Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1981 ผู้นํากองกําลังพันธมิตร

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1981 ผู้นํากองกําลังพันธมิตร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การแทรกแซงของอู่ส่วยทําให้จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งต้องยอมรับความพ่ายแพ้เดิมที่เขาคิดว่าแผนการของเขาล้มเหลวแต่ผู้ใดจะคิดว่าอู่ส่วยจะมีเจตนาเดียวกันกับเขา

หลังจบการต่อสู้ อู่ส่วยใช้วงเงือกศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่พูดคุยกับจักรพรรดิผลึกน้ำแข็ง

อู่ส่วยได้เรียนรู้ว่าจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเคยจัดการประชุมของกองกําลังในสวรรค์สีดํามาแล้วดังนั้นเขาจึงกระตุ้นให้จักรพรรดิผล็กน้ำแข็งจัดการประชุมครั้งที่สอง

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งคิด ด้วยชื่อเสียงของคู่ส่วย ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากมันและผลักดันให้เกิดการประชุมได้อย่างไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตามจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งตระหนักถึงภัยคุกคามซ่อนเร้น นั่นคือกองกําลังเผ่ามนุษย์ที่อยู่ในสวรรค์สีดําและสวรรค์สีขาว
“แต่กระทั่งเผ่ามนุษย์จะรวมตัวกัน พวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอู่ส่วย”

อู่ส่วยโจมตีวังสวรรค์ในฐานะมนุษย์มังกรและจบลงด้วยชัยชนะผลลัพธ์นี้ทําให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังและได้รับการยกย่องในวงกว้าง

หลังจากนั้นจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งก็จัดการประชุมครั้งที่สองในถ้ำสวรรค์ผลึกน้ำแข็งครั้งนี้มีผู้คนมากมายมารวมตัวกัน

“จักรพรรดิขนทองมาถึงแล้ว!”

“เจ้าสวรรค์เมฆาสายฟ้ามาถึงแล้ว!”

“มารดาอมตะแห่งปัญญามาถึงแล้ว!”

“นักพรตป่าเขียวมาถึงแล้ว!”

ผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์หลายคนมาร่วมงาน

จักรพรรดิขนทองเป็นมนุษย์ขนร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยขนสีทองเจ้าสวรรค์เมฆาสายฟ้าเป็นมนุษย์วิหคเขาอยู่ในรูปลักษณ์ของชายหนุ่มรูปงามที่มีปีกอยู่บนแผ่นหลัง มารดาอมตะแห่งปัญญาเป็นมนุษย์หมีกหญิงชรานักพรตป่าเขียวเป็นมนุษย์จิ๋วร่างกายของเขาเรื่องแสงสีเขียวออกมาตลอดเวลา

นี่เป็นครั้งแรกที่คนทั้งสี่เข้าประชุม

นอกจากพวกเขายังมีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆรวมถึงผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์ได้แก่ราชาหมาป่าราตรีสวรรค์ท่านหญิงธุลีเย็นและคนใหม่เช่นจักรพรรดิข้ามสวรรค์ที่ บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งแสงราชาตกแตนทมิฬที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้ และราชินีปฐพีสีรุ้งที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี

มีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์จํานวนห้าคนแต่มีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เกือบสิบคนแม้ท่านหญิงธุลีเย็นจะพยายามรวมรวบกองกําลังเผ่ามนุษย์แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ในความเป็นจริงมันมีช่องว่างขนาดใหญ่

หลังจากพูดคุยเป็นเวลานาน จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งประกาศ “นอกจากเราจะพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกยุคปัจจุบัน ยังมีเรื่องสําคัญอีกเรื่องขอจะแนะนําพวกเจ้าให้รู้จักกับผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่!”

ทุกคนมองไปยังบุคคลที่จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งชี้นํา

อส่วยเดินออกมาจากหลังม่านและนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหลักภายใต้สายตาของทุกคน

“นี่…” กลุ่มผู้อมตะตกใจ

“เช่นนั้นก็คือ ส่วย”ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ด้านข้างจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งกล่าว

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งแสดงออกด้วยความไม่พอใจ “เรียกผู้อาวุโสอู่ส่วย!”

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ผู้นั้นรู้สึกละอายใจและเร่งเปลี่ยนคํากล่าว“ผู้น้อยคารวะผู้อาวุโส

“ดี” อู่ส่วยพยักหน้า “ความอาวุโสเป็นสิ่งสําคัญแต่ข้าอยากให้ทุกคนเรียกข้าว่าผู้นํา!”

“ผู้นํา!?” กลุ่มผู้อมตะมองหน้ากัน

อู่ส่วยหัวเราะ “ถ้ำสวรรค์ถูกเปิดเผย ผู้อมตะของห้าภูมิภาคจะโจมตีพวกเรา พวกเขายังไม่เคลื่อนไหวเพราะกระแสลมปราณ ตอนนี้พวกเราต้องเสริมความแข็งแกร่งและปกป้องตนเอง เราต้องจัดตั้งกองกําลังพันธมิตรเพื่อต่อต้านห้าภูมิภาค!”

“ตั้งแต่โบราณ คนที่มีความสามารถที่สุดจะกลายเป็นผู้นํา ข้าเห็นว่าไม่มีผู้ใดในที่นี่ที่สามารถแข่งขันกับข้าหากผู้ใดไม่เห็นด้วย พวกเจ้าสามารถท้าทายข้า!

ก่อนที่ทุกคนจะสามารถตอบสนองคํากล่าวของอู่ส่วย เสียงคํารามของมังกรก็ดังขึ้น

ร่างกายขนาดมหึมาของจางเฉิงปรากฏต่อหน้าทุกคน

จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะขนาดเล็กก็บินออกมาจากมิติช่องว่างของอู่ส่วยและลอยอยู่ในฝ่ามือของเขา
มันคือวังมังกรขนาดจิ๋ว!

อู่ส่วยมองวังมังกรในมือก่อนจะหันหน้าไปทางกลุ่มผู้อมตะอีกครั้งด้วยสายตาที่แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคาม

การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด บางคนเงียบ บางคนโกรธแต่ไม่มีผู้ใดกล้าเปิดปากกล่าว

แม้อู่ส่วยจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ทุกคนรู้จักพลังอํานาจของวังมังกรและมังกรปีศาจเป็นอย่างดีหากทุกคนร่วมมือกัน พวกเขาอาจสามารถต่อต้านแต่พวกเขาไม่คุ้นเคยกันและไม่สามารถสร้างความร่วมมือ

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เมื่อเห็นว่าไม่มีคนคัดค้าน อู่ส่วยก็หัวเราะเสียงดัง “พวกเจ้ายังไม่ยอมรับผู้นํางั้นหรือ?”

กลุ่มผู้อมตะเงียบ

คร่ต่อมาจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งก็ยืนขึ้นและป้องหมัดกล่าว “จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งคารวะท่านผู้นํา!”

“ดี ดี” อู่ส่วยชี้นิ้วไปที่เขา “เจ้าจะเป็นรองผู้นํากองกําลังพันธมิตร!”

ต่อมาเขาก็กวาดตามองผู้อมตะคนอื่นๆด้วยสายตาแหลมคม

มังกรปีศาจสะบัดร่างของมันอยู่ด้านนอกและทําให้เกิดพายุกรรโชกแรง

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อมตะคนอื่นๆก็ถูกบังคับให้ยอมรับสถานะของอู่ส่วย

อู่ส่วยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหลักกวาดมองกลุ่มผู้อมตะ “ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากําลังคิดสิ่งใดอยู่พวกเจ้ายอมรับตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตรของข้าเนื่องจากสถานการณ์แต่ข้าไม่ต้องการบังคับพวก เจ้าอย่างแท้จริง”

“นี่เป็นโอกาสที่หายากสําหรับทุกคน มันเป็นโอกาสเดียวที่เราจะต่อต้านห้าภูมิภาคหากเราไม่ใช้โอกาสนี้เมื่อหาภูมิภาคออกไล่ล่าและปิดล้อมถ้ำสวรรค์ของพวกเราทุกคนจะเสียใจ

“ด้วยการหารือของพวกเจ้าก่อนหน้านี้ เมื่อใดที่พวกเจ้าจะสามารถเริ่มดําเนินการ เมื่อใดที่พวกเจ้าจะสามารถบรรลุข้อตกลง เมื่อกระแสลมปราณสิ้นสุดลงหากปราศจากผู้นําเช่นข้าที่รวบรวมทุกคนเข้าด้วยกันเราจะทําอย่างไรเราจะสามารถดําเนินการอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?”

อู่ส่วยกล่าวด้วยน้ำแข็งที่แข็งกร้าวแต่เขามีเหตุผลที่ดี นั่นทําให้การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“เอาล่ะ หมดเรื่องไร้สาระแล้ว มาคุยเกี่ยวกับเป้าหมายที่เราจะโจมตีกันต่อ”อู่ส่วยกล่าว

เมื่ออู่ส่วยกล่าวถึงเรื่องนี้ แม้แต่จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งยังรู้สึกประหลาดใจ “ท่านผู้นํามันยังเร็ว เกินไปหรือไม่ที่จะโจมตี? สวรรค์สีดําและสวรรค์สีขาวกว้างใหญ่เกินไปยังมีอีกหลายกองกําลังที่ยังไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเรา”

“เรารอไม่ไหวแล้ว ตราบเท่าที่เราโจมตีและสามารถสร้างความโกลาหล คนเหล่านั้นจะเข้าหาพวกเราเองนี่คือวิธีกระตุ้นจิตใจ” อู่ส่วยโบกมือ

กลุ่มผู้อมตะเงียบ

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งถามต่อ “เช่นนั้นในความคิดเห็นของท่านผู้นํา เราควรโจมตีที่ใด?”

“แน่นอนว่าวังสวรรค์!” อู่ส่วยตอบโดยปราศจากความลังเล

“วังสวรรค์!?” กลุ่มผู้อมตะอุทานด้วยความประหลาดใจ

“วังสวรรค์อ่อนแอมากในเวลานี้ ตราบเท่าที่เราสามารถล้มล้างวังสวรรค์ ทั้งห้าภูมิภาคจะสันสะเทือน ผู้ใดจะกล้าโจมตีพวกเรา?”อู่ส่วยหัวเราะเสียงดัง

“นี่ไม่ฉลาด!”

“วังสวรรค์มีรากฐานที่ยิ่งใหญ่ มันไม่ใช่สถานที่ที่เราสามารถกําหนดเป้าหมาย!”

“ท่านผู้นําโปรดพิจารณาใหม่”

กลุ่มผู้อมตะส่ายศีรษะไม่เห็นด้วย

“ฮัม พวกขี้ขลาด!” อู่ส่วยไม่พอใจ “เช่นนั้นเราจะไปเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ใหญ่โตที่สุดมันเกิดจากการรวมตัวระหว่างวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และเมืองจักรพรรดิมันมีความสําคัญมากต่อวัง สวรรค์และเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นโลหิตมนุษย์หากเราสามารถยึดครองเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ภาคกลางจะตกสู่ความโกลาหล นอกจากนั้นเรายังจะได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดและ มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์!”

ท่านหญิงธุลีเย็นไตร่ตรองก่อนกล่าว “เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มีความสําคัญหากเราโจมตีมันเราจะสร้างความขุ่นเคืองให้กับภาคกลางพวกเขาจะต่อต้านและโจมตีพวกเรานี่ไม่ต่างจากการโจมตีวังสวรรค์โดยตรงงั้นหรือ?”

“แน่นอนว่าแตกต่าง หากผู้คนถูกดึงดูดมายังเมืองจักรพรรดิสวรรค์ เราจะสามารถส่งคนอีกกลุ่มหนึ่งไปโจมตีวังสวรรค์!” อู่ส่วยตอบ

กลุ่มผู้อมตะรู้สึกเย็นเยียบเมื่อได้ยินคํากล่าวของอู่ส่วย

“เขายังต้องการโจมตีวังสวรรค์!”

“นี่หมายความว่ากลุ่มที่โจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นเหยื่อบูชายัญงั้นหรือ?”

“ผู้อาวุโสอู่ส่วยก้าวร้าวเกินไป เขาต้องการต่อต้านวังสวรรค์ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น!”

อู่ส่วยไม่พอใจ “อันใด! พวกเจ้าไม่กล้าโจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?”

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเร่งกล่าว “ท่านผู้นําโปรดพิจารณาใหม่ พวกเรา…”

อู่ส่วยโบกมือและกล่าวอย่างไม่พอใจ “พอแล้ว ข้าไม่ต้องการได้ยินข้อแก้ตัวใดๆอีกต่อไปเอาล่ะกำจัดตระกูลเซียของทะเลตะวันออกเป็นอันดับแรก”

ในที่สุดอู่ส่วยก็เปิดเผยเป้าหมายที่แท้จริงของเขาออกมา

ตระกูลเซี่ยของภาคใต้กับตระกูลเซี่ยของทะเลตะวันออกไม่เกี่ยวข้องกันแต่ทั้งสองเป็นกองกําลังใหญ่เช่นเดียวกัน

หากเขากล่าวเป้าหมายนี้ออกมาตั้งแต่แรก เขาจะเผชิญหน้ากับการคัดค้านแต่สองเป้าหมายแรกของเขาคือวังสวรรค์และเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หากเปรียบเทียบการโจมตีตระกูลเซียของ ทะเลตะวันออกง่ายกว่ามาก

อู่ส่วยวิเคราะห์ “ตระกูลเซียของทะเลตะวันออกมีรากฐานอ่อนแอที่สุดท่ามกลางกองกําลังใหญ่ทั้งหมด นอกจากนี้ที่ตั้งฐานทัพใหญ่ของพวกเขายังอยู่ในพื้นที่ตะวันออกสุดของทะเลตะวันออก มันค่อนข้างห่างไกลและเหมาะสมกับการเป็นฐานทัพของพวกเรา”

“อาณาเขตของตระกูลเซียอยู่ติดกับวังเงือกศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพันธมิตรของพวกเราในเวลานี้พวกเขาสามารถสนับสนุนพวกเรา”

เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ อู่ส่วยก็ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใดคัดค้านอีก “ข้าตัดสินใจแล้วเป้าหมายของเราคือตระกูลเซีย!”

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้นําที่เผด็จการเช่นนี้ กลุ่มผู้อมตะรู้สึกไม่พอใจ แต่ภายใต้แรงกดกันจากที่จางเฉิงและวังมังกร พวกเขาไม่มีทางเลือก

สิ่งสําคัญที่สุดคือพวกเขาถูกบังคับโดยสถานการณ์ พวกเขารู้ว่าหากพวกเขาไม่ฉวยโอกาสนี้พวกเขาจะสูญเสียความได้เปรียบห้าภูมิภาคจะไม่ปล่อยพวกเขาไปในอนาคต

“จักรพรรดิผลึกน้ำแข็ง ตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตรควรเป็นของเจ้า เจ้าจะปล่อยให้เขาได้รับมันไปจริงๆงั้นหรือ?”หลังการประชุมผู้อมตะบางคนไม่พอใจบางคนกระตุ้นจักรพรรดิผลึกน้ำ แข็ง

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเผยรอยยิ้มเย็นชากับตนเอง “ตะปูถูกตอกลงไปแล้วท่านอู่ส่วยกําลังช่วยนําทางกองกําลังพันธมิตรของพวกเรา แม้ข้าจะมอบตําแหน่งผู้นําให้เขาแล้วอย่างไร? ไม่ใช่ว่าตอนนี้พวกเราได้รับความช่วยเหลือกจากวังมังกรและมังกรปีศาจแล้วงั้นหรือ?”

“หากแผนการของเราล้มเหลวในอนาคตและผู้อมตะของห้าภูมิภาคออกไล่ล่าพวกเราในเวลานั้นเราจะสามารถตําหนิอู่ส่วยและหลบหนีไป”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1981 ผู้นํากองกําลังพันธมิตร

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1981 ผู้นํากองกําลังพันธมิตร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การแทรกแซงของอู่ส่วยทําให้จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งต้องยอมรับความพ่ายแพ้เดิมที่เขาคิดว่าแผนการของเขาล้มเหลวแต่ผู้ใดจะคิดว่าอู่ส่วยจะมีเจตนาเดียวกันกับเขา

หลังจบการต่อสู้ อู่ส่วยใช้วงเงือกศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่พูดคุยกับจักรพรรดิผลึกน้ำแข็ง

อู่ส่วยได้เรียนรู้ว่าจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเคยจัดการประชุมของกองกําลังในสวรรค์สีดํามาแล้วดังนั้นเขาจึงกระตุ้นให้จักรพรรดิผล็กน้ำแข็งจัดการประชุมครั้งที่สอง

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งคิด ด้วยชื่อเสียงของคู่ส่วย ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากมันและผลักดันให้เกิดการประชุมได้อย่างไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตามจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งตระหนักถึงภัยคุกคามซ่อนเร้น นั่นคือกองกําลังเผ่ามนุษย์ที่อยู่ในสวรรค์สีดําและสวรรค์สีขาว
“แต่กระทั่งเผ่ามนุษย์จะรวมตัวกัน พวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอู่ส่วย”

อู่ส่วยโจมตีวังสวรรค์ในฐานะมนุษย์มังกรและจบลงด้วยชัยชนะผลลัพธ์นี้ทําให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังและได้รับการยกย่องในวงกว้าง

หลังจากนั้นจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งก็จัดการประชุมครั้งที่สองในถ้ำสวรรค์ผลึกน้ำแข็งครั้งนี้มีผู้คนมากมายมารวมตัวกัน

“จักรพรรดิขนทองมาถึงแล้ว!”

“เจ้าสวรรค์เมฆาสายฟ้ามาถึงแล้ว!”

“มารดาอมตะแห่งปัญญามาถึงแล้ว!”

“นักพรตป่าเขียวมาถึงแล้ว!”

ผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์หลายคนมาร่วมงาน

จักรพรรดิขนทองเป็นมนุษย์ขนร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยขนสีทองเจ้าสวรรค์เมฆาสายฟ้าเป็นมนุษย์วิหคเขาอยู่ในรูปลักษณ์ของชายหนุ่มรูปงามที่มีปีกอยู่บนแผ่นหลัง มารดาอมตะแห่งปัญญาเป็นมนุษย์หมีกหญิงชรานักพรตป่าเขียวเป็นมนุษย์จิ๋วร่างกายของเขาเรื่องแสงสีเขียวออกมาตลอดเวลา

นี่เป็นครั้งแรกที่คนทั้งสี่เข้าประชุม

นอกจากพวกเขายังมีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆรวมถึงผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์ได้แก่ราชาหมาป่าราตรีสวรรค์ท่านหญิงธุลีเย็นและคนใหม่เช่นจักรพรรดิข้ามสวรรค์ที่ บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งแสงราชาตกแตนทมิฬที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้ และราชินีปฐพีสีรุ้งที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี

มีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์จํานวนห้าคนแต่มีผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เกือบสิบคนแม้ท่านหญิงธุลีเย็นจะพยายามรวมรวบกองกําลังเผ่ามนุษย์แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ในความเป็นจริงมันมีช่องว่างขนาดใหญ่

หลังจากพูดคุยเป็นเวลานาน จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งประกาศ “นอกจากเราจะพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกยุคปัจจุบัน ยังมีเรื่องสําคัญอีกเรื่องขอจะแนะนําพวกเจ้าให้รู้จักกับผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่!”

ทุกคนมองไปยังบุคคลที่จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งชี้นํา

อส่วยเดินออกมาจากหลังม่านและนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหลักภายใต้สายตาของทุกคน

“นี่…” กลุ่มผู้อมตะตกใจ

“เช่นนั้นก็คือ ส่วย”ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ด้านข้างจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งกล่าว

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งแสดงออกด้วยความไม่พอใจ “เรียกผู้อาวุโสอู่ส่วย!”

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ผู้นั้นรู้สึกละอายใจและเร่งเปลี่ยนคํากล่าว“ผู้น้อยคารวะผู้อาวุโส

“ดี” อู่ส่วยพยักหน้า “ความอาวุโสเป็นสิ่งสําคัญแต่ข้าอยากให้ทุกคนเรียกข้าว่าผู้นํา!”

“ผู้นํา!?” กลุ่มผู้อมตะมองหน้ากัน

อู่ส่วยหัวเราะ “ถ้ำสวรรค์ถูกเปิดเผย ผู้อมตะของห้าภูมิภาคจะโจมตีพวกเรา พวกเขายังไม่เคลื่อนไหวเพราะกระแสลมปราณ ตอนนี้พวกเราต้องเสริมความแข็งแกร่งและปกป้องตนเอง เราต้องจัดตั้งกองกําลังพันธมิตรเพื่อต่อต้านห้าภูมิภาค!”

“ตั้งแต่โบราณ คนที่มีความสามารถที่สุดจะกลายเป็นผู้นํา ข้าเห็นว่าไม่มีผู้ใดในที่นี่ที่สามารถแข่งขันกับข้าหากผู้ใดไม่เห็นด้วย พวกเจ้าสามารถท้าทายข้า!

ก่อนที่ทุกคนจะสามารถตอบสนองคํากล่าวของอู่ส่วย เสียงคํารามของมังกรก็ดังขึ้น

ร่างกายขนาดมหึมาของจางเฉิงปรากฏต่อหน้าทุกคน

จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะขนาดเล็กก็บินออกมาจากมิติช่องว่างของอู่ส่วยและลอยอยู่ในฝ่ามือของเขา
มันคือวังมังกรขนาดจิ๋ว!

อู่ส่วยมองวังมังกรในมือก่อนจะหันหน้าไปทางกลุ่มผู้อมตะอีกครั้งด้วยสายตาที่แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคาม

การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด บางคนเงียบ บางคนโกรธแต่ไม่มีผู้ใดกล้าเปิดปากกล่าว

แม้อู่ส่วยจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ทุกคนรู้จักพลังอํานาจของวังมังกรและมังกรปีศาจเป็นอย่างดีหากทุกคนร่วมมือกัน พวกเขาอาจสามารถต่อต้านแต่พวกเขาไม่คุ้นเคยกันและไม่สามารถสร้างความร่วมมือ

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เมื่อเห็นว่าไม่มีคนคัดค้าน อู่ส่วยก็หัวเราะเสียงดัง “พวกเจ้ายังไม่ยอมรับผู้นํางั้นหรือ?”

กลุ่มผู้อมตะเงียบ

คร่ต่อมาจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งก็ยืนขึ้นและป้องหมัดกล่าว “จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งคารวะท่านผู้นํา!”

“ดี ดี” อู่ส่วยชี้นิ้วไปที่เขา “เจ้าจะเป็นรองผู้นํากองกําลังพันธมิตร!”

ต่อมาเขาก็กวาดตามองผู้อมตะคนอื่นๆด้วยสายตาแหลมคม

มังกรปีศาจสะบัดร่างของมันอยู่ด้านนอกและทําให้เกิดพายุกรรโชกแรง

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อมตะคนอื่นๆก็ถูกบังคับให้ยอมรับสถานะของอู่ส่วย

อู่ส่วยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหลักกวาดมองกลุ่มผู้อมตะ “ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากําลังคิดสิ่งใดอยู่พวกเจ้ายอมรับตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตรของข้าเนื่องจากสถานการณ์แต่ข้าไม่ต้องการบังคับพวก เจ้าอย่างแท้จริง”

“นี่เป็นโอกาสที่หายากสําหรับทุกคน มันเป็นโอกาสเดียวที่เราจะต่อต้านห้าภูมิภาคหากเราไม่ใช้โอกาสนี้เมื่อหาภูมิภาคออกไล่ล่าและปิดล้อมถ้ำสวรรค์ของพวกเราทุกคนจะเสียใจ

“ด้วยการหารือของพวกเจ้าก่อนหน้านี้ เมื่อใดที่พวกเจ้าจะสามารถเริ่มดําเนินการ เมื่อใดที่พวกเจ้าจะสามารถบรรลุข้อตกลง เมื่อกระแสลมปราณสิ้นสุดลงหากปราศจากผู้นําเช่นข้าที่รวบรวมทุกคนเข้าด้วยกันเราจะทําอย่างไรเราจะสามารถดําเนินการอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?”

อู่ส่วยกล่าวด้วยน้ำแข็งที่แข็งกร้าวแต่เขามีเหตุผลที่ดี นั่นทําให้การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“เอาล่ะ หมดเรื่องไร้สาระแล้ว มาคุยเกี่ยวกับเป้าหมายที่เราจะโจมตีกันต่อ”อู่ส่วยกล่าว

เมื่ออู่ส่วยกล่าวถึงเรื่องนี้ แม้แต่จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งยังรู้สึกประหลาดใจ “ท่านผู้นํามันยังเร็ว เกินไปหรือไม่ที่จะโจมตี? สวรรค์สีดําและสวรรค์สีขาวกว้างใหญ่เกินไปยังมีอีกหลายกองกําลังที่ยังไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเรา”

“เรารอไม่ไหวแล้ว ตราบเท่าที่เราโจมตีและสามารถสร้างความโกลาหล คนเหล่านั้นจะเข้าหาพวกเราเองนี่คือวิธีกระตุ้นจิตใจ” อู่ส่วยโบกมือ

กลุ่มผู้อมตะเงียบ

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งถามต่อ “เช่นนั้นในความคิดเห็นของท่านผู้นํา เราควรโจมตีที่ใด?”

“แน่นอนว่าวังสวรรค์!” อู่ส่วยตอบโดยปราศจากความลังเล

“วังสวรรค์!?” กลุ่มผู้อมตะอุทานด้วยความประหลาดใจ

“วังสวรรค์อ่อนแอมากในเวลานี้ ตราบเท่าที่เราสามารถล้มล้างวังสวรรค์ ทั้งห้าภูมิภาคจะสันสะเทือน ผู้ใดจะกล้าโจมตีพวกเรา?”อู่ส่วยหัวเราะเสียงดัง

“นี่ไม่ฉลาด!”

“วังสวรรค์มีรากฐานที่ยิ่งใหญ่ มันไม่ใช่สถานที่ที่เราสามารถกําหนดเป้าหมาย!”

“ท่านผู้นําโปรดพิจารณาใหม่”

กลุ่มผู้อมตะส่ายศีรษะไม่เห็นด้วย

“ฮัม พวกขี้ขลาด!” อู่ส่วยไม่พอใจ “เช่นนั้นเราจะไปเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ใหญ่โตที่สุดมันเกิดจากการรวมตัวระหว่างวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และเมืองจักรพรรดิมันมีความสําคัญมากต่อวัง สวรรค์และเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นโลหิตมนุษย์หากเราสามารถยึดครองเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ภาคกลางจะตกสู่ความโกลาหล นอกจากนั้นเรายังจะได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดและ มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์!”

ท่านหญิงธุลีเย็นไตร่ตรองก่อนกล่าว “เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มีความสําคัญหากเราโจมตีมันเราจะสร้างความขุ่นเคืองให้กับภาคกลางพวกเขาจะต่อต้านและโจมตีพวกเรานี่ไม่ต่างจากการโจมตีวังสวรรค์โดยตรงงั้นหรือ?”

“แน่นอนว่าแตกต่าง หากผู้คนถูกดึงดูดมายังเมืองจักรพรรดิสวรรค์ เราจะสามารถส่งคนอีกกลุ่มหนึ่งไปโจมตีวังสวรรค์!” อู่ส่วยตอบ

กลุ่มผู้อมตะรู้สึกเย็นเยียบเมื่อได้ยินคํากล่าวของอู่ส่วย

“เขายังต้องการโจมตีวังสวรรค์!”

“นี่หมายความว่ากลุ่มที่โจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นเหยื่อบูชายัญงั้นหรือ?”

“ผู้อาวุโสอู่ส่วยก้าวร้าวเกินไป เขาต้องการต่อต้านวังสวรรค์ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น!”

อู่ส่วยไม่พอใจ “อันใด! พวกเจ้าไม่กล้าโจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?”

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเร่งกล่าว “ท่านผู้นําโปรดพิจารณาใหม่ พวกเรา…”

อู่ส่วยโบกมือและกล่าวอย่างไม่พอใจ “พอแล้ว ข้าไม่ต้องการได้ยินข้อแก้ตัวใดๆอีกต่อไปเอาล่ะกำจัดตระกูลเซียของทะเลตะวันออกเป็นอันดับแรก”

ในที่สุดอู่ส่วยก็เปิดเผยเป้าหมายที่แท้จริงของเขาออกมา

ตระกูลเซี่ยของภาคใต้กับตระกูลเซี่ยของทะเลตะวันออกไม่เกี่ยวข้องกันแต่ทั้งสองเป็นกองกําลังใหญ่เช่นเดียวกัน

หากเขากล่าวเป้าหมายนี้ออกมาตั้งแต่แรก เขาจะเผชิญหน้ากับการคัดค้านแต่สองเป้าหมายแรกของเขาคือวังสวรรค์และเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หากเปรียบเทียบการโจมตีตระกูลเซียของ ทะเลตะวันออกง่ายกว่ามาก

อู่ส่วยวิเคราะห์ “ตระกูลเซียของทะเลตะวันออกมีรากฐานอ่อนแอที่สุดท่ามกลางกองกําลังใหญ่ทั้งหมด นอกจากนี้ที่ตั้งฐานทัพใหญ่ของพวกเขายังอยู่ในพื้นที่ตะวันออกสุดของทะเลตะวันออก มันค่อนข้างห่างไกลและเหมาะสมกับการเป็นฐานทัพของพวกเรา”

“อาณาเขตของตระกูลเซียอยู่ติดกับวังเงือกศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพันธมิตรของพวกเราในเวลานี้พวกเขาสามารถสนับสนุนพวกเรา”

เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ อู่ส่วยก็ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใดคัดค้านอีก “ข้าตัดสินใจแล้วเป้าหมายของเราคือตระกูลเซีย!”

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้นําที่เผด็จการเช่นนี้ กลุ่มผู้อมตะรู้สึกไม่พอใจ แต่ภายใต้แรงกดกันจากที่จางเฉิงและวังมังกร พวกเขาไม่มีทางเลือก

สิ่งสําคัญที่สุดคือพวกเขาถูกบังคับโดยสถานการณ์ พวกเขารู้ว่าหากพวกเขาไม่ฉวยโอกาสนี้พวกเขาจะสูญเสียความได้เปรียบห้าภูมิภาคจะไม่ปล่อยพวกเขาไปในอนาคต

“จักรพรรดิผลึกน้ำแข็ง ตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตรควรเป็นของเจ้า เจ้าจะปล่อยให้เขาได้รับมันไปจริงๆงั้นหรือ?”หลังการประชุมผู้อมตะบางคนไม่พอใจบางคนกระตุ้นจักรพรรดิผลึกน้ำ แข็ง

จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเผยรอยยิ้มเย็นชากับตนเอง “ตะปูถูกตอกลงไปแล้วท่านอู่ส่วยกําลังช่วยนําทางกองกําลังพันธมิตรของพวกเรา แม้ข้าจะมอบตําแหน่งผู้นําให้เขาแล้วอย่างไร? ไม่ใช่ว่าตอนนี้พวกเราได้รับความช่วยเหลือกจากวังมังกรและมังกรปีศาจแล้วงั้นหรือ?”

“หากแผนการของเราล้มเหลวในอนาคตและผู้อมตะของห้าภูมิภาคออกไล่ล่าพวกเราในเวลานั้นเราจะสามารถตําหนิอู่ส่วยและหลบหนีไป”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+