Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2287 ทรยศ

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2287 ทรยศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พวกซี ซย่าจื้อ ต้าหวงออกจากการต่อสู้กะทันหัน ทำให้บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นรู้สึกผิดคาดไปพักหนึ่ง

ความจริงแล้วยามต่อสู้ห้ำหั่นกับซีก่อนหน้านี้ พวกเขาสังเกตเห็นว่าไม่เข้าทีอยู่ก่อนแล้ว

โดยเฉพาะยามสังเกตเห็นต้าหวงกับซย่าจื้อล่าระดับจักรพรรดิพวกนั้นอย่างต่อเนื่อง พวกเขาล้วนโกรธแค้นจนหน้าคล้ำเขียว ทั้งตระหนกทั้งหวาดกลัว ถึงขั้นไม่กล้าเชื่อ

ต่อให้ไม่อยากยอมรับ แต่จากที่พวกเขาคาดเดา หากปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ ทัพพันธมิตรของพวกเขาเผ่าเต่าดำและเสือขาวต้องถูกซัดพินาศแน่!

ยังดีที่ทั้งหมดนี้ยังไม่เกิดขึ้น

ขณะที่การถอนตัวของซี ซย่าจื้อ ต้าหวงทำให้พวกเขารู้สึกผิดคาด ไม่ทันไรก็เข้าใจทันที นัยน์ตาทอดมองไปยังจุดที่ห่างออกไปพร้อมกัน

เวลานี้ทั้งสมรภูมิถึงขั้นถูกทำให้สั่นสะเทือน ไม่ว่าจะเป็นกองทัพใหญ่ของเผ่าเต่าดำและเสือขาวที่อยู่นอกเมือง หรือพวกหวงชางเทียนที่อยู่ในเมือง ทุกคนล้วนมองไปยังจุดเดียวกัน

ตะวันสาดแสงดังโลหิต ประจวบเหมาะเป็นเวลาสายัณห์

แสงยามเย็นดุจอัคคีปกคลุมเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง กลิ่นอายเคร่งขรึมศักดิ์สิทธิ์แผ่อบอวล

สิ่งปลูกสร้างเก่าแก่สูงตระหง่านแออัดเรียงราย ภูผาธารางามประณีต แสงสีทองเวียนวนภายใต้อาทิตย์อัสดง ดูประหนึ่งภาพฝันลวงตา กว้างใหญ่ไพศาลยิ่ง

ตูม!

ไม่นานความสงบนี้ก็ถูกทำลาย แผ่นดินสั่นสะเทือน ห้วงอากาศอบอวลด้วยกลิ่นอายเหี้ยมเกรียมแข็งกร้าว

มีคนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนผ่านอากาศมาแต่ไกล ราวกับเมฆดำกดทับทั่วนคร

แต่ละคนในกลุ่มนั้นมีอานุภาพสูงส่ง ทั้งตัวปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ระดับจักรพรรดิ ราวกับนายเหนือหัวมากมายมาเยือน ทะยานผ่านภูผาธารา หมายปัดกวาดอุปสรรคขวากหนามทั้งมวล สะกดข่มผู้คนหาใดเปรียบ

เบื้องหลังพวกเขายังมีผู้ฝึกปราณขบวนแล้วขบวนเล่าตามมาด้วย กองกำลังยิ่งใหญ่เกรียงไกร รวมตัวกันราวกับมังกรคลั่งออกจากหุบเหว เพียงอานุภาพที่แผ่ออกมาจากตัวก็ปั่นป่วนคลื่นลมทั่วสารทิศ ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี

เงาร่างหลายสิบที่อยู่เบื้องหน้านั้น มีทั้งชายและหญิง ทั้งชราและเยาว์วัย กลิ่นอายของแต่ละคนล้วนแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ถึงกับเป็นระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่ง!

ผู้นำคือชายสองคน

คนหนึ่งอยู่ในชุดคลุมขาว นัยน์ตาเยียบเย็น ร่างผอมบางราวกับยอดเขาตระหง่านทะลวงเมฆ ทั่วร่างแผ่ไอสังหารน่าหวาดกลัวล้นฟ้า

ไป๋หลิงเจิน!

สมญา ‘จักรพรรดิสังหารหลิงเจิน’ หัวหน้าเผ่าเสือขาว!

ข้างกายเขามีชายชราร่างผอมผมบางประปรายเหมือนไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่งยืนอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย นัยน์ตาเขียวขจีล้ำลึกน่าหวาดกลัว

อู่ซิวสิง!

สมญา ‘จักรพรรดิยุทธ์ซิวสิง’ หัวหน้าเผ่าเต่าดำ!

บุคคลสำคัญที่เหมือนนายเหนือหัวของแต่ละโลกสองคน เวลานี้นำเฒ่าดึกดำบรรพ์มากมายของแต่ละเผ่าทะยานมา

ภาพนั้นทำให้สีหน้าของพวกหวงชางเทียนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจังหาใดเปรียบ นี่คิดจะเปิดฉากการโจมตีรอบด้านแล้วหรือ

ฟ้าดินตกอยู่ในความเงียบสงัดไปทั้งแถบ สั่นสะเทือนใจคน

ไม่ว่าจะเป็นคนในเผ่าหงส์เซียน หรือผู้แข็งแกร่งของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ ล้วนรู้สึกหวาดหวั่น กระบวนรบของอีกฝ่ายน่ากลัวเกินไป ความต่างของกำลังพลก็ห่างชั้นกันเกินไปแล้ว

ระดับจักรพรรดิมาเยือน ความน่าเกรงขามเช่นนี้สูงส่งหาใดเปรียบ ปกติยากจะได้เห็นหน้าค่าตา นับประสาอะไรกับระดับจักรพรรดินับร้อยคนรวมตัวกัน อานุภาพเช่นนั้นสามารถทำให้สำนักโบราณใดก็ตามรู้สึกสิ้นหวังจริงๆ

ระดับจักรพรรดิเดือดดาล สุริยันจันทราเปลี่ยนสี ผืนปฐพีจ่อมจม สรรพสิ่งล้วนตกอยู่ในความหวาดกลัว นี่ก็คืออานุภาพของพวกเขา แม้ว่าไร้รูป แต่กลับเพียงพอจะตัดสินความเป็นตายของสิ่งมีชีวิตเกือบทั้งหมดบนโลก!

ในยามปกติระดับจักรพรรดิล้วนยากพบเห็น ลึกลับและสูงส่ง ควบคุมขุมอำนาจฝ่ายหนึ่ง แม้ว่าไม่ปรากฏตัว แต่กลับข่มขวัญทั่วสารทิศ ทำให้ศัตรูภายนอกไม่กล้ามารุกราน

แต่ตอนนี้ระดับจักรพรรดิของเผ่าเสือขาวและเต่าดำแทบจะยกขบวนมาทั้งรัง ภาพนี้เหมือนขุนพลสวรรค์ยกทัพมาถล่มจริงๆ พาให้คนไม่อาจระงับความหวาดกลัวในใจ

ศึกใหญ่ใกล้ปะทุขึ้นแล้ว!

วันนี้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงนี่ รวมไปถึงแดนหงส์เซียนทั้งหมด ย่อมถูกลิขิตให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

“คารวะหัวหน้าเผ่า!”

“คารวะหัวหน้าเผ่า!”

บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและผู้แข็งแกร่งเผ่าเสือขาว รวมถึงบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นและผู้แข็งแกร่งเผ่าเต่าดำ ล้วนพุ่งเข้ามาต้อนรับ สีหน้าไม่วายฮึกเหิม

กำลังเสริมมาแล้ว สถานการณ์ก็จะพลิกผัน!

สายตาไป๋หลิงเจินกวาดมองทุกคนในที่นั้นแล้วอดมุ่นคิ้วไม่ได้ “การต่อสู้ก่อนหน้านี้บาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่”

ประโยคเดียวทำให้สีหน้าของพวกบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวผิดธรรมชาติขึ้นมา

“เรียนหัวหน้าเผ่า เผ่าของพวกเรามีระดับจักรพรรดิสิ้นชีพเก้าคน ส่วนเผ่าเต่าดำก็มีระดับจักรพรรดิสิ้นชีพสิบเอ็ดคน… นอกจากนี้ยังมีปฐมาจารย์สลักลายมรรคสิบกว่าคนประสบเคราะห์…”

มีคนเอ่ยเสียงเบา

เพียงชั่วขณะไป๋หลิงเจิน อู่ซิวสิงและเหล่าบุคคลสำคัญที่เพิ่งมาถึงต่างอึ้งไป แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

นัยน์ตาของไป๋หลิงเจินวาวโรจน์ สีหน้าเยียบเย็น

บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวถอนหายใจยาว ไม่กล้าปิดบัง ได้แต่เล่าความจริงออกมาทีละเรื่อง

“ผู้หญิงสองคนกับหมาหนึ่งตัว?”

เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดนี้ สีหน้าของไป๋หลิงเจินเปลี่ยนเป็นคล้ำเขียวขึ้นมา

ไม่ใช่แค่เขา สีหน้าของพวกอู่ซิวสิงก็อึมครึมหาใดเปรียบ ผู้หญิงสองคนกับหมาหนึ่งตัว เกือบซัดทัพพันธมิตรที่นำโดยบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นจนพินาศ!

ใครจะกล้าเชื่อ

บรรยากาศนอกเมืองล้วนเปลี่ยนเป็นกดดันหาใดเปรียบ

สายตาของพวกไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิง ล้วนมองไปยังเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงที่อยู่ห่างออกไปพร้อมกัน สีหน้าเต็มไปด้วยไอสังหารเยียบเย็น

“หวงชางเทียน ทิ้งเมืองแล้วยอมแพ้เสียตอนนี้ ข้าจะให้โอกาสรอดกับเผ่าหงส์เซียนของพวกเจ้า ไม่อย่างนั้นจะไม่ใช่แค่เมืองนี้ที่ถูกบดขยี้ เผ่าหงส์เซียนของพวกเจ้าก็จะถูกขุดรากถอนโคนด้วย!”

ไป๋หลิงเจินกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย เสียงดังก้องนภาราวกับฟ้าคำราม สะท้านสะเทือนทั่วทิศ

ในเมืองหวงชางเทียนสีหน้าเยียบเย็น กล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ไป๋หลิงเจิน เผ่าหงส์เซียนของข้าไม่ใช่พวกหัวหด ถ้าอยากเอาชีวิตเข้าแลกจริง สุดท้ายก็ไม่แน่ว่าใครจะตายใครจะเป็น!”

“หลังจากนี้สามวัน ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลลั่วของอีกฟากฝั่งจะมาเยือนด้วยตัวเอง เผ่าหงส์เซียนของเจ้า… จะดื้อดึงต่อต้านจริงหรือ”

บนใบหน้าชราของอู่ซิวสิงเผยแววเสียดสี “เจ้าดูนอกเมืองนี้สิ ทัพพันธมิตรเผ่าเต่าดำและเสือขาวของข้ารวมตัวอยู่ที่นี่ อาศัยกำลังพลของเผ่าหงส์เซียนเจ้า ย่อมไม่ต่างกับการเอาไข่ไปกระทบหิน เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง!”

“เจ้าเต่าเฒ่า พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย ถ้ากล้าก็พุ่งสังหารเข้ามา!”

หวงชางเทียนยิ้มหยัน

อู่ซิวสิงที่ถูกด่าว่าเต่าเฒ่ากลับไม่มีโทสะ สีหน้าราบเรียบเยือกเย็น “หวงชางเทียน เจ้าน่าจะรู้จุดประสงค์ที่พวกเรามาครานี้ ข้าจะบอกเจ้าให้ บรรพชนของเผ่าเจ้าจำเป็นต้องยอมจำนน ถึงจะมีโอกาสตื่นรู้และรอดต่อไป ไม่อย่างนั้นอย่าว่าแต่เผ่าเต่าดำและเสือขาวของข้าไม่รับปาก ต่อให้เป็นตระกูลลั่วของอีกฟากฝั่งก็ไม่ยอมปล่อยให้บรรพชนของเผ่าเจ้ารอดไปแน่!”

คำพูดนี้ดังก้องบนท้องฟ้าเหนือเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงอย่างชัดเจนทุกประการ

สีหน้าของหวงชางเทียนและเฒ่าดึกดำบรรพ์แห่งเผ่าหงส์เซียนล้วนเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูหาใดเปรียบ พวกสารเลวนี่มาเพื่อขัดขวางการตื่นรู้ของบรรพชนพวกเขาดังคาด!

“จากที่พวกข้ารู้ ตอนนั้นบรรพชนเผ่าเจ้าหลอมพลังระเบียบต้นกำเนิดแดนหงส์เซียนของพวกเจ้าเป็น ‘เพลิงเทพระเบียบ’ เพื่อแปรสภาพอย่างสมบูรณ์นานแล้ว ไม่มีทางถูกเจ้าหวงชางเทียนควบคุมได้อีก”

ไป๋หลิงเจินพลันเอ่ยปากเย็นชา “เมื่อไม่มียอดอาวุธสังหารเช่นนี้ เผ่าหงส์เซียนของเจ้าจะเอาอะไรมาขวางการโจมตีของพวกข้า อาศัย… เมืองคร่ำคร่าที่เปราะบางแห่งนี้หรือ”

น้ำเสียงเผยแววหยามเหยียดอย่างรุนแรง

“ดูออกว่าเจ้าพวกนี้เตรียมการมาก่อนดังคาด” ต้าหวงกล่าวพึมพำ

ตอนอยู่แดนเจินหลง แค่ผู้อาวุโสประหัตวิญญาณครอบครอง ‘มุกสยบหล้า’ ก็ควบคุมพลังระเบียบต้นกำเนิดของแดนวังมังกรได้ สังหารจนซีกับต้าหวงได้รับบาดเจ็บจนคิดหนี

เห็นชัดว่าพลังของ ‘เพลิงเทพระเบียบ’ ที่ไป๋หลิงเจินเอ่ยถึงก็เหมือน ‘มุกสยบหล้า’ สามารถควบคุมระเบียบต้นกำเนิดของแดนหงส์เซียนได้

แต่เพลิงเทพระเบียบนี้กลับถูกบรรพชนหงส์เซียนหลอมไปนานแล้ว แน่นอนว่าไม่มีโอกาสให้พวกหวงชางเทียนควบคุมได้อีก

นี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่ว่าทำไมพวกไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิงไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้

ส่วนหวงชางเทียนกับเฒ่าดึกดำบรรพ์ของเผ่าหงส์เซียนในตอนนี้ก็ทั้งตระหนกและขุ่นเคือง สิ่งที่ไป๋หลิงเจินกล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นความลับสำคัญของพวกเขาเผ่าหงส์เซียน!

เห็นชัดว่ามี ‘หนอนบ่อนไส้’ แพร่งพรายความลับสำคัญพวกนี้ไปนานแล้ว!

“เช่นนั้นข้าก็จะบอกเจ้าให้ วันนี้ต่อให้เผ่าหงส์เซียนของข้าตายในการต่อสู้กันหมด ก็ไม่ยอมให้พวกเจ้าสมหวังดั่งปรารถนา!”

หวงชางเทียนพลันสูดหายใจเข้าลึกๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

“งั้นรึ เช่นนั้นพวกข้าก็อยากลองดูจริงๆ”

ไป๋หลิงเจินยิ้มหยันแล้วสะบัดมือทันใด เอ่ยคำพูดแปลกประหลาดประโยคหนึ่งออกมา

“ทุกท่าน ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะสร้างความชอบแล้ว!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงก็เห็นว่า…

ข้างกายหวงชางเทียนพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง!

เฒ่าดึกดำบรรพ์ของเผ่าหงส์เซียนคนหนึ่งพลันกระโจนออกมา ซัดฝ่ามือหนึ่งไปยังแผ่นหลังของหวงชางเทียน พละกำลังยิ่งใหญ่ เร็วจนน่าเหลือเชื่อ

เหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ เหนือความคาดหมายของทุกคนอย่างสิ้นเชิง

ใครจะกล้าจินตนาการว่าในเผ่าหงส์เซียนยามนี้ ตำแหน่งข้างกายหวงชางเทียนยังมีคน ‘กบฏ’ อยู่

ปึง!

ชั่วพริบตาหวงชางเทียนก็ถูกฝ่ามือหนึ่งตบกระเด็น ปากกระอักเลือด

เมื่อเห็นว่าเขากำลังถูกเฒ่าดึกดำบรรพ์นั้นจับเป็น ก็เห็นเงาร่างของซีไหววูบทันใด มือบางโบกสะบัด แสงศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายออกมา

ตูม!

เฒ่าดึกดำบรรพ์นั้นถูกกระเทือนจนซวนเซถอยร่น ไม่รอให้เขายืนมั่นก็ถูกต้าหวงตะปบอุ้งเท้าจนลงไปกองกับพื้น กดกำราบอย่างหนักหน่วง

“ผู้อาวุโสสามสาม เจ้าทรยศเผ่าพันธุ์รึ!?”

“บัดซบ ทำไมเจ้าถึงใจร้ายเช่นนี้!”

ทุกคนในที่นั้นร้องเสียงหลง รู้ว่าคนที่ลอบโจมตีหวงชางเทียนนั้นคือผู้อาวุโสสามหวงโหย่วเต้า เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนหนึ่ง

เวลานี้หวงชางเทียนก็ได้สติกลับมา สีหน้าคล้ำเขียวหาใดเปรียบ ดวงตาทั้งสองดุจเปลวเพลิงร้อนระอุ “ผู้อาวุโสสาม ทำไมถึงทำเช่นนี้!?”

กลับเห็นหวงโหย่วเต้าคำรามเสียงแตกพร่า “ถึงตอนนี้แล้วพวกเจ้ายังไม่เข้าใจหรือ มีแค่ยอมจำนนต่อตระกูลลั่วของอีกฟากฝั่ง เผ่าของพวกเราจึงมีโอกาสรอดต่อไป! ข้าทำเช่นนี้เพื่อเผ่าพันธุ์ทั้งสิ้น!”

ในที่นั้นเกิดความโกลาหล สีหน้าของทุกคนล้วนคล้ำเขียวไม่น่าดู

แม้แต่พวกซี ต้าหวง ซย่าจื้อก็คิดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งในเผ่าหงส์เซียนกลับกลายเป็น ‘หนอนบ่อนไส้’ !

แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่สิ้นสุด

ฟุ่บ!

ก็เห็นว่าท่ามกลางความโกลาหล กระบี่บินเล่มหนึ่งพลันพุ่งออกมา ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้ตอบสนองก็ตัดหัวของเลี่ยนชิงฉีแล้ว!

ภาพนองเลือดนั้นทำให้พวกหวงชางเทียนราวกับถูกฟ้าผ่า เพิ่งตระหนักได้ว่านอกจากผู้อาวุโสสามหวงโหย่วเต้าแล้ว ในเผ่ายังมีผู้ทรยศอีก!

เวลานี้ซีกับต้าหวงลงมือพร้อมกัน ใช้พลังดุจสายฟ้าจับตัวผู้ทรยศคนนี้

พวกเขาไม่ใช่คนของเผ่าหงส์เซียน เปรียบเทียบกันแล้วย่อมเยือกเย็นที่สุด ตั้งแต่พริบตาแรกที่เหตุไม่คาดฝันปรากฏก็ลงมือโดยไม่ลังเล

เมื่อรู้ฐานะของผู้ทรยศคนนั้น สีหน้าของพวกหวงชางเทียนไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิม ใจเหมือนถูกมีดเฉือน เกรี้ยวกราดแทบคลั่งจริงๆ

“ผู้อาวุโสห้า เจ้าก็ทรยศด้วยรึ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2287 ทรยศ

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2287 ทรยศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พวกซี ซย่าจื้อ ต้าหวงออกจากการต่อสู้กะทันหัน ทำให้บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นรู้สึกผิดคาดไปพักหนึ่ง

ความจริงแล้วยามต่อสู้ห้ำหั่นกับซีก่อนหน้านี้ พวกเขาสังเกตเห็นว่าไม่เข้าทีอยู่ก่อนแล้ว

โดยเฉพาะยามสังเกตเห็นต้าหวงกับซย่าจื้อล่าระดับจักรพรรดิพวกนั้นอย่างต่อเนื่อง พวกเขาล้วนโกรธแค้นจนหน้าคล้ำเขียว ทั้งตระหนกทั้งหวาดกลัว ถึงขั้นไม่กล้าเชื่อ

ต่อให้ไม่อยากยอมรับ แต่จากที่พวกเขาคาดเดา หากปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ ทัพพันธมิตรของพวกเขาเผ่าเต่าดำและเสือขาวต้องถูกซัดพินาศแน่!

ยังดีที่ทั้งหมดนี้ยังไม่เกิดขึ้น

ขณะที่การถอนตัวของซี ซย่าจื้อ ต้าหวงทำให้พวกเขารู้สึกผิดคาด ไม่ทันไรก็เข้าใจทันที นัยน์ตาทอดมองไปยังจุดที่ห่างออกไปพร้อมกัน

เวลานี้ทั้งสมรภูมิถึงขั้นถูกทำให้สั่นสะเทือน ไม่ว่าจะเป็นกองทัพใหญ่ของเผ่าเต่าดำและเสือขาวที่อยู่นอกเมือง หรือพวกหวงชางเทียนที่อยู่ในเมือง ทุกคนล้วนมองไปยังจุดเดียวกัน

ตะวันสาดแสงดังโลหิต ประจวบเหมาะเป็นเวลาสายัณห์

แสงยามเย็นดุจอัคคีปกคลุมเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง กลิ่นอายเคร่งขรึมศักดิ์สิทธิ์แผ่อบอวล

สิ่งปลูกสร้างเก่าแก่สูงตระหง่านแออัดเรียงราย ภูผาธารางามประณีต แสงสีทองเวียนวนภายใต้อาทิตย์อัสดง ดูประหนึ่งภาพฝันลวงตา กว้างใหญ่ไพศาลยิ่ง

ตูม!

ไม่นานความสงบนี้ก็ถูกทำลาย แผ่นดินสั่นสะเทือน ห้วงอากาศอบอวลด้วยกลิ่นอายเหี้ยมเกรียมแข็งกร้าว

มีคนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนผ่านอากาศมาแต่ไกล ราวกับเมฆดำกดทับทั่วนคร

แต่ละคนในกลุ่มนั้นมีอานุภาพสูงส่ง ทั้งตัวปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ระดับจักรพรรดิ ราวกับนายเหนือหัวมากมายมาเยือน ทะยานผ่านภูผาธารา หมายปัดกวาดอุปสรรคขวากหนามทั้งมวล สะกดข่มผู้คนหาใดเปรียบ

เบื้องหลังพวกเขายังมีผู้ฝึกปราณขบวนแล้วขบวนเล่าตามมาด้วย กองกำลังยิ่งใหญ่เกรียงไกร รวมตัวกันราวกับมังกรคลั่งออกจากหุบเหว เพียงอานุภาพที่แผ่ออกมาจากตัวก็ปั่นป่วนคลื่นลมทั่วสารทิศ ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี

เงาร่างหลายสิบที่อยู่เบื้องหน้านั้น มีทั้งชายและหญิง ทั้งชราและเยาว์วัย กลิ่นอายของแต่ละคนล้วนแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ถึงกับเป็นระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่ง!

ผู้นำคือชายสองคน

คนหนึ่งอยู่ในชุดคลุมขาว นัยน์ตาเยียบเย็น ร่างผอมบางราวกับยอดเขาตระหง่านทะลวงเมฆ ทั่วร่างแผ่ไอสังหารน่าหวาดกลัวล้นฟ้า

ไป๋หลิงเจิน!

สมญา ‘จักรพรรดิสังหารหลิงเจิน’ หัวหน้าเผ่าเสือขาว!

ข้างกายเขามีชายชราร่างผอมผมบางประปรายเหมือนไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่งยืนอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย นัยน์ตาเขียวขจีล้ำลึกน่าหวาดกลัว

อู่ซิวสิง!

สมญา ‘จักรพรรดิยุทธ์ซิวสิง’ หัวหน้าเผ่าเต่าดำ!

บุคคลสำคัญที่เหมือนนายเหนือหัวของแต่ละโลกสองคน เวลานี้นำเฒ่าดึกดำบรรพ์มากมายของแต่ละเผ่าทะยานมา

ภาพนั้นทำให้สีหน้าของพวกหวงชางเทียนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจังหาใดเปรียบ นี่คิดจะเปิดฉากการโจมตีรอบด้านแล้วหรือ

ฟ้าดินตกอยู่ในความเงียบสงัดไปทั้งแถบ สั่นสะเทือนใจคน

ไม่ว่าจะเป็นคนในเผ่าหงส์เซียน หรือผู้แข็งแกร่งของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ ล้วนรู้สึกหวาดหวั่น กระบวนรบของอีกฝ่ายน่ากลัวเกินไป ความต่างของกำลังพลก็ห่างชั้นกันเกินไปแล้ว

ระดับจักรพรรดิมาเยือน ความน่าเกรงขามเช่นนี้สูงส่งหาใดเปรียบ ปกติยากจะได้เห็นหน้าค่าตา นับประสาอะไรกับระดับจักรพรรดินับร้อยคนรวมตัวกัน อานุภาพเช่นนั้นสามารถทำให้สำนักโบราณใดก็ตามรู้สึกสิ้นหวังจริงๆ

ระดับจักรพรรดิเดือดดาล สุริยันจันทราเปลี่ยนสี ผืนปฐพีจ่อมจม สรรพสิ่งล้วนตกอยู่ในความหวาดกลัว นี่ก็คืออานุภาพของพวกเขา แม้ว่าไร้รูป แต่กลับเพียงพอจะตัดสินความเป็นตายของสิ่งมีชีวิตเกือบทั้งหมดบนโลก!

ในยามปกติระดับจักรพรรดิล้วนยากพบเห็น ลึกลับและสูงส่ง ควบคุมขุมอำนาจฝ่ายหนึ่ง แม้ว่าไม่ปรากฏตัว แต่กลับข่มขวัญทั่วสารทิศ ทำให้ศัตรูภายนอกไม่กล้ามารุกราน

แต่ตอนนี้ระดับจักรพรรดิของเผ่าเสือขาวและเต่าดำแทบจะยกขบวนมาทั้งรัง ภาพนี้เหมือนขุนพลสวรรค์ยกทัพมาถล่มจริงๆ พาให้คนไม่อาจระงับความหวาดกลัวในใจ

ศึกใหญ่ใกล้ปะทุขึ้นแล้ว!

วันนี้เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงนี่ รวมไปถึงแดนหงส์เซียนทั้งหมด ย่อมถูกลิขิตให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

“คารวะหัวหน้าเผ่า!”

“คารวะหัวหน้าเผ่า!”

บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและผู้แข็งแกร่งเผ่าเสือขาว รวมถึงบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นและผู้แข็งแกร่งเผ่าเต่าดำ ล้วนพุ่งเข้ามาต้อนรับ สีหน้าไม่วายฮึกเหิม

กำลังเสริมมาแล้ว สถานการณ์ก็จะพลิกผัน!

สายตาไป๋หลิงเจินกวาดมองทุกคนในที่นั้นแล้วอดมุ่นคิ้วไม่ได้ “การต่อสู้ก่อนหน้านี้บาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่”

ประโยคเดียวทำให้สีหน้าของพวกบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวผิดธรรมชาติขึ้นมา

“เรียนหัวหน้าเผ่า เผ่าของพวกเรามีระดับจักรพรรดิสิ้นชีพเก้าคน ส่วนเผ่าเต่าดำก็มีระดับจักรพรรดิสิ้นชีพสิบเอ็ดคน… นอกจากนี้ยังมีปฐมาจารย์สลักลายมรรคสิบกว่าคนประสบเคราะห์…”

มีคนเอ่ยเสียงเบา

เพียงชั่วขณะไป๋หลิงเจิน อู่ซิวสิงและเหล่าบุคคลสำคัญที่เพิ่งมาถึงต่างอึ้งไป แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

นัยน์ตาของไป๋หลิงเจินวาวโรจน์ สีหน้าเยียบเย็น

บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวถอนหายใจยาว ไม่กล้าปิดบัง ได้แต่เล่าความจริงออกมาทีละเรื่อง

“ผู้หญิงสองคนกับหมาหนึ่งตัว?”

เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดนี้ สีหน้าของไป๋หลิงเจินเปลี่ยนเป็นคล้ำเขียวขึ้นมา

ไม่ใช่แค่เขา สีหน้าของพวกอู่ซิวสิงก็อึมครึมหาใดเปรียบ ผู้หญิงสองคนกับหมาหนึ่งตัว เกือบซัดทัพพันธมิตรที่นำโดยบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นจนพินาศ!

ใครจะกล้าเชื่อ

บรรยากาศนอกเมืองล้วนเปลี่ยนเป็นกดดันหาใดเปรียบ

สายตาของพวกไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิง ล้วนมองไปยังเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงที่อยู่ห่างออกไปพร้อมกัน สีหน้าเต็มไปด้วยไอสังหารเยียบเย็น

“หวงชางเทียน ทิ้งเมืองแล้วยอมแพ้เสียตอนนี้ ข้าจะให้โอกาสรอดกับเผ่าหงส์เซียนของพวกเจ้า ไม่อย่างนั้นจะไม่ใช่แค่เมืองนี้ที่ถูกบดขยี้ เผ่าหงส์เซียนของพวกเจ้าก็จะถูกขุดรากถอนโคนด้วย!”

ไป๋หลิงเจินกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย เสียงดังก้องนภาราวกับฟ้าคำราม สะท้านสะเทือนทั่วทิศ

ในเมืองหวงชางเทียนสีหน้าเยียบเย็น กล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ไป๋หลิงเจิน เผ่าหงส์เซียนของข้าไม่ใช่พวกหัวหด ถ้าอยากเอาชีวิตเข้าแลกจริง สุดท้ายก็ไม่แน่ว่าใครจะตายใครจะเป็น!”

“หลังจากนี้สามวัน ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลลั่วของอีกฟากฝั่งจะมาเยือนด้วยตัวเอง เผ่าหงส์เซียนของเจ้า… จะดื้อดึงต่อต้านจริงหรือ”

บนใบหน้าชราของอู่ซิวสิงเผยแววเสียดสี “เจ้าดูนอกเมืองนี้สิ ทัพพันธมิตรเผ่าเต่าดำและเสือขาวของข้ารวมตัวอยู่ที่นี่ อาศัยกำลังพลของเผ่าหงส์เซียนเจ้า ย่อมไม่ต่างกับการเอาไข่ไปกระทบหิน เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง!”

“เจ้าเต่าเฒ่า พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย ถ้ากล้าก็พุ่งสังหารเข้ามา!”

หวงชางเทียนยิ้มหยัน

อู่ซิวสิงที่ถูกด่าว่าเต่าเฒ่ากลับไม่มีโทสะ สีหน้าราบเรียบเยือกเย็น “หวงชางเทียน เจ้าน่าจะรู้จุดประสงค์ที่พวกเรามาครานี้ ข้าจะบอกเจ้าให้ บรรพชนของเผ่าเจ้าจำเป็นต้องยอมจำนน ถึงจะมีโอกาสตื่นรู้และรอดต่อไป ไม่อย่างนั้นอย่าว่าแต่เผ่าเต่าดำและเสือขาวของข้าไม่รับปาก ต่อให้เป็นตระกูลลั่วของอีกฟากฝั่งก็ไม่ยอมปล่อยให้บรรพชนของเผ่าเจ้ารอดไปแน่!”

คำพูดนี้ดังก้องบนท้องฟ้าเหนือเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงอย่างชัดเจนทุกประการ

สีหน้าของหวงชางเทียนและเฒ่าดึกดำบรรพ์แห่งเผ่าหงส์เซียนล้วนเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูหาใดเปรียบ พวกสารเลวนี่มาเพื่อขัดขวางการตื่นรู้ของบรรพชนพวกเขาดังคาด!

“จากที่พวกข้ารู้ ตอนนั้นบรรพชนเผ่าเจ้าหลอมพลังระเบียบต้นกำเนิดแดนหงส์เซียนของพวกเจ้าเป็น ‘เพลิงเทพระเบียบ’ เพื่อแปรสภาพอย่างสมบูรณ์นานแล้ว ไม่มีทางถูกเจ้าหวงชางเทียนควบคุมได้อีก”

ไป๋หลิงเจินพลันเอ่ยปากเย็นชา “เมื่อไม่มียอดอาวุธสังหารเช่นนี้ เผ่าหงส์เซียนของเจ้าจะเอาอะไรมาขวางการโจมตีของพวกข้า อาศัย… เมืองคร่ำคร่าที่เปราะบางแห่งนี้หรือ”

น้ำเสียงเผยแววหยามเหยียดอย่างรุนแรง

“ดูออกว่าเจ้าพวกนี้เตรียมการมาก่อนดังคาด” ต้าหวงกล่าวพึมพำ

ตอนอยู่แดนเจินหลง แค่ผู้อาวุโสประหัตวิญญาณครอบครอง ‘มุกสยบหล้า’ ก็ควบคุมพลังระเบียบต้นกำเนิดของแดนวังมังกรได้ สังหารจนซีกับต้าหวงได้รับบาดเจ็บจนคิดหนี

เห็นชัดว่าพลังของ ‘เพลิงเทพระเบียบ’ ที่ไป๋หลิงเจินเอ่ยถึงก็เหมือน ‘มุกสยบหล้า’ สามารถควบคุมระเบียบต้นกำเนิดของแดนหงส์เซียนได้

แต่เพลิงเทพระเบียบนี้กลับถูกบรรพชนหงส์เซียนหลอมไปนานแล้ว แน่นอนว่าไม่มีโอกาสให้พวกหวงชางเทียนควบคุมได้อีก

นี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่ว่าทำไมพวกไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิงไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้

ส่วนหวงชางเทียนกับเฒ่าดึกดำบรรพ์ของเผ่าหงส์เซียนในตอนนี้ก็ทั้งตระหนกและขุ่นเคือง สิ่งที่ไป๋หลิงเจินกล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นความลับสำคัญของพวกเขาเผ่าหงส์เซียน!

เห็นชัดว่ามี ‘หนอนบ่อนไส้’ แพร่งพรายความลับสำคัญพวกนี้ไปนานแล้ว!

“เช่นนั้นข้าก็จะบอกเจ้าให้ วันนี้ต่อให้เผ่าหงส์เซียนของข้าตายในการต่อสู้กันหมด ก็ไม่ยอมให้พวกเจ้าสมหวังดั่งปรารถนา!”

หวงชางเทียนพลันสูดหายใจเข้าลึกๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

“งั้นรึ เช่นนั้นพวกข้าก็อยากลองดูจริงๆ”

ไป๋หลิงเจินยิ้มหยันแล้วสะบัดมือทันใด เอ่ยคำพูดแปลกประหลาดประโยคหนึ่งออกมา

“ทุกท่าน ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะสร้างความชอบแล้ว!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงก็เห็นว่า…

ข้างกายหวงชางเทียนพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง!

เฒ่าดึกดำบรรพ์ของเผ่าหงส์เซียนคนหนึ่งพลันกระโจนออกมา ซัดฝ่ามือหนึ่งไปยังแผ่นหลังของหวงชางเทียน พละกำลังยิ่งใหญ่ เร็วจนน่าเหลือเชื่อ

เหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ เหนือความคาดหมายของทุกคนอย่างสิ้นเชิง

ใครจะกล้าจินตนาการว่าในเผ่าหงส์เซียนยามนี้ ตำแหน่งข้างกายหวงชางเทียนยังมีคน ‘กบฏ’ อยู่

ปึง!

ชั่วพริบตาหวงชางเทียนก็ถูกฝ่ามือหนึ่งตบกระเด็น ปากกระอักเลือด

เมื่อเห็นว่าเขากำลังถูกเฒ่าดึกดำบรรพ์นั้นจับเป็น ก็เห็นเงาร่างของซีไหววูบทันใด มือบางโบกสะบัด แสงศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายออกมา

ตูม!

เฒ่าดึกดำบรรพ์นั้นถูกกระเทือนจนซวนเซถอยร่น ไม่รอให้เขายืนมั่นก็ถูกต้าหวงตะปบอุ้งเท้าจนลงไปกองกับพื้น กดกำราบอย่างหนักหน่วง

“ผู้อาวุโสสามสาม เจ้าทรยศเผ่าพันธุ์รึ!?”

“บัดซบ ทำไมเจ้าถึงใจร้ายเช่นนี้!”

ทุกคนในที่นั้นร้องเสียงหลง รู้ว่าคนที่ลอบโจมตีหวงชางเทียนนั้นคือผู้อาวุโสสามหวงโหย่วเต้า เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนหนึ่ง

เวลานี้หวงชางเทียนก็ได้สติกลับมา สีหน้าคล้ำเขียวหาใดเปรียบ ดวงตาทั้งสองดุจเปลวเพลิงร้อนระอุ “ผู้อาวุโสสาม ทำไมถึงทำเช่นนี้!?”

กลับเห็นหวงโหย่วเต้าคำรามเสียงแตกพร่า “ถึงตอนนี้แล้วพวกเจ้ายังไม่เข้าใจหรือ มีแค่ยอมจำนนต่อตระกูลลั่วของอีกฟากฝั่ง เผ่าของพวกเราจึงมีโอกาสรอดต่อไป! ข้าทำเช่นนี้เพื่อเผ่าพันธุ์ทั้งสิ้น!”

ในที่นั้นเกิดความโกลาหล สีหน้าของทุกคนล้วนคล้ำเขียวไม่น่าดู

แม้แต่พวกซี ต้าหวง ซย่าจื้อก็คิดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งในเผ่าหงส์เซียนกลับกลายเป็น ‘หนอนบ่อนไส้’ !

แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่สิ้นสุด

ฟุ่บ!

ก็เห็นว่าท่ามกลางความโกลาหล กระบี่บินเล่มหนึ่งพลันพุ่งออกมา ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้ตอบสนองก็ตัดหัวของเลี่ยนชิงฉีแล้ว!

ภาพนองเลือดนั้นทำให้พวกหวงชางเทียนราวกับถูกฟ้าผ่า เพิ่งตระหนักได้ว่านอกจากผู้อาวุโสสามหวงโหย่วเต้าแล้ว ในเผ่ายังมีผู้ทรยศอีก!

เวลานี้ซีกับต้าหวงลงมือพร้อมกัน ใช้พลังดุจสายฟ้าจับตัวผู้ทรยศคนนี้

พวกเขาไม่ใช่คนของเผ่าหงส์เซียน เปรียบเทียบกันแล้วย่อมเยือกเย็นที่สุด ตั้งแต่พริบตาแรกที่เหตุไม่คาดฝันปรากฏก็ลงมือโดยไม่ลังเล

เมื่อรู้ฐานะของผู้ทรยศคนนั้น สีหน้าของพวกหวงชางเทียนไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิม ใจเหมือนถูกมีดเฉือน เกรี้ยวกราดแทบคลั่งจริงๆ

“ผู้อาวุโสห้า เจ้าก็ทรยศด้วยรึ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+