Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 833 ใต้หล้าต่างตระหนก

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 833 ใต้หล้าต่างตระหนก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 833 ใต้หล้าต่างตระหนก
“ข่าวใหญ่น่าตระหนก เขาเถื่อนเมฆินทร์ถูกถล่มราบ ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬซึ่งพำนักอยู่ภายในล้วนบรรลัยหมด!”

“ลือกันว่าเป็นหญิงสาวคล้ายอริยเทพคนหนึ่งออกมือ สังหารระดับราชันราวตัดวัชพืช ชวนประหวั่นไร้ขอบเขต”

“ไม่เพียงเท่านี้ ร่องรอยของหญิงสาวคนนั้นยังเคยปรากฏบนเขาคุนอู๋เรือนกระบี่เร้นปุจฉา ราวเข้าสู่แดนไร้ผู้คน แม้แต่อริยะชางเจิ้งซึ่งเก็บตัวเงียบเป็นเวลาหลายพันปียังถูกทำให้ตระหนก!”

ข่าวเช่นนี้เสมือนลมกาฬวาตพัดม้วนทั่วแดนฐิติประจิม ก่อให้เกิดความอึกทึกครึกโครมใหญ่หลวง

หญิงสาวคนนั้นเป็นใครกันแน่

ไม่ว่าผู้ฝึกปราณทั่วไปหรือแม้แต่สัตว์ประหลาดเฒ่าในแต่ละขุมอำนาจต่างรู้สึกสั่นสะท้าน

เรือนกระบี่เร้นปุจฉา สำนักอันดับหนึ่งแห่งแดนฐิติประจิม มีอริยะที่แท้จริงดูแล แต่กลับไม่กล้าลงมือกับหญิงสาวคนนั้น ปล่อยให้เข้าออกตามใจชอบ!

เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ อิทธิพลแผ่กว้างทั่วสี่แดนวิภูแห่งดินแดนรกร้างโบราณ แต่ช่วงเวลาหนึ่งวัน แหล่งพำนักของเผ่าในแดนฐิติประจิมกลับถูกคนขุดรากถอนโคน!

ทั้งหมดนี้ต่างปรากฏเป็นที่ประจักษ์ ว่าหญิงสาวคล้ายอริยเทพผู้นั้นน่าหวาดกลัวระดับใด สามารถเทียบกับมหาจักรพรรดิบรรพกาล แค่ดีดนิ้วก็พลิกฟ้าพลิกดิน!

เพียงชั่วขณะทั้งแดนฐิติประจิมเดือดพล่าน ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนต่างวิพากษ์วิจารณ์ คาดคะเนความเป็นมาและพลังปราณของหญิงสาวปริศนาผู้นั้น

“กล้าไปสังหารถึงแหล่งพำนักของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ อาจมีเพียงอริยะที่แท้จริงถึงกล้าทำเช่นนี้!”

คนใหญ่คนโตมากมายทำการสันนิษฐาน นี่ทำให้พวกเขาตกตะลึง เมื่อไหร่กันที่แดนฐิติประจิมปรากฏผู้ดำรงอยู่ในระดับอริยเทพซึ่งไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

“อริยะชางเจิ้งยังไม่กล้าเหนี่ยวรั้ง เกรงว่าใช้อริยเทพสองคำมาบรรยายหญิงสาวผู้นั้นคงไม่พอ ข้าสงสัยว่านางใช่คนในโลกเราหรือไม่ ถึงอย่างไรต่อให้ทอดมองทั่วดินแดนรกร้างโบราณ ยังไม่เคยได้ยินว่ามีอริยะคนไหนมีพลานุภาพเช่นนี้”

เพราะไม่รู้สถานการณ์ ดังนั้นแม้คำวิพากษ์วิจารณ์และการคาดเดานานัปการจะมาก แต่สุดท้ายก็ไม่มีคนสามารถให้คำตอบที่แน่ชัด

แต่มีอยู่บ้างที่คล้ายคลึง นั่นคือศักยภาพเกี่ยวกับหญิงสาวปริศนาผู้นี้ ถูกมองว่าเป็นระดับอริยเทพหรือถึงขั้นแกร่งกว่า!

“เรือนกระบี่เร้นปุจฉากล่าวออกมาแล้ว! พวกเขาประกาศว่าหญิงสาวปริศนานี้มีความเกี่ยวข้องใหญ่หลวงกับสำนักของพวกเขา เป็นผู้อยู่ในระดับอริยเทพชั้นยอด!”

ไม่นานนักข่าวจากเรือนกระบี่เร้นปุจฉาก็แพร่มา ชั่วขณะเดียวทำให้แดนฐิติประจิมซึ่งเดิมปั่นป่วนไม่หยุดเกิดกระแสครึกโครมโดยสมบูรณ์

“นี่บ่งชี้ว่าเรือนกระบี่เร้นปุจฉากำลังแสดงความเป็นมิตรกับหญิงสาวปริศนานั่นใช่หรือไม่”

ขุมอำนาจมากมายทำการตัดสินออกมาเช่นนี้

ทว่าไม่มีคนเข้าใจสถานการณ์ภายในที่แท้จริง จึงมิอาจสันนิษฐานมากกว่านี้อีก

“ฟ้าจะเปลี่ยนแล้ว! เห็นเค้าลางเลยว่าเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬต้องไม่วางมือยุติเรื่องราว อย่างไรเสียครานี้ที่แดนฐิติประจิม อย่างต่ำพวกเขาก็สูญเสียผู้แข็งแกร่งระดับราชันห้าคน รวมถึงคนในเผ่าร่วมหลายหมื่น นี่เป็นความแค้นฝังลึกใหญ่หลวง!”

“ไม่ผิด ภายในเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬมีผู้อยู่ในระดับอริยเทพดูแลเช่นเดียวกัน สันนิษฐานจากจุดนี้ ต่อไปอาจถึงขั้นเกิดการต่อสู้ของอริยมรรค!”

เมื่อการวิพากษ์วิจารณ์พวกนี้ล้วนรวมอยู่ที่เรื่องผลกระทบจากคลื่นลมนี้ ทั่วแดนฐิติประจิมล้วนตกอยู่ในความสั่นสะเทือน

การต่อสู้อริยมรรค?

เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬนั่นเสียหายสาหัสเช่นนี้ จะลงมือเต็มกำลังโดยไม่สนสิ่งใดจริงหรือ

ทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นจากต่างสถานที่ทั่วแดนฐิติประจิม กระทั่งต่อมาถึงขั้นเริ่มแพร่สะพัดไปยังอีกสามแดนวิภู ชัยบูรพา ดาราอุดร กาฬทักษิณ!

แต่ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์อึกทึกนี้ ผู้ฝึกปราณมากมายต่างสนใจประเด็นเดียวกัน…

เหตุใดหญิงสาวปริศนานั่นถึงปรากฏตัวตอนนี้ อีกทั้งเหตุใดนางต้องฆ่าผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬบนเขาเถื่อนเมฆินทร์ทั้งหมด

“เหอะๆ คงเป็นเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬกำเริบเสิบสานจนเคยตัว ล่วงเกินหญิงสาวปริศนาผู้นี้เข้าโดยไม่ตั้งใจ ก่อให้เกิดมหันตภัยใหญ่หลวงตามมา!”

มีคนเป็นสุขบนความทุกข์คนอื่น

“ไม่ผิด ไอ้พวกหมาดำเวรนี่อำมหิตเหี้ยมโหด หลายปีมานี้ไม่รู้ว่าทำเรื่องให้สวรรค์พิโรธคนเคียดแค้นเท่าไรต่อเท่าไร กรรมตามสนองบ้างก็สมควร!”

ผู้ฝึกปราณส่วนมากต่างรู้สึกสะใจ เห็นว่าการกระทำของหญิงสาวปริศนาครานี้ช่างถึงใจ ทำให้พวกเขานิยมชมชอบ

แต่การวิเคราะห์พวกนี้สุดท้ายยังเจือสีสันความรู้สึก ทั้งไม่น่าเชื่อถือนัก ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากเท่าใด

เวลานี้มีคนส่งเสียงสัพยอกทำการซักถามเผ่าวาทวาโย “พวกเจ้าเผ่าวาทวาโยไม่ใช่มีฉายาว่าหูไวตาไวที่สุดหรอกหรือ เหตุใดตอนนี้ถึงไม่มีข้อมูลใหญ่ที่แท้จริงเผยแพร่ออกมา”

ทันใดนั้นพวกชอบหาเรื่องก็เริ่มวิจารณ์เผ่าวาทวาโย คิดว่าปกติยามพวกเขาพบเรื่องขี้หมูราขี้หมาบางอย่างก็จะวิ่งเร็วกว่าใครเพื่อน แต่เมื่อเจอเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกลับจนปัญญาโดยสิ้นเชิง

นี่ทำให้ชนชั้นสูงเผ่าวาทวาโยพลันคับแค้นอับอายหาใดเปรียบ รู้สึกหน้าหม่นแสงอย่างมาก ตั้งแต่ข่าวเกี่ยวกับหญิงสาวปริศนาแพร่ออกไป พวกเขาก็จัดกำลังพลทั้งหมดออกตรวจสอบ

แต่ที่น่าอักอ่วนคือ ร่องรอยของหญิงสาวปริศนานั่นราวเทพมังกรเห็นหัวมิเห็นหาง ชั่วพริบตาก็ก้าวผ่านภูผาธาราไร้สิ้นสุด พวกเขาไหนเลยจะสามารถสืบหาข่าวคราวอะไรออกมาได้ทันที

“ตรวจสอบ ไปตรวจสอบมาให้หมด! มิฉะนั้นหน้าตาเผ่าวาทวาโยเราจะเอาไว้ที่ไหน บรรพชนเราเป็นถึงราชันแห่งข่าวสารที่ชื่อเสียงเลื่องลือเมื่อครั้งบรรพกาล ทรงเกียรติสูงส่งเช่นนี้ จะให้คนอื่นเขาวิจารณ์โจมตีและดูหมิ่นได้อย่างไร”

ภายในเผ่าวาทวาโย พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าแผดเสียงคำรามราวอสนีบาต

และในช่วงสำคัญนี้ ไป่เฟิงหลิวก็ก้าวออกมา นำใบไม้ทองคำใบหนึ่งติดลงบนต้นข่าวสาร

ทันใดนั้นทั่วแดนฐิติประจิมอึกทึกครึกโครมให้ความสนใจ ยังคิดว่าในที่สุดเผ่าวาทวาโยก็ได้ข่าวใหญ่อะไรจริงๆ สักที

ใครเล่าจะคาดคิด ใบไม้ทองคำนั่นกลับว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย ข่าวคราวอะไรก็ไม่มี!

“แม่งเอ๊ย พวกเจ้าเผ่าวาทวาโยล้อกันเล่นรึไง”

“ช่างฟุ่มเฟือยซะจริง ข่าวอะไรล้วนไม่มียังจะใช้ใบไม้ทองคำ เห็นชัดว่าหลอกลวงต้มตุ๋น พวกเจ้าเผ่าวาทวาโยตอนนี้ทำตัวไม่น่าเชื่อถือเกินไปแล้วกระมัง”

“หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปยังจะให้ใครเชื่อข่าวของพวกเจ้าเผ่าวาทวาโยอีก ทำให้คนผิดหวังเกินไปแล้ว!”

เพียงชั่วขณะมหาชนต่างกราดเกรี้ยว ทยอยวิจารณ์โจมตีเผ่าวาทวาโยเซ็งแซ่

แต่ไป่เฟิงหลิวกลับสงบใจนัก กระทั่งจุดชนวนเพลิงพิโรธของผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนสำเร็จ เขาถึงได้เอ่ยปากประกาศข่าวด้วยท่าทางลุ่มลึก “ในตำราเผ่าข้าบันทึกว่า อริยเทพดั่งสวรรค์มิอาจดูหมิ่น ใบไม้ทองคำที่พวกเจ้าเห็นตอนนี้ก็เคยจารึกร่องรอยของหญิงสาวปริศนาผู้นั้น แต่ทว่าสุดท้ายกลับเหลือเพียงความว่างเปล่า!”

ทันทีที่วาจานี้กล่าวออกมา ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนตื่นตะลึง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“จริงหรือเปล่า”

ทุกคนต่างกังขา

แม้แต่คนใหญ่คนโตชั้นสูงภายในเผ่าวาทวาโยต่างมึนงงไม่หยุด หรือไป่เฟิงหลิวนี่คิดใช้ใบไม้ทองคำว่างเปล่าใบหนึ่งอุดปากคนทั้งใต้หล้า

แต่ไป่เฟิงหลิวคือผู้ฝึกปราณเผ่าวาทวาโยซึ่งมีปณิธานจะเป็น ‘ราชันแห่งข่าวสาร’ แน่นอนว่าเขาย่อมมิอาจทนให้ผู้อื่นตั้งคำถามต่อข่าวของตน

ไม่นานนักเขาพลันเผยข่าวใหญ่ออกมา…

“ทุกท่านจำข่าวเกี่ยวกับเทพมารหลินที่ข้าประกาศช่วงก่อนหน้าได้หรือไม่”

ดูเหมือนไป่เฟิงหลิวมีความอดทนนัก ไม่ปล่อยข่าวทั้งหมดออกมาทันที นำกลเม็ด ‘แสร้งปล่อยเพื่อจับ ยั่วน้ำลายคน’ มาเล่นจนบรรลุถึงจุดสมบูรณ์

ผู้ฝึกปราณแดนฐิติประจิมต่างงงงัน พวกเขาย่อมจำได้ ช่วงก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมา เทพมารหลินสังหารสุนัขสวรรค์มายาทมิฬกลุ่มหนึ่งที่เมืองก่วมหิมะ ทั้งเคยกล่าวว่าจะ ‘สังหารสุนัขสวรรค์มายาทมิฬทั้งใต้หล้า’

ต่อมาเทพมารหลินตัวคนเดียวฝ่าวงล้อมสังหารราชันกึ่งระดับสี่คนจากเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ สุดท้ายก็ลอยชายจากไป

เวลานั้นยังก่อให้เกิดความฮือฮาในแดนฐิติประจิม!

แต่ไม่นานเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬก็เริ่มเปิดฉากล้างแค้น ส่งระดับราชันสองคนทำการตามล่าเทพมารหลิน ทำให้เรื่องนี้ดึงดูดสายตาทั่วแดนฐิติประจิมทันที

กระทั่งปัจจุบัน ยังไม่มีคนรู้ว่าเทพมารหลินเป็นหรือตายกันแน่

แต่เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับหญิงสาวปริศนานั่น

ผู้ฝึกปราณมากมายงุนงง ในใจต่างโมโหโกรธา คิดว่าไป่เฟิงหลิวกำลังกระบิดกระบวน

แต่พวกหัวไวส่วนหนึ่งกลับแอบคาดเดาความเป็นไปได้บางอย่าง ในใจสั่นสะท้านอย่างอดไม่อยู่ สูดหายใจหนาวเยือกไม่หยุด

หรือว่าเทพมารหลินมีความเกี่ยวข้องกับหญิงสาวปริศนา

ความคิดเช่นนี้ทำเอาพวกเขาอยากรู้อยากเห็นยิ่งกว่าเดิม น้ำลายถูกยั่วออกมาโดยสมบูรณ์

และยามนี้ สำนักโบราณบางส่วนก็ถูกข่าวที่ไป่เฟิงหลิวปล่อยออกมาดึงดูด เริ่มทยอยให้ความสนใจขึ้นมา ช่วยไม่ได้ กระทั่งตอนนี้แม้แต่พวกเขายังไม่เคยได้ข่าวคราวใดเกี่ยวกับหญิงสาวปริศนาผู้นั้น

ไป่เฟิงหลิวขณะนี้ราวกลายเป็นบุคคลที่ทั้งแดนฐิติประจิมให้ความสนใจโดยปริยาย นี่ทำให้เขาตื่นเต้นดีใจ ลอยล่องอย่างกับเซียน

อะไรที่เรียกว่าเป็นที่จับตามองทั้งใต้หล้า

ก็แบบนี้อย่างไร!

ในใจไป่เฟิงหลิวภาคภูมิอย่างมาก ครานี้ถึงได้ปล่อยข่าวใหญ่ที่ตนสืบมาได้ทั้งหมด…

“แม้ข้าไม่รู้ว่าหญิงสาวปริศนานั่นคือใคร แต่รู้ว่าตอนแรกสุดที่นางปรากฏตัว เคยกำจัดบุคคลระดับราชันสองคนจากเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ!”

“และบุคคลระดับราชันสองคนนี้ ก็คือโก่วหยางป๋อและโก่วหยางทงซึ่งตามล่าเทพมารหลิน! หลังจากนั้นหญิงสาวปริศนาผู้นั้นถึงเริ่มมุ่งหน้าสู่เขาคุนอู๋ ต่อมาจึงมีเรื่องราวในภายหลังเกิดขึ้น!”

“เท่านี้ก็สันนิษฐานได้ว่า มีโอกาสสูงที่หญิงสาวปริศนาจะเป็นบุคคลชั้นสูงที่อยู่เบื้องหลังเทพมารหลิน!”

ทันทีที่ข่าวรอบนี้ปรากฏ ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนต่างตะลึงงัน สะท้านสะเทือนอยู่ตรงนั้น หญิงสาวปริศนานั่นเกี่ยวข้องกับเทพมารหลิน?

นี่เหมือนว่าไม่ใช่ความจริง น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง!

“แม้ยากจินตนาการ แต่คำอธิบายนี้กลับมีเหตุผล ถึงอย่างไรแดนฐิติประจิมตอนนี้ ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเทพมารหลินกำลังถูกเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬตามล่า มาบัดนี้หญิงสาวปริศนาปรากฏตัว ขยี้เขาเถื่อนเมฆินทร์เสียราบ เห็นชัดว่าออกหน้าแทนเทพมารหลิน!”

ผู้ฝึกปราณมากมายตื่นตัว ยิ่งวิเคราะห์ยิ่งรู้สึกว่ามีเหตุผลนัก

“มีความเกี่ยวข้องกับเทพมารหลินจริงหรือ คาดไม่ถึงเกินไปแล้ว ใครเล่าจะคาดคิดว่าเบื้องหลังเขายังมีผู้ร้ายกาจน่าพรั่นพรึงเช่นนี้”

“ข้าว่าแล้ว เด็กหนุ่มแห่งยุคอย่างเทพมารหลินต้องไม่ใช่พวกธรรมดา เบื้องหลังเขาต้องมีสำนักเก่าแก่ปริศนาแน่ และหญิงสาวปริศนาผู้นี้น่าจะเป็นอาจารย์ผู้อาวุโสของเทพมารหลิน!”

แต่ยังมีคนคัดค้านต่อสิ่งนี้ เห็นว่าไป่เฟิงหลิวกำลังพยายามโยงเรื่อง พูดจาส่งเดช

“หึ! หากเบื้องหลังเทพมารหลินมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้หนุนอยู่ เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬมีหรือจะกล้าบุ่มบ่ามออกตามล่าเขา”

“น่าขัน หากเทพมารหลินมีผู้อาวุโสเช่นนี้ คงชื่อเสียงสะเทือนใต้หล้านานแล้ว ไหนเลยจะเพิ่งถูกพวกเรารู้จักเอาป่านนี้ นี่เห็นได้ว่าเป็นเท็จ!”

ผู้ฝึกปราณส่วนหนึ่งปรามาส คิดว่าไป่เฟิงหลิวนำหลินสวินและหญิงสาวปริศนานั่นมาเชื่อมโยงกัน ไม่ควรยกยอเขามากเกินไป

โดยเฉพาะเซี่ยอวี้ถัง เมื่อได้ยินข่าวคราวนี้พลันไม่อาจควบคุมอารมณ์ในใจ ส่งเสียงหัวเราะเยาะ หน้าตาฉุนเฉียว “รากเหง้าของหลินสวินข้าหรือจะไม่รู้ ก็แค่เด็กหนุ่มบ้านนอกคนหนึ่งในโลกชั้นล่าง! สำนักปริศนาอะไร อาจารย์ผู้อาวุโสอะไร เห็นชัดว่ากำลังยกยอมัน! เผ่าวาทวาโยช่างหน้าไม่อาย!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด