Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ

ในประวัติศาสตร์นานกว่าสามล้านปีของโลกใบนี้มีผู้อมตะระดับเก้าปรากฏขึ้นเพียงสิบคนเท่านั้น

อัจฉริยะมากมายของห้าภูมิภาคและสองสวรรค์เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าขณะที่สิบผู้อมตะระดับเก้าเหมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างไสว

ความรุ่งโรจน์ของพวกเขาไม่เคยจางหาย ตํานานของพวกเขาถูกกล่าวถึงอย่างไม่รู้จบสิ้นพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิบ

สามล้านปีก่อนถูกเรียกว่ายุคแรกกําเนิดมันเป็นจุดเริ่มต้นของเทพอมตะแรกกําเนิดและเทพอมตะกลุ่มดาว

หนึ่งล้านปีก่อนถูกเรียกว่ายุคบรรพกาล ยุคนี้มีเทพปีศาจไร้ขอบเขต เทพปีศาจคลั่งและเทพปีศาจบัวแดง

สามแสนปีก่อนถูกเรียกว่ายุคกลาง เทพอมตะบัวสวรรค์ เทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพอมตะตะวันเดือดถือกําเนิดขึ้นในยุคนี้

หนึ่งแสนปีก่อนถูกเรียกว่ายุคโบราณตอนปลาย เทพปีศาจจิตวิญญาณและเทพอมตะสวรรค์พิภพอยู่ในยุคนี้

สิบผู้อมตะระดับเก้ากําหราบโลกทั้งใบด้วยพลังอํานาจอันเป็นที่สุด พวกเขาเป็นผู้ปกครองของยุคสมัยโดยไม่มีคู่แข่งขัน

วิธีการของพวกเขาล้วนน่าตกตะลึง แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีการจัดเตรียมมากมายสําหรับอนาคต

แผนการของพวกเขาแผ่ขยายไปทุกยุคสมัย พวกเขาใช้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเป็นตัวประกันแม้กระทั่งหลังความตาย พวกเขายังมีอิทธิพลต่อคนรุ่นหลัง

ฟางหยวนตระหนักถึงช่องว่างของเขากับเหล่าเทพอย่างชัดเจน แม้เขาจะเป็นจักรพรรดิปีศาจอันดับหนึ่งของโลกยุคปัจจุบัน แต่เขายังไม่สามารถต่อสู้กับเทพที่แท้จริง

สงครามชะตากรรมเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สําหรับทุกคน การจัดเตรียมของเทพแต่ละคนสามารถพลิกสถานการณ์ได้ทันที

มีเพียงเทพเท่านั้นที่สามารถต่อต้านเทพอีกคน

เหตุผลที่ฟางหยวนประสบความสําเร็จในสงครามชะตากรรมส่วนหนึ่งมาจากการต่อสู้ระหว่างเทพทั้งสิบ

ทั้งหมดทําให้ฟางหยวนรู้สึกประทับใจเหล่าเทพเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเขามีความปรารถนาที่จะต่อสู้กับตัวตนเหล่านั้น

เมื่อพวกเขาสามารถกลายเป็นเทพ เหตุใดฟางหยวนจะไม่สามารถ?

นอกจากนี้เพื่อการไล่ล่าชีวิตนิรันดร์ การบ่มเพาะระดับเก้าก็เป็นเพียงบันไดขั้นหนึ่งสําหรับฟางหยวนเท่านั้น

แผนการก้าวเข้าสู่ระดับเก้าของเขาถูกกําหนดไว้แล้วตั้งแต่เขาเกิดใหม่

หลายปีก่อนเมื่อฟางหยวนพึ่งเกิดใหม่ เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ําคืนและมองดวงจันทร์ เขารู้สึกถึงความไร้นัยสําคัญของตนเอง แต่ตอนนี้เมื่อเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ผู้อมตะระดับเก้า กลับเป็นเพียงบันไดขั้นต่อไปของเขา

แต่เขาจะกลายเป็นเทพได้อย่างไร?

ฟางหยวนไม่รู้ เขาไม่แน่ใจและไม่เข้าใจ

มีความลับที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังการก้าวเข้าสู่ระดับเทพ!

ความลับนี้ไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

ดูเหมือนเทพทั้งสิบจะมีข้อตกลงโดยปริยาย พวกเขาเลือกที่จะเก็บมันไว้เป็นความลับ

ไม่มีผู้ใดค้นพบความจริง พวกเขาทําได้เพียงวิเคราะห์โดยใช้เบาะแสทั่วไปเท่านั้น เทพทั้งสิบมีชายเก้าหญิงหนึ่ง นี่หมายความว่ามันไม่มีข้อจํากัดเรื่องเพศ

เทพมีพลังการต่อสู้อันเป็นที่สุดแต่พวกเขาไม่สามารถทําได้ทุกสิ่ง ตัวอย่างเช่นเทพอมตะ

ตะวันเดือดและเทพปีศาจปล้นสวรรค์ต้องขอให้บรรพชนผมยาวช่วยหลอมรวมวิญญาณอมตะให้กับพวกเขา

เทพสองคนไม่เคยปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน การต่อสู้ระหว่างเทพในสงครามชะตากรรมเป็น เพียงการจัดเตรียมที่พวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลังแดง

เทพแต่ละคนมีโชคตั้งแต่กําเนิด ชีวิตของพวกเขาจะราบรื่นมาก ตัวอย่างเช่นเทพปีศาจบัว

ดูเหมือนเทพแต่ละคนจะมีผู้พิทักษ์เต๋าเพียงหนึ่งเดียว ผู้พิทักษ์เต๋าจะมีบทบาทสําคัญในการเติบโตของเหล่าเทพ พวกเขาอาจเป็นได้ทั้งมิตรหรือศัตรู

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าความสําเร็จบนเส้นทางการบ่มเพาะของเหล่าเทพอยู่ในระดับปรมาจารย์สูงสุด

แม้พวกเขาจะกลายเป็นเทพ แต่อายุขัยของพวกเขายังมีจํากัด

เทพทั้งสิบล้วนมาจากเผ่ามนุษย์ ไม่เคยมีเทพเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ถือกําเนิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถยืนยันได้อย่างแท้จริง หนึ่งในการอนุมานที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือคําทํานายเกี่ยวกับสามเทพผู้อมตะอี้เยี่ยนกล่าวว่าในอนาคต

จะมีเทพปีศาจจิตวิญญาณ เทพอมตะสวรรค์พิภพ และเทพอมตะแห่งความฝัน

การอนุมานนี้ไม่เกี่ยวกับความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ นอกจากนั้นหลังจากฟาง

หยวนท่าลายวิญญาณชะตากรรม ค่าทํานายนี้ก็กลายเป็นไม่แน่นอน

แล้วความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพคือสิ่งใด?

ฟางหยวนต้องเรียนรู้ความลับเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

ความสําเร็จในการฟื้นคืนชีพของปีศาจอมตะฉีเจียเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดว่าเหล่าเทพจะฟื้นคืนชีพในไม่ช้า

ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการปัญหานี้ก็คือฟางหยวนต้องกลายเป็นเทพ!

ฟางหยวนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าเขาจะกลืนกินถ้ําสวรรค์ที่แห่งและมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ามากมายเพียงใด เขาก็ยังไม่สามารถกลายเป็นเทพ ดังนั้นเขาจึงต้องมาหาลั่วเว่ยหยินเพื่อ

เรียนรู้ความลับในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ สิ่งอื่นๆเช่นมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

หรือความหมายที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรรค์พิภพเป็นเพียงผลประโยชน์รองสําหรับฟางหยวนลั่วเว่ยหยินดื่มชาและเผยรอยยิ้มบาง

เขาไม่แปลกใจกับคําถามของฟางหยวน

เขาวางถ้อยชาลงก่อนจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “มีเงื่อนไขสี่ข้อที่ต้องทําหากต้องการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ”

“ข้อแรก แก่นแท้มิติช่องว่างต้องผลิตลิ้นจี่ขาวอมตะ”

“ข้อที่สอง ผู้อมตะต้องมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางที่บ่มเพาะอย่างน้อยสามแสนร่องรอย”

“ข้อที่สาม ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้อมตะต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์สูงสุด”

“ข้อที่สี่ หลังจากบรรลุเงื่อนไขสามข้อแรก ผู้อมตะต้องฝ่าด่านเต๋าสวรรค์ หลังจากนั้นแก่นแท้

มิติช่องว่างจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและผลิตลูกท้อเหลืองอมตะระดับเก้า” ลั่วเว่ยหยิบบอกความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะออกมาโดยตรง

เดิมทีฟางหยวนคิดว่าถั่วเว่ยหยินอาจต้องการทําธุรกรรมและระบุเงื่อนไขบางอย่างกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือเทพอมตะสวรรค์พิภพต้องมีเหตุผลในการเลือกฟางหยวนเป็นผู้สืบทอดของเขา

ฟางหยวนไม่รู้ว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพมีแผนการใด

แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าตราบเท่าที่เขาได้เรียนรู้ความลับเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

เขาก็เต็มใจยอมรับเงื่อนไขในระดับหนึ่งและทํางานร่วมกับเทพอมตะสวรรค์พิภพ

อย่างไรก็ตามมั่วเว่ยหยินกลับไม่ปิดบังความลับเรื่องนี้ เขาบอกฟางหยวนโดยตรง

การกระทําของลั่วเว่ยหยินไม่ได้ทําให้ฟางหยวนรู้สึกผ่อนคลายลง ตรงข้าม เขายิ่งระวังตัวมากขึ้น

ลั่วเว่ยหยินเป็นคนเจ้าเล่ห์และเจ้าแผนการ ฟางหยวนเคยตกลงสู่หลุมพรางของเขาและล้ม เหลวในการนําอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลับคืนมาแล้ว ระหว่างการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน ลั่วเว่ย

หยินยังแสดงความแข็งแกร่งทางจิตใจและความอดทนที่ยอดเยี่ยมของเขาออกมา

ตัวตนเช่นนี้ไม่สามารถรับมือไดโดยง่าย

ฟางหยวนคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเงื่อนไขสี่ข้อของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

‘เงื่อนไขสองข้อแรกหมายถึงผู้อมตะระดับแปดที่ผ่านหมื่นภัยพิบัติครบสามครั้ง ข้าบรรลุ

เงื่อนไขสองข้อนี้แล้วบนเส้นทางแห่งพลังปราณ เส้นทางแห่งกาลเวลา เส้นทางแห่งการหลอมรวม และเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง’

‘เงื่อนไขข้อที่สาม ความสําเร็จระดับปรมาจารย์สูงสุด ข้ายังไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขนี้ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เส้นทางแห่งกาลเวลา และเส้นทางแห่งทาสของข้าอยู่ใน

ระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด แต่มันยังมีช่องว่างขนาดใหญ่’

‘สําหรับเงื่อนไขข้อที่สี่ ฝ่าด่านเต๋าสวรรค์งั้นหรือ?’

ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะถาม “ฝ่าด่านเต๋าสวรรค์หมายถึงสิ่งใด?”

ลั่วเว่ยหยินอธิบาย “วิถีสวรรค์คือการกําจัดส่วนเกินและเพิ่มเติมส่วนขาด ด้วยวิธีนี้ทุกสิ่งจึงเกิดสมดุล ต้นไม้สูงเป็นสิ่งแรกที่จะเผชิญหน้ากับการทําลายล้างดินที่อยู่ใกล้แม่น้ํามากที่สุดจะเป็น

สิ่งแรกที่ถูกกระแสน้ําพัดพาไป อย่างไรก็ตามวิถีมนุษย์คือสิ่งตรงข้ามกับวิถีสวรรค์ มนุษย์พยายามเพิ่มเติมส่วนเกินด้วยการกลืนกินผู้อ่อนแอและเรียนรู้ต่อไป ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถเติบโตและ

ชดเชยความไม่ดีพอของเรา”

“เต๋าสวรรค์ไม่ต้องการให้ผู้คนแข็งแกร่งขึ้น นั่นเป็นที่มาของภัยพิบัติ ภัยพิบัติเป็นหนึ่งในปราการป้องกันของเต๋าสวรรค์ เพื่อกลายเป็นเทพ ผู้อมตะต้องก้าวข้ามภัยพิบัติที่อันตรายยิ่งกว่า

หมื่นภัยพิบัติ!”

“นอกจากนั้นยังมีภัยคุกคามเกี่ยวกับวิญญาณอายุยืน วิญญาณอายุยืนเป็นวิญญาณบนเส้นทางสวรรค์ มันไม่สามารถถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์กระทั่งเทพทั้งสิบก็ยังไม่สามารถทําสิ่งใด ในยุค ที่เทพถือก่าเนิดขึ้นผลผลิตวิญญาณอายุยืนจะลดน้อยลงอย่างมาก”

“ความยากลําบากอีกประการก็คือโชคชะตาที่ถูกกําหนดโดยวิญญาณชะตากรรมแต่เจ้า

ทําลายมันไปแล้ว”

ฟางหยวนไตร่ตรองก่อนกล่าว “โดยทั่วไปเต๋าสวรรค์จะใช้สามสิ่งนี้เป็นปราการป้องกันการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเทพ วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายไปแล้ววิญญาณอายุยืนไม่ใช่ปัญหา

อุปสรรคที่เหลืออยู่ของข้ามีเพียงการฝ่าด่านภัยพิบัติของเต๋าสวรรค์”

“มีวิธีต่อต้านภัยพิบัติของเต๋าสวรรค์หรือไม่? เทพในอดีตท่าอย่างไร?”

ลั่วเว่ยหยินตอบ “มีวิธีลัด เส้นทางแห่งโชคเป็นหนึ่งในนั้น เทพทุกคนในประวัติศาสตร์ล้วนโชคดีตั้งแต่กําเนิดโชคดีส่วนใหญ่ของพวกเขามักมาจากสองแหล่งด้านหนึ่งพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากเจตจํานงสวรรค์ อีกด้านหนึ่งพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากเส้นทางมนุษย์”

“สามล้านปีก่อน มนุษย์กลายพันธุ์แข็งแกร่งขณะที่มนุษย์อ่อนแอ เต๋าสวรรค์พยายามปราบปรามมนุษย์กลายพันธุ์ ดังนั้นเจตจํานงสวรรค์จึงช่วยเหลือเผ่ามนุษย์และอนุญาตให้บางคนกลายเป็นเทพ”

“ตัวอย่างที่ดีที่สุดของเทพที่ได้รับความโปรดปรานจากเส้นทางมนุษย์คือเทพปีศาจบัวแดง เขาเป็นบุตรแห่งมนุษยชาติ เขามีโชคที่ยิ่งใหญ่ตั้งแต่กําเนิด”

ฟางหยวนขมวดคิ้ว “เช่นนั้นวิธีบนเส้นทางมนุษย์สามารถทําลายปราการป้องกันของเต๋าสวรรค์หรือไม่?”

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนเคยใช้วิธีบนเส้นทางมนุษย์ต่อต้านเต๋าสวรรค์มาแล้ว ในแง่นี้เขาค่อนข้างมีประสบการณ์

ลั่วเว่ยหยินพยักหน้า “แท้จริงแล้ววิธีบนเส้นทางมนุษย์เป็นวิธีที่ดีในการฝ่าด่านเต๋าสวรรค์เทพทั้งสิบมีความพิเศษร่วมกันอยู่สิ่งหนึ่ง นั่นคือพวกเขาเข้าใจบางสิ่งจากตํานานมนุษย์คนแรกและ

สามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะระดับสูงบนเส้นทางมนุษย์!”

ทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกสักพัก ลั่วเว่ยหยินพยายามตอบคําถามของฟางหยวนอย่างสุดความสามารถ

สุดท้ายฟางหยวนก็เข้าใจเงื่อนไขในการกลายเป็นเทพ

หลังจากวิเคราะห์อย่างรอบคอบ เขาพบว่ามีเพียงสองจุดที่ยังเป็นปัญหาสําหรับเขาหนึ่งคือระดับความสําเร็จ สองคือเต๋าสวรรค์

ในแง่ของโชค ฟางหยวนมีหม้อปรุงโชค ในแง่ของเส้นทางมนุษย์ เขายังต้องพัฒนาและยกระดับต่อไป

ปัญหาที่แท้จริงคือระดับความสําเร็จ

มันมีช่องว่างขนาดใหญ่

ความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดดูเหมือนใกล้ระดับปรมาจารย์สูงสุด แต่ในความเป็นจริง

หากฟางหยวนมีเวลาเพียงพอและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เขาสามารถฝึกฝนและ

ทํางานหนักเพื่อทําความเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง เขามั่นใจว่าเขาสามารถบรรุลระดับปรมาจารย์สูงสุดอย่างน้อยหนึ่งเส้นทางในชีวิตนี้

แต่ตอนนี้เหล่าเทพกําลังจะฟื้นคืนชีพ ฟางหยวนไม่มีเวลา

“มีวิธีใดที่จะช่วยให้ข้าผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้

อาณาจักรแห่งความฝันงั้นหรือ?

เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถช่วยได้

อาณาจักรแห่งความฝันที่อยู่ในการครอบครองของฟางหยวนมีต้นกําเนิดมาจากเทพปีศาจจิต

วิญญาณขณะที่ความสําเร็จส่วนใหญ่ของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในระดับปรมาจารย์เอกเท่านั้น

ความหมายที่แท้จริงงั้นหรือ?

ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘อย่าบอกว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพทิ้งความหมายที่แท้จริงของเขาเอาไว้เพื่อให้ข้ากลายเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งปฐพีงั้นหรือ?”

ลั่วเว่ยหยินราวกับรับรู้ได้ถึงความคิดของฟางหยวน เขาส่ายศีรษะ “ความหมายที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพช่วยให้เจ้าบรรลุระดับปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปฐพีเท่านั้น อย่างไร

ก็ตามวิธีแก้ปัญหาอยู่ในมรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพ”

ฟางหยวนมองลั่วเว่ยหยินด้วยดวงตาส่องประกาย “โอ้ โปรดอธิบาย”

ลั่วเว่ยหยินกล่าว “ฟางหยวน เจ้าเคยอ่านตํานานมนุษย์คนแรกมาแล้ว เจ้าต้องรู้จักแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ แดนแรกกําเนิด ความจริงก็คือผู้ที่สามารถเข้าสู่แดนแรกกําเนิดจะกลายเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางสายใดสายหนึ่ง” “แดนแรกกําเนิด?” ฟางหยวนถูกล่อลวง “เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ใด?” ดวงตาของลั่วเว่ยหยินส่องประกายขึ้น “มันอยู่ในชั้นที่ลึกที่สุดของถ้ําปีศาจคลั่ง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ

ในประวัติศาสตร์นานกว่าสามล้านปีของโลกใบนี้มีผู้อมตะระดับเก้าปรากฏขึ้นเพียงสิบคนเท่านั้น

อัจฉริยะมากมายของห้าภูมิภาคและสองสวรรค์เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าขณะที่สิบผู้อมตะระดับเก้าเหมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างไสว

ความรุ่งโรจน์ของพวกเขาไม่เคยจางหาย ตํานานของพวกเขาถูกกล่าวถึงอย่างไม่รู้จบสิ้นพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิบ

สามล้านปีก่อนถูกเรียกว่ายุคแรกกําเนิดมันเป็นจุดเริ่มต้นของเทพอมตะแรกกําเนิดและเทพอมตะกลุ่มดาว

หนึ่งล้านปีก่อนถูกเรียกว่ายุคบรรพกาล ยุคนี้มีเทพปีศาจไร้ขอบเขต เทพปีศาจคลั่งและเทพปีศาจบัวแดง

สามแสนปีก่อนถูกเรียกว่ายุคกลาง เทพอมตะบัวสวรรค์ เทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพอมตะตะวันเดือดถือกําเนิดขึ้นในยุคนี้

หนึ่งแสนปีก่อนถูกเรียกว่ายุคโบราณตอนปลาย เทพปีศาจจิตวิญญาณและเทพอมตะสวรรค์พิภพอยู่ในยุคนี้

สิบผู้อมตะระดับเก้ากําหราบโลกทั้งใบด้วยพลังอํานาจอันเป็นที่สุด พวกเขาเป็นผู้ปกครองของยุคสมัยโดยไม่มีคู่แข่งขัน

วิธีการของพวกเขาล้วนน่าตกตะลึง แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีการจัดเตรียมมากมายสําหรับอนาคต

แผนการของพวกเขาแผ่ขยายไปทุกยุคสมัย พวกเขาใช้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเป็นตัวประกันแม้กระทั่งหลังความตาย พวกเขายังมีอิทธิพลต่อคนรุ่นหลัง

ฟางหยวนตระหนักถึงช่องว่างของเขากับเหล่าเทพอย่างชัดเจน แม้เขาจะเป็นจักรพรรดิปีศาจอันดับหนึ่งของโลกยุคปัจจุบัน แต่เขายังไม่สามารถต่อสู้กับเทพที่แท้จริง

สงครามชะตากรรมเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สําหรับทุกคน การจัดเตรียมของเทพแต่ละคนสามารถพลิกสถานการณ์ได้ทันที

มีเพียงเทพเท่านั้นที่สามารถต่อต้านเทพอีกคน

เหตุผลที่ฟางหยวนประสบความสําเร็จในสงครามชะตากรรมส่วนหนึ่งมาจากการต่อสู้ระหว่างเทพทั้งสิบ

ทั้งหมดทําให้ฟางหยวนรู้สึกประทับใจเหล่าเทพเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเขามีความปรารถนาที่จะต่อสู้กับตัวตนเหล่านั้น

เมื่อพวกเขาสามารถกลายเป็นเทพ เหตุใดฟางหยวนจะไม่สามารถ?

นอกจากนี้เพื่อการไล่ล่าชีวิตนิรันดร์ การบ่มเพาะระดับเก้าก็เป็นเพียงบันไดขั้นหนึ่งสําหรับฟางหยวนเท่านั้น

แผนการก้าวเข้าสู่ระดับเก้าของเขาถูกกําหนดไว้แล้วตั้งแต่เขาเกิดใหม่

หลายปีก่อนเมื่อฟางหยวนพึ่งเกิดใหม่ เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ําคืนและมองดวงจันทร์ เขารู้สึกถึงความไร้นัยสําคัญของตนเอง แต่ตอนนี้เมื่อเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ผู้อมตะระดับเก้า กลับเป็นเพียงบันไดขั้นต่อไปของเขา

แต่เขาจะกลายเป็นเทพได้อย่างไร?

ฟางหยวนไม่รู้ เขาไม่แน่ใจและไม่เข้าใจ

มีความลับที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังการก้าวเข้าสู่ระดับเทพ!

ความลับนี้ไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

ดูเหมือนเทพทั้งสิบจะมีข้อตกลงโดยปริยาย พวกเขาเลือกที่จะเก็บมันไว้เป็นความลับ

ไม่มีผู้ใดค้นพบความจริง พวกเขาทําได้เพียงวิเคราะห์โดยใช้เบาะแสทั่วไปเท่านั้น เทพทั้งสิบมีชายเก้าหญิงหนึ่ง นี่หมายความว่ามันไม่มีข้อจํากัดเรื่องเพศ

เทพมีพลังการต่อสู้อันเป็นที่สุดแต่พวกเขาไม่สามารถทําได้ทุกสิ่ง ตัวอย่างเช่นเทพอมตะ

ตะวันเดือดและเทพปีศาจปล้นสวรรค์ต้องขอให้บรรพชนผมยาวช่วยหลอมรวมวิญญาณอมตะให้กับพวกเขา

เทพสองคนไม่เคยปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน การต่อสู้ระหว่างเทพในสงครามชะตากรรมเป็น เพียงการจัดเตรียมที่พวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลังแดง

เทพแต่ละคนมีโชคตั้งแต่กําเนิด ชีวิตของพวกเขาจะราบรื่นมาก ตัวอย่างเช่นเทพปีศาจบัว

ดูเหมือนเทพแต่ละคนจะมีผู้พิทักษ์เต๋าเพียงหนึ่งเดียว ผู้พิทักษ์เต๋าจะมีบทบาทสําคัญในการเติบโตของเหล่าเทพ พวกเขาอาจเป็นได้ทั้งมิตรหรือศัตรู

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าความสําเร็จบนเส้นทางการบ่มเพาะของเหล่าเทพอยู่ในระดับปรมาจารย์สูงสุด

แม้พวกเขาจะกลายเป็นเทพ แต่อายุขัยของพวกเขายังมีจํากัด

เทพทั้งสิบล้วนมาจากเผ่ามนุษย์ ไม่เคยมีเทพเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ถือกําเนิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถยืนยันได้อย่างแท้จริง หนึ่งในการอนุมานที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือคําทํานายเกี่ยวกับสามเทพผู้อมตะอี้เยี่ยนกล่าวว่าในอนาคต

จะมีเทพปีศาจจิตวิญญาณ เทพอมตะสวรรค์พิภพ และเทพอมตะแห่งความฝัน

การอนุมานนี้ไม่เกี่ยวกับความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ นอกจากนั้นหลังจากฟาง

หยวนท่าลายวิญญาณชะตากรรม ค่าทํานายนี้ก็กลายเป็นไม่แน่นอน

แล้วความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพคือสิ่งใด?

ฟางหยวนต้องเรียนรู้ความลับเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

ความสําเร็จในการฟื้นคืนชีพของปีศาจอมตะฉีเจียเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดว่าเหล่าเทพจะฟื้นคืนชีพในไม่ช้า

ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการปัญหานี้ก็คือฟางหยวนต้องกลายเป็นเทพ!

ฟางหยวนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าเขาจะกลืนกินถ้ําสวรรค์ที่แห่งและมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ามากมายเพียงใด เขาก็ยังไม่สามารถกลายเป็นเทพ ดังนั้นเขาจึงต้องมาหาลั่วเว่ยหยินเพื่อ

เรียนรู้ความลับในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ สิ่งอื่นๆเช่นมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

หรือความหมายที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรรค์พิภพเป็นเพียงผลประโยชน์รองสําหรับฟางหยวนลั่วเว่ยหยินดื่มชาและเผยรอยยิ้มบาง

เขาไม่แปลกใจกับคําถามของฟางหยวน

เขาวางถ้อยชาลงก่อนจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “มีเงื่อนไขสี่ข้อที่ต้องทําหากต้องการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ”

“ข้อแรก แก่นแท้มิติช่องว่างต้องผลิตลิ้นจี่ขาวอมตะ”

“ข้อที่สอง ผู้อมตะต้องมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางที่บ่มเพาะอย่างน้อยสามแสนร่องรอย”

“ข้อที่สาม ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้อมตะต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์สูงสุด”

“ข้อที่สี่ หลังจากบรรลุเงื่อนไขสามข้อแรก ผู้อมตะต้องฝ่าด่านเต๋าสวรรค์ หลังจากนั้นแก่นแท้

มิติช่องว่างจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและผลิตลูกท้อเหลืองอมตะระดับเก้า” ลั่วเว่ยหยิบบอกความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะออกมาโดยตรง

เดิมทีฟางหยวนคิดว่าถั่วเว่ยหยินอาจต้องการทําธุรกรรมและระบุเงื่อนไขบางอย่างกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือเทพอมตะสวรรค์พิภพต้องมีเหตุผลในการเลือกฟางหยวนเป็นผู้สืบทอดของเขา

ฟางหยวนไม่รู้ว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพมีแผนการใด

แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าตราบเท่าที่เขาได้เรียนรู้ความลับเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

เขาก็เต็มใจยอมรับเงื่อนไขในระดับหนึ่งและทํางานร่วมกับเทพอมตะสวรรค์พิภพ

อย่างไรก็ตามมั่วเว่ยหยินกลับไม่ปิดบังความลับเรื่องนี้ เขาบอกฟางหยวนโดยตรง

การกระทําของลั่วเว่ยหยินไม่ได้ทําให้ฟางหยวนรู้สึกผ่อนคลายลง ตรงข้าม เขายิ่งระวังตัวมากขึ้น

ลั่วเว่ยหยินเป็นคนเจ้าเล่ห์และเจ้าแผนการ ฟางหยวนเคยตกลงสู่หลุมพรางของเขาและล้ม เหลวในการนําอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลับคืนมาแล้ว ระหว่างการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน ลั่วเว่ย

หยินยังแสดงความแข็งแกร่งทางจิตใจและความอดทนที่ยอดเยี่ยมของเขาออกมา

ตัวตนเช่นนี้ไม่สามารถรับมือไดโดยง่าย

ฟางหยวนคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเงื่อนไขสี่ข้อของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

‘เงื่อนไขสองข้อแรกหมายถึงผู้อมตะระดับแปดที่ผ่านหมื่นภัยพิบัติครบสามครั้ง ข้าบรรลุ

เงื่อนไขสองข้อนี้แล้วบนเส้นทางแห่งพลังปราณ เส้นทางแห่งกาลเวลา เส้นทางแห่งการหลอมรวม และเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง’

‘เงื่อนไขข้อที่สาม ความสําเร็จระดับปรมาจารย์สูงสุด ข้ายังไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขนี้ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เส้นทางแห่งกาลเวลา และเส้นทางแห่งทาสของข้าอยู่ใน

ระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด แต่มันยังมีช่องว่างขนาดใหญ่’

‘สําหรับเงื่อนไขข้อที่สี่ ฝ่าด่านเต๋าสวรรค์งั้นหรือ?’

ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะถาม “ฝ่าด่านเต๋าสวรรค์หมายถึงสิ่งใด?”

ลั่วเว่ยหยินอธิบาย “วิถีสวรรค์คือการกําจัดส่วนเกินและเพิ่มเติมส่วนขาด ด้วยวิธีนี้ทุกสิ่งจึงเกิดสมดุล ต้นไม้สูงเป็นสิ่งแรกที่จะเผชิญหน้ากับการทําลายล้างดินที่อยู่ใกล้แม่น้ํามากที่สุดจะเป็น

สิ่งแรกที่ถูกกระแสน้ําพัดพาไป อย่างไรก็ตามวิถีมนุษย์คือสิ่งตรงข้ามกับวิถีสวรรค์ มนุษย์พยายามเพิ่มเติมส่วนเกินด้วยการกลืนกินผู้อ่อนแอและเรียนรู้ต่อไป ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถเติบโตและ

ชดเชยความไม่ดีพอของเรา”

“เต๋าสวรรค์ไม่ต้องการให้ผู้คนแข็งแกร่งขึ้น นั่นเป็นที่มาของภัยพิบัติ ภัยพิบัติเป็นหนึ่งในปราการป้องกันของเต๋าสวรรค์ เพื่อกลายเป็นเทพ ผู้อมตะต้องก้าวข้ามภัยพิบัติที่อันตรายยิ่งกว่า

หมื่นภัยพิบัติ!”

“นอกจากนั้นยังมีภัยคุกคามเกี่ยวกับวิญญาณอายุยืน วิญญาณอายุยืนเป็นวิญญาณบนเส้นทางสวรรค์ มันไม่สามารถถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์กระทั่งเทพทั้งสิบก็ยังไม่สามารถทําสิ่งใด ในยุค ที่เทพถือก่าเนิดขึ้นผลผลิตวิญญาณอายุยืนจะลดน้อยลงอย่างมาก”

“ความยากลําบากอีกประการก็คือโชคชะตาที่ถูกกําหนดโดยวิญญาณชะตากรรมแต่เจ้า

ทําลายมันไปแล้ว”

ฟางหยวนไตร่ตรองก่อนกล่าว “โดยทั่วไปเต๋าสวรรค์จะใช้สามสิ่งนี้เป็นปราการป้องกันการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเทพ วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายไปแล้ววิญญาณอายุยืนไม่ใช่ปัญหา

อุปสรรคที่เหลืออยู่ของข้ามีเพียงการฝ่าด่านภัยพิบัติของเต๋าสวรรค์”

“มีวิธีต่อต้านภัยพิบัติของเต๋าสวรรค์หรือไม่? เทพในอดีตท่าอย่างไร?”

ลั่วเว่ยหยินตอบ “มีวิธีลัด เส้นทางแห่งโชคเป็นหนึ่งในนั้น เทพทุกคนในประวัติศาสตร์ล้วนโชคดีตั้งแต่กําเนิดโชคดีส่วนใหญ่ของพวกเขามักมาจากสองแหล่งด้านหนึ่งพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากเจตจํานงสวรรค์ อีกด้านหนึ่งพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากเส้นทางมนุษย์”

“สามล้านปีก่อน มนุษย์กลายพันธุ์แข็งแกร่งขณะที่มนุษย์อ่อนแอ เต๋าสวรรค์พยายามปราบปรามมนุษย์กลายพันธุ์ ดังนั้นเจตจํานงสวรรค์จึงช่วยเหลือเผ่ามนุษย์และอนุญาตให้บางคนกลายเป็นเทพ”

“ตัวอย่างที่ดีที่สุดของเทพที่ได้รับความโปรดปรานจากเส้นทางมนุษย์คือเทพปีศาจบัวแดง เขาเป็นบุตรแห่งมนุษยชาติ เขามีโชคที่ยิ่งใหญ่ตั้งแต่กําเนิด”

ฟางหยวนขมวดคิ้ว “เช่นนั้นวิธีบนเส้นทางมนุษย์สามารถทําลายปราการป้องกันของเต๋าสวรรค์หรือไม่?”

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนเคยใช้วิธีบนเส้นทางมนุษย์ต่อต้านเต๋าสวรรค์มาแล้ว ในแง่นี้เขาค่อนข้างมีประสบการณ์

ลั่วเว่ยหยินพยักหน้า “แท้จริงแล้ววิธีบนเส้นทางมนุษย์เป็นวิธีที่ดีในการฝ่าด่านเต๋าสวรรค์เทพทั้งสิบมีความพิเศษร่วมกันอยู่สิ่งหนึ่ง นั่นคือพวกเขาเข้าใจบางสิ่งจากตํานานมนุษย์คนแรกและ

สามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะระดับสูงบนเส้นทางมนุษย์!”

ทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกสักพัก ลั่วเว่ยหยินพยายามตอบคําถามของฟางหยวนอย่างสุดความสามารถ

สุดท้ายฟางหยวนก็เข้าใจเงื่อนไขในการกลายเป็นเทพ

หลังจากวิเคราะห์อย่างรอบคอบ เขาพบว่ามีเพียงสองจุดที่ยังเป็นปัญหาสําหรับเขาหนึ่งคือระดับความสําเร็จ สองคือเต๋าสวรรค์

ในแง่ของโชค ฟางหยวนมีหม้อปรุงโชค ในแง่ของเส้นทางมนุษย์ เขายังต้องพัฒนาและยกระดับต่อไป

ปัญหาที่แท้จริงคือระดับความสําเร็จ

มันมีช่องว่างขนาดใหญ่

ความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดดูเหมือนใกล้ระดับปรมาจารย์สูงสุด แต่ในความเป็นจริง

หากฟางหยวนมีเวลาเพียงพอและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เขาสามารถฝึกฝนและ

ทํางานหนักเพื่อทําความเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง เขามั่นใจว่าเขาสามารถบรรุลระดับปรมาจารย์สูงสุดอย่างน้อยหนึ่งเส้นทางในชีวิตนี้

แต่ตอนนี้เหล่าเทพกําลังจะฟื้นคืนชีพ ฟางหยวนไม่มีเวลา

“มีวิธีใดที่จะช่วยให้ข้าผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้

อาณาจักรแห่งความฝันงั้นหรือ?

เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถช่วยได้

อาณาจักรแห่งความฝันที่อยู่ในการครอบครองของฟางหยวนมีต้นกําเนิดมาจากเทพปีศาจจิต

วิญญาณขณะที่ความสําเร็จส่วนใหญ่ของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในระดับปรมาจารย์เอกเท่านั้น

ความหมายที่แท้จริงงั้นหรือ?

ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘อย่าบอกว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพทิ้งความหมายที่แท้จริงของเขาเอาไว้เพื่อให้ข้ากลายเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งปฐพีงั้นหรือ?”

ลั่วเว่ยหยินราวกับรับรู้ได้ถึงความคิดของฟางหยวน เขาส่ายศีรษะ “ความหมายที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพช่วยให้เจ้าบรรลุระดับปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปฐพีเท่านั้น อย่างไร

ก็ตามวิธีแก้ปัญหาอยู่ในมรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพ”

ฟางหยวนมองลั่วเว่ยหยินด้วยดวงตาส่องประกาย “โอ้ โปรดอธิบาย”

ลั่วเว่ยหยินกล่าว “ฟางหยวน เจ้าเคยอ่านตํานานมนุษย์คนแรกมาแล้ว เจ้าต้องรู้จักแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ แดนแรกกําเนิด ความจริงก็คือผู้ที่สามารถเข้าสู่แดนแรกกําเนิดจะกลายเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางสายใดสายหนึ่ง” “แดนแรกกําเนิด?” ฟางหยวนถูกล่อลวง “เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ใด?” ดวงตาของลั่วเว่ยหยินส่องประกายขึ้น “มันอยู่ในชั้นที่ลึกที่สุดของถ้ําปีศาจคลั่ง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2085 สี่เงื่อนไขของการเป็นเทพ

ในประวัติศาสตร์นานกว่าสามล้านปีของโลกใบนี้มีผู้อมตะระดับเก้าปรากฏขึ้นเพียงสิบคนเท่านั้น

อัจฉริยะมากมายของห้าภูมิภาคและสองสวรรค์เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าขณะที่สิบผู้อมตะระดับเก้าเหมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างไสว

ความรุ่งโรจน์ของพวกเขาไม่เคยจางหาย ตํานานของพวกเขาถูกกล่าวถึงอย่างไม่รู้จบสิ้นพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิบ

สามล้านปีก่อนถูกเรียกว่ายุคแรกกําเนิดมันเป็นจุดเริ่มต้นของเทพอมตะแรกกําเนิดและเทพอมตะกลุ่มดาว

หนึ่งล้านปีก่อนถูกเรียกว่ายุคบรรพกาล ยุคนี้มีเทพปีศาจไร้ขอบเขต เทพปีศาจคลั่งและเทพปีศาจบัวแดง

สามแสนปีก่อนถูกเรียกว่ายุคกลาง เทพอมตะบัวสวรรค์ เทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพอมตะตะวันเดือดถือกําเนิดขึ้นในยุคนี้

หนึ่งแสนปีก่อนถูกเรียกว่ายุคโบราณตอนปลาย เทพปีศาจจิตวิญญาณและเทพอมตะสวรรค์พิภพอยู่ในยุคนี้

สิบผู้อมตะระดับเก้ากําหราบโลกทั้งใบด้วยพลังอํานาจอันเป็นที่สุด พวกเขาเป็นผู้ปกครองของยุคสมัยโดยไม่มีคู่แข่งขัน

วิธีการของพวกเขาล้วนน่าตกตะลึง แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีการจัดเตรียมมากมายสําหรับอนาคต

แผนการของพวกเขาแผ่ขยายไปทุกยุคสมัย พวกเขาใช้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเป็นตัวประกันแม้กระทั่งหลังความตาย พวกเขายังมีอิทธิพลต่อคนรุ่นหลัง

ฟางหยวนตระหนักถึงช่องว่างของเขากับเหล่าเทพอย่างชัดเจน แม้เขาจะเป็นจักรพรรดิปีศาจอันดับหนึ่งของโลกยุคปัจจุบัน แต่เขายังไม่สามารถต่อสู้กับเทพที่แท้จริง

สงครามชะตากรรมเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สําหรับทุกคน การจัดเตรียมของเทพแต่ละคนสามารถพลิกสถานการณ์ได้ทันที

มีเพียงเทพเท่านั้นที่สามารถต่อต้านเทพอีกคน

เหตุผลที่ฟางหยวนประสบความสําเร็จในสงครามชะตากรรมส่วนหนึ่งมาจากการต่อสู้ระหว่างเทพทั้งสิบ

ทั้งหมดทําให้ฟางหยวนรู้สึกประทับใจเหล่าเทพเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเขามีความปรารถนาที่จะต่อสู้กับตัวตนเหล่านั้น

เมื่อพวกเขาสามารถกลายเป็นเทพ เหตุใดฟางหยวนจะไม่สามารถ?

นอกจากนี้เพื่อการไล่ล่าชีวิตนิรันดร์ การบ่มเพาะระดับเก้าก็เป็นเพียงบันไดขั้นหนึ่งสําหรับฟางหยวนเท่านั้น

แผนการก้าวเข้าสู่ระดับเก้าของเขาถูกกําหนดไว้แล้วตั้งแต่เขาเกิดใหม่

หลายปีก่อนเมื่อฟางหยวนพึ่งเกิดใหม่ เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ําคืนและมองดวงจันทร์ เขารู้สึกถึงความไร้นัยสําคัญของตนเอง แต่ตอนนี้เมื่อเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ผู้อมตะระดับเก้า กลับเป็นเพียงบันไดขั้นต่อไปของเขา

แต่เขาจะกลายเป็นเทพได้อย่างไร?

ฟางหยวนไม่รู้ เขาไม่แน่ใจและไม่เข้าใจ

มีความลับที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังการก้าวเข้าสู่ระดับเทพ!

ความลับนี้ไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

ดูเหมือนเทพทั้งสิบจะมีข้อตกลงโดยปริยาย พวกเขาเลือกที่จะเก็บมันไว้เป็นความลับ

ไม่มีผู้ใดค้นพบความจริง พวกเขาทําได้เพียงวิเคราะห์โดยใช้เบาะแสทั่วไปเท่านั้น เทพทั้งสิบมีชายเก้าหญิงหนึ่ง นี่หมายความว่ามันไม่มีข้อจํากัดเรื่องเพศ

เทพมีพลังการต่อสู้อันเป็นที่สุดแต่พวกเขาไม่สามารถทําได้ทุกสิ่ง ตัวอย่างเช่นเทพอมตะ

ตะวันเดือดและเทพปีศาจปล้นสวรรค์ต้องขอให้บรรพชนผมยาวช่วยหลอมรวมวิญญาณอมตะให้กับพวกเขา

เทพสองคนไม่เคยปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน การต่อสู้ระหว่างเทพในสงครามชะตากรรมเป็น เพียงการจัดเตรียมที่พวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลังแดง

เทพแต่ละคนมีโชคตั้งแต่กําเนิด ชีวิตของพวกเขาจะราบรื่นมาก ตัวอย่างเช่นเทพปีศาจบัว

ดูเหมือนเทพแต่ละคนจะมีผู้พิทักษ์เต๋าเพียงหนึ่งเดียว ผู้พิทักษ์เต๋าจะมีบทบาทสําคัญในการเติบโตของเหล่าเทพ พวกเขาอาจเป็นได้ทั้งมิตรหรือศัตรู

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าความสําเร็จบนเส้นทางการบ่มเพาะของเหล่าเทพอยู่ในระดับปรมาจารย์สูงสุด

แม้พวกเขาจะกลายเป็นเทพ แต่อายุขัยของพวกเขายังมีจํากัด

เทพทั้งสิบล้วนมาจากเผ่ามนุษย์ ไม่เคยมีเทพเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ถือกําเนิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถยืนยันได้อย่างแท้จริง หนึ่งในการอนุมานที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือคําทํานายเกี่ยวกับสามเทพผู้อมตะอี้เยี่ยนกล่าวว่าในอนาคต

จะมีเทพปีศาจจิตวิญญาณ เทพอมตะสวรรค์พิภพ และเทพอมตะแห่งความฝัน

การอนุมานนี้ไม่เกี่ยวกับความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ นอกจากนั้นหลังจากฟาง

หยวนท่าลายวิญญาณชะตากรรม ค่าทํานายนี้ก็กลายเป็นไม่แน่นอน

แล้วความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพคือสิ่งใด?

ฟางหยวนต้องเรียนรู้ความลับเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

ความสําเร็จในการฟื้นคืนชีพของปีศาจอมตะฉีเจียเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดว่าเหล่าเทพจะฟื้นคืนชีพในไม่ช้า

ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการปัญหานี้ก็คือฟางหยวนต้องกลายเป็นเทพ!

ฟางหยวนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าเขาจะกลืนกินถ้ําสวรรค์ที่แห่งและมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ามากมายเพียงใด เขาก็ยังไม่สามารถกลายเป็นเทพ ดังนั้นเขาจึงต้องมาหาลั่วเว่ยหยินเพื่อ

เรียนรู้ความลับในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ สิ่งอื่นๆเช่นมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

หรือความหมายที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรรค์พิภพเป็นเพียงผลประโยชน์รองสําหรับฟางหยวนลั่วเว่ยหยินดื่มชาและเผยรอยยิ้มบาง

เขาไม่แปลกใจกับคําถามของฟางหยวน

เขาวางถ้อยชาลงก่อนจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “มีเงื่อนไขสี่ข้อที่ต้องทําหากต้องการก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพ”

“ข้อแรก แก่นแท้มิติช่องว่างต้องผลิตลิ้นจี่ขาวอมตะ”

“ข้อที่สอง ผู้อมตะต้องมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางที่บ่มเพาะอย่างน้อยสามแสนร่องรอย”

“ข้อที่สาม ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้อมตะต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์สูงสุด”

“ข้อที่สี่ หลังจากบรรลุเงื่อนไขสามข้อแรก ผู้อมตะต้องฝ่าด่านเต๋าสวรรค์ หลังจากนั้นแก่นแท้

มิติช่องว่างจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและผลิตลูกท้อเหลืองอมตะระดับเก้า” ลั่วเว่ยหยิบบอกความลับของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะออกมาโดยตรง

เดิมทีฟางหยวนคิดว่าถั่วเว่ยหยินอาจต้องการทําธุรกรรมและระบุเงื่อนไขบางอย่างกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือเทพอมตะสวรรค์พิภพต้องมีเหตุผลในการเลือกฟางหยวนเป็นผู้สืบทอดของเขา

ฟางหยวนไม่รู้ว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพมีแผนการใด

แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าตราบเท่าที่เขาได้เรียนรู้ความลับเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

เขาก็เต็มใจยอมรับเงื่อนไขในระดับหนึ่งและทํางานร่วมกับเทพอมตะสวรรค์พิภพ

อย่างไรก็ตามมั่วเว่ยหยินกลับไม่ปิดบังความลับเรื่องนี้ เขาบอกฟางหยวนโดยตรง

การกระทําของลั่วเว่ยหยินไม่ได้ทําให้ฟางหยวนรู้สึกผ่อนคลายลง ตรงข้าม เขายิ่งระวังตัวมากขึ้น

ลั่วเว่ยหยินเป็นคนเจ้าเล่ห์และเจ้าแผนการ ฟางหยวนเคยตกลงสู่หลุมพรางของเขาและล้ม เหลวในการนําอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลับคืนมาแล้ว ระหว่างการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน ลั่วเว่ย

หยินยังแสดงความแข็งแกร่งทางจิตใจและความอดทนที่ยอดเยี่ยมของเขาออกมา

ตัวตนเช่นนี้ไม่สามารถรับมือไดโดยง่าย

ฟางหยวนคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเงื่อนไขสี่ข้อของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

‘เงื่อนไขสองข้อแรกหมายถึงผู้อมตะระดับแปดที่ผ่านหมื่นภัยพิบัติครบสามครั้ง ข้าบรรลุ

เงื่อนไขสองข้อนี้แล้วบนเส้นทางแห่งพลังปราณ เส้นทางแห่งกาลเวลา เส้นทางแห่งการหลอมรวม และเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง’

‘เงื่อนไขข้อที่สาม ความสําเร็จระดับปรมาจารย์สูงสุด ข้ายังไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขนี้ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เส้นทางแห่งกาลเวลา และเส้นทางแห่งทาสของข้าอยู่ใน

ระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด แต่มันยังมีช่องว่างขนาดใหญ่’

‘สําหรับเงื่อนไขข้อที่สี่ ฝ่าด่านเต๋าสวรรค์งั้นหรือ?’

ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะถาม “ฝ่าด่านเต๋าสวรรค์หมายถึงสิ่งใด?”

ลั่วเว่ยหยินอธิบาย “วิถีสวรรค์คือการกําจัดส่วนเกินและเพิ่มเติมส่วนขาด ด้วยวิธีนี้ทุกสิ่งจึงเกิดสมดุล ต้นไม้สูงเป็นสิ่งแรกที่จะเผชิญหน้ากับการทําลายล้างดินที่อยู่ใกล้แม่น้ํามากที่สุดจะเป็น

สิ่งแรกที่ถูกกระแสน้ําพัดพาไป อย่างไรก็ตามวิถีมนุษย์คือสิ่งตรงข้ามกับวิถีสวรรค์ มนุษย์พยายามเพิ่มเติมส่วนเกินด้วยการกลืนกินผู้อ่อนแอและเรียนรู้ต่อไป ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถเติบโตและ

ชดเชยความไม่ดีพอของเรา”

“เต๋าสวรรค์ไม่ต้องการให้ผู้คนแข็งแกร่งขึ้น นั่นเป็นที่มาของภัยพิบัติ ภัยพิบัติเป็นหนึ่งในปราการป้องกันของเต๋าสวรรค์ เพื่อกลายเป็นเทพ ผู้อมตะต้องก้าวข้ามภัยพิบัติที่อันตรายยิ่งกว่า

หมื่นภัยพิบัติ!”

“นอกจากนั้นยังมีภัยคุกคามเกี่ยวกับวิญญาณอายุยืน วิญญาณอายุยืนเป็นวิญญาณบนเส้นทางสวรรค์ มันไม่สามารถถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์กระทั่งเทพทั้งสิบก็ยังไม่สามารถทําสิ่งใด ในยุค ที่เทพถือก่าเนิดขึ้นผลผลิตวิญญาณอายุยืนจะลดน้อยลงอย่างมาก”

“ความยากลําบากอีกประการก็คือโชคชะตาที่ถูกกําหนดโดยวิญญาณชะตากรรมแต่เจ้า

ทําลายมันไปแล้ว”

ฟางหยวนไตร่ตรองก่อนกล่าว “โดยทั่วไปเต๋าสวรรค์จะใช้สามสิ่งนี้เป็นปราการป้องกันการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเทพ วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายไปแล้ววิญญาณอายุยืนไม่ใช่ปัญหา

อุปสรรคที่เหลืออยู่ของข้ามีเพียงการฝ่าด่านภัยพิบัติของเต๋าสวรรค์”

“มีวิธีต่อต้านภัยพิบัติของเต๋าสวรรค์หรือไม่? เทพในอดีตท่าอย่างไร?”

ลั่วเว่ยหยินตอบ “มีวิธีลัด เส้นทางแห่งโชคเป็นหนึ่งในนั้น เทพทุกคนในประวัติศาสตร์ล้วนโชคดีตั้งแต่กําเนิดโชคดีส่วนใหญ่ของพวกเขามักมาจากสองแหล่งด้านหนึ่งพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากเจตจํานงสวรรค์ อีกด้านหนึ่งพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากเส้นทางมนุษย์”

“สามล้านปีก่อน มนุษย์กลายพันธุ์แข็งแกร่งขณะที่มนุษย์อ่อนแอ เต๋าสวรรค์พยายามปราบปรามมนุษย์กลายพันธุ์ ดังนั้นเจตจํานงสวรรค์จึงช่วยเหลือเผ่ามนุษย์และอนุญาตให้บางคนกลายเป็นเทพ”

“ตัวอย่างที่ดีที่สุดของเทพที่ได้รับความโปรดปรานจากเส้นทางมนุษย์คือเทพปีศาจบัวแดง เขาเป็นบุตรแห่งมนุษยชาติ เขามีโชคที่ยิ่งใหญ่ตั้งแต่กําเนิด”

ฟางหยวนขมวดคิ้ว “เช่นนั้นวิธีบนเส้นทางมนุษย์สามารถทําลายปราการป้องกันของเต๋าสวรรค์หรือไม่?”

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนเคยใช้วิธีบนเส้นทางมนุษย์ต่อต้านเต๋าสวรรค์มาแล้ว ในแง่นี้เขาค่อนข้างมีประสบการณ์

ลั่วเว่ยหยินพยักหน้า “แท้จริงแล้ววิธีบนเส้นทางมนุษย์เป็นวิธีที่ดีในการฝ่าด่านเต๋าสวรรค์เทพทั้งสิบมีความพิเศษร่วมกันอยู่สิ่งหนึ่ง นั่นคือพวกเขาเข้าใจบางสิ่งจากตํานานมนุษย์คนแรกและ

สามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะระดับสูงบนเส้นทางมนุษย์!”

ทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกสักพัก ลั่วเว่ยหยินพยายามตอบคําถามของฟางหยวนอย่างสุดความสามารถ

สุดท้ายฟางหยวนก็เข้าใจเงื่อนไขในการกลายเป็นเทพ

หลังจากวิเคราะห์อย่างรอบคอบ เขาพบว่ามีเพียงสองจุดที่ยังเป็นปัญหาสําหรับเขาหนึ่งคือระดับความสําเร็จ สองคือเต๋าสวรรค์

ในแง่ของโชค ฟางหยวนมีหม้อปรุงโชค ในแง่ของเส้นทางมนุษย์ เขายังต้องพัฒนาและยกระดับต่อไป

ปัญหาที่แท้จริงคือระดับความสําเร็จ

มันมีช่องว่างขนาดใหญ่

ความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดดูเหมือนใกล้ระดับปรมาจารย์สูงสุด แต่ในความเป็นจริง

หากฟางหยวนมีเวลาเพียงพอและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เขาสามารถฝึกฝนและ

ทํางานหนักเพื่อทําความเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง เขามั่นใจว่าเขาสามารถบรรุลระดับปรมาจารย์สูงสุดอย่างน้อยหนึ่งเส้นทางในชีวิตนี้

แต่ตอนนี้เหล่าเทพกําลังจะฟื้นคืนชีพ ฟางหยวนไม่มีเวลา

“มีวิธีใดที่จะช่วยให้ข้าผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้

อาณาจักรแห่งความฝันงั้นหรือ?

เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถช่วยได้

อาณาจักรแห่งความฝันที่อยู่ในการครอบครองของฟางหยวนมีต้นกําเนิดมาจากเทพปีศาจจิต

วิญญาณขณะที่ความสําเร็จส่วนใหญ่ของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในระดับปรมาจารย์เอกเท่านั้น

ความหมายที่แท้จริงงั้นหรือ?

ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘อย่าบอกว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพทิ้งความหมายที่แท้จริงของเขาเอาไว้เพื่อให้ข้ากลายเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งปฐพีงั้นหรือ?”

ลั่วเว่ยหยินราวกับรับรู้ได้ถึงความคิดของฟางหยวน เขาส่ายศีรษะ “ความหมายที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพช่วยให้เจ้าบรรลุระดับปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปฐพีเท่านั้น อย่างไร

ก็ตามวิธีแก้ปัญหาอยู่ในมรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพ”

ฟางหยวนมองลั่วเว่ยหยินด้วยดวงตาส่องประกาย “โอ้ โปรดอธิบาย”

ลั่วเว่ยหยินกล่าว “ฟางหยวน เจ้าเคยอ่านตํานานมนุษย์คนแรกมาแล้ว เจ้าต้องรู้จักแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ แดนแรกกําเนิด ความจริงก็คือผู้ที่สามารถเข้าสู่แดนแรกกําเนิดจะกลายเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางสายใดสายหนึ่ง” “แดนแรกกําเนิด?” ฟางหยวนถูกล่อลวง “เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ใด?” ดวงตาของลั่วเว่ยหยินส่องประกายขึ้น “มันอยู่ในชั้นที่ลึกที่สุดของถ้ําปีศาจคลั่ง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+