Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2306 เคราะห์โลกเร้นปริศนา หุบเหวกลืนกิน

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2306 เคราะห์โลกเร้นปริศนา หุบเหวกลืนกิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิเต้ายวนหวนคืนโลกมืดอีกครั้ง!

ในขณะที่หลินสวินกำลังจะทะลวงขั้น ข่าวนี้ก็ลือกันทั่วโลกมืดราวสายฟ้าฟาด เรียกคลื่นลมใหญ่ซัดสาด ผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ต่างสะท้านสะเทือนและฮือฮากับเรื่องนี้

ใครจะลืมลง ในปีที่แดนปรินิพพานปรากฏ ผู้มากความสามารถทั่งหล้าฟ้าดารารวมตัว กลับมีเพียงจักรพรรดิเต้ายวนที่อยู่เหนือผู้อื่น

แล้วใครจะลืมคนที่เหมือนตำนาน คนเดียวที่บรรลุมกุฎจักรพรรดิในรอบแสนปีนับแต่อดีตจนปัจจุบันได้ลง

สามปีก่อน ขุมอำนาจทั่วหล้าฟ้าดาราไม่รู้เท่าไหร่ต่างค้นหาร่องรอยของจักรพรรดิเต้ายวน บ้างเพื่อแก้แค้น

บ้างก็เพื่อต่อสู้ชิงศุภโชคบนตัวเขา

แต่ก็เริ่มจากเวลานั้นเป็นต้นมา จักรพรรดิเต้ายวนเงียบหายไร้ร่องรอย ทำให้คนทั่วหล้าไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ใด

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเวลาผ่านไปสามปีเขาจะปรากฏตัวที่โลกมืดอีกครั้ง!

ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป ทั่วหล้าต่างจับตามอง

ไม่นาน การเข่นฆ่านองเลือดที่เกิดขึ้นริมฝั่งมหาสมุทรเลือดไร้สงบก็แพร่สะพัดออกมา ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของหลินสวินทรงพลังไร้ทัดเทียม

ระดับจักรพรรดิสิบหกคนที่มาจากแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพ กลับถูกจักรพรรดิเต้ายวนคนเดียวสังหารราบคาบ!

ข่าวระดับนี้เห็นได้ชัดว่าสะเทือนจิตใจผู้คนเป็นพิเศษ

“นี่จักรพรรดิเต้ายวนคิดจะเปิดศึกกับแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพหรือ”

เสียงฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่ดังขึ้น

โลกมืดในตอนนี้เสมือนถูกสองยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์ควบคุมโดยสิ้นเชิง ส่วนหอวิหคทองแดงแทบจะล่มสลายอยู่รอมร่อ พร้อมๆ กับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของเจ้าหอวิหคทองแดงแต่ต้นแล้ว

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินที่สังหารระดับจักรพรรดิของแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพ จึงถูกมองว่าเป็นการประกาศศึกอันนองเลือดอย่างหนึ่ง!

“ว่ากันว่าจักรพรรดิเต้ายวนและจักรพรรดิสงครามคำรนของหอวิหคทองแดงปรากฏตัวพร้อมกัน เป็นไปได้สูงว่าอาจจะแก้แค้นให้หอวิหคทองแดงก็เป็นได้!”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เพียงแต่จักรพรรดิเต้ายวนไม่ห่วงว่าจะถูกแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพกำจัดบ้างเลยหรือ”

“เจ้านี่ไม่รู้อะไร ในทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้ จักรพรรดิเต้ายวนเคยกลัวใครบ้าง อย่าลืมสิ เขาเป็นถึงผู้สืบทอดคีรีดวงกมล! เคยสังหารผู้แข็งแกร่งของหกเรือนมรรคใหญ่และสิบเผ่านักรบใหญ่ไม่รู้เท่าไร หลายปีมานี้ทั่วทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารา ขุมอำนาจที่อาฆาตแค้นจักรพรรดิเต้ายวนมีไม่รู้มากเท่าไหร่ แต่สุดท้ายมีใครทำอะไรจักรพรรดิเต้ายวนได้บ้าง”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ราวกระแสน้ำเชี่ยวปั่นป่วน กึกก้องในเมืองและเขตพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกมืด

จักรพรรดิเต้ายวน!

ผู้บรรลุมกุฎจักรพรรดิในหนึ่งแสนปีมานี้ มีเพียงคนผู้นี้เท่านั้น!

คนที่ดุจดั่งตำนานเช่นนี้ ตอนนี้หมายจะแก้แค้นให้หอวิหคทองแดง ประกาศศึกกับแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพด้วยวิธีนองเลือด ใครจะไม่รอชมกันเล่า

ผู้แข็งแกร่งและขุมอำนาจใต้อาณัติหอวิหคทองแดงที่ยังเหลือรอดตามพื้นที่ต่างๆ ในโลกมืดตอนนี้ ยามได้ยินข่าวนี้ต่างก็อดฮึกเหิมขึ้นมาไม่ได้

จักรพรรดิเต้ายวนและจักรพรรดิสงครามคำรนปรากฏตัวพร้อมกัน ดุจดั่งแสงสว่างสายหนึ่งทำลายความมืด ทำให้พวกเขามองเห็นเสี้ยวความหวังที่จะพลิกสถานการณ์ได้!

แม้จะริบหรี่แค่ไหน แต่ถึงอย่างไรก็เป็นความหวัง!

แต่แล้วในวันนั้น

ข่าวที่สะท้านสะเทือนโลกมืดกระจายออกมา

อวี้คุนจื่อเจ้าสำนักสำนักโบราณจรัสเทพป่าวประกาศ นัดหมายจักรพรรดิเต้ายวนไปพบที่ ‘เขาหุบเหวโลหิต’

เมื่อข่าวแพร่ออกมา ทั่วทั้งโลกมืดล้วนฮือฮา คนนับไม่ถ้วนจับตามอง เดือดพล่านด้วยเรื่องนี้ ถึงขั้นยากจะเชื่อ

กาลเวลานับไม่ถ้วนที่ผ่านมานี้ อวี้คุนจื่อ ‘จักรพรรดิธรรมลมมายา’ เจ้าสำนักแดนกษิติครรภ์ รวมถึงเจ้าหอวิหคทองแดง ถูกเรียกว่าเป็นสองในสามนายเหนือหัวใหญ่ที่ปกครองโลกมืด!

ใครก็คาดไม่ถึงว่าจักรพรรดิเต้ายวนเพิ่งปรากฏตัวได้ไม่นาน คนใหญ่คนโตระดับอวี้คุนจื่อก็จะออกปากขอนัดพบจักรพรรดิเต้ายวน!

ทุกคนต่างตระหนักได้ว่าสองยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์กำลังจะเคลื่อนไหวแล้ว

สำนักโบราณจรัสเทพ รากฐานลึกล้ำสุดหยั่ง

แดนกษิติครรภ์ยิ่งทำให้คนแค่พูดถึงก็หน้าเปลี่ยนสี

สิ่งที่ทำให้คนกริ่งเกรงมากที่สุดคือ สองสำนักใหญ่เก่าแก่นี้ ล้วนมีความสัมพันธ์ชนิดแยกจากกันไม่ออกกับจักรพรรดิสวรรค์ดำรงที่ควบคุมพลังระเบียบต้องห้าม

ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน หลังจักรพรรดิสวรรค์ดำรงมาเยือนทางเดินโบราณฟ้าดารา สองสำนักใหญ่นี้ก็โอนอ่อนผ่อนตามจักรพรรดิสวรรค์ดำรงตลอดมา

จักรพรรดิเต้ายวนคนเดียว แม้จะเพิ่มจักรพรรดิสงครามคำรนมาอีกคน จะสามารถงัดข้อกับสองยักษ์ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร

“สองปีมานี้ขุมอำนาจของหอวิหคทองแดงพบเจอการโจมตีประหนึ่งทำลายล้างนานแล้ว ย่อมไม่มีทางช่วยเหลืออะไรได้ ถึงแม้จักรพรรดิเต้ายวนจะบรรลุมกุฎจักรพรรดิ แต่อย่างไรช่วงเวลาที่บรรลุจักรพรรดิก็สั้นเกินไป ครั้งนี้… เขาอาจเจอปัญหาใหญ่แน่แล้ว!”

คนมากมายวิเคราะห์อย่างใจเย็น และได้ข้อสรุปเช่นนี้ออกมา

“อวี้คุนจื่อเจ้าสำนักสำนักโบราณจรัสเทพออกปากเอง แค่คิดก็รู้ เกรงว่านี่คือคิดจะเล่นงานจักรพรรดิเต้ายวนแน่ๆ แล้ว”

“ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ของจักรพรรดิเต้ายวนก็คือรีบออกจากโลกมืด ด้วยรากฐานน่าสะพรึงระดับมกุฎมหาจักรพรรดิของเขา หากต้องการหนี บนโลกนี้ใครจะขวางได้ ขอเพียงให้เขาเก็ยตัวเงียบร้อยปีพันปี วันหน้าอย่าหวนกลับมาอีก”

…เสียงวิพากษ์วิจารณ์และวิเคราะห์ต่างๆ ผุดขึ้นไม่หยุด หลังผู้คนสงบลงแล้วจึงตระหนักว่าถึงแม้จักรพรรดิเต้ายวนจะดุจดั่งตำนาน แต่หากจะต้านสองยักษ์ใหญ่จริงๆ กลับไม่มีโอกาสชนะมากนัก

แต่ไม่ว่าอย่างไรเมื่อข่าวนี้แพร่กระจายและถูกวิเคราะห์มากมาย สายตานับไม่ถ้วนจากทั่วทุกมุมต่างมองมาทางเขาหุบเหวโลหิต

นี่เป็นสถานที่ที่อวี้คุนจื่อนัดพบจักรพรรดิเต้ายวน!

หลังจากจักรพรรดิเต้ายวนได้รู้ข่าว… จะกล้ามาตามนัดหรือไม่

สำหรับทั้งหมดนี้ หลินสวินยังไม่รู้สักนิด เขากำลังข้ามด่านเคราะห์อยู่

ตูม!

เหนือมหาสมุทรเลือดไร้สงบ เมฆดำดุจหมึกแผ่ทั่วเวิ้งฟ้า วิปริตแปรปรวนไม่หยุด ส่งเสียงดังกระหึ่มราวฟ้าคำราม

โลกที่เกิดขึ้นจากอสนีเคราะห์ควบรวมออกมา ภูผาธาราภายในนั้นกว้างใหญ่ เขตแดนไร้กำจัด มีอสนีเคราะห์ภูเขาไฟที่ราวกับสาดพุ่ง มีกระแสอสนีที่ประหนึ่งมหาสมุทรโหมตลบกลางฟ้าดิน

วิญญาณอสนีที่แปลงมาจากต้นไม้ใบหญ้านับไม่ถ้วนทะยานอยู่กลางฟ้าดิน สาดพ่นลำแสงอัสนีที่เจิดจ้าแสบตา เมฆลมที่โหมคลั่งกลางฟ้าดินล้วนรายล้อมด้วยประกายอสนีเคราะห์ที่เดือดพล่าน

นี่ก็คือ ‘เคราะห์โลกเร้นปริศนา’ ปราการสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดของระดับจักรพรรดิขั้นสี่ โลกใหญ่สายฟ้าที่แปรสภาพมาจากเคราะห์จักรพรรดิแห่งหนึ่ง!

ประกายอสนีที่ส่องแปลบปลาบภายในนั้นล้วนสามารถสังหารระดับจักรพรรดิทั่วไปได้ น่ากลัวสุดขีด

เปรี้ยง!

ในโลกสายฟ้าเงาร่างที่สูงใหญ่กำยำสายหนึ่งพุ่งสังหารอยู่ภายใน ร่างกายดุจหุบเหวใหญ่กลืนกินฟ้าดิน เคลื่อนตัวพุ่งทะยาน

พายุสายฟ้าที่โหมกระหน่ำราวโซ่เทพระเบียบกลับถูกเขาหวดหมัดซัดกระจุยทั้งหมด สาดพรมละอองแสงอสนีที่เจิดจ้าแสบตาออกมามากมาย

มองจากไกลๆ ประดุจเทพศักดิ์สิทธิ์พุ่งสังหารอยู่ข้างใน ซัดสะเทือนอสนีทั่วม่านฟ้า!

เงาร่างนี้ก็คือหลินสวิน

นัยน์ตาลึกล้ำของเขาดุจอสนีเย็นเยียบ มรรควิถีทั้งร่างก้องกระหึ่มราวเตาเดือดปั่นป่วน ปลดปล่อยโคจรสุดกำลัง ยามขยับมือก็สามารถซัดภูเขาใหญ่อสนีเคราะห์แตกกระจุย ฟันพายุสายฟ้าได้!

เห็นชัดว่าเขาแข็งแกร่งหาใดเปรียบ โจมตีอหังการ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากทั่วร่างดุจดั่งหุบเหว สูบกลืนศุภโชค

เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา

โลกที่แปลงมาจากอสนีเคราะห์นี่ก็เกิดรูพรุนยับเยิน สภาพไม่ชวนมอง

จากนั้นพร้อมกับเสียงดังกระหึ่มที่ชวนให้ประหวั่นใจเป็นระลอกๆ กึกก้องขึ้น หอเรือนที่แปลงจากอสนีเคราะห์ผุดขึ้นจากพื้นหลังแล้วหลังเล่า

สิ่งก่อสร้างแต่ละหลังล้วนปกคลุมด้วยเพลิงแสงอสนีเคราะห์ สมบัติน่าสะพรึงต่างๆ อย่างทวนศึก ระฆังทองแดง ประทับมรรค กระบี่บิน แส้หางม้า แจกันสมบัติแผ่พุ่งออกมา…

แต่ละอย่างล้วนเจือกลิ่นอายอสนีเคราะห์แปลกประหลาด แข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการ เพียงโจมตีส่งๆ ถึงขั้นเทียบได้กับอานุภาพระดับจักรพรรดิขั้นหก!

นี่หากให้ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นสามทั่วไปข้ามด่านเคราะห์ เกรงว่าคงถูกกระหน่ำโจมตีจนจิตสิ้นวิญญาณสลายไปแล้ว

อานุภาพสังหารแข็งแกร่งหาใดเปรียบของหลินสวินถูกจำกัดทันที ทั้งตัวประสบการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิต

ชั่วครู่หนึ่ง

เขาหนังเปิดเนื้อถลอก ทั่วร่างอาบเลือด กระดูกทั้งตัวล้วนบาดเจ็บสาหัส สถานการณ์วิกฤตคับขัน

นี่ก็คือเคราะห์โลกเร้นปริศนา เป็นเคราะห์ชั้นเลิศที่พุ่งเป้ามายังมกุฎมหาจักรพรรดิ!

แต่หลินสวินกลับคล้ายไม่สะทกสะท้าน ในดวงตาเจตจำนงลุกโชนราวเดือดพล่าน แน่วแน่เหมือนเก่า สงบเยือกเย็นเช่นเคย

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

…เขาพุ่งสังหารอีกครั้ง อานุภาพดั่งเทพมาร แม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่อานุภาพกลับไม่ลดลง ตรงข้ามยิ่งสู้ยิ่งองอาจ อานุภาพทั้งตัวซัดสะเทือนธารดาราโดยรอบ

ทั้งชีวิตนี้ของหลินสวิน ตั้งแต่ผงาดขึ้นมาในจักรวรรดิจื่อเย่าเมื่อสมัยเด็ก จวบจนอหังการเหนือดินแดนรกร้างโบราณ กรำศึกในฟ้าดารา… จนถึงตอนนี้จำนวนครั้งที่ข้ามด่านเคราะห์มีไม่รู้เท่าไหร่ มหาเคราะห์ที่แปลกประหลาดและเรียกได้ว่าไร้ทัดเทียมบางส่วนก็พบบ่อยจนชินนานแล้ว

ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา ว่าอะไรที่เรียกว่าเกิดใหม่ในการดับสูญ อะไรที่เรียกว่าเปลี่ยนแปลงท่ามกลางความเป็นความตาย!

ฉะนั้นยามทะลวงเคราะห์ครั้งนี้ แม้จะประสบอันตรายสุดหยั่ง เจ็บตัวแสนสาหัส แต่สภาพจิตใจของเขาตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยได้รับผลกระทบและสั่นคลอนเลยสักเสี้ยว

“ฆ่า!”

กลางฟ้าดินหลินสวินตะโกนก้องดั่งสายฟ้า ผมยาวปลิวไสว ดั่งเปลวเพลิงที่ไม่มอดดับ ทะลวงด่านเคราะห์ถึงชีวิต ต่อสู้เลือดอาบ

และในการข้ามด่านเคราะห์และการสังหารระดับนี้ มรรควิถี สารกาย พลังชีวิต และจิตใจของเขาต่างพุ่งกระฉูด เปลี่ยนแปลงอย่างพรวดพราด…

หลังเข้าสู่ธรณีประตูระดับจักรพรรดิ ทุกครั้งที่เลื่อนขั้นล้วนยากเย็นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า แต่ละขั้นล้วนอันตรายและทรหดกว่าเก่า

แต่ขณะเดียวกันหลังทะลวงขั้นได้แล้ว พลังต่อสู้ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นกอง เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าสะเทือนดิน!

ตั้งแต่หลินสวินบรรลุมกุฎจักรพรรดิในแดนปรินิพพานปีนั้น จวบจนบัดนี้ยังไม่ทันถึงสิบปีก็ทะลวงขั้นต่อเนื่อง ตอนนี้ยิ่งข้ามเคราะห์สวรรค์ของระดับจักรพรรดิขั้นสี่ ความเร็วในการเลื่อนขั้นระดับนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นประวัติการณ์ ชวนตะลึงพรึงเพริดนัก

หนึ่งวันให้หลังเต็มๆ

กลิ่นอายหลินสวินรุนแรง ปลดปล่อยพลังแฝงทั้งหมดออกมาฉับพลัน สำแดงนัยเร้นลับของคัมภีร์เตาหลอมมหามรรค

ตูม!

ก็เห็นในโลกอสนีเคราะห์นี้ประดุจมีหุบเหวใหญ่ปรากฏ กลืนกินอสนีปั่นป่วนสิบทิศแปดทางด้วยอานุภาพบดขยี้แหลกละเอียด

ภูผาธารา แผ่นดินใหญ่ ห้วงอากาศ ละอองแสง อสนีเคราะห์… ทุกสิ่งล้วนถูกหุบเหวใหญ่นั่นกลืนกินปานลมหอบเข้ากลีบเมฆ

จนตอนท้ายหุบเหวใหญ่นี่ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น กลืนกินเวิ้งฟ้า!

เหนือมหาสมุทรเลือดไร้สงบ ไกลออกไปต้าหวง ชิงอิง และสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งกลุ่มต่างรอคอยอยู่ตลอด จนถึงตอนนี้ล้วนรู้สึกใจเต้นเนื้อกระตุก สะท้านสะเทือนไม่หาย

ไม่ว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ยาวนานเท่าไหร่ มีปราณระดับไหน แต่อย่างไรก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น ‘เคราะห์โลกเร้นปริศนา’ ซึ่งเป็นของมกุฎมหาจักรพรรดิ

กลิ่นอายพิบัติเคราะห์ปานทำลายล้างระดับนั้นทำให้พวกเขาล้วนรู้สึกกดดันหายใจไม่ออก ขนพองสยองเกล้า ยากจะขยับตัว

น่ากลัวยิ่ง!

ลองถามตัวเองในใจ หากเป็นพวกเขากำลังข้ามด่านเคราะห์ คงไม่รู้ว่าจะยืนหยัดจนถึงตอนนี้ได้หรือไม่

“เคราะห์สวรรค์นี้น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว แค่ไม่รู้ว่าเจ้าหนูนั่นตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง…” ต้าหวงชักเริ่มเป็นห่วง ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว พิบัติเคราะห์ครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด ตรงข้ามกลับยิ่งน่าสะพรึงขึ้นทุกที

และก็เป็นเวลานี้

ตูม!

ฟ้าดินสั่นสะเทือน ผิวสมุทรพลิกม้วน

ภาพที่เรียกได้ว่าน่าเหลือเชื่อปรากฏในครรลองสายตาของพวกต้าหวง ชิงอิง…

โลกที่แปลงมาจากเคราะห์โลกเร้นปริศนานั่นเกิดเสียงสะเทือนฟ้าดินฉับพลัน ถูกหุบเหวใหญ่น่าสะพรึงที่ปรากฏขึ้นฉีกทึ้ง บดขยี้ และกลืนกิน!

หุบเหวกลืนกินอย่างแท้จริง!

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2306 เคราะห์โลกเร้นปริศนา หุบเหวกลืนกิน

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2306 เคราะห์โลกเร้นปริศนา หุบเหวกลืนกิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิเต้ายวนหวนคืนโลกมืดอีกครั้ง!

ในขณะที่หลินสวินกำลังจะทะลวงขั้น ข่าวนี้ก็ลือกันทั่วโลกมืดราวสายฟ้าฟาด เรียกคลื่นลมใหญ่ซัดสาด ผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ต่างสะท้านสะเทือนและฮือฮากับเรื่องนี้

ใครจะลืมลง ในปีที่แดนปรินิพพานปรากฏ ผู้มากความสามารถทั่งหล้าฟ้าดารารวมตัว กลับมีเพียงจักรพรรดิเต้ายวนที่อยู่เหนือผู้อื่น

แล้วใครจะลืมคนที่เหมือนตำนาน คนเดียวที่บรรลุมกุฎจักรพรรดิในรอบแสนปีนับแต่อดีตจนปัจจุบันได้ลง

สามปีก่อน ขุมอำนาจทั่วหล้าฟ้าดาราไม่รู้เท่าไหร่ต่างค้นหาร่องรอยของจักรพรรดิเต้ายวน บ้างเพื่อแก้แค้น

บ้างก็เพื่อต่อสู้ชิงศุภโชคบนตัวเขา

แต่ก็เริ่มจากเวลานั้นเป็นต้นมา จักรพรรดิเต้ายวนเงียบหายไร้ร่องรอย ทำให้คนทั่วหล้าไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ใด

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเวลาผ่านไปสามปีเขาจะปรากฏตัวที่โลกมืดอีกครั้ง!

ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป ทั่วหล้าต่างจับตามอง

ไม่นาน การเข่นฆ่านองเลือดที่เกิดขึ้นริมฝั่งมหาสมุทรเลือดไร้สงบก็แพร่สะพัดออกมา ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของหลินสวินทรงพลังไร้ทัดเทียม

ระดับจักรพรรดิสิบหกคนที่มาจากแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพ กลับถูกจักรพรรดิเต้ายวนคนเดียวสังหารราบคาบ!

ข่าวระดับนี้เห็นได้ชัดว่าสะเทือนจิตใจผู้คนเป็นพิเศษ

“นี่จักรพรรดิเต้ายวนคิดจะเปิดศึกกับแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพหรือ”

เสียงฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่ดังขึ้น

โลกมืดในตอนนี้เสมือนถูกสองยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์ควบคุมโดยสิ้นเชิง ส่วนหอวิหคทองแดงแทบจะล่มสลายอยู่รอมร่อ พร้อมๆ กับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของเจ้าหอวิหคทองแดงแต่ต้นแล้ว

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินที่สังหารระดับจักรพรรดิของแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพ จึงถูกมองว่าเป็นการประกาศศึกอันนองเลือดอย่างหนึ่ง!

“ว่ากันว่าจักรพรรดิเต้ายวนและจักรพรรดิสงครามคำรนของหอวิหคทองแดงปรากฏตัวพร้อมกัน เป็นไปได้สูงว่าอาจจะแก้แค้นให้หอวิหคทองแดงก็เป็นได้!”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เพียงแต่จักรพรรดิเต้ายวนไม่ห่วงว่าจะถูกแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพกำจัดบ้างเลยหรือ”

“เจ้านี่ไม่รู้อะไร ในทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้ จักรพรรดิเต้ายวนเคยกลัวใครบ้าง อย่าลืมสิ เขาเป็นถึงผู้สืบทอดคีรีดวงกมล! เคยสังหารผู้แข็งแกร่งของหกเรือนมรรคใหญ่และสิบเผ่านักรบใหญ่ไม่รู้เท่าไร หลายปีมานี้ทั่วทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารา ขุมอำนาจที่อาฆาตแค้นจักรพรรดิเต้ายวนมีไม่รู้มากเท่าไหร่ แต่สุดท้ายมีใครทำอะไรจักรพรรดิเต้ายวนได้บ้าง”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ราวกระแสน้ำเชี่ยวปั่นป่วน กึกก้องในเมืองและเขตพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกมืด

จักรพรรดิเต้ายวน!

ผู้บรรลุมกุฎจักรพรรดิในหนึ่งแสนปีมานี้ มีเพียงคนผู้นี้เท่านั้น!

คนที่ดุจดั่งตำนานเช่นนี้ ตอนนี้หมายจะแก้แค้นให้หอวิหคทองแดง ประกาศศึกกับแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพด้วยวิธีนองเลือด ใครจะไม่รอชมกันเล่า

ผู้แข็งแกร่งและขุมอำนาจใต้อาณัติหอวิหคทองแดงที่ยังเหลือรอดตามพื้นที่ต่างๆ ในโลกมืดตอนนี้ ยามได้ยินข่าวนี้ต่างก็อดฮึกเหิมขึ้นมาไม่ได้

จักรพรรดิเต้ายวนและจักรพรรดิสงครามคำรนปรากฏตัวพร้อมกัน ดุจดั่งแสงสว่างสายหนึ่งทำลายความมืด ทำให้พวกเขามองเห็นเสี้ยวความหวังที่จะพลิกสถานการณ์ได้!

แม้จะริบหรี่แค่ไหน แต่ถึงอย่างไรก็เป็นความหวัง!

แต่แล้วในวันนั้น

ข่าวที่สะท้านสะเทือนโลกมืดกระจายออกมา

อวี้คุนจื่อเจ้าสำนักสำนักโบราณจรัสเทพป่าวประกาศ นัดหมายจักรพรรดิเต้ายวนไปพบที่ ‘เขาหุบเหวโลหิต’

เมื่อข่าวแพร่ออกมา ทั่วทั้งโลกมืดล้วนฮือฮา คนนับไม่ถ้วนจับตามอง เดือดพล่านด้วยเรื่องนี้ ถึงขั้นยากจะเชื่อ

กาลเวลานับไม่ถ้วนที่ผ่านมานี้ อวี้คุนจื่อ ‘จักรพรรดิธรรมลมมายา’ เจ้าสำนักแดนกษิติครรภ์ รวมถึงเจ้าหอวิหคทองแดง ถูกเรียกว่าเป็นสองในสามนายเหนือหัวใหญ่ที่ปกครองโลกมืด!

ใครก็คาดไม่ถึงว่าจักรพรรดิเต้ายวนเพิ่งปรากฏตัวได้ไม่นาน คนใหญ่คนโตระดับอวี้คุนจื่อก็จะออกปากขอนัดพบจักรพรรดิเต้ายวน!

ทุกคนต่างตระหนักได้ว่าสองยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์กำลังจะเคลื่อนไหวแล้ว

สำนักโบราณจรัสเทพ รากฐานลึกล้ำสุดหยั่ง

แดนกษิติครรภ์ยิ่งทำให้คนแค่พูดถึงก็หน้าเปลี่ยนสี

สิ่งที่ทำให้คนกริ่งเกรงมากที่สุดคือ สองสำนักใหญ่เก่าแก่นี้ ล้วนมีความสัมพันธ์ชนิดแยกจากกันไม่ออกกับจักรพรรดิสวรรค์ดำรงที่ควบคุมพลังระเบียบต้องห้าม

ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน หลังจักรพรรดิสวรรค์ดำรงมาเยือนทางเดินโบราณฟ้าดารา สองสำนักใหญ่นี้ก็โอนอ่อนผ่อนตามจักรพรรดิสวรรค์ดำรงตลอดมา

จักรพรรดิเต้ายวนคนเดียว แม้จะเพิ่มจักรพรรดิสงครามคำรนมาอีกคน จะสามารถงัดข้อกับสองยักษ์ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร

“สองปีมานี้ขุมอำนาจของหอวิหคทองแดงพบเจอการโจมตีประหนึ่งทำลายล้างนานแล้ว ย่อมไม่มีทางช่วยเหลืออะไรได้ ถึงแม้จักรพรรดิเต้ายวนจะบรรลุมกุฎจักรพรรดิ แต่อย่างไรช่วงเวลาที่บรรลุจักรพรรดิก็สั้นเกินไป ครั้งนี้… เขาอาจเจอปัญหาใหญ่แน่แล้ว!”

คนมากมายวิเคราะห์อย่างใจเย็น และได้ข้อสรุปเช่นนี้ออกมา

“อวี้คุนจื่อเจ้าสำนักสำนักโบราณจรัสเทพออกปากเอง แค่คิดก็รู้ เกรงว่านี่คือคิดจะเล่นงานจักรพรรดิเต้ายวนแน่ๆ แล้ว”

“ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ของจักรพรรดิเต้ายวนก็คือรีบออกจากโลกมืด ด้วยรากฐานน่าสะพรึงระดับมกุฎมหาจักรพรรดิของเขา หากต้องการหนี บนโลกนี้ใครจะขวางได้ ขอเพียงให้เขาเก็ยตัวเงียบร้อยปีพันปี วันหน้าอย่าหวนกลับมาอีก”

…เสียงวิพากษ์วิจารณ์และวิเคราะห์ต่างๆ ผุดขึ้นไม่หยุด หลังผู้คนสงบลงแล้วจึงตระหนักว่าถึงแม้จักรพรรดิเต้ายวนจะดุจดั่งตำนาน แต่หากจะต้านสองยักษ์ใหญ่จริงๆ กลับไม่มีโอกาสชนะมากนัก

แต่ไม่ว่าอย่างไรเมื่อข่าวนี้แพร่กระจายและถูกวิเคราะห์มากมาย สายตานับไม่ถ้วนจากทั่วทุกมุมต่างมองมาทางเขาหุบเหวโลหิต

นี่เป็นสถานที่ที่อวี้คุนจื่อนัดพบจักรพรรดิเต้ายวน!

หลังจากจักรพรรดิเต้ายวนได้รู้ข่าว… จะกล้ามาตามนัดหรือไม่

สำหรับทั้งหมดนี้ หลินสวินยังไม่รู้สักนิด เขากำลังข้ามด่านเคราะห์อยู่

ตูม!

เหนือมหาสมุทรเลือดไร้สงบ เมฆดำดุจหมึกแผ่ทั่วเวิ้งฟ้า วิปริตแปรปรวนไม่หยุด ส่งเสียงดังกระหึ่มราวฟ้าคำราม

โลกที่เกิดขึ้นจากอสนีเคราะห์ควบรวมออกมา ภูผาธาราภายในนั้นกว้างใหญ่ เขตแดนไร้กำจัด มีอสนีเคราะห์ภูเขาไฟที่ราวกับสาดพุ่ง มีกระแสอสนีที่ประหนึ่งมหาสมุทรโหมตลบกลางฟ้าดิน

วิญญาณอสนีที่แปลงมาจากต้นไม้ใบหญ้านับไม่ถ้วนทะยานอยู่กลางฟ้าดิน สาดพ่นลำแสงอัสนีที่เจิดจ้าแสบตา เมฆลมที่โหมคลั่งกลางฟ้าดินล้วนรายล้อมด้วยประกายอสนีเคราะห์ที่เดือดพล่าน

นี่ก็คือ ‘เคราะห์โลกเร้นปริศนา’ ปราการสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดของระดับจักรพรรดิขั้นสี่ โลกใหญ่สายฟ้าที่แปรสภาพมาจากเคราะห์จักรพรรดิแห่งหนึ่ง!

ประกายอสนีที่ส่องแปลบปลาบภายในนั้นล้วนสามารถสังหารระดับจักรพรรดิทั่วไปได้ น่ากลัวสุดขีด

เปรี้ยง!

ในโลกสายฟ้าเงาร่างที่สูงใหญ่กำยำสายหนึ่งพุ่งสังหารอยู่ภายใน ร่างกายดุจหุบเหวใหญ่กลืนกินฟ้าดิน เคลื่อนตัวพุ่งทะยาน

พายุสายฟ้าที่โหมกระหน่ำราวโซ่เทพระเบียบกลับถูกเขาหวดหมัดซัดกระจุยทั้งหมด สาดพรมละอองแสงอสนีที่เจิดจ้าแสบตาออกมามากมาย

มองจากไกลๆ ประดุจเทพศักดิ์สิทธิ์พุ่งสังหารอยู่ข้างใน ซัดสะเทือนอสนีทั่วม่านฟ้า!

เงาร่างนี้ก็คือหลินสวิน

นัยน์ตาลึกล้ำของเขาดุจอสนีเย็นเยียบ มรรควิถีทั้งร่างก้องกระหึ่มราวเตาเดือดปั่นป่วน ปลดปล่อยโคจรสุดกำลัง ยามขยับมือก็สามารถซัดภูเขาใหญ่อสนีเคราะห์แตกกระจุย ฟันพายุสายฟ้าได้!

เห็นชัดว่าเขาแข็งแกร่งหาใดเปรียบ โจมตีอหังการ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากทั่วร่างดุจดั่งหุบเหว สูบกลืนศุภโชค

เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา

โลกที่แปลงมาจากอสนีเคราะห์นี่ก็เกิดรูพรุนยับเยิน สภาพไม่ชวนมอง

จากนั้นพร้อมกับเสียงดังกระหึ่มที่ชวนให้ประหวั่นใจเป็นระลอกๆ กึกก้องขึ้น หอเรือนที่แปลงจากอสนีเคราะห์ผุดขึ้นจากพื้นหลังแล้วหลังเล่า

สิ่งก่อสร้างแต่ละหลังล้วนปกคลุมด้วยเพลิงแสงอสนีเคราะห์ สมบัติน่าสะพรึงต่างๆ อย่างทวนศึก ระฆังทองแดง ประทับมรรค กระบี่บิน แส้หางม้า แจกันสมบัติแผ่พุ่งออกมา…

แต่ละอย่างล้วนเจือกลิ่นอายอสนีเคราะห์แปลกประหลาด แข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการ เพียงโจมตีส่งๆ ถึงขั้นเทียบได้กับอานุภาพระดับจักรพรรดิขั้นหก!

นี่หากให้ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นสามทั่วไปข้ามด่านเคราะห์ เกรงว่าคงถูกกระหน่ำโจมตีจนจิตสิ้นวิญญาณสลายไปแล้ว

อานุภาพสังหารแข็งแกร่งหาใดเปรียบของหลินสวินถูกจำกัดทันที ทั้งตัวประสบการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิต

ชั่วครู่หนึ่ง

เขาหนังเปิดเนื้อถลอก ทั่วร่างอาบเลือด กระดูกทั้งตัวล้วนบาดเจ็บสาหัส สถานการณ์วิกฤตคับขัน

นี่ก็คือเคราะห์โลกเร้นปริศนา เป็นเคราะห์ชั้นเลิศที่พุ่งเป้ามายังมกุฎมหาจักรพรรดิ!

แต่หลินสวินกลับคล้ายไม่สะทกสะท้าน ในดวงตาเจตจำนงลุกโชนราวเดือดพล่าน แน่วแน่เหมือนเก่า สงบเยือกเย็นเช่นเคย

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

…เขาพุ่งสังหารอีกครั้ง อานุภาพดั่งเทพมาร แม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่อานุภาพกลับไม่ลดลง ตรงข้ามยิ่งสู้ยิ่งองอาจ อานุภาพทั้งตัวซัดสะเทือนธารดาราโดยรอบ

ทั้งชีวิตนี้ของหลินสวิน ตั้งแต่ผงาดขึ้นมาในจักรวรรดิจื่อเย่าเมื่อสมัยเด็ก จวบจนอหังการเหนือดินแดนรกร้างโบราณ กรำศึกในฟ้าดารา… จนถึงตอนนี้จำนวนครั้งที่ข้ามด่านเคราะห์มีไม่รู้เท่าไหร่ มหาเคราะห์ที่แปลกประหลาดและเรียกได้ว่าไร้ทัดเทียมบางส่วนก็พบบ่อยจนชินนานแล้ว

ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา ว่าอะไรที่เรียกว่าเกิดใหม่ในการดับสูญ อะไรที่เรียกว่าเปลี่ยนแปลงท่ามกลางความเป็นความตาย!

ฉะนั้นยามทะลวงเคราะห์ครั้งนี้ แม้จะประสบอันตรายสุดหยั่ง เจ็บตัวแสนสาหัส แต่สภาพจิตใจของเขาตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยได้รับผลกระทบและสั่นคลอนเลยสักเสี้ยว

“ฆ่า!”

กลางฟ้าดินหลินสวินตะโกนก้องดั่งสายฟ้า ผมยาวปลิวไสว ดั่งเปลวเพลิงที่ไม่มอดดับ ทะลวงด่านเคราะห์ถึงชีวิต ต่อสู้เลือดอาบ

และในการข้ามด่านเคราะห์และการสังหารระดับนี้ มรรควิถี สารกาย พลังชีวิต และจิตใจของเขาต่างพุ่งกระฉูด เปลี่ยนแปลงอย่างพรวดพราด…

หลังเข้าสู่ธรณีประตูระดับจักรพรรดิ ทุกครั้งที่เลื่อนขั้นล้วนยากเย็นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า แต่ละขั้นล้วนอันตรายและทรหดกว่าเก่า

แต่ขณะเดียวกันหลังทะลวงขั้นได้แล้ว พลังต่อสู้ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นกอง เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าสะเทือนดิน!

ตั้งแต่หลินสวินบรรลุมกุฎจักรพรรดิในแดนปรินิพพานปีนั้น จวบจนบัดนี้ยังไม่ทันถึงสิบปีก็ทะลวงขั้นต่อเนื่อง ตอนนี้ยิ่งข้ามเคราะห์สวรรค์ของระดับจักรพรรดิขั้นสี่ ความเร็วในการเลื่อนขั้นระดับนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นประวัติการณ์ ชวนตะลึงพรึงเพริดนัก

หนึ่งวันให้หลังเต็มๆ

กลิ่นอายหลินสวินรุนแรง ปลดปล่อยพลังแฝงทั้งหมดออกมาฉับพลัน สำแดงนัยเร้นลับของคัมภีร์เตาหลอมมหามรรค

ตูม!

ก็เห็นในโลกอสนีเคราะห์นี้ประดุจมีหุบเหวใหญ่ปรากฏ กลืนกินอสนีปั่นป่วนสิบทิศแปดทางด้วยอานุภาพบดขยี้แหลกละเอียด

ภูผาธารา แผ่นดินใหญ่ ห้วงอากาศ ละอองแสง อสนีเคราะห์… ทุกสิ่งล้วนถูกหุบเหวใหญ่นั่นกลืนกินปานลมหอบเข้ากลีบเมฆ

จนตอนท้ายหุบเหวใหญ่นี่ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น กลืนกินเวิ้งฟ้า!

เหนือมหาสมุทรเลือดไร้สงบ ไกลออกไปต้าหวง ชิงอิง และสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งกลุ่มต่างรอคอยอยู่ตลอด จนถึงตอนนี้ล้วนรู้สึกใจเต้นเนื้อกระตุก สะท้านสะเทือนไม่หาย

ไม่ว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ยาวนานเท่าไหร่ มีปราณระดับไหน แต่อย่างไรก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น ‘เคราะห์โลกเร้นปริศนา’ ซึ่งเป็นของมกุฎมหาจักรพรรดิ

กลิ่นอายพิบัติเคราะห์ปานทำลายล้างระดับนั้นทำให้พวกเขาล้วนรู้สึกกดดันหายใจไม่ออก ขนพองสยองเกล้า ยากจะขยับตัว

น่ากลัวยิ่ง!

ลองถามตัวเองในใจ หากเป็นพวกเขากำลังข้ามด่านเคราะห์ คงไม่รู้ว่าจะยืนหยัดจนถึงตอนนี้ได้หรือไม่

“เคราะห์สวรรค์นี้น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว แค่ไม่รู้ว่าเจ้าหนูนั่นตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง…” ต้าหวงชักเริ่มเป็นห่วง ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว พิบัติเคราะห์ครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด ตรงข้ามกลับยิ่งน่าสะพรึงขึ้นทุกที

และก็เป็นเวลานี้

ตูม!

ฟ้าดินสั่นสะเทือน ผิวสมุทรพลิกม้วน

ภาพที่เรียกได้ว่าน่าเหลือเชื่อปรากฏในครรลองสายตาของพวกต้าหวง ชิงอิง…

โลกที่แปลงมาจากเคราะห์โลกเร้นปริศนานั่นเกิดเสียงสะเทือนฟ้าดินฉับพลัน ถูกหุบเหวใหญ่น่าสะพรึงที่ปรากฏขึ้นฉีกทึ้ง บดขยี้ และกลืนกิน!

หุบเหวกลืนกินอย่างแท้จริง!

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+