Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์อนที่ 2999 นัยเร้นลับนิพพาน

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter อนที่ 2999 นัยเร้นลับนิพพาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2999 นัยเร้นลับนิพพาน

เมฆาเคราะห์สีดำม้วนซัดรุนแรง ไม่เกินความคาดหมาย ในเวลาต่อมาอานุภาพของมหาเคราะห์นิรันดร์ครานี้เปลี่ยนเป็นน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมแล้ว

แสงเคราะห์หลากสายเจิดจรัสดุจห้อทะยาน สะเทือนเก้าสวรรค์ โน้มลงมาคลุมจักรวาล วิวัฒน์เป็นภาพทำลายล้างน่าเหลือเชื่อมากมาย

มีสุริยันจันทราดาราปรากฏ กลายเป็นกระบวนค่ายกลเกรียงไกรมาเยือน ภายในอัดแน่นด้วยด่านเคราะห์ยิ่งใหญ่ทรงพลัง

มีภูผาธาราหมื่นลักษณ์ควบรวมกัน กอหญ้าต้นไม้ เม็ดทรายหินผาประทับอานุภาพสวรรค์ชั้นยอด พลังทำลายล้างเต็มเปี่ยมทำให้ผู้คนสิ้นหวัง

มีมายาทวยเทพปรากฏ แสงเคราะห์หมุนวนทั่วร่างคล้ายก้าวออกมาจากนิรันดร์

มี…

ภายใต้การจู่โจมจากด่านเคราะห์มากมายนี้ แค่คิดก็รู้ว่าการโจมตีที่หลินสวินเจอน่ากลัวเพียงใด

ทว่าสิ่งที่เกินความคาดหมายคือพลังด่านเคราะห์ทุกชั้นนั้นล้วนถูกเขาใช้มรรควิถีแห่งตนต้านทาน ใช้กฎเกณฑ์อมตะบดทลายลบล้างทั้งหมด

เงาร่างสูงโปร่งของเขาส่องประกายใต้เวิ้งฟ้า บ้างเหมือนเตาหลอมสยบหล้า บ้างคล้ายเหวลึกกลืนสวรรค์ เผยความกร้าวแกร่งและหยิ่งผยองกลางแสงเคราะห์ยิ่งใหญ่

แต่ละเหตุการณ์นั้นทำเอาพวกเสวียนเฟยหลิงตกตะลึงอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องสงสัยว่านี่คือมหาเคราะห์นิรันดร์ซึ่งน่ากลัวที่สุดที่พวกเขาเคยเจอ

ส่วนความแข็งแกร่งของหลินสวินก็เหนือความคาดหมายทุกครั้ง

ปรากฏการณ์เช่นนี้สืบเนื่องเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม ส่วนลึกเมฆาเคราะห์ที่ซัดกระหน่ำบนเวิ้งฟ้าเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดขึ้นมาทันที

แต่ไม่ได้ซ่านสลาย กลิ่นอายกดดันกลางฟ้าดินกลับกดอัดยิ่งกว่าเดิม

เมื่อมองหลินสวินอีกครั้ง แม้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่เห็นชัดว่าผลาญพลังทั้งตัวไปมาก สีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย

การโจมตีเต็มกำลังหนึ่งชั่วยาม ต่อให้รากฐานของเขาแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ยามนี้ก็รับไม่ไหวอยู่บ้าง

ความจริงแล้วการยืนหยัดภายใต้การโจมตีจากมหาเคราะห์ชวนประหวั่นได้เป็นเวลานานเช่นนี้ ล้วนเรียกว่าน่าเหลือเชื่อแล้ว

แต่เห็นชัดว่ามหาเคราะห์นิรันดร์ที่เพ่งเล็งหลินสวินครานี้คงไม่จบแค่นี้แน่

เวลานี้ชุดหลินสวินเกิดเสียงสะบัดโบก แหงนมองเวิ้งฟ้าพลางดื่มน้ำค้างเทพฟ้าประทานหนึ่งหยด ทันใดนั้นพลังที่ผลาญไปมากของเขาฟื้นคืนสภาพยอดเยี่ยมในพริบตา

หลังผ่านไปหนึ่งเค่อ

ส่วนลึกของเวิ้งฟ้าพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงสดดั่งโลหิต ย้อมเมฆาเคราะห์ดำสนิทดุจหมึกนั้นเป็นสีแดงก่ำกดอัดใจคน

“นี่คือ…” พวกเสวียนเฟยหลิงต่างเบิกตากว้าง

ในตำราโบราณของลัทธิแรกกำเนิดบันทึกเรื่องราวยามเหล่าผู้แข็งแกร่งในอดีตข้ามด่านเคราะห์นิรันดร์ไว้ ภายในนั้นมีคำอธิบายเกี่ยวกับมหาเคราะห์นิรันดร์มากมายโดยละเอียด

คำอธิบายพวกนั้นล้วนมีลักษณะไม่ต่างกัน

ทว่าในตำราโบราณเหล่านี้ล้วนไม่เคยบันทึกเรื่องมหาเคราะห์นิรันดร์กลายเป็นสีแดงก่ำ เรื่องนี้ย่อมเรียกได้ว่าไม่เคยมีและไม่เคยได้ยินมาก่อน!

เวลานี้แม้แต่หลินสวินยังนัยน์ตาหดรัดลงเล็กน้อย

หลายปีนี้เขาเคยศึกษาค้นคว้าตำราโบราณในลัทธิแรกกำเนิดเช่นกัน แค่เปรียบเทียบเล็กน้อยก็รู้ว่าเคราะห์นิรันดร์ที่เขาเผชิญหน้าตอนนี้ไม่เหมือนคนอื่นโดยสิ้นเชิง

ไม่ใช่แค่อานุภาพน่ากลัวกว่า แม้แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาก็แปลกประหลาดและผิดปกติ!

ตูม!

ไม่รอให้หลินสวินตอบสนอง แสงเคราะห์สีเลือดสายหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า กลายเป็นดาบตัดแดงก่ำอาบเลือดเล่มหนึ่ง กลิ่นอายด่านเคราะห์ที่แผ่ออกมาบดทลายห้วงอากาศ น่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต

ตึง!

หลินสวินออกหมัดต้านทานเต็มกำลัง แม้ดาบตัดแดงก่ำถูกซัดกระจุยกลางเสียงระเบิดสะท้านฟ้า แต่เงาร่างเขาก็ถูกกระเทือนจนซวนเซถอยร่น การขับเคลื่อนพลังทั่วร่างพลันปั่นป่วน

เวลานี้สีหน้าหลินสวินเปลี่ยนเป็นจริงจังเคร่งขรึมขึ้นมา

เคราะห์สวรรค์แข็งแกร่งขึ้นแล้ว!

อานุภาพทำลายล้างทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้เกินเท่าตัว!

ตูม…

ไม่มีเวลาให้หลินสวินใคร่ครวญมากเกินไป บรรยากาศกดดันกลางฟ้าดินถูกเสียงฟ้าผ่าทำลาย เมฆาเคราะห์สีเลือดทั่วฟ้าปะทุเหมือนหินหนืดเดือดพล่าน แสงเคราะห์สีเลือดราวกระบี่คมกริบแน่นขนัดนับไม่ถ้วนรวมตัวกัน กรีดทึ้งห้วงอากาศ ทิ้งตัวลงมาบนโลก

สีโลหิตเจิดจรัสไร้ขอบเขตทำให้ฟ้าดินเหมือนกลายเป็นเตาหลอมสีเลือด หมายกำจัดหลินสวินที่อยู่ในนั้นจนสิ้นซาก

ภาพนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว! ไอรีนโนเวล

แม้แต่หลินสวินยังขนลุกไปพักหนึ่ง สัมผัสถึงอันตรายอย่างเด่นชัด ทั่วร่างล้วนแข็งทื่อ

วู้ม!

เขาโคจรมรรควิถีทั้งหมดโดยไม่ลังเล ร่างเปลี่ยนเป็นหุบเหวลึก กฎเกณฑ์อมตะลึกลับคลุมเครือโคจรดังสนั่นถึงขีดสุด ปกป้องทั้งตัวเขาไว้ภายใน

ปังๆๆๆ!

แสงเคราะห์สีเลือดแน่นขนัดถล่มใส่ ตรงจุดที่หลินสวินยืนอยู่เกิดคลื่นทำลายล้างสะท้านฟ้าทันที ราวกับดวงดาวนับไม่ถ้วนระเบิดออก ทำให้ที่แห่งนั้นถูกแสงเคราะห์สีเลือดปั่นป่วนพังทลายฝังกลบโดยสมบูรณ์

เวลานี้หัวใจของพวกเสวียนเฟยหลิงพลันบีบรัดขึ้นมา ตื่นตระหนกจนหน้าถอดสี

เพียงมองอยู่ห่างไกลยังทำเอาพวกเขารู้สึกสิ้นหวังหวาดกลัว แค่คิดก็รู้แล้วว่าหลินสวินที่กำลังถูกถล่มเต็มกำลังตอนนี้สถานการณ์อันตรายระดับใด

อีกทั้งเมฆาเคราะห์สีเลือดบนเวิ้งฟ้ายังม้วนซัด มีแสงเคราะห์ไร้ขอบเขตฟาดลงมาราวเขื่อนทะลักอย่างต่อเนื่อง เหมือนดาบตัดนับไม่ถ้วนพุ่งตรงมายังจุดที่หลินสวินอยู่ไม่หยุด…

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา!

เมื่อเมฆาเคราะห์สีเลือดสงบลงช้าๆ ก็เห็นห้วงอากาศทรุดตัวพังทลายแล้ว สีเลือดไร้ขอบเขต กลิ่นอายด่านเคราะห์ม้วนซัดอบอวล เนิ่นนานกว่าจะหายไปทีละน้อย

จากนั้นเงาร่างของหลินสวินก็ปรากฏออกมา

หรือกล่าวได้ว่านั่นไม่อาจเรียกว่าเป็นเงาร่างหนึ่งแล้ว เสียหายสาหัสเกินไป ร่างกายถูกซัดกระจุย เนื้อกระดูกลับหาย เหลือเพียงพลังจิตสั่นคลอนอยู่กลางเลือดพิสุทธิ์

น่าอนาถหาใดเปรียบ!

พวกเสวียนเฟยหลิงล้วนรู้สึกเพียงมือเท้าเย็นเยียบ หนังศีรษะชาวาบ

ก่อนหน้านี้หลินสวินยังไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

แต่ตอนนี้เขาเกือบถูกปลิดชีพกลางแสงเคราะห์สีเลือดชวนประหวั่นนั่น!

“เอ๋!”

แต่ไม่นานพวกเสวียนเฟยหลิงต่างสังเกตเห็นภาพน่าเหลือเชื่อ

พลันเห็นพลังจิตวิญญาณดั้งเดิมที่เหลืออยู่ของหลินสวินกลายเป็นลายดอกบัวลึกลับหนึ่งรางๆ เต็มไปด้วยคลื่นพลังชีวิตยิ่งใหญ่หาใดเปรียบ จากนั้นเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงชวนตะลึง

กลิ่นอายด่านเคราะห์ทั่วทิศรวมถึงชิ้นส่วนร่างกายที่ถูกซัดกระจายของเขาเหมือนโดนชักนำ รวมตัวไปทางพลังจิตของเขาอย่างบ้าคลั่ง ม้วนซัดไหวกระเพื่อมไม่หยุด กลายเป็นเงาร่างเหมือนภาพมายา

จากนั้นเงาร่างนี้เริ่มเด่นชัดทีละน้อย…

แค่ไม่กี่พริบตาเท่านั้นหลินสวินฟื้นคืนสู่สภาพเดิม พลังแสงเคราะห์สีเลือดที่อบอวลกลางอากาศล้วนถูกเงาร่างของเขาดูดกลืนจนเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่น้อย!

เมื่อมองหลินสวินอีกครั้ง ผิวหนังทุกกระเบียดล้วนส่องประกายเจิดจรัส ยามหายใจทางจมูกปากเสียงมรรคดังกระหึ่ม ความแข็งแกร่งของพลังขับเคลื่อนทั่วร่างทรงพลังกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว!

“นิพพานและเกิดใหม่กลางแสงเคราะห์ ราวกับไม่ดับสลายอย่างแท้จริง หรือนี่คือนัยเร้นลับแท้จริงของมรรคายอดอมตะ” ตู๋กูยงพึมพำเสียงสั่น

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นล้วนถูกภาพการฟื้นคืนจากความพินาศ เกิดใหม่จากมหาเคราะห์นี้ทำให้แปลกใจเช่นกัน

การคาดเดาของพวกเขาไม่ห่างจากความจริงนัก

กฎเกณฑ์อมตะทั้งตัวหลินสวินสัมผัสและหยั่งถึงระเบียบนิพพานได้แต่แรก จนถึงตอนนี้หลอมพลังเก้าส่วนของระเบียบนิพพานไว้แล้ว กอปรกับหลอมพลังกฎเกณฑ์นิรันดร์มากมายในแดนฝังมรรคของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทำให้กฎเกณฑ์อมตะทั้งตัวเขาเหนือกว่าระเบียบระดับเทพนานแล้ว ไอรีนโนเวล

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดใหม่ท่ามกลางการสังหารน่ากลัวได้อีกครั้ง ทั้งได้รับการเปลี่ยนแปลงราวกับนิพพานเช่นนี้!

‘ยังขาดอีกมาก…’

หลินสวินสองมือไพล่หลัง ทอดมองบนเวิ้งฟ้า

มหาเคราะห์นิรันดร์ครานี้ยังไม่สิ้นสุด ตัวหลินสวินเองก็รู้สึกว่าต่อให้ครั้งนี้ได้นิพพานไปรอบหนึ่ง ทำให้ตนเกิดการเปลี่ยนแปลงชวนตะลึง แต่ยังไม่อาจทำให้ตนก้าวเข้าสู่ธรณีประตูระดับนิรันดร์อย่างแท้จริง

แต่หลินสวินไม่ได้รีบร้อน

ทั้งไม่กังวลด้วย

มหาเคราะห์นิรันดร์ครานี้อาจเปลี่ยนเป็นน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แต่กฎเกณฑ์อมตะทั้งตัวเขาสามารถทำให้ตนคืนชีพและแปรสภาพจากความพินาศเหมือนเกิดใหม่ได้ทุกครั้ง!

บนเวิ้งฟ้าเมฆาเคราะห์สีเลือดเปลี่ยนเป็นสีขุ่นมัวช้าๆ แสงเคราะห์ในส่วนลึกของเมฆาเคราะห์นั้นก็เปลี่ยนเป็นขุ่นมัวขึ้นมา ในความรางเลือนเหมือนมีโลกมากมายปรากฏ ควบรวมกันอย่างต่อเนื่อง

แต่ละโลกล้วนอบอวลด้วยแสงเคราะห์ขุ่นมัว ตัดสลับซ้อนทับกัน เงาระริกไหวลึกลับเกินคาดเดา

แม้มหาเคราะห์ขั้นนี้กำลังสุกงอมและยังไม่มาเยือน แต่กลิ่นอายชวนประหวั่นนั้นดึงดูดความสนใจจากสิ่งมีชีวิตนับหมื่นแสนทั่วน่านฟ้าที่เจ็ดแล้ว

บนท้องนภาเหนือน่านฟ้าที่เจ็ดลมทมิฬอึงอล เมฆาเคราะห์เคลื่อนขวาง กลิ่นอายด่านเคราะห์ราวคงอยู่ทุกแห่งหนนั้นเหมือนปกคลุมห้วงอากาศทุกอณูในพริบตา

เวลานี้สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนที่อาศัยอยู่ในแต่ละดินแดน เมือง แดนลับถ้ำสวรรค์ทั่วน่านฟ้าที่เจ็ดล้วนถูกทำให้ตกใจ ขวัญหนีดีฝ่อ

เสียงอุทานอย่างตื่นตระหนกนับไม่ถ้วนเริ่มดังขึ้นทั่วทุกมุมในใต้หล้า

“นี่คืออะไร”

“น่ากลัวนัก!”

“มหาเคราะห์วันสิ้นโลกมาเยือนแล้วหรือ”

…ขณะเดียวกันตรงจุดที่ห่างทะเลหมื่นดาราไปไกล เงาร่างที่กำลังเคลื่อนผ่านอากาศสั่นไปทั้งตัว เงยหน้าขึ้นทันใด

“ทำไมบนโลกนี้ถึงมีมหาเคราะห์นิรันดร์ที่น่ากลัวเช่นนี้”

คนผู้นี้สวมจีวร ร่างผอมแห้ง เป็นเจียหนานพุทธปัจจุบันแห่งลัทธิฌาน

นัยน์ตาเขาหดรัด สีหน้าวูบไหวไม่หยุด ถูกทำให้แปลกใจเช่นกัน

ครู่ต่อมาเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ กำลังคิดจะเดินหน้าต่อ เวลานี้เสียงเย็นชาครัดเคร่งหนึ่งดังขึ้น

“หากปล่อยให้คนที่มีศักยภาพแฝงของยอดอมตะอย่างเขาแจ้งมรรคนิรันดร์ ภายหน้าใต้หล้านี้คงไม่มีระดับนิรันดร์คนไหนเป็นคู่ต่อสู้ของเขาอีก!”

พร้อมกับเสียงนั้นชายสวมชุดหนังสัตว์ผิวสีทองแดงคนหนึ่งปรากฏตัวกะทันหัน

เป็นถานอู่ราชครูฟ้าแห่งลัทธิพ่อมด!

เจียหนานสีหน้าเคร่งขรึมและนิ่งสงบกล่าวว่า “ดังนั้นครั้งนี้เขาต้องตาย”

ถานอู่สัมผัสได้ถึงไอสังหารที่แผ่ซ่านในคำพูดของเจียหนานแล้วพลันแสยะยิ้ม “คิดไม่ถึงว่าจิตฌานไร้มลทินของภิกษุอย่างเจ้าถึงกับเกิดไอสังหารเด็ดขาดเช่นนี้ได้”

เจียหนานไม่พูดอะไรมากอีก เดินต่อไปข้างหน้า

ถานอู่ก็เก็บรอยยิ้ม เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ

ทั้งสองไล่ตามกันไป ผ่านไปเพียงครึ่งเค่อก็มาถึงริมทะเลหมื่นดารา

พวกเขาเห็นส่วนลึกของเมฆาเคราะห์ขุ่นมัวนั่นเผยแสงเคราะห์แถบหนึ่งที่สุกงอมแล้วพอดี ตกลงมาจากฟากฟ้าฉับพลัน

แสงเคราะห์นั้นมืดสว่างสอดประสาน ขาวดำไม่แบ่งแยก คล้ายวิวัฒน์จากพลังแรกกำเนิดก่อนเบิกฟ้าผ่าดิน เต็มไปด้วยคลื่นทำลายล้างยากจินตนาการ

ตูม!

เมื่อมาเยือนฟ้าดินเหมือนจมสู่ความขุ่นมัว เสียงมรรคชวนอึดอัดจนทำให้ผู้คนขวัญหนีดีฝ่อดังก้อง ราวกลองศึกวันสิ้นโลกถูกตีระรัว

ระดับนิรันดร์ทั้งสองอย่างเจียหนานกับถานอู่ยังอดสูดหายใจหนาวเยือกไม่ได้

เป็นมหาเคราะห์ที่น่ากลัวนัก!

พวกเขาสบตากัน ต่างเห็นความตระหนกในดวงตาอีกฝ่าย

พวกเขาล้วนเคยแจ้งมรรคนิรันดร์ เคยผ่านอันตรายและความยากลำบากในมหาเคราะห์นิรันดร์ แต่เทียบกับมหาเคราะห์นิรันดร์ตรงหน้านี้แล้ว มหาเคราะห์นิรันดร์ที่พวกเขาข้ามตอนนั้นด้อยกว่ามากโดยไม่ต้องสงสัย!

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด