Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2267 เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2267 เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จวบจนภายหลัง อ๋าวซิงถังทำให้ฐานะหัวหน้าเผ่าเจินหลงมั่นคงแน่วนิ่งได้แล้ว หัวหน้าเผ่าของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ถึงรู้ว่าที่แท้หลินสวินคนนั้นดันเป็นลูกเขยของอ๋าวซิงถัง…

ชั่วขณะเดียวต่างตกตะลึงอ้าปากค้างอย่างห้ามไม่อยู่ สูดหายใจหนาเยือกไม่ว่างเว้น

และเป็นตั้งแต่ตอนนั้น ที่เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ล้มเลิกความคิดต่อต้านเผ่าเจินหลงไปโดยสมบูรณ์

พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง

……

ครึ่งเดือนผ่านไป

แดนวังมังกรคืนสู่ความสงบในอดีตแล้ว

รังมังกรสีทองในบ่อมังกรยังคงไม่มีเค้าลางแปรสภาพดังเดิม หลินสวินกลับคิดจะจากไปแล้ว

จ้าวหยวนจี๋กับอ๋าวซิงถังรั้งเอาไว้ แต่เห็นว่าหลินสวินตั้งใจแน่วแน่วแล้วว่าจะไปจึงไม่เกลี้ยกล่อมอีก

“ท่านป้า บรรพชนเจินหลงถูกช่วยออกมา หากตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งรู้เข้าจะต้องไม่เลิกราแต่โดยดีแน่ ข้าหลอมศิลามรรคค้ำสมุทรสี่สิบเก้าหลักโดยสมบูรณ์แล้ว ภายหน้าหากประสบอันตรายอะไร ขอเพียงปิดผนึกแดนวังมังกรนี้ไว้ก็พอ”

ในโถงแห่งหนึ่งหลินสวินเอ่ยเตือน

อ๋าวซิงถังยิ้มเอ่ยว่า “ถ้าตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งมาจริงๆ ขอเพียงข้าครอบครองมุกสยบหล้า พวกเขาก็ทำอะไรเผ่าเราไม่ได้ เจ้าเสียอีก เคยคิดไหวว่าจะใช้เส้นทางเผ่าไหนกลับสู่ทางเดินโบราณฟ้าดารา”

ก่อนหน้านี้นางบอกหลินสวินแล้วว่าจากแดนเจินหลงไม่อาจกลับไปทางเดินโบราณฟ้าดาราได้อีกแล้ว แต่กลับสามารถกลับไปด้วยเส้นทางที่สามเผ่าวิญญาณใหญ่อย่างหงส์เซียน พยัคฆ์ขาว และเต่าดำครอบครองได้

“ขอท่านป้าชี้แนะด้วย” หลินสวินพูด

“ข้าแนะนำว่าไปเผ่าหงส์เซียน”

อ๋าวซิงถังเอ่ย “บรรพชนหงส์เซียนสนิทกับเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ ในกาลเวลาไร้สิ้นสุด ลูกหลานเผ่าหงส์เซียนมากมายต่างแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับลูกหลานตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง ถึงขั้นลูกหลานเผ่าหงส์เซียนมากมายยังใช้แซ่ ‘ลั่ว’”

นางหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “แต่ตั้งแต่มารดาของเจ้าลั่วชิงสวินเกิดเรื่อง เผ่าหงส์เซียนก็ตัดสัมพันธ์กับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง สาเหตุก็เพราะคนที่เผ่าหงส์เซียนยอมรับคือลูกหลานสายเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ ไม่ใช่ทั้งตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง”

ฟังถึงตรงนี้ จู่ๆ หลินสวินก็นึกถึงคนรู้จักคนหนึ่ง…

ลั่วเจีย!

หญิงงามที่ถือกำเนิดในเผ่าหงส์เซียนคนหนึ่ง ตั้งแต่สมัยอยู่ในดินแดนรกร้างโบราณ แม้ความสัมพันธ์ของเขากับลั่วเจียจะไม่ถึงกับสนิทสนมคุ้นเคย แต่ก็จัดว่าเป็นสหายที่ดีต่อกัน

และจากที่อ๋าวซิงถังพูด ลั่วเจียซึ่งมาจากเผ่าหงส์เซียน และยังแซ่ลั่วอีก เกรงว่าคงมีสายเลือดของตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งไหลเวียนอยู่ในร่างเหมือนกับหลินสวิน!

“แต่ถ้าเจ้าไปเผ่าหงส์เซียนจริงๆ ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าเปิดเผยฐานะตัวเองก่อนจะดีที่สุด”

อ๋าวซิงถังกล่าว “ถึงอย่างไรแม้พวกเขาจะตัดสัมพันธ์กับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง แต่ตอนนั้นยามมารดาของเจ้าลั่วชิงสวินประสบเคราะห์ก็ไม่ได้ลงมือช่วยเหลือ ถ้าเจ้าบุ่มบ่ามใช้ฐานะลูกของลั่วชิงสวินไปหา ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดคลื่นลมอะไรหรือเปล่า”

หลินสวินพยักหน้า

อ๋าวซิงถังเอ่ย “รอตอนเจ้าจะจากไป ข้าจะมอบป้ายยืนยันของเผ่าเราให้เจ้าชิ้นหนึ่ง เห็นแก่หน้าของเผ่าเจินหลง พวกเขาคงไม่ปฏิเสธเจ้า”

“ส่วนเผ่าพยัคฆ์ขาวกับเต่าดำก็ไม่ต้องไปคิดแล้ว ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมาพวกเขาซื่อสัตย์กับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งเป็นที่สุด ตอนนั้นถ้าไม่ได้บรรพชนเผ่าเราลงมือช่วยเหลือ ลั่วชิงสวินมารดาของเจ้าอาจจะถูกบรรพชนสองเผ่านี้จับไว้ แล้วส่งคืนให้คนตระกูลลั่วที่ไล่ฆ่ามารดาของเจ้าเหล่านั้น”

นัยน์ตาหลินสวินหดรัดเล็กน้อย ตอนนี้จึงรู้ว่าในแง่ท่าทีที่สี่เผ่าวิญญาณใหญ่ปฏิบัติต่อตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง กลับยังมีความแตกต่างมากมายเช่นนี้

“ข้าได้ยินต้าหวงบอกว่า กระทั่งตอนนี้เจ้าก็ยังไม่เคยหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของตัวเอง ไปเผ่าหงส์เซียนคราวนี้ สามารถไปเชิญคนของ ‘เผ่าจักรพรรดิช่างเทพ’ มาช่วยเจ้าได้”

จู่ๆ อ๋าวซิงถังก็เอ่ยปาก “ในด้านมรรคหลอมอาวุธ เผ่าจักรพรรดิช่างเทพคือผู้โดดเด่นเป็นที่ยอมรับในใต้หล้า บรรพชนของเผ่านั้นได้ฉายา ‘จักรพรรดิศาสตรา’ มาตั้งแต่ต้นยุคดึกดำบรรพ์แล้ว”

หลินสวินประหลาดใจย่างอดไม่ได้ เผ่าจักรพรรดิช่างเทพ!

เพียงได้ยินชื่อก็รู้ว่าในด้านการหลอมอาวุธ เผ่านี้ต้องไม่ธรรมดาแน่

คุยกันอีกพักใหญ่หลินสวินก็ตัดสินใจจะจากไป

ก่อนไปอ๋าวซิงถังกำชับเสียงอ่อนโยนว่า “พลังสายเลือดต้นกำเนิดที่จิ่งเซวียนได้จากบรรพชน ขอเพียงหลอมพลังนั้นได้สมบูรณ์ก็จะแปรสภาพจากรังมังกรสีทองนี้ได้ ภายหน้าเจ้า… ต้องดีกับพวกนางแม่ลูกให้มากๆ”

หลินสวินวางรังมังกรสีทองไว้ในเจดีย์ไร้สิ้นสุด เมื่อได้ยินดังนี้ก็พยักหน้ารับอย่างไม่ลังเลสักนิด

“ท่านป้ามองออกไหมว่ารังมังกรสีทองนี้จะฟักออกมาตอนไหน” หลินสวินถามอย่างอดไม่ได้

อ๋าวซิงถังส่ายหัว “นั่นต้องดูว่าจิ่งเซวียนกับลูกในท้องจะตื่นขึ้นจริงๆ ได้เมื่อไร เรื่องแบบนี้ไม่อาจคาดเดาได้อยู่แล้ว”

หลินสวินพยักหน้าน้อยๆ ไม่ว่าจะอย่างไรขอเพียงรังมังกรสีทองนี้อยู่กับตน ไม่ว่าจิ่งเซวียนกับเด็กคนนั้นจะตื่นขึ้นมาเมื่อไร เขาก็ต้องรู้เป็นคนแรก

วันนั้น หลินสวินให้ซย่าจื้อกับต้าหวงเข้าไปในเจดีย์ไร้สิ้นสุด และภายใต้การมาส่งของจ้าวหยวนจี๋กับอ๋าวซิงถัง เขาก็ออกจากแดนวังมังกรมาเพียงลำพัง

ครึ่งเดือนผ่านไป

จากการนำทางของแผนที่ที่อ๋าวซิงถังมอบให้ หลินสวินหาค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณในโลกอาคมแห่งหนึ่งในทะเลตะวันออกพบ

เมื่อโคจรค่ายกลเคลื่อนย้าย เงาร่างหลินสวินก็หายลับไปทันที

……

รังหงส์เซียน

โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลรูปร่างคล้ายรังสัตว์มหึมาแห่งหนึ่ง ภายในนั้นมีโลกอาคมแดนลับกับมิติอากาศทับซ้อนกันมากมายกระจายตัวอยู่

นายเหนือหัวของโลกนี้คือเผ่าหงส์เซียน

นอกจากนี้รังหงส์เซียนก็มีสิ่งมีชีวิตเผ่าต่างๆ มากมายกระจายตัวกันอยู่เหมือนแดนเจินหลง

นอกเมืองพันวารี

ฮูม!

ห้วงอากาศไหวเคลื่อนเป็นระลอก เงาร่างของหลินสวินปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ พอประเมินโดยรอบเล็กน้อย เงาร่างเขาก็หายไปกลางอากาศ เข้าสู่เมืองพันวารีแล้ว

สองชั่วยามผ่านไป

หลินสวินสืบข่าวที่ตัวเองอยากรู้ทั้งหมดแล้ว และหายานข้ามโลกไปยัง ‘เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง’ ทันที

ชำระค่าใช้จ่าย เข้ายานโดยสาร หลินสวินเหมือนกับผู้โดยสารทั่วไป ไม่ได้พบคลื่นลมอะไรตลอดทาง

กระทั่งเข้าไปในห้องของตัวเอง หลินสวินจึงมีเวลาใคร่ครวญการเคลื่อนไหวต่อไป

ยานข้ามโลกลำนี้กำลังจะไปเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

ถิ่นกำเนิดของเผ่าหงส์เซียนก็ตั้งอยู่ในโลกที่ทับซ้อนแห่งหนึ่งนอกเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง โลกทับซ้อนแห่งนี้มีนามว่า ‘แดนหงส์เซียน’

ถ้าไม่มีคนนำทาง ไม่มีใครหาทางเข้าออกแดนหงส์เซียนนั้นได้

แต่เผ่าหงส์เซียนไม่ได้สูงส่งอย่างเผ่าเจินหลง ส่วนมากลูกหลานเผ่าหงส์เซียนพำนักอยู่ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงมาโดยตลอด

ที่นี่เป็นเมืองที่อัศจรรย์แห่งหนึ่ง สร้างอยู่เหนือทะเลเพลิงไพศาลไร้สิ้นสุด ในทะเลเพลิงนั้นฟูมฟักเพลิงวิญญาณ เพลิงเทพนานาชนิด เรียกได้ว่ามีมากมายนับหมื่นชนิด!

เพลิงเทพบางส่วนในนั้นยังเป็นเพลิงเทพฟ้าประทานชั้นหนึ่งในฟ้าดิน มีประโยชน์น่าเหลือเชื่อมากมาย

บรรพชนเผ่าจักรพรรดิช่างเทพรุ่นแล้วรุ่นเล่าก็อาศัยอยู่ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

เหล่า ‘ช่างเทพ’ ที่เชี่ยวชาญศาสตร์หลอมอาวุธเหล่านี้ประกอบกิจการมานานปี ทำให้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงเป็นเมืองเทพที่เรียกได้ว่าน่าอัศจรรย์แห่งหนึ่ง

ไม่เพียงเมืองจะมีขนาดใหญ่ยิ่ง ยังปกคลุมไปด้วยพลังผนึกต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่สั่นคลอนได้ยากที่สุดในใต้หล้า

ในแดนหงส์เซียน เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงก็สมกับเป็น ‘เมืองอันดับหนึ่งในใต้หล้า’ ดึงดูดผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไรมาจากทั่วสารทิศในทุกๆ วัน

ยานข้ามโลกเดินเครื่องอย่างรวดเร็ว พุ่งทะลุเมฆาออกไป

หลินสวินที่จมสู่ภวังค์ความคิดตัดสินใจได้อย่างหนึ่ง…

ถ้าการเคลื่อนไหวนี้มีโอกาส ก็จะเริ่มหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของตน!

สิบวันผ่านไป

ยานข้ามโลกแล่นผ่านโลกทับซ้อนหลายสิบแห่ง ทะลวงผ่านโลกอาคมนับร้อย ในที่สุดก็มาถึงเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงได้อย่างปลอดภัย

ครืน!

บนยานข้ามโลก เสียงอึงอลราวสายฟ้าระลอกหนึ่งปะทะเข้ามา ร้อนระอุเหมือนกระแสอากาศที่สามารถเผาสรรพสิ่งในใต้หล้าได้ มีอยู่เต็มห้วงอากาศ

หลินสวินก้มหน้าลงมอง ก็เห็นทะเลเพลิงพลุ่งผ่านแถบหนึ่งทะยานอยู่เบื้องล่าง คลื่นไหวเคลื่อนเป็นระลอก ซัดเป็นคลื่นเพลิงมากมาย เปลวเพลิงดุจหินหนืดสะท้อนฟ้าดินเป็นสีแดงถ้วนทั่ว

ทะเลเพลิงแห่งนี้ใหญ่เกินไปแล้ว คล้ายกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ที่พลุ่งพล่านอยู่ในทะเลมีแต่เปลวเพลิงลุกโชน เพลิงเทพเพลิงวิญญาณนับไม่ถ้วนดั่งกระแสธาร ผุดขึ้นในนั้น แสงงดงามหลากสีสันไหววูบ

และบนทะเลเพลิงนี้มีเมืองแห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ เหมือนกับแผ่นดินใหญ่ที่ลอยอยู่ ความใหญ่โตของเมืองถึงกับมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด!

นี่คือเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงอย่างไม่ต้องสงสัย เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของแดนหงส์เซียน สถานที่ที่เรียกได้ว่าอัศจรรย์

เสียงอุทานและตื่นตะลึงดังมาจากบนยานข้ามโลก คนบนยานนี้ส่วนมากเพิ่งเคยมาเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงนี้เหมือนหลินสวิน

ไม่นานนักยานข้ามโลกโรยตัวลงบนผืนดินกว้างใหญ่หน้าเมืองช้าๆ พวกผู้โดยสารอย่างหลินสวินกรูกันออกมา

ใกล้กับประตูเมืองสูงใหญ่มีผนึกลึกลับวางอยู่ สามารถข่มเปลวเพลิงที่จู่โจมจากในทะเลเพลิง เดินอยู่บนนี้ไม่เพียงรู้สึกไม่รู้สึกร้อนระอุ กลับยังรู้สึกสบาย

หลินสวินมองเห็นว่าบนอิฐก้อนมหึมาที่ก่อเป็นกำแพงเมืองนั้น ถึงกับหลอมขึ้นจากเจตวัตถุชั้นยอดที่สุด ประทับด้วยลายมรรคแน่นขนัด ไม่ต้องโคจรก็สามารถดูดซับแก่นพลังในทะเลเพลิงนั้นได้ หล่อหลอมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับพลังป้องกันของเมืองทุกคืนวัน

ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมา เพียงแค่ระดับความแข็งแกร่งของเมืองนี้ก็เทียบเท่ากับศาสตราจักรพรรดิได้แล้ว ยิ่งเมื่อรวมเข้ากับพลังผนึกที่ปกคลุมอยู่บนนั้น สามารถต้านทานการจู่โจมของระดับจักรพรรดิทั่วไปได้เหลือแหล่

‘วิธีของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพไม่ธรรมดาจริงๆ’ แววประหลาดใจฉายวาบในดวงตาหลินสวิน

เขาดูออกว่าเผ่าจักรพรรดิช่างเทพหลอมเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงทั้งเมืองเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง!

ถ้ามีคนสร้างความวุ่นวายในเมือง เพียงแค่ควบคุมพลังผนึกในเมืองนี้ก็สามารถสร้างการคุกคามได้อย่างยิ่งใหญ่แล้ว ระดับจักรพรรดิทั่วไปถ้าติดอยู่ในนั้นก็ต้องประสบเคราะห์แน่

หลินสวินชักสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว เดินเข้าไปในเมือง

ถนนในเมืองมีทั่วทุกที่สะดวกสบาย ล้วนกว้างใหญ่โอฬาร สะอาดสะอ้านดูภูมิฐาน ตึกรามบ้านช่องหลากสีเรียงรายแผ่ขยายออกไปสุดลูกหูลูกตา

บนถนนผู้คนขวักไขว่ เห็นสิ่งมีชีวิตจากเผ่าต่างๆ เดินไปทั่ว ดูคึกคักนัก

ที่นี่เป็นระเบียบเรียบร้อย บรรยากาศสงบสุข ต่อให้เป็นพวกอริยะกับกึ่งจักรพรรดิยังพบเห็นได้เจนตา

ทว่าระดับจักรพรรดิก็ยังหายากยิ่งอยู่ดี ตลอดทางหลินสวินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายระดับจักรพรรดิจำนวนหนึ่ง ล้วนเก็บตัวอยู่ตามที่ต่างๆ ไม่ได้เผยตัว

เกี้ยวสมบัติงดงามมหึมาหลังหนึ่งแล่นมาจากถนนข้างหน้า คนสัญจรที่อยู่ริมทางพากันหลีกทางให้เอง แต่ละคนสีหน้าเจือความเคารพ ถึงขั้นยำเกรง

เพราะบนเกี้ยวสมบัตินั้นประทับสัญลักษณ์ของเผ่าหงส์เซียน หงส์เซียนที่สยายปีกกำลังจะโบยบิน อาบชโลมอยู่ในเพลิงเทพอันงดงามตัวหนึ่ง

พอเกี้ยวสมบัตินี้ผ่านตัวหลินสวิน ทันใดนั้นก็มีเสียงไพเราะเสนาะหูเผยแววตกตะลึงเสียงหนึ่งลอยมา

“คุณชายหลินหรือ”

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2267 เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2267 เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จวบจนภายหลัง อ๋าวซิงถังทำให้ฐานะหัวหน้าเผ่าเจินหลงมั่นคงแน่วนิ่งได้แล้ว หัวหน้าเผ่าของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ถึงรู้ว่าที่แท้หลินสวินคนนั้นดันเป็นลูกเขยของอ๋าวซิงถัง…

ชั่วขณะเดียวต่างตกตะลึงอ้าปากค้างอย่างห้ามไม่อยู่ สูดหายใจหนาเยือกไม่ว่างเว้น

และเป็นตั้งแต่ตอนนั้น ที่เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ล้มเลิกความคิดต่อต้านเผ่าเจินหลงไปโดยสมบูรณ์

พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง

……

ครึ่งเดือนผ่านไป

แดนวังมังกรคืนสู่ความสงบในอดีตแล้ว

รังมังกรสีทองในบ่อมังกรยังคงไม่มีเค้าลางแปรสภาพดังเดิม หลินสวินกลับคิดจะจากไปแล้ว

จ้าวหยวนจี๋กับอ๋าวซิงถังรั้งเอาไว้ แต่เห็นว่าหลินสวินตั้งใจแน่วแน่วแล้วว่าจะไปจึงไม่เกลี้ยกล่อมอีก

“ท่านป้า บรรพชนเจินหลงถูกช่วยออกมา หากตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งรู้เข้าจะต้องไม่เลิกราแต่โดยดีแน่ ข้าหลอมศิลามรรคค้ำสมุทรสี่สิบเก้าหลักโดยสมบูรณ์แล้ว ภายหน้าหากประสบอันตรายอะไร ขอเพียงปิดผนึกแดนวังมังกรนี้ไว้ก็พอ”

ในโถงแห่งหนึ่งหลินสวินเอ่ยเตือน

อ๋าวซิงถังยิ้มเอ่ยว่า “ถ้าตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งมาจริงๆ ขอเพียงข้าครอบครองมุกสยบหล้า พวกเขาก็ทำอะไรเผ่าเราไม่ได้ เจ้าเสียอีก เคยคิดไหวว่าจะใช้เส้นทางเผ่าไหนกลับสู่ทางเดินโบราณฟ้าดารา”

ก่อนหน้านี้นางบอกหลินสวินแล้วว่าจากแดนเจินหลงไม่อาจกลับไปทางเดินโบราณฟ้าดาราได้อีกแล้ว แต่กลับสามารถกลับไปด้วยเส้นทางที่สามเผ่าวิญญาณใหญ่อย่างหงส์เซียน พยัคฆ์ขาว และเต่าดำครอบครองได้

“ขอท่านป้าชี้แนะด้วย” หลินสวินพูด

“ข้าแนะนำว่าไปเผ่าหงส์เซียน”

อ๋าวซิงถังเอ่ย “บรรพชนหงส์เซียนสนิทกับเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ ในกาลเวลาไร้สิ้นสุด ลูกหลานเผ่าหงส์เซียนมากมายต่างแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับลูกหลานตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง ถึงขั้นลูกหลานเผ่าหงส์เซียนมากมายยังใช้แซ่ ‘ลั่ว’”

นางหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “แต่ตั้งแต่มารดาของเจ้าลั่วชิงสวินเกิดเรื่อง เผ่าหงส์เซียนก็ตัดสัมพันธ์กับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง สาเหตุก็เพราะคนที่เผ่าหงส์เซียนยอมรับคือลูกหลานสายเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ ไม่ใช่ทั้งตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง”

ฟังถึงตรงนี้ จู่ๆ หลินสวินก็นึกถึงคนรู้จักคนหนึ่ง…

ลั่วเจีย!

หญิงงามที่ถือกำเนิดในเผ่าหงส์เซียนคนหนึ่ง ตั้งแต่สมัยอยู่ในดินแดนรกร้างโบราณ แม้ความสัมพันธ์ของเขากับลั่วเจียจะไม่ถึงกับสนิทสนมคุ้นเคย แต่ก็จัดว่าเป็นสหายที่ดีต่อกัน

และจากที่อ๋าวซิงถังพูด ลั่วเจียซึ่งมาจากเผ่าหงส์เซียน และยังแซ่ลั่วอีก เกรงว่าคงมีสายเลือดของตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งไหลเวียนอยู่ในร่างเหมือนกับหลินสวิน!

“แต่ถ้าเจ้าไปเผ่าหงส์เซียนจริงๆ ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าเปิดเผยฐานะตัวเองก่อนจะดีที่สุด”

อ๋าวซิงถังกล่าว “ถึงอย่างไรแม้พวกเขาจะตัดสัมพันธ์กับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง แต่ตอนนั้นยามมารดาของเจ้าลั่วชิงสวินประสบเคราะห์ก็ไม่ได้ลงมือช่วยเหลือ ถ้าเจ้าบุ่มบ่ามใช้ฐานะลูกของลั่วชิงสวินไปหา ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดคลื่นลมอะไรหรือเปล่า”

หลินสวินพยักหน้า

อ๋าวซิงถังเอ่ย “รอตอนเจ้าจะจากไป ข้าจะมอบป้ายยืนยันของเผ่าเราให้เจ้าชิ้นหนึ่ง เห็นแก่หน้าของเผ่าเจินหลง พวกเขาคงไม่ปฏิเสธเจ้า”

“ส่วนเผ่าพยัคฆ์ขาวกับเต่าดำก็ไม่ต้องไปคิดแล้ว ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมาพวกเขาซื่อสัตย์กับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งเป็นที่สุด ตอนนั้นถ้าไม่ได้บรรพชนเผ่าเราลงมือช่วยเหลือ ลั่วชิงสวินมารดาของเจ้าอาจจะถูกบรรพชนสองเผ่านี้จับไว้ แล้วส่งคืนให้คนตระกูลลั่วที่ไล่ฆ่ามารดาของเจ้าเหล่านั้น”

นัยน์ตาหลินสวินหดรัดเล็กน้อย ตอนนี้จึงรู้ว่าในแง่ท่าทีที่สี่เผ่าวิญญาณใหญ่ปฏิบัติต่อตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง กลับยังมีความแตกต่างมากมายเช่นนี้

“ข้าได้ยินต้าหวงบอกว่า กระทั่งตอนนี้เจ้าก็ยังไม่เคยหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของตัวเอง ไปเผ่าหงส์เซียนคราวนี้ สามารถไปเชิญคนของ ‘เผ่าจักรพรรดิช่างเทพ’ มาช่วยเจ้าได้”

จู่ๆ อ๋าวซิงถังก็เอ่ยปาก “ในด้านมรรคหลอมอาวุธ เผ่าจักรพรรดิช่างเทพคือผู้โดดเด่นเป็นที่ยอมรับในใต้หล้า บรรพชนของเผ่านั้นได้ฉายา ‘จักรพรรดิศาสตรา’ มาตั้งแต่ต้นยุคดึกดำบรรพ์แล้ว”

หลินสวินประหลาดใจย่างอดไม่ได้ เผ่าจักรพรรดิช่างเทพ!

เพียงได้ยินชื่อก็รู้ว่าในด้านการหลอมอาวุธ เผ่านี้ต้องไม่ธรรมดาแน่

คุยกันอีกพักใหญ่หลินสวินก็ตัดสินใจจะจากไป

ก่อนไปอ๋าวซิงถังกำชับเสียงอ่อนโยนว่า “พลังสายเลือดต้นกำเนิดที่จิ่งเซวียนได้จากบรรพชน ขอเพียงหลอมพลังนั้นได้สมบูรณ์ก็จะแปรสภาพจากรังมังกรสีทองนี้ได้ ภายหน้าเจ้า… ต้องดีกับพวกนางแม่ลูกให้มากๆ”

หลินสวินวางรังมังกรสีทองไว้ในเจดีย์ไร้สิ้นสุด เมื่อได้ยินดังนี้ก็พยักหน้ารับอย่างไม่ลังเลสักนิด

“ท่านป้ามองออกไหมว่ารังมังกรสีทองนี้จะฟักออกมาตอนไหน” หลินสวินถามอย่างอดไม่ได้

อ๋าวซิงถังส่ายหัว “นั่นต้องดูว่าจิ่งเซวียนกับลูกในท้องจะตื่นขึ้นจริงๆ ได้เมื่อไร เรื่องแบบนี้ไม่อาจคาดเดาได้อยู่แล้ว”

หลินสวินพยักหน้าน้อยๆ ไม่ว่าจะอย่างไรขอเพียงรังมังกรสีทองนี้อยู่กับตน ไม่ว่าจิ่งเซวียนกับเด็กคนนั้นจะตื่นขึ้นมาเมื่อไร เขาก็ต้องรู้เป็นคนแรก

วันนั้น หลินสวินให้ซย่าจื้อกับต้าหวงเข้าไปในเจดีย์ไร้สิ้นสุด และภายใต้การมาส่งของจ้าวหยวนจี๋กับอ๋าวซิงถัง เขาก็ออกจากแดนวังมังกรมาเพียงลำพัง

ครึ่งเดือนผ่านไป

จากการนำทางของแผนที่ที่อ๋าวซิงถังมอบให้ หลินสวินหาค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณในโลกอาคมแห่งหนึ่งในทะเลตะวันออกพบ

เมื่อโคจรค่ายกลเคลื่อนย้าย เงาร่างหลินสวินก็หายลับไปทันที

……

รังหงส์เซียน

โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลรูปร่างคล้ายรังสัตว์มหึมาแห่งหนึ่ง ภายในนั้นมีโลกอาคมแดนลับกับมิติอากาศทับซ้อนกันมากมายกระจายตัวอยู่

นายเหนือหัวของโลกนี้คือเผ่าหงส์เซียน

นอกจากนี้รังหงส์เซียนก็มีสิ่งมีชีวิตเผ่าต่างๆ มากมายกระจายตัวกันอยู่เหมือนแดนเจินหลง

นอกเมืองพันวารี

ฮูม!

ห้วงอากาศไหวเคลื่อนเป็นระลอก เงาร่างของหลินสวินปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ พอประเมินโดยรอบเล็กน้อย เงาร่างเขาก็หายไปกลางอากาศ เข้าสู่เมืองพันวารีแล้ว

สองชั่วยามผ่านไป

หลินสวินสืบข่าวที่ตัวเองอยากรู้ทั้งหมดแล้ว และหายานข้ามโลกไปยัง ‘เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง’ ทันที

ชำระค่าใช้จ่าย เข้ายานโดยสาร หลินสวินเหมือนกับผู้โดยสารทั่วไป ไม่ได้พบคลื่นลมอะไรตลอดทาง

กระทั่งเข้าไปในห้องของตัวเอง หลินสวินจึงมีเวลาใคร่ครวญการเคลื่อนไหวต่อไป

ยานข้ามโลกลำนี้กำลังจะไปเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

ถิ่นกำเนิดของเผ่าหงส์เซียนก็ตั้งอยู่ในโลกที่ทับซ้อนแห่งหนึ่งนอกเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง โลกทับซ้อนแห่งนี้มีนามว่า ‘แดนหงส์เซียน’

ถ้าไม่มีคนนำทาง ไม่มีใครหาทางเข้าออกแดนหงส์เซียนนั้นได้

แต่เผ่าหงส์เซียนไม่ได้สูงส่งอย่างเผ่าเจินหลง ส่วนมากลูกหลานเผ่าหงส์เซียนพำนักอยู่ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงมาโดยตลอด

ที่นี่เป็นเมืองที่อัศจรรย์แห่งหนึ่ง สร้างอยู่เหนือทะเลเพลิงไพศาลไร้สิ้นสุด ในทะเลเพลิงนั้นฟูมฟักเพลิงวิญญาณ เพลิงเทพนานาชนิด เรียกได้ว่ามีมากมายนับหมื่นชนิด!

เพลิงเทพบางส่วนในนั้นยังเป็นเพลิงเทพฟ้าประทานชั้นหนึ่งในฟ้าดิน มีประโยชน์น่าเหลือเชื่อมากมาย

บรรพชนเผ่าจักรพรรดิช่างเทพรุ่นแล้วรุ่นเล่าก็อาศัยอยู่ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

เหล่า ‘ช่างเทพ’ ที่เชี่ยวชาญศาสตร์หลอมอาวุธเหล่านี้ประกอบกิจการมานานปี ทำให้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงเป็นเมืองเทพที่เรียกได้ว่าน่าอัศจรรย์แห่งหนึ่ง

ไม่เพียงเมืองจะมีขนาดใหญ่ยิ่ง ยังปกคลุมไปด้วยพลังผนึกต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่สั่นคลอนได้ยากที่สุดในใต้หล้า

ในแดนหงส์เซียน เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงก็สมกับเป็น ‘เมืองอันดับหนึ่งในใต้หล้า’ ดึงดูดผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไรมาจากทั่วสารทิศในทุกๆ วัน

ยานข้ามโลกเดินเครื่องอย่างรวดเร็ว พุ่งทะลุเมฆาออกไป

หลินสวินที่จมสู่ภวังค์ความคิดตัดสินใจได้อย่างหนึ่ง…

ถ้าการเคลื่อนไหวนี้มีโอกาส ก็จะเริ่มหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของตน!

สิบวันผ่านไป

ยานข้ามโลกแล่นผ่านโลกทับซ้อนหลายสิบแห่ง ทะลวงผ่านโลกอาคมนับร้อย ในที่สุดก็มาถึงเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงได้อย่างปลอดภัย

ครืน!

บนยานข้ามโลก เสียงอึงอลราวสายฟ้าระลอกหนึ่งปะทะเข้ามา ร้อนระอุเหมือนกระแสอากาศที่สามารถเผาสรรพสิ่งในใต้หล้าได้ มีอยู่เต็มห้วงอากาศ

หลินสวินก้มหน้าลงมอง ก็เห็นทะเลเพลิงพลุ่งผ่านแถบหนึ่งทะยานอยู่เบื้องล่าง คลื่นไหวเคลื่อนเป็นระลอก ซัดเป็นคลื่นเพลิงมากมาย เปลวเพลิงดุจหินหนืดสะท้อนฟ้าดินเป็นสีแดงถ้วนทั่ว

ทะเลเพลิงแห่งนี้ใหญ่เกินไปแล้ว คล้ายกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ที่พลุ่งพล่านอยู่ในทะเลมีแต่เปลวเพลิงลุกโชน เพลิงเทพเพลิงวิญญาณนับไม่ถ้วนดั่งกระแสธาร ผุดขึ้นในนั้น แสงงดงามหลากสีสันไหววูบ

และบนทะเลเพลิงนี้มีเมืองแห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ เหมือนกับแผ่นดินใหญ่ที่ลอยอยู่ ความใหญ่โตของเมืองถึงกับมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด!

นี่คือเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงอย่างไม่ต้องสงสัย เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของแดนหงส์เซียน สถานที่ที่เรียกได้ว่าอัศจรรย์

เสียงอุทานและตื่นตะลึงดังมาจากบนยานข้ามโลก คนบนยานนี้ส่วนมากเพิ่งเคยมาเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงนี้เหมือนหลินสวิน

ไม่นานนักยานข้ามโลกโรยตัวลงบนผืนดินกว้างใหญ่หน้าเมืองช้าๆ พวกผู้โดยสารอย่างหลินสวินกรูกันออกมา

ใกล้กับประตูเมืองสูงใหญ่มีผนึกลึกลับวางอยู่ สามารถข่มเปลวเพลิงที่จู่โจมจากในทะเลเพลิง เดินอยู่บนนี้ไม่เพียงรู้สึกไม่รู้สึกร้อนระอุ กลับยังรู้สึกสบาย

หลินสวินมองเห็นว่าบนอิฐก้อนมหึมาที่ก่อเป็นกำแพงเมืองนั้น ถึงกับหลอมขึ้นจากเจตวัตถุชั้นยอดที่สุด ประทับด้วยลายมรรคแน่นขนัด ไม่ต้องโคจรก็สามารถดูดซับแก่นพลังในทะเลเพลิงนั้นได้ หล่อหลอมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับพลังป้องกันของเมืองทุกคืนวัน

ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมา เพียงแค่ระดับความแข็งแกร่งของเมืองนี้ก็เทียบเท่ากับศาสตราจักรพรรดิได้แล้ว ยิ่งเมื่อรวมเข้ากับพลังผนึกที่ปกคลุมอยู่บนนั้น สามารถต้านทานการจู่โจมของระดับจักรพรรดิทั่วไปได้เหลือแหล่

‘วิธีของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพไม่ธรรมดาจริงๆ’ แววประหลาดใจฉายวาบในดวงตาหลินสวิน

เขาดูออกว่าเผ่าจักรพรรดิช่างเทพหลอมเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงทั้งเมืองเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง!

ถ้ามีคนสร้างความวุ่นวายในเมือง เพียงแค่ควบคุมพลังผนึกในเมืองนี้ก็สามารถสร้างการคุกคามได้อย่างยิ่งใหญ่แล้ว ระดับจักรพรรดิทั่วไปถ้าติดอยู่ในนั้นก็ต้องประสบเคราะห์แน่

หลินสวินชักสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว เดินเข้าไปในเมือง

ถนนในเมืองมีทั่วทุกที่สะดวกสบาย ล้วนกว้างใหญ่โอฬาร สะอาดสะอ้านดูภูมิฐาน ตึกรามบ้านช่องหลากสีเรียงรายแผ่ขยายออกไปสุดลูกหูลูกตา

บนถนนผู้คนขวักไขว่ เห็นสิ่งมีชีวิตจากเผ่าต่างๆ เดินไปทั่ว ดูคึกคักนัก

ที่นี่เป็นระเบียบเรียบร้อย บรรยากาศสงบสุข ต่อให้เป็นพวกอริยะกับกึ่งจักรพรรดิยังพบเห็นได้เจนตา

ทว่าระดับจักรพรรดิก็ยังหายากยิ่งอยู่ดี ตลอดทางหลินสวินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายระดับจักรพรรดิจำนวนหนึ่ง ล้วนเก็บตัวอยู่ตามที่ต่างๆ ไม่ได้เผยตัว

เกี้ยวสมบัติงดงามมหึมาหลังหนึ่งแล่นมาจากถนนข้างหน้า คนสัญจรที่อยู่ริมทางพากันหลีกทางให้เอง แต่ละคนสีหน้าเจือความเคารพ ถึงขั้นยำเกรง

เพราะบนเกี้ยวสมบัตินั้นประทับสัญลักษณ์ของเผ่าหงส์เซียน หงส์เซียนที่สยายปีกกำลังจะโบยบิน อาบชโลมอยู่ในเพลิงเทพอันงดงามตัวหนึ่ง

พอเกี้ยวสมบัตินี้ผ่านตัวหลินสวิน ทันใดนั้นก็มีเสียงไพเราะเสนาะหูเผยแววตกตะลึงเสียงหนึ่งลอยมา

“คุณชายหลินหรือ”

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+