Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 862 แดนลี้ลับหิมะน้ำแข็ง

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 862 แดนลี้ลับหิมะน้ำแข็ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 862 แดนลี้ลับหิมะน้ำแข็ง
“โฮก!”

หลินสวินเพิ่งคืนสติกลับมา ยังไม่ทันมองเห็นภาพเบื้องหน้าชัดเจน เสียงร้องคำรามปานสายฟ้าสนั่นหวั่นไหวสายหนึ่งก็ดังกระหึ่มข้างโสต

พร้อมกันนั้นลมเหม็นคาวตีจมูก ความหนาวเหน็บกรีดกระดูกน่าสะพรึงวูบหนึ่งโหมซัดเข้ามา พาให้หลินสวินแข็งทื่อทั้งร่าง

เสียงสวบดังหนึ่งครา เงาร่างของหลินสวินอันตรธานไปจากตำแหน่งเดิม

โขดหินแตกระเบิด เศษน้ำแข็งปลิวว่อน หลุมขนาดใหญ่มีขอบเขตร้อยจั้งหลุมหนึ่งปรากฏเพิ่มมาบนพื้น เป็นที่น่าสยดสยองยิ่ง

หลินสวินตกใจจนเหงื่อกาฬท่วมกาย พลังทำลายล้างแข็งแกร่งนัก!

มันเป็นรูปสลักน้ำแข็งมหึมา ปีกสองข้างสยายยาวสิบกว่าจั้ง กรงเล็บแหลมคมดั่งใบมีด แสงวาวหิมะน้ำแข็งราวกับกระจกเคลือบปกคลุมทั่วตัว ดวงตาคู่นั้นของมันก็ราวกับถูกสร้างมาจากการแกะสลักน้ำแข็ง ลำแสงยะเยือกบาดตาพุ่งปราดออกมา

ฉัวะ!

รูปสลักน้ำแข็งแหวกข้ามอากาศ สองปีกประหนึ่งดาบ กรงเล็บแหลมคมวาดออกเบาๆ แสงกระบี่หิมะน้ำแข็งสายหนึ่งทะลวงห้วงอากาศออกมา พร่างพราวบาดตา ปลดปล่อยกลิ่นอายเกรี้ยวกราดหาที่เปรียบไม่ได้ออกมา

หลินสวินโคจรก้าวย่างชือน้ำแข็ง เบี่ยงหลบไกลออกไปอีกครั้ง

บนพื้นดินแถบนั้นถูกฉีกทึ้งเป็นรอยแตกเส้นตรงหนึ่งพันจั้งเต็มๆ ราวกับหั่นเต้าหู้ก็ไม่ปาน กลิ่นอายอันคมกริบนั้นน่ากลัวยิ่งยวด

หลินสวินยิ่งรู้สึกพิศวงมากขึ้นเรื่อยๆ รูปสลักน้ำแข็งมหึมานั้นดุจดั่งปรมาจารย์วิถีกระบี่ผู้หนึ่ง เจตกระบี่ที่ปลดปล่อยออกมานั้นควบแน่น เกรี้ยวกราด ว่องไว เคลือบแฝงกลิ่นอายแคล่วคล่อง ทรงพลังไร้ขีดจำกัด

ยิ่งกว่านั้นเขาสัมผัสได้ว่าเจ้านกปีศาจแปลกประหลาดตัวนี้คล้ายจะไม่มีคลื่นอารมณ์ และปราศจากพลังชีวิต เสมือนเป็นหุ่นเชิดก็ไม่ปาน

แต่สัญชาตญาณการต่อสู้ของมันดันเฉียบแหลมและน่าสะพรึงถึงที่สุด เพียงแค่สองการโจมตีเท่านั้นก็สำแดงพลังต่อสู้น่ากลัวที่มีแต่พวกผ่านร้อยสมรภูมิเท่านั้นจึงจะมี

ฟึ่บๆๆ!

รูปสลักน้ำแข็งซัดโจมตีอีกครั้ง ปีกกางกระพือบ้าคลั่ง เจตกระบี่หิมะน้ำแข็งพันหมื่นสายพุ่งปราดออกมา ครอบฟ้าคลุมดิน ร่วงจากฟากฟ้าลงมาอย่างแน่นขนัด

ภาพนั้นน่ากลัวเกินไป พาให้หลินสวินรู้สึกราวกับกำลังเผชิญหน้ากับราชากึ่งระดับอยู่!

ตูม!

เขาโคจรปราณของตน ซัดหมัดออกไปราวกับสายฟ้า สำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ พลังหมัดไร้ขอบเขตเขย่าฟ้าสะเทือนดินอย่างไร้เทียมทาน

การปะทะอันสั่นสะเทือนแก้วหูบังเกิดขึ้นที่นี่ ผืนดินถูกแหวกออก เศษน้ำแข็งที่แตกละเอียดปลิวว่อน ทั่วฟ้าล้วนเต็มไปด้วยพลังหมัด เจตกระบี่ และความหนาวเหน็บบาดกระดูก

“นี่เป็นนกปีศาจตัวหนึ่งเสียที่ไหน เห็นๆ อยู่ว่าเป็นยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญมรดกลับวิชากระบี่!”

นัยน์ตาหลินสวินหดรัด ไม่กล้าประมาท ส่งเสียงร้องยาวออกมา เงาร่างทะยานขึ้นกลางอากาศ เท้าโคจรก้าวย่างชือน้ำแข็ง ใช้พลังทั้งหมด ไม่กล้าชะล่าใจสักนิด

“ตาย!”

ครู่ใหญ่ให้หลัง พลังหมัดของหลินสวินพร่างพราว เปล่งแสงน่าสะพรึงออกมา ทะลวงห้วงอากาศซัดกระแทกรูปสลักน้ำแข็งเต็มเหนี่ยวในชั่วอึดใจ

เพล้ง!

ภาพที่พาให้ผู้คนอัศจรรย์ใจปรากฏขึ้น รูปสลักน้ำแข็งนั้นประหนึ่งก้อนน้ำแข็ง พังครืนกลายเป็นเศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วน ร่วงโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า

“กลายร่างมาจากหิมะน้ำแข็งเชียว?”

หลินสวินสูดหายใจเฮือก พุ่งไปเบื้องหน้า เก็บเศษน้ำแข็งบางส่วนขึ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียด

สุดท้ายเขาก็สามารถสรุปได้ว่านี่คือหิมะน้ำแข็งที่สุดแสนธรรมดาเท่านั้น แต่เมื่อครู่กลับวิวัฒน์กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งมหึมา ซ้ำยังมีเจตกระบี่ไร้เทียมทานด้วย!

นี่ช่างพาให้ผู้คนตกตะลึงนัก

“เขาพยับครามแห่งนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย ต่อให้เปลี่ยนเป็นคนชั้นยอดในระดับกระบวนแปรจุติอย่างพวกซาหลู่ เกรงว่าก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนกปีศาจตัวนี้เลย…”

สีหน้าหลินสวินเคร่งขรึมเล็กน้อย

เขาทอดสายตากวาดมองรอบบริเวณ ก็เห็นผนึกน้ำแข็งพันลี้ หิมะลอยล่องหมื่นลี้ แม้แต่พื้นดินก็ยังสร้างมาจากชั้นน้ำแข็งหนาเตอะ แวววาวและโปร่งใสทั้งสิ้น

กลางฟ้าดินปกคลุมด้วยความหนาวเหน็บเสียดกระดูก ขาวโพลนทั้งแถบประดุจโลกหิมะน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ทอดสายตามองไปถึงกับมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

ชิ้ง!

หลินสวินเรียกดาบหักออกมา เงาร่างไหววูบคราหนึ่ง ก็แหวกพื้นน้ำแข็งเจาะลึกลงไป

สิบจั้ง

ร้อยจั้ง

พันจั้ง

……

จนถึงระดับความลึกแปดพันจั้ง ก็ยังคงเป็นชั้นน้ำแข็งหนาเตอะเช่นเดิม ประหนึ่งไม่มีก้นบ่อ

ระยะทางเช่นนี้ทำให้หลินสวินรู้สึกค่อนข้างเปลืองแรง สุดท้ายก็ไม่อาจไม่ละทิ้งแผนการสำรวจ

‘บททดสอบด่านแรกของเทศกาลโคมกถามรรคคือ ‘แดนลี้ลับมหาปัญจธาตุผันแปร’ จากจุดนี้ ที่นี่น่าจะเป็นโลกลี้ลับแห่งหนึ่ง…’

‘ก็ไม่รู้ว่ามีผู้กล้ากี่คนที่เข้ามาในโลกลี้ลับแห่งนี้เหมือนกับข้า’

หลินสวินยืนปักหลักใคร่ครวญ

ก่อนมาเขาได้ทำความเข้าใจมาจากไป่เฟิงหลิวแล้วว่าเทศกาลโคมกถามรรคมีบททดสอบทั้งสิ้นห้าด่าน แต่ละด่านการทดสอบล้วนเรียกได้ว่าเทพผียากหยั่งถึง ไม่เพียงลำบากอันตราย ซ้ำเปี่ยมด้วยมหัตภัยน่ากลัว หากไม่ระวังก็อาจถูกคัดออก!

ตามคำกล่าวของไป่เฟิงหลิว ในเทศกาลโคมกถามรรคที่ผ่านๆ มา บรรดาผู้กล้าที่เข้าร่วม เก้าในสิบล้วนถูกคัดออกจากบททดสอบห้าด่านกันเสียส่วนใหญ่

หรือกล่าวอีกนัยคือ ผู้กล้าที่สามารถไปถึงเบื้องหน้าต้นโคมสำริดมรรคโบราณต้นนั้นในท้ายที่สุด มีเพียงหยิบมือเดียว!

แค่คิดก็รู้ว่าแม้จะเข้าร่วม แต่หากไม่สามารถผ่านบททดสอบห้าด่านที่ขวางกั้นไปได้ สุดท้ายก็จะไม่สามารถช่วงชิงศุภโชคบนต้นโคมสำริดมรรคโบราณต้นนั้น!

ครืน!

จู่ๆ พื้นหิมะน้ำแข็งละแวกใกล้เคียงก็แตกระเบิด ส่งเสียงสนั่นหวั่นไหว หิมะน้ำแข็งแตกกระจาย

ปลาที่รวมตัวขึ้นมาจากหิมะน้ำแข็งตัวแล้วตัวเล่าเหินทะยานสู่ห้วงอากาศ ไม่เหมือนกับโลกภายนอก ปลาเหล่านี้ต่างมีความยาวจั้งเศษ เกิดมาพร้อมปีกหิมะน้ำแข็ง สามารถโฉบบินกลางอากาศ น่าอัศจรรย์หาใดเปรียบ

หลินสวินหรี่ตาลง เมื่อครู่นี้พลังจิตวิญญาณของเขาแผ่คลุมรัศมีพันจั้งแถบนี้เอาไว้ แต่กลับสัมผัสไม่ได้ถึงสัญญาณใดๆ ทว่ายามนี้พื้นดินแตกเป็นเสี่ยง ปลาปีกหิมะน้ำแข็งพุ่งพรวดออกมาเป็นฝูง!

สวบๆๆ!

พวกมันว่ายวนบนห้วงอากาศ อิสระเสรีมีชีวิตชีวาประดุจแหวกว่ายกลางสมุทร เมื่อมันอ้าปาก ก็ยิงสายฟ้าขาวหิมะบาดตาสายแล้วสายเล่าออกมา พุ่งเข้าปกคลุมหลินสวินอย่างมืดฟ้ามัวดิน

ฉัวะ!

สายฟ้าสีขาวหิมะนั้นเจิดจ้าบาดตา สามารถฉีกทึ้งห้วงอากาศเป็นเสี่ยงๆ อย่างง่ายดาย พลังอำนาจแกร่งกล้า เกือบเทียบได้กับการโจมตีสุดกำลังของมหายุทธ์ชั้นยอดระดับกระบวนแปรจุติแล้ว

และยามนี้ ปลาปีกหิมะน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนทะยานฟ้า ร่ายระบำราวกับกระแสน้ำ สายฟ้าสีขาวหิมะที่ยิงออกมาก็แน่นขนัดนับไม่หวาดไม่ไหว สั่นสะเทือนฟ้าดิน พาให้ผู้คนหนังศีรษะมึนชา

แย่แล้ว!

สีหน้าหลินสวินเปลี่ยนไปเล็กน้อย หมุนตัวโจนหลบโดยไม่มีการลังเลใดๆ ด้วยความรวดเร็ว

ถึงเขาจะไม่ได้กลัวปลาประหลาดเหล่านี้ แต่ก็รู้สึกปวดหัวและรำคาญใจ เยอะเกินไปแล้ว แม้จะโจมตีสังหารก็จำต้องสิ้นเปลืองพลังไปมากเกินไป

ระหว่างที่ยังไม่รู้จัก ‘แดนลี้ลับมหาปัญจธาตุผันแปร’ แห่งนี้ดีพอ หลินสวินไม่อยากสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงแม้แต่นิดเดียว

เพียงแต่เขาเพิ่งสลัดการโจมตีของปลาประหลาดพวกนี้ไปได้ มุ่งหน้าไปไม่ทันไรก็เกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้นอีกครั้ง!

บนเวิ้งนภา พายุหมุนหวีดคำราม หิมะน้ำแข็งร่ายระบำอย่างบ้าคลั่ง ถึงกับกลายร่างเป็นหญิงงามที่สวมชุดคลุมหิมะน้ำแข็ง โบกระบำชายเสื้อคนแล้วคนเล่า

พวกนางกำลังเต้นรำพลิ้วไหวกลางฟ้าดิน เสียงดนตรีบรรเลงโหยหวนดังคล้อยขึ้นมา เจือกลิ่นอายเศร้าโศกที่สะเทือนใจผู้คน

ทอดตามองจากไกลๆ ธิดาน้ำแข็งเต้นรำกลางฟ้าดิน เงาร่างอรชรพลิ้วไหว ดนตรีคลอโศกสะท้าน เห็นได้ชัดว่าน่าพิศวง พาให้ผู้คนขนลุกขนชัน

นี่คือกลุ่มอสูรมารสาวหิมะน้ำแข็ง!

หลินสวินสูดหายใจเย็นเยียบคราหนึ่ง พริบตาที่ได้ยินเสียงเพลงโศกเศร้าหนาวเย็นนั้น จิตวิญญาณของเขาสั่นสะท้านไปกับมัน ถูกกลิ่นอายสิ้นหวัง เย็นเยียบ และโศกเศร้าที่ไร้สิ้นสุดซัดโจมตี คล้ายจะลากเขาดิ่งสู่ก้นเหวไร้ขอบเขต จมหายไป ณ ที่แห่งนี้

นี่คือการโจมตีด้วยคลื่นเสียงที่น่าสะพรึงถึงที่สุด เล็งเป้าไว้ที่จิตวิญญาณของผู้ฝึกปราณอย่างไม่ต้องสงสัย หากไม่ใช่เพราะหลินสวินควบรวมวิญญาณแห่งพลังจิตออกมาได้นานแล้ว เกรงว่าคงหนีไม่พ้นต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน!

“โฮก!”

ริมฝีปากหลินสวินเปล่งเสียงธรรมคลุมเครือออกมาคราหนึ่ง สัตว์เทพผูเหลาตัวหนึ่งปรากฏ แหงนหน้าคำรามสนั่น เสียงสะเทือนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

เสียงคำรามที่ราวกับมีตัวตนกลายร่างเป็นระลอกคลื่นสีทอง หอบม้วนแหวกทั่วฟ้าดินดังสนั่นหวั่นไหว

เพล้งๆๆ!

อสูรมารสาวหิมะน้ำแข็งบางส่วนต้านทานไม่ไหว ร่างแตกเป็นเสี่ยงทันใด ถูกพลังของเสียงคำรามผูเหลาอันน่าสะพรึงบดขยี้ทันควัน

และหลินสวินก็ฉวยจังหวะนี้โคจรก้าวย่างชือน้ำแข็ง อันตรธานไปจากจุดเดิมในชั่วอึดใจ

……

หนึ่งก้านธูปให้หลัง

สีหน้าหลินสวินยิ่งเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทางมานี้เขาเจอรูปสลักหิมะน้ำแข็ง ปลาปีกหิมะน้ำแข็ง อสูรมารสาวหิมะน้ำแข็ง ต้นไม้อสูรมารหิมะน้ำแข็ง…

แต่ละอย่างล้วนประหนึ่งบุคคลชั้นยอดระดับกระบวนแปรจุติ ซ้ำยังเชี่ยวชาญมรดกวิชามหามรรคที่แตกต่างกัน มีทั้งวิชากระบี่ วิชาอสนี วิชาแห่งเสียงเป็นต้น ต่างก็มีอานุภาพยิ่งใหญ่น่าทึ่ง น่าสะพรึงเป็นที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดคือจำนวนของพวกมันเยอะเกินไป ฆ่าฝูงหนึ่งก็โผล่มาอีกฝูงหนึ่ง เสมือนฆ่าไม่สิ้นสุดตลอดกาลอย่างไรอย่างนั้น

“น่ารำคาญซะจริง…”

หลินสวินขมวดคิ้ว

ตามกฎบททดสอบ ขอเพียงยืนหยัดในแดนลี้ลับมหาปัญจธาตุผันแปรครบกำหนดโดยไม่พ่ายแพ้ ก็สามารถผ่านบททดสอบด่านแรกได้อย่างราบรื่น

แต่หลินสวินรู้สึกสงสัยอย่างมากว่าลำพังแค่บททดสอบด่านแรก ก็อาจทำให้ผู้กล้ามากมายต้องหยุดเท้าอยู่ตรงนี้และถูกกำจัดออกไปก็เป็นได้!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด