Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2101 ฟางหยวนทําธุรกรรม

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2101 ฟางหยวนทําธุรกรรม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2101 ฟางหยวนทําธุรกรรม

วูหยงพยายามสงบสติอารมณ์

‘ดังนั้นฟางหยวนก็ต้องการมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนของข้าแต่เขายังไม่พบแดนหู!’หลังจากไตร่ตรองความกังวลในใจของวูหยงก็หมดไป

ความจริงก็คือตราบเท่าที่กงรี่เทียนไม่เปิดเผยความลับนี้ออกมาด้วยตนเอง มันก็มีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยที่แดนหูจะถูกค้นพบโดยผู้อื่นที่ไม่ใช่ตระกูลวู

ย้อนกลับไปเมื่อกงรี่เทียนและคนอื่นๆใช้แดนหูเพื่อหลบหนีไม่มีผู้อมตะคนใดเห็นพวกเขา‘หลังจากกงรี่เทียนและคนอื่นๆหนีไปก็ไม่มีข่าวคราวของพวกเขาอีกเลยดังนั้นคนนอกเช่น

ฟางหยวนย่อมคิดว่ากงรี่เทียนอยู่ในมือของข้า’

วูหยงคิดต่อ‘การกระทําของข้าก่อนหน้านี้ยังไม่ดีพอข้าควรประกาศทันทีว่ากงรี่เทียนถูกจับโดยตระกูลวู’

แม้นั่นจะไม่เป็นความจริงแต่หากตระกูลวูประกาศออกไปกงรี่เทียนจะไม่ออกมาหักล้างเรื่องนี้หากกงรี่เทียนเปิดเผยตัวเองกลุ่มผู้อมตะจะไล่ล่าเขาเพื่อมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน

‘หากกงรี่เทียนได้ยินการประกาศจากตระกูลวูเขาจะเข้าใจแรงจูงใจของเราและพยายามรักษาความลับเกี่ยวกับแดนหูนั่นจะทําให้เขาปลอดภัยมากขึ้น’

วูหยงมีแผนอื่น เขาสามารถชดเชยความผิดพลาดครั้งก่อน

แดนหูเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพมันมีค่ามหาศาลหากตระกูลวูต้องการครอบครองมันพวกเขาต้องหาอย่างลับๆ

“ข้าสามารถส่งมอบมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน”วูหยงรีบตอบเค่อซินหง

เปรียบเทียบกับแดนหู มรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนไม่ถือเป็นสิ่งใด

นอกจากนี้ตระกูลวูก็ได้รับเพียงเนื้อหาของมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนเท่านั้น วิญญาณอมตะยังอยู่ในมือของกงรี่เทียน

เค่อซินหงตกตะลึงเล็กน้อย

วูหยงตกลงอย่างง่ายดายสิ่งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา

เค่อซินหงเป็นผู้อมตะของถ้ำสวรรค์คุณธรรมหลังจากลั่วเว่ยหยินมอบมรดกที่แท้จริงสวรรค์พภพรวมถึงถ้ำสวรรค์คุณธรรมให้กับฟางหยวนเขาก็กลายเป็นลูกน้องของฟางหยวน

นี่เป็นภารกิจแรกที่ฟางหยวนมอบหมายให้เขา

เมื่อเค่อซินหงได้รับภารกิจนี้เขารู้สึกกดดันมากเขาได้ยินชื่อเสียงของวูหยงมานานแล้วระหว่างเดินทางมาที่นี่เขายังพยายามคิดหาวิธีที่จะทําให้วูหยงตกลง

แต่วูหยงกลับตกลงทันทีเมื่อเค่อซินหงเอ่ยปาก

‘ในที่สุดข้าก็ตระหนักถึงพลังอํานาจและศักดิ์ศรีของนายท่านแล้ว’ เค่อซินหงลอบถอนหายใจ

เค่อซินหงกล่าวเสริม“ท่านวูหยงนายท่านของข้ายินดีจ่ายเพื่อมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน”

คราวนี้เป็นวูหยงที่ตกตะลึง

ฟางหยวนต้องการทําธุรกรรมเขาไม่ได้กรรโชกหรือฉกฉวยโดยใช้กําลัง?

วูหยงตอบสนองและระบุสิ่งที่ต้องการอย่างรวดเร็ว

เค่อซินหงขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะวูหยงต้องการทรัพยากรอมตะระดับเก่าบนเส้นทางแห่งวายุที่หายากในท้องตลาด

เค่อซินหงไม่สามารถตัดสินใจเขาต้องติดต่อฟางหยวน

หลังจากได้รับคําตอบเค่อซินหงก็เผยรอยยิ้มอีกครั้ง

ด้วยการใช้สวรรค์สีเหลืองเป็นตัวกลางธุรกรรมก็เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนได้รับเนื้อหาทั้งหมดของมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนขณะที่วูหยงได้รับทรัพยากรอมตะระดับเก่าบนเส้นทางแห่งวายุ

‘ฟางหยวนมีถ้ำสวรรค์จํานวนมากของสองสวรรค์ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมีทรัพยากรอมตะที่หายากแต่เขาทําธุรกรรมกับข้าจริงๆ!

การเตรียมทรัพยากรอมตะเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดของวูหยงประสบความสําเร็จอย่างมากแต่วูหยงไม่มีความสุข

ฟางหยวนมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะใช้กําลังแย่งชิงมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนแต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น

เขาส่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์เห็ดออกมาและแสดงความจริงใจที่จะทําธุรกรรมหลังจากนั้นเขายังรักษาคําพูดและจ่ายด้วยทรัพยากรอมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งวายุ

‘ฟางหยวนช่างน่าทึ่งนัก!’วูหยงถอนหายใจ

ดังคํากล่าวที่ว่านักว่ายน้ำอาจจมน้ำตายนักสู้อาจเสียชีวิตในสนามรบ การพึ่งพาเพียงความสามารถพิเศษของตนโดยไม่มีทักษะอื่นเป็นเรื่องอันตราย

เมื่อคนผู้หนึ่งเริ่มพึ่งพาบางสิ่งพวกเขาจะรู้สึกเหมือนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยโดยไม่รู้ตัวเมื่อพวกเขาพบปัญหาพวกเขาจะพึ่งพาความสามารถพิเศษของ

ตนเพื่อแก้ปัญหาเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะสูญเสียวิธีการและมุมมองอื่นๆเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมันอาจเป็นจุดจบของพวกเขาแต่ฟางหยวนไม่ได้ทําเช่นนั้น

เขามีความแข็งแกร่งพอที่จะแย่งชิงมรดกที่แท้จริงแต่เขาไม่ได้พึ่งพาเพียงพละกําลังเขาเสียเวลาและพลังงานอย่างมากเพื่อทําธุรกรรม

แต่ด้วยการทําธุรกรรมนี้ฟางหยวนก็ได้รับมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนอย่างไม่มีปัญหาวูหยงวิเคราะห์‘เรื่องนี้มีความนัยอย่างน้อยสองประการ’

ประการแรก ฟางหยวนมีทรัพยากรอมตะมากมายทรัพยากรอมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งวายุไม่อยู่ในสายตาของเขา’

‘ประการที่สอง แม้เขาจะเป็นตัวตนอันดับหนึ่งของโลกในยุคปัจจุบัน แต่เขายังเยือกเย็นและคิดได้อย่างรอบคอบ เขาไม่ได้พึ่งพาเพียงความแข็งแกร่งของตนเห้อ…มันคงจะดีหากข้า สามารถฆ่าเขาได้ในเวลานั้นตอนนี้ฟางหยวนเติบโตขึ้นอย่างเต็มที่แล้ว ด้วยพลังการต่อสู้ในเวลานี้ของเขา เขาน่ากลัวเกินไป’

เมื่อการทําธุรกรรมเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนสิ้นสุดลงร่างหลักของฟางหยวนก็อยู่ที่ทะเลทรายตะวันตกแล้ว

ทะเลทรายตะวันตกฐานทัพใหญ่ตระกูลฟาง

ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลฟางมารวมตัวกันและกําลังจ้องมองฟางหยวนที่อยู่ตรงหน้า

“ทุกคน อย่ากังวล ข้ามาที่นี่เพื่อทําธุรกรรมกับตระกูลฟาง” ฟางหยวนยิ้ม

แต่ผู้อมตะตระกูลฟางยังรู้สึกกดดันมาก

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง ฟางกงกล่าว“มันเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเราที่ได้รับความสนใจจากเจ้า?”

“ทุกท่าน ในความเป็นจริงเรามีความสัมพันธ์ค่อนข้างลึกซึ้ง”ในจังหวะนี้ฟางหยวนก็เริ่มใช้ท่าไม้ตายของเขาแล้ว

เมื่อกลิ่นอายของวิญญาณอมตะรั่วไหลออกมา ผู้อมตะตระกูลฟางก็เตรียมเข้าสู่การต่อสู้

“ฟางหยวน เจ้ากําลังจะทําสิ่งใด?”

“นี่คือฐานทัพใหญ่ของตระกูลฟาง!”

“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการทําธุรกรรม หากเจ้าโจมตีตอนนี้ ในอนาคตผู้ใดจะเชื่อคําพูดของเจ้าอีก!”

ผู้อมตะตระกูลฟางกรีดร้องด้วยความประหม่า

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา “หากข้าต้องการทําร้ายพวกเจ้า ข้าคงโจมตีไปนานแล้วตระกูลฟางของพวกเจ้าจะหยุดข้าได้งั้นหรือ?”

ขณะที่เขากล่าวถ้อยคําเหล่านี้รูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไป

ผู้อมตะตระกูลฟางตกใจมาก“ซวนปู้จิน?”

ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์อื่น

ผู้อมตะตระกูลฟางตกใจอีกครั้ง“ฟางตี้เฉิง?”

ฟางหยุนขมวดคิ้วเขาเป็นบุตรบุญธรรมของฟางตี้เฉิงเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟางหยวนเขารู้สึกรังเกียจ“ท่านฟางหยวนท่านมาที่ตระกูลฟางเพียงเพื่อเย้ยหยันพวกเรางั้นหรือ?”

ฟางหยวนมองฟางหยุนและกล่าวอย่างมีความหมาย “หยุนเอ๋อ เหตุใดเจ้ายังไม่เปลี่ยนไปบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญา? พ่อมอบวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามดวงรวมถึงมรดก บนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าให้เจ้าแล้วตอนนี้ตระกูลฟางไม่มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาหากเจ้าไม่รับผิดชอบ แล้วผู้ใดจะทํา?”

“เจ้า…เจ้า…” ฟางหยุนชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนเขาเบิกตาโตด้วยความตกใจ การแสดงออกของผู้อมตะตระกูลฟางเปลี่ยนไปเช่นกัน

พวกเขาตกตะลึงกับค่ากล่าวของฟางหยวนเพราะพวกมันล้วนเป็นเรื่องจริง

“ในความเป็นจริงข้าก็คือซวนปู้จิน ต่อมาข้าก็กลายเป็นฟางตี้เฉิง ข้าคุ้นเคยกับพวกเจ้า มากกว่าที่พวกเจ้าคิด” ฟางหยวนมองไปรอบๆและหัวเราะ

ฟางกงหน้าซีด เขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป“เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”

ฟางหยวนมอบหลักฐานจํานวนมากให้กับผู้อมตะตระกูลฟางขณะที่เขาลอบถ่ายทอดเสียงไป

หาฟางกง “ฟางกงเจ้ากับฟางตี้เฉิงตัดสินใจเสียสละซวนปู้จินเพื่อปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เจ้าต้องการให้ข้าเปิดเผยเรื่องนี้หรือไม่?”

ฟางหยวนไม่เพียงมีหลักฐานเขายังมีข้อเท็จจริงที่ถูกต้องในไม่ช้าผู้อมตะตระกูลฟางก็เข้าใจ เรื่องราวทั้งหมด

“ดังนั้นฟางหยวนก็แทรกซึมเข้าสู่ตระกูลฟางมานานแล้ว!”“เขากระทั่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอกของเรา!”

“โอ้ สวรรค์แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราก็ยังถูกเขาเข้าแทนที่เราไม่พบสิ่งผิด

ปกติเลย!”

หลังจากผู้อมตะตระกูลฟางตระหนักถึงความจริงใบหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นซีดเผือด

มันน่ากลัวเกินไป

หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนเปิดเผยมันออกมาด้วยตนเอง พวกเขาก็ยังคิดว่าฟางตี้เฉิงติดอยู่ในเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์

ตั้งแต่สงครามชะตากรรมสิ้นสุดลงตระกูลฟางพยายามเจรจากับวังสวรรค์เพื่อนําตัวฟางตี้เฉิงกลับมา

“นี่หมายความว่าวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์จับร่างแยกของเจ้าขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราตายในมือของเจ้า!” ฟางกงมองฟางหยวนด้วยสายตาเย็นชา

ฟางหยวนกล่าว “การบอกว่าฟางตี้เฉิงเสียชีวิตในมือของข้าทั้งถูกและผิด ร่างของฟางตี้เฉิงถูกทําลายแต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่กับข้า พวกเจ้าต้องการนําเขากลับไปหรือไม่?”

ย้อนกลับไปเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของโคมไฟวิญญาณฟางหยวนจึงไม่ได้สังหารฟางตี้เฉิง เขาเพียงแยกดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงออกจากร่างกายเท่านั้น

ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่ในมือของฟางหยวนผู้อมตะตระกูลฟางได้ยินเรื่องนี้และรู้สึกตื่นเต้น

“ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่กับเจ้างั้นหรือ?”

“เยี่ยมมาก ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราสามารถฟื้นคืนชีพ!”

“ไม่แปลกใจเลยที่วังสวรรค์แสดงท่าทีที่คลุมเครือมาตลอด มันกลายเป็นว่าพวกเขาไม่เคยมีผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองตั้งแต่แรก”

ฟางหยวนกล่าวต่อ “วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายไปแล้ว ตราบเท่าที่ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่และมีร่างกายที่เหมาะสม เขาก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อีกครั้ง”

“หากร่างกายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา หลังจากฟางตี้เฉิงกลับมาเขาจะกลายเป็นผู้ช่วยที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลฟางได้ทันที!”

“บอกข้า สหายตระกูลฟางพวกเจ้าต้องการทําธุรกรรมกับข้าหรือไม่?” ฟางหยวนถามผู้อมตะตระกูลฟางเงียบทุกคนมองไปที่ฟางกง

ในช่วงเวลาสําคัญมีเพียงฟางกงซึ่งเป็นผู้อมตะระดับแปดและผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 2101 ฟางหยวนทําธุรกรรม

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 2101 ฟางหยวนทําธุรกรรม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2101 ฟางหยวนทําธุรกรรม

วูหยงพยายามสงบสติอารมณ์

‘ดังนั้นฟางหยวนก็ต้องการมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนของข้าแต่เขายังไม่พบแดนหู!’หลังจากไตร่ตรองความกังวลในใจของวูหยงก็หมดไป

ความจริงก็คือตราบเท่าที่กงรี่เทียนไม่เปิดเผยความลับนี้ออกมาด้วยตนเอง มันก็มีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยที่แดนหูจะถูกค้นพบโดยผู้อื่นที่ไม่ใช่ตระกูลวู

ย้อนกลับไปเมื่อกงรี่เทียนและคนอื่นๆใช้แดนหูเพื่อหลบหนีไม่มีผู้อมตะคนใดเห็นพวกเขา‘หลังจากกงรี่เทียนและคนอื่นๆหนีไปก็ไม่มีข่าวคราวของพวกเขาอีกเลยดังนั้นคนนอกเช่น

ฟางหยวนย่อมคิดว่ากงรี่เทียนอยู่ในมือของข้า’

วูหยงคิดต่อ‘การกระทําของข้าก่อนหน้านี้ยังไม่ดีพอข้าควรประกาศทันทีว่ากงรี่เทียนถูกจับโดยตระกูลวู’

แม้นั่นจะไม่เป็นความจริงแต่หากตระกูลวูประกาศออกไปกงรี่เทียนจะไม่ออกมาหักล้างเรื่องนี้หากกงรี่เทียนเปิดเผยตัวเองกลุ่มผู้อมตะจะไล่ล่าเขาเพื่อมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน

‘หากกงรี่เทียนได้ยินการประกาศจากตระกูลวูเขาจะเข้าใจแรงจูงใจของเราและพยายามรักษาความลับเกี่ยวกับแดนหูนั่นจะทําให้เขาปลอดภัยมากขึ้น’

วูหยงมีแผนอื่น เขาสามารถชดเชยความผิดพลาดครั้งก่อน

แดนหูเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพมันมีค่ามหาศาลหากตระกูลวูต้องการครอบครองมันพวกเขาต้องหาอย่างลับๆ

“ข้าสามารถส่งมอบมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน”วูหยงรีบตอบเค่อซินหง

เปรียบเทียบกับแดนหู มรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนไม่ถือเป็นสิ่งใด

นอกจากนี้ตระกูลวูก็ได้รับเพียงเนื้อหาของมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนเท่านั้น วิญญาณอมตะยังอยู่ในมือของกงรี่เทียน

เค่อซินหงตกตะลึงเล็กน้อย

วูหยงตกลงอย่างง่ายดายสิ่งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา

เค่อซินหงเป็นผู้อมตะของถ้ำสวรรค์คุณธรรมหลังจากลั่วเว่ยหยินมอบมรดกที่แท้จริงสวรรค์พภพรวมถึงถ้ำสวรรค์คุณธรรมให้กับฟางหยวนเขาก็กลายเป็นลูกน้องของฟางหยวน

นี่เป็นภารกิจแรกที่ฟางหยวนมอบหมายให้เขา

เมื่อเค่อซินหงได้รับภารกิจนี้เขารู้สึกกดดันมากเขาได้ยินชื่อเสียงของวูหยงมานานแล้วระหว่างเดินทางมาที่นี่เขายังพยายามคิดหาวิธีที่จะทําให้วูหยงตกลง

แต่วูหยงกลับตกลงทันทีเมื่อเค่อซินหงเอ่ยปาก

‘ในที่สุดข้าก็ตระหนักถึงพลังอํานาจและศักดิ์ศรีของนายท่านแล้ว’ เค่อซินหงลอบถอนหายใจ

เค่อซินหงกล่าวเสริม“ท่านวูหยงนายท่านของข้ายินดีจ่ายเพื่อมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียน”

คราวนี้เป็นวูหยงที่ตกตะลึง

ฟางหยวนต้องการทําธุรกรรมเขาไม่ได้กรรโชกหรือฉกฉวยโดยใช้กําลัง?

วูหยงตอบสนองและระบุสิ่งที่ต้องการอย่างรวดเร็ว

เค่อซินหงขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะวูหยงต้องการทรัพยากรอมตะระดับเก่าบนเส้นทางแห่งวายุที่หายากในท้องตลาด

เค่อซินหงไม่สามารถตัดสินใจเขาต้องติดต่อฟางหยวน

หลังจากได้รับคําตอบเค่อซินหงก็เผยรอยยิ้มอีกครั้ง

ด้วยการใช้สวรรค์สีเหลืองเป็นตัวกลางธุรกรรมก็เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนได้รับเนื้อหาทั้งหมดของมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนขณะที่วูหยงได้รับทรัพยากรอมตะระดับเก่าบนเส้นทางแห่งวายุ

‘ฟางหยวนมีถ้ำสวรรค์จํานวนมากของสองสวรรค์ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมีทรัพยากรอมตะที่หายากแต่เขาทําธุรกรรมกับข้าจริงๆ!

การเตรียมทรัพยากรอมตะเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดของวูหยงประสบความสําเร็จอย่างมากแต่วูหยงไม่มีความสุข

ฟางหยวนมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะใช้กําลังแย่งชิงมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนแต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น

เขาส่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์เห็ดออกมาและแสดงความจริงใจที่จะทําธุรกรรมหลังจากนั้นเขายังรักษาคําพูดและจ่ายด้วยทรัพยากรอมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งวายุ

‘ฟางหยวนช่างน่าทึ่งนัก!’วูหยงถอนหายใจ

ดังคํากล่าวที่ว่านักว่ายน้ำอาจจมน้ำตายนักสู้อาจเสียชีวิตในสนามรบ การพึ่งพาเพียงความสามารถพิเศษของตนโดยไม่มีทักษะอื่นเป็นเรื่องอันตราย

เมื่อคนผู้หนึ่งเริ่มพึ่งพาบางสิ่งพวกเขาจะรู้สึกเหมือนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยโดยไม่รู้ตัวเมื่อพวกเขาพบปัญหาพวกเขาจะพึ่งพาความสามารถพิเศษของ

ตนเพื่อแก้ปัญหาเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะสูญเสียวิธีการและมุมมองอื่นๆเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมันอาจเป็นจุดจบของพวกเขาแต่ฟางหยวนไม่ได้ทําเช่นนั้น

เขามีความแข็งแกร่งพอที่จะแย่งชิงมรดกที่แท้จริงแต่เขาไม่ได้พึ่งพาเพียงพละกําลังเขาเสียเวลาและพลังงานอย่างมากเพื่อทําธุรกรรม

แต่ด้วยการทําธุรกรรมนี้ฟางหยวนก็ได้รับมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนอย่างไม่มีปัญหาวูหยงวิเคราะห์‘เรื่องนี้มีความนัยอย่างน้อยสองประการ’

ประการแรก ฟางหยวนมีทรัพยากรอมตะมากมายทรัพยากรอมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งวายุไม่อยู่ในสายตาของเขา’

‘ประการที่สอง แม้เขาจะเป็นตัวตนอันดับหนึ่งของโลกในยุคปัจจุบัน แต่เขายังเยือกเย็นและคิดได้อย่างรอบคอบ เขาไม่ได้พึ่งพาเพียงความแข็งแกร่งของตนเห้อ…มันคงจะดีหากข้า สามารถฆ่าเขาได้ในเวลานั้นตอนนี้ฟางหยวนเติบโตขึ้นอย่างเต็มที่แล้ว ด้วยพลังการต่อสู้ในเวลานี้ของเขา เขาน่ากลัวเกินไป’

เมื่อการทําธุรกรรมเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงเฉิงเทียนสิ้นสุดลงร่างหลักของฟางหยวนก็อยู่ที่ทะเลทรายตะวันตกแล้ว

ทะเลทรายตะวันตกฐานทัพใหญ่ตระกูลฟาง

ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลฟางมารวมตัวกันและกําลังจ้องมองฟางหยวนที่อยู่ตรงหน้า

“ทุกคน อย่ากังวล ข้ามาที่นี่เพื่อทําธุรกรรมกับตระกูลฟาง” ฟางหยวนยิ้ม

แต่ผู้อมตะตระกูลฟางยังรู้สึกกดดันมาก

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง ฟางกงกล่าว“มันเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเราที่ได้รับความสนใจจากเจ้า?”

“ทุกท่าน ในความเป็นจริงเรามีความสัมพันธ์ค่อนข้างลึกซึ้ง”ในจังหวะนี้ฟางหยวนก็เริ่มใช้ท่าไม้ตายของเขาแล้ว

เมื่อกลิ่นอายของวิญญาณอมตะรั่วไหลออกมา ผู้อมตะตระกูลฟางก็เตรียมเข้าสู่การต่อสู้

“ฟางหยวน เจ้ากําลังจะทําสิ่งใด?”

“นี่คือฐานทัพใหญ่ของตระกูลฟาง!”

“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการทําธุรกรรม หากเจ้าโจมตีตอนนี้ ในอนาคตผู้ใดจะเชื่อคําพูดของเจ้าอีก!”

ผู้อมตะตระกูลฟางกรีดร้องด้วยความประหม่า

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา “หากข้าต้องการทําร้ายพวกเจ้า ข้าคงโจมตีไปนานแล้วตระกูลฟางของพวกเจ้าจะหยุดข้าได้งั้นหรือ?”

ขณะที่เขากล่าวถ้อยคําเหล่านี้รูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไป

ผู้อมตะตระกูลฟางตกใจมาก“ซวนปู้จิน?”

ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์อื่น

ผู้อมตะตระกูลฟางตกใจอีกครั้ง“ฟางตี้เฉิง?”

ฟางหยุนขมวดคิ้วเขาเป็นบุตรบุญธรรมของฟางตี้เฉิงเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟางหยวนเขารู้สึกรังเกียจ“ท่านฟางหยวนท่านมาที่ตระกูลฟางเพียงเพื่อเย้ยหยันพวกเรางั้นหรือ?”

ฟางหยวนมองฟางหยุนและกล่าวอย่างมีความหมาย “หยุนเอ๋อ เหตุใดเจ้ายังไม่เปลี่ยนไปบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญา? พ่อมอบวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามดวงรวมถึงมรดก บนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าให้เจ้าแล้วตอนนี้ตระกูลฟางไม่มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาหากเจ้าไม่รับผิดชอบ แล้วผู้ใดจะทํา?”

“เจ้า…เจ้า…” ฟางหยุนชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนเขาเบิกตาโตด้วยความตกใจ การแสดงออกของผู้อมตะตระกูลฟางเปลี่ยนไปเช่นกัน

พวกเขาตกตะลึงกับค่ากล่าวของฟางหยวนเพราะพวกมันล้วนเป็นเรื่องจริง

“ในความเป็นจริงข้าก็คือซวนปู้จิน ต่อมาข้าก็กลายเป็นฟางตี้เฉิง ข้าคุ้นเคยกับพวกเจ้า มากกว่าที่พวกเจ้าคิด” ฟางหยวนมองไปรอบๆและหัวเราะ

ฟางกงหน้าซีด เขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป“เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”

ฟางหยวนมอบหลักฐานจํานวนมากให้กับผู้อมตะตระกูลฟางขณะที่เขาลอบถ่ายทอดเสียงไป

หาฟางกง “ฟางกงเจ้ากับฟางตี้เฉิงตัดสินใจเสียสละซวนปู้จินเพื่อปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เจ้าต้องการให้ข้าเปิดเผยเรื่องนี้หรือไม่?”

ฟางหยวนไม่เพียงมีหลักฐานเขายังมีข้อเท็จจริงที่ถูกต้องในไม่ช้าผู้อมตะตระกูลฟางก็เข้าใจ เรื่องราวทั้งหมด

“ดังนั้นฟางหยวนก็แทรกซึมเข้าสู่ตระกูลฟางมานานแล้ว!”“เขากระทั่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอกของเรา!”

“โอ้ สวรรค์แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราก็ยังถูกเขาเข้าแทนที่เราไม่พบสิ่งผิด

ปกติเลย!”

หลังจากผู้อมตะตระกูลฟางตระหนักถึงความจริงใบหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นซีดเผือด

มันน่ากลัวเกินไป

หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนเปิดเผยมันออกมาด้วยตนเอง พวกเขาก็ยังคิดว่าฟางตี้เฉิงติดอยู่ในเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์

ตั้งแต่สงครามชะตากรรมสิ้นสุดลงตระกูลฟางพยายามเจรจากับวังสวรรค์เพื่อนําตัวฟางตี้เฉิงกลับมา

“นี่หมายความว่าวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์จับร่างแยกของเจ้าขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราตายในมือของเจ้า!” ฟางกงมองฟางหยวนด้วยสายตาเย็นชา

ฟางหยวนกล่าว “การบอกว่าฟางตี้เฉิงเสียชีวิตในมือของข้าทั้งถูกและผิด ร่างของฟางตี้เฉิงถูกทําลายแต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่กับข้า พวกเจ้าต้องการนําเขากลับไปหรือไม่?”

ย้อนกลับไปเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของโคมไฟวิญญาณฟางหยวนจึงไม่ได้สังหารฟางตี้เฉิง เขาเพียงแยกดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงออกจากร่างกายเท่านั้น

ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่ในมือของฟางหยวนผู้อมตะตระกูลฟางได้ยินเรื่องนี้และรู้สึกตื่นเต้น

“ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่กับเจ้างั้นหรือ?”

“เยี่ยมมาก ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเราสามารถฟื้นคืนชีพ!”

“ไม่แปลกใจเลยที่วังสวรรค์แสดงท่าทีที่คลุมเครือมาตลอด มันกลายเป็นว่าพวกเขาไม่เคยมีผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองตั้งแต่แรก”

ฟางหยวนกล่าวต่อ “วิญญาณชะตากรรมถูกทําลายไปแล้ว ตราบเท่าที่ดวงวิญญาณของฟางตี้เฉิงยังอยู่และมีร่างกายที่เหมาะสม เขาก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อีกครั้ง”

“หากร่างกายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา หลังจากฟางตี้เฉิงกลับมาเขาจะกลายเป็นผู้ช่วยที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลฟางได้ทันที!”

“บอกข้า สหายตระกูลฟางพวกเจ้าต้องการทําธุรกรรมกับข้าหรือไม่?” ฟางหยวนถามผู้อมตะตระกูลฟางเงียบทุกคนมองไปที่ฟางกง

ในช่วงเวลาสําคัญมีเพียงฟางกงซึ่งเป็นผู้อมตะระดับแปดและผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+