Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2272 ยอดฝีมือผู้น่าทึ่ง

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2272 ยอดฝีมือผู้น่าทึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2272 ยอดฝีมือผู้น่าทึ่ง

เลี่ยนหงซิ่วแค่นเสียงกล่าวทันที “เรื่องนี้ลือกันทั่วเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงนานแล้ว หากตั้งใจสืบข่าวใครก็รู้กันทั้งนั้น”

หลินสวินยิ้มบางๆ กล่าวว่า “แต่ข้ายังรู้อีกว่า คอขวดที่เจ้าประสบอยู่ตอนนี้ก่อกวนเจ้ามาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีแล้ว แถมตอนนี้ยังไม่พบวิธีจะทะลวงผ่านคอขวดได้”

คราวนี้เลี่ยนหงซิ่วตกใจทันควัน ร้องโพล่งออกมา “เจ้ารู้ได้อย่างไร”

นางไม่อาจสงบอารมณ์ได้ แม้แต่ภายในเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ ก็มีไม่กี่คนที่สามารถบอกเวลาที่นางประสบปัญหาคอขวดออกมาได้อย่างแม่นยำ

ทว่าตอนนี้กลับถูกคนนอกคนหนึ่งบอกตรงจุดในประโยคเดียว!

หลินสวินยิ้มน้อยๆ ชี้ไปยังกระบี่บินเล่มหนึ่งบนโต๊ะจัดแสดง “เวลาหลอมที่กำกับของศาสตราจักรพรรดิชิ้นนี้คือสามพันห้าร้อยปีก่อน และตั้งแต่ศาสตราจักรพรรดิชิ้นนี้ ขณะที่เจ้าหลอมอาวุธได้เริ่มลองรูปแบบใหม่ๆ พยายามทะลวงผลสำเร็จทางด้านการหลอมอาวุธ”

เลี่ยนหงซิ่วเพิ่งกระจ่าง สายตาที่มองทางหลินสวินก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ถึงจะเป็นพวกปราณเทียมฟ้า แต่หากไม่เข้าใจด้านการหลอมอาวุธก็ไม่มีทางมองทะลุเบาะแสเพียงน้อยนิดเช่นนี้จากสมบัติชิ้นเดียวได้เด็ดขาด

ต่อให้เป็นปฐมาจารย์หลอมอาวุธ หากไม่ศึกษาโดยละเอียดก็ยากจะค้นพบเช่นกัน

แต่คนหนุ่มตรงหน้านี้กลับทำได้!

กลับเห็นหลินสวินกล่าวต่อเองว่า “หลังจากหลอมกระบี่บินเล่มนี้ สมบัติเหล่านั้นที่เจ้าหลอมแต่ละชิ้นล้วนเรียกได้ว่ายอดเยี่ยม ความคิดสร้างสรรค์แยบยล โดดเด่นมีเอกลักษณ์ แต่กลับมีร่องรอยกระบี่เอียงแฉลบปลาย สาเหตุก็เพราะความเชี่ยวชาญแกนหลักในการหลอมอาวุธยังไม่ทะลวงอย่างแท้จริง แต่กลับมองออกว่าเจ้าทุ่มเทแรงกายแรงใจมากมายเพื่อฟันฝ่ามันไป นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมข้าถึงระบุได้ว่าปัญหาคอขวดที่เจ้าเผชิญยังไม่อาจก้าวผ่านไปจนถึงตอนนี้”

คำพูดที่เอ่ยออกมานี้ทำเอาเลี่ยนหงซิ่วอึ้งงันอยู่ตรงนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปมา คำพูดของหลินสวินพาให้ใจนางพลุ่งพล่าน ถึงขั้นสั่นสะเทือน

เพราะสิ่งที่หลินสวินพูดมาล้วนไม่ผิดแม้แต่คำเดียว ทุกประโยคทุกถ้อยคำต่างตีแผ่ภาวะคับขันที่นางประสบในด้านการหลอมอาวุธตอนนี้ได้อย่างแม่นยำ!

ส่วนเหยาเถาที่อยู่ข้างกันก็ฟังจนอึ้งค้างแล้ว แขกผู้นี้… หรือจะเป็นยอดฝีมือน่าทึ่งคนหนึ่งกัน

ความสูงส่งของฐานะในเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ และความลึกล้ำเชี่ยวชาญด้านการหลอมอาวุธของเลี่ยนหงซิ่ว นางรู้ดียิ่งกว่าใคร

ทว่าตอนนี้คนนอกคนหนึ่งกลับชี้ปัญหาคอขวดที่เลี่ยนหงซิ่วเผชิญได้ด้วยการสังเกตสมบัติเหล่านั้น นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย!

หลังจากนั้นครู่ใหญ่เลี่ยนหงซิ่วเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน ยามปฏิบัติตัวต่อหลินสวินก็เจือความเคารพนอบน้อมขึ้นมา“ขอบังอาจถามว่าสหายยุทธ์ชื่อแซ่อะไรหรือ”

“หลินเต้ายวน”

หลินสวินกล่าวส่งๆ “หากไม่มีธุระอื่น ข้าคนแซ่หลินขอตัวก่อนล่ะ”

ขณะพูดเขาก็เตรียมจะออกไป สมบัติในร้านช่างเทพแห่งนี้เขาทำความเข้าใจครบทุกชิ้นแล้ว และถือว่าได้ผลเก็บเกี่ยว จุดประกายความคิดให้เขาไม่น้อย

ต่อไปเขาตั้งใจว่าจะไปลองสัมผัสในร้านช่างเทพร้านอื่นๆ ต่อ

“ช้าก่อน”

เลี่ยนหงซิ่วรีบกล่าว “สหายยุทธ์ ก่อนหน้านี้ข้ามีตาหามีแวว ทำให้มองข้ามสหายยุทธ์ไป พอจะอยู่ต่อสักครู่ให้ข้ามอบของชดเชยไถ่โทษได้หรือไม่”

ขณะพูดก็หันไปค้อมกายให้หลินสวินน้อยๆ เจือแววคาดหวัง

ในใจนางมีความคิดที่ไม่อาจควบคุมอย่างหนึ่งกำลังพวยพุ่ง คนที่สามารถชี้ปัญหาคอขวดที่ตนประสบอยู่ได้ภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้ ก็น่าจะชี้แนะให้ตนพอมีโอกาสไขปัญหาคอขวดนี้ได้ด้วยใช่หรือไม่

เหยาเถาอ้าปากหวอ มึนตื้อไปหมด นางกล้าสาบานได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเลี่ยนหงซิ่วปฏิบัติต่อแขกคนหนึ่งอย่างเคารพนบนอบเช่นนี้!

ตลอดเวลาที่ผ่านมาต่อให้เป็นคนใหญ่คนโตระดับจักรพรรดิที่เรียกลมเรียกฝนมาอยู่ต่อหน้า เลี่ยนหงซิ่วก็ยังไม่เคยนอบน้อมเช่นนี้!

“เจ้าอยากให้ข้าช่วยชี้แนะเจ้าหรือ” หลินสวินเผยความคิดของเลี่ยนหงซิ่วในประโยคเดียว

เลี่ยนหงซิ่วสีหน้าอักอ่วนอยู่บ้าง แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ “หากสหายยุทธ์พอจะชี้แนะข้า ช่วยข้าก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้ ขอเพียงเป็นราคาที่ข้าจ่ายไหวล้วนจะตอบรับอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น!”

หลินสวินครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วกล่าว “เอาแบบนี้แล้วกัน เจ้าพาข้าไปดูที่ร้านช่างเทพอื่นๆ ก่อน”

นี่ถือว่าตอบตกลงตนแล้วใช่หรือไม่

เลี่ยนหงซิ่วไม่แน่ใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังรับปากอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “ยินดีอย่างยิ่ง”

“ไปเถอะ”

หลินสวินยิ้มน้อยๆ แล้วเดินออกไปข้างนอก

เลี่ยนหงซิ่วรีบตามหลังไปติดๆ ชนิดก้าวต่อก้าว

มองเห็นภาพนี้อยู่ในสายตา แววตาของข้ารับใช้หญิงเหยาเถาก็เปลี่ยนเป็นคลั่งไคล้ ใจดวงน้อยเต้นรัวระส่ำ มาดของผู้อาวุโสคนนั้น… ช่างชวนหลงใหลนัก…

ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขเก้า

ตอนได้ยินว่าเลี่ยนหงซิ่วมาพร้อมกับระดับจักรพรรดิหนุ่มคนหนึ่ง ปฐมาจารย์หลอมอาวุธเลี่ยนอวิ๋นเทียนซึ่งเป็นผู้ดูแลหลักของที่นี่แทบเข้าใจว่าเป็นคนใหญ่คนโตเผ่าหงส์เซียนมาเยือน จึงรีบร้อนออกมาต้อนรับ

แต่หลังจากเห็นหลินสวิน เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าหมอนี่เป็นใคร เหตุใดถึงทำให้เลี่ยนหงซิ่วที่หยิ่งทระนงหาใดเปรียบร่วมเดินทางมาด้วย

และหลังจากได้ยินเลี่ยนหงซิ่วเล่าเรื่องที่เจอมาเมื่อครู่ ปฏิกิริยาแรกของเลี่ยนอวิ๋นเทียนก็คือ

เจ้าหมอนี่อาจเป็นพวกต้มตุ๋น!

ใครบ้างไม่รู้ว่าในด้านการหลอมอาวุธ ทั่วทั้งแดนหงส์เซียน หากเผ่าจักรพรรดิช่างเทพของพวกเขาเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว

แต่ตอนนี้เลี่ยนหงซิ่วกลับฝากความหวังที่จะทลายปัญหาคอขวดไว้กับคนนอกคนหนึ่ง นี่ช่าง… น่าขันสิ้นดี!

ทว่าเลี่ยนอวิ๋นเทียนกลับไม่ได้เปิดโปงต่อหน้า หากแต่มองสำรวจหลินสวินเงียบๆ ตัดสินใจลองภูมิหลินสวินด้วยตนเอง ใช้ความจริงพิสูจน์ บางทีอาจจะทำให้เลี่ยนหงซิ่วที่หลงเชื่อคำลวงได้สติขึ้นมาบ้าง

กระทั่งหลังจากหลินสวินเยี่ยมชมสมบัติในร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขเก้าครบทุกชิ้นแล้ว เลี่ยนอวิ๋นเทียนจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จากความเห็นสหายยุทธ์หลิน ศาสตราจักรพรรดิเหล่านี้ที่ข้าหลอมเป็นอย่างไรบ้าง”

หลินสวินเหลือบมองเขาคราหนึ่ง พยักหน้ากล่าว “ไม่เลว”

แค่ไม่เลวเองหรือ

เมื่อได้ยินคำประเมินนี้เลี่ยนอวิ๋นเทียนก็อึ้งไปเช่นกัน สายตาแทบจะเหมือนกับเลี่ยนหงซิ่วในตอนแรกไม่มีผิด ภายในใจมีความเดือดดาลที่ถูกกระตุ้นขึ้นมา

เลี่ยนอวิ๋นเทียนสูดหายใจลึก ข่มความขุ่นเคืองภายในใจเอาไว้กล่าวว่า “เช่นนั้นขอเชิญสหายยุทธ์หลินติชมโดยละเอียดได้หรือไม่”

เลี่ยนหงซิ่วก็เผยแววสงสัยใคร่รู้

กลับเห็นหลินสวินกล่าวยิ้มๆ “สหายยุทธ์อยากฟังจริงๆ หรือ”

“แน่นอน” เลี่ยนอวิ๋นเทียนกล่าวอย่างไม่ลังเลใดๆ เขาชักอยากเปิดโปงกลลวงของคนต้มตุ๋นอย่างหลินสวินจนแทบทนไม่ไหวแล้ว

“ความเชี่ยวชาญด้านการหลอมอาวุธของสหายยุทธ์เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมแข็งแกร่ง ศาสตราจักรพรรดิที่หลอมออกมาล้วนไม่ธรรมดายิ่ง…”

หลินสวินเลือกใช้คำอย่างไตร่ตรอง

เลี่ยนอวิ๋นเทียนแค่นหัวเราะในใจ ต่อให้เจ้ายกยอปอปั้นแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ครั้งนี้หากไม่พูดให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ข้าจะแฉกลโกงของเจ้าซึ่งๆ หน้า!

“น่าเสียดาย” หลินสวินถอนใจเบาๆ “หากสหายยุทธ์ไม่รีบทลายอุปสรรคในใจ ผลสำเร็จด้านการหลอมอาวุธชั่วชีวิตนี้เกรงว่าคงจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้แล้ว”

“อุปสรรคในใจ?” เลี่ยนอวิ๋นเทียนขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไร”

หลินสวินชี้บริเวณโต๊ะจัดแสดง กล่าวว่า “เจ้าดูสมบัติเหล่านี้ ล้วนเป็นผลงานเจ้า ทุกชิ้นทั้งรูปแบบและท่วงทำนองล้วนเหมือนกัน ไร้ซึ่งความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลง ทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนๆ กันหมด นี่หมายความได้อย่างเดียว ว่าในด้านการหลอมอาวุธเจ้าล้าหลังไร้พัฒนาแล้ว ซ้ำยังถลำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ภายหน้าหากคิดอยากก้าวผ่านและรุดหน้า เกรงว่าคงยากยิ่งกว่าปีนขึ้นฟ้า…”

เมื่อพูดออกมา เลี่ยนอวิ๋นเทียนอับอายจนพานโกรธอย่างเลี่ยงไม่ได้ “เหลวไหล! ข้าจะล้าหลังไร้พัฒนาได้อย่างไร”

หลินสวินยิ้มอย่างไม่เห็นด้วย “เช่นนั้นข้าขอถามเจ้า เกือบแปดพันปีมานี้เจ้าเคยหลอมศาสตราจักรพรรดิขั้นลึกลับชั้นสูงออกมาได้สักชิ้นหรือไม่ หรือไม่ก็ เจ้าเคยหลอมสมบัติชิ้นไหนที่เหนือกว่าศาสตราจักรพรรดิบนโต๊ะจัดแสดงเหล่านี้บ้าง”

เลี่ยนอวิ๋นเทียนพูดไม่ออกทันที เบื้อใบ้ไร้คำพูด

“แปดพันปี เวลาไม่ใช่สั้นๆ แต่เจ้าก็ทำได้เพียงหลอมศาสตราจักรพรรดิระดับแค่นี้ออกมา นี่… ยังไม่ล้าหลังไร้พัฒนาอีกหรือ”

หลินสวินถอนใจเบาๆ “อุปสรรคทางใจหากไม่กำจัด ชีวิตนี้อย่าหวังจะก้าวหน้าอีกเลย สหายยุทธ์จัดการเอาเองเถิด”

กล่าวจบเขาก็หมุนตัวออกไป เลี่ยนหงซิ่วรีบตามมาติดๆ

ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นางเห็นอยู่ในสายตาทั้งหมด เห็นด้วยกับคำประเมินของหลินสวินอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่าวิเคราะห์ภาวะคับขันของเลี่ยนอวิ๋นเทียนออกมาได้อย่างตรงประเด็น เข็มเดียวเห็นเลือด!

เลี่ยนอวิ๋นเทียนยืนอึ้งค้างอยู่กับที่ เดิมเขามองหลินสวินเป็นนักต้มตุ๋น คิดจะเปิดโปงอย่างแนบเนียน

ทว่าตอนนี้เขากลับหลั่งเหงื่อเย็นท่วมตัว รู้สึกเหมือนถูกคนจับแก้ผ้าล่อนจ้อน ความลับทั้งตัวล้วนถูกเผยออกมา

ครู่ใหญ่เขาก็ร้องเสียงหลงขึ้นมาทันควัน “สหายยุทธ์หลิน ช้าก่อน!” และรีบกุลีกุจอไล่ตาม

เมื่อเห็นเลี่ยนอวิ๋นเทียนไล่ตามมา เลี่ยนหงซิ่วก็อดยิ้มในใจไม่ได้ ก่อนหน้านี้เจ้าเฒ่านี่ยังมัวคลางแคลงใจ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตอนนี้ก็ตามมาอย่างว่าง่ายเหมือนตนไม่มีผิดแล้วไม่ใช่หรือ

ขณะเดียวกันนางยิ่งใคร่รู้ที่มาของหลินสวินมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินว่าในแดนหงส์เซียนมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่ด้วย

เขาเป็นใคร

เหตุใดถึงมีความเชี่ยวชาญที่สูงล้ำสุดหยั่งเช่นนี้

ด้วยความคิดเช่นนี้ พวกเขาทั้งขบวนก็มาถึงร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขแปด

มีเลี่ยนหงซิ่ว เลี่ยนอวิ๋นเทียนเดินทางมาด้วย ย่อมผ่านฉลุยไร้อุปสรรค

หลินสวินเริ่มเดินชมศาสตราจักรพรรดิที่วางเรียงรายบนโต๊ะจัดแสดงเหล่านั้นอีกครั้ง เห็นมากจึงจะรู้มาก และปรับใช้ความรู้ได้อย่างชำนาญ เดินชมตลอดทาง วิธีหลอมศาสตราจักรพรรดิเหล่านั้นที่ได้พบเจอ รวมถึงผลมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้หลินสวินได้จุดประกายความคิดอย่างลึกซึ้ง

การออกแบบศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของตนเองในหัวก็ค่อยๆ มีความเจาะจงมากขึ้น

นี่ก็ทำให้หลินสวินรู้สึกถึงผลเก็บเกี่ยวอย่างอดไม่ได้ คิดว่ามาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว

กระทั่งเขาตั้งใจจะออกไปยังร้านช่างเทพร้านถัดไปอย่างอิ่มอกอิ่มใจ จู่ๆ เลี่ยนหงซิ่วก็เอ่ยปากกล่าว

“สหายยุทธ์ เลี่ยนเฟยเจี่ยที่ดูแลอยู่ที่นี่เป็นปฐมาจารย์ผู้อาวุโสของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ ตอนนี้เขากำลังหลอมศาสตราจักรพรรดิชิ้นหนึ่งอยู่ สหายยุทธ์สนใจจะไปชมหน่อยหรือไม่”

หลินสวินอึ้งไป “ได้หรือ”

เท่าที่เขารู้ ยามเมื่อหลอมสมบัติระดับศาสตราจักรพรรดินี้ สิ่งที่ห้ามเด็ดขาดก็คือถูกโลกภายนอกรบกวน

“ได้แน่นอนอยู่แล้ว”

เลี่ยนอวิ๋นเทียนที่อยู่ข้างกันยิ้มขึ้นมา “สหายยุทธ์เชิญตามข้ามา”

ขณะพูดก็นำทางอยู่ข้างหน้า มุ่งหน้าไปหลังร้านช่างเทพ ปลายระเบียงที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวเป็นแดนลับขนาดเล็กแห่งหนึ่ง

เมื่อเลี่ยนอวิ๋นเทียนล้วงป้ายคำสั่งออกมาโบกเบาๆ ประตูบานหนึ่งก็ถูกเปิดออกเงียบๆ คนทั้งขบวนเดินตามกันเข้าไป

ตูมโครม!

ในแดนลับนี้แดงฉานดั่งเพลิงโหม แม่น้ำหินหนืดสายหนึ่งไหลเชี่ยวโหมกระหน่ำ หอบม้วนคลื่นเพลิง เสียงสะท้อนดังกึกก้อง

เตาหลอมสำริดเก่าแก่ใบหนึ่งลอยอยู่เหนือแม่น้ำหินหนืด แผ่ระลอกคลื่นพลังน่าตกใจออกมา

หน้าเตาหลอมสำริด ชายชราผมเครารุงรังคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ เขาคล้ายพบเจอปัญหายุ่งยากยิ่ง แววตาแข็งค้าง หัวคิ้วขมวดมุ่น ริมฝีปากยังคงขมุบขมิบอะไรบางอย่าง

ตั้งแต่ต้นจนจบถึงกับไม่ได้สังเกตว่าพวกหลินสวินเดินเข้ามาแล้ว

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2272 ยอดฝีมือผู้น่าทึ่ง

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2272 ยอดฝีมือผู้น่าทึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2272 ยอดฝีมือผู้น่าทึ่ง

เลี่ยนหงซิ่วแค่นเสียงกล่าวทันที “เรื่องนี้ลือกันทั่วเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงนานแล้ว หากตั้งใจสืบข่าวใครก็รู้กันทั้งนั้น”

หลินสวินยิ้มบางๆ กล่าวว่า “แต่ข้ายังรู้อีกว่า คอขวดที่เจ้าประสบอยู่ตอนนี้ก่อกวนเจ้ามาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีแล้ว แถมตอนนี้ยังไม่พบวิธีจะทะลวงผ่านคอขวดได้”

คราวนี้เลี่ยนหงซิ่วตกใจทันควัน ร้องโพล่งออกมา “เจ้ารู้ได้อย่างไร”

นางไม่อาจสงบอารมณ์ได้ แม้แต่ภายในเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ ก็มีไม่กี่คนที่สามารถบอกเวลาที่นางประสบปัญหาคอขวดออกมาได้อย่างแม่นยำ

ทว่าตอนนี้กลับถูกคนนอกคนหนึ่งบอกตรงจุดในประโยคเดียว!

หลินสวินยิ้มน้อยๆ ชี้ไปยังกระบี่บินเล่มหนึ่งบนโต๊ะจัดแสดง “เวลาหลอมที่กำกับของศาสตราจักรพรรดิชิ้นนี้คือสามพันห้าร้อยปีก่อน และตั้งแต่ศาสตราจักรพรรดิชิ้นนี้ ขณะที่เจ้าหลอมอาวุธได้เริ่มลองรูปแบบใหม่ๆ พยายามทะลวงผลสำเร็จทางด้านการหลอมอาวุธ”

เลี่ยนหงซิ่วเพิ่งกระจ่าง สายตาที่มองทางหลินสวินก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ถึงจะเป็นพวกปราณเทียมฟ้า แต่หากไม่เข้าใจด้านการหลอมอาวุธก็ไม่มีทางมองทะลุเบาะแสเพียงน้อยนิดเช่นนี้จากสมบัติชิ้นเดียวได้เด็ดขาด

ต่อให้เป็นปฐมาจารย์หลอมอาวุธ หากไม่ศึกษาโดยละเอียดก็ยากจะค้นพบเช่นกัน

แต่คนหนุ่มตรงหน้านี้กลับทำได้!

กลับเห็นหลินสวินกล่าวต่อเองว่า “หลังจากหลอมกระบี่บินเล่มนี้ สมบัติเหล่านั้นที่เจ้าหลอมแต่ละชิ้นล้วนเรียกได้ว่ายอดเยี่ยม ความคิดสร้างสรรค์แยบยล โดดเด่นมีเอกลักษณ์ แต่กลับมีร่องรอยกระบี่เอียงแฉลบปลาย สาเหตุก็เพราะความเชี่ยวชาญแกนหลักในการหลอมอาวุธยังไม่ทะลวงอย่างแท้จริง แต่กลับมองออกว่าเจ้าทุ่มเทแรงกายแรงใจมากมายเพื่อฟันฝ่ามันไป นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมข้าถึงระบุได้ว่าปัญหาคอขวดที่เจ้าเผชิญยังไม่อาจก้าวผ่านไปจนถึงตอนนี้”

คำพูดที่เอ่ยออกมานี้ทำเอาเลี่ยนหงซิ่วอึ้งงันอยู่ตรงนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปมา คำพูดของหลินสวินพาให้ใจนางพลุ่งพล่าน ถึงขั้นสั่นสะเทือน

เพราะสิ่งที่หลินสวินพูดมาล้วนไม่ผิดแม้แต่คำเดียว ทุกประโยคทุกถ้อยคำต่างตีแผ่ภาวะคับขันที่นางประสบในด้านการหลอมอาวุธตอนนี้ได้อย่างแม่นยำ!

ส่วนเหยาเถาที่อยู่ข้างกันก็ฟังจนอึ้งค้างแล้ว แขกผู้นี้… หรือจะเป็นยอดฝีมือน่าทึ่งคนหนึ่งกัน

ความสูงส่งของฐานะในเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ และความลึกล้ำเชี่ยวชาญด้านการหลอมอาวุธของเลี่ยนหงซิ่ว นางรู้ดียิ่งกว่าใคร

ทว่าตอนนี้คนนอกคนหนึ่งกลับชี้ปัญหาคอขวดที่เลี่ยนหงซิ่วเผชิญได้ด้วยการสังเกตสมบัติเหล่านั้น นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย!

หลังจากนั้นครู่ใหญ่เลี่ยนหงซิ่วเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน ยามปฏิบัติตัวต่อหลินสวินก็เจือความเคารพนอบน้อมขึ้นมา“ขอบังอาจถามว่าสหายยุทธ์ชื่อแซ่อะไรหรือ”

“หลินเต้ายวน”

หลินสวินกล่าวส่งๆ “หากไม่มีธุระอื่น ข้าคนแซ่หลินขอตัวก่อนล่ะ”

ขณะพูดเขาก็เตรียมจะออกไป สมบัติในร้านช่างเทพแห่งนี้เขาทำความเข้าใจครบทุกชิ้นแล้ว และถือว่าได้ผลเก็บเกี่ยว จุดประกายความคิดให้เขาไม่น้อย

ต่อไปเขาตั้งใจว่าจะไปลองสัมผัสในร้านช่างเทพร้านอื่นๆ ต่อ

“ช้าก่อน”

เลี่ยนหงซิ่วรีบกล่าว “สหายยุทธ์ ก่อนหน้านี้ข้ามีตาหามีแวว ทำให้มองข้ามสหายยุทธ์ไป พอจะอยู่ต่อสักครู่ให้ข้ามอบของชดเชยไถ่โทษได้หรือไม่”

ขณะพูดก็หันไปค้อมกายให้หลินสวินน้อยๆ เจือแววคาดหวัง

ในใจนางมีความคิดที่ไม่อาจควบคุมอย่างหนึ่งกำลังพวยพุ่ง คนที่สามารถชี้ปัญหาคอขวดที่ตนประสบอยู่ได้ภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้ ก็น่าจะชี้แนะให้ตนพอมีโอกาสไขปัญหาคอขวดนี้ได้ด้วยใช่หรือไม่

เหยาเถาอ้าปากหวอ มึนตื้อไปหมด นางกล้าสาบานได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเลี่ยนหงซิ่วปฏิบัติต่อแขกคนหนึ่งอย่างเคารพนบนอบเช่นนี้!

ตลอดเวลาที่ผ่านมาต่อให้เป็นคนใหญ่คนโตระดับจักรพรรดิที่เรียกลมเรียกฝนมาอยู่ต่อหน้า เลี่ยนหงซิ่วก็ยังไม่เคยนอบน้อมเช่นนี้!

“เจ้าอยากให้ข้าช่วยชี้แนะเจ้าหรือ” หลินสวินเผยความคิดของเลี่ยนหงซิ่วในประโยคเดียว

เลี่ยนหงซิ่วสีหน้าอักอ่วนอยู่บ้าง แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ “หากสหายยุทธ์พอจะชี้แนะข้า ช่วยข้าก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้ ขอเพียงเป็นราคาที่ข้าจ่ายไหวล้วนจะตอบรับอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น!”

หลินสวินครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วกล่าว “เอาแบบนี้แล้วกัน เจ้าพาข้าไปดูที่ร้านช่างเทพอื่นๆ ก่อน”

นี่ถือว่าตอบตกลงตนแล้วใช่หรือไม่

เลี่ยนหงซิ่วไม่แน่ใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังรับปากอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “ยินดีอย่างยิ่ง”

“ไปเถอะ”

หลินสวินยิ้มน้อยๆ แล้วเดินออกไปข้างนอก

เลี่ยนหงซิ่วรีบตามหลังไปติดๆ ชนิดก้าวต่อก้าว

มองเห็นภาพนี้อยู่ในสายตา แววตาของข้ารับใช้หญิงเหยาเถาก็เปลี่ยนเป็นคลั่งไคล้ ใจดวงน้อยเต้นรัวระส่ำ มาดของผู้อาวุโสคนนั้น… ช่างชวนหลงใหลนัก…

ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขเก้า

ตอนได้ยินว่าเลี่ยนหงซิ่วมาพร้อมกับระดับจักรพรรดิหนุ่มคนหนึ่ง ปฐมาจารย์หลอมอาวุธเลี่ยนอวิ๋นเทียนซึ่งเป็นผู้ดูแลหลักของที่นี่แทบเข้าใจว่าเป็นคนใหญ่คนโตเผ่าหงส์เซียนมาเยือน จึงรีบร้อนออกมาต้อนรับ

แต่หลังจากเห็นหลินสวิน เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าหมอนี่เป็นใคร เหตุใดถึงทำให้เลี่ยนหงซิ่วที่หยิ่งทระนงหาใดเปรียบร่วมเดินทางมาด้วย

และหลังจากได้ยินเลี่ยนหงซิ่วเล่าเรื่องที่เจอมาเมื่อครู่ ปฏิกิริยาแรกของเลี่ยนอวิ๋นเทียนก็คือ

เจ้าหมอนี่อาจเป็นพวกต้มตุ๋น!

ใครบ้างไม่รู้ว่าในด้านการหลอมอาวุธ ทั่วทั้งแดนหงส์เซียน หากเผ่าจักรพรรดิช่างเทพของพวกเขาเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว

แต่ตอนนี้เลี่ยนหงซิ่วกลับฝากความหวังที่จะทลายปัญหาคอขวดไว้กับคนนอกคนหนึ่ง นี่ช่าง… น่าขันสิ้นดี!

ทว่าเลี่ยนอวิ๋นเทียนกลับไม่ได้เปิดโปงต่อหน้า หากแต่มองสำรวจหลินสวินเงียบๆ ตัดสินใจลองภูมิหลินสวินด้วยตนเอง ใช้ความจริงพิสูจน์ บางทีอาจจะทำให้เลี่ยนหงซิ่วที่หลงเชื่อคำลวงได้สติขึ้นมาบ้าง

กระทั่งหลังจากหลินสวินเยี่ยมชมสมบัติในร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขเก้าครบทุกชิ้นแล้ว เลี่ยนอวิ๋นเทียนจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จากความเห็นสหายยุทธ์หลิน ศาสตราจักรพรรดิเหล่านี้ที่ข้าหลอมเป็นอย่างไรบ้าง”

หลินสวินเหลือบมองเขาคราหนึ่ง พยักหน้ากล่าว “ไม่เลว”

แค่ไม่เลวเองหรือ

เมื่อได้ยินคำประเมินนี้เลี่ยนอวิ๋นเทียนก็อึ้งไปเช่นกัน สายตาแทบจะเหมือนกับเลี่ยนหงซิ่วในตอนแรกไม่มีผิด ภายในใจมีความเดือดดาลที่ถูกกระตุ้นขึ้นมา

เลี่ยนอวิ๋นเทียนสูดหายใจลึก ข่มความขุ่นเคืองภายในใจเอาไว้กล่าวว่า “เช่นนั้นขอเชิญสหายยุทธ์หลินติชมโดยละเอียดได้หรือไม่”

เลี่ยนหงซิ่วก็เผยแววสงสัยใคร่รู้

กลับเห็นหลินสวินกล่าวยิ้มๆ “สหายยุทธ์อยากฟังจริงๆ หรือ”

“แน่นอน” เลี่ยนอวิ๋นเทียนกล่าวอย่างไม่ลังเลใดๆ เขาชักอยากเปิดโปงกลลวงของคนต้มตุ๋นอย่างหลินสวินจนแทบทนไม่ไหวแล้ว

“ความเชี่ยวชาญด้านการหลอมอาวุธของสหายยุทธ์เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมแข็งแกร่ง ศาสตราจักรพรรดิที่หลอมออกมาล้วนไม่ธรรมดายิ่ง…”

หลินสวินเลือกใช้คำอย่างไตร่ตรอง

เลี่ยนอวิ๋นเทียนแค่นหัวเราะในใจ ต่อให้เจ้ายกยอปอปั้นแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ครั้งนี้หากไม่พูดให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ข้าจะแฉกลโกงของเจ้าซึ่งๆ หน้า!

“น่าเสียดาย” หลินสวินถอนใจเบาๆ “หากสหายยุทธ์ไม่รีบทลายอุปสรรคในใจ ผลสำเร็จด้านการหลอมอาวุธชั่วชีวิตนี้เกรงว่าคงจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้แล้ว”

“อุปสรรคในใจ?” เลี่ยนอวิ๋นเทียนขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไร”

หลินสวินชี้บริเวณโต๊ะจัดแสดง กล่าวว่า “เจ้าดูสมบัติเหล่านี้ ล้วนเป็นผลงานเจ้า ทุกชิ้นทั้งรูปแบบและท่วงทำนองล้วนเหมือนกัน ไร้ซึ่งความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลง ทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนๆ กันหมด นี่หมายความได้อย่างเดียว ว่าในด้านการหลอมอาวุธเจ้าล้าหลังไร้พัฒนาแล้ว ซ้ำยังถลำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ภายหน้าหากคิดอยากก้าวผ่านและรุดหน้า เกรงว่าคงยากยิ่งกว่าปีนขึ้นฟ้า…”

เมื่อพูดออกมา เลี่ยนอวิ๋นเทียนอับอายจนพานโกรธอย่างเลี่ยงไม่ได้ “เหลวไหล! ข้าจะล้าหลังไร้พัฒนาได้อย่างไร”

หลินสวินยิ้มอย่างไม่เห็นด้วย “เช่นนั้นข้าขอถามเจ้า เกือบแปดพันปีมานี้เจ้าเคยหลอมศาสตราจักรพรรดิขั้นลึกลับชั้นสูงออกมาได้สักชิ้นหรือไม่ หรือไม่ก็ เจ้าเคยหลอมสมบัติชิ้นไหนที่เหนือกว่าศาสตราจักรพรรดิบนโต๊ะจัดแสดงเหล่านี้บ้าง”

เลี่ยนอวิ๋นเทียนพูดไม่ออกทันที เบื้อใบ้ไร้คำพูด

“แปดพันปี เวลาไม่ใช่สั้นๆ แต่เจ้าก็ทำได้เพียงหลอมศาสตราจักรพรรดิระดับแค่นี้ออกมา นี่… ยังไม่ล้าหลังไร้พัฒนาอีกหรือ”

หลินสวินถอนใจเบาๆ “อุปสรรคทางใจหากไม่กำจัด ชีวิตนี้อย่าหวังจะก้าวหน้าอีกเลย สหายยุทธ์จัดการเอาเองเถิด”

กล่าวจบเขาก็หมุนตัวออกไป เลี่ยนหงซิ่วรีบตามมาติดๆ

ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นางเห็นอยู่ในสายตาทั้งหมด เห็นด้วยกับคำประเมินของหลินสวินอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่าวิเคราะห์ภาวะคับขันของเลี่ยนอวิ๋นเทียนออกมาได้อย่างตรงประเด็น เข็มเดียวเห็นเลือด!

เลี่ยนอวิ๋นเทียนยืนอึ้งค้างอยู่กับที่ เดิมเขามองหลินสวินเป็นนักต้มตุ๋น คิดจะเปิดโปงอย่างแนบเนียน

ทว่าตอนนี้เขากลับหลั่งเหงื่อเย็นท่วมตัว รู้สึกเหมือนถูกคนจับแก้ผ้าล่อนจ้อน ความลับทั้งตัวล้วนถูกเผยออกมา

ครู่ใหญ่เขาก็ร้องเสียงหลงขึ้นมาทันควัน “สหายยุทธ์หลิน ช้าก่อน!” และรีบกุลีกุจอไล่ตาม

เมื่อเห็นเลี่ยนอวิ๋นเทียนไล่ตามมา เลี่ยนหงซิ่วก็อดยิ้มในใจไม่ได้ ก่อนหน้านี้เจ้าเฒ่านี่ยังมัวคลางแคลงใจ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตอนนี้ก็ตามมาอย่างว่าง่ายเหมือนตนไม่มีผิดแล้วไม่ใช่หรือ

ขณะเดียวกันนางยิ่งใคร่รู้ที่มาของหลินสวินมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินว่าในแดนหงส์เซียนมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่ด้วย

เขาเป็นใคร

เหตุใดถึงมีความเชี่ยวชาญที่สูงล้ำสุดหยั่งเช่นนี้

ด้วยความคิดเช่นนี้ พวกเขาทั้งขบวนก็มาถึงร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขแปด

มีเลี่ยนหงซิ่ว เลี่ยนอวิ๋นเทียนเดินทางมาด้วย ย่อมผ่านฉลุยไร้อุปสรรค

หลินสวินเริ่มเดินชมศาสตราจักรพรรดิที่วางเรียงรายบนโต๊ะจัดแสดงเหล่านั้นอีกครั้ง เห็นมากจึงจะรู้มาก และปรับใช้ความรู้ได้อย่างชำนาญ เดินชมตลอดทาง วิธีหลอมศาสตราจักรพรรดิเหล่านั้นที่ได้พบเจอ รวมถึงผลมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้หลินสวินได้จุดประกายความคิดอย่างลึกซึ้ง

การออกแบบศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของตนเองในหัวก็ค่อยๆ มีความเจาะจงมากขึ้น

นี่ก็ทำให้หลินสวินรู้สึกถึงผลเก็บเกี่ยวอย่างอดไม่ได้ คิดว่ามาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว

กระทั่งเขาตั้งใจจะออกไปยังร้านช่างเทพร้านถัดไปอย่างอิ่มอกอิ่มใจ จู่ๆ เลี่ยนหงซิ่วก็เอ่ยปากกล่าว

“สหายยุทธ์ เลี่ยนเฟยเจี่ยที่ดูแลอยู่ที่นี่เป็นปฐมาจารย์ผู้อาวุโสของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ ตอนนี้เขากำลังหลอมศาสตราจักรพรรดิชิ้นหนึ่งอยู่ สหายยุทธ์สนใจจะไปชมหน่อยหรือไม่”

หลินสวินอึ้งไป “ได้หรือ”

เท่าที่เขารู้ ยามเมื่อหลอมสมบัติระดับศาสตราจักรพรรดินี้ สิ่งที่ห้ามเด็ดขาดก็คือถูกโลกภายนอกรบกวน

“ได้แน่นอนอยู่แล้ว”

เลี่ยนอวิ๋นเทียนที่อยู่ข้างกันยิ้มขึ้นมา “สหายยุทธ์เชิญตามข้ามา”

ขณะพูดก็นำทางอยู่ข้างหน้า มุ่งหน้าไปหลังร้านช่างเทพ ปลายระเบียงที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวเป็นแดนลับขนาดเล็กแห่งหนึ่ง

เมื่อเลี่ยนอวิ๋นเทียนล้วงป้ายคำสั่งออกมาโบกเบาๆ ประตูบานหนึ่งก็ถูกเปิดออกเงียบๆ คนทั้งขบวนเดินตามกันเข้าไป

ตูมโครม!

ในแดนลับนี้แดงฉานดั่งเพลิงโหม แม่น้ำหินหนืดสายหนึ่งไหลเชี่ยวโหมกระหน่ำ หอบม้วนคลื่นเพลิง เสียงสะท้อนดังกึกก้อง

เตาหลอมสำริดเก่าแก่ใบหนึ่งลอยอยู่เหนือแม่น้ำหินหนืด แผ่ระลอกคลื่นพลังน่าตกใจออกมา

หน้าเตาหลอมสำริด ชายชราผมเครารุงรังคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ เขาคล้ายพบเจอปัญหายุ่งยากยิ่ง แววตาแข็งค้าง หัวคิ้วขมวดมุ่น ริมฝีปากยังคงขมุบขมิบอะไรบางอย่าง

ตั้งแต่ต้นจนจบถึงกับไม่ได้สังเกตว่าพวกหลินสวินเดินเข้ามาแล้ว

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+