Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 449 เลือดหัวใจสามพันหยด

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 449 เลือดหัวใจสามพันหยด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 449 เลือดหัวใจสามพันหยด
โดย

สมบัติโบราณเชื่อมวิญญาณ ก่อนอื่นมันต้องเป็นสมบัติวิญญาณก่อน!

ในฐานะปรมาจารย์สลักวิญญาณคนหนึ่ง แน่นอนว่าหลินสวินรู้ชัดเรื่องนี้

เหมือนกับอาวุธวิญญาณที่แม้อานุภาพจะยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับสมบัติวิญญาณในระดับเดียวกันแล้ว อานุภาพยังด้อยกว่าไปหนึ่งระดับอย่างเห็นได้ชัด

เหตุผลอยู่ที่ว่า สมบัติวิญญาณมีจิตวิญญาณแสงสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ แต่อาวุธวิญญาณนั้นไม่มี

แต่เมื่อเทียบกันแล้ว สมบัติโบราณที่สามารถดำรงอยู่ได้ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันโดยไม่สึกกร่อนไปตามพลังกาลเวลา และรักษาความสมบูรณ์ของจิตวิญญาณได้นั้น มีความพิเศษมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ดังเช่นดาบวิญญาณม่วงในมือหลินสวินก็เป็นสมบัติวิญญาณเช่นกัน แต่หลินสวินกลับมั่นใจมากว่า ถ้าให้ดาบวิญญาณม่วงคงอยู่ผ่านยุคสมัย ผ่านการกัดกร่อนของกาลเวลา มันคงจะสลายไปไม่สามารถอยู่รอดอย่างสมบูรณ์แบบได้แน่

เช่นนี้ก็จะสะท้อนให้เห็นคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของสมบัติโบราณ

น้ำเต้าเพลิงแดงที่อยู่ในมือก็เป็นสมบัติโบราณชิ้นหนึ่ง อีกทั้งจิตวิญญาณยังหลั่งไหลสมบูรณ์แบบไม่มีสึกหรอ ลึกลับอย่างที่สุด ราวกับมีวิญญาณสถิตอย่างไรอย่างนั้น

พื้นผิวของมันเงาวาวหมดจดเหมือนหยกเพลิง เป็นประกายแวววาว สว่างไสวราวกับเปลวไฟแห่งเทพกำลังแผดเผา

เมื่อดูอย่างละเอียดจะพบว่ามีรอยสลักวิญญาณลึกลับคลุมเครือประทับอยู่ราวกับเป็นลวดลายเมฆ สลักเป็นภาพเซ่นไหว้ของบรรพบุรุษ ภาพเซ่นไหว้โบราณแห่งสรรพสิ่ง จิตวิญญาณอันเป็นธรรมชาติสายหนึ่งไหลวนเวียนอยู่ภายในราวกับมีชีวิต

หากเพียงเท่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับดาบวิญญาณม่วงในมือหลินสวิน

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า ในลายสลักวิญญาณซึ่งประทับบนน้ำเต้านี้มีท่วงทำนองแห่งมรรคโบราณที่อธิบายไม่ถูกอยู่รางๆ ทำให้มันดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิง!

ท่วงทำนองมรรค ก็คือท่วงทำนองสัมผัสแห่งมหามรรคอันยิ่งใหญ่ อย่างเช่นกลิ่นอาย ร่องรอย ลึกลับเกินคาดเดา

สมบัติวิญญาณชิ้นหนึ่งถึงกับมีท่วงทำนองมรรค ก็ไม่แปลกที่มันจะสามารถคงอยู่ได้ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังรักษาจิตวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์เต็มเปี่ยม

เรียกได้ว่ายอดเยี่ยม ไม่อาจประเมินค่า!

หลินสวินเก็บสายตา ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น เริ่มทำความเข้าใจวิธีใช้ที่ซ่อนอยู่ของสมบัติชิ้นนี้อย่างละเอียด

ปากน้ำเต้าถูกปิดผนึกด้วยลายลึกลับ เปลวไฟแผ่ลอย ราวกับตราประทับอันเจิดจ้า สมบูรณ์แบบไม่มีสึกหรอ

เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นกู่เหลยจากสำนักแสงทอง หรือเหลียนเตี๋ยอีที่ชิงสมบัตินี้ไปในภายหลัง ล้วนยังไม่ทันได้สำรวจความลึกลับของสมบัติชิ้นนี้

ครืน!

ผนึกถูกเปิดออก แสงเพลิงม่วงสายหนึ่งม้วนตัวออกมาส่งเสียงครืนครัน อากาศแถบนี้ถูกเผาในพริบตา เกิดเป็นคลื่นความร้อนอันน่าสะพรึงแผ่กระจายไปรอบๆ

ชั้นเมฆบริเวณใกล้ๆ ถูกระเหยแห้ง อากาศเกิดเสียงฉ่าๆ ภาพอันน่าตระหนกนั้นทำให้ในใจหลินสวินเองยังขมวดเคร่ง พลังของแสงเพลิงม่วงนี้น่ากลัวยิ่ง ถึงขั้นสามารถเผาแม่น้ำต้มทะเลได้เลยทีเดียว

จวบจนกระทั่งปากน้ำเต้าไม่พ่นแสงเพลิงสีม่วงออกมาแล้ว พลังการรับรู้ของหลินสวินจึงแทรกซึมเข้าไปอย่างเงียบๆ

‘เลือดหยดหนึ่ง!’

หลินสวินพลันหรี่ตา ภายในน้ำเต้ามีเลือดหยดหนึ่งกลิ้งอยู่ มันเป็นสีม่วงงดงามเป็นประกาย ในเลือดหยดเล็กๆ นั้นกลับเห็นสายฟ้าแสงหิมะน่ากลัวปรากฏอยู่อย่างคล้ายมีและไม่มี เกิดกลิ่นอายน่าสะพรึงปานจะทำลายสิ้นสรรพสิ่ง

เฮือก

หลินสวินสูดหายใจเย็นเยียบ แค่เลือดหยดหนึ่งแท้ๆ กลับประหนึ่งรวมพลานุภาพมหาศาล ให้ความรู้สึกอึดอัดกดดันอย่างบอกไม่ถูก น่าสะท้านขวัญเกินไปแล้ว

ซวบ!

ทันใดนั้นก็เห็นว่าภายในเลือดสีม่วงหยดนั้นยิงรัศมีสายฟ้าออกมาสายหนึ่ง ราวกับคมดาบไหลเข้าสู่การรับรู้และจิตวิญญาณของหลินสวิน

หลินสวินแค่นเสียงในคอ ใช้ ‘ดาราจักรโคจร’ ทำลายประกายสายฟ้าที่ราวกับเส้นผมนั้นทันที

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น จิตวิญญาณของเขาก็ยังคงหวั่นหวาดสั่นไหว ปิดผนึกน้ำเต้าอีกครั้งอย่างไม่ลังเล!

นี่คืออะไร เหตุใดจึงถูกปิดผนึกอยู่ภายในน้ำเต้า

หว่างคิ้วของหลินสวินเผยความสงสัย เดิมเขาคิดว่าน้ำเต้าเพลิงแดงนี้เป็นอาวุธสังหารสมบัติโบราณที่ทรงพลังชิ้นหนึ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า น้ำเต้านี้จะมีไว้เพื่อผนึกเลือดสีม่วงหนึ่งหยดที่อยู่ภายใน!

ทันใดนั้นภายในห้วงนิมิตของหลินสวินก็เพิ่มการตระหนักรู้เข้ามาอีกหนึ่งส่วน ทว่ากลับเป็นร่องรอยที่เหลือจากสายฟ้าซึ่งถูกทำลายไปแล้วสายนั้น

สิ่งที่อัศจรรย์ที่สุดคือ ร่องรอยนั้นกลับเป็นเสียงคำรามอันราบเรียบและเย็นชาไร้ที่เปรียบ…

‘ไอ้เฒ่าอู๋จิ้ว สักวันเมื่อเปิ่นจั้วหลุดออกไปได้ จะชำระล้างแดนพิสุทธิ์ยอดยุทธ์ด้วยเลือด!’

เสียงนั่นดังก้องอยู่ในห้วงนิมิต สะเทือนจนหลินสวินเลือดลมปั่นป่วน โชคดีที่มันหายไปอย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นหลินสวินคงสงสัยว่า แค่เสียงนี้บางทีอาจสามารถสะเทือนจิตวิญญาณของตนจนแหลกละเอียด ทำลายร่างกายตนให้สิ้นซากได้!

อู๋จิ้ว?

แดนพิสุทธิ์ยอดยุทธ์?

คำที่ไม่คุ้นเคยนี้ทำให้หลินสวินประหลาดใจ หรือเสียงนั่นจะเป็นเจ้าของเลือดสีม่วงหยดนั้น?

หลินสวินครุ่นคิดอยู่ครู่ พลันกัดฟันเปิดผนึกน้ำเต้าออกอีกครั้ง และใช้พลังการรับรู้แทรกเข้าไปเช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว

ซวบ!

ตามคาด เลือดม่วงหยดนั้นยิงสายฟ้าสีเงินที่บางราวขนวัวออกมาอีกเส้น พุ่งเข้าใจกลางพลังแห่งการรับรู้

หลินสวินเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อนแล้ว จึงสลายมันด้วยดาราจักรโคจร

‘เปิ่นจั้วมีใจเข้าถึงมรรค กลับถูกพวกต่ำทรามลอบแว้งกัดปราบปราม คว้านเลือดพิสุทธิ์สามพันหยดจากหัวใจเปิ่นจั้วไป!’

หลินสวินขมวดคิ้ว เลือดพิสุทธิ์จากหัวใจสามพันหยด? หรือนี่ก็คือที่มาของหยดเลือดม่วงที่ถูกปิดผนึกอยู่ในน้ำเต้านี้

หลังจากนั้นหลินสวินก็ใช้วิธีเดิม ใช้พลังการรับรู้เข้าไปสำรวจภายในน้ำเต้า

‘น่าขันน่าสลดใจนัก เพื่อแย่งชิงตำแหน่ง ต้องมาประสบความทุกข์ยากเช่นนี้ สวรรค์ช่างไร้เมตตา!’

‘หึ! น้ำเต้าหลอมวิญญาณหรือ คิดว่าเพียงเท่านี้ก็จะทำลายเจตจำนงของเปิ่นจั้ว ชิงแก่นมรรคที่เร้นอยู่ในเลือดพิสุทธิ์ได้หรือ ฝันไปเถอะ!’

‘สักวันแดนพิสุทธิ์ยอดยุทธ์ของเจ้าก็ต้องเจอเคราะห์ ถูกสวรรค์ทอดทิ้ง ไม่อยู่ในมหามรรคอีกต่อไป!’

……

เสียงนั่นคำรามสะท้านสะเทือน เย็นเยียบหาที่เปรียบ เผยโทสะและความเสียใจไร้ที่สิ้นสุด ยิ่งไปกว่านั้นคือความชิงชังมหาศาลที่ยากควบคุม

สิ่งที่พูดก็สับสน จับใจความไม่ได้เลยสักนิด

เนิ่นนานกว่าหลินสวินจะสงบลง วิเคราะห์ได้ว่าเสียงพวกนี้เป็นความคิดที่หลงเหลืออยู่ในหยดเลือดสีม่วงหยดนั้น เห็นได้ชัดว่ามาจากผู้ยิ่งใหญ่สักท่านในสมัยโบราณกาล

ส่วนความหมายที่ความคิดนั้นต้องการจะสื่อก็ง่ายมาก ในขณะที่เจ้าของเลือดม่วงหยดนี้กำลังเข้าถึงมรรค ได้ถูก ‘ไอ้เฒ่าอู๋จิ้ว’ แห่งแดนพิสุทธิ์ยอดยุทธ์ที่ร่วมมือกับคนอื่นลอบทำร้าย ถูกกำราบในที่สุด

และ ‘เลือดหัวใจ’ สามพันหยดที่อยู่ในร่างเจ้าของเลือดม่วงนี้ก็ถูกคว้านไป!

สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ใน ‘เลือดหัวใจ’ ของเจ้าของเลือดม่วงนี้คือ ‘แก่นมรรค’ เพื่อจะหลอมมัน ‘ไอ้เฒ่าอู๋จิ้ว’ จึงใช้น้ำเต้าหลอมวิญญาณปิดผนึกเอาไว้

“ที่แท้สมบัติชิ้นนี้ก็คือน้ำเต้าหลอมวิญญาณ หยดเลือดสีม่วงที่ปิดผนึกอยู่ข้างใน คิดว่าคงเป็นหนึ่งในเลือดพิสุทธิ์สามพันหยดที่ซ่อนแก่นมรรคเอาไว้…”

ไม่นานหลินสวินก็เข้าใจ

แก่นมรรค ก็คือสิ่งที่สั่งสมพลังอันยอดเยี่ยมของมรดกมหามรรคในตำนาน!

จากการคาดเดานี้ เลือดพิสุทธิ์สามพันหยดนั่น ก็หมายความถึงมรดกมหามรรคสามพันรูปแบบ จากจุดนี้สามารถคะเนได้ว่า พลังปราณของเจ้าของเลือดม่วงในยามนั้นสะเทือนฟ้าน่าสะพรึงเพียงใด!

รับโชคซะแล้ว!

หลินสวินร้อนเร่าในใจ ไม่ต้องพูดถึงว่าน้ำเต้าหลอมวิญญาณใบนี้เป็นสมบัติโบราณเชื่อมวิญญาณ แม้แต่เลือดม่วงลึกลับหนึ่งหยดที่ถูกปิดผนึกอยู่ภายในก็ยังไม่อาจประเมินค่าได้!

ถ้าเหลียนเตี๋ยอีรู้เรื่องพวกนี้ คงไม่มีทางคืนน้ำเต้าหลอมวิญญาณให้ตนง่ายๆ เช่นนี้กระมัง

หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกคราหนึ่ง แล้วเก็บน้ำเต้าหลอมวิญญาณอย่างระมัดระวัง

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะให้เขามาทำความเข้าใจไปมากกว่านี้ รอหลังจากก่อชีพจรวิญญาณเส้นใหม่ในร่างได้อย่างสมบูรณ์ก่อน บางทีเขาอาจจะมีแรงและเวลาไปทำความเข้าใจความเร้นลับที่ซ่อนอยู่ภายในน้ำเต้าหลอมวิญญาณและหยดเลือดม่วงนี้อย่างลึกซึ้ง

หลินสวินเร่งเดินทางต่อ

ตูมโครม!

ไม่นาน ยามผ่านเทือกเขาสีดำสนิทอันรกร้างแตกทลาย ไกลออกไปในอากาศมีเสียงการต่อสู้ที่ดังกึกก้องราวกับสายฟ้าฟาด!

เสียงนั่นสั่นสะเทือนฟ้าดิน ดูน่ากลัวอย่างที่สุด เห็นได้ชัดว่ามีศึกใหญ่ที่แท้จริงเกิดขึ้น!

………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด