Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 1145 ย้อนสังหารผู้กล้า

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 1145 ย้อนสังหารผู้กล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชิ้ง!

ทวนศึกสีน้ำเงินเข้มที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้าพุ่งยิงแหวกอากาศ เกิดเสียงดังชิ้ง พลังเข่นฆ่าคับฟ้า

ก่อนหน้านี้ผู้สืบทอดลัทธิบูชาจันทร์คนนี้ก็เคยใช้กระบวนท่านี้เช่นกัน แทงทะลุเข้าที่ไหล่เจ้าคางคก อีกนิดเดียวก็เกือบโจมตีเจ้าคางคกหัวแบะ

และเวลานี้เขาก็ใช้วิธีการเดียวกัน หมายจะแทงทะลุศีรษะหลินสวิน!

เพียงแต่การแทงครั้งนี้ ยามห่างจากหัวคิ้วของหลินสวินสามชุ่นกลับชะงักกึกโดยพลัน ไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้อีกสักเสี้ยว

หืม?

นัยน์ตาเลี่ยอวิ๋นไห่หดรัด ความคึกคะนองและโหดเหี้ยมที่เดิมทีฉายตรงมุมปากก็พลันแข็งทื่อในจังหวะนี้ด้วยเช่นกัน

ทวนศึกของเขาถูกมือใหญ่ที่เรียวยาวขาวกระจ่างข้างหนึ่งกำไว้แน่น

หนำซ้ำ พลังเข่นฆ่าที่สั่งสมบนทวนศึกทั้งหมดก็ถูกสลายไปหมดสิ้น!

แย่แล้ว!

ในใจเลี่ยอวิ๋นไห่พลันสั่นสะเทือนรุนแรง ระเบิดพลังทันใด ไม่ถอยกลับรุกขึ้นหน้า หมายจะฝืนดันทวนศึกเข้าไปเสียบทะลุหัวคิ้วที่ห่างแค่สามชุ่น

ตูม!

แต่หลินสวินเคลื่อนไหวนานแล้ว ฝ่ามือที่กำทวนศึกไว้เริ่มออกแรง พลังดุเดือดพุล่งพล่านระเบิดออกมาราวกับกระแสน้ำเชี่ยว

จากนั้นง่ามนิ้วของเลี่ยอวิ๋นไห่แหวกขาด ร่างกายราวกับถูกวัวป่าบรรพกาลบดขยี้ ถูกซัดลอยคว้างออกไปเสียงดังปึงหนึ่งครา

สวบ!

และขณะเดียวกันหลินสวินก็สะบัดมือขว้างทวนศึกออกไป ราวกับสายฟ้าสีน้ำเงินเข้มที่เจิดจ้าหนาใหญ่สายหนึ่งแทงทะลุผ่านอกเลี่ยอวิ๋นไห่ ทะลวงเป็นรูโชกเลือดขนาดเท่าปากชาม

ซ่า!

เลือดสดสาดกระจาย เลี่ยอวิ๋นไห่ตายอนาถ เขาเป็นคนแรกที่พุ่งเข้ามา แต่ยามนี้ร่างของเขาที่ปกติจะพุ่งเข้าโจมตีเป็นนิสัย ตอนนี้กลับกระเด็นลอยออกไปอย่างแรง

สุดท้ายเกิดเสียงดังปึง กระแทกลงกับพื้นไม่ขยับเขยื้อน

“นี่…”

“แย่แล้ว!”

พวกอูหลิงเฟยต่างพากันหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ความฮึกเหิมและได้ใจในหัวพลันหายไป แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

เลี่ยอวิ๋นไห่ ปีศาจแห่งยุคจากลัทธิบูชาจันทร์ ถูกฆ่าทั้งอย่างนี้หรือ

“บาดแผลของเขา…”

ทันใดนั้นเสวียนจิงกรีดเสียงร้องออกมา ค้นพบด้วยความตกตะลึงว่ารอยแผลน่าสะพรึงบริเวณอกของหลินสวินสายนั้น ไม่รู้ว่าสมานกันตั้งแต่เมื่อไร นอกจากคราบเลือดที่เหลือทิ้งไว้ ถึงกับมองไม่เห็นรอยแผลจากการบาดเจ็บเลยสักนิด

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

ในใจคนอื่นๆ ก็ปั่นป่วนไปพักหนึ่งเช่นกัน

ก่อนหน้านี้หลินสวินได้รับบาดเจ็บสาหัส เกือบถูกแหวกอกคว้านท้อง เพิ่งถูกพวกเขามองว่ามีโอกาสเลี้ยงให้เชื่อง แต่ละคนครึ้มใจหาใดเปรียบ ยื้อยุดแย่งชิงอยากเป็นคนแรกที่ฆ่าหลินสวินให้ตาย ใช้เรื่องนี้ล้างความอัปยศ ทำการแก้แค้น

ไหนเลยจะคาดคิด นี่เพิ่งผ่านไปเท่าไรเอง อาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายถึงกับหายเป็นปกติแล้ว!

“กลิ่นอายของเขา… ถึงกับแกร่งกร้าวยิ่งกว่าเดิม!”

มีคนใจสะท้าน สัมผัสได้ว่าแม้หลินสวินดูเหมือนจะชุ่มเลือดทั่วร่าง แต่อานุภาพที่แผ่ซ่านออกมากลับน่าสะพรึงและแกร่งกล้ายิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก

การเปลี่ยนแปลงนี้พาให้ในใจพวกเขาไหวสะท้านอีกครั้ง

ตู้ม!

หลินสวินไม่พูดพล่าม หลังจากสังหารเลี่ยอวิ๋นไห่ก็พุ่งทะยานออกมาเหมือนพายุคลั่งที่หอบม้วนฟ้าดิน ทั่วร่างเปล่งแสงเขียวเรืองรอง ท่วมท้นด้วยพลังแห่งมรรคดับดารากลืนกิน

พลังหมัดพุ่งซัด ราวกับมังกรคลั่งโผล่จากหุบเหว

ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งเพิ่งถูกการตายของเลี่ยอวิ๋นไห่ทำให้อึ้งค้าง รู้สึกไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ยังถูกพลังหมัดปิดครอบ จึงตกใจจนอดร้องลั่นออกมาไม่ได้ พยายามขัดขืนเต็มกำลัง

ปึง!

ร่างกายเขาระเบิดเป็นจุณ ต่อให้ใช้ทุกสิ่ง ภายใต้หมัดที่สะเทือนฟ้าสะท้านดินของหลินสวินนี้ก็ราวกับกระดาษว่าว ถูกฆ่าตายคาที่

หมัดเดียว เฉียบขาดเด็ดเดี่ยว เผด็จการไร้สิ้นสุด!

“ลงมือเร็วเข้า!”

มีคนร้องอุทาน สังหรณ์ใจว่าสถานการณ์ไม่ปกติ

ไม่จำเป็นต้องเอ่ยเตือนสักนิด ในที่นี้ล้วนมีแต่บุคคลขอบเขตมกุฎ ไม่มีคนอ่อนแอสักคน ต่างตระหนักได้ถึงความไม่เข้าที ล้วนบุกโจมตีโดยพลัน

เพียงแต่ในใจพวกเขายังคงสั่นสะท้าน เทพมารหลินนี่ฟื้นตัวได้ไวปานนี้เชียวหรือ

ตูม โครม!

การต่อสู้ปะทุขึ้น

การประมือในระดับนี้น่าสะพรึงถึงขีดสุดอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นการปะทะดุเดือดของบุคคลขอบเขตมกุฎแห่งยุค แต่ละคนพลังต่อสู้เหนือธรรมดา

เพียงแต่สานการณ์กลับบังเกิดการพลิกผัน!

ที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้ ก็เพราะต้องช่วยอาหลู่กับเจ้าคางคก

แต่ยามนี้หลังจากกลืนของเหลววิญญาณปฐมอสนี กอปรกับพลังซ่อมแซมอันน่าตกใจของพลังมหามรรคไร้มรณะ ทำให้หลินสวินคืนสู่สภาพสมบูรณ์สูงสุดตั้งนานแล้ว!

หลินสวินซึ่งกล้ำกลืนความเคืองขุ่นเรื่อยมา เวลานี้ย่อมไม่ปรานีใดๆ

เขาเดือดคลั่งอย่างสมบูรณ์!

ปึง!

ท่ามกลางละอองแสงปลิวลอย มีเสียงกระหึ่มบาดหูดังออกมาสายหนึ่ง

จากนั้นเสียงแผดคำรามแสนดุดันหาที่เปรียบไม่ได้สายหนึ่งก็ดังก้อง

“คิดสังหารข้า? เจ้าก็ต้องตายด้วย!”

ครานี้เป็นหลันซางจากเผ่าวิญญาณสมุทร ถูกพลังหมัดของหลินสวินซัจนกระดูกเส้นเอ็นขาดสะบั้น เลือดออกเจ็ดทวาร หน้าตาบิดเบี้ยวเขียวคล้ำ

“ลำพังแค่เจ้า ยังคิดจะลากข้าไปตายด้วยหรือ ตาย!”

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เสียงเยียบเย็นดุดันของหลินสวินก็ดังขึ้น

เสียงยังไม่ทันสิ้นสุด ในครรลองสายตาของทุกคน หลินสวินที่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดทั่วร่างไหลเวียนด้วยกลิ่นอายราวหุบเหวลึกอันน่าสะพรึง พลันเหยียบย่างกลางอากาศ ดาบหักก็โฉบพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน

พรึ่บ!

ดุจดั่งแสงสายหนึ่งจากส่วนลึกของฟ้าดาราที่เดี๋ยวเจิดจ้าเดี๋ยวมืดมน ลวงตาราวกับภาพมายา จากนั้น ศีรษะหนึ่งก็หลุดลอยออกไป

ศีรษะนั่นลอยขึ้นสูงยิ่ง บนใบหน้าเจือแววหวาดผวา ไม่ยินยอม สับสนและไม่อยากเชื่อ

ในแววตาสุดท้ายของเขา หลินสวินที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนเทพสังหารที่ไร้ทัดเทียมคนหนึ่ง แข็งแกร่ง ดุดันและเยือกเย็นปานนั้น

ปึ้ก!

ร่างไร้หัวล้มลงกับพื้น เลือดเนื้อกระจุยกระจาย

สัตว์ประหลาดยุคโบราณถูกตัดหัวไปอีกคนแล้ว!

ภาพเหตุการณ์นี้เสียดแทงประสาทรับรู้ของผู้คนไม่น้อยอีกครั้ง สีหน้าล้วนเปลี่ยนเป็นมืดทะมึนไม่น่าดูอย่างที่สุด เจือแววตกใจแกมสงสัยอย่างลึกซึ้ง

ก่อนหน้านี้พวกเขายังแทบทนไม่ไหว อยากเป็นคนแรกที่ฆ่าหลินสวินตาย ใช้เรื่องนี้สร้างชื่อเสียง ล้างแค้นและลบความอัปยศในใจ

แต่ยามนี้ เผชิญหน้ากับหลินสวินที่คืนสู่สภาวะสูงสุด พวกเขากลับได้แต่รู้สึกใจสะท้าน หวาดหวั่นและไม่เข้าใจ

ไม่อาจจินตนาการได้เลย เหตุใดจู่ๆ สถานการณ์ถึงได้เปลี่ยนเป็นน่าอนาถเช่นนี้ พลิกผันเร็วเกินไปแล้ว!

ไม่มีใครกล้าประมาทเลินเล่อ ทุกคนล้วนสู้ไม่คิดชีวิต หลินสวินในเวลานี้ ในสายตาพวกเขาก็เหมือนสัตว์ร้ายอุทกภัยตัวหนึ่ง แผ่ภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อชีวิต

เขาตัวคนเดียว แม้จะอยู่ท่ามกลางการปิดล้อมของทุกคนแต่กลับไม่เคยถูกสยบ ตรงข้ามกลับเหมือนหุบเหวลึกที่เดือดปะทุกำลังพาดขวาง มีอานุภาพกลืนกินแปดทิศ ดับสิ้นความเวิ้งว้างโดยรอบ ทั่วร่างเปล่งประกายเจิดจรัส ดุจเทพมารที่ไม่อาจทัดเทียม เหยียดหยันและเผด็จการ

ท่วงท่าแข็งแกร่งปานนั้น พาให้คนไม่น้อยต่างใจสะท้าน!

พรึ่บ!

ไม่ทันไรหลินสวินก็คว้าโอกาส ทะยานตัวกระโจนขึ้นไป ร่างกายพุ่งปะทะใส่กลางอกชายหนุ่มชุดเหลืองอย่างจัง

กร๊อบๆ… เสียงกระดูกระเบิดแตกดังชัดในหู ผิวหนัง กระดูก รวมถึงอวัยวะภายในและสารกาย พลังชีวิต จิตวิญญาณทุกอณูของชายหนุ่มชุดเหลืองคนนั้นล้วนแตกปะทุ ส่งเสียงโหยหวนออกมา

จากนั้นร่างของเขาถึงกับระเบิดแตกทั้งอย่างนั้น ฝนเลือดดุจน้ำตกสาดกระเซ็น!

สวบ!

แต่ก่อนหน้านี้อูหลิงเฟยและอีกหลายคนได้พุ่งไปหาอาหลู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าตั้งใจใช้ลูกไม้เดิมกำจัดศัตรู หมายจะใช้เรื่องนี้มาควบคุมหลินสวิน

เพียงแต่หลินสวินกลับไม่ได้คิดจะยื่นมือเข้าช่วยอีกสักนิด

และอาหลู่เองก็ไม่ได้หลบเช่นกัน เจ้าคนที่กำยำใหญ่หนาปานเทพเถื่อนคนนี้ ยามนี้กระตุกยิ้มเยาะหนึ่งครา ริมฝีปากส่งเสียงคำรามลั่นสะเทือนสวรรค์ออกมา…

“บิดาจะอัดไอ้เวรชาติชั่วอย่างพวกเจ้าให้เรียบ!”

ตูม!

บนผิวหนังปานหินผาทั่วร่างของเขาปรากฏเงามายาช้างเทพแล้วสายเล่าขึ้น ราวกับกำลังสยบมหาพิภพ สะท้อนไอเลือดเย้ยฟ้าที่แข็งแกร่งไร้สิ้นสุด

กระบองยักษ์เหล็กนิลท่อนหนึ่งตวัดกวาด ห้วงอากาศถูกซัดระเบิดป่นปี้ เสียงครวญแหลมปานจะฉีกทึ้งแก้วหู

เสียงดังปึงหนึ่งครา ชายหนุ่มคนหนึ่งปัดป้องไม่ทัน ถูกกระแทกลอยออกไปอย่างจังราวกับกระสอบทรายที่ลอยพุ่ง กระแทกใส่เสาทองแดงที่ห่างออกไปนอกพันจั้ง ทั้งตัวล้วนฝังติดอยู่บนเสาทองแดง

“แย่แล้ว! เจ้านี่ก็ฟื้นพลังต่อสู้ด้วย!” สีหน้าอูหลิงเฟยทะมึนลง ภายในใจยิ่งรู้สึกไม่สงบมากขึ้นเรื่อยๆ

“ไป!”

และเสวียนจิงยิ่งตรงไปตรงมา ถอยร่นโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด พุ่งไปทางด้านนอกตำหนักใหญ่

หลินสวินเดิมก็แข็งแกร่งหาใดเปรียบอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ได้รับบาดเจ็บก็ยังสำแดงพลังต่อสู้ที่เรียกได้ว่าพลิกฟ้า ยามนี้เขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้ว ใครจะกำราบได้กัน

ส่วนอาหลู่ก็แข็งแกร่งมากเช่นเดียวกัน หากไม่เป็นเช่นนี้ ก่อนที่หลินสวินจะมาถึงคงถูกพวกเขาปิดล้อมโจมตีและฆ่าตายไปแล้ว

และยามนี้แม้แต่อาหลู่ก็ยังฟื้นคืนพลังต่อสู้โดยสมบูรณ์ นี่ทำให้หลินสวินเหมือนเสือติดปีก พาให้สถานการณ์เกิดการพลิกผันรุนแรงไปด้วย ไม่มีทางสู้ต่อไปได้อีก!

“คิดหนีเรอะ เคยถามปู่เจ้าบ้างหรือไม่!”

ทันใดนั้นเจ้าคางคกก็บุกโจมตีแล้ว ทั้งร่างเป็นสีทองอร่าม ส่งเสียงคำรามลั่นออกมาแล้วโถมไปทางเสวียนจิง ทั่วร่างเดือดพล่านด้วยไอสังหารไร้ที่สิ้นสุด

ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่เพราะหลินสวินเข้าช่วยเหลือ เขาก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้ว ตอนนี้อาศัยความช่วยเหลือจากของเหลววิญญาณปฐมอสนีฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ มีหรือเขายังจะออมมือ

ระเบิดปะทุออกมาตรงๆ แล้ว!

ตูม!

ท่ามกลางตำหนักใหญ่ การต่อสู้ยิ่งดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ แสงเรืองรองศักดิ์สิทธิ์ชนปะทะ แสงสมบัติเดือดพล่าน

เพียงแต่ แน่นอนว่าสถานการณ์ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!

หลินสวิน เจ้าคางคก อาหลู่ ทั้งสามคนร่วมมือกัน พลานุภาพดุจสายรุ้ง บุกฆ่าท่ามกลางศัตรูแข็งแกร่ง แต่ละคนสำแดงพลังต่อสู้ที่แทบจะวิปริตอออกมา

สิ่งที่หลินสวินใช้คือพลังสังหารที่แข็งแกร่งที่สุด ใช้มรรคดับดารากลืนกินสำแดงวิชาแห่งตน กวาดขวางทั่วลาน

ส่วนเจ้าคางคกและอาหลู่ด้อยกว่าเสียที่ไหน ฝ่ายแรกเป็นทายาทเผ่าคางคกทองสามขา สัตว์ประหลาดยุคโบราณที่ชื่อเสียงเรืองรอง ครอบครองเคล็ดวิชากลืนตะวันคายจันทรา ยอดวิชาที่สะเทือนอดีตสะท้านปัจจุบัน

ด้านอาหลู่ก็มีแนวโน้มว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสายเลือดเทพยุทธ์คชสารมังกรบรรพกาล ครอบครองวิชาดาวเหนือสยบโลกา ทั้งก้าวเดินบนเส้นทางแห่งกายหยาบบรรลุอริยะ ความแข็งแกร่งของพลังเรียกได้ว่าวิปริต

สามคนร่วมกันบุกโจมตี อานุภาพดุจผ่าลำไผ่ ง่ายดายเสมือนหักทำลายหญ้าแห้งไม้ผุ แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

พรึ่บๆๆ!

เพียงเวลาสั้นๆ ก็มีผู้แข็งแกร่งเจ็ดแปดคนชะตาดับ ล้วนตายอนาถยิ่ง ยามพวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์ เหยียดหยันหยิ่งทระนง

แต่พอตายไป ทั้งหมดล้วนมลายหายลับ กลายเป็นความว่างเปล่า

เมื่อย้อนมองในลานอีกครั้ง ตั้งแต่เริ่มต่อสู้จนถึงตอนนี้ เดิมทีมีผู้แข็งแกร่งยี่สิบหกคนจากขุมอำนาจแตกต่างกัน สามารถเข้าสู่ตำหนักเพลิงเทพแห่งนี้ได้ก็พอรู้ถึงความไม่ธรรมดาของพวกเขาแล้ว

แต่ยามนี้ คนที่ยังยืนอยู่ในลานเหลืออยู่เพียงแปดคนเท่านั้น!

หรือกล่าวได้ว่า ผู้แข็งแกร่งมากกว่าครึ่ง เวลานี้ไม่ล้มตายก็เสียพลังต่อสู้ บาดเจ็บปางตาย

ยามนี้แม้แต่อูหลิงเฟยก็ยังขลาดกลัว หมุนตัวแล้วหนีทันที

ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ล้วนถูกทำให้ตกใจจนขวัญเสียตั้งนานแล้ว ต่างพากันเผ่นหนีโดยไม่ลังเลใดๆ

เดิมทีเทพมารหลินคนเดียวก็น่ากลัวเกินพอแล้ว ยามนี้ดันมีผู้ช่วยโผล่มาอีกสองคน นี่ไม่มีทางสู้ต่อไปได้เลยสักนิด

“จะไปไหน!”

หลินสวินตวาดลั่น เรียกดาบหักออกมา ไล่ตามขึ้นไปพร้อมกับเจ้าคางคกและอาหลู่

พรึ่บ!

ชายหนุ่มที่ถือเคียวสีเลือดถูกดาบหักฟันเป็นสองท่อน

และพร้อมกันนั้น อาหลู่กับเจ้าคางคกรวมพลังกันสังหารผู้แข็งแกร่งอีกคน

จนกระทั่งไล่ล่าสังหารมาถึงหน้าตำหนักนั่น สิ่งที่ทำให้อูหลิงเฟยและผู้แข็งแกร่งอีกห้าคนสิ้นหวังคือ ประตูบานใหญ่ของตำหนักที่ปิดสนิทนั้นดันไม่สามารถเปิดออกได้!

ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีอย่างไรล้วนไม่สามารถสั่นคลอนได้สักเสี้ยว

“ไม่…!”

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร”

เสียงคำรามเดือดจัดดังก้องขึ้น พวกอูหลิงเฟยจวนจะเสียสติ ตาแทบถลนเบ้า

ตีหัวจนแตกก็คิดไม่ถึงว่าตำหนักเร้นลับแห่งนี้ ถึงกับมีแต่สภาพที่เข้ามาได้แต่ออกไม่ได้!

ห่างออกไปหลินสวิน เจ้าคางคกและอาหลู่ได้พุ่งเข้ามาราวกับเทพสังหารแล้ว

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 1145 ย้อนสังหารผู้กล้า

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 1145 ย้อนสังหารผู้กล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชิ้ง!

ทวนศึกสีน้ำเงินเข้มที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้าพุ่งยิงแหวกอากาศ เกิดเสียงดังชิ้ง พลังเข่นฆ่าคับฟ้า

ก่อนหน้านี้ผู้สืบทอดลัทธิบูชาจันทร์คนนี้ก็เคยใช้กระบวนท่านี้เช่นกัน แทงทะลุเข้าที่ไหล่เจ้าคางคก อีกนิดเดียวก็เกือบโจมตีเจ้าคางคกหัวแบะ

และเวลานี้เขาก็ใช้วิธีการเดียวกัน หมายจะแทงทะลุศีรษะหลินสวิน!

เพียงแต่การแทงครั้งนี้ ยามห่างจากหัวคิ้วของหลินสวินสามชุ่นกลับชะงักกึกโดยพลัน ไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้อีกสักเสี้ยว

หืม?

นัยน์ตาเลี่ยอวิ๋นไห่หดรัด ความคึกคะนองและโหดเหี้ยมที่เดิมทีฉายตรงมุมปากก็พลันแข็งทื่อในจังหวะนี้ด้วยเช่นกัน

ทวนศึกของเขาถูกมือใหญ่ที่เรียวยาวขาวกระจ่างข้างหนึ่งกำไว้แน่น

หนำซ้ำ พลังเข่นฆ่าที่สั่งสมบนทวนศึกทั้งหมดก็ถูกสลายไปหมดสิ้น!

แย่แล้ว!

ในใจเลี่ยอวิ๋นไห่พลันสั่นสะเทือนรุนแรง ระเบิดพลังทันใด ไม่ถอยกลับรุกขึ้นหน้า หมายจะฝืนดันทวนศึกเข้าไปเสียบทะลุหัวคิ้วที่ห่างแค่สามชุ่น

ตูม!

แต่หลินสวินเคลื่อนไหวนานแล้ว ฝ่ามือที่กำทวนศึกไว้เริ่มออกแรง พลังดุเดือดพุล่งพล่านระเบิดออกมาราวกับกระแสน้ำเชี่ยว

จากนั้นง่ามนิ้วของเลี่ยอวิ๋นไห่แหวกขาด ร่างกายราวกับถูกวัวป่าบรรพกาลบดขยี้ ถูกซัดลอยคว้างออกไปเสียงดังปึงหนึ่งครา

สวบ!

และขณะเดียวกันหลินสวินก็สะบัดมือขว้างทวนศึกออกไป ราวกับสายฟ้าสีน้ำเงินเข้มที่เจิดจ้าหนาใหญ่สายหนึ่งแทงทะลุผ่านอกเลี่ยอวิ๋นไห่ ทะลวงเป็นรูโชกเลือดขนาดเท่าปากชาม

ซ่า!

เลือดสดสาดกระจาย เลี่ยอวิ๋นไห่ตายอนาถ เขาเป็นคนแรกที่พุ่งเข้ามา แต่ยามนี้ร่างของเขาที่ปกติจะพุ่งเข้าโจมตีเป็นนิสัย ตอนนี้กลับกระเด็นลอยออกไปอย่างแรง

สุดท้ายเกิดเสียงดังปึง กระแทกลงกับพื้นไม่ขยับเขยื้อน

“นี่…”

“แย่แล้ว!”

พวกอูหลิงเฟยต่างพากันหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ความฮึกเหิมและได้ใจในหัวพลันหายไป แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

เลี่ยอวิ๋นไห่ ปีศาจแห่งยุคจากลัทธิบูชาจันทร์ ถูกฆ่าทั้งอย่างนี้หรือ

“บาดแผลของเขา…”

ทันใดนั้นเสวียนจิงกรีดเสียงร้องออกมา ค้นพบด้วยความตกตะลึงว่ารอยแผลน่าสะพรึงบริเวณอกของหลินสวินสายนั้น ไม่รู้ว่าสมานกันตั้งแต่เมื่อไร นอกจากคราบเลือดที่เหลือทิ้งไว้ ถึงกับมองไม่เห็นรอยแผลจากการบาดเจ็บเลยสักนิด

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

ในใจคนอื่นๆ ก็ปั่นป่วนไปพักหนึ่งเช่นกัน

ก่อนหน้านี้หลินสวินได้รับบาดเจ็บสาหัส เกือบถูกแหวกอกคว้านท้อง เพิ่งถูกพวกเขามองว่ามีโอกาสเลี้ยงให้เชื่อง แต่ละคนครึ้มใจหาใดเปรียบ ยื้อยุดแย่งชิงอยากเป็นคนแรกที่ฆ่าหลินสวินให้ตาย ใช้เรื่องนี้ล้างความอัปยศ ทำการแก้แค้น

ไหนเลยจะคาดคิด นี่เพิ่งผ่านไปเท่าไรเอง อาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายถึงกับหายเป็นปกติแล้ว!

“กลิ่นอายของเขา… ถึงกับแกร่งกร้าวยิ่งกว่าเดิม!”

มีคนใจสะท้าน สัมผัสได้ว่าแม้หลินสวินดูเหมือนจะชุ่มเลือดทั่วร่าง แต่อานุภาพที่แผ่ซ่านออกมากลับน่าสะพรึงและแกร่งกล้ายิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก

การเปลี่ยนแปลงนี้พาให้ในใจพวกเขาไหวสะท้านอีกครั้ง

ตู้ม!

หลินสวินไม่พูดพล่าม หลังจากสังหารเลี่ยอวิ๋นไห่ก็พุ่งทะยานออกมาเหมือนพายุคลั่งที่หอบม้วนฟ้าดิน ทั่วร่างเปล่งแสงเขียวเรืองรอง ท่วมท้นด้วยพลังแห่งมรรคดับดารากลืนกิน

พลังหมัดพุ่งซัด ราวกับมังกรคลั่งโผล่จากหุบเหว

ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งเพิ่งถูกการตายของเลี่ยอวิ๋นไห่ทำให้อึ้งค้าง รู้สึกไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ยังถูกพลังหมัดปิดครอบ จึงตกใจจนอดร้องลั่นออกมาไม่ได้ พยายามขัดขืนเต็มกำลัง

ปึง!

ร่างกายเขาระเบิดเป็นจุณ ต่อให้ใช้ทุกสิ่ง ภายใต้หมัดที่สะเทือนฟ้าสะท้านดินของหลินสวินนี้ก็ราวกับกระดาษว่าว ถูกฆ่าตายคาที่

หมัดเดียว เฉียบขาดเด็ดเดี่ยว เผด็จการไร้สิ้นสุด!

“ลงมือเร็วเข้า!”

มีคนร้องอุทาน สังหรณ์ใจว่าสถานการณ์ไม่ปกติ

ไม่จำเป็นต้องเอ่ยเตือนสักนิด ในที่นี้ล้วนมีแต่บุคคลขอบเขตมกุฎ ไม่มีคนอ่อนแอสักคน ต่างตระหนักได้ถึงความไม่เข้าที ล้วนบุกโจมตีโดยพลัน

เพียงแต่ในใจพวกเขายังคงสั่นสะท้าน เทพมารหลินนี่ฟื้นตัวได้ไวปานนี้เชียวหรือ

ตูม โครม!

การต่อสู้ปะทุขึ้น

การประมือในระดับนี้น่าสะพรึงถึงขีดสุดอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นการปะทะดุเดือดของบุคคลขอบเขตมกุฎแห่งยุค แต่ละคนพลังต่อสู้เหนือธรรมดา

เพียงแต่สานการณ์กลับบังเกิดการพลิกผัน!

ที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้ ก็เพราะต้องช่วยอาหลู่กับเจ้าคางคก

แต่ยามนี้หลังจากกลืนของเหลววิญญาณปฐมอสนี กอปรกับพลังซ่อมแซมอันน่าตกใจของพลังมหามรรคไร้มรณะ ทำให้หลินสวินคืนสู่สภาพสมบูรณ์สูงสุดตั้งนานแล้ว!

หลินสวินซึ่งกล้ำกลืนความเคืองขุ่นเรื่อยมา เวลานี้ย่อมไม่ปรานีใดๆ

เขาเดือดคลั่งอย่างสมบูรณ์!

ปึง!

ท่ามกลางละอองแสงปลิวลอย มีเสียงกระหึ่มบาดหูดังออกมาสายหนึ่ง

จากนั้นเสียงแผดคำรามแสนดุดันหาที่เปรียบไม่ได้สายหนึ่งก็ดังก้อง

“คิดสังหารข้า? เจ้าก็ต้องตายด้วย!”

ครานี้เป็นหลันซางจากเผ่าวิญญาณสมุทร ถูกพลังหมัดของหลินสวินซัจนกระดูกเส้นเอ็นขาดสะบั้น เลือดออกเจ็ดทวาร หน้าตาบิดเบี้ยวเขียวคล้ำ

“ลำพังแค่เจ้า ยังคิดจะลากข้าไปตายด้วยหรือ ตาย!”

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เสียงเยียบเย็นดุดันของหลินสวินก็ดังขึ้น

เสียงยังไม่ทันสิ้นสุด ในครรลองสายตาของทุกคน หลินสวินที่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดทั่วร่างไหลเวียนด้วยกลิ่นอายราวหุบเหวลึกอันน่าสะพรึง พลันเหยียบย่างกลางอากาศ ดาบหักก็โฉบพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน

พรึ่บ!

ดุจดั่งแสงสายหนึ่งจากส่วนลึกของฟ้าดาราที่เดี๋ยวเจิดจ้าเดี๋ยวมืดมน ลวงตาราวกับภาพมายา จากนั้น ศีรษะหนึ่งก็หลุดลอยออกไป

ศีรษะนั่นลอยขึ้นสูงยิ่ง บนใบหน้าเจือแววหวาดผวา ไม่ยินยอม สับสนและไม่อยากเชื่อ

ในแววตาสุดท้ายของเขา หลินสวินที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนเทพสังหารที่ไร้ทัดเทียมคนหนึ่ง แข็งแกร่ง ดุดันและเยือกเย็นปานนั้น

ปึ้ก!

ร่างไร้หัวล้มลงกับพื้น เลือดเนื้อกระจุยกระจาย

สัตว์ประหลาดยุคโบราณถูกตัดหัวไปอีกคนแล้ว!

ภาพเหตุการณ์นี้เสียดแทงประสาทรับรู้ของผู้คนไม่น้อยอีกครั้ง สีหน้าล้วนเปลี่ยนเป็นมืดทะมึนไม่น่าดูอย่างที่สุด เจือแววตกใจแกมสงสัยอย่างลึกซึ้ง

ก่อนหน้านี้พวกเขายังแทบทนไม่ไหว อยากเป็นคนแรกที่ฆ่าหลินสวินตาย ใช้เรื่องนี้สร้างชื่อเสียง ล้างแค้นและลบความอัปยศในใจ

แต่ยามนี้ เผชิญหน้ากับหลินสวินที่คืนสู่สภาวะสูงสุด พวกเขากลับได้แต่รู้สึกใจสะท้าน หวาดหวั่นและไม่เข้าใจ

ไม่อาจจินตนาการได้เลย เหตุใดจู่ๆ สถานการณ์ถึงได้เปลี่ยนเป็นน่าอนาถเช่นนี้ พลิกผันเร็วเกินไปแล้ว!

ไม่มีใครกล้าประมาทเลินเล่อ ทุกคนล้วนสู้ไม่คิดชีวิต หลินสวินในเวลานี้ ในสายตาพวกเขาก็เหมือนสัตว์ร้ายอุทกภัยตัวหนึ่ง แผ่ภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อชีวิต

เขาตัวคนเดียว แม้จะอยู่ท่ามกลางการปิดล้อมของทุกคนแต่กลับไม่เคยถูกสยบ ตรงข้ามกลับเหมือนหุบเหวลึกที่เดือดปะทุกำลังพาดขวาง มีอานุภาพกลืนกินแปดทิศ ดับสิ้นความเวิ้งว้างโดยรอบ ทั่วร่างเปล่งประกายเจิดจรัส ดุจเทพมารที่ไม่อาจทัดเทียม เหยียดหยันและเผด็จการ

ท่วงท่าแข็งแกร่งปานนั้น พาให้คนไม่น้อยต่างใจสะท้าน!

พรึ่บ!

ไม่ทันไรหลินสวินก็คว้าโอกาส ทะยานตัวกระโจนขึ้นไป ร่างกายพุ่งปะทะใส่กลางอกชายหนุ่มชุดเหลืองอย่างจัง

กร๊อบๆ… เสียงกระดูกระเบิดแตกดังชัดในหู ผิวหนัง กระดูก รวมถึงอวัยวะภายในและสารกาย พลังชีวิต จิตวิญญาณทุกอณูของชายหนุ่มชุดเหลืองคนนั้นล้วนแตกปะทุ ส่งเสียงโหยหวนออกมา

จากนั้นร่างของเขาถึงกับระเบิดแตกทั้งอย่างนั้น ฝนเลือดดุจน้ำตกสาดกระเซ็น!

สวบ!

แต่ก่อนหน้านี้อูหลิงเฟยและอีกหลายคนได้พุ่งไปหาอาหลู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าตั้งใจใช้ลูกไม้เดิมกำจัดศัตรู หมายจะใช้เรื่องนี้มาควบคุมหลินสวิน

เพียงแต่หลินสวินกลับไม่ได้คิดจะยื่นมือเข้าช่วยอีกสักนิด

และอาหลู่เองก็ไม่ได้หลบเช่นกัน เจ้าคนที่กำยำใหญ่หนาปานเทพเถื่อนคนนี้ ยามนี้กระตุกยิ้มเยาะหนึ่งครา ริมฝีปากส่งเสียงคำรามลั่นสะเทือนสวรรค์ออกมา…

“บิดาจะอัดไอ้เวรชาติชั่วอย่างพวกเจ้าให้เรียบ!”

ตูม!

บนผิวหนังปานหินผาทั่วร่างของเขาปรากฏเงามายาช้างเทพแล้วสายเล่าขึ้น ราวกับกำลังสยบมหาพิภพ สะท้อนไอเลือดเย้ยฟ้าที่แข็งแกร่งไร้สิ้นสุด

กระบองยักษ์เหล็กนิลท่อนหนึ่งตวัดกวาด ห้วงอากาศถูกซัดระเบิดป่นปี้ เสียงครวญแหลมปานจะฉีกทึ้งแก้วหู

เสียงดังปึงหนึ่งครา ชายหนุ่มคนหนึ่งปัดป้องไม่ทัน ถูกกระแทกลอยออกไปอย่างจังราวกับกระสอบทรายที่ลอยพุ่ง กระแทกใส่เสาทองแดงที่ห่างออกไปนอกพันจั้ง ทั้งตัวล้วนฝังติดอยู่บนเสาทองแดง

“แย่แล้ว! เจ้านี่ก็ฟื้นพลังต่อสู้ด้วย!” สีหน้าอูหลิงเฟยทะมึนลง ภายในใจยิ่งรู้สึกไม่สงบมากขึ้นเรื่อยๆ

“ไป!”

และเสวียนจิงยิ่งตรงไปตรงมา ถอยร่นโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด พุ่งไปทางด้านนอกตำหนักใหญ่

หลินสวินเดิมก็แข็งแกร่งหาใดเปรียบอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ได้รับบาดเจ็บก็ยังสำแดงพลังต่อสู้ที่เรียกได้ว่าพลิกฟ้า ยามนี้เขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้ว ใครจะกำราบได้กัน

ส่วนอาหลู่ก็แข็งแกร่งมากเช่นเดียวกัน หากไม่เป็นเช่นนี้ ก่อนที่หลินสวินจะมาถึงคงถูกพวกเขาปิดล้อมโจมตีและฆ่าตายไปแล้ว

และยามนี้แม้แต่อาหลู่ก็ยังฟื้นคืนพลังต่อสู้โดยสมบูรณ์ นี่ทำให้หลินสวินเหมือนเสือติดปีก พาให้สถานการณ์เกิดการพลิกผันรุนแรงไปด้วย ไม่มีทางสู้ต่อไปได้อีก!

“คิดหนีเรอะ เคยถามปู่เจ้าบ้างหรือไม่!”

ทันใดนั้นเจ้าคางคกก็บุกโจมตีแล้ว ทั้งร่างเป็นสีทองอร่าม ส่งเสียงคำรามลั่นออกมาแล้วโถมไปทางเสวียนจิง ทั่วร่างเดือดพล่านด้วยไอสังหารไร้ที่สิ้นสุด

ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่เพราะหลินสวินเข้าช่วยเหลือ เขาก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้ว ตอนนี้อาศัยความช่วยเหลือจากของเหลววิญญาณปฐมอสนีฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ มีหรือเขายังจะออมมือ

ระเบิดปะทุออกมาตรงๆ แล้ว!

ตูม!

ท่ามกลางตำหนักใหญ่ การต่อสู้ยิ่งดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ แสงเรืองรองศักดิ์สิทธิ์ชนปะทะ แสงสมบัติเดือดพล่าน

เพียงแต่ แน่นอนว่าสถานการณ์ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!

หลินสวิน เจ้าคางคก อาหลู่ ทั้งสามคนร่วมมือกัน พลานุภาพดุจสายรุ้ง บุกฆ่าท่ามกลางศัตรูแข็งแกร่ง แต่ละคนสำแดงพลังต่อสู้ที่แทบจะวิปริตอออกมา

สิ่งที่หลินสวินใช้คือพลังสังหารที่แข็งแกร่งที่สุด ใช้มรรคดับดารากลืนกินสำแดงวิชาแห่งตน กวาดขวางทั่วลาน

ส่วนเจ้าคางคกและอาหลู่ด้อยกว่าเสียที่ไหน ฝ่ายแรกเป็นทายาทเผ่าคางคกทองสามขา สัตว์ประหลาดยุคโบราณที่ชื่อเสียงเรืองรอง ครอบครองเคล็ดวิชากลืนตะวันคายจันทรา ยอดวิชาที่สะเทือนอดีตสะท้านปัจจุบัน

ด้านอาหลู่ก็มีแนวโน้มว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสายเลือดเทพยุทธ์คชสารมังกรบรรพกาล ครอบครองวิชาดาวเหนือสยบโลกา ทั้งก้าวเดินบนเส้นทางแห่งกายหยาบบรรลุอริยะ ความแข็งแกร่งของพลังเรียกได้ว่าวิปริต

สามคนร่วมกันบุกโจมตี อานุภาพดุจผ่าลำไผ่ ง่ายดายเสมือนหักทำลายหญ้าแห้งไม้ผุ แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

พรึ่บๆๆ!

เพียงเวลาสั้นๆ ก็มีผู้แข็งแกร่งเจ็ดแปดคนชะตาดับ ล้วนตายอนาถยิ่ง ยามพวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์ เหยียดหยันหยิ่งทระนง

แต่พอตายไป ทั้งหมดล้วนมลายหายลับ กลายเป็นความว่างเปล่า

เมื่อย้อนมองในลานอีกครั้ง ตั้งแต่เริ่มต่อสู้จนถึงตอนนี้ เดิมทีมีผู้แข็งแกร่งยี่สิบหกคนจากขุมอำนาจแตกต่างกัน สามารถเข้าสู่ตำหนักเพลิงเทพแห่งนี้ได้ก็พอรู้ถึงความไม่ธรรมดาของพวกเขาแล้ว

แต่ยามนี้ คนที่ยังยืนอยู่ในลานเหลืออยู่เพียงแปดคนเท่านั้น!

หรือกล่าวได้ว่า ผู้แข็งแกร่งมากกว่าครึ่ง เวลานี้ไม่ล้มตายก็เสียพลังต่อสู้ บาดเจ็บปางตาย

ยามนี้แม้แต่อูหลิงเฟยก็ยังขลาดกลัว หมุนตัวแล้วหนีทันที

ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ล้วนถูกทำให้ตกใจจนขวัญเสียตั้งนานแล้ว ต่างพากันเผ่นหนีโดยไม่ลังเลใดๆ

เดิมทีเทพมารหลินคนเดียวก็น่ากลัวเกินพอแล้ว ยามนี้ดันมีผู้ช่วยโผล่มาอีกสองคน นี่ไม่มีทางสู้ต่อไปได้เลยสักนิด

“จะไปไหน!”

หลินสวินตวาดลั่น เรียกดาบหักออกมา ไล่ตามขึ้นไปพร้อมกับเจ้าคางคกและอาหลู่

พรึ่บ!

ชายหนุ่มที่ถือเคียวสีเลือดถูกดาบหักฟันเป็นสองท่อน

และพร้อมกันนั้น อาหลู่กับเจ้าคางคกรวมพลังกันสังหารผู้แข็งแกร่งอีกคน

จนกระทั่งไล่ล่าสังหารมาถึงหน้าตำหนักนั่น สิ่งที่ทำให้อูหลิงเฟยและผู้แข็งแกร่งอีกห้าคนสิ้นหวังคือ ประตูบานใหญ่ของตำหนักที่ปิดสนิทนั้นดันไม่สามารถเปิดออกได้!

ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีอย่างไรล้วนไม่สามารถสั่นคลอนได้สักเสี้ยว

“ไม่…!”

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร”

เสียงคำรามเดือดจัดดังก้องขึ้น พวกอูหลิงเฟยจวนจะเสียสติ ตาแทบถลนเบ้า

ตีหัวจนแตกก็คิดไม่ถึงว่าตำหนักเร้นลับแห่งนี้ ถึงกับมีแต่สภาพที่เข้ามาได้แต่ออกไม่ได้!

ห่างออกไปหลินสวิน เจ้าคางคกและอาหลู่ได้พุ่งเข้ามาราวกับเทพสังหารแล้ว

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+