Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 602 การตอบโต้ของเด็กหนุ่มเทพมาร

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 602 การตอบโต้ของเด็กหนุ่มเทพมาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เพิ่งรู้เอาป่านนี้ ไม่คิดว่ามันสายเกินไปหรือ”

ฝั่งตรงข้าม กงหยางอวี่ท่วงท่าสง่างาม มือถือกระบี่วิญญาณสีเทาเล่มหนึ่ง ยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้นดุจดั่งมือกระบี่ไร้เทียมทานผู้หนึ่ง หยิ่งผยองและเยือกเย็น

“ไม่สายหรอก อย่างน้อยก็ทำให้ข้าได้รู้ว่าผู้สืบทอดของแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ ที่แท้ก็ไม่พ้นเป็นพวกต่ำทรามไร้ยางอายกลุ่มหนึ่งเท่านั้น”

นัยน์ตาดำของหลินสวินเยียบเย็นขึ้นเรื่อยๆ

เขาใคร่ครวญแล้วว่าแต่ไรมาตนไม่เคยทำเรื่องผิดใดๆ ต่อแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ ทว่าตลอดทางที่เข้ามาในแดนลับอสูรมารอริยะ เขากลับถูกอีกฝ่ายลอบสังหารมากกว่าหนึ่งครั้ง!

หลินสวินคร้านจะไล่เลี่ยงหาสาเหตุในนั้นแล้ว ภายในใจเขาคุกรุ่นด้วยไอสังหารอย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป!

ถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำอีก เปลี่ยนเป็นคนอื่นใครเล่าจะทนไหว

ข่มเหงรังแกกันเกินไปแล้ว!

“อย่าพูดไร้สาระ ฆ่าเขาก่อนค่อยว่ากัน!”

ซูซิงเฟิงตะโกนลั่น เวลากระชั้นชิด ครั้งนี้พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องจัดการหลินสวิน ยังต้องไปช่วงชิงวาสนาในตำหนักใหญ่โบราณแห่งนั้นด้วย จึงไม่คิดจะล่าช้า

ตูม!

การต่อสู้เริ่มขึ้นอีกครั้งดังคาด ทั่วร่างของซูซิงเฟิงมีเปลวเพลิงลุกไหม้ แสงเจิดจ้าไหลเวียน ดุจดั่งเทพไท้กลางกองเพลิง ควบคุมพลังแห่งไฟซัดโจมตีออกมา

“ฆ่า!”

เหวินเสียงเด็กชายในชุดหลากสีสันยิ่งไม่อ้อมค้อม เงาร่างไหววูบ ทะยานขึ้นสู่อากาศ กวัดแกว่งห่วงคอสีเงินยวงและพุ่งกระแทกเข้าหาหลินสวิน

เขาแลดูเหมือนเด็กชายเยาว์วัย ทว่าพลังต่อสู้กลับแข็งกร้าวถึงขีดสุด วิธีการโหดเหี้ยมตรงไปตรงมา

โดยเฉพาะห่วงคอสีเงินยวงห่วงนั้นของเขา เห็นชัดว่าเป็นสมบัติลับที่แกร่งกล้าชิ้นหนึ่ง สามารถปลดปล่อยพลังทำลายล้างอันน่าหวาดกลัวออกมาได้

เมื่อครู่ตอนที่ถูกลอบโจมตี หลินสวินก็ถูกห่วงคอสีเงินยวงอันนี้กระแทกเข้าอย่างจัง แผ่นหลังปวดแปลบ กระดูกแทบจะหักครืน

แค่นี้ก็รู้แล้วว่า พลังต่อสู้ของเหวินเสียงนั้นดุดันมากเพียงใด

สวบ!

อีกด้านหนึ่งกงหยางอวี่ก็เริ่มขยับเช่นกัน เงาร่างดุจดั่งแสงสีเทาเทียวผลุบเทียวโผล่สายหนึ่ง พลิ้วลอยลวงมายาประหนึ่งผีสาง

ในมือเขาถือกระบี่วิญญาณสีเทา จิตกระบี่กร้าวแกร่ง หมดจด ตรงไปตรงมา ครั้นโจมตีพลาดพลั้งพลันถอยร่นทันใด สำแดงวิชาการลอบสังหารได้อย่างสมบูรณ์

“เมื่อครู่พวกเจ้าร่วมมือกันลอบสังหารก็ยังทำอะไรข้าไม่ได้ ตอนนี้ประจันหน้ากัน พวกเจ้ายังคู่ควรเป็นศัตรูของข้าหรือ”

ระหว่างที่เอ่ยคำ อานุภาพทั่วทั้งตัวหลินสวินพลันเปลี่ยนไป!

เรือนผมสีดำของเขาปลิวไสว นัยน์ตาเผยประกายเย็นชา เงาร่างสูงโปร่งปลดปล่อยแสงเรืองรองศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าพลุ่งพล่านราวกับคลื่นยักษ์ ท่วงทำนองมรรคอันพิสุทธิ์สมบูรณ์ไหลเวียน ทั้งร่างเปี่ยมแววเหยียดหยันใต้หล้า ไอสังหารประหนึ่งกลืนกินฟ้าดิน ปั่นป่วนลมฟ้าอากาศ

ดาบหักสีดำทะมึนสาดแสงสีเงินพราวระยับดั่งแสงดาราเรืองรอง ราวกับห่อหุ้มไว้ด้วยธารดาราม้วนตลบ ครวญเสียงกึกก้องกังวาน ประหนึ่งว่าโห่ร้องด้วยปรารถนาซดดื่มเลือดสด

คมดาบดุร้ายพลิกฟ้าเล่มนี้ บัดนี้ราวกับฟื้นตื่นจากภวังค์เงียบสงัด!

ตูม!

ครั้นหลินสวินย่างเท้า เงามายาชือน้ำแข็งตัวหนึ่งแหงนหน้าทะยานสู่อากาศ ชัดแจ้งเสมือนจริง ซัดสาดเมฆลมเก้าสวรรค์ ประหนึ่งเบิกทางให้เขา หมายจะขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้ราบคาบ

หลินสวินในเวลานี้ไม่มีการยั้งมือแต่อย่างใด ปราศจากความพะว้าพะวังโดยสิ้นเชิง!

ฆ่า!

เขาโบกสะบัดดาบหัก กรำศึกกับฝ่ายตรงข้ามอย่างดุเดือด

เพียงชั่วขณะเท่านั้นยอดเขาลูกใหญ่แห่งนี้แปรสภาพเป็นโกลาหล เสียงกึกก้องแสงสว่างเรืองรอง จมสู่ความปั่นป่วนที่ไม่เคยมีมาก่อนฉากหนึ่ง

นี่คือการต่อสู้ชั้นยอดที่หาตัวจับยาก ไม่ว่าจะเป็นซูซิงเฟิง เหวินเสียง หรือกงหยางอวี่คนนั้น ต่างก็เป็นผู้กล้ารุ่นเยาว์ แข็งแกร่งทรงอานุภาพ กล้าแกร่งยิ่งกว่าผู้แข็งแกร่งระดับบุตรเทพทั่วไปเสียอีก

และตอนนี้พวกเขาสามคนร่วมมือสุดกำลัง ปิดล้อมหลินสวินเพียงคนเดียว แค่คิดก็รู้ว่าการต่อสู้ระดับนี้จะสะท้านโลกเพียงใด

แต่ว่าคนที่สะดุดสายตามากที่สุดกลับเป็นของหลินสวินเพียงคนเดียว!

แม้ว่าจะถูกปิดล้อม เขากลับไม่เคยถูกสยบ กวาดขวางฟาดฟันในสนามรบ ทรงพลังถือดี ครอบครองความยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน

ขณะที่การต่อสู้ครั้งนี้ปะทุขึ้น ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าบนภูเขาลูกอื่นที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็ตกใจ พากันหันมองมาทางนี้ไม่หยุด

โดยเฉพาะตอนที่เห็นว่าการต่อสู้ครั้งนี้ถึงขั้นเกิดขึ้นระหว่างผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญาณกับ ‘เทพมารหนุ่มน้อย’ เผ่ามนุษย์คนนั้น ทำให้ทุกคนต่างฮือฮา ตกใจไม่สิ้น

“สวรรค์ ข้าไม่ได้ตาฝาดกระมัง พวกเขาไม่ได้มาจากที่เดียวกันรึ เหตุใดตอนนี้ถึงได้ล้างบางกันเองขึ้นมาได้”

“ฮ่าๆ วาสนาอยู่ต่อหน้า ต่อให้เป็นพี่น้องท้องเดียวกันก็ยังเปลี่ยนเป็นศัตรูทันควัน ดูท่าผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณเหล่านั้น คงไม่อาจทนให้เด็กหนุ่มเทพมารคนนั้นเข้ามามีเอี่ยวกับวาสนานี้อย่างเห็นได้ชัด จึงร่วมกันลงมือ ชิงกำจัดเจ้าหมอนี่ให้พ้นทางก่อน”

“ฮ่าๆๆ เป็นเช่นนี้ก็ดีนัก เด็กหนุ่มเทพมารคนนั้นสังหารผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าไปไม่รู้ตั้งเท่าไร สร้างความโกรธแค้นให้ผู้คนมานาน ทำเอาสวรรค์พิโรธมนุษย์โกรธเกี้ยว ตอนนี้ในที่สุดก็ได้รับผลกรรมเสียที!”

เสียงอึงคะนึง เสียงหัวเราะเยาะ เสียงมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นต่างๆ นานาดังขึ้น ต่างมีท่าทางเหมือนรอชมดูเรื่องสนุก กลัวแค่ว่าใต้หล้าจะไม่วุ่นวายมากพอ

สำหรับหลินสวิน ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าคนอื่นๆ ไม่มีใครไม่กริ่งเกรง กระทั่งมีขุมอำนาจมากมายที่เกลียดเขาเข้ากระดูก

ตอนนี้เมื่อเห็นว่าหลินสวินถูกผู้แข็งแกร่งจากฝ่ายเดียวกันที่อยู่ข้างกายปิดล้อมเอาไว้ คนพวกนี้ไยจะไม่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นได้กันเล่า

“ไอ้พวกไร้น้ำยา พวกเจ้าหัวเราะไปเถิด รอประเดี๋ยวฆ่าเจ้าพวกสารเลวต่ำช้าไร้ยางอายพวกนี้เสร็จ แล้วค่อยไปคิดบัญชีกับพวกเจ้าทีละคน!”

เจ้าคางคกโกรธจนเต้นเร่าๆ ชี้ไปที่ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าที่อยู่บนภูเขาใหญ่ไกลออกไปพร้อมกับตะโกนลั่น

เพียงแต่ไม่นานนักเจ้าคางคกก็ไม่อาจสนใจแต่การเรียกร้องความเป็นธรรมแทนหลินสวินแล้ว ด้วยอวิ๋นเช่อที่เผชิญหน้ากับเขาเริ่มลงมือในที่สุด

ฉัวะ!

กระบี่โลหิตเล่มหนึ่งปรากฏ เปี่ยมด้วยไอสังหาร แสงโลหิตปานอสนีบาต พลังทำลายล้างเต็มเปี่ยม

เห็นได้ชัดว่าหน้าที่ของอวิ๋นเช่อคือกักตัวและสังหารเจ้าคางคก!

“เจ้าหนู รีบจัดการเจ้าพวกสารเลวนั่นด่วน มิฉะนั้นข้าจะตกอยู่ในอันตราย!”

เจ้าคางคกตกใจจนกระโดดเหยงไปพลางร้องตะโกนไปพลาง

พลังชีวิตของเจ้าคางคกนั้นแข็งแกร่งสุดขีด แม้แต่มุกอสนีโลหิตสวรรค์ก็ยังผ่าเขาไม่ตาย ทว่าพลังต่อสู้ของเขาดันอยู่ในระดับธรรมดามาโดยตลอด

นี่ทำให้ยามที่เขาเผชิญหน้ากับการสังหารของอวิ๋นเช่อ จึงทำได้แค่รีบเร่งกระโดดหลีกและหลบเลี่ยง เอาแต่ด่าทอและสาปแช่งเต็มปาก แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย

ตูม!

ในสนามรบ ดาบหักของหลินสวินแหวกอากาศ ต่อสู้ดุเดือดไม่มีสิ้นสุด

แม้แต่เขาเองก็อดยอมรับไม่ได้ ซูซิงเฟิง เหวินเสียง และกงหยางอวี่ ทั้งสามคนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ แกร่งยิ่งกว่าธิดาเทพหลินหลางและบุตรเทพอวี่เซียวเซิงเสียอีก

แต่หลินสวินเยือกเย็นไม่กริ่งเกรง ตอนนั้นเขาสยบกลุ่มผู้กล้าแต่ละเผ่าเพียงลำพัง สังหารบุคคลระดับบุตรเทพอย่างต่อเนื่อง ไหนเลยจะหวาดกลัวการต่อสู้ระดับนี้

ฆ่า!

ถ้ำสวรรค์ภายในร่างของเขาสาดแสง เสียงธรรมก้องกังวานดังขึ้นจากแท่นมรรคเก่าแก่เรียบง่าย พลังทั้งหมดดุจดั่งหินหนืดปะทุ ถูกขับเคลื่อนออกมาด้วยกำลังทั้งหมด

พลานุภาพของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ บุคลิกกลับพิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์และสันโดษขึ้นทุกที สลายและยับยั้งการเข่นฆ่าทั้งหมดเอาไว้ได้

พวกซูซิงเฟิงต่างหน้าเปลี่ยนสี รับรู้ถึงแรงกดดันอันใหญ่หลวง!

ก่อนหน้าต่อให้พวกเขาล้วนรู้ว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินนั้นพลิกฟ้าถึงขีดสุด แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะวิปริตได้ถึงขั้นนี้

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้ เด็กหนุ่มโลกชั้นล่างคนหนึ่งเท่านั้น ทั้งยังเพิ่งจะเลื่อนสู่ระดับหยั่งสัจจะ กลับครอบครองพลังต่อสู้พลิกฟ้าเช่นนี้ นี่มันน่าเหลือเชื่อชัดๆ

ต่อให้จะอยู่ในดินแดนรกร้างโบราณ ก็เรียกได้ว่าเป็นปีศาจแล้ว หาตัวจับยากถึงที่สุด!

เพียงแต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้จิตสังหารของพวกเขายิ่งเข้มข้นขึ้น บุคคลพลิกฟ้าเช่นนี้ ถ้าไม่ฆ่าให้ตาย ต่อไปหากปล่อยให้เขาเติบโตขึ้นมา นั่นยังจะไม่ใช่ปัญหาอีกหรือ

ไร้ซึ่งการลังเลใดๆ พวกเขาต่างเดิมพันทุกสิ่ง ใช้วิชาก้นกรุพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ต้องการอาศัยศึกครั้งนี้กำจัดหลินสวินให้สิ้นซาก!

ตูม!

ซูซิงเฟิงสูดหายใจลึกหนึ่งเฮือก รอบกายมีเปลวไฟหมื่นจั้งพุ่งขึ้นมา ท่วงทำนองมรรครายล้อม แผดเผาน่านฟ้า เขายิ่งดูน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

วิชาบรรลัยกัลป์ล้างโลก!

มรดกเก่าแก่ที่สืบทอดมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ ผสมผสานระหว่างมรรคาและธรรมะ ครั้นเคี่ยวกรำจนบรรลุ การเผาคีรีต้มสมุทรล้างผลาญจักรวาลก็ไม่ต้องพูดถึงอีกต่อไป

ชั่วพริบตาฝนเพลิงผืนหนึ่งพลันปรากฏ อุดมไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของท่วงทำนองมรรคอันยากหยั่งถึง เผาห้วงอากาศจนพังทลาย พุ่งไปปกคลุมหลินสวินเอาไว้

ชิ้ง!

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ดาบหักของหลินสวินส่องแสง ซัดกระบวนท่าคว้าดาราออกไป

เพียงแต่ว่ากระบวนท่าคว้าดาราในครั้งนี้กลับแตกต่างจากที่ผ่านมา พลันเห็นแสงดาราร่วงหล่นดวงแล้วดวงเล่า ม่านราตรีนิรันดร์เลื่อนลู่ลงมา

ดวงดาราที่โปรยปรายลงมาย้อมด้วยแสงแวววาวแห่งวารีอันงดงาม ราวกับภาพฝันมายา

ม่านแห่งราตรีนิรันดร์นั้นกลับดุจดั่งม่านพิรุณสีนิล ปกคลุมเวิ้งนภา คล้ายกับพายุสีดำ

นี่คือกลิ่นอายท่วงทำนองแห่งมรรคธาตุน้ำที่เอ่อล้น ทำให้กระบวนท่าคว้าดารานี้ปรากฏพลังแห่งสัจจะที่ลึกล้ำปานเหวลึกออกมา!

ครืน~

ห้วงอากาศบริเวณนั้นแตกเป็นเสี่ยง น้ำไฟไม่เข้ากัน ต่างชนปะทะกันและกัน พาให้เกิดคลื่นผลสะท้อนกลับอันน่ากลัว สั่นสะเทือนราวกับอสนีบาตฟาด พาให้ผู้คนหน้าเปลี่ยนสี

ตูม!

ซูซิงเฟิงสั่นสะท้านทั่วสรรพางค์กาย กระอักเลือดพรวดออกมาอย่างแรง บนดวงหน้าหล่อเหล่าไร้เทียมทานเผยแววซีดขาว กลางนัยน์ตาคู่นั้นของเขาเปี่ยมด้วยความตกตะลึงล้นหลาม

การโจมตีที่แกร่งที่สุดของเขาถึงกับถูกทำลายยับเยินทั้งอย่างนี้ ซ้ำยังทำให้เขาถูกโจมตีกลับ ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย!

สิ่งนี้เขาไม่อาจยอมรับได้

ที่น่าเสียใจคือ เวลานี้หลินสวินไม่ได้ไยดีเขาแม้แต่ปราดเดียว เพราะในขณะที่ซูซิงเฟิงสำแดงกระบวนท่าสังหารอยู่นั้น เหวินเสียงก็กำลังออกอาวุธอยู่เช่นกัน

วู้ม!

ห่วงคอสีเงินยวงในมือเหวินเสียงปล่อยคลื่นลึกลับออกมาส่วนหนึ่ง ปรากฏเงามายาเทพมารที่สูงราวสิบกว่าจั้ง เหยียดหยันใต้หล้า อานุภาพไม่อาจประเมินค่าได้

ตูม!

ครั้นเงามายาเทพมารกระแทกหมัดออกมา ห้วงอากาศทุกชุ่นพังทลาย ทรุดลงในการโจมตีเดียวราวกับกระดาษว่าว พลังนั้นแข็งกร้าวไม่เป็นสองรองใคร ไม่สามารถพรรณนาได้

นี่เป็นกระบวนท่าสังหารของเหวินเสียงเช่นกันอย่างไม่ต้องสงสัย!

และเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ มือซ้ายของหลินสวินกำหมัดเต็มเหนี่ยว นัยน์ตาสีดำฉายประกายบ้าคลั่งแวบหนึ่ง และซัดหมัดกระแทกออกไปเช่นกัน

กระบวนท่าทลายจักรวาล!

นี่คือกระบวนท่าสุดท้ายของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ ภายใต้การโจมตีนี้ สวรรค์พินาศปฐพีทลาย สรรพชีวิตดับสูญ!

เพียงแต่กระบวนท่าทลายจักรวาลในตอนนี้ยังเป็นการซ้อนทับพลังแปดชั้น รวมเอากระบวนท่าทลายภูผา ทลายสมุทร ทลายวิญญาณ ทลายอากาศ ทลายมังกร ทลายปักษาเพลิง ทลายอเวจี และทลายสวรรค์ ทั้งหมดแปดประบวนท่าเข้าด้วยกัน

ทันทีที่สำแดงออกมา พลันก่อเกิดเป็นปรากฏการณ์ประหลาดไม่มีที่สิ้นสุด เพียงหมัดเดียวเท่านั้นก็ประหนึ่งซัดทำลายสายจักรวาล ปรากฏเป็นภาพล้างโลกที่ขุนเขามหาสมุทรธและสรรพสิ่งแหลกเป็นผุยผงขึ้นมา

ตูม!

เมื่อหมัดของหลินสวินปะทะเข้ากับหมัดของเงามายาเทพมารนั้น บนยอดเขาดุจดั่งมีอสนีบาตตะลึงโลกกัมปนาทขึ้น ทำให้แก้วหูของผู้คนแทบแตกเป็นเสี่ยง

แม้กระทั่งบนภูเขาใหญ่ลูกอื่นๆ ละแวกใกล้เคียง ภายในใจของผู้แข็งแกร่งมากมายต่างสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เลือดลมพลิกตลบปั่นป่วน สีหน้าต่างแปรเปลี่ยนไม่สิ้น

นี่มันเป็นการโจมตีชั้นยอดระดับไหนกัน

ไม่สามารถวัดประเมินได้เลย

แต่ทุกคนต่างเห็นอย่างชัดแจ้ง เงามายาเทพมารสูงกว่าสิบจั้งเงานั้นโอหังเย้ยหยันใต้หล้าระดับไหน แต่กลับต้องแตกสลายเป็นเศษเสี้ยวภายใต้การแลกหมัดครั้งนี้!

ปัง! ปัง! ปัง!

เงามายาเทพมารระเบิดเป็นชิ้นไม่ขาดสายราวกับกระจกแก้ว กลายเป็นฝนแสงสาดกระเซ็น ท้ายที่สุดก็มลายหายไปในอากาศ

ห่วงคอสีเงินยวงวงนั้นก็เปลี่ยนเป็นหม่นแสงและหวีดร้อง คล้ายกับไม่เต็มใจ

ด้านเหวินเสียงก็ส่งเสียงแหลมออกมาเช่นกัน คล้ายกับถูกสายฟ้าฟาดอย่างไรอย่างนั้น กระอักเลือดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป บนพวงแก้มเนียนนุ่มดุจเด็กน้อยเต็มไปด้วยแววทุกข์ทนบิดเบี้ยว

เห็นชัดว่าการโจมตีนั่นไม่เพียงแต่ทำลายล้างเงามายาเทพมาร ยังทำให้เหวินเสียงได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย!

และสิ่งนี้ เป็นพลังเพียงหมัดเดียวของหลินสวินเท่านั้น!

____

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด