Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 707 หมายจับกระดานโลหิต

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 707 หมายจับกระดานโลหิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ค่ายหมายเลขเจ็ด

หลังจากหลินสวินหวนคืนก็กลับห้องตนเองทันที เริ่มต้นปิดด่าน

หนึ่งเพราะการต่อสู้ครั้งนี้เขาผลาญพลังมากเกินไป ต้องฟื้นฟูสภาพ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือเขาหมายอาศัยโอกาสนี้หยั่งรู้และค้นหาปริศนาของชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดโดยละเอียด!

ขณะที่หลินสวินปิดด่าน โลกภายนอกกลับอึกทึกครึกโครม

เมื่อแม่ทัพใหญ่จ่างซุนเลี่ยนำเรือรบดำเกิงเหินลำหนึ่งออกจากค่ายด้วยตัวเองพร้อมไอสังหารแผ่ซ่าน ก็ดึงดูดสายตามากมายซึ่งต่างกำลังคาดเดา ว่าเป็นคนใหญ่คนโตเพียงไหนกันแน่ ถึงกับทำให้จ่างซุนเลี่ยต้องออกโรงด้วยตนเอง

และเมื่อเห็นเรือรบดำเกิงเหินกลับมา ชั่วขณะเดียวหลินสวินก็กลายเป็นศูนย์รวมที่บรรดาผู้ฝึกปราณในค่ายต่างจับจ้อง

ทว่าน่าเสียดาย ทันทีที่หลินสวินกลับมาก็รีบเร่งปิดด่าน ทำให้ผู้ฝึกปราณในค่ายไม่ทันได้ค้นหาที่มาอย่างสิ้นเชิง

แต่เมื่อเห็นห่อสัมภาระซึ่งบรรจุแน่นขนัดถุงแล้วถุงเล่าถูกขนออกมาจากเรือรบดำเกิงเหิน ทั้งค่ายต่างพลุ่งพล่าน

และเมื่อรู้ว่าเหรียญกล้าหาญของกองทัพซึ่งเลือดนองติดเต็มทั้งหมด ล้วนมาจากน้ำมือหลินสวินเพียงคนเดียว ผู้ฝึกปราณทั้งหมดในค่ายต่างตะลึงงันโดยสมบูรณ์

เด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่ง ถึงกับสังหารศัตรูมากขนาดนี้บนสมรภูมิกระหายเลือด?

“ห่าเอ๊ย ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเหรียญกล้าหาญระดับจอมเวททั้งสิ้น แม้แต่เหรียญกล้าหาญระดับมหาเวทก็มี! สวรรค์ ทั้งหมดนี่เขาสังหารคนเดียวรึ”

มีคนตกใจจนหลุดสบถออกมาอย่างอดไม่อยู่

ผู้ฝึกปราณคนอื่นในค่ายต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ในใจสั่นสะท้านยากจะเอ่ย

จอมเวท!

นั่นเทียบได้กับผู้มีปราณระดับหยั่งสัจจะ ระดับนี้เพียงพอทำให้ผู้ฝึกปราณแห่งจักรวรรดิส่วนมากรู้สึกตึงมือแล้ว

แต่บัดนี้เหรียญกล้าหาญในห่อสัมภาระนั่น อย่างน้อยมากกว่าครึ่งล้วนมาจากชิ้นส่วนของจอมเวทที่ถูกฆ่า!

ส่วนระดับมหาเวทนั่นยิ่งไม่ธรรมดา หากอยู่ในเผ่าพ่อมดเถื่อนล้วนเรียกได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่แท้จริง! ปกติคิดสังหารคนในระดับนี้ จำเป็นต้องให้มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติชั้นยอดแห่งจักรวรรดิเคลื่อนไหว

แต่ยามนี้ อย่างน้อยที่สุดมีผู้แข็งแกร่งระดับมหาเวทห้าคนขึ้นไปถูกสังหาร กลายเป็นเหรียญกล้าหาญของเด็กหนุ่มคนนั้น!

นี่เห็นได้ว่าเหนือจินตนาการเกินไปแล้ว

แม้เป็นทหารเก่าที่กรำศึกบนสมรภูมิกระหายเลือดมานานปียังยากสงบนิ่ง เพราะเหตุการณ์เช่นนี้พบเห็นได้ยากยิ่ง

พวกหูทง อาปี้ล้วนอยู่กลางหมู่คน เห็นทุกอย่างเบื้องหน้ากับตาตนเอง

เมื่อรู้ว่าเด้กหนุ่มมีชีวิตรอดถูกช่วยกลับมา พวกเขาต่างแอบเป่าปากโล่งอก รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย

ถึงอย่างไรพวกเขาต่างรู้อย่างลึกซึ้งว่าฐานะของคุณชายหลินคนนี้พิเศษโดดเด่นและไม่ธรรมดาเกินไป มิฉะนั้นคงไม่ทำให้แม่ทัพใหญ่จ่างซุนเลี่ยรีบร้อนออกจากค่ายไปช่วยด้วยตัวเองเช่นนี้เด็ดขาด

หากเขาตายไป พวกเขาคงต้องติดร่างแหไปด้วย!

โชคดีที่เด็กหนุ่มไม่ตาย

เพียงแต่เมื่อเห็นห่อสัมภาระบรรจุเหรียญกล้าหาญแน่นขนัดถูกขนย้ายออกมาถุงแล้วถุงเล่า ยังทำเอาพวกหูทงไหวหวั่นเกินบรรยาย

ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นอีกฝ่ายเป็นลูกผู้ดีไร้สามารถ เป็นหนอนดูดเลือดแห่งจักรวรรดิที่พาให้คนรู้สึกดูถูก ทำได้แค่ละโมบช่วงชิงเหรียญกล้าหาญของคนอื่น

ใครเล่าจะคาดคิด สุดท้ายคนที่ช่วยชีวิตพวกเขากลับเป็น ‘ลูกผู้ดี’ คนหนึ่งเช่นนี้!

กระทั่งเหรียญกล้าหาญที่เขาได้รับมาคนเดียว ก็เพียงพอให้มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติคนใดๆ ในค่ายหมายเลขเจ็ดละอายจนเงยหน้าไม่ขึ้น!

“ผู้คนไม่รู้จักต้นไม้สูงทะยานเมฆ จนเมื่อมันสูงทะลวงเมฆแล้วถึงได้รู้!” หูทงทอดถอนใจ

“อะไรนะ ยังมีราชันกึ่งระดับของเผ่าพ่อมดเถื่อนคนหนึ่งหลั่งเลือดกลางสมรภูมิ?”

ผู้ฝึกปราณแห่งจักรวรรดิส่วนหนึ่งที่มุ่งหน้าไปช่วยหลินสวินให้พ้นภัยเดินลงมาจากเรืบรบดำเกิงเหิน และบอกกล่าวข่าวนี้ ก่อให้เกิดเสียงฮือฮา ณ ที่นั้นในชั่วขณะ แต่ละคนลูกตาแทบถลน

“เป็นไปไม่ได้กระมัง เด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่ง จะสามารถก้าวข้ามระดับใหญ่ไปฆ่าคนที่อยู่ในระดับสูงกว่าได้อย่างไร นี่มันโคตรเกินจริงและไร้สาระยิ่งกว่านิทานปรัมปราซะอีก!”

มีคนส่งเสียงซักถามสงสัย

“ใช่แล้ว เป็นแม่ทัพใหญ่จ่างซุนลงมือสังหารราชันกึ่งระดับนั่นเองหรือเปล่า”

และมีคนทำการสันนิษฐาน

สำหรับข้อสงสัยและการสันนิษฐานพวกนี้ ผู้ฝึกปราณแห่งจักรวรรดิซึ่งกลับมาจากการช่วยเหลือเหล่านั้นต่างเผยความปรามาส คร้านจะอธิบาย

ความจริงแล้วกระทั่งตอนนี้พวกเขาล้วนยังอยู่ในสภาพมึนงง ไม่อาจคาดเดาว่าตอนนั้นเด็กหนุ่มทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไร นี่เขย่าขวัญและไม่คิดไม่ฝันเกินไปอย่างเห็นได้ชัด

สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถมั่นใจได้ก็คือ การต่อสู้ที่หุบเขาพยัคฆ์นั่นต้องปลิดชีพราชันกึ่งระดับไปคนหนึ่ง คราบเลือดและเศษซากศพซึ่งแหลกละเอียดล้วนถูกรวบรวมกลับมา ไม่มีทางเป็นเท็จเด็ดขาด!

ค่ายหมายเลขเจ็ดวันนี้เห็นได้ว่าคึกคักเป็นพิเศษจวบจนรัตติกาล ไม่ว่ากองทัพทางการผู้ฝึกปราณแห่งจักรวรรดิหรือกลุ่มอิทธิพลผู้ฝึกปราณอิสระพวกนั้นล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงคนคนเดียวกัน…

เด็กหนุ่มคนนี้ที่เพิ่งมาถึงค่ายหมายเลขเจ็ดเมื่อวาน แค่เพียงหนึ่งวันก็อาศัยเหรียญกล้าหาญที่เลือดหลั่งริน สร้างชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วค่ายหมายเลขเจ็ด

วันนั้นถึงขั้นมีผู้ฝึกปราณมากมายรุดหน้าไปเยี่ยมเยียนยังที่พักของเด็กหนุ่ม น่าเสียดายที่ที่นั่นถูกทัพทหารคุ้มกันแน่นหนาอยู่ก่อนแล้ว ใครต่างไม่อาจเข้าใกล้

นี่ต้องเป็นการเตรียมการของหลูเหวินถิงแน่ เขาไม่หวังให้เด็กหนุ่มเกิดเรื่องอีก ด้วยเหตุนี้ทันทีที่กลับมาก็ออกคำสั่ง โยกย้ายทหารมากฝีมือกองหนึ่งมาคุ้มกันหน้าที่พักของอีกฝ่าย

การปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษเช่นนี้ ทั้งค่ายหมายเลขเจ็ดมีเพียงเด็กหนุ่มคนนี้คนเดียวที่ได้รับ

หลินสวินกำลังปิดด่านสงบใจ แน่นอนว่าหาได้รับรู้สิ่งเหล่านี้ไม่

แกรกๆ!

ห้องของเขาเงียบสงัด มีเพียงเสียงผลึกวิญญาณระดับสูงที่แตกละเอียดดังออกมาเป็นพักๆ

เวลาผ่านไปสามวันอย่างรวดเร็ว

“ท่านแม่ทัพ เหรียญกล้าหาญจากศึกหุบเขาพยัคฆ์ของคุณชายหลินนับเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ”

หลูเหวินถิงสีหน้าพิกลอยู่บ้าง

“เท่าไหร่?”

จ่างซุนเลี่ยเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานพลางถาม

หลูเหวินถิงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ค่อยสูดหายใจลึกกล่าว “เหรียญกล้าหาญชั้นหนึ่งหนึ่งเหรียญ เหรียญกล้าหาญชั้นสองสามสิบเจ็ดเหรียญขอรับ”

จ่างซุนเลี่ยนัยน์ตาหดรัดทันใด ตบโต๊ะด่า “พูดพล่อยๆ! เหรียญกล้าหาญชั้นหนึ่ง? เจ้าจงใจ ‘ดูแล’ เจ้าเด็กนี่ไปหน่อยกระมัง”

คำว่าดูแล ความหมายคือทุจริตด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัว แน่นอนว่าหลูเหวินถิงฟังออก เขาพลันรีบร้อนกล่าวทันที “ท่านแม่ทัพ ใต้เท้าราชันกระหายเลือดเคยกำชับมาว่าต้องปฏิบัติต่อเด็กนี่อย่างยุติธรรม ข้ามีหรือจะกล้าช่วยปลอมเหรียญกล้าหาญให้เขา”

เขาหยุดไปครู่ค่อยกล่าวต่อ “เหรียญกล้าหาญชั้นหนึ่งนี้ เป็นเพราะมีราชันกึ่งระดับคนหนึ่งถูกคุณชายหลินฆ่า!”

“ข่าวคราวยืนยันว่าเขาเป็นคนฆ่างั้นรึ”

จ่างซุนเลี่ยพลันเลิกคิ้วเข้มขึ้น เขาเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้ เพียงแต่เขาสงสัยนักว่าเด็กนี่เป็นคนทำหรือไม่กันแน่

อย่างไรเสียแม้แต่เขาซึ่งเป็นราชันระดับสังสารวัฏยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่ามีผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะคนไหนที่สามารถฆ่าราชันกึ่งระดับได้

ในประวัติศาสตร์หลายพันปีของจักรวรรดิล้วนไม่เคยปรากฏกรณีนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนเด็ดขาด!

“ยืนยันขอรับ หน่วยสอดแนมเราได้รับข่าวที่แม่นยำจากค่ายทัพเผ่าพ่อมดเถื่อน ราชันกึ่งระดับที่สิ้นชีพมีนามว่าหมานจิ่ว เป็นผู้อาวุโสชั้นยอดคนหนึ่งของสายคนเถื่อนมืด ติดตามรับใช้ข้างกายราชนิกุลคนเถื่อนมืดอิ๋งเชวี่ยมาตลอด”

หลูเหวินถิงรีบร้อนอธิบาย “ตามข่าวของเผ่าพ่อมดเถื่อน หมานจิ่วตายในมือคุณชายหลินจริง อีกทั้ง…”

กล่าวถึงตรงนี้เขาก็ลังเลขึ้นมาเล็กน้อย

“อีกทั้งอะไร” จ่างซุนเลี่ยคิ้วขมวด ไม่พอใจอยู่บ้าง

หลูเหวินถิงฝืนใจกล่าว “อีกทั้งข่าวบอกว่า หมานจิ่วถูกศรเดียวของคุณชายหลินสังหาร…”

จ่างซุนเลี่ยได้ยินดังนั้น ฝ่ามือหนึ่งพลันตบลงบนโต๊ะก่อนก่นด่า “แม่งพูดเหลวไหล! ศรเดียวสังหารนักฆ่าระดับกึ่งราชันที่เยี่ยมยอดคนหนึ่งเนี่ยนะ เจ้าแม่งล้อข้าเล่นรึไง!”

หลูเหวินถิงยิ้มขื่น “ข้ารู้ว่าท่านแม่ทัพคงไม่เชื่อ แต่นี่คือความจริงนะขอรับ ทางเผ่าพ่อมดเถื่อนมีคนมากมายเห็นเหตุการณ์นี้ด้วยตนเอง ไม่ใช่เรื่องเท็จแน่”

ทันใดนั้นจ่างซุนเลี่ยพลันเงียบขรึม ครู่ใหญ่เขาจึงนวดหว่างคิ้วกล่าวพึมพำ “ไอ้เฒ่าระยำราชันกระหายเลือดไปเก็บสัตว์ประหลาดตัวจ้อยพลิกฟ้าเช่นนี้มาจากไหนกัน ศรเดียวสังหารราชันกึ่งระดับคนหนึ่ง? แม่งวิปริตซะจริง… ดูท่าราชันกระหายเลือดคงคิดจะใช้สมรภูมิกระหายเลือดแห่งนี้เคี่ยวกรำเจ้าเด็กนี่…”

เห็นดังนั้นหลูเหวินถิงก็รู้ว่าท่านแม่ทัพได้เริ่มประเมินความสามารถคุณชายหลินใหม่อีกครั้ง นี่อาจเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง

“ท่านแม่ทัพ ยังมีอีกเรื่อง” หลูเหวินถิงกล่าว

“ว่ามา”

“วันนี้เผ่าพ่อมดเถื่อนประกาศ ‘หมายจับกระดานโลหิต’ ใหม่ล่าสุด ลำดับชื่อบนนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยน เพียงแต่…”

“เพียงแต่อะไร”

“เพียงแต่ชื่อคุณชายหลินปรากฏบนนั้นด้วย”

“หืม?”

ฟังถึงตรงนี้ นัยน์ตาจ่างซุนเลี่ยพลันฉายแววยะเยือกวูบหนึ่ง “จัดอยู่ในอันดับเท่าไหร่”

“อันดับสี่สิบเก้าขอรับ!”

จ่างซุนเลี่ยฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะทันที โต๊ะทำงานแหลกละเอียดดังสนั่นหวั่นไหว กลายเป็นเศษเหล็กปลิวกระเด็น

สีหน้าเขามีไอสังหารยากปกปิด “ลำดับสูงมาก เผ่าพ่อมดเถื่อนนี่หมายให้เด็กนี่ตกเป็นเป้าโจมตีสินะ!”

หลูเหวินถิงเองรู้สึกเช่นนั้น

หมายจับกระดานโลหิตของเผ่าพ่อมดเถื่อนเหมือนกับกระดานรางวัลค่าหัวของค่ายจักรวรรดิ เพียงแต่รายชื่อที่เรียงรายบนนั้นล้วนเป็นชื่อของผู้ฝึกปราณแห่งจักรวรรดิ!

แต่ละชื่อต่างเป็นคนที่เผ่าพ่อมดเถื่อนต้องการฆ่า อันดับยิ่งสูงยิ่งสื่อว่าเป็นภัยต่อเผ่าพ่อมดเถื่อน

โดยทั่วไปชื่อที่อยู่ในร้อยอันดับแรกของหมายจับกระดานโลหิต ล้วนแต่เป็นบุคคลชั้นยอดระดับกระบวนแปรจุติของผู้ฝึกปราณแห่งจักรวรรดิแทบทั้งสิ้น!

แต่บัดนี้เด็กหนุ่มที่เพิ่งมาถึงสมรภูมิกระหายเลือดไม่กี่วันเท่านั้น ซ้ำยังเป็นแค่ผู้มีปราณระดับหยั่งสัจจะ กลับถูกจัดอยู่ในอันดับสี่สิบเก้าของหมายจับกระดานโลหิต เจตนานั้นชัดเจน พวกมันเห็นเด็กหนุ่มเป็นศัตรูที่ต้องสังหาร!

และไม่แปลกที่จ่างซุนเลี่ยจะเดือดดาล ทันทีที่อันดับนี้ประกาศออกไป เด็กหนุ่มซึ่งอยู่ในสมรภูมิกระหายเลือดต้องพบเจอการโจมตีมากมายอย่างคาดไม่ถึง!

หลูเหวินถิงกล่าวพร้อมยิ้มขื่น “ที่ไร้สาระที่สุดไม่หยุดเพียงเท่านี้ ความสูงค่าของรางวัลนำจับคุณชายหลินบนหมายจับกระดานโลหิต สามารถเทียบเคียงบุคคลซึ่งจัดอยู่ในอันดับสิบ…”

“ตอนนี้ที่จัดอยู่ในอันดับสิบคือใคร” จ่างซุนเลี่ยถาม

“เป็นระดับกึ่งราชันแห่งค่ายหมายเลขสองฉินเหวินจ้ง!” หลูเหวินถิงพูดอย่างรวดเร็ว

“รังแกกันเกินไปแล้ว!”

จ่างซุนเลี่ยก่นด่าเดือดดาล “จัดอยู่ในอันดับสี่สิบเก้า รางวัลนำจับกลับเทียบเคียงระดับกึ่งราชันผู้หนึ่ง แม่งเสียสติไปแล้ว!”

“บางที ทั้งหมดนี้อาจเพราะหมานจิ่วนั่นถูกศรเดียวของคุณชายหลินสังหาร ข่มขวัญพวกสวะป่าเถื่อนนั่นอย่างสิ้นเชิง ทำให้พวกเขาได้กลิ่นอันตรายและภัยคุกคาม จึงทำการจัดอันดับออกมาเช่นนี้”

หลูเหวินถิงกล่าววิเคราะห์

“เจ้าเด็กนี่ตอนนี้อยู่ไหน” จ่างซุนเลี่ยถาม

“ยังคงปิดด่านขอรับ”

“สั่งการลงไป ช่วงเวลาต่อจากนี้ห้ามเขาออกจากค่ายอีกแม้เพียงก้าว!” จ่างซุนเลี่ยออกคำสั่งโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

หลูเหวินถิงรู้ว่าทำเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องคุณชายหลิน

ถึงอย่างไรตอนนี้เด็กหนุ่มก็สะดุดตาเกินไป ด้วยชื่อและรางวัลนำจับซึ่งปรากฏบนหมายจับกระดานโลหิต ทันทีที่ปรากฏตัว ศัตรูต้องเพ่งเล็งเขาดั่งกระแสน้ำเป็นแน่!

เพียงแต่…

หลูเหวินถิงพลันทอดถอนใจ เขาไม่แน่ใจว่าเจ้าเด็กนี่จะฟังคำสั่งหรือไม่น่ะสิ…

………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด