Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2282 เงาร่างงามสีแดงเพลิงนั้น

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2282 เงาร่างงามสีแดงเพลิงนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เวลาสั้นๆ ไม่ถึงสามวัน เมืองอันดับหนึ่งที่เจริญรุ่งเรืองอย่างเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงก็เปลี่ยนเป็นซบเซาอ้างว้างมาก

บนท้องถนนที่หนาแน่นราวกับใยแมงมุมมีเงาร่างเร่งรีบจากไปเต็มไปหมด บ้างเป็นคนของขุมอำนาจใหญ่ บ้างเกาะกลุ่มเป็นขบวนจากไป

ด้วยข่าวของเผ่าเสือขาวและเต่าดำแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงกลายเป็นศูนย์รวมปัญหาที่พายุมาเยือน ภัยพิบัติใกล้ก่อเกิด

ไม่มีใครสนใจว่าเผ่าหงส์เซียนจะถูกล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่ สำหรับคนทั่วไปพวกนั้น จุดประสงค์ที่ถอนตัวไปก่อนล่วงหน้าในตอนนี้ ด้วยห่วงว่าจะถูกม้วนกลืนเข้าไปในมหันตภัยนี้พร้อมกัน!

กลัวว่าความซวยจะมาถึงตัว

ยิ่งไปกว่านั้นเผ่าเสือขาวและเต่าดำล้วนแสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเผ่าหงส์เซียน ขอเพียงอยู่ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงย่อมกลายเป็นศัตรูที่พวกเขาจะโจมตีทั้งสิ้น!

ลมหนาวหอบพัด ผู้คนสัญจรอย่างรีบเร่ง

สำหรับทุกอย่างนี้ ต่อให้เป็นเผ่าจักรพรรดิช่างเทพที่เป็นเจ้าเมืองก็ไร้กำลังขวาง พวกเขาไม่อาจใช้วิธีแข็งกร้าวรั้งคนในเมืองทั้งหมดไว้

หน้าร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นซบเซาไม่น้อย ไม่มีภาพผู้คนเต็มตรอกถนนจนมืดฟ้ามัวดินเหมือนอดีต

สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดินับร้อยคนที่เดิมรวมตัวอยู่ที่นี่ ตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึงสามสิบคน ลดฮวบไปกว่าครึ่ง

กล่าวกันถึงที่สุดแล้ว ระดับจักรพรรดิที่จากไปพวกนั้นถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คนในเผ่าหงส์เซียน ในเวลาเช่นนี้มีหรือจะเลือกอยู่ต่อ

หวงชางเทียนไม่ขัดขวาง หากแต่จำชื่อของระดับจักรพรรดิพวกนี้ไว้ขึ้นใจทั้งหมด

“เหตุใดทุกท่านไม่จากไปเล่า”

หวงชางเทียนมองระดับจักรพรรดิที่เหลือแค่ไม่กี่สิบคนนั้นแล้วเอ่ยราบเรียบ บนสีหน้าไม่เห็นความตื่นตระหนกแม้เพียงเสี้ยว

“หากไม่มีร้านช่างเทพ พวกข้าย่อมไม่มีทางได้ศาสตราจักรพรรดิชั้นยอดในเวลาอันสั้นเช่นนี้แน่ ตอนนี้เผ่าจักรพรรดิช่างเทพเจอปัญหา พวกข้าจะเก็บมือเฝ้ามองได้อย่างไร”

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้ระดับจักรพรรดิทั้งหมดในที่นั้นพยักหน้าไม่หยุด

เผ่าจักรพรรดิช่างเทพอยู่ใต้อาณัติเผ่าหงส์เซียน รากฐานของเผ่าอยู่ในเมืองจักรพรรรดิหมื่นเพลิง หากเผ่าเสือขาวและเต่าดำบุกโจมตี เผ่าจักรพรรดิช่างเทพต้องเกิดเรื่องไม่คาดฝันแน่

สายตาหวงชางเทียนกวาดมองพวกเขาทีละคน สุดท้ายก็แหงนมองฟ้าหัวเราะร่า “พบมิตรแท้ยามประสบเคราะห์ น้ำใจของทุกท่านในวันนี้ ข้าจดจำแทนเผ่าจักรพรรดิช่างเทพแล้ว!”

ไม่อาจไม่พูดถึง แผนข่มขู่ของเผ่าเสือขาวและเต่าดำประสบความสำเร็จมาก อาศัยแค่การข่มขู่ก็ทำให้ทั้งเมืองปั่นป่วน สถานการณ์แปรเปลี่ยนครั้งใหญ่

นี่ทำให้หวงชางเทียนรู้สึกกดดันมากเช่นกัน ตระหนักได้ยิ่งกว่าเดิมว่ายามเคราะห์มาเยือนต้องไม่ธรรมดาแน่

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีทางถอยแล้ว กลับกลายเป็นว่ากระตุ้นจิตต่อสู้ในใจหวงชางเทียนขึ้นมา

เขาออกคำสั่งทันที “ประกาศให้ทั่วเมือง อีกสามวันข้างหน้า เปิดใช้กระบวนค่ายกลใหญ่ของเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงรอบด้าน ใครอยากไปก็รีบไสหัวไปในสามวัน!”

“ขอรับ!”

มีคนรีบรับคำสั่งจากไป

“ก่อนลมพายุมาเยือน ทุกคนรู้สึกอันตราย ผู้ยินดีร่วมเป็นร่วมตายกับเผ่าหงส์เซียนมีแค่ไม่กี่คนแล้ว”

ในหอสุราแห่งหนึ่งบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวเอ่ยปากเนิบช้า สีหน้าเจือความพึงพอใจ

เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันนี้ล้วนอยู่ในสายตาของเขา

“อีกสามวันหวงชางเทียนจะปิดเมืองทั้งหมด พวกเราก็ควรไปแล้ว” บรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นที่อยู่ด้านข้างหยัดร่างขึ้น

“ดี กำลังรอเวลานี้อยู่เลย!” บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวยิ้มพลางตอบรับ

อีกไม่นานรอแค่ทัพใหญ่ของเผ่าเสือขาวและเต่าดำรวมตัวกัน ก็เป็นวันที่พวกเขาออกศึก!

ในแดนลับ

หลินสวินตื่นจากสมาธิ ผ่อนลมหายใจยาวเหมือนพอใจ

สองเดือนแล้ว เขาเหมือนอยู่ในกระบวนการ ‘ฝึกมือ’ นอกจากหลอมอาวุธก็ฟื้นฟูพลังกายทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่หยุดพักแม้แต่น้อย

จนถึงตอนนี้ในหัวเขาล้วนสั่งสมความคิดความรู้สึกไว้นับไม่ถ้วน เหมือนหินหนืดที่เดือดระอุอยู่ตลอด รู้สึกว่าจะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ

หลินสวินรู้ว่าเป้าหมายของการฝึกมือบรรลุผลแล้ว หลังจากนี้คงถึงคราวตนไปหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์แล้ว

แต่เวลานี้เองหวงชางเทียนพลันมาเยือน สีหน้าจริงจังผิดธรรมดา เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ให้หลินสวินฟังอย่างกระชับเรียบง่าย

พูดจบหวงชางเทียนจ้องมองแววตาหลินสวินพลางกล่าว “หากเจ้าจะไป ตอนนี้ยังทัน ถ้าไม่ไปอีกก็สายไปแล้ว”

เวลานี้เลี่ยนจิ่วเซียวและผู้อาวุโสของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพคนอื่นก็สีหน้าปรวนแปรไม่หยุด คิดไม่ถึงว่าเพิ่งผ่านไปสองเดือน โลกภายนอกกลับคลื่นลมผันเปลี่ยนแล้ว

สุดท้ายทุกสายตาต่างมองไปยังหลินสวิน

หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่งค่อยกล่าว “ปีนั้นด้วยมารดาของข้าเป็นเหตุ จึงทำให้ผู้อาวุโสรวมถึงเผ่าหงส์เซียนที่อยู่เบื้องหลังแตกหักกับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งอย่างสิ้นเชิง ปัจจุบันในเมื่อเกิดภัยพิบัติเช่นนี้ ข้าคนแซ่หลินมีหรือจะจากไปเพียงเท่านี้”

พวกเลี่ยนจิ่วเซียวต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง ตอนนี้ถึงรับรู้ได้ทันที ที่แท้มารดาของหลินเต้ายวนคนนี้ก็คือลั่วชิงสวินคนนั้น!

ลั่วเจียก็อึ้งไป รู้สึกคาดไม่ถึง

กลับเห็นหลินสวินยิ้มกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของข้ายังไม่ทันหลอม จะจากไปเช่นนี้ได้อย่างไร ต่อให้จากไป แต่หากไม่มีความช่วยเหลือจากเผ่าหงส์เซียนก็ไม่อาจกลับไปยังทางเดินโบราณฟ้าดาราได้”

หวงชางเทียนจ้องมองหลินสวินครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงกล่าวว่า “หากเจ้าตัดสินใจดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเจ้าอีก”

เขาพูดพลางบอกความลับที่บรรพชนเผ่าหงส์เซียนหลับใหลอยู่ใต้แดนลับแห่งนี้ออกมาจนหมด

“หรือกล่าวได้ว่าพวกเขามาเพราะบรรพชนเผ่าหงส์?” นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัดลงเล็กน้อย

หวงชางเทียนพยักหน้าพลางกล่าว “หากบรรพชนของเผ่าข้าตื่นขึ้น ต้องเป็นภัยคุกคามต่อเผ่าเสือขาวและเต่าดำแน่ ตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งส่งบุคคลสำคัญคนหนึ่งมา ก็แค่คิดจะบีบให้บรรพชนเผ่าข้ายอมจำนนเท่านั้น”

หลินสวินเพิ่งตระหนักได้ว่าวิกฤติที่เผ่าหงส์เซียนเผชิญรุนแรงระดับใด ส่วนร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งนี้ก็จะกลายเป็นตาพายุ!

“หากเป็นเช่นนี้ข้าก็ยิ่งจากไปไม่ได้”

แววตาหลินสวินนิ่งสงบ “ผู้อาวุโส หากมีอะไรสั่งความก็แจ้งมาได้ ข้าหลินสวินจะทำให้เต็มที่”

หวงชางเทียนนิ่งเงียบแล้วยิ้มกล่าว “ภัยพิบัตินี้ยังไม่มาเยือนอย่างแท้จริง ก่อนหน้านั้นสหายน้อยคอยหลอมอาวุธอยู่ที่นี่ก็พอ”

สายตาเขามองไปยังพวกเลี่ยนจิ่วเซียว “เพียงแต่พวกเขาไม่อาจคอยช่วยเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว”

หลินสวินส่ายหัว “ไม่มีปัญหา”

ด้วยระดับความรู้อันลึกซึ้งของเขา เดิมก็ไม่ต้องให้คนอื่นช่วยเหลือ

“ลั่วเจีย เจ้าอยู่ที่นี่กับหลินสวิน” หวงชางเทียนเอ่ยกำชับ

ลั่วเจียรู้แล้วว่าสถานการณ์รุนแรง อดกล่าวไม่ได้ “หัวหน้าเผ่า ข้าก็อยากทำประโยชน์ให้เผ่า”

หวงชางเทียนยิ้มกล่าว “เจ้าอยู่ที่นี่ก็เพื่อทำประโยชน์ให้เผ่า”

พูดจบเขาก็พาพวกเลี่ยนจิ่วเซียวจากไป

เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงสร้างขึ้นโดยเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ หลายปีมานี้เมืองนี้ประหนึ่งศาสตราจักรพรรดิขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่ง ปกคลุมด้วยพลังกระบวนผนึกนับไม่ถ้วน

ตอนนี้มหาเคราะห์ใกล้มาเยือน เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงไม่อาจไม่มีเลี่ยนจิ่วเซียวและเหล่าเฒ่าดึกดำบรรพ์ควบคุมดูแล

ไม่ทันไรแดนลับนี้ก็เหลือเพียงหลินสวินและลั่วเจียสองคน

เห็นว่าลั่วเจียจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สีหน้าว้าวุ่นใจ หลินสวินจึงกล่าวปลอบใจด้วยเสียงแผ่วเบา “วางใจเถอะ มีข้าอยู่ ย่อมไม่มีทางให้เผ่าหงส์เซียนเจอหายนะแห่งการทำลายล้างแน่”

แต่เห็นได้ชัดว่าลั่วเจียฟังไม่เข้าหู พยักหน้าอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

หลินสวินก็ไม่พูดมากอีก เรื่องเร่งด่วน…

แน่นอนว่าเป็นการหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์!

หลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

ตูม!

เพลิงมรรคอัศจรรย์พุ่งออกมา กลายเป็นเตาหลอมสามขาสองหูใบหนึ่ง มีท่วงทำนองอันเป็นอมตะ

นี่ก็คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเพลิงมรรคอัศจรรย์!

ตอนนั้นที่กำราบไฟนี้เคยมีลักษณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้าปรากฏ กลางฟ้าดินสรรพสิ่งคืนสู่ความเงียบ มีเพียงกระถางเพลิงใบเดียวที่ลุกโชน หลักการฟ้าดิน สุริยันจันทราดารา ล้วนถูกหลอมจนว่างเปล่า

ร่องรอยกาลเวลา วงโคจรของห้วงอากาศเหมือนไม่มีอยู่ มีเพียงเพลิงมรรคที่เหมือนเตาหลอมดวงนี้กลายเป็นสิ่งเดียวที่มั่นคงและไม่ผุพัง!

หลินสวินยังจำได้ดี ตอนนั้นขุนพลวิญญาณเพลิงที่ปกป้องไฟนี้เคยพูดว่า

‘หมายได้ไฟนี้ ต้องสัมผัสผลกรรม หมายสลายผลกรรม ต้องเข้าสถานอัศจรรย์ ไม่ว่าเจ้าเป็นผู้ใด ขอถามสักประโยค ต้องการนำเพลิงนี้ไปยังแหล่งสถานอัศจรรย์หรือไม่’

ตอนนั้นเองที่หลินสวินชี้ชัดได้ ว่าเพลิงมรรคอัศจรรย์นี้เป็นไปได้สูงว่าจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับแหล่งสถานอัศจรรย์ หนึ่งในจตุโบราณสถาน!

เพียงแต่หลายปีนี้เพลิงมรรคอัศจรรย์ไม่มีโอกาสแสดงความสามารถมาตลอด อย่างมากก็ได้แต่ช่วยหลินสวินย่างอาหารเลิศรสบางส่วน…

‘วันนี้ข้าจะใช้เจ้าเป็นเตา ใช้ศาสตราจักรพรรดิเป็นเจตวัตถุ หลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของข้าชิ้นหนึ่ง!’

หลินสวินสูดหายใจลึก แขนเสื้อพลิกตลบ ศาสตราจักรพรรดิหลายสิบชิ้นทะยานออกมาแน่นขนัด ล้วนสาดแสงสว่างไสว เผยความอัศจรรย์และอานุภาพที่แตกต่างกันออกมา

มีเชือกทองคล้องสมบัติ ภาพหมื่นลักษณ์ฟ้าดารา กระบี่ยอดสังหาร กระบี่อเวจี น้ำเต้าวิญญาณต้นกำเนิดเป็นต้น

ล้วนเป็นทรัพย์หลังศึกที่หลินสวินได้มาจากมือศัตรูในช่วงหลายปีนี้ ไม่มีสิ่งใดไม่ใช่ศาสตราจักรพรรดิล้ำค่าที่เรียกได้ว่าอัศจรรย์

และตอนนี้หลินสวินก็คิดนำพวกมันมาหลอมเป็นวัตถุดิบเสริมในการหลอมอาวุธทั้งหมด!

แน่นอนว่ายังไม่สิ้นสุด

เมื่อหลินสวินสะบัดแขนเสื้อ ศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนเก้าชิ้นอย่างกระบี่ไร้รูป ดาบไร้วิชา ทวนไร้สวรรค์ ประทับไร้ชีพ ธงไร้ระเบียบ ขวดไร้ขอบเขต จานไร้ตัวตน โคมไร้มลทิน เกราะไร้บกพร่องก็ปรากฏออกมาเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีก้อนทองแดงโบราณที่เตามารดาหลอมสมบัติเหลือทิ้งไว้ด้วย!

ห่างออกไปลั่วเจียอึ้งงัน คล้ายคิดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง ว่าในตัวหลินสวินจะซ่อนศาสตราจักรพรรดิที่เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งฟ้าดินไว้มากเช่นนี้

นี่เห็นได้ว่าน่าเหลือเชื่อนัก

แต่สำหรับหลินสวิน ของพวกนี้ล้วนไม่นับว่ามีค่าอะไร

มรรคของเขารองรับมรรคาทั่วหล้า วิวัฒน์หมื่นวิชาในใต้หล้า อดีตปัจจุบันล้วนไม่เคยมี แตกต่างจากผู้อื่น พิเศษโดดเด่นไม่เหมือนใคร

ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของเขา แน่นอนว่าย่อมเป็นเช่นนั้น!

ก็มีเพียงเช่นนี้จึงจะประสานเข้ากับมรรควิถีของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากนั้นจึงสำแดงพลังต่อสู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ออกมา!

‘ข้าจะใช้มรรคของข้าเป็นกระบวน ใช้วิชาของข้าเป็นลวดลาย หลอมศาสตราจักรพรรดิ สร้างโครงอาวุธ…’

หลินสวินสูดหายใจลึก

แต่เวลานี้เองในลานมรรคที่กว้างใหญ่นี้พลันเกิดคลื่นสะเทือนระลอกหนึ่ง จากนั้นเงาร่างงามสีแดงเพลิงสายหนึ่งปรากฏตัวกลางอากาศ

นี่คือหญิงสาวที่ราวกับวิวัฒน์จากเพลิงเทพคนหนึ่ง งดงามและเจิดจรัสหาใดเปรียบ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั้งร่างเหมือนแผดเผาทั่วหล้าได้จริงๆ เผด็จการยิ่งยวด

เพลิงเทพพันกว่าชนิดที่กระจายอยู่ในแดนลับนี้ ยามนี้ล้วนสั่นไหวขึ้นมาราวกับขุนนางกราบจักรพรรดิอย่างเลื่อมใส!

มีเพียงเพลิงมรรคอัศจรรย์ที่เหมือนไม่ได้รับผลกระทบ นิ่งสงบไม่ไหวติง กลิ่นอายอันเป็นอมตะเวียนวน

หญิงสาวมองเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนรวมถึงก้อนทองแดงนั้นก่อน จากนั้นก็เหลือบมองเพลิงมรรคอัศจรรย์เล็กน้อย สุดท้ายจึงมองไปยังหลินสวินพลางกล่าว

“เจ้าหนุ่ม เจ้าดึงดูดความสนใจของข้าสำเร็จแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2282 เงาร่างงามสีแดงเพลิงนั้น

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2282 เงาร่างงามสีแดงเพลิงนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เวลาสั้นๆ ไม่ถึงสามวัน เมืองอันดับหนึ่งที่เจริญรุ่งเรืองอย่างเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงก็เปลี่ยนเป็นซบเซาอ้างว้างมาก

บนท้องถนนที่หนาแน่นราวกับใยแมงมุมมีเงาร่างเร่งรีบจากไปเต็มไปหมด บ้างเป็นคนของขุมอำนาจใหญ่ บ้างเกาะกลุ่มเป็นขบวนจากไป

ด้วยข่าวของเผ่าเสือขาวและเต่าดำแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงกลายเป็นศูนย์รวมปัญหาที่พายุมาเยือน ภัยพิบัติใกล้ก่อเกิด

ไม่มีใครสนใจว่าเผ่าหงส์เซียนจะถูกล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่ สำหรับคนทั่วไปพวกนั้น จุดประสงค์ที่ถอนตัวไปก่อนล่วงหน้าในตอนนี้ ด้วยห่วงว่าจะถูกม้วนกลืนเข้าไปในมหันตภัยนี้พร้อมกัน!

กลัวว่าความซวยจะมาถึงตัว

ยิ่งไปกว่านั้นเผ่าเสือขาวและเต่าดำล้วนแสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเผ่าหงส์เซียน ขอเพียงอยู่ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงย่อมกลายเป็นศัตรูที่พวกเขาจะโจมตีทั้งสิ้น!

ลมหนาวหอบพัด ผู้คนสัญจรอย่างรีบเร่ง

สำหรับทุกอย่างนี้ ต่อให้เป็นเผ่าจักรพรรดิช่างเทพที่เป็นเจ้าเมืองก็ไร้กำลังขวาง พวกเขาไม่อาจใช้วิธีแข็งกร้าวรั้งคนในเมืองทั้งหมดไว้

หน้าร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นซบเซาไม่น้อย ไม่มีภาพผู้คนเต็มตรอกถนนจนมืดฟ้ามัวดินเหมือนอดีต

สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดินับร้อยคนที่เดิมรวมตัวอยู่ที่นี่ ตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึงสามสิบคน ลดฮวบไปกว่าครึ่ง

กล่าวกันถึงที่สุดแล้ว ระดับจักรพรรดิที่จากไปพวกนั้นถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คนในเผ่าหงส์เซียน ในเวลาเช่นนี้มีหรือจะเลือกอยู่ต่อ

หวงชางเทียนไม่ขัดขวาง หากแต่จำชื่อของระดับจักรพรรดิพวกนี้ไว้ขึ้นใจทั้งหมด

“เหตุใดทุกท่านไม่จากไปเล่า”

หวงชางเทียนมองระดับจักรพรรดิที่เหลือแค่ไม่กี่สิบคนนั้นแล้วเอ่ยราบเรียบ บนสีหน้าไม่เห็นความตื่นตระหนกแม้เพียงเสี้ยว

“หากไม่มีร้านช่างเทพ พวกข้าย่อมไม่มีทางได้ศาสตราจักรพรรดิชั้นยอดในเวลาอันสั้นเช่นนี้แน่ ตอนนี้เผ่าจักรพรรดิช่างเทพเจอปัญหา พวกข้าจะเก็บมือเฝ้ามองได้อย่างไร”

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้ระดับจักรพรรดิทั้งหมดในที่นั้นพยักหน้าไม่หยุด

เผ่าจักรพรรดิช่างเทพอยู่ใต้อาณัติเผ่าหงส์เซียน รากฐานของเผ่าอยู่ในเมืองจักรพรรรดิหมื่นเพลิง หากเผ่าเสือขาวและเต่าดำบุกโจมตี เผ่าจักรพรรดิช่างเทพต้องเกิดเรื่องไม่คาดฝันแน่

สายตาหวงชางเทียนกวาดมองพวกเขาทีละคน สุดท้ายก็แหงนมองฟ้าหัวเราะร่า “พบมิตรแท้ยามประสบเคราะห์ น้ำใจของทุกท่านในวันนี้ ข้าจดจำแทนเผ่าจักรพรรดิช่างเทพแล้ว!”

ไม่อาจไม่พูดถึง แผนข่มขู่ของเผ่าเสือขาวและเต่าดำประสบความสำเร็จมาก อาศัยแค่การข่มขู่ก็ทำให้ทั้งเมืองปั่นป่วน สถานการณ์แปรเปลี่ยนครั้งใหญ่

นี่ทำให้หวงชางเทียนรู้สึกกดดันมากเช่นกัน ตระหนักได้ยิ่งกว่าเดิมว่ายามเคราะห์มาเยือนต้องไม่ธรรมดาแน่

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีทางถอยแล้ว กลับกลายเป็นว่ากระตุ้นจิตต่อสู้ในใจหวงชางเทียนขึ้นมา

เขาออกคำสั่งทันที “ประกาศให้ทั่วเมือง อีกสามวันข้างหน้า เปิดใช้กระบวนค่ายกลใหญ่ของเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงรอบด้าน ใครอยากไปก็รีบไสหัวไปในสามวัน!”

“ขอรับ!”

มีคนรีบรับคำสั่งจากไป

“ก่อนลมพายุมาเยือน ทุกคนรู้สึกอันตราย ผู้ยินดีร่วมเป็นร่วมตายกับเผ่าหงส์เซียนมีแค่ไม่กี่คนแล้ว”

ในหอสุราแห่งหนึ่งบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวเอ่ยปากเนิบช้า สีหน้าเจือความพึงพอใจ

เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันนี้ล้วนอยู่ในสายตาของเขา

“อีกสามวันหวงชางเทียนจะปิดเมืองทั้งหมด พวกเราก็ควรไปแล้ว” บรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นที่อยู่ด้านข้างหยัดร่างขึ้น

“ดี กำลังรอเวลานี้อยู่เลย!” บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวยิ้มพลางตอบรับ

อีกไม่นานรอแค่ทัพใหญ่ของเผ่าเสือขาวและเต่าดำรวมตัวกัน ก็เป็นวันที่พวกเขาออกศึก!

ในแดนลับ

หลินสวินตื่นจากสมาธิ ผ่อนลมหายใจยาวเหมือนพอใจ

สองเดือนแล้ว เขาเหมือนอยู่ในกระบวนการ ‘ฝึกมือ’ นอกจากหลอมอาวุธก็ฟื้นฟูพลังกายทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่หยุดพักแม้แต่น้อย

จนถึงตอนนี้ในหัวเขาล้วนสั่งสมความคิดความรู้สึกไว้นับไม่ถ้วน เหมือนหินหนืดที่เดือดระอุอยู่ตลอด รู้สึกว่าจะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ

หลินสวินรู้ว่าเป้าหมายของการฝึกมือบรรลุผลแล้ว หลังจากนี้คงถึงคราวตนไปหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์แล้ว

แต่เวลานี้เองหวงชางเทียนพลันมาเยือน สีหน้าจริงจังผิดธรรมดา เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ให้หลินสวินฟังอย่างกระชับเรียบง่าย

พูดจบหวงชางเทียนจ้องมองแววตาหลินสวินพลางกล่าว “หากเจ้าจะไป ตอนนี้ยังทัน ถ้าไม่ไปอีกก็สายไปแล้ว”

เวลานี้เลี่ยนจิ่วเซียวและผู้อาวุโสของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพคนอื่นก็สีหน้าปรวนแปรไม่หยุด คิดไม่ถึงว่าเพิ่งผ่านไปสองเดือน โลกภายนอกกลับคลื่นลมผันเปลี่ยนแล้ว

สุดท้ายทุกสายตาต่างมองไปยังหลินสวิน

หลินสวินเงียบไปครู่หนึ่งค่อยกล่าว “ปีนั้นด้วยมารดาของข้าเป็นเหตุ จึงทำให้ผู้อาวุโสรวมถึงเผ่าหงส์เซียนที่อยู่เบื้องหลังแตกหักกับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งอย่างสิ้นเชิง ปัจจุบันในเมื่อเกิดภัยพิบัติเช่นนี้ ข้าคนแซ่หลินมีหรือจะจากไปเพียงเท่านี้”

พวกเลี่ยนจิ่วเซียวต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง ตอนนี้ถึงรับรู้ได้ทันที ที่แท้มารดาของหลินเต้ายวนคนนี้ก็คือลั่วชิงสวินคนนั้น!

ลั่วเจียก็อึ้งไป รู้สึกคาดไม่ถึง

กลับเห็นหลินสวินยิ้มกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของข้ายังไม่ทันหลอม จะจากไปเช่นนี้ได้อย่างไร ต่อให้จากไป แต่หากไม่มีความช่วยเหลือจากเผ่าหงส์เซียนก็ไม่อาจกลับไปยังทางเดินโบราณฟ้าดาราได้”

หวงชางเทียนจ้องมองหลินสวินครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงกล่าวว่า “หากเจ้าตัดสินใจดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเจ้าอีก”

เขาพูดพลางบอกความลับที่บรรพชนเผ่าหงส์เซียนหลับใหลอยู่ใต้แดนลับแห่งนี้ออกมาจนหมด

“หรือกล่าวได้ว่าพวกเขามาเพราะบรรพชนเผ่าหงส์?” นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัดลงเล็กน้อย

หวงชางเทียนพยักหน้าพลางกล่าว “หากบรรพชนของเผ่าข้าตื่นขึ้น ต้องเป็นภัยคุกคามต่อเผ่าเสือขาวและเต่าดำแน่ ตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งส่งบุคคลสำคัญคนหนึ่งมา ก็แค่คิดจะบีบให้บรรพชนเผ่าข้ายอมจำนนเท่านั้น”

หลินสวินเพิ่งตระหนักได้ว่าวิกฤติที่เผ่าหงส์เซียนเผชิญรุนแรงระดับใด ส่วนร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งนี้ก็จะกลายเป็นตาพายุ!

“หากเป็นเช่นนี้ข้าก็ยิ่งจากไปไม่ได้”

แววตาหลินสวินนิ่งสงบ “ผู้อาวุโส หากมีอะไรสั่งความก็แจ้งมาได้ ข้าหลินสวินจะทำให้เต็มที่”

หวงชางเทียนนิ่งเงียบแล้วยิ้มกล่าว “ภัยพิบัตินี้ยังไม่มาเยือนอย่างแท้จริง ก่อนหน้านั้นสหายน้อยคอยหลอมอาวุธอยู่ที่นี่ก็พอ”

สายตาเขามองไปยังพวกเลี่ยนจิ่วเซียว “เพียงแต่พวกเขาไม่อาจคอยช่วยเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว”

หลินสวินส่ายหัว “ไม่มีปัญหา”

ด้วยระดับความรู้อันลึกซึ้งของเขา เดิมก็ไม่ต้องให้คนอื่นช่วยเหลือ

“ลั่วเจีย เจ้าอยู่ที่นี่กับหลินสวิน” หวงชางเทียนเอ่ยกำชับ

ลั่วเจียรู้แล้วว่าสถานการณ์รุนแรง อดกล่าวไม่ได้ “หัวหน้าเผ่า ข้าก็อยากทำประโยชน์ให้เผ่า”

หวงชางเทียนยิ้มกล่าว “เจ้าอยู่ที่นี่ก็เพื่อทำประโยชน์ให้เผ่า”

พูดจบเขาก็พาพวกเลี่ยนจิ่วเซียวจากไป

เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงสร้างขึ้นโดยเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ หลายปีมานี้เมืองนี้ประหนึ่งศาสตราจักรพรรดิขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่ง ปกคลุมด้วยพลังกระบวนผนึกนับไม่ถ้วน

ตอนนี้มหาเคราะห์ใกล้มาเยือน เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงไม่อาจไม่มีเลี่ยนจิ่วเซียวและเหล่าเฒ่าดึกดำบรรพ์ควบคุมดูแล

ไม่ทันไรแดนลับนี้ก็เหลือเพียงหลินสวินและลั่วเจียสองคน

เห็นว่าลั่วเจียจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สีหน้าว้าวุ่นใจ หลินสวินจึงกล่าวปลอบใจด้วยเสียงแผ่วเบา “วางใจเถอะ มีข้าอยู่ ย่อมไม่มีทางให้เผ่าหงส์เซียนเจอหายนะแห่งการทำลายล้างแน่”

แต่เห็นได้ชัดว่าลั่วเจียฟังไม่เข้าหู พยักหน้าอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

หลินสวินก็ไม่พูดมากอีก เรื่องเร่งด่วน…

แน่นอนว่าเป็นการหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์!

หลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

ตูม!

เพลิงมรรคอัศจรรย์พุ่งออกมา กลายเป็นเตาหลอมสามขาสองหูใบหนึ่ง มีท่วงทำนองอันเป็นอมตะ

นี่ก็คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเพลิงมรรคอัศจรรย์!

ตอนนั้นที่กำราบไฟนี้เคยมีลักษณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้าปรากฏ กลางฟ้าดินสรรพสิ่งคืนสู่ความเงียบ มีเพียงกระถางเพลิงใบเดียวที่ลุกโชน หลักการฟ้าดิน สุริยันจันทราดารา ล้วนถูกหลอมจนว่างเปล่า

ร่องรอยกาลเวลา วงโคจรของห้วงอากาศเหมือนไม่มีอยู่ มีเพียงเพลิงมรรคที่เหมือนเตาหลอมดวงนี้กลายเป็นสิ่งเดียวที่มั่นคงและไม่ผุพัง!

หลินสวินยังจำได้ดี ตอนนั้นขุนพลวิญญาณเพลิงที่ปกป้องไฟนี้เคยพูดว่า

‘หมายได้ไฟนี้ ต้องสัมผัสผลกรรม หมายสลายผลกรรม ต้องเข้าสถานอัศจรรย์ ไม่ว่าเจ้าเป็นผู้ใด ขอถามสักประโยค ต้องการนำเพลิงนี้ไปยังแหล่งสถานอัศจรรย์หรือไม่’

ตอนนั้นเองที่หลินสวินชี้ชัดได้ ว่าเพลิงมรรคอัศจรรย์นี้เป็นไปได้สูงว่าจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับแหล่งสถานอัศจรรย์ หนึ่งในจตุโบราณสถาน!

เพียงแต่หลายปีนี้เพลิงมรรคอัศจรรย์ไม่มีโอกาสแสดงความสามารถมาตลอด อย่างมากก็ได้แต่ช่วยหลินสวินย่างอาหารเลิศรสบางส่วน…

‘วันนี้ข้าจะใช้เจ้าเป็นเตา ใช้ศาสตราจักรพรรดิเป็นเจตวัตถุ หลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของข้าชิ้นหนึ่ง!’

หลินสวินสูดหายใจลึก แขนเสื้อพลิกตลบ ศาสตราจักรพรรดิหลายสิบชิ้นทะยานออกมาแน่นขนัด ล้วนสาดแสงสว่างไสว เผยความอัศจรรย์และอานุภาพที่แตกต่างกันออกมา

มีเชือกทองคล้องสมบัติ ภาพหมื่นลักษณ์ฟ้าดารา กระบี่ยอดสังหาร กระบี่อเวจี น้ำเต้าวิญญาณต้นกำเนิดเป็นต้น

ล้วนเป็นทรัพย์หลังศึกที่หลินสวินได้มาจากมือศัตรูในช่วงหลายปีนี้ ไม่มีสิ่งใดไม่ใช่ศาสตราจักรพรรดิล้ำค่าที่เรียกได้ว่าอัศจรรย์

และตอนนี้หลินสวินก็คิดนำพวกมันมาหลอมเป็นวัตถุดิบเสริมในการหลอมอาวุธทั้งหมด!

แน่นอนว่ายังไม่สิ้นสุด

เมื่อหลินสวินสะบัดแขนเสื้อ ศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนเก้าชิ้นอย่างกระบี่ไร้รูป ดาบไร้วิชา ทวนไร้สวรรค์ ประทับไร้ชีพ ธงไร้ระเบียบ ขวดไร้ขอบเขต จานไร้ตัวตน โคมไร้มลทิน เกราะไร้บกพร่องก็ปรากฏออกมาเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีก้อนทองแดงโบราณที่เตามารดาหลอมสมบัติเหลือทิ้งไว้ด้วย!

ห่างออกไปลั่วเจียอึ้งงัน คล้ายคิดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง ว่าในตัวหลินสวินจะซ่อนศาสตราจักรพรรดิที่เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งฟ้าดินไว้มากเช่นนี้

นี่เห็นได้ว่าน่าเหลือเชื่อนัก

แต่สำหรับหลินสวิน ของพวกนี้ล้วนไม่นับว่ามีค่าอะไร

มรรคของเขารองรับมรรคาทั่วหล้า วิวัฒน์หมื่นวิชาในใต้หล้า อดีตปัจจุบันล้วนไม่เคยมี แตกต่างจากผู้อื่น พิเศษโดดเด่นไม่เหมือนใคร

ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของเขา แน่นอนว่าย่อมเป็นเช่นนั้น!

ก็มีเพียงเช่นนี้จึงจะประสานเข้ากับมรรควิถีของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากนั้นจึงสำแดงพลังต่อสู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ออกมา!

‘ข้าจะใช้มรรคของข้าเป็นกระบวน ใช้วิชาของข้าเป็นลวดลาย หลอมศาสตราจักรพรรดิ สร้างโครงอาวุธ…’

หลินสวินสูดหายใจลึก

แต่เวลานี้เองในลานมรรคที่กว้างใหญ่นี้พลันเกิดคลื่นสะเทือนระลอกหนึ่ง จากนั้นเงาร่างงามสีแดงเพลิงสายหนึ่งปรากฏตัวกลางอากาศ

นี่คือหญิงสาวที่ราวกับวิวัฒน์จากเพลิงเทพคนหนึ่ง งดงามและเจิดจรัสหาใดเปรียบ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั้งร่างเหมือนแผดเผาทั่วหล้าได้จริงๆ เผด็จการยิ่งยวด

เพลิงเทพพันกว่าชนิดที่กระจายอยู่ในแดนลับนี้ ยามนี้ล้วนสั่นไหวขึ้นมาราวกับขุนนางกราบจักรพรรดิอย่างเลื่อมใส!

มีเพียงเพลิงมรรคอัศจรรย์ที่เหมือนไม่ได้รับผลกระทบ นิ่งสงบไม่ไหวติง กลิ่นอายอันเป็นอมตะเวียนวน

หญิงสาวมองเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนรวมถึงก้อนทองแดงนั้นก่อน จากนั้นก็เหลือบมองเพลิงมรรคอัศจรรย์เล็กน้อย สุดท้ายจึงมองไปยังหลินสวินพลางกล่าว

“เจ้าหนุ่ม เจ้าดึงดูดความสนใจของข้าสำเร็จแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+