Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2720 ซย่าจื้อ

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2720 ซย่าจื้อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2720 ซย่าจื้อ

เสวียนจิ่วอิ้นจมสู่ห้วงความคิด ครู่ใหญ่ถึงเอ่ยว่า “ท่านเทียด ท่านคิดว่าด้วยฐานะหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ ก็ไม่สามารถอยู่เหนือกฎระเบียบของลัทธิแรกกำเนิดได้หรือ”

เสวียนเฟยหลิงพูดอย่างไม่อภิรมย์ “ข้ากำลังถามเจ้า”

เสวียนจิ่วอิ้นพูดอย่างหน่ายใจ “คนใหญ่คนโตอย่างพวกท่านคิดอย่างไร ข้าจะรู้ได้อย่างไร และยากจะคาดเดาด้วย ข้ารู้เพียงว่าประโยคเดียวของหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ก็สามารถจบเรื่องนี้ลงได้ ใครก็ไม่กล้าไม่ทำตาม”

เสวียนเฟยหลิงถอนหายใจยาวคราหนึ่ง “ทำให้เจ้าลำบากแล้ว เช่นนั้นข้าบอกเจ้าก็ได้ ที่โหยวเป่ยไห่ทำเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เช่นนั้นเขาย่อมสามารถกัดจวงซื่อหลิวไม่ปล่อย บีบให้เขาพูดความจริงออกมา เมื่อเป็นเช่นนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แค่ทังชิวที่ต้องเข้ามาข้องเกี่ยวด้วยแน่ๆ ก็ทำให้ไม่อาจไม่จ่ายค่าตอบแทนบางส่วนได้แล้ว”

เสวียนจิ่วอิ้นพูดอย่างตกใจ “ด้วยฐานะหัวหน้าหออย่างเขาก็ไม่คิดทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เช่นนั้นหากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาจริงๆ จะมีคนมากมายเท่าไหร่ถูกโยงเข้ามา”

เสวียนเฟยหลิงกล่าว “พูดเรื่องพวกนี้ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ หากเป็นข้าก็จะเลือกทำเช่นนี้เหมือนโหยวเป่ยไห่”

หยุดไปครู่หนึ่งเสวียนเฟยหลิงถึงเอ่ยต่อ “อย่างน้อยตอนนี้ ในลัทธิแรกกำเนิดจะยังเกิดความวุ่นวายไม่ได้ ไม่เช่นนั้นสถานการณ์จะยากจัดการ…”

เสียงค่อยๆ ต่ำลึกลง

“พูดเช่นนี้ ภายหน้าหลินสวินยังจะเจอเรื่องเช่นนี้อีกหรือ”

เสวียนจิ่วอิ้นสีหน้าอึมครึม

เสวียนเฟยหลิงหลุดขำออกมา “ตั้งแต่เจ้าหมอนี่เข้าสู่หอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด เคยประสบอันตรายจริงๆ ซะที่ไหน ขอเพียงเขาทำตามกฎ ย่อมมีคนที่หนุนหลังเขาอยู่มากมาย”

เสวียนจิ่วอิ้นคล้ายว่ากระจ่างแจ้งแล้ว ท่าทางเหมือนขบคิดยู่ “ก็จริง เรื่องของเฉาจ้งหลินถูกข้าใช้อำนาจบารมีของท่านเทียดจัดการ เรื่องของหอแรกพิสุทธิ์คราวนี้ถูกฟางเต้าผิงแทรกแซง สุดท้ายโหยวเป่ยไห่เองก็ออกคำสั่งด้วยตัวเอง จบเรื่องนี้ในคราเดียว ตั้งแต่ต้นจนจบแม้หลินสวินอยู่ท่ามกลางลมพายุอันตราย แต่ไม่ได้รับความเสียหายสักนิด”

เสวียนเฟยหลิงเงียบไปครู่หนึ่งถึงเอ่ยว่า “หลินสวินถือเป็นดาบที่ดี หากใช้ในทางที่ดี สามารถขจัดปัญหาเรื้อรังและก้อนเนื้อร้ายภายในลัทธิแรกกำเนิดได้ หากใช้ในทางที่ไม่ดีกลับจะบาดมือตนเอง”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “รอไปก่อนเถอะ หลังจากเจ้าหมอนั่นก้าวสู่ระดับอมตะ จากฐานะหมากตัวหนึ่ง เขาจะกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่ประลองกับพวกเฒ่าชราเหล่านั้น”

เสวียนจิ่วอิ้นสะท้านในใจ เพิ่งจะตระหนักได้ว่าท่านเทียดคนนี้ของตนถึงกับมองหลินสวินเช่นนี้!

……

ยอดเขาที่เก้า

“ขอแสดงความยินดีกับศิษย์น้องหลินสวิน กลายเป็นผู้สืบทอดแกนหลักแห่งยอดเขาที่เก้าของเราได้สำเร็จ!”

ทันทีที่มาถึง ผู้สืบทอดอย่างพวกเย่ฉุนจวิน ฉินรั่วหลิงต่างแสดงความยินดีกับหลินสวิน สีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

ความสามารถที่หลินสวินสำแดงออกมาวันนี้สร้างความตกตะลึงไปทั่ว และทำให้ผู้สืบทอดยอดเขาที่เก้าอย่างพวกเขาได้ลืมตาอ้าปากต่อหน้ายอดเขาอื่นๆ ได้หน้าได้ตาอย่างมาก

ความรู้สึกเช่นนี้พวกเขาไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว

หลินสวินยิ้มตอบรับทั้งหมด จากนั้นเดินตรงไปคำนับผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้

“ศิษย์หลินสวิน ขอขอบคุณผู้นำยอดเขาอย่างยิ่ง!”

ยามได้พบฉินอู๋อวี้ หลินสวินคารวะอย่างจริงจัง

ฉินอู๋อวี้กล่าว “เรื่องวันนี้อันตรายมากจริงๆ แม้สุดท้ายคลี่คลายได้ แต่ต่อไปเจ้าก็ต้องระวัง อย่าทำเรื่องผิดกฎเกณฑ์ใดๆ”

คำพูดยังคงเย็นชาและแข็งกระด้าง แต่หลินสวินรู้ว่าตั้งแต่ตอนที่รับตนเป็นผู้สืบทอดยอดเขาที่เก้า ฉินอู๋อวี้ก็ยอมรับเขาแล้ว

“ศิษย์จะจำคำสอนของผู้นำยอดเขาไว้”

หลินสวินประสานหมัดกล่าว

หลังจากมา หลินสวินก็ตรงกลับถ้ำสวรรค์ของตน

‘จวงซื่อหลิว ทังชิว อวิ๋นเทียนหมิง หนานป๋อหง มู่อวิ๋นเจิง…’

หลินสวินนั่งขัดสมาธิ นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในหอแรกพิสุทธิ์ ในใจจดจำเหล่าคนใหญ่คนโตที่ต้องมองเป็นศัตรู

ตอนนี้เขาอาจไร้แรงไปแก้แค้น

แต่ภายหน้า ไม่ช้าก็เร็วสักวันจะต้องวัดฝีมือกับเฒ่าชราที่คิดไม่ซื่ออยู่ในที่มืดพวกนี้แน่!

‘ก้าวต่อไปคือต้องวางแผนกลายเป็นศิษย์หอแรกพิสุทธิ์ แต่ก้าวนี้กลับต้องการโอกาส…’

หลินสวินใคร่ครวญ

เขากลายเป็นศิษย์แกนหลักแล้ว ก้าวต่อไปคือการเข้าไปฝึกปราณในสามหอ

เพียงแต่ก้าวนี้กลับยากเหมือนขึ้นสวรรค์

เพราะนี่หมายความว่าฐานะของเขาจะไม่ใช่ผู้สืบทอดธรรมดาอีกต่อไป แต่จะเริ่มสัมผัสและคุมอำนาจได้ส่วนหนึ่ง!

อย่างเช่นหากเข้าหอแรกพิสุทธิ์ ต่อให้เป็นเพียงผู้สืบทอดคนหนึ่ง ก็สามารถดูแลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกและการทดสอบบางส่วนได้

แม้อำนาจไม่มาก แต่กลับมีหนทางก้าวหน้าในการเลื่อนขั้นเป็นรองผู้ดูแล ผู้ดูแล ผู้อาวุโส รองหัวหน้าหอ!

อย่างเฉาจ้งหลินผู้สืบทอดหอแรกมายา ก็สามารถรับผิดชอบการแจกจ่ายเบี้ยประจำเดือนให้ศิษย์ในสำนัก นี่ก็นับว่าเป็นอำนาจที่ไม่มากแต่ก็ไม่น้อยแล้ว

อยู่ใกล้น้ำมักได้จันทร์ก่อน ดูแลเรื่องการจ่ายเบี้ยประจำเดือน แน่นอนว่าย่อมดื่มด่ำกับทรัพย์สินต่างๆ ของสำนักได้ก่อน!

แต่การจะเป็นศิษย์สามหอ กลับยากเป็นพิเศษ

ก่อนอื่นจะต้องได้เป็นศิษย์แกนหลักของเก้ายอดเขาใหญ่ จากนั้นต้องได้หนึ่งในสิบอันดับแรกในการถกมรรคเก้ายอดเขา สุดท้ายยังต้องมีคนใหญ่คนโตเอ่ยรับ

ศิษย์แกนหลักเก้ายอดเขาแม้จะมีมาก แต่คนที่สามารถอยู่ในอันดับหนึ่งในสิบของการถกมรรคเก้ายอดเขาได้ ก็มีเพียงแค่สิบคนเท่านั้น!

แน่นอนว่ายังมีวิธีอื่นที่สามารถเข้าสู่สามหอได้

อย่างเช่นขอเพียงมีคนใหญ่คนโตอย่างรองหัวหน้าหอออกหน้า ก็สามารถถูกเลือกเป็นกรณีพิเศษได้

และอย่างเช่น ขอเพียงสำเร็จภารกิจเก้าดาราสามครั้ง ก็สามารถแลกกับสิทธิ์ในการเข้าไปฝึกปราณในสามหอเช่นกัน

‘ข้าเพิ่งเข้าสู่สำนักไม่นาน ตอนนี้ก็เป็นศิษย์แกนหลักแล้ว หากไปขอให้รองหัวหน้าหอฟางเต้าผิงรับข้าเข้าหอแรกพิสุทธิ์คงไม่เหมาะ’

‘ต่อให้เขาตอบรับ เจ้าเฒ่าทังชิวคนนั้นก็ไม่มีทางยอม’

หลินสวินมั่นใจมากว่าจากเรื่องในวันนี้ทังชิวจะต้องเกลียดตนเข้ากระดูก ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จะให้โอกาสตนเข้าสู่หอแรกพิสุทธิ์ได้อย่างไร

‘ดูท่าคงทำได้แค่ไปรับภารกิจเก้าดาราแล้ว…’

หลินสวินนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา นั่นคือหากอยากอ่านมรดกอมตะที่เขาตำรา ก็ต้องสำเร็จภารกิจเก้าดาราสามอย่างเช่นกัน

ในบรรดาผู้สืบทอดเก้ายอดเขาในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด นอกจากฝึกปราณ ยังมีคนที่ออกไปท่องโลก และการท่องโลกส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวข้องกับการทำภารกิจของสำนัก

หลินสวินตัดสินใจว่าวันหน้าจะไปดูที่เรือนสมบัติสวรรค์ในหอแรกมายาสักหน่อย ว่ามีภารกิจที่เหมาะกับตนบ้างหรือไม่

หืม?

ตอนที่กำลังใคร่ครวญ ในใจหลินสวินกระตุกวูบ เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งปรากฏออกมาเงียบๆ

กลิ่นอายชีวิตสายหนึ่งตื่นจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

ซย่าจื้อ!

ในใจหลินสวินสะท้าน ในจิตรับรู้ ซย่าจื้อที่หลับใหลอยู่ในระเบียบนิพพานถึงกับตื่นขึ้นมาเงียบๆ ในตอนนี้

ความดีใจที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูดพวยพุ่งขึ้นในใจหลินสวิน ทำให้อารมณ์ของเขาเสียการควบคุมอยู่บ้าง “ซย่าจื้อ ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นแล้ว”

ในครรลองสายตา ชุดดำพร้อมหมวกม่านปิดคลุมร่างกายอรชรสูงเพรียวของซย่าจื้อเอาไว้ ภายใต้หมวกม่านนั้น เป็นใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติที่สามารถทำให้ฟ้าดินอับแสง ขนตาเรียวยาวสั่นไหวเบาๆ ราวกับหวีขนาดเล็ก ดวงตากระจ่างใส แวววาว เจิดจ้าเปิดขึ้นมา

แม้อยู่ด้วยกันมานานปีแล้ว แต่ยามเห็นใบหน้างดงามนั้นของซย่าจื้อ ก็ยังคงทำให้หลินสวินรู้สึกหวั่นไหว

เครื่องหน้าของนางประหนึ่งเป็นการรังสรรค์ของสวรรค์ คิ้วดกดำราวกับหมึก ริมฝีปากชมพูฉ่ำวาว ผิวราวกับไข สันจมูกโด่ง งดงามจนทำให้คนใจสั่น เหมือนดั่งเซียนในตำนาน ไม่ควรอยู่บนโลกมนุษย์

ไม่ว่าใครเผชิญกับรูปลักษณ์เช่นนี้ก็ยากจะกดความตะลึงในใจ

ตั้งแต่หลินสวินเข้าสู่โลกยอดนิรันดร์ ยามอยู่หมู่บ้านเงาเมฆาที่เทือกเขาเทพตก ซย่าจื้อก็หลับใหลมาตลอดเพราะอาการบาดเจ็บสาหัส

ที่ต่างจากที่ผ่านมาก็คือ ครั้งนี้ซย่าจื้อหลับใหลอยู่ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ได้รับการหล่อเลี้ยงของระเบียบนิพพาน และได้รับการนิพพานที่น่าเหลือเชื่อ

จนตอนนี้ก็ผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว

ในที่สุดซย่าจื้อก็ตื่นจากการหลับใหลในนิพพานอันมหัศจรรย์นั่นแล้ว!

“หลินสวิน ข้าหิวแล้ว”

เสียงที่กระจ่างใสราวกับเสียงสวรรค์ของซย่าจื้อดังขึ้น ประโยคเดียวนอกจากจะทำให้หลินสวินชะงักแล้ว ยังอดเกิดความรู้สึกคุ้นเคยที่ไม่ได้พบมาเนิ่นนาน

หลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะอยู่ในหมู่บ้านเฟยอวิ๋นที่โลกชั้นล่าง ในดินแดนรกร้างโบราณ หรือบนทางเดินโบราณฟ้าดารา ทุกครั้งที่ซย่าจื้อตื่นขึ้นมา ก็จะบอกว่านางหิวแล้วอย่างตรงไปตรงมา

ไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ได้พบหลินสวินอีกครั้งสักนิด แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้หลินสวินตื่นเต้นและดีใจ

เพราะนี่ก็คือซย่าจื้อ

แตกต่างเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้เสมอมา

“หลายปีมานี้ข้าช่วยเจ้าเก็บของกินอร่อยๆ ไว้ให้ไม่น้อยเลย เจ้ารอเดี๋ยว”

แม้หลินสวินจะยินดียิ่งนัก แต่ก็รู้ว่าที่นี่คือหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด หากซย่าจื้อปรากฏตัว มีความเป็นไปได้สูงมากว่าอาจเกิดความเคลื่อนไหวบางอย่าง

เขาลุกขึ้นโคจรกระบวนผนึกทั้งหมดในถ้ำสวรรค์ แล้วถึงสูดหายใจลึกคราหนึ่ง พาซย่าจื้ออกจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

พริบตานี้คลื่นระเบียบไร้รูปสายหนึ่งกระเพื่อมเงียบๆ

ในใจหลินสวินบีบรัด นึกถึงตอนอยู่ที่เมืองจรดฟ้าในแดนใหญ่พันศึก ยามคิดจะพาอาจารย์อาคงเจวี๋ยเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ก็เคยพบเจอการขัดขวางจากระเบียบเฮ่าเทียน

แต่เขาไม่ได้ตื่นตระหนก

เพราะมีระเบียบนิพพานอยู่ ตอนนั้นก็เป็นระเบียบนิพพานนี่ที่สลายการตรวจสอบจากระเบียบเฮ่าเทียน

ตามคาด ชั่วขณะที่พลังระเบียบลึกลับปรากฏขึ้น ระเบียบนิพพานก็พุ่งออกมา ประหนึ่งลายดอกบัวดอกหนึ่งเข้าสลายพลังระเบียบไร้รูปนั้น

สำเร็จแล้ว!

หลินสวินยิ้มจากใจ ผ่อนคลายอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ซย่าจื้อพินิจรอบๆ ครู่หนึ่ง ก่อนเคลื่อนสายตามองหลินสวิน เสียงกระจ่างเอ่ยรวบรัด “ของกินล่ะ”

นางมักจะเป็นเช่นนี้ ตอนที่มีหลินสวินอยู่ก็จะไม่ห่วงเรื่องอื่นๆ ในฟ้าดินแห่งนี้อีกต่อไป

หรือพูดอีกอย่างว่า นางไม่เคยสนใจเรื่องอื่นๆ ในโลกใบนี้ ขอเพียงมีหลินสวินอยู่ก็พอแล้ว

หลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง ของล้ำค่าผลไม้ประหลาดชนิดต่างๆ รวมถึงอาหารเลิศรสมากมายก็เรียงรายตรงหน้าซย่าจื้อ

ซย่าจื้อไม่เคยเกรงใจต่อหน้าหลินสวิน นางนั่งขัดสมาธิบนพื้น เริ่มจัดการอาหารตรงหน้าอย่างจดจ่อ ความเร็วไม่มาก แต่กลับกินเร็วมาก

หลินสวินยิ้มตาหยีมองอยู่ข้างๆ พลางแนะนำที่มาของอาหารเหล่านี้ให้กับซย่าจื้อ ในใจเต็มไปด้วยความสุขและปลื้มปีติ

ตอนที่อยู่กับซย่าจื้อ เขาเองก็ไม่คิดถึงเรื่องอื่นอีก เพราะการใช้เวลาอยู่ร่วมกันเช่นนี้ทำให้ตัวเขารู้สึกเสพสุขอยู่แล้ว

หลินสวินไม่ได้สังเกตเห็น ว่านอกถ้ำสวรรค์มีแมวอ้วนที่ขนขาวนุ่มราวกับหิมะตัวหนึ่งปรากฏขึ้นเงียบๆ นั่งยองๆ อยู่ตรงนั้นไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ดวงตาเขียวมรกตทั้งคู่เผยประกายคลุมเครือยากคาดเดา

“กินช้าหน่อย ยังมีอีกเยอะ พอให้เจ้ากินไปอีกนาน”

ในถ้ำสวรรค์ เสียงของหลินสวินอ่อนโยน เผยความรักใคร่เอ็นดู

ในสายตาของเขา หลังผ่านการหล่อเลี้ยงและฟื้นฟูของระเบียบนิพพานมาสิบกว่าปี บาดแผลบนร่างซย่าจื้อฟื้นตัวอย่างสิ้นเชิงแล้ว กลิ่นอายชีวิตทั่วตัวทรงพลัง

แม้ดูไม่ออกว่าซย่าจื้อได้รับประโยชน์อะไรจากระเบียบนิพพาน แต่ก็ทำให้หลินสวินวางใจขึ้นแล้ว

ขอเพียงแค่ซย่าจื้อปลอดภัยก็พอแล้ว

“หิว ข้าเองก็หิวแล้ว ข้าอยากกินเนื้อ ยังอยากดื่มเหล้า…”

จู่ๆ เสียงโอดครวญก็ดังขึ้นในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ทำเอาหลินสวินสะดุ้ง จากนั้นจึงตระหนักได้ว่าเจ้าของเสียงคือใคร

“อาจารย์อาก็ฟื้นแล้วหรือ” หลินสวินดีใจ

วันนี้วันอะไรกัน เรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด