Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2278 เข้าแดนลับ

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2278 เข้าแดนลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินสวินกล่าวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศจอแจเช่นนี้ “หลอมอาวุธครั้งนี้ ข้าคนแซ่หลินย่อมไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือและเฝ้าสังเกตของทุกท่าน เพียงแต่ก่อนจะหลอมอาวุธกลับต้องเตรียมความพร้อมสักหน่อย”

เลี่ยนจิ่วเซียวกล่าวอย่างไม่ลังเลใดๆ “สหายยุทธ์หลินเชิญว่ามาได้เลย”

“ข้าต้องการฝึกมือ ดังนั้นหวังว่าหากมีงานหลอมอาวุธ ขอเป็นงานหลอมอาวุธศาสตราจักรพรรดิจะดีที่สุด โปรดเอื้อความสะดวกให้ข้าคนแซ่หลินด้วย”

หลินสวินกล่าวอย่างใคร่ครวญ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยหลอมศาสตราจักรพรรดิมาก่อน หากไม่ฝึกฝนเคี่ยวกรำ ทะเล่อทะล่าไปหลอม เป็นไปได้สูงที่จะเกิดเหตุขึ้น

ยิ่งกว่านั้นขั้นตอนการฝึกฝีมือก็เป็นการเคี่ยวกรำสั่งสมอย่างหนึ่งเช่นกัน

ก็เทียบได้กับก่อนที่ยอดฝีมือจะต่อสู้ มักปิดด่าน ปรับสภาพของตนเองให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดก่อนเสมอ

หลอมอาวุธก็เป็นแบบเดียวกัน

และเมื่อได้ยินคำขอข้อนี้ของหลินสวิน เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นี้ยิ่งฮึกเหิมขึ้นเรื่อยๆ ตอบตกลงแทนเลี่ยนจิ่วเซียวโดยไม่ลังเลใดๆ

การฝึกฝีมือของหลินสวิน สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นโอกาสที่จะได้สังเกตการณ์ด้วยเช่นกัน!

ส่วนงานหลอมอาวุธ…

ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงแห่งนี้มีน้อยซะเมื่อไหร่

ควรรู้ว่างานหลอมอาวุธที่ร้านช่างเทพรับไว้ในตอนนี้ มีรายการจองยาวเหยียดไปจนถึงหลายปีต่อจากนี้!

“อีกอย่างข้าต้องการเจตวัตถุบางส่วน”

หลินสวินเพิ่งเอ่ยขอก็ได้รับการตอบกลับจากเลี่ยนจิ่วเซียวทันที “สหายยุทธ์หลินเจ้าแค่เขียนเจตวัตถุที่ต้องการออกมา หากเผ่าจักรพรรดิช่างเทพของข้ามีจะหามาให้เต็มที่ ต่อให้ไม่มีก็จะซื้อมากองให้เจ้า!”

กลิ่นอายเผด็จการแผ่ซ่าน

หลังจากหลินสวินกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มก็เอ่ยคำขอที่สามออกมา “หากเป็นไปได้ ข้าหวังอยากพบจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงสักครั้ง”

บรรยากาศที่คึกคักในตอนแรก เมื่อประโยคนี้ดังขึ้นก็เงียบกริบลงทันที ทุกคนต่างมองหน้ากัน

เลี่ยนจิ่วเซียวถอนใจเบาๆ กล่าวว่า “สหายยุทธ์หลิน หลายปีก่อนหน้านี้ใต้เท้าจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงก็เริ่มปิดด่านแล้ว คำขอข้อนี้เกรงว่า…”

หลินสวินพยักหน้ากล่าว “เรื่องนี้ข้าเข้าใจ แต่ทุกท่านโปรดอนุญาตให้ข้าหลอมอาวุธในแดนลับของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งแห่งนี้ด้วยเถอะ”

แดนลับแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญแกนหลักของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ เชื่อมสู่ส่วนลึกของทะเลเพลิงใต้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง สามารถเชื่อมต่อกับพลังแห่งเพลิงมรรคฟ้าประทานได้

แน่นอน เท่าที่หลินสวินรู้มา จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงนั่นก็ปิดด่านอยู่ในส่วนลึกทะเลเพลิงนั้นเหมือนกัน

ขอเพียงหลอมอาวุธในแดนลับนั่นได้ หลินสวินไม่เชื่อหรอกว่าจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงจะไม่ปรากฏตัวมาให้เห็นเลย!

แต่เหนือความคาดหมายของหลินสวิน สำหรับคำขอนี้ เลี่ยนจิ่วเซียวกลับยังลังเลอยู่มากอย่างเห็นได้ชัด คล้ายประสบปัญหาใหญ่

มีเพียงเฒ่าดึกดำบรรพ์ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ดีว่าแดนลับของที่นี่หมายความว่าอย่างไร ตั้งแต่อดีตตราบจนบัดนี้ไม่เคยมีคนนอกเข้าไปสักคน

เพียงแต่สาเหตุในนี้ เลี่ยนจิ่วเซียวรวมถึงเฒ่าดึกดำบรรพ์ไม่กี่คนนั้นกลับไม่สามารถบอกหลินสวินได้

ฉะนั้นพวกเขาจึงล้วนลังเลยิ่ง

ชั่วขณะเดียวบรรยากาศในที่นี้ล้วนเปลี่ยนเป็นเงียบกริบกดดันขึ้นมา

“เรื่องนี้ตอบรับสหายยุทธ์หลินได้”

ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นหน้าประตูโถงใหญ่ ทุกคนหันไปมองก็เห็นชายน่าเกรงขามที่สวมชุดม่วง หล่อเหลาเหนือธรรมดาคนหนึ่งเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“หัวหน้าเผ่า!” ลั่วเจียอึ้งงัน

คนผู้นี้ก็คือหวงชางเทียนหัวหน้าเผ่าหงส์เซียน

เลี่ยนจิ่วเซียวและคนใหญ่คนโตเผ่าจักรพรรดิช่างเทพทั้งกลุ่มต่างก็อึ้งทึ่งตามๆ กัน จากนั้นล้วนคารวะทักทาย

เผ่าหงส์เซียนก็คือนายเหนือหัวของแดนหงส์เซียน ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดมานี้ เผ่าจักรพรรดิช่างเทพของพวกเขาเป็นบริวารใต้อาณัติเผ่าหงส์เซียนมาตลอด

เพียงแต่ใครก็ไม่คาดคิดว่าคนใหญ่คนโตที่ปกติยากจะพบอย่างหวงชางเทียน คนที่เหมือนเป็นนายเหนือหัวเช่นนี้ วันนี้ถึงกับมาเยือนร้านช่างเทพ

ชั่วขณะเดียวทุกคนต่างตกใจผสมความกังขา

กลับเห็นหวงชางเทียนมองตรงไปยังหลินสวิน กล่าวเจือรอยยิ้มว่า “เจ้าก็คือหลินสวินที่แม่หนูลั่วเจียพูดถึงกระมัง เมื่อวานขอบคุณความยึดมั่นชอบธรรมของเจ้ายิ่งนัก ที่นำข่าวสำคัญมาให้เผ่าของพวกเรา”

หลินสวินประสานหมัดกล่าว “แค่เรื่องเล็กน้อย อย่าไปเอ่ยถึงเลย”

ขณะพูดหลินสวินก็หยิบของยืนยันของเผ่าเจินหลงที่อ๋าวซิงถังมอบให้เขาออกมา แล้วยื่นให้หวงชางเทียน “นี่คือเครื่องยืนยันที่ข้าคนแซ่หลินนำมาในครั้งนี้ ผู้อาวุโสโปรดตรวจดู”

ว่าไปแล้วหวงชางเทียนเป็นผู้อาวุโสของลั่วเจีย การเรียกว่าผู้อาวุโสก็สมเหตุสมผล

“เรื่องของเจ้า ลั่วเจียเล่าให้ฟังหมดแล้ว มีเครื่องยืนยันหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ”

หวงชางเทียนเอ่ยปากพร้อมรอยยิ้ม เพียงแต่เมื่อหยิบเครื่องยืนยันไปดู สายตาเขากลับเปลี่ยนไปทันควัน อึ้งค้างอยู่ตรงนั้น

เพราะในเทียบจดหมายปิดผนึกนั่น อ๋าวซิงถังเขียนที่มาของหลินสวินด้วยลายมือตัวเอง!

เมื่อเห็นแววตาผิดปกติของหวงชางเทียน ในใจพวกเลี่ยนจิ่วเซียวก็ยิ่งคลางแคลงขึ้นเรื่อยๆ ตัวตนของหลินเต้ายวนคนนี้มีปัญหาอะไรจริงๆ งั้นหรือ

ส่วนหลินสวินก็เดาได้เลาๆ ว่าในเทียบจดหมายที่อ๋าวซิงถังมอบให้ เกรงว่าคงเปิดเผยฐานะของตนแล้ว

ครู่ใหญ่หวงชางเทียนถึงเก็บเครื่องยืนยันไว้ด้วยสายตาซับซ้อน กล่าวว่า “สหายน้อย ข้าเข้าใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร ขอเพียงเผ่าหงส์เซียนของข้าทำให้ได้ จะหามาตามที่เจ้าต้องการ”

เขาไม่ได้เปิดเผยฐานะของหลินสวิน นี่ละเอียดอ่อนเกินไป!

เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงในตอนนี้ยังไม่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งของเผ่าเสือขาวและเต่าดำแฝงตัวอยู่มากน้อยแค่ไหน หากให้พวกเขารู้ฐานะของหลินสวิน ต้องชักนำคลื่นลมที่ไม่อาจคาดเดาได้แน่นอน!

หลินสวินใคร่ครวญครู่หนึ่งก็เข้าใจความหวังดีของหวงชางเทียน ประสานหมัดกล่าวว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสยิ่งนัก”

และตอนนี้บรรดาคนใหญ่คนโตเผ่าจักรพรรดิช่างเทพอย่างพวกเลี่ยนจิ่วเซียวต่างก็มีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นกัน ตระหนักได้ว่าฐานะของหลินสวินไม่ธรรมดาเกินกว่าที่พวกเขาคิดไว้ไกลโข!

“สหายยุทธ์ อนุญาตให้สหายยุทธ์หลินเข้าไปหลอมอาวุธในแดนลับนั้นได้จริงๆ หรือ” เลี่ยนจิ่วเซียวอดถามขึ้นอีกครั้งไม่ได้

“ได้”

หวงชางเทียนกล่าวยิ้มๆ “ในระหว่างหลอมอาวุธ หากขาดตกอะไรเผ่าหงส์เซียนของเราจะจัดหาให้!”

พวกเลี่ยนจิ่วเซียวต่างคึกคักขึ้นมา

“หากเผ่าหงส์เซียนต้องการ ข้าก็พอช่วยหลอมสมบัติให้ได้บางส่วน” หลินสวินกล่าวเสริมหนึ่งประโยค

อย่างไรก็เป็นการฝึกฝีมือ ช่วยใครหลอมอาวุธก็เหมือนๆ กัน

หวงชางเทียนหัวเราะลั่นทันที “เช่นนั้นข้าขอบคุณสหายน้อยล่วงหน้าแล้ว”

ก่อนหน้านี้เขาเห็นท่าทีที่พวกเลี่ยนจิ่วเซียวปฏิบัติต่อหลินสวินอยู่ในสายตา มีหรือจะไม่เข้าใจว่าคนที่ทำให้เผ่าจักรพรรดิช่างเทพยอมไว้ใจ ความเชี่ยวชาญด้านการหลอมอาวุธต้องไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบชั้นได้

“สหายยุทธ์หลิน เจ้าตั้งใจจะเริ่มหลอมอาวุธเมื่อไหร่” เลี่ยนจิ่วเซียวหันมองหลินสวิน

“เลือกฤกษ์ยามไม่สู้ปล่อยตามธรรมชาติ ตอนนี้เลยก็ได้” หลินสวินกล่าว

ทุกคนต่างฮึกเหิม ยินดีไม่สร่าง พวกเขาก็ทนไม่ไหวอยากลองชมฝีมือของหลินสวินไวๆ ใจจะขาดแล้วเหมือนกัน

จากนั้นเลี่ยนจิ่วเซียวก็นำทาง คนทั้งขบวนเดินเข้าสู่แดนลับของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง

หวงชางเทียนกลับไม่ได้ไปมุงดูเรื่องสนุก มองดูหลินสวินที่ถูกรายล้อมเดินจากไปแล้ว ในใจเขาก็ทอดถอนใจอีกระลอก

ปีนั้นเพราะลั่วชิงสวินเป็นเหตุ เผ่าหงส์เซียนจึงตัดขาดกับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง

ตอนนี้บุตรชายของลั่วชิงสวินมุ่งหน้ามาเปิดโปงอุบายที่จ้องเล่นงานเผ่าหงส์เซียน

นี่เสมือนเป็นผลกรรมอย่างหนึ่ง กำลังคืนสนองอยู่ในตอนนี้

‘เสือขาว เต่าดำ ตระกูลลั่ว…’ นัยน์ตาหวงชางเทียนเปลี่ยนเป็นลึกเข้มขึ้นมา จมสู่ห้วงคิดเนิ่นนาน

โครมครืน…

เปลวเพลิงโหมกระหน่ำพุ่งสูงเสียดฟ้า หอบม้วนมังกรเพลิงแสบตานับไม่ถ้วน สั่นสะเทือนฟ้าดิน แผ่กระแสลมร้อนราวแผดเผาภูผาธาราออกมา

บางครั้งยังมองเห็นเพลิงเทพฟ้าดินสีชาด สีเขียว สีดำ สีเงิน สีทอง… ที่พบเห็นได้ยากหาใดเปรียบทุกรูปแบบพริบวาบโฉบแล่นกลางฟ้าดิน เทียบผลุบเทียวโผล่

สถานที่นี้ดุจดั่งอาณาจักรเปลวเพลิงแห่งหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะมีพลังผนึกเป็นชั้นๆ ปิดครอบในนั้น ผู้ฝึกปราณทั่วไปไม่สามารถก้าวเข้าไปได้แม้แต่ก้าวเดียว

ที่นี่ย่อมเป็นเขตหวงห้ามที่สุดของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง…

โลกแดนลับ

ตรงกลางมีลานมรรคที่กินพื้นที่หมื่นจั้งอยู่แห่งหนึ่ง

ใจกลางลานมรรค เตาหลอมสำริดเก่าแก่ใบหนึ่งตั้งตระหง่าน เปล่งประกายดุจเนื้อหยกออกมา ปากเตาพวยพุ่งแสงมรรค มอบกลิ่นอายแห่งกาลเวลาลอยปะทะหน้าผู้คน

เลี่ยนจิ่วเซียวอธิบายคร่าวๆ ทำให้หลินสวินรู้ว่าใต้ลานมรรคนี้ก็คือส่วนลึกที่สุดของทะเลเพลิงใต้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

เตาหลอมที่อยู่ใจกลางลานมรรค ก็คือเตาหลอมอาวุธใบแรกที่หลอมโดยอิงจากรูปแบบเตามารดาหลอมสมบัติ หลังจากจักรพรรดิศาสตราบรรพชนของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพกลับมาจากแหล่งสถานคุนหลุน

อย่ามองว่าเป็นเพียงของเลียนแบบ ตอนนี้นี่เป็นถึงอาวุธสำคัญพิทักษ์เผ่าอย่างหนึ่ง ถูกมองเป็นเตาหลอมอาวุธอันดับหนึ่งของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ

“สหายยุทธ์หลินเชิญดู ในโลกนี้เพลิงเทพที่กระจายตัวอยู่มีมากถึงหนึ่งพันสามร้อยกว่าชนิด เพลิงเทพที่จัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยมที่สุดในโลกมีถึงสิบเก้าชนิด”

เลี่ยนจิ่วเซียวเอ่ยแนะนำแก่หลินสวินด้วยสีหน้าลำพองและภาคภูมิใจ “สิ่งเหล่านี้เผ่าพวกเราล้วนตระเวนหาทุกซอกมุมทั่วหล้าในกาลเวลาไร้สิ้นสุด กล่าวอย่างไม่เกินจริง ทอดสายตามองทั่วหล้า เกรงว่าคงหาที่ที่มีเพลิงเทพเยอะขนาดนี้ไม่เจอสักแห่ง”

บรรดาเฒ่าดึกดำบรรพ์เหล่านั้นต่างพยักหน้าหงึกๆ

“น่าตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ”

ในใจหลินสวินก็สะเทือนไม่หาย สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้เขาได้เปิดโลก ยอมรับว่าหากหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์อยู่ที่นี่ก็เพียงพอแล้ว

หืม?

จู่ๆ สายตาหลินสวินก็วาบประกายแปลกไป ก้อนทองแดงของเตามารดาหลอมสมบัติที่ถูกเขาเก็บไว้กับตัวก้อนนั้นถึงกับเกิดริ้วคลื่นประหลาด คล้ายสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง

เกือบจะในเวลาเดียวกัน หลินสวินตระหนักได้อย่างว่องไวว่าในมุมมืดของแดนลับ คล้ายมีจิตรับรู้เสี้ยวหนึ่งกวาดผ่านตนไป

แม้จะแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่หลินสวินกล้าฟันธงว่านี่ไม่ใช่ความรู้สึกไปเอง!

‘เป็นเจ้าหรือ…’

ในสมองหลินสวินผุดชื่อจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงขึ้นมา

เพียงแต่ตอนที่เขาสัมผัสอย่างละเอียด ก้อนทองแดงของเตามารดาหลอมสมบัติกลับจมสู่ความเงียบงันอีกครั้ง ราวกับถูกตัดขาดการตอบสนอง

หลินสวินยิ้มไม่ใส่ใจ เขากล้าฟันธงว่าขอเพียงตนหลอมอาวุธอยู่ที่นี่ จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงนั่นช้าเร็วก็คงอดไม่ไหวอยากพบตนเอง

“สหายยุทธ์หลิน นี่คืองานหลอมศาสตราจักรพรรดิขั้นลึกลับระดับต่ำ เป็นสิ่งที่สร้างให้ผู้อาวุโสคนหนึ่งในเผ่าจักรพรรดิงูเหลือมเขียว”

เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งเดินออกมาและยื่นม้วนหยกให้หลินสวิน “เจ้าดูว่าพอไหวหรือไม่”

หลินสวินสำรวจคร่าวๆ ก่อนพยักหน้าน้อยๆ “ได้”

จากนั้นก็มีคนส่งเจตวัตถุที่จำเป็นในการหลอมอาวุธมาให้ ซ้ำยังมีถึงสามชุด คงกังวลว่าอาจเกิดความล้มเหลว ดังนั้นจึงเตรียมเจตวัตถุเพิ่มมากขึ้นหน่อย

“เจตวัตถุพวกนี้หากใช้ไม่หมดต้องคืนให้ลูกค้าใช่หรือไม่” หลินสวินอดกล่าวอย่างใคร่รู้ไม่ได้

“ไม่มีทาง”

เฒ่าดึกดำบรรพ์ทั้งกลุ่มพูดเป็นเสียงเดียวกัน จากนั้นต่างหัวเราะ นี่เป็นกฎที่มีมาแต่อดีตจนปัจจุบัน ต่อให้หลอมอาวุธสำเร็จในครั้งเดียว เจตวัตถุที่เหลือก็ต้องตกเป็นของนักหลอมอาวุธ

เหตุใดนักหลอมอาวุธในโลกนี้แต่ละคนถึงได้ร่ำรวยอู้ฟู่กันหมด

สาเหตุก็เพราะพวกเขาไม่เพียงรับค่าตอบแทนจากการหลอมอาวุธ ยังสามารถสร้างรายได้มหาศาลจากเจตวัตถุที่ใช้หลอมอาวุธอีกด้วย!

กล่าวอย่างไม่เกินจริง หากมีนักหลอมอาวุธเป็นสหายสักคน การฝึกปราณทั้งชีวิตก็ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลนทรัพยากรฝึกปราณแล้ว

หลังเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วหลินสวินยังอดทอดถอนใจไม่ได้ นึกถึงประโยคหนึ่งที่ท่านลู่เคยพูดสมัยเด็กๆ

สิ่งที่ไหลออกจากปลายนิ้วนักสลักวิญญาณ คือความมั่งคั่งที่คนทั้งโลกไม่อาจจินตนาการได้

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2278 เข้าแดนลับ

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2278 เข้าแดนลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินสวินกล่าวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศจอแจเช่นนี้ “หลอมอาวุธครั้งนี้ ข้าคนแซ่หลินย่อมไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือและเฝ้าสังเกตของทุกท่าน เพียงแต่ก่อนจะหลอมอาวุธกลับต้องเตรียมความพร้อมสักหน่อย”

เลี่ยนจิ่วเซียวกล่าวอย่างไม่ลังเลใดๆ “สหายยุทธ์หลินเชิญว่ามาได้เลย”

“ข้าต้องการฝึกมือ ดังนั้นหวังว่าหากมีงานหลอมอาวุธ ขอเป็นงานหลอมอาวุธศาสตราจักรพรรดิจะดีที่สุด โปรดเอื้อความสะดวกให้ข้าคนแซ่หลินด้วย”

หลินสวินกล่าวอย่างใคร่ครวญ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยหลอมศาสตราจักรพรรดิมาก่อน หากไม่ฝึกฝนเคี่ยวกรำ ทะเล่อทะล่าไปหลอม เป็นไปได้สูงที่จะเกิดเหตุขึ้น

ยิ่งกว่านั้นขั้นตอนการฝึกฝีมือก็เป็นการเคี่ยวกรำสั่งสมอย่างหนึ่งเช่นกัน

ก็เทียบได้กับก่อนที่ยอดฝีมือจะต่อสู้ มักปิดด่าน ปรับสภาพของตนเองให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดก่อนเสมอ

หลอมอาวุธก็เป็นแบบเดียวกัน

และเมื่อได้ยินคำขอข้อนี้ของหลินสวิน เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นี้ยิ่งฮึกเหิมขึ้นเรื่อยๆ ตอบตกลงแทนเลี่ยนจิ่วเซียวโดยไม่ลังเลใดๆ

การฝึกฝีมือของหลินสวิน สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นโอกาสที่จะได้สังเกตการณ์ด้วยเช่นกัน!

ส่วนงานหลอมอาวุธ…

ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงแห่งนี้มีน้อยซะเมื่อไหร่

ควรรู้ว่างานหลอมอาวุธที่ร้านช่างเทพรับไว้ในตอนนี้ มีรายการจองยาวเหยียดไปจนถึงหลายปีต่อจากนี้!

“อีกอย่างข้าต้องการเจตวัตถุบางส่วน”

หลินสวินเพิ่งเอ่ยขอก็ได้รับการตอบกลับจากเลี่ยนจิ่วเซียวทันที “สหายยุทธ์หลินเจ้าแค่เขียนเจตวัตถุที่ต้องการออกมา หากเผ่าจักรพรรดิช่างเทพของข้ามีจะหามาให้เต็มที่ ต่อให้ไม่มีก็จะซื้อมากองให้เจ้า!”

กลิ่นอายเผด็จการแผ่ซ่าน

หลังจากหลินสวินกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มก็เอ่ยคำขอที่สามออกมา “หากเป็นไปได้ ข้าหวังอยากพบจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงสักครั้ง”

บรรยากาศที่คึกคักในตอนแรก เมื่อประโยคนี้ดังขึ้นก็เงียบกริบลงทันที ทุกคนต่างมองหน้ากัน

เลี่ยนจิ่วเซียวถอนใจเบาๆ กล่าวว่า “สหายยุทธ์หลิน หลายปีก่อนหน้านี้ใต้เท้าจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงก็เริ่มปิดด่านแล้ว คำขอข้อนี้เกรงว่า…”

หลินสวินพยักหน้ากล่าว “เรื่องนี้ข้าเข้าใจ แต่ทุกท่านโปรดอนุญาตให้ข้าหลอมอาวุธในแดนลับของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งแห่งนี้ด้วยเถอะ”

แดนลับแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญแกนหลักของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ เชื่อมสู่ส่วนลึกของทะเลเพลิงใต้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง สามารถเชื่อมต่อกับพลังแห่งเพลิงมรรคฟ้าประทานได้

แน่นอน เท่าที่หลินสวินรู้มา จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงนั่นก็ปิดด่านอยู่ในส่วนลึกทะเลเพลิงนั้นเหมือนกัน

ขอเพียงหลอมอาวุธในแดนลับนั่นได้ หลินสวินไม่เชื่อหรอกว่าจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงจะไม่ปรากฏตัวมาให้เห็นเลย!

แต่เหนือความคาดหมายของหลินสวิน สำหรับคำขอนี้ เลี่ยนจิ่วเซียวกลับยังลังเลอยู่มากอย่างเห็นได้ชัด คล้ายประสบปัญหาใหญ่

มีเพียงเฒ่าดึกดำบรรพ์ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ดีว่าแดนลับของที่นี่หมายความว่าอย่างไร ตั้งแต่อดีตตราบจนบัดนี้ไม่เคยมีคนนอกเข้าไปสักคน

เพียงแต่สาเหตุในนี้ เลี่ยนจิ่วเซียวรวมถึงเฒ่าดึกดำบรรพ์ไม่กี่คนนั้นกลับไม่สามารถบอกหลินสวินได้

ฉะนั้นพวกเขาจึงล้วนลังเลยิ่ง

ชั่วขณะเดียวบรรยากาศในที่นี้ล้วนเปลี่ยนเป็นเงียบกริบกดดันขึ้นมา

“เรื่องนี้ตอบรับสหายยุทธ์หลินได้”

ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นหน้าประตูโถงใหญ่ ทุกคนหันไปมองก็เห็นชายน่าเกรงขามที่สวมชุดม่วง หล่อเหลาเหนือธรรมดาคนหนึ่งเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“หัวหน้าเผ่า!” ลั่วเจียอึ้งงัน

คนผู้นี้ก็คือหวงชางเทียนหัวหน้าเผ่าหงส์เซียน

เลี่ยนจิ่วเซียวและคนใหญ่คนโตเผ่าจักรพรรดิช่างเทพทั้งกลุ่มต่างก็อึ้งทึ่งตามๆ กัน จากนั้นล้วนคารวะทักทาย

เผ่าหงส์เซียนก็คือนายเหนือหัวของแดนหงส์เซียน ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดมานี้ เผ่าจักรพรรดิช่างเทพของพวกเขาเป็นบริวารใต้อาณัติเผ่าหงส์เซียนมาตลอด

เพียงแต่ใครก็ไม่คาดคิดว่าคนใหญ่คนโตที่ปกติยากจะพบอย่างหวงชางเทียน คนที่เหมือนเป็นนายเหนือหัวเช่นนี้ วันนี้ถึงกับมาเยือนร้านช่างเทพ

ชั่วขณะเดียวทุกคนต่างตกใจผสมความกังขา

กลับเห็นหวงชางเทียนมองตรงไปยังหลินสวิน กล่าวเจือรอยยิ้มว่า “เจ้าก็คือหลินสวินที่แม่หนูลั่วเจียพูดถึงกระมัง เมื่อวานขอบคุณความยึดมั่นชอบธรรมของเจ้ายิ่งนัก ที่นำข่าวสำคัญมาให้เผ่าของพวกเรา”

หลินสวินประสานหมัดกล่าว “แค่เรื่องเล็กน้อย อย่าไปเอ่ยถึงเลย”

ขณะพูดหลินสวินก็หยิบของยืนยันของเผ่าเจินหลงที่อ๋าวซิงถังมอบให้เขาออกมา แล้วยื่นให้หวงชางเทียน “นี่คือเครื่องยืนยันที่ข้าคนแซ่หลินนำมาในครั้งนี้ ผู้อาวุโสโปรดตรวจดู”

ว่าไปแล้วหวงชางเทียนเป็นผู้อาวุโสของลั่วเจีย การเรียกว่าผู้อาวุโสก็สมเหตุสมผล

“เรื่องของเจ้า ลั่วเจียเล่าให้ฟังหมดแล้ว มีเครื่องยืนยันหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ”

หวงชางเทียนเอ่ยปากพร้อมรอยยิ้ม เพียงแต่เมื่อหยิบเครื่องยืนยันไปดู สายตาเขากลับเปลี่ยนไปทันควัน อึ้งค้างอยู่ตรงนั้น

เพราะในเทียบจดหมายปิดผนึกนั่น อ๋าวซิงถังเขียนที่มาของหลินสวินด้วยลายมือตัวเอง!

เมื่อเห็นแววตาผิดปกติของหวงชางเทียน ในใจพวกเลี่ยนจิ่วเซียวก็ยิ่งคลางแคลงขึ้นเรื่อยๆ ตัวตนของหลินเต้ายวนคนนี้มีปัญหาอะไรจริงๆ งั้นหรือ

ส่วนหลินสวินก็เดาได้เลาๆ ว่าในเทียบจดหมายที่อ๋าวซิงถังมอบให้ เกรงว่าคงเปิดเผยฐานะของตนแล้ว

ครู่ใหญ่หวงชางเทียนถึงเก็บเครื่องยืนยันไว้ด้วยสายตาซับซ้อน กล่าวว่า “สหายน้อย ข้าเข้าใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร ขอเพียงเผ่าหงส์เซียนของข้าทำให้ได้ จะหามาตามที่เจ้าต้องการ”

เขาไม่ได้เปิดเผยฐานะของหลินสวิน นี่ละเอียดอ่อนเกินไป!

เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงในตอนนี้ยังไม่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งของเผ่าเสือขาวและเต่าดำแฝงตัวอยู่มากน้อยแค่ไหน หากให้พวกเขารู้ฐานะของหลินสวิน ต้องชักนำคลื่นลมที่ไม่อาจคาดเดาได้แน่นอน!

หลินสวินใคร่ครวญครู่หนึ่งก็เข้าใจความหวังดีของหวงชางเทียน ประสานหมัดกล่าวว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสยิ่งนัก”

และตอนนี้บรรดาคนใหญ่คนโตเผ่าจักรพรรดิช่างเทพอย่างพวกเลี่ยนจิ่วเซียวต่างก็มีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นกัน ตระหนักได้ว่าฐานะของหลินสวินไม่ธรรมดาเกินกว่าที่พวกเขาคิดไว้ไกลโข!

“สหายยุทธ์ อนุญาตให้สหายยุทธ์หลินเข้าไปหลอมอาวุธในแดนลับนั้นได้จริงๆ หรือ” เลี่ยนจิ่วเซียวอดถามขึ้นอีกครั้งไม่ได้

“ได้”

หวงชางเทียนกล่าวยิ้มๆ “ในระหว่างหลอมอาวุธ หากขาดตกอะไรเผ่าหงส์เซียนของเราจะจัดหาให้!”

พวกเลี่ยนจิ่วเซียวต่างคึกคักขึ้นมา

“หากเผ่าหงส์เซียนต้องการ ข้าก็พอช่วยหลอมสมบัติให้ได้บางส่วน” หลินสวินกล่าวเสริมหนึ่งประโยค

อย่างไรก็เป็นการฝึกฝีมือ ช่วยใครหลอมอาวุธก็เหมือนๆ กัน

หวงชางเทียนหัวเราะลั่นทันที “เช่นนั้นข้าขอบคุณสหายน้อยล่วงหน้าแล้ว”

ก่อนหน้านี้เขาเห็นท่าทีที่พวกเลี่ยนจิ่วเซียวปฏิบัติต่อหลินสวินอยู่ในสายตา มีหรือจะไม่เข้าใจว่าคนที่ทำให้เผ่าจักรพรรดิช่างเทพยอมไว้ใจ ความเชี่ยวชาญด้านการหลอมอาวุธต้องไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบชั้นได้

“สหายยุทธ์หลิน เจ้าตั้งใจจะเริ่มหลอมอาวุธเมื่อไหร่” เลี่ยนจิ่วเซียวหันมองหลินสวิน

“เลือกฤกษ์ยามไม่สู้ปล่อยตามธรรมชาติ ตอนนี้เลยก็ได้” หลินสวินกล่าว

ทุกคนต่างฮึกเหิม ยินดีไม่สร่าง พวกเขาก็ทนไม่ไหวอยากลองชมฝีมือของหลินสวินไวๆ ใจจะขาดแล้วเหมือนกัน

จากนั้นเลี่ยนจิ่วเซียวก็นำทาง คนทั้งขบวนเดินเข้าสู่แดนลับของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง

หวงชางเทียนกลับไม่ได้ไปมุงดูเรื่องสนุก มองดูหลินสวินที่ถูกรายล้อมเดินจากไปแล้ว ในใจเขาก็ทอดถอนใจอีกระลอก

ปีนั้นเพราะลั่วชิงสวินเป็นเหตุ เผ่าหงส์เซียนจึงตัดขาดกับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง

ตอนนี้บุตรชายของลั่วชิงสวินมุ่งหน้ามาเปิดโปงอุบายที่จ้องเล่นงานเผ่าหงส์เซียน

นี่เสมือนเป็นผลกรรมอย่างหนึ่ง กำลังคืนสนองอยู่ในตอนนี้

‘เสือขาว เต่าดำ ตระกูลลั่ว…’ นัยน์ตาหวงชางเทียนเปลี่ยนเป็นลึกเข้มขึ้นมา จมสู่ห้วงคิดเนิ่นนาน

โครมครืน…

เปลวเพลิงโหมกระหน่ำพุ่งสูงเสียดฟ้า หอบม้วนมังกรเพลิงแสบตานับไม่ถ้วน สั่นสะเทือนฟ้าดิน แผ่กระแสลมร้อนราวแผดเผาภูผาธาราออกมา

บางครั้งยังมองเห็นเพลิงเทพฟ้าดินสีชาด สีเขียว สีดำ สีเงิน สีทอง… ที่พบเห็นได้ยากหาใดเปรียบทุกรูปแบบพริบวาบโฉบแล่นกลางฟ้าดิน เทียบผลุบเทียวโผล่

สถานที่นี้ดุจดั่งอาณาจักรเปลวเพลิงแห่งหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะมีพลังผนึกเป็นชั้นๆ ปิดครอบในนั้น ผู้ฝึกปราณทั่วไปไม่สามารถก้าวเข้าไปได้แม้แต่ก้าวเดียว

ที่นี่ย่อมเป็นเขตหวงห้ามที่สุดของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง…

โลกแดนลับ

ตรงกลางมีลานมรรคที่กินพื้นที่หมื่นจั้งอยู่แห่งหนึ่ง

ใจกลางลานมรรค เตาหลอมสำริดเก่าแก่ใบหนึ่งตั้งตระหง่าน เปล่งประกายดุจเนื้อหยกออกมา ปากเตาพวยพุ่งแสงมรรค มอบกลิ่นอายแห่งกาลเวลาลอยปะทะหน้าผู้คน

เลี่ยนจิ่วเซียวอธิบายคร่าวๆ ทำให้หลินสวินรู้ว่าใต้ลานมรรคนี้ก็คือส่วนลึกที่สุดของทะเลเพลิงใต้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

เตาหลอมที่อยู่ใจกลางลานมรรค ก็คือเตาหลอมอาวุธใบแรกที่หลอมโดยอิงจากรูปแบบเตามารดาหลอมสมบัติ หลังจากจักรพรรดิศาสตราบรรพชนของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพกลับมาจากแหล่งสถานคุนหลุน

อย่ามองว่าเป็นเพียงของเลียนแบบ ตอนนี้นี่เป็นถึงอาวุธสำคัญพิทักษ์เผ่าอย่างหนึ่ง ถูกมองเป็นเตาหลอมอาวุธอันดับหนึ่งของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ

“สหายยุทธ์หลินเชิญดู ในโลกนี้เพลิงเทพที่กระจายตัวอยู่มีมากถึงหนึ่งพันสามร้อยกว่าชนิด เพลิงเทพที่จัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยมที่สุดในโลกมีถึงสิบเก้าชนิด”

เลี่ยนจิ่วเซียวเอ่ยแนะนำแก่หลินสวินด้วยสีหน้าลำพองและภาคภูมิใจ “สิ่งเหล่านี้เผ่าพวกเราล้วนตระเวนหาทุกซอกมุมทั่วหล้าในกาลเวลาไร้สิ้นสุด กล่าวอย่างไม่เกินจริง ทอดสายตามองทั่วหล้า เกรงว่าคงหาที่ที่มีเพลิงเทพเยอะขนาดนี้ไม่เจอสักแห่ง”

บรรดาเฒ่าดึกดำบรรพ์เหล่านั้นต่างพยักหน้าหงึกๆ

“น่าตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ”

ในใจหลินสวินก็สะเทือนไม่หาย สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้เขาได้เปิดโลก ยอมรับว่าหากหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์อยู่ที่นี่ก็เพียงพอแล้ว

หืม?

จู่ๆ สายตาหลินสวินก็วาบประกายแปลกไป ก้อนทองแดงของเตามารดาหลอมสมบัติที่ถูกเขาเก็บไว้กับตัวก้อนนั้นถึงกับเกิดริ้วคลื่นประหลาด คล้ายสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง

เกือบจะในเวลาเดียวกัน หลินสวินตระหนักได้อย่างว่องไวว่าในมุมมืดของแดนลับ คล้ายมีจิตรับรู้เสี้ยวหนึ่งกวาดผ่านตนไป

แม้จะแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่หลินสวินกล้าฟันธงว่านี่ไม่ใช่ความรู้สึกไปเอง!

‘เป็นเจ้าหรือ…’

ในสมองหลินสวินผุดชื่อจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงขึ้นมา

เพียงแต่ตอนที่เขาสัมผัสอย่างละเอียด ก้อนทองแดงของเตามารดาหลอมสมบัติกลับจมสู่ความเงียบงันอีกครั้ง ราวกับถูกตัดขาดการตอบสนอง

หลินสวินยิ้มไม่ใส่ใจ เขากล้าฟันธงว่าขอเพียงตนหลอมอาวุธอยู่ที่นี่ จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงนั่นช้าเร็วก็คงอดไม่ไหวอยากพบตนเอง

“สหายยุทธ์หลิน นี่คืองานหลอมศาสตราจักรพรรดิขั้นลึกลับระดับต่ำ เป็นสิ่งที่สร้างให้ผู้อาวุโสคนหนึ่งในเผ่าจักรพรรดิงูเหลือมเขียว”

เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งเดินออกมาและยื่นม้วนหยกให้หลินสวิน “เจ้าดูว่าพอไหวหรือไม่”

หลินสวินสำรวจคร่าวๆ ก่อนพยักหน้าน้อยๆ “ได้”

จากนั้นก็มีคนส่งเจตวัตถุที่จำเป็นในการหลอมอาวุธมาให้ ซ้ำยังมีถึงสามชุด คงกังวลว่าอาจเกิดความล้มเหลว ดังนั้นจึงเตรียมเจตวัตถุเพิ่มมากขึ้นหน่อย

“เจตวัตถุพวกนี้หากใช้ไม่หมดต้องคืนให้ลูกค้าใช่หรือไม่” หลินสวินอดกล่าวอย่างใคร่รู้ไม่ได้

“ไม่มีทาง”

เฒ่าดึกดำบรรพ์ทั้งกลุ่มพูดเป็นเสียงเดียวกัน จากนั้นต่างหัวเราะ นี่เป็นกฎที่มีมาแต่อดีตจนปัจจุบัน ต่อให้หลอมอาวุธสำเร็จในครั้งเดียว เจตวัตถุที่เหลือก็ต้องตกเป็นของนักหลอมอาวุธ

เหตุใดนักหลอมอาวุธในโลกนี้แต่ละคนถึงได้ร่ำรวยอู้ฟู่กันหมด

สาเหตุก็เพราะพวกเขาไม่เพียงรับค่าตอบแทนจากการหลอมอาวุธ ยังสามารถสร้างรายได้มหาศาลจากเจตวัตถุที่ใช้หลอมอาวุธอีกด้วย!

กล่าวอย่างไม่เกินจริง หากมีนักหลอมอาวุธเป็นสหายสักคน การฝึกปราณทั้งชีวิตก็ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลนทรัพยากรฝึกปราณแล้ว

หลังเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วหลินสวินยังอดทอดถอนใจไม่ได้ นึกถึงประโยคหนึ่งที่ท่านลู่เคยพูดสมัยเด็กๆ

สิ่งที่ไหลออกจากปลายนิ้วนักสลักวิญญาณ คือความมั่งคั่งที่คนทั้งโลกไม่อาจจินตนาการได้

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+