาอยู่ในสภาพจิตตก “เห้อ….แม้รากฐานของข้าจะแข็งแกร่งขึ้น แล้วอย่างไร? ร่างหลักตายแล้ว ข้าเป็นเพียงดวงวิญญาณแยกที่เหลืออยู่”“นายท่านอย่าเสียกําลังใจ”อันซุนโน้มน้าว“ข้านําทรัพยากรบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทั้งหมดของถ้ำสวรรค์วิญญาณสงบออกมาพวกมันจะช่วยสนับสนุนการบ่มเพาะของท่าน”ในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันซุนมารวมกลุ่มกับเทพธิดาจื่อเว่ยและอิงอู๋เซี่ยเรียบร้อยแล้วหลังจากกระตุ้นอิงอู๋เซี่ยอันซุนก็พูดกับเทพธิดาจื่อเว่ย“ท่านหญิงจื่อเว่ยท่านตั้งใจปล่อยผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงผู้นั้นไปเหตุใดท่านจึงทําเช่นนั้น?ท่านหวังว่าเขาจะนําผู้อมตะมามากกว่างั้นหรือ?”

ดวงวิญญาณของอันซุนถูกดัดแปลงโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาภักดีต่ออิงอู๋เซี่ยเป็นอย่างมากเขาจะคัดค้านสิ่งที่ขัดต่อผลประโยชน์ของอิงอู๋เซี่ย

ตอนนี้เขากําลังมองเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยท่าทีสงสัย

เทพธิดาจ๋อเว่ยเย้ยหยันและไม่ตอบสนอง

อิงอู๋เซี่ยกล่าว “หากข่าเดาไม่ผิดผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงผู้นั้นควรเป็นนักรบแรดเขาเหล็กเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนจากถ้ำสวรรค์นักรบอสูรหลังสงครามชะตา กรรมเขายังเตร็ดแตร่อยู่ที่โลกภายนอก”

อันซุนขมวดคิ้วด้วยความขุ่นเคือง“ฟางหยวนสังหารร่างหลักของนายท่านเขาเป็นศัตรูของเราเหตุใดต้องปล่อยเขาไป!”

อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจ“ตอนนี้ฟางหยวนแข็งแกร่งมากเขาเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์และปกครองพื้นที่บางส่วนของทะเลตะวันออกเขาแสดงพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวออก

มาในการต่อสู้ที่ทะเลตะวันออกนี่หมายความว่าเขาหลุดพ้นจากพันธนากรของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์แล้วตอนนี้เขากําลังเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับไปเจ้าคิดว่ากองกําลังใดจะกล้ากีดขวางพวกเขาแม้แต่สิบนิกายโบราณของภาคกลางก็ยังต้องเพิกเฉยต่อมัน

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวเสริม “ฟางหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงและชั่วร้ายในวัยเยาว์เขากวาดล้างตระกูลของตนเองเพื่อยกระดับพรสวรรค์เขาเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไม่ว่าจะเป็นสงครามชะตากรรมหรือการต่อสู้ไล่ล่าครั้งก่อนเขาทอดทิ้งผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่ลังเลแม้

เราจะสังหารนักรบแรดเหล็กผู้นี้เราก็ไม่สามารถสร้างความสูญเสียให้กับฟางหยวน”

“บัดซบ!” อันซุนกําหมัดแน่น “เราไม่สามารถทําสิ่งใดกับเขาเลยงั้นหรือ? แม้แต่การฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขายังเป็นภัยคุกคามหากฟางหยวนตัดสินใจเอาความเรื่องนี้เนื่องจากปีศาจตนนี้สามารถกู้คืนพลังการต่อสู้เหตุใดเขาไม่ไปสู้กับวังสวรรค์?”

เทพธิดาจื่อเวยวิเคราะห์ขณะปล้นสะดมแดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหล‘ข้าคิดว่าฟางหยวนกําลังขาดแคลนพลังงานอมตะเขาพึ่งต่อสู้กับบรรพชนทะเลปราณตอนนี้เขากําลังพักผ่อนเพื่อสะสมพลังงานอมตะ”

“ท่านแน่ใจหรือไม่?” ดวงตาของอันซุนส่องประกายขึ้น “บางทีเราอาจสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้!”

เทพธิดาจื่อเว่ยเงียบอีกครั้ง

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเราได้รับสิ่งใดมากที่สุดจากการต่อสู้กับฟางหยวน?”“สิ่งใด?”อันซนถาม

“มันคือคนเช่นฟางหยวนไม่สามารถประเมินได้ด้วยสามัญสํานึก สถานการณ์ทั้งหมดทําให้สามัญสํานึกของเราบอกว่าเขากําลังขาดแคลนพลังงานอมตะในเวลานี้แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นอย่างไรเขากําลังวางแผนการใดอยู่ในขณะนี้เขามีวิธีการมากมายแม้แต่ร่างหลักของข้าก็ตกลงสู่หลุมพรางของเขามันไม่ง่ายเลยที่เราจะหลบหนีออกมาอย่าพยายามยั่วยุเขาหากไม่จําเป็น”อิงอู๋เซี่ยอธิบาย

เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว คํากล่าวของอิงอู๋เซี่ยไม่ได้ทําให้นางผิดหวังแต่นางรู้สึกกังวลเกี่ยวกับขวัญกําลังใจของเขา

ฟางหยวนแสดงความแข็งแกร่งบ่อยเกินไปและทําให้อิงอู๋เซี่ยรู้สึกหวาดกลัวนี่ไม่ใช่นิสัยของเทพปีศาจจิตวิญญาณอิงอู๋เซี่ยไม่ได้เป็นเพียงดวงวิญญาณแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณเขาเป็นเจ้านายที่เทพ

ธิดาจื่อเว่ยและอันซุนทุ่มเทความภักดี พวกเขากําลังตั้งตารอให้เขาฟื้นคืนชีพเพื่อยกระดับขวัญกําลังใจของอิงอู๋เซี่ยเทพธิดาจื่อเว่ยครุ่นคิดก่อนกล่าว“ฟางหยวนน่ากลัวจริงๆเขาถูกกดันจากทุกฝ่ายเสมอเขาต้องเตร็ดแตร่ไปรอบๆจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในสภาพที่ไม่ปลอดภัย”

“ตามการคาดเดาของข้า ฟางหยวนเป็นเพียงตัวหมากที่เหล่าเทพใช้ทําลายวิญญาณชะตากรรมตอนนี้เขากลายเป็นตัวหมากที่ถูกละทิ้ง เหล่าเทพต้องการกําจัดเขาไม่ว่าจะเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์หรือการไล่ล่าของเทพปีศาจจิตวิญญาณทั้งคู่เป็นหลักฐานที่ดีสําหรับเรื่องนี้”

“แต่ตอนนี้ฟางหยวนสามารถหลบหนีจากพันธนาการและการไล่ล่าสังหารของเทพปีศาจจิตวิญญาณก่อนหน้าเขาไม่มีเวลาแต่ตอนนี้เขามีแล้ว”

“ปัจจุบันความแข็งแกร่งของเขากกําลังเพิ่มขึ้นตลอดเวลา แม้ข้าจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาและต่อสู้กับฟางหยวนมาหลายครั้งแต่ข้าก็ยังไม่สามารถประเมินการเติบโตของเขา”“แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงใดตราบเท่าที่เขายังไม่ใช่เทพเขาก็จะไม่อยู่ยงคงกระพัน”เทพธิดาจื่อเว่ยเปลี่ยนเรื่อง

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น“ผู้ใดจะรู้ฟางหยวนอาจกลายเป็นเทพปีศาจในครั้งต่อไปที่เขาปรากฏตัว”

“ไม่” เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม“ดินแดนของเทพไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวเข้าไปตั้งแต่โบราณมีเทพเพียงสิบคนเท่านั้นการก้าวเข้าสู่ระดับเทพมีความลับซ่อนอยู่มากมายเบาะแสทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า

เหล่าเทพจะไม่บอกความลับนี้แก่ฟางหยวน”

“เป็นเช่นนั้น!”อันซุนกล่าวด้วยความตื่นเต้น“นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก ตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่กลายเป็นเทพเขาก็ยังเป็นเพียงกึ่งเทพ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดเขาก็ยังมีขีดจํากัดไม่ว่าจะเป็นบรรพชนทะเลปราณหรือเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทังสองยังสามารถต่อสู้กับเขา”อิงอู๋เซี่ยกล่าว“หมายความว่าตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่ใช่เทพเราก็ยังมีความหวังงั้นหรือ?”เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า“แม้ฟางหยวนจะแข็งแกร่งแต่เขาก็มีขีดจํากัดวิญญาณชะตากรรมถูกทําลายอนาคตกลายเป็นไม่แน่นอนปีศาจอมตะฉีเจียสามารถฟื้นคืนชีพไม่มีเหตุผลที่เหล่าเทพจะไม่สามารถ!ท้ายที่สุดปีศาจอมตะฉีเจียก็เป็นเพียงกึ่งเทพเท่านั้น”

หัวใจของอันซุนสั่นสะท้านขึ้น“ท่านหญิงจื่อเว่ยท่านเคยเป็นผู้นําวังสวรรค์เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านมีเบาะแสการฟื้นคืนชีพของเทพอมตะ?”

เทพธิดาจื่อเว่ยส่ายศีรษะ“นี่เป็นเพียงการคาดเดาของข้า ข้าไม่มีหลักฐานแต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือยิ่งผู้อมตะแข็งแกร่งมากเท่าใดมันก็ยิ่งยากสําหรับพวกเขาที่จะฟื้นคืนชีพมากเท่านั้นปีศาจอม

ตะฉีเจียฟื้นคืนชีพด้วยการหยิบยืนพลังอํานาจของผลไม้ปราณ อย่างไรก็ตามการแทรกแซงระหว่างกระบวนการนี้ทําให้การฟื้นคืนชีพของเขาไม่สมบูรณ์ตามแนวคิดนี้การฟื้นคืนชีพของเหล่าเทพย่อมยากลําบากกว่าปีศาจอมตะฉีเจียหลายเท่า”

ขณะกล่าวถ้อยคําเหล่านี้เทพธิดาจื่อเว่ยต้องคิดไปถึงเทพอมตะบัวสวรรค์

ในสงครามชะตากรรมการเคลื่อนไหวของเทพอมตะบัวสวรรค์ไม่ได้มุ่งเน้นที่การปกป้องวังสวรรค์

เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์รวมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เข้ากับเมืองจักรพรรดิแต่มันไม่ได้

เคลื่อนไหวในเวลานั้นอย่างไรก็ตามการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนพิสูจน์แล้วว่ามันสามารถเคลื่อนไหว

วิธีการต่างๆที่เทพอมตะบัวสวรรค์ทิ้งไว้เบื้องหลังทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกว่าเขาให้ความสําคัญกับสิ่งอื่นมากกว่าการปกป้องวังสวรรค์หรือวิญญาณชะตากรรม

‘ฟางหยวนอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้เช่นกันดังนั้นเขาจึงไม่โจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?

เทพธิดาจื่อเวยมองไปยังทิศทางของทะเลตะวันออก

ในช่วงเวลานี้ข่าวลือที่ยั่วยุให้ฟางหยวนต่อสู้กับวังสวรรค์ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างดุเดือด

ผู้คนกล่าวว่าการต่อสู้ระหว่างฟางหยวนกับเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ของวังสวรรค์จะตัดสินว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ปกครองโลก

วูหยงพึ่งเริ่มจุดไฟแต่ฝ่ายอื่นๆก็ช่วยเติมเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็ว

“เป็นแผนการที่ค่อนข้างดี แต่ฟางหยวนเป็นคนเช่นไรเขาจะตกลงสู่หลุมพรางนี้งั้นหรือ?”เทพธิดาจ๋อเว่ยเย้ยหยัน

เกมหมากรุกระดับโลกจะถูกเดินโดยตัวตนบนจุดสูงสุดเท่านั้น แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเข้าร่วม แต่ในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญานางสามารถมองเห็นสถานการณ์ทั้งหมด

แดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหลถูกปล้นสะดมอย่างสมบูรณ์ เทพธิดาจื่อเว่ยประสบความสําเร็จในการรับมรดกที่แท้จริงเงินไหลเช่นกัน

นี่คือมรดกบนเส้นทางแห่งโลหะของผู้อมตะเขาเงินระดับเจ็ดของภาคกลาง

หลังจากแน่ใจว่าไม่เหลือสิ่งใดให้ปล้นสะดม กลุ่มของเทพธิดาจื่อเว่ยก็จากไปทันทีสวรรค์สีดําา

ภายใต้การนําของปิงชายฉวนไห่ลั่วหลันมาถึงหน้าวังสวรรค์แห่งโชค

“ถ้าสวรรค์นิรันดรซ่อนไพ่ตายใบนี้เอาไว้!’หัวใจของไห่ลั่วหลันสั่นไหว

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่อยู่ตรงหน้านางหลังนี้ใหญ่โตกว่าแท่นบูชาแห่งโชคและดูยิ่งใหญ่กว่ามากโชค
“ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อพบบางคน” ปิงชายฉวนนําไห่ลั่วหลันเข้าไปในส่วนลึกของวังสวรรค์แห่ง“เป็นท่าน!?” รูม่านตาของไห่ลั่วหลันหดเล็กลงเมื่อนางเห็นผีดิบอมตะตะวันเดือด

นางเร่งคุกเข่าลงและทําความเคารพ“ทายาทอกตัญญูผู้นี้คารวะบรรพชนตะวันเดือด!”

“เด็กดี ลุกขึ้นเถอะ” ผีดิบอมตะตะวันเดือดเผยรอยยิ้มใจดี

พลังงานลึกลับช่วยประคองไห่ลั่วหลันให้ยืนขึ้น

นางลุกขึ้นและได้ยินผีดิบอมตะตะวันเดือดกล่าว“เจ้าคือทายาทที่โดดเด่นของข้าหากเราจะกล่าวถึงคนอกตัญญูมันควรเป็นเผ่าไห่ พวกเขาเป็นคนขี้ขลาดและยอมจํานนต่อคนนอก”ผีดิบอมตะตะวันเดือดหยุดก่อนกล่าวต่อ“ไห่ลั่วหลันตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าจะฝึกฝนอยู่ในวังสวรรค์แห่งโชคในอนาคตเจ้าจะกลับไปภาคเหนือและสร้างเผ่าไห่ขึ้นมาอีกครั้ง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2075 การฟื้นคืนของเทพ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2075 การฟื้นคืนของเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2075 การฟื้นคืนของเทพ

ภาคกลางแดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหล

“ปล่อยข่าไป!

“ถอย! นางคือปีศาจจื่อเวย!นางไม่ใช่คนที่พวกเราจะสามารถต่อต้าน!”

“โชคร้ายนักเราพึ่งบุกเข้ามาแต่กลับพบนางปีศาจจื่อเวย!”

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางถอนหายใจขณะพยายามหลบหนี

“ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าจากไปงั้นหรือ?”เทพธิดาจื่อเว่ยเย้ยหยันและปลดปล่อยแสงสีม่วงออกมาจากร่างแสงสีม่วงส่องลงมาจากท้องฟ้าผู้อมตะภาคกลางส่วนใหญ่เสียชีวิตอย่างน่าสังเวช ณ จุดเกิดเหตุมีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต

เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้อมตะระดับแปดและเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่เปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ดความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากเกินไป

หลังจากสังหารกลุ่มผู้อมตะเทพธิดาจื่อเว่ยโบกมือส่งดวงวิญญาณของคนตายไปยังอิงอู๋เซี่ย

“รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของนายท่านจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากกลืนกินพวกมัน”

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยกลับไม่รู้สึกยินดี เขาอยู่ในสภาพจิตตก “เห้อ….แม้รากฐานของข้าจะแข็งแกร่งขึ้น แล้วอย่างไร? ร่างหลักตายแล้ว ข้าเป็นเพียงดวงวิญญาณแยกที่เหลืออยู่”“นายท่านอย่าเสียกําลังใจ”อันซุนโน้มน้าว“ข้านําทรัพยากรบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทั้งหมดของถ้ำสวรรค์วิญญาณสงบออกมาพวกมันจะช่วยสนับสนุนการบ่มเพาะของท่าน”ในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันซุนมารวมกลุ่มกับเทพธิดาจื่อเว่ยและอิงอู๋เซี่ยเรียบร้อยแล้วหลังจากกระตุ้นอิงอู๋เซี่ยอันซุนก็พูดกับเทพธิดาจื่อเว่ย“ท่านหญิงจื่อเว่ยท่านตั้งใจปล่อยผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงผู้นั้นไปเหตุใดท่านจึงทําเช่นนั้น?ท่านหวังว่าเขาจะนําผู้อมตะมามากกว่างั้นหรือ?”

ดวงวิญญาณของอันซุนถูกดัดแปลงโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาภักดีต่ออิงอู๋เซี่ยเป็นอย่างมากเขาจะคัดค้านสิ่งที่ขัดต่อผลประโยชน์ของอิงอู๋เซี่ย

ตอนนี้เขากําลังมองเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยท่าทีสงสัย

เทพธิดาจ๋อเว่ยเย้ยหยันและไม่ตอบสนอง

อิงอู๋เซี่ยกล่าว “หากข่าเดาไม่ผิดผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงผู้นั้นควรเป็นนักรบแรดเขาเหล็กเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนจากถ้ำสวรรค์นักรบอสูรหลังสงครามชะตา กรรมเขายังเตร็ดแตร่อยู่ที่โลกภายนอก”

อันซุนขมวดคิ้วด้วยความขุ่นเคือง“ฟางหยวนสังหารร่างหลักของนายท่านเขาเป็นศัตรูของเราเหตุใดต้องปล่อยเขาไป!”

อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจ“ตอนนี้ฟางหยวนแข็งแกร่งมากเขาเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์และปกครองพื้นที่บางส่วนของทะเลตะวันออกเขาแสดงพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวออก

มาในการต่อสู้ที่ทะเลตะวันออกนี่หมายความว่าเขาหลุดพ้นจากพันธนากรของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์แล้วตอนนี้เขากําลังเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับไปเจ้าคิดว่ากองกําลังใดจะกล้ากีดขวางพวกเขาแม้แต่สิบนิกายโบราณของภาคกลางก็ยังต้องเพิกเฉยต่อมัน

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวเสริม “ฟางหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงและชั่วร้ายในวัยเยาว์เขากวาดล้างตระกูลของตนเองเพื่อยกระดับพรสวรรค์เขาเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไม่ว่าจะเป็นสงครามชะตากรรมหรือการต่อสู้ไล่ล่าครั้งก่อนเขาทอดทิ้งผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่ลังเลแม้

เราจะสังหารนักรบแรดเหล็กผู้นี้เราก็ไม่สามารถสร้างความสูญเสียให้กับฟางหยวน”

“บัดซบ!” อันซุนกําหมัดแน่น “เราไม่สามารถทําสิ่งใดกับเขาเลยงั้นหรือ? แม้แต่การฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขายังเป็นภัยคุกคามหากฟางหยวนตัดสินใจเอาความเรื่องนี้เนื่องจากปีศาจตนนี้สามารถกู้คืนพลังการต่อสู้เหตุใดเขาไม่ไปสู้กับวังสวรรค์?”

เทพธิดาจื่อเวยวิเคราะห์ขณะปล้นสะดมแดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหล‘ข้าคิดว่าฟางหยวนกําลังขาดแคลนพลังงานอมตะเขาพึ่งต่อสู้กับบรรพชนทะเลปราณตอนนี้เขากําลังพักผ่อนเพื่อสะสมพลังงานอมตะ”

“ท่านแน่ใจหรือไม่?” ดวงตาของอันซุนส่องประกายขึ้น “บางทีเราอาจสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้!”

เทพธิดาจื่อเว่ยเงียบอีกครั้ง

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเราได้รับสิ่งใดมากที่สุดจากการต่อสู้กับฟางหยวน?”“สิ่งใด?”อันซนถาม

“มันคือคนเช่นฟางหยวนไม่สามารถประเมินได้ด้วยสามัญสํานึก สถานการณ์ทั้งหมดทําให้สามัญสํานึกของเราบอกว่าเขากําลังขาดแคลนพลังงานอมตะในเวลานี้แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นอย่างไรเขากําลังวางแผนการใดอยู่ในขณะนี้เขามีวิธีการมากมายแม้แต่ร่างหลักของข้าก็ตกลงสู่หลุมพรางของเขามันไม่ง่ายเลยที่เราจะหลบหนีออกมาอย่าพยายามยั่วยุเขาหากไม่จําเป็น”อิงอู๋เซี่ยอธิบาย

เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว คํากล่าวของอิงอู๋เซี่ยไม่ได้ทําให้นางผิดหวังแต่นางรู้สึกกังวลเกี่ยวกับขวัญกําลังใจของเขา

ฟางหยวนแสดงความแข็งแกร่งบ่อยเกินไปและทําให้อิงอู๋เซี่ยรู้สึกหวาดกลัวนี่ไม่ใช่นิสัยของเทพปีศาจจิตวิญญาณอิงอู๋เซี่ยไม่ได้เป็นเพียงดวงวิญญาณแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณเขาเป็นเจ้านายที่เทพ

ธิดาจื่อเว่ยและอันซุนทุ่มเทความภักดี พวกเขากําลังตั้งตารอให้เขาฟื้นคืนชีพเพื่อยกระดับขวัญกําลังใจของอิงอู๋เซี่ยเทพธิดาจื่อเว่ยครุ่นคิดก่อนกล่าว“ฟางหยวนน่ากลัวจริงๆเขาถูกกดันจากทุกฝ่ายเสมอเขาต้องเตร็ดแตร่ไปรอบๆจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในสภาพที่ไม่ปลอดภัย”

“ตามการคาดเดาของข้า ฟางหยวนเป็นเพียงตัวหมากที่เหล่าเทพใช้ทําลายวิญญาณชะตากรรมตอนนี้เขากลายเป็นตัวหมากที่ถูกละทิ้ง เหล่าเทพต้องการกําจัดเขาไม่ว่าจะเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์หรือการไล่ล่าของเทพปีศาจจิตวิญญาณทั้งคู่เป็นหลักฐานที่ดีสําหรับเรื่องนี้”

“แต่ตอนนี้ฟางหยวนสามารถหลบหนีจากพันธนาการและการไล่ล่าสังหารของเทพปีศาจจิตวิญญาณก่อนหน้าเขาไม่มีเวลาแต่ตอนนี้เขามีแล้ว”

“ปัจจุบันความแข็งแกร่งของเขากกําลังเพิ่มขึ้นตลอดเวลา แม้ข้าจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาและต่อสู้กับฟางหยวนมาหลายครั้งแต่ข้าก็ยังไม่สามารถประเมินการเติบโตของเขา”“แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงใดตราบเท่าที่เขายังไม่ใช่เทพเขาก็จะไม่อยู่ยงคงกระพัน”เทพธิดาจื่อเว่ยเปลี่ยนเรื่อง

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น“ผู้ใดจะรู้ฟางหยวนอาจกลายเป็นเทพปีศาจในครั้งต่อไปที่เขาปรากฏตัว”

“ไม่” เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม“ดินแดนของเทพไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวเข้าไปตั้งแต่โบราณมีเทพเพียงสิบคนเท่านั้นการก้าวเข้าสู่ระดับเทพมีความลับซ่อนอยู่มากมายเบาะแสทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า

เหล่าเทพจะไม่บอกความลับนี้แก่ฟางหยวน”

“เป็นเช่นนั้น!”อันซุนกล่าวด้วยความตื่นเต้น“นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก ตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่กลายเป็นเทพเขาก็ยังเป็นเพียงกึ่งเทพ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดเขาก็ยังมีขีดจํากัดไม่ว่าจะเป็นบรรพชนทะเลปราณหรือเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทังสองยังสามารถต่อสู้กับเขา”อิงอู๋เซี่ยกล่าว“หมายความว่าตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่ใช่เทพเราก็ยังมีความหวังงั้นหรือ?”เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า“แม้ฟางหยวนจะแข็งแกร่งแต่เขาก็มีขีดจํากัดวิญญาณชะตากรรมถูกทําลายอนาคตกลายเป็นไม่แน่นอนปีศาจอมตะฉีเจียสามารถฟื้นคืนชีพไม่มีเหตุผลที่เหล่าเทพจะไม่สามารถ!ท้ายที่สุดปีศาจอมตะฉีเจียก็เป็นเพียงกึ่งเทพเท่านั้น”

หัวใจของอันซุนสั่นสะท้านขึ้น“ท่านหญิงจื่อเว่ยท่านเคยเป็นผู้นําวังสวรรค์เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านมีเบาะแสการฟื้นคืนชีพของเทพอมตะ?”

เทพธิดาจื่อเว่ยส่ายศีรษะ“นี่เป็นเพียงการคาดเดาของข้า ข้าไม่มีหลักฐานแต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือยิ่งผู้อมตะแข็งแกร่งมากเท่าใดมันก็ยิ่งยากสําหรับพวกเขาที่จะฟื้นคืนชีพมากเท่านั้นปีศาจอม

ตะฉีเจียฟื้นคืนชีพด้วยการหยิบยืนพลังอํานาจของผลไม้ปราณ อย่างไรก็ตามการแทรกแซงระหว่างกระบวนการนี้ทําให้การฟื้นคืนชีพของเขาไม่สมบูรณ์ตามแนวคิดนี้การฟื้นคืนชีพของเหล่าเทพย่อมยากลําบากกว่าปีศาจอมตะฉีเจียหลายเท่า”

ขณะกล่าวถ้อยคําเหล่านี้เทพธิดาจื่อเว่ยต้องคิดไปถึงเทพอมตะบัวสวรรค์

ในสงครามชะตากรรมการเคลื่อนไหวของเทพอมตะบัวสวรรค์ไม่ได้มุ่งเน้นที่การปกป้องวังสวรรค์

เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์รวมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เข้ากับเมืองจักรพรรดิแต่มันไม่ได้

เคลื่อนไหวในเวลานั้นอย่างไรก็ตามการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนพิสูจน์แล้วว่ามันสามารถเคลื่อนไหว

วิธีการต่างๆที่เทพอมตะบัวสวรรค์ทิ้งไว้เบื้องหลังทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกว่าเขาให้ความสําคัญกับสิ่งอื่นมากกว่าการปกป้องวังสวรรค์หรือวิญญาณชะตากรรม

‘ฟางหยวนอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้เช่นกันดังนั้นเขาจึงไม่โจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?

เทพธิดาจื่อเวยมองไปยังทิศทางของทะเลตะวันออก

ในช่วงเวลานี้ข่าวลือที่ยั่วยุให้ฟางหยวนต่อสู้กับวังสวรรค์ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างดุเดือด

ผู้คนกล่าวว่าการต่อสู้ระหว่างฟางหยวนกับเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ของวังสวรรค์จะตัดสินว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ปกครองโลก

วูหยงพึ่งเริ่มจุดไฟแต่ฝ่ายอื่นๆก็ช่วยเติมเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็ว

“เป็นแผนการที่ค่อนข้างดี แต่ฟางหยวนเป็นคนเช่นไรเขาจะตกลงสู่หลุมพรางนี้งั้นหรือ?”เทพธิดาจ๋อเว่ยเย้ยหยัน

เกมหมากรุกระดับโลกจะถูกเดินโดยตัวตนบนจุดสูงสุดเท่านั้น แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเข้าร่วม แต่ในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญานางสามารถมองเห็นสถานการณ์ทั้งหมด

แดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหลถูกปล้นสะดมอย่างสมบูรณ์ เทพธิดาจื่อเว่ยประสบความสําเร็จในการรับมรดกที่แท้จริงเงินไหลเช่นกัน

นี่คือมรดกบนเส้นทางแห่งโลหะของผู้อมตะเขาเงินระดับเจ็ดของภาคกลาง

หลังจากแน่ใจว่าไม่เหลือสิ่งใดให้ปล้นสะดม กลุ่มของเทพธิดาจื่อเว่ยก็จากไปทันทีสวรรค์สีดําา

ภายใต้การนําของปิงชายฉวนไห่ลั่วหลันมาถึงหน้าวังสวรรค์แห่งโชค

“ถ้าสวรรค์นิรันดรซ่อนไพ่ตายใบนี้เอาไว้!’หัวใจของไห่ลั่วหลันสั่นไหว

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่อยู่ตรงหน้านางหลังนี้ใหญ่โตกว่าแท่นบูชาแห่งโชคและดูยิ่งใหญ่กว่ามากโชค
“ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อพบบางคน” ปิงชายฉวนนําไห่ลั่วหลันเข้าไปในส่วนลึกของวังสวรรค์แห่ง“เป็นท่าน!?” รูม่านตาของไห่ลั่วหลันหดเล็กลงเมื่อนางเห็นผีดิบอมตะตะวันเดือด

นางเร่งคุกเข่าลงและทําความเคารพ“ทายาทอกตัญญูผู้นี้คารวะบรรพชนตะวันเดือด!”

“เด็กดี ลุกขึ้นเถอะ” ผีดิบอมตะตะวันเดือดเผยรอยยิ้มใจดี

พลังงานลึกลับช่วยประคองไห่ลั่วหลันให้ยืนขึ้น

นางลุกขึ้นและได้ยินผีดิบอมตะตะวันเดือดกล่าว“เจ้าคือทายาทที่โดดเด่นของข้าหากเราจะกล่าวถึงคนอกตัญญูมันควรเป็นเผ่าไห่ พวกเขาเป็นคนขี้ขลาดและยอมจํานนต่อคนนอก”ผีดิบอมตะตะวันเดือดหยุดก่อนกล่าวต่อ“ไห่ลั่วหลันตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าจะฝึกฝนอยู่ในวังสวรรค์แห่งโชคในอนาคตเจ้าจะกลับไปภาคเหนือและสร้างเผ่าไห่ขึ้นมาอีกครั้ง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2075 การฟื้นคืนของเทพ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2075 การฟื้นคืนของเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2075 การฟื้นคืนของเทพ

ภาคกลางแดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหล

“ปล่อยข่าไป!

“ถอย! นางคือปีศาจจื่อเวย!นางไม่ใช่คนที่พวกเราจะสามารถต่อต้าน!”

“โชคร้ายนักเราพึ่งบุกเข้ามาแต่กลับพบนางปีศาจจื่อเวย!”

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางถอนหายใจขณะพยายามหลบหนี

“ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าจากไปงั้นหรือ?”เทพธิดาจื่อเว่ยเย้ยหยันและปลดปล่อยแสงสีม่วงออกมาจากร่างแสงสีม่วงส่องลงมาจากท้องฟ้าผู้อมตะภาคกลางส่วนใหญ่เสียชีวิตอย่างน่าสังเวช ณ จุดเกิดเหตุมีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต

เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้อมตะระดับแปดและเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่เปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ดความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากเกินไป

หลังจากสังหารกลุ่มผู้อมตะเทพธิดาจื่อเว่ยโบกมือส่งดวงวิญญาณของคนตายไปยังอิงอู๋เซี่ย

“รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของนายท่านจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากกลืนกินพวกมัน”

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยกลับไม่รู้สึกยินดี เขาอยู่ในสภาพจิตตก “เห้อ….แม้รากฐานของข้าจะแข็งแกร่งขึ้น แล้วอย่างไร? ร่างหลักตายแล้ว ข้าเป็นเพียงดวงวิญญาณแยกที่เหลืออยู่”“นายท่านอย่าเสียกําลังใจ”อันซุนโน้มน้าว“ข้านําทรัพยากรบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทั้งหมดของถ้ำสวรรค์วิญญาณสงบออกมาพวกมันจะช่วยสนับสนุนการบ่มเพาะของท่าน”ในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันซุนมารวมกลุ่มกับเทพธิดาจื่อเว่ยและอิงอู๋เซี่ยเรียบร้อยแล้วหลังจากกระตุ้นอิงอู๋เซี่ยอันซุนก็พูดกับเทพธิดาจื่อเว่ย“ท่านหญิงจื่อเว่ยท่านตั้งใจปล่อยผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงผู้นั้นไปเหตุใดท่านจึงทําเช่นนั้น?ท่านหวังว่าเขาจะนําผู้อมตะมามากกว่างั้นหรือ?”

ดวงวิญญาณของอันซุนถูกดัดแปลงโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาภักดีต่ออิงอู๋เซี่ยเป็นอย่างมากเขาจะคัดค้านสิ่งที่ขัดต่อผลประโยชน์ของอิงอู๋เซี่ย

ตอนนี้เขากําลังมองเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยท่าทีสงสัย

เทพธิดาจ๋อเว่ยเย้ยหยันและไม่ตอบสนอง

อิงอู๋เซี่ยกล่าว “หากข่าเดาไม่ผิดผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงผู้นั้นควรเป็นนักรบแรดเขาเหล็กเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนจากถ้ำสวรรค์นักรบอสูรหลังสงครามชะตา กรรมเขายังเตร็ดแตร่อยู่ที่โลกภายนอก”

อันซุนขมวดคิ้วด้วยความขุ่นเคือง“ฟางหยวนสังหารร่างหลักของนายท่านเขาเป็นศัตรูของเราเหตุใดต้องปล่อยเขาไป!”

อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจ“ตอนนี้ฟางหยวนแข็งแกร่งมากเขาเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์และปกครองพื้นที่บางส่วนของทะเลตะวันออกเขาแสดงพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวออก

มาในการต่อสู้ที่ทะเลตะวันออกนี่หมายความว่าเขาหลุดพ้นจากพันธนากรของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์แล้วตอนนี้เขากําลังเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับไปเจ้าคิดว่ากองกําลังใดจะกล้ากีดขวางพวกเขาแม้แต่สิบนิกายโบราณของภาคกลางก็ยังต้องเพิกเฉยต่อมัน

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวเสริม “ฟางหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงและชั่วร้ายในวัยเยาว์เขากวาดล้างตระกูลของตนเองเพื่อยกระดับพรสวรรค์เขาเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไม่ว่าจะเป็นสงครามชะตากรรมหรือการต่อสู้ไล่ล่าครั้งก่อนเขาทอดทิ้งผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่ลังเลแม้

เราจะสังหารนักรบแรดเหล็กผู้นี้เราก็ไม่สามารถสร้างความสูญเสียให้กับฟางหยวน”

“บัดซบ!” อันซุนกําหมัดแน่น “เราไม่สามารถทําสิ่งใดกับเขาเลยงั้นหรือ? แม้แต่การฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขายังเป็นภัยคุกคามหากฟางหยวนตัดสินใจเอาความเรื่องนี้เนื่องจากปีศาจตนนี้สามารถกู้คืนพลังการต่อสู้เหตุใดเขาไม่ไปสู้กับวังสวรรค์?”

เทพธิดาจื่อเวยวิเคราะห์ขณะปล้นสะดมแดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหล‘ข้าคิดว่าฟางหยวนกําลังขาดแคลนพลังงานอมตะเขาพึ่งต่อสู้กับบรรพชนทะเลปราณตอนนี้เขากําลังพักผ่อนเพื่อสะสมพลังงานอมตะ”

“ท่านแน่ใจหรือไม่?” ดวงตาของอันซุนส่องประกายขึ้น “บางทีเราอาจสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้!”

เทพธิดาจื่อเว่ยเงียบอีกครั้ง

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเราได้รับสิ่งใดมากที่สุดจากการต่อสู้กับฟางหยวน?”“สิ่งใด?”อันซนถาม

“มันคือคนเช่นฟางหยวนไม่สามารถประเมินได้ด้วยสามัญสํานึก สถานการณ์ทั้งหมดทําให้สามัญสํานึกของเราบอกว่าเขากําลังขาดแคลนพลังงานอมตะในเวลานี้แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นอย่างไรเขากําลังวางแผนการใดอยู่ในขณะนี้เขามีวิธีการมากมายแม้แต่ร่างหลักของข้าก็ตกลงสู่หลุมพรางของเขามันไม่ง่ายเลยที่เราจะหลบหนีออกมาอย่าพยายามยั่วยุเขาหากไม่จําเป็น”อิงอู๋เซี่ยอธิบาย

เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว คํากล่าวของอิงอู๋เซี่ยไม่ได้ทําให้นางผิดหวังแต่นางรู้สึกกังวลเกี่ยวกับขวัญกําลังใจของเขา

ฟางหยวนแสดงความแข็งแกร่งบ่อยเกินไปและทําให้อิงอู๋เซี่ยรู้สึกหวาดกลัวนี่ไม่ใช่นิสัยของเทพปีศาจจิตวิญญาณอิงอู๋เซี่ยไม่ได้เป็นเพียงดวงวิญญาณแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณเขาเป็นเจ้านายที่เทพ

ธิดาจื่อเว่ยและอันซุนทุ่มเทความภักดี พวกเขากําลังตั้งตารอให้เขาฟื้นคืนชีพเพื่อยกระดับขวัญกําลังใจของอิงอู๋เซี่ยเทพธิดาจื่อเว่ยครุ่นคิดก่อนกล่าว“ฟางหยวนน่ากลัวจริงๆเขาถูกกดันจากทุกฝ่ายเสมอเขาต้องเตร็ดแตร่ไปรอบๆจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในสภาพที่ไม่ปลอดภัย”

“ตามการคาดเดาของข้า ฟางหยวนเป็นเพียงตัวหมากที่เหล่าเทพใช้ทําลายวิญญาณชะตากรรมตอนนี้เขากลายเป็นตัวหมากที่ถูกละทิ้ง เหล่าเทพต้องการกําจัดเขาไม่ว่าจะเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์หรือการไล่ล่าของเทพปีศาจจิตวิญญาณทั้งคู่เป็นหลักฐานที่ดีสําหรับเรื่องนี้”

“แต่ตอนนี้ฟางหยวนสามารถหลบหนีจากพันธนาการและการไล่ล่าสังหารของเทพปีศาจจิตวิญญาณก่อนหน้าเขาไม่มีเวลาแต่ตอนนี้เขามีแล้ว”

“ปัจจุบันความแข็งแกร่งของเขากกําลังเพิ่มขึ้นตลอดเวลา แม้ข้าจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาและต่อสู้กับฟางหยวนมาหลายครั้งแต่ข้าก็ยังไม่สามารถประเมินการเติบโตของเขา”“แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงใดตราบเท่าที่เขายังไม่ใช่เทพเขาก็จะไม่อยู่ยงคงกระพัน”เทพธิดาจื่อเว่ยเปลี่ยนเรื่อง

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น“ผู้ใดจะรู้ฟางหยวนอาจกลายเป็นเทพปีศาจในครั้งต่อไปที่เขาปรากฏตัว”

“ไม่” เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม“ดินแดนของเทพไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวเข้าไปตั้งแต่โบราณมีเทพเพียงสิบคนเท่านั้นการก้าวเข้าสู่ระดับเทพมีความลับซ่อนอยู่มากมายเบาะแสทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า

เหล่าเทพจะไม่บอกความลับนี้แก่ฟางหยวน”

“เป็นเช่นนั้น!”อันซุนกล่าวด้วยความตื่นเต้น“นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก ตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่กลายเป็นเทพเขาก็ยังเป็นเพียงกึ่งเทพ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดเขาก็ยังมีขีดจํากัดไม่ว่าจะเป็นบรรพชนทะเลปราณหรือเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทังสองยังสามารถต่อสู้กับเขา”อิงอู๋เซี่ยกล่าว“หมายความว่าตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่ใช่เทพเราก็ยังมีความหวังงั้นหรือ?”เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า“แม้ฟางหยวนจะแข็งแกร่งแต่เขาก็มีขีดจํากัดวิญญาณชะตากรรมถูกทําลายอนาคตกลายเป็นไม่แน่นอนปีศาจอมตะฉีเจียสามารถฟื้นคืนชีพไม่มีเหตุผลที่เหล่าเทพจะไม่สามารถ!ท้ายที่สุดปีศาจอมตะฉีเจียก็เป็นเพียงกึ่งเทพเท่านั้น”

หัวใจของอันซุนสั่นสะท้านขึ้น“ท่านหญิงจื่อเว่ยท่านเคยเป็นผู้นําวังสวรรค์เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านมีเบาะแสการฟื้นคืนชีพของเทพอมตะ?”

เทพธิดาจื่อเว่ยส่ายศีรษะ“นี่เป็นเพียงการคาดเดาของข้า ข้าไม่มีหลักฐานแต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือยิ่งผู้อมตะแข็งแกร่งมากเท่าใดมันก็ยิ่งยากสําหรับพวกเขาที่จะฟื้นคืนชีพมากเท่านั้นปีศาจอม

ตะฉีเจียฟื้นคืนชีพด้วยการหยิบยืนพลังอํานาจของผลไม้ปราณ อย่างไรก็ตามการแทรกแซงระหว่างกระบวนการนี้ทําให้การฟื้นคืนชีพของเขาไม่สมบูรณ์ตามแนวคิดนี้การฟื้นคืนชีพของเหล่าเทพย่อมยากลําบากกว่าปีศาจอมตะฉีเจียหลายเท่า”

ขณะกล่าวถ้อยคําเหล่านี้เทพธิดาจื่อเว่ยต้องคิดไปถึงเทพอมตะบัวสวรรค์

ในสงครามชะตากรรมการเคลื่อนไหวของเทพอมตะบัวสวรรค์ไม่ได้มุ่งเน้นที่การปกป้องวังสวรรค์

เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์รวมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เข้ากับเมืองจักรพรรดิแต่มันไม่ได้

เคลื่อนไหวในเวลานั้นอย่างไรก็ตามการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนพิสูจน์แล้วว่ามันสามารถเคลื่อนไหว

วิธีการต่างๆที่เทพอมตะบัวสวรรค์ทิ้งไว้เบื้องหลังทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกว่าเขาให้ความสําคัญกับสิ่งอื่นมากกว่าการปกป้องวังสวรรค์หรือวิญญาณชะตากรรม

‘ฟางหยวนอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้เช่นกันดังนั้นเขาจึงไม่โจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?

เทพธิดาจื่อเวยมองไปยังทิศทางของทะเลตะวันออก

ในช่วงเวลานี้ข่าวลือที่ยั่วยุให้ฟางหยวนต่อสู้กับวังสวรรค์ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างดุเดือด

ผู้คนกล่าวว่าการต่อสู้ระหว่างฟางหยวนกับเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ของวังสวรรค์จะตัดสินว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ปกครองโลก

วูหยงพึ่งเริ่มจุดไฟแต่ฝ่ายอื่นๆก็ช่วยเติมเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็ว

“เป็นแผนการที่ค่อนข้างดี แต่ฟางหยวนเป็นคนเช่นไรเขาจะตกลงสู่หลุมพรางนี้งั้นหรือ?”เทพธิดาจ๋อเว่ยเย้ยหยัน

เกมหมากรุกระดับโลกจะถูกเดินโดยตัวตนบนจุดสูงสุดเท่านั้น แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเข้าร่วม แต่ในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญานางสามารถมองเห็นสถานการณ์ทั้งหมด

แดนศักดิ์สิทธิ์เงินไหลถูกปล้นสะดมอย่างสมบูรณ์ เทพธิดาจื่อเว่ยประสบความสําเร็จในการรับมรดกที่แท้จริงเงินไหลเช่นกัน

นี่คือมรดกบนเส้นทางแห่งโลหะของผู้อมตะเขาเงินระดับเจ็ดของภาคกลาง

หลังจากแน่ใจว่าไม่เหลือสิ่งใดให้ปล้นสะดม กลุ่มของเทพธิดาจื่อเว่ยก็จากไปทันทีสวรรค์สีดําา

ภายใต้การนําของปิงชายฉวนไห่ลั่วหลันมาถึงหน้าวังสวรรค์แห่งโชค

“ถ้าสวรรค์นิรันดรซ่อนไพ่ตายใบนี้เอาไว้!’หัวใจของไห่ลั่วหลันสั่นไหว

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่อยู่ตรงหน้านางหลังนี้ใหญ่โตกว่าแท่นบูชาแห่งโชคและดูยิ่งใหญ่กว่ามากโชค
“ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อพบบางคน” ปิงชายฉวนนําไห่ลั่วหลันเข้าไปในส่วนลึกของวังสวรรค์แห่ง“เป็นท่าน!?” รูม่านตาของไห่ลั่วหลันหดเล็กลงเมื่อนางเห็นผีดิบอมตะตะวันเดือด

นางเร่งคุกเข่าลงและทําความเคารพ“ทายาทอกตัญญูผู้นี้คารวะบรรพชนตะวันเดือด!”

“เด็กดี ลุกขึ้นเถอะ” ผีดิบอมตะตะวันเดือดเผยรอยยิ้มใจดี

พลังงานลึกลับช่วยประคองไห่ลั่วหลันให้ยืนขึ้น

นางลุกขึ้นและได้ยินผีดิบอมตะตะวันเดือดกล่าว“เจ้าคือทายาทที่โดดเด่นของข้าหากเราจะกล่าวถึงคนอกตัญญูมันควรเป็นเผ่าไห่ พวกเขาเป็นคนขี้ขลาดและยอมจํานนต่อคนนอก”ผีดิบอมตะตะวันเดือดหยุดก่อนกล่าวต่อ“ไห่ลั่วหลันตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าจะฝึกฝนอยู่ในวังสวรรค์แห่งโชคในอนาคตเจ้าจะกลับไปภาคเหนือและสร้างเผ่าไห่ขึ้นมาอีกครั้ง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+