Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1783 การซุ่มโจมตีครั้งที่สอง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1783 การซุ่มโจมตีครั้งที่สอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1783 การซุ่มโจมตีครั้งที่สอง

 

ข้อมูลล่าสุดถูกส่งมายังจื่อชิวหยู เขายืนอยู่ที่หน้าต่างและมองไปยังภูเขาด้านนอก

 

“โอ้ พวกเขาจับฟางหยวนได้แล้วงั้นหรือ? ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะหนีไม่พ้น สายตาของจื่อชิวหยูสั่นไหว

 

“ฟางหยวนพยายามก้าวข้ามภัยพิบัติที่ภาคใต้และทิ้งร่องรอยไว้เบื้องหลัง แม้เขาจะต้องการก้าวเข้าสู่ระดับแปด นี่ก็ประมาทเกินไป”

 

“แต่มันช่วยไม่ได้…เขาบังคับให้วังสวรรค์ล่าถอยและทําธุรกรรมกับข้า การเดินทางของเขาราบรื่นมาก เขามีความมั่นใจมากเกินไปและเริ่มดูถูกฝ่ายธรรมะของภาคใต้”

 

“สิ่งสําคัญคือลั่วเว่ยหยิน หากเขาไม่เข้าร่วมกับฝ่ายธรรมะของภาคใต้ เราจะไม่สามารถจับตัวฟางหยวนได้โดยง่าย สมกับเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาสามารถค้นหาตําแหน่งของฟางหยวนจากปราณพิภพที่ถูกทิ้งไว้ เขาเป็นคนที่น่าประทับใจจริงๆ”

 

จื่อชิวหยูถอนหายใจ

 

ลั่วเว่ยหยินเข้าแทรกแซงและทําให้สถานการณ์ของภาคใต้กลายเป็นซับซ้อน

 

ครั้งนี้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไล่ล่าฟางหยวนโดยมีผู้อมตะระดับแปดจํานวนสามคนรวม ถึงลั่วเว่ยหยิน นี่ทําให้โอกาสประสบความสําเร็จสูงขึ้นอีกมาก

 

หากพวกเขาทําสําเร็จ ชื่อเสียงของลั่วเว่ยหยินจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจะกลายเป็นบุคคลที่ทุกคนต้องให้ความสําคัญ

 

ในความเป็นจริงถั่วเว่ยหยินมีปฏิสัมพันธ์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งกับกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้มาก่อนหน้านี้แล้ว

 

ถ้ําสวรรค์ของเขาเป็นจุดรวมตัวของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ของภาคใต้ เขานํามนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกข่มเหงโดยมนุษย์เข้าไปอาศัยอยู่ในถ้ําสวรรค์ของเขา

 

ตามข้อมูลที่เชื่อถือได้ มนุษย์กลายพันธุ์จํานวนมากกลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว

 

สิ่งนี้ทําให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ของภาคใต้ไม่มีความสุขและวิตกกังวล แต่ลั่วเว่ยหยินเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาจึงต้องสานต่อเจตนารมณ์และความทะเยอทะยานของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับเขา

 

ลั่วเว่ยหยินถูกผลักออกจากฝ่ายธรรมะของภาคใต้มาตลอด นี่เป็นข้อตกลงโดยปริยายของทุกคน

 

แต่ไม่นานมานี้ถั่วเว่ยหยินมักปรากฏตัวและสร้างชื่อเสียง เขายังอาสาที่จะช่วยตามหาฟางหยวน หากเรื่องนี้ประสบความสําเร็จ ความพยายามของเขาจะไม่สูญเปล่า เขาจะได้รับอํานาจบางอย่างในฝ่ายธรรมะของภาคใต้

 

จื่อชิวหยูมองสถานการณ์ของฟางหยวนในแง่ร้าย

 

แม้ฟางหยวนจะสามารถต่อต้านวังสวรรค์และกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แต่ทุกคนคิดว่า นี่เป็นเพราะวังสวรรค์ประเมินรากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาต่ําเกินไป

 

สิ่งสําคัญที่สุดคือวังสวรรค์ไม่ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่ว่าจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าและเฉินอี้เสียชีวิต

 

สิ่งนี้ทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้รู้สึกมั่นใจในตัวเอง

 

ความมั่นใจของพวกเขาไม่ได้ไร้เหตุผล

 

พวกเขาเคยไล่ล่าฟางหยวนและทําให้เขาต้องหลบหนีออกจากภาคใต้ราวกับสุนัขที่ถูกทุบตี หากไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของฟงจิวเก้อ ฟางหยวนคงตายไปแล้ว

 

จื่อชิวหยูกังวลและระวังลั่วเว่ยหยินมากขึ้น เขาเริ่มคิดว่าเขาจะจัดการกับผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพผู้นี้อย่างไรในอนาคต

 

สําหรับฟางหยวน?

 

จื่อชิวหยูรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

 

ไม่ว่าฟางหยวนจะอยู่หรือตาย ตราบเท่าที่เขาจบลงในมือของกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ ธุรกรรมระหว่างฟางหยวนกับจือชิวหยูจะหยุดลง

 

สิ่งนี้ขัดต่อผลประโยชน์ของตระกูลจือ

 

ดังนั้นจื่อชิวหยูจึงรู้สึกเสียใจ

 

แม้ฟางหยวนจะเคยโจมตีแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่อและทําให้พวกเขาพบกับความสูญเสีย แต่จื่อชิวหยูไม่รู้สึกอุ่นเคืองกับเรื่องนี้

 

ในความคิดเห็นของเขา งานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันที่เขาได้รับสามารถชดเชยความสูญเสียเหล่านั้น

 

แม้ฟางหยวนจะนําหลักฐานที่ชัดเจนออกมา แต่มันก็เป็นเพียงการทําธุรกรรมระหว่างจื่อชิวหยูกับฟางหยวน

 

หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ตระกูลจื่ออาจสูญเสียอาณาเขตเล็กน้อย แต่รากฐานที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่สั่นคลอน

 

ในทางตรงข้ามหากจื่อชิวหยูแจ้งเตือนฟางหยวนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ นั่นจะเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป

 

เขาจะกลายเป็นคนทรยศ!

 

หากเขาถูกเปิดเผย แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่เขาและตระกูลจื่อก็ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีจากฝายธรรมะของภาคใต้ ตระกูลจื่ออาจถูกลบออกไป

 

ในฐานะตัวตนระดับสูงของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ จื่อชิวหยูมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับจุดยืนของเขาในสถานการณ์นี้

 

เขาจะไม่ทําเรื่องผิดพลาด

 

หากเขาบอกฟางหยวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าเขาจะถูกเปิดเผยหรือไม่ ฟางหยวนก็จะครอบครองหลักฐานที่ว่าจ่อชิวหยูเป็นคนทรยศ

 

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟางหยวนก็เป็นเพียงใช้ประโยชน์จากกันและกัน พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากพอให้จื่อชิวหยูเสี่ยงโดยใช้ตระกูลจือเป็นสิ่งเดิมพัน

 

จื่อชิวหยูรู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

“หากฟาหงยวนถูกจับ ข้าหวังว่าเขาจะไม่เปิดเผยงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝัน ตระกูลจื่อของเราต้องการเวลาสําหรับการพัฒนา”

 

“กล่าวตามตรง ฟางหยวนมีพรสวรรค์ที่น่าทิ้ง น่าเสียดายที่เขาต้องจบลงเช่นนี้ หากเขาสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ สถานการณ์ของทั้งห้าภูมิภาคจะน่าสนใจมาก”

 

ตัวตนระดับสูงต้องมีวิสัยทัศน์ที่ไม่ธรรมดา

 

จื่อชิวหยูคิดถึงตอนจบของฟางหยวนที่ใกล้เข้ามาและรู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าสมเพช

ในเวลาเดียวกัน ณ ที่ใดที่หนึ่งในภาคใต้

 

ฟางหยวนถูกปิดล้อมโดยกลุ่มผู้อมตะภาคใต้

 

ผู้นํากลุ่มคือผู้อมตะระดับแปดเซี่ยซา นางเผยรอยยิ้มเย็นชา “ปีศาจฟางหยวน ในที่สุดเจ้าก็ตกอยู่ในมือของข้า”

 

ฟางหยวนมองนางและคิด “ยังกล่าวประโยคเดิมๆ ตามความทรงจําของข้า เขาจะ หัวเราะเป็นรายต่อไป”

 

เป็นไปตามความคาดหมาย ผู้อมตะตระกูลเฉิง เฉินหูจางที่ยืนอยู่ด้านข้างเซี่ยชาเริ่มหัวเราะ “ท่านลั่วเว่ยหยินช่างยอดเยี่ยมนัก ในที่สุดเราก็พบปีศาจตนนี้!”

 

ฟางหยวน รอยยิ้มของเขาดูเกินจริงยิ่งกว่าครั้งก่อน”

 

“ฆ่าปีศาจตนนี้ แก้แค้นให้กับฝ่ายธรรมะของภาคใต้!” ไท่ชิวจงตะโกนเสียงดังด้วยเจตนาสังหาร

 

ฟางหยวน โอ้ ในที่สุดบางคนก็มีการเปลี่ยนแปลงแต่มันแทบไม่มีความแตกต่าง

 

“ในที่สุดเราก็สามารถจับฟางหยวน” หลิวห่าวคิด เขาเป็นสายลับของวังสวรรค์ เขามีวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ หากฟางหยวนแสดงสัญญาณที่จะใช้ท่าไม้ตายอมตะเกี่ยวกับวิญญาณท่องแดนอมตะ เขาจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่มีวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติเป็นแกนกลางทันที

 

หลิวห่าวรู้สึกประหม่ามากขึ้นหากเปรีนบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาสามารถใช้วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติโดยตรง แต่ครั้งนี้ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยก หลิวห่าวไม่สามารถใช้เพียงวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติตอบโต้ฟางหยวน เขาต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะเท่านั้น

 

วังสวรรค์ไม่ขาดแคลนท่าไม้ตายเหล่านี้ แม้พวกเขาจะไม่มี เทพธิดาจื่อเว่ยก็สามารถคิดค้น

 

หลิวห่าวรู้สึกประหม่าเพราะเขายังไม่คุ้นเคยกับท่าไม้ตายนี้ หากเขาใช้มันระหว่างการต่อสู้ มันอาจล้มเหลว

 

หากท่าไม้ตายอมตะล้มเหลว เขาจะทําให้วังสวรรค์ผิดหวัง นั่นยังเป็นเรื่องที่น่าละอาย

 

“อย่ากังวล ข้าอยู่นี่” ผู้อมตะระดับเจ็ดลอบส่งเสียงมาหาหลิวห่าว หลิวห่าวมองไปทางคนผู้นั้น

 

“อย่ามองข้า!” ผู้อมตะระดับเจ็ดตะโกนเสียงเย็น

 

หลิวห่าวกลอกตา คนผู้นี้คือผู้อมตะระดับแปดของตระกูลปา ปาซื่อปา ตอนนี้เขาปลอมตัวเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

 

“รวมคนผู้นี้ เราก็มีผู้อมตะระดับแปดถึงสามคน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟางหยวนไม่ได้รับความช่วยเหลือจากค่ายกลวิญญาณอมตะ หากการต่อสู้ปะทุขึ้น ข้าจะมีโอกาสใช้ท่าไม้ตายของข้าอย่างสงบ” หลิวห่าววิเคราะห์อยู่ในใจ

 

อย่างไรก็ตาม

 

“ครืน!”

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกกระตุ้นการทํางาน ผู้อมตะภาคใต้ถูกขังอยู่ภายใน

 

“อันใด!?” ดวงตาของหลิวห่าวแทบหลุดออกมาจากเบ้า เขากรีดร้อง “เหตุใดจึงมีค่ายกลวิญญาณอมตะอยู่ที่นี่!?”

 

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้เปลี่ยนแปลงไป

 

“นี่คือกับดัก!” บางคนตะโกน

 

ลั่วเว่ยหยินเงียบขณะที่สายตาของเซี่ยชาเย็นชามากขึ้นเรียอๆ

 

“ใจเย็น! เรามีความได้เปรียบด้านจํานวน!”

 

“ถูกต้อง เรามีท่านหญิงเซี่ยชาและท่านลั่วเว่ยหยิน เราไม่จําเป็นต้องกลัวเขตแดนอมตะ!”

 

หลิวห่าวตกตะลึง “ถูกต้อง ค่ายกลวิญญาณอมตะจะจัดตั้งได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร? มันเร็วเกินไป นี่ต้องเป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ แต่ฟางหยวนค่อนข้างโง่ หลังจากใช้เขตแดนอมตะ เขาจะไม่สามารถหลบหนี!”

 

ผู้อมตะภาคใต้ล้วนเป็นคนฉลาด ไม่นานพวกเขาก็สามารถสงบจิตใจ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ลั่วเว่ยหยินเปิดปากกล่าว “นี่ไม่ใช่เขตแดนอมตะ มันคือค่ายกลวิญญาณอมตะที่ยอดเยี่ยม”

 

“ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา” เซี่ยชากล่าวเสริม

 

ริมฝีปากของหลิวห่าวกระตุก เขาคิด “หลังจากพูดคุยกันมานาน มันยังคงเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะ!”

 

“พวกเจ้าทั้งสองค่อนข้างฉลาด” ฟางหยวนยิ้มก่อนจะสบัดแขนเสื้อ

 

“โฮก…”

 

เสียงคํารามดังขึ้นก่อนที่กองทัพอสูรจะพุ่งออกมาจากเกลียวแสงขนาดใหญ่

 

ในเวลาเดียวกันฟางหยวนก็หายตัวไป

 

อสูรปีมีสติปัญญาไม่สูงนัก เมื่อพวกมันเห็นกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีพวกเข ทันที

 

“ฆ่าพวกมันให้หมด!” เซี่ยชากล่าวอย่างเย็นชา

 

ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจ

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เริ่มต่อสู้กับกองทัพอสูรปี

 

หลิวห่าวสะบัดมือส่งมีดบินจํานวนนับไม่ถ้วนออกไปแยกร่างอสูรปีออกเป็นชิ้นๆ

 

ฟางหยวนที่ยืนมองอยู่วิเคราะห์ “สายลับของวังสวรรค์ยังอยู่ที่นี่ ข้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์มากนัก วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติควรจะอยู่ในมือของเขา”

 

หลิวห่าวคิด “ดูเหมือนจะมีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาอยู่ที่นี่ ฟางหยวนพยายามใช้วิธีเดิมอีกครั้ง เขาเคยใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะที่คล้ายกันนี้ต่อสู้กับฟงจิวเก้อ แต่เหตุใดข้าจึงรู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1783 การซุ่มโจมตีครั้งที่สอง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1783 การซุ่มโจมตีครั้งที่สอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1783 การซุ่มโจมตีครั้งที่สอง

 

ข้อมูลล่าสุดถูกส่งมายังจื่อชิวหยู เขายืนอยู่ที่หน้าต่างและมองไปยังภูเขาด้านนอก

 

“โอ้ พวกเขาจับฟางหยวนได้แล้วงั้นหรือ? ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะหนีไม่พ้น สายตาของจื่อชิวหยูสั่นไหว

 

“ฟางหยวนพยายามก้าวข้ามภัยพิบัติที่ภาคใต้และทิ้งร่องรอยไว้เบื้องหลัง แม้เขาจะต้องการก้าวเข้าสู่ระดับแปด นี่ก็ประมาทเกินไป”

 

“แต่มันช่วยไม่ได้…เขาบังคับให้วังสวรรค์ล่าถอยและทําธุรกรรมกับข้า การเดินทางของเขาราบรื่นมาก เขามีความมั่นใจมากเกินไปและเริ่มดูถูกฝ่ายธรรมะของภาคใต้”

 

“สิ่งสําคัญคือลั่วเว่ยหยิน หากเขาไม่เข้าร่วมกับฝ่ายธรรมะของภาคใต้ เราจะไม่สามารถจับตัวฟางหยวนได้โดยง่าย สมกับเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาสามารถค้นหาตําแหน่งของฟางหยวนจากปราณพิภพที่ถูกทิ้งไว้ เขาเป็นคนที่น่าประทับใจจริงๆ”

 

จื่อชิวหยูถอนหายใจ

 

ลั่วเว่ยหยินเข้าแทรกแซงและทําให้สถานการณ์ของภาคใต้กลายเป็นซับซ้อน

 

ครั้งนี้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไล่ล่าฟางหยวนโดยมีผู้อมตะระดับแปดจํานวนสามคนรวม ถึงลั่วเว่ยหยิน นี่ทําให้โอกาสประสบความสําเร็จสูงขึ้นอีกมาก

 

หากพวกเขาทําสําเร็จ ชื่อเสียงของลั่วเว่ยหยินจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจะกลายเป็นบุคคลที่ทุกคนต้องให้ความสําคัญ

 

ในความเป็นจริงถั่วเว่ยหยินมีปฏิสัมพันธ์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งกับกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้มาก่อนหน้านี้แล้ว

 

ถ้ําสวรรค์ของเขาเป็นจุดรวมตัวของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ของภาคใต้ เขานํามนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกข่มเหงโดยมนุษย์เข้าไปอาศัยอยู่ในถ้ําสวรรค์ของเขา

 

ตามข้อมูลที่เชื่อถือได้ มนุษย์กลายพันธุ์จํานวนมากกลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว

 

สิ่งนี้ทําให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ของภาคใต้ไม่มีความสุขและวิตกกังวล แต่ลั่วเว่ยหยินเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาจึงต้องสานต่อเจตนารมณ์และความทะเยอทะยานของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับเขา

 

ลั่วเว่ยหยินถูกผลักออกจากฝ่ายธรรมะของภาคใต้มาตลอด นี่เป็นข้อตกลงโดยปริยายของทุกคน

 

แต่ไม่นานมานี้ถั่วเว่ยหยินมักปรากฏตัวและสร้างชื่อเสียง เขายังอาสาที่จะช่วยตามหาฟางหยวน หากเรื่องนี้ประสบความสําเร็จ ความพยายามของเขาจะไม่สูญเปล่า เขาจะได้รับอํานาจบางอย่างในฝ่ายธรรมะของภาคใต้

 

จื่อชิวหยูมองสถานการณ์ของฟางหยวนในแง่ร้าย

 

แม้ฟางหยวนจะสามารถต่อต้านวังสวรรค์และกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แต่ทุกคนคิดว่า นี่เป็นเพราะวังสวรรค์ประเมินรากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาต่ําเกินไป

 

สิ่งสําคัญที่สุดคือวังสวรรค์ไม่ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่ว่าจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าและเฉินอี้เสียชีวิต

 

สิ่งนี้ทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้รู้สึกมั่นใจในตัวเอง

 

ความมั่นใจของพวกเขาไม่ได้ไร้เหตุผล

 

พวกเขาเคยไล่ล่าฟางหยวนและทําให้เขาต้องหลบหนีออกจากภาคใต้ราวกับสุนัขที่ถูกทุบตี หากไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของฟงจิวเก้อ ฟางหยวนคงตายไปแล้ว

 

จื่อชิวหยูกังวลและระวังลั่วเว่ยหยินมากขึ้น เขาเริ่มคิดว่าเขาจะจัดการกับผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพผู้นี้อย่างไรในอนาคต

 

สําหรับฟางหยวน?

 

จื่อชิวหยูรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

 

ไม่ว่าฟางหยวนจะอยู่หรือตาย ตราบเท่าที่เขาจบลงในมือของกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ ธุรกรรมระหว่างฟางหยวนกับจือชิวหยูจะหยุดลง

 

สิ่งนี้ขัดต่อผลประโยชน์ของตระกูลจือ

 

ดังนั้นจื่อชิวหยูจึงรู้สึกเสียใจ

 

แม้ฟางหยวนจะเคยโจมตีแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่อและทําให้พวกเขาพบกับความสูญเสีย แต่จื่อชิวหยูไม่รู้สึกอุ่นเคืองกับเรื่องนี้

 

ในความคิดเห็นของเขา งานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันที่เขาได้รับสามารถชดเชยความสูญเสียเหล่านั้น

 

แม้ฟางหยวนจะนําหลักฐานที่ชัดเจนออกมา แต่มันก็เป็นเพียงการทําธุรกรรมระหว่างจื่อชิวหยูกับฟางหยวน

 

หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ตระกูลจื่ออาจสูญเสียอาณาเขตเล็กน้อย แต่รากฐานที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่สั่นคลอน

 

ในทางตรงข้ามหากจื่อชิวหยูแจ้งเตือนฟางหยวนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ นั่นจะเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป

 

เขาจะกลายเป็นคนทรยศ!

 

หากเขาถูกเปิดเผย แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่เขาและตระกูลจื่อก็ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีจากฝายธรรมะของภาคใต้ ตระกูลจื่ออาจถูกลบออกไป

 

ในฐานะตัวตนระดับสูงของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ จื่อชิวหยูมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับจุดยืนของเขาในสถานการณ์นี้

 

เขาจะไม่ทําเรื่องผิดพลาด

 

หากเขาบอกฟางหยวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าเขาจะถูกเปิดเผยหรือไม่ ฟางหยวนก็จะครอบครองหลักฐานที่ว่าจ่อชิวหยูเป็นคนทรยศ

 

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟางหยวนก็เป็นเพียงใช้ประโยชน์จากกันและกัน พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากพอให้จื่อชิวหยูเสี่ยงโดยใช้ตระกูลจือเป็นสิ่งเดิมพัน

 

จื่อชิวหยูรู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

“หากฟาหงยวนถูกจับ ข้าหวังว่าเขาจะไม่เปิดเผยงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝัน ตระกูลจื่อของเราต้องการเวลาสําหรับการพัฒนา”

 

“กล่าวตามตรง ฟางหยวนมีพรสวรรค์ที่น่าทิ้ง น่าเสียดายที่เขาต้องจบลงเช่นนี้ หากเขาสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ สถานการณ์ของทั้งห้าภูมิภาคจะน่าสนใจมาก”

 

ตัวตนระดับสูงต้องมีวิสัยทัศน์ที่ไม่ธรรมดา

 

จื่อชิวหยูคิดถึงตอนจบของฟางหยวนที่ใกล้เข้ามาและรู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าสมเพช

ในเวลาเดียวกัน ณ ที่ใดที่หนึ่งในภาคใต้

 

ฟางหยวนถูกปิดล้อมโดยกลุ่มผู้อมตะภาคใต้

 

ผู้นํากลุ่มคือผู้อมตะระดับแปดเซี่ยซา นางเผยรอยยิ้มเย็นชา “ปีศาจฟางหยวน ในที่สุดเจ้าก็ตกอยู่ในมือของข้า”

 

ฟางหยวนมองนางและคิด “ยังกล่าวประโยคเดิมๆ ตามความทรงจําของข้า เขาจะ หัวเราะเป็นรายต่อไป”

 

เป็นไปตามความคาดหมาย ผู้อมตะตระกูลเฉิง เฉินหูจางที่ยืนอยู่ด้านข้างเซี่ยชาเริ่มหัวเราะ “ท่านลั่วเว่ยหยินช่างยอดเยี่ยมนัก ในที่สุดเราก็พบปีศาจตนนี้!”

 

ฟางหยวน รอยยิ้มของเขาดูเกินจริงยิ่งกว่าครั้งก่อน”

 

“ฆ่าปีศาจตนนี้ แก้แค้นให้กับฝ่ายธรรมะของภาคใต้!” ไท่ชิวจงตะโกนเสียงดังด้วยเจตนาสังหาร

 

ฟางหยวน โอ้ ในที่สุดบางคนก็มีการเปลี่ยนแปลงแต่มันแทบไม่มีความแตกต่าง

 

“ในที่สุดเราก็สามารถจับฟางหยวน” หลิวห่าวคิด เขาเป็นสายลับของวังสวรรค์ เขามีวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ หากฟางหยวนแสดงสัญญาณที่จะใช้ท่าไม้ตายอมตะเกี่ยวกับวิญญาณท่องแดนอมตะ เขาจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่มีวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติเป็นแกนกลางทันที

 

หลิวห่าวรู้สึกประหม่ามากขึ้นหากเปรีนบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาสามารถใช้วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติโดยตรง แต่ครั้งนี้ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยก หลิวห่าวไม่สามารถใช้เพียงวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติตอบโต้ฟางหยวน เขาต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะเท่านั้น

 

วังสวรรค์ไม่ขาดแคลนท่าไม้ตายเหล่านี้ แม้พวกเขาจะไม่มี เทพธิดาจื่อเว่ยก็สามารถคิดค้น

 

หลิวห่าวรู้สึกประหม่าเพราะเขายังไม่คุ้นเคยกับท่าไม้ตายนี้ หากเขาใช้มันระหว่างการต่อสู้ มันอาจล้มเหลว

 

หากท่าไม้ตายอมตะล้มเหลว เขาจะทําให้วังสวรรค์ผิดหวัง นั่นยังเป็นเรื่องที่น่าละอาย

 

“อย่ากังวล ข้าอยู่นี่” ผู้อมตะระดับเจ็ดลอบส่งเสียงมาหาหลิวห่าว หลิวห่าวมองไปทางคนผู้นั้น

 

“อย่ามองข้า!” ผู้อมตะระดับเจ็ดตะโกนเสียงเย็น

 

หลิวห่าวกลอกตา คนผู้นี้คือผู้อมตะระดับแปดของตระกูลปา ปาซื่อปา ตอนนี้เขาปลอมตัวเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

 

“รวมคนผู้นี้ เราก็มีผู้อมตะระดับแปดถึงสามคน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟางหยวนไม่ได้รับความช่วยเหลือจากค่ายกลวิญญาณอมตะ หากการต่อสู้ปะทุขึ้น ข้าจะมีโอกาสใช้ท่าไม้ตายของข้าอย่างสงบ” หลิวห่าววิเคราะห์อยู่ในใจ

 

อย่างไรก็ตาม

 

“ครืน!”

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกกระตุ้นการทํางาน ผู้อมตะภาคใต้ถูกขังอยู่ภายใน

 

“อันใด!?” ดวงตาของหลิวห่าวแทบหลุดออกมาจากเบ้า เขากรีดร้อง “เหตุใดจึงมีค่ายกลวิญญาณอมตะอยู่ที่นี่!?”

 

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้เปลี่ยนแปลงไป

 

“นี่คือกับดัก!” บางคนตะโกน

 

ลั่วเว่ยหยินเงียบขณะที่สายตาของเซี่ยชาเย็นชามากขึ้นเรียอๆ

 

“ใจเย็น! เรามีความได้เปรียบด้านจํานวน!”

 

“ถูกต้อง เรามีท่านหญิงเซี่ยชาและท่านลั่วเว่ยหยิน เราไม่จําเป็นต้องกลัวเขตแดนอมตะ!”

 

หลิวห่าวตกตะลึง “ถูกต้อง ค่ายกลวิญญาณอมตะจะจัดตั้งได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร? มันเร็วเกินไป นี่ต้องเป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ แต่ฟางหยวนค่อนข้างโง่ หลังจากใช้เขตแดนอมตะ เขาจะไม่สามารถหลบหนี!”

 

ผู้อมตะภาคใต้ล้วนเป็นคนฉลาด ไม่นานพวกเขาก็สามารถสงบจิตใจ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ลั่วเว่ยหยินเปิดปากกล่าว “นี่ไม่ใช่เขตแดนอมตะ มันคือค่ายกลวิญญาณอมตะที่ยอดเยี่ยม”

 

“ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา” เซี่ยชากล่าวเสริม

 

ริมฝีปากของหลิวห่าวกระตุก เขาคิด “หลังจากพูดคุยกันมานาน มันยังคงเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะ!”

 

“พวกเจ้าทั้งสองค่อนข้างฉลาด” ฟางหยวนยิ้มก่อนจะสบัดแขนเสื้อ

 

“โฮก…”

 

เสียงคํารามดังขึ้นก่อนที่กองทัพอสูรจะพุ่งออกมาจากเกลียวแสงขนาดใหญ่

 

ในเวลาเดียวกันฟางหยวนก็หายตัวไป

 

อสูรปีมีสติปัญญาไม่สูงนัก เมื่อพวกมันเห็นกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีพวกเข ทันที

 

“ฆ่าพวกมันให้หมด!” เซี่ยชากล่าวอย่างเย็นชา

 

ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจ

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เริ่มต่อสู้กับกองทัพอสูรปี

 

หลิวห่าวสะบัดมือส่งมีดบินจํานวนนับไม่ถ้วนออกไปแยกร่างอสูรปีออกเป็นชิ้นๆ

 

ฟางหยวนที่ยืนมองอยู่วิเคราะห์ “สายลับของวังสวรรค์ยังอยู่ที่นี่ ข้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์มากนัก วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติควรจะอยู่ในมือของเขา”

 

หลิวห่าวคิด “ดูเหมือนจะมีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาอยู่ที่นี่ ฟางหยวนพยายามใช้วิธีเดิมอีกครั้ง เขาเคยใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะที่คล้ายกันนี้ต่อสู้กับฟงจิวเก้อ แต่เหตุใดข้าจึงรู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+