Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1885 หัวใจโลหิต

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1885 หัวใจโลหิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1885 หัวใจโลหิต

 

งานเลี้ยงทะเลปราณ

 

ธุรกรรมเริ่มขึ้นแล้ว

 

ผู้อมตะผู้หนึ่งเดินขึ้นบนเวที เขาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออก อู๋หม่าหยาง

 

เขาอยู่ในชุดคลุมดําและดูเหมือนคนป่วย สิ่งที่เขานําออกมาทําให้ผู้อมตะส่วนใหญ่รู้สึกผิดหวัง

 

มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด เปลือกหอยดนตรี

 

หอยดนตรีเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งเสียง เมื่อพวกมันเติบโตขึ้นเป็นสัตว์อสูรเดียวดาย พวกมันจะกลายเป็นหอยดนตรีขนาดยักษ์ หลังจากกลายเป็นสัตว์อสูรบรรพกาล ขนาดของพวกมันจะเล็กลงอีกครั้งและอยู่ในสภาพที่เหมือนหอยทั่วไป

 

หอยดนตรีขนาดเล็กที่อิหม่าหยางนําออกมาตายแล้ว มันเป็นเพียงทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งเสียง

 

แต่อู๋หม่าหยางยังเผยรอยยิ้ม “ทุกท่าน โปรดใจเย็น ข้าจะกลนาสิ่งนี้ออกมาในงานเลี้ยงของบรรพชนได้อย่างไร? ข้าไม่ได้ขายหอยดนตรีชิ้นนี้แต่เป็นเพลงที่เก็บไว้ข้างใน”

 

หลังกล่าวจบคํา อู๋หม่าหยางก็ป้องหมัดไปทางฟางหยวน “บรรพชน โปรดยกโทษให้กับการกระทําที่หยาบคายของข้า”

 

บรรพชนทะเลปราณพยักหน้าเบาๆ

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนกับอู๋หม่าหยางเคยพบกันมานานแล้ว ย้อนกลับไปในงานประชุมการค้าของเมี่ยวหมิงเฉิน ฟางหยวนเคยขายวิญญาณอมตะหนามกระดูกให้กับอู๋หม่าหยาง

 

หลังจากได้รับอนุญาตจากบรรพชนทะเลปราณ อู๋หม่าหยางเปิดเพลงที่เก็บไว้ในหอยดนตรี

 

มันเป็นเสียงที่แผ่วเบา หากคนผู้หนึ่งได้ยินเสียงนี้ พวกเขาจะอ่อนแอลง ศัตรูจะตกเป็นเหยื่อ กระทั่งผู้อมตะก็อาจได้รับบาดเจ็บหรือแม้แต่ตกตาย

 

อู๋หม่าหยางเปิดเพลงเพียงชั่วครู่ก่อนจะปิดมัน ผู้อมตะหลายคนลอบถอนหายใจเพราะพวกเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้

 

“นี่คือทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด เสียงคร่ําครวญ” ฟางหยวนกล่าวออกมาอย่างช้าๆ

 

“บรรพชนช่างรอบรู้ ข้าต้องการแลกเปลี่ยนเสียงคร่ําครวญกับทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งความมืดที่มีมูลค่าเท่ากัน มันจะดีที่สุดหากพวกท่านมีไม้หลุมดําหรือสาหร่ายด้ายดํา” อู๋หม่าหยางประกาศ

 

กลุ่มผู้อมตะเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่บางคนจะเปิดปากกล่าว “ข้ามีสาหร่ายด้ายดํา”

 

อู๋หม่าหยางพยักหน้าด้วยความยินดี เขากําลังจะตอบรับแต่บางคนกลับชิงตัดหน้า “ข้ามีไม่หลุมดํา”

 

หลังจากเจรจา อู๋หม่าหยางก็ลงจากเวทีด้วยความพึงพอใจ

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเส้นโลหิตปฐพีเกิดการเปลี่ยนแปลง ร่องลึกใต้พิภพเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง ทรัพยากรมากมายปรากฏขึ้นในทะเลตะวันออกเช่นกันแม้มันจะน้อยกว่าภูมิภาคอื่นก็ตาม

 

เสียงคร่ําครวญของอู๋หม่าหยางเป็นหนึ่งในนั้น

 

แม้ผู้อมตะของทะเลตะวันออกมักจะจัดการประชุมการค้าอยู่บ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นงานเล็กๆ พวกมันไม่สามารถเปรียบเทียบกับงายเลี้ยงทะเลปราณที่รวบรวมผู้อมตะทั้งหมดของทะเลตะวันออกมาไว้ที่นี่

 

ธุรกรรมในสวรรค์สีเหลืองมีจํานวนเพิ่มขึ้นแต่สวรรค์สีเหลืองก็เก็บค่าธรรมเนียมแพงขึ้นเช่นกัน

 

ค่าธรรมเนียมของการทําธุรกรรมในสวรรค์สีเหลืองจะแตกต่างกันไปตามความล้ําค่าของสินค้า ดังนั้นธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงจึงมีค่าธรรมเนียมสูงตามไปด้วย

 

ทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดมีค่ามาก หากอู๋หม่าหยางขายมันในสวรรค์สีเหลือง เขาจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ในงานเลี้ยงทะเลปราณ เขาไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ นี่ช่วยให้เขาประหยัดไปได้มาก

 

หลังจากอู๋หม่าหยางเดินลงมา ผู้อมตะอีกคนก็เดินขึ้นไปขายกองเพลิง

 

มันเป็นเพลิงสีเหลืองในเพลิงสีส้ม มันเต็มไปด้วยพลังงานแห่งความตาย เมื่อมันถูกนําออกมา อุณหภูมิในบริเวณนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“นี่คือเพลิงผีดิบเหี่ยวแห้ง” ผู้อมตะที่ขายกองเพลิงยิ้ม

 

เขามาจากตระกูลซูซึ่งเป็นหนึ่งในกองกําลังใหญ่ของทะเลตะวันออก เขามีนามว่าซูหลุน

 

ฟางหยวนจัดลําดับให้ผู้อมตะฝ่ายธรรมะขึ้นเวทีสลับกับผู้บ่มเพาะสันโดษ นี่เป็นการจัดการที่พิจารณาถึงผู้บ่มเพาะสันโดษอย่างชัดเจน มันแสดงให้เห็นว่าบรรพชนทะเลปราณให้การต้อนรับผู้บ่มเพาะสันโดษเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้จัดสรรลําดับขึ้นเวทีให้กับปีศาจอมตะ นี่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติทางการเมืองบางอย่างของบรรพชนทะเลปราณ

 

เพลิงผีดิบเหี่ยวแห้งทําให้เกิดความโกลาหลเล็กน้อย มันเป็นเพลิงระดับแปด ฟางหยวนโบกมือเบาๆและ ทําให้อุณหภูมิในงานเลี้ยงกลับมาเป็นปกติ

 

“ข้าแน่ใจว่าหลายคนรู้จักเพลิงชนิดนี้ แต่ข้าไม่ได้ต้องการขายเพียงสิ่งนี้ ข้าจะเพิ่มวิธียืดอายุผีดิบเหี่ยวแห้งเข้าไปด้วย ผู้อมตะที่ใกล้สิ้นอายุขัยสามารถใช้เพลิงผีดิบเหี่ยวแห้งและกลายเป็นผีดิบเหี่ยวแห้ง ข้าแน่ใจว่าทุกท่านเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับผีดิบเหี่ยวแห้งมาแล้ว พลังการต่อสู้ของมันสามารถแข่งขันกับผู้อมตะระดับแปด” 

 

อย่างไรก็ตามมันกลับไม่ได้รับความสนใจ

 

ตอนนี้ทุกคนรู้เกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมของวังสวรรค์แล้ว หากวังสวรรค์ประสบความสําเร็จ ผีดิบจะหายไป วิญญาณชะตากรรมจะไม่อนุญาตให้คนตายมีชีวิตอยู่ พวกเขาต้องตายเท่านั้น

 

ดังนั้นวิธียืดอายุโดยการเปลี่ยนเป็นผีดิบจึงไม่ใช่ความคิดที่ดี

 

หลังจากชั่วครู่ ผู้อมตะบางคนก็เปิดปากถาม “ผู้อมตะระดับเจ็ดสามารถเปลี่ยนเป็นผีดิบเหี่ยวแห้งได้หรือไม่?”

 

ซูหลุนพยักหน้า “แน่นอน แต่ร่างผีดิบเหี่ยวแห้งจะไม่สมบูรณ์ มันจะมีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ดเท่านั้น”

 

เขาไม่กล้าโกหก ที่นี่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ พวกเขาสามารถมองเห็นความจริง หากเขาโกหก เขาจะสร้างความขุ่นเคืองให้แก่บรรพชนทะเลปราณและทุกคน หากสิ่งนี้เกิดขึ้น มันจะไม่ใช่ปัญหาของซูหลุนเท่านั้นแต่จะส่งผลกระทบตระกูลซูทั้งหมด

 

สุดท้ายซูหลุนก็ไม่สามารถทําธุรกรรมใดๆ

 

อย่างไรก็ตามมันยังมีผู้อมตะสองสามคนที่ให้ความสนใจ พวกเขายินดีเจรจาแต่ราคาขายอาจต้องลดลงมากพอ

 

“เพลิงผีดิบเหี่ยวแห้งน่าจะมาจากกองกําลังพันธมิตรผีดิบของทะเลตะวันออก” ฟางหยวนคิด

 

ย้อนกลับไปเมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนิกายเงา และกองกําลังพันธมิตรผีดิบถูกเปิดเผย หลังจากเทพปีศาจจิตวิญญาณล้มเหลว กองกําลังพันธมิตรผีดิบจึงถูกรื้อค้นโดยกองกําลังฝ่ายธรรมะ

 

ตระกูลซูเป็นหนึ่งในกองกําลังที่อยู่ใกล้ฐานทัพใหญ่ของกองกําลังพันธมิตรผีดิบแห่งทะเลตะวันออกมากที่สุด มันไม่ใช่เรื่องแปลกหากพวกเขาจะได้รับเพลิงผีดิบเหี่ยวแห้งมาจากการปล้นสะดมฐานทัพใหญ่ของกองกําลังพันธมิตรผีดิบ

 

หลังจากซูหลุน ผู้อมตะอีกคนก็เดินขึ้นไปบนเวที เขาชําเลืองมองบรรพชนทะเลปราณเป็นครั้งคราว เมื่อเห็นบรรพชนทะเลปราณยังสงบนิ่ง เขาจึงรู้สึกผ่อนคลายลง

 

ผู้อมตะผู้นี้สูดหายใจลึกก่อนจะเปิดปากกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “ข้ามาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ” 

 

หลังกล่าวจบคํา เขาก็กางฝ่ามือออกและเผยให้เห็นวิญญาณอมตะดวงหนึ่ง

 

ทันใดนั้นกลิ่นคาวเลือดก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว หัวใจของกลุ่มผู้อมตะเต้นแรงขึ้น

 

นี่เป็นการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะครั้งแรกตั้งแต่งานเลี้ยงเริ่มขึ้น!

 

ทุกคนมองไปยังวิญญาณอมตะดวงนั้น มันเหมือนหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะ

 

“มันคือวิญญาณชนิดใด?”

 

“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด”

 

“นักประดาน้ําผู้นี้กล้าหาญเกินไป เขากําลังขายวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดต่อหน้าสาธารณชน เขาไม่กลัวบรรพชนทะเลปราณและสมาชิกฝ่ายธรรมะจะจัดการเขางั้นหรือ?”

 

“น้ําประดาน้ําเป็นปีศาจอมตะของทะเลตะวันออก บรรพชนไม่ได้จัดสรรให้ปีศาจอมตะขึ้นเวทีแต่เขายังกล้าขึ้นไปโดยไม่เกรงกลัว”

 

กลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์ การแสดงออกของผู้อมตะฝ่ายธรรมะค่อนข้างน่าเกลียด นักประดาน้ําเป็นปีศาจอมตะที่สังหารผู้คนมามากมาย กระทั่งตัวเขาเองก็รู้สึกกังวลเช่นกัน

 

เขาเป็นปีศาจอมตะที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารี เขาเป็นคนบาปที่ถูกฝ่ายธรรมะประกาศจับมาถึงตอนนี้

 

หากเป็นช่วงเวลาปกติ ผู้อมตะฝ่ายธรรมะคงร่วมมือกันจัดการเขาไปแล้ว แต่ที่นี้เป็นงานเลี้ยงของบรรพชนทะเลปราณ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าลงมือ

 

เกี่ยวกับประเด็นของนักประดาน้ํา ผู้อมตะทั้งหมดหันหน้าไปหาฟางหยวน

 

ฟางหยวนยังสงบราวกับเขากําลังพักผ่อน เขาไม่กล่าวสิ่งใด

 

หลังจากชั่วครูทุกคนจึงค่อยๆเข้าใจว่าบรรพชนทะเลปราณไม่มีความคิดที่จะดําเนินการใดๆในเวลานี้

 

นักประดาน้ํารู้สึกตื่นเต้นมาก เขาชนะเดิมพัน!

 

ตั้งแต่บรรพชนทะเลปราณอนุญาตให้ข้าเข้าร่วมงานเลี้ยง นั่นก็หมายความว่าเขาจะไม่ทําสิ่งใดกับข้า มิฉะนั้นเมื่อข้ามาถึง เขาคงลงมือไปแล้ว นี่เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง เขาจะสนใจตัวตนที่ไร้นัยสาคัญเช่นข้าได้อย่างไร? เมื่อคิดได้เช่นนี้ นักประดาน้ําก็เปิดปากกล่าว “นี่คือวิญญาณอมตะหัวใจโลหิตระดับเจ็ด ข้าจับมันได้ในร่องลึกใต้พิภพ ผู้ใดต้องการแลกเปลี่ยนมันหรือไม่?”

 

หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ผู้อมตะหลายคนก็เริ่มเสนอตัว

 

แต่ไม่มีสมาชิกฝ่ายธรรมะเข้าร่วม

 

การทําธุรกรรมวิญญาณอมตะสามารถทําได้ด้วยการแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะเท่านั้น

 

ไม่มีการเสนอราคา มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่นักประดาน้ําต้องการ

 

ผู้อมตะส่วนใหญ่ของทะเลตะวันออกบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารี ดังนั้นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวารีจึงถูกนําออกมามากที่สุด

วิญญาณอมตะหัวใจโลหิตทรงพลังมาก มันจะส่งผลกระทบอย่างมากในการต่อสู้

 

ในสถานการณ์ทั่วไปผู้อมตะจะไม่บ่มเพาะหลายเส้นทางเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า แต่ทะเลตะวันออกมีผู้อมตะที่บ่มเพาะสองเส้นทางค่อนข้างมากโดยเฉพาะเส้นทางแห่งเลือด

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะกลายเป็นยิ่งน่าเกลียด

 

ทะเลตะวันออกเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะสันโดษ การปรากฏขึ้นของวิญญาณอมตะหัวใจโลหิตทําให้ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือกเผยตัวออกมาเป็นจํานวนมาก

 

แต่ฟางหยวนไม่แปลกใจ

 

ในชีวิตห้าร้อยปีของเขา เส้นทางแห่งเลือดได้รับความนิยมมากหลังจากห้าภูมิภาคหลอมรวมเป็นหนึ่ง เมื่อสงครามห้าภูมิภาคปะทุขึ้น เส้นทางแห่งเลือดกลายเป็นเส้นทางหลักที่สามารถบ่มเพาะ มันไม่ถูกห้ามปรามอีกต่อไป

 

ในช่วงเวลานั้นฟางหยวนเป็นหนึ่งในคนเหล่านี้

 

‘มรดกของซ่งชื่อซึ่งมีท่าไม้ตายอมตะลางสังหรณ์เลือดที่ใช้วิญญาณอมตะหัวใจโลหิตระดับเจ็ดเป็นแกนกลาง บางทีขาอาจลองประมูลมัน’

 

ฟางหยวนคิดและลอบติดต่อจางหยิน

 

หลังจากนั้นจางหยินก็เปิดปากกล่าว “ข้าต้องการวิญญาณอมตะหัวใจโลหิตดวงนี้ ข้ามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวารีระดับเจ็ดหลายดวง เจ้าสามารถเลือกหนึ่งในนั้น นอกจากนี้ข้าจะติดหนี้บุญคุณเจ้าหนึ่งครั้ง”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อมตะระดับแปดเปิดปากกล่าวในงานประมูลครั้งนี้ มันทําให้สถานที่แห่งนี้เงียบลงทันที

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1885 หัวใจโลหิต

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1885 หัวใจโลหิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1885 หัวใจโลหิต

 

งานเลี้ยงทะเลปราณ

 

ธุรกรรมเริ่มขึ้นแล้ว

 

ผู้อมตะผู้หนึ่งเดินขึ้นบนเวที เขาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออก อู๋หม่าหยาง

 

เขาอยู่ในชุดคลุมดําและดูเหมือนคนป่วย สิ่งที่เขานําออกมาทําให้ผู้อมตะส่วนใหญ่รู้สึกผิดหวัง

 

มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด เปลือกหอยดนตรี

 

หอยดนตรีเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งเสียง เมื่อพวกมันเติบโตขึ้นเป็นสัตว์อสูรเดียวดาย พวกมันจะกลายเป็นหอยดนตรีขนาดยักษ์ หลังจากกลายเป็นสัตว์อสูรบรรพกาล ขนาดของพวกมันจะเล็กลงอีกครั้งและอยู่ในสภาพที่เหมือนหอยทั่วไป

 

หอยดนตรีขนาดเล็กที่อิหม่าหยางนําออกมาตายแล้ว มันเป็นเพียงทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งเสียง

 

แต่อู๋หม่าหยางยังเผยรอยยิ้ม “ทุกท่าน โปรดใจเย็น ข้าจะกลนาสิ่งนี้ออกมาในงานเลี้ยงของบรรพชนได้อย่างไร? ข้าไม่ได้ขายหอยดนตรีชิ้นนี้แต่เป็นเพลงที่เก็บไว้ข้างใน”

 

หลังกล่าวจบคํา อู๋หม่าหยางก็ป้องหมัดไปทางฟางหยวน “บรรพชน โปรดยกโทษให้กับการกระทําที่หยาบคายของข้า”

 

บรรพชนทะเลปราณพยักหน้าเบาๆ

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนกับอู๋หม่าหยางเคยพบกันมานานแล้ว ย้อนกลับไปในงานประชุมการค้าของเมี่ยวหมิงเฉิน ฟางหยวนเคยขายวิญญาณอมตะหนามกระดูกให้กับอู๋หม่าหยาง

 

หลังจากได้รับอนุญาตจากบรรพชนทะเลปราณ อู๋หม่าหยางเปิดเพลงที่เก็บไว้ในหอยดนตรี

 

มันเป็นเสียงที่แผ่วเบา หากคนผู้หนึ่งได้ยินเสียงนี้ พวกเขาจะอ่อนแอลง ศัตรูจะตกเป็นเหยื่อ กระทั่งผู้อมตะก็อาจได้รับบาดเจ็บหรือแม้แต่ตกตาย

 

อู๋หม่าหยางเปิดเพลงเพียงชั่วครู่ก่อนจะปิดมัน ผู้อมตะหลายคนลอบถอนหายใจเพราะพวกเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้

 

“นี่คือทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด เสียงคร่ําครวญ” ฟางหยวนกล่าวออกมาอย่างช้าๆ

 

“บรรพชนช่างรอบรู้ ข้าต้องการแลกเปลี่ยนเสียงคร่ําครวญกับทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งความมืดที่มีมูลค่าเท่ากัน มันจะดีที่สุดหากพวกท่านมีไม้หลุมดําหรือสาหร่ายด้ายดํา” อู๋หม่าหยางประกาศ

 

กลุ่มผู้อมตะเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่บางคนจะเปิดปากกล่าว “ข้ามีสาหร่ายด้ายดํา”

 

อู๋หม่าหยางพยักหน้าด้วยความยินดี เขากําลังจะตอบรับแต่บางคนกลับชิงตัดหน้า “ข้ามีไม่หลุมดํา”

 

หลังจากเจรจา อู๋หม่าหยางก็ลงจากเวทีด้วยความพึงพอใจ

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเส้นโลหิตปฐพีเกิดการเปลี่ยนแปลง ร่องลึกใต้พิภพเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง ทรัพยากรมากมายปรากฏขึ้นในทะเลตะวันออกเช่นกันแม้มันจะน้อยกว่าภูมิภาคอื่นก็ตาม

 

เสียงคร่ําครวญของอู๋หม่าหยางเป็นหนึ่งในนั้น

 

แม้ผู้อมตะของทะเลตะวันออกมักจะจัดการประชุมการค้าอยู่บ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นงานเล็กๆ พวกมันไม่สามารถเปรียบเทียบกับงายเลี้ยงทะเลปราณที่รวบรวมผู้อมตะทั้งหมดของทะเลตะวันออกมาไว้ที่นี่

 

ธุรกรรมในสวรรค์สีเหลืองมีจํานวนเพิ่มขึ้นแต่สวรรค์สีเหลืองก็เก็บค่าธรรมเนียมแพงขึ้นเช่นกัน

 

ค่าธรรมเนียมของการทําธุรกรรมในสวรรค์สีเหลืองจะแตกต่างกันไปตามความล้ําค่าของสินค้า ดังนั้นธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงจึงมีค่าธรรมเนียมสูงตามไปด้วย

 

ทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดมีค่ามาก หากอู๋หม่าหยางขายมันในสวรรค์สีเหลือง เขาจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ในงานเลี้ยงทะเลปราณ เขาไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ นี่ช่วยให้เขาประหยัดไปได้มาก

 

หลังจากอู๋หม่าหยางเดินลงมา ผู้อมตะอีกคนก็เดินขึ้นไปขายกองเพลิง

 

มันเป็นเพลิงสีเหลืองในเพลิงสีส้ม มันเต็มไปด้วยพลังงานแห่งความตาย เมื่อมันถูกนําออกมา อุณหภูมิในบริเวณนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“นี่คือเพลิงผีดิบเหี่ยวแห้ง” ผู้อมตะที่ขายกองเพลิงยิ้ม

 

เขามาจากตระกูลซูซึ่งเป็นหนึ่งในกองกําลังใหญ่ของทะเลตะวันออก เขามีนามว่าซูหลุน

 

ฟางหยวนจัดลําดับให้ผู้อมตะฝ่ายธรรมะขึ้นเวทีสลับกับผู้บ่มเพาะสันโดษ นี่เป็นการจัดการที่พิจารณาถึงผู้บ่มเพาะสันโดษอย่างชัดเจน มันแสดงให้เห็นว่าบรรพชนทะเลปราณให้การต้อนรับผู้บ่มเพาะสันโดษเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้จัดสรรลําดับขึ้นเวทีให้กับปีศาจอมตะ นี่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติทางการเมืองบางอย่างของบรรพชนทะเลปราณ

 

เพลิงผีดิบเหี่ยวแห้งทําให้เกิดความโกลาหลเล็กน้อย มันเป็นเพลิงระดับแปด ฟางหยวนโบกมือเบาๆและ ทําให้อุณหภูมิในงานเลี้ยงกลับมาเป็นปกติ

 

“ข้าแน่ใจว่าหลายคนรู้จักเพลิงชนิดนี้ แต่ข้าไม่ได้ต้องการขายเพียงสิ่งนี้ ข้าจะเพิ่มวิธียืดอายุผีดิบเหี่ยวแห้งเข้าไปด้วย ผู้อมตะที่ใกล้สิ้นอายุขัยสามารถใช้เพลิงผีดิบเหี่ยวแห้งและกลายเป็นผีดิบเหี่ยวแห้ง ข้าแน่ใจว่าทุกท่านเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับผีดิบเหี่ยวแห้งมาแล้ว พลังการต่อสู้ของมันสามารถแข่งขันกับผู้อมตะระดับแปด” 

 

อย่างไรก็ตามมันกลับไม่ได้รับความสนใจ

 

ตอนนี้ทุกคนรู้เกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมของวังสวรรค์แล้ว หากวังสวรรค์ประสบความสําเร็จ ผีดิบจะหายไป วิญญาณชะตากรรมจะไม่อนุญาตให้คนตายมีชีวิตอยู่ พวกเขาต้องตายเท่านั้น

 

ดังนั้นวิธียืดอายุโดยการเปลี่ยนเป็นผีดิบจึงไม่ใช่ความคิดที่ดี

 

หลังจากชั่วครู่ ผู้อมตะบางคนก็เปิดปากถาม “ผู้อมตะระดับเจ็ดสามารถเปลี่ยนเป็นผีดิบเหี่ยวแห้งได้หรือไม่?”

 

ซูหลุนพยักหน้า “แน่นอน แต่ร่างผีดิบเหี่ยวแห้งจะไม่สมบูรณ์ มันจะมีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ดเท่านั้น”

 

เขาไม่กล้าโกหก ที่นี่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ พวกเขาสามารถมองเห็นความจริง หากเขาโกหก เขาจะสร้างความขุ่นเคืองให้แก่บรรพชนทะเลปราณและทุกคน หากสิ่งนี้เกิดขึ้น มันจะไม่ใช่ปัญหาของซูหลุนเท่านั้นแต่จะส่งผลกระทบตระกูลซูทั้งหมด

 

สุดท้ายซูหลุนก็ไม่สามารถทําธุรกรรมใดๆ

 

อย่างไรก็ตามมันยังมีผู้อมตะสองสามคนที่ให้ความสนใจ พวกเขายินดีเจรจาแต่ราคาขายอาจต้องลดลงมากพอ

 

“เพลิงผีดิบเหี่ยวแห้งน่าจะมาจากกองกําลังพันธมิตรผีดิบของทะเลตะวันออก” ฟางหยวนคิด

 

ย้อนกลับไปเมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนิกายเงา และกองกําลังพันธมิตรผีดิบถูกเปิดเผย หลังจากเทพปีศาจจิตวิญญาณล้มเหลว กองกําลังพันธมิตรผีดิบจึงถูกรื้อค้นโดยกองกําลังฝ่ายธรรมะ

 

ตระกูลซูเป็นหนึ่งในกองกําลังที่อยู่ใกล้ฐานทัพใหญ่ของกองกําลังพันธมิตรผีดิบแห่งทะเลตะวันออกมากที่สุด มันไม่ใช่เรื่องแปลกหากพวกเขาจะได้รับเพลิงผีดิบเหี่ยวแห้งมาจากการปล้นสะดมฐานทัพใหญ่ของกองกําลังพันธมิตรผีดิบ

 

หลังจากซูหลุน ผู้อมตะอีกคนก็เดินขึ้นไปบนเวที เขาชําเลืองมองบรรพชนทะเลปราณเป็นครั้งคราว เมื่อเห็นบรรพชนทะเลปราณยังสงบนิ่ง เขาจึงรู้สึกผ่อนคลายลง

 

ผู้อมตะผู้นี้สูดหายใจลึกก่อนจะเปิดปากกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “ข้ามาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ” 

 

หลังกล่าวจบคํา เขาก็กางฝ่ามือออกและเผยให้เห็นวิญญาณอมตะดวงหนึ่ง

 

ทันใดนั้นกลิ่นคาวเลือดก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว หัวใจของกลุ่มผู้อมตะเต้นแรงขึ้น

 

นี่เป็นการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะครั้งแรกตั้งแต่งานเลี้ยงเริ่มขึ้น!

 

ทุกคนมองไปยังวิญญาณอมตะดวงนั้น มันเหมือนหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะ

 

“มันคือวิญญาณชนิดใด?”

 

“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด”

 

“นักประดาน้ําผู้นี้กล้าหาญเกินไป เขากําลังขายวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดต่อหน้าสาธารณชน เขาไม่กลัวบรรพชนทะเลปราณและสมาชิกฝ่ายธรรมะจะจัดการเขางั้นหรือ?”

 

“น้ําประดาน้ําเป็นปีศาจอมตะของทะเลตะวันออก บรรพชนไม่ได้จัดสรรให้ปีศาจอมตะขึ้นเวทีแต่เขายังกล้าขึ้นไปโดยไม่เกรงกลัว”

 

กลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์ การแสดงออกของผู้อมตะฝ่ายธรรมะค่อนข้างน่าเกลียด นักประดาน้ําเป็นปีศาจอมตะที่สังหารผู้คนมามากมาย กระทั่งตัวเขาเองก็รู้สึกกังวลเช่นกัน

 

เขาเป็นปีศาจอมตะที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารี เขาเป็นคนบาปที่ถูกฝ่ายธรรมะประกาศจับมาถึงตอนนี้

 

หากเป็นช่วงเวลาปกติ ผู้อมตะฝ่ายธรรมะคงร่วมมือกันจัดการเขาไปแล้ว แต่ที่นี้เป็นงานเลี้ยงของบรรพชนทะเลปราณ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าลงมือ

 

เกี่ยวกับประเด็นของนักประดาน้ํา ผู้อมตะทั้งหมดหันหน้าไปหาฟางหยวน

 

ฟางหยวนยังสงบราวกับเขากําลังพักผ่อน เขาไม่กล่าวสิ่งใด

 

หลังจากชั่วครูทุกคนจึงค่อยๆเข้าใจว่าบรรพชนทะเลปราณไม่มีความคิดที่จะดําเนินการใดๆในเวลานี้

 

นักประดาน้ํารู้สึกตื่นเต้นมาก เขาชนะเดิมพัน!

 

ตั้งแต่บรรพชนทะเลปราณอนุญาตให้ข้าเข้าร่วมงานเลี้ยง นั่นก็หมายความว่าเขาจะไม่ทําสิ่งใดกับข้า มิฉะนั้นเมื่อข้ามาถึง เขาคงลงมือไปแล้ว นี่เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง เขาจะสนใจตัวตนที่ไร้นัยสาคัญเช่นข้าได้อย่างไร? เมื่อคิดได้เช่นนี้ นักประดาน้ําก็เปิดปากกล่าว “นี่คือวิญญาณอมตะหัวใจโลหิตระดับเจ็ด ข้าจับมันได้ในร่องลึกใต้พิภพ ผู้ใดต้องการแลกเปลี่ยนมันหรือไม่?”

 

หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ผู้อมตะหลายคนก็เริ่มเสนอตัว

 

แต่ไม่มีสมาชิกฝ่ายธรรมะเข้าร่วม

 

การทําธุรกรรมวิญญาณอมตะสามารถทําได้ด้วยการแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะเท่านั้น

 

ไม่มีการเสนอราคา มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่นักประดาน้ําต้องการ

 

ผู้อมตะส่วนใหญ่ของทะเลตะวันออกบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารี ดังนั้นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวารีจึงถูกนําออกมามากที่สุด

วิญญาณอมตะหัวใจโลหิตทรงพลังมาก มันจะส่งผลกระทบอย่างมากในการต่อสู้

 

ในสถานการณ์ทั่วไปผู้อมตะจะไม่บ่มเพาะหลายเส้นทางเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า แต่ทะเลตะวันออกมีผู้อมตะที่บ่มเพาะสองเส้นทางค่อนข้างมากโดยเฉพาะเส้นทางแห่งเลือด

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะกลายเป็นยิ่งน่าเกลียด

 

ทะเลตะวันออกเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะสันโดษ การปรากฏขึ้นของวิญญาณอมตะหัวใจโลหิตทําให้ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือกเผยตัวออกมาเป็นจํานวนมาก

 

แต่ฟางหยวนไม่แปลกใจ

 

ในชีวิตห้าร้อยปีของเขา เส้นทางแห่งเลือดได้รับความนิยมมากหลังจากห้าภูมิภาคหลอมรวมเป็นหนึ่ง เมื่อสงครามห้าภูมิภาคปะทุขึ้น เส้นทางแห่งเลือดกลายเป็นเส้นทางหลักที่สามารถบ่มเพาะ มันไม่ถูกห้ามปรามอีกต่อไป

 

ในช่วงเวลานั้นฟางหยวนเป็นหนึ่งในคนเหล่านี้

 

‘มรดกของซ่งชื่อซึ่งมีท่าไม้ตายอมตะลางสังหรณ์เลือดที่ใช้วิญญาณอมตะหัวใจโลหิตระดับเจ็ดเป็นแกนกลาง บางทีขาอาจลองประมูลมัน’

 

ฟางหยวนคิดและลอบติดต่อจางหยิน

 

หลังจากนั้นจางหยินก็เปิดปากกล่าว “ข้าต้องการวิญญาณอมตะหัวใจโลหิตดวงนี้ ข้ามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวารีระดับเจ็ดหลายดวง เจ้าสามารถเลือกหนึ่งในนั้น นอกจากนี้ข้าจะติดหนี้บุญคุณเจ้าหนึ่งครั้ง”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อมตะระดับแปดเปิดปากกล่าวในงานประมูลครั้งนี้ มันทําให้สถานที่แห่งนี้เงียบลงทันที

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+