Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2790 สิ้นธุระก็ลาจาก

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2790 สิ้นธุระก็ลาจาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2790 สิ้นธุระก็ลาจาก

นอกจากนี้หลินสวินยังรู้ด้วยว่า นอกเขตหวงห้ามที่เจ็ดมีแนวปิดล้อมที่เกิดจากการรวมตัวของเก้าขุมอำนาจใหญ่อยู่

ระดับจอมยุทธ์ด่านแรกที่เทียบได้กับขั้นอายุขัยเทียมฟ้าเก้าคนคอยบัญชาการ

ผ่านไปหนึ่งถ้วยชา

หลินสวินลุกขึ้นจากการนั่งสมาธิ เดินออกไปนอกเขตหวงห้ามที่เจ็ด

ด้วยระดับของเขาตอนนี้ หลังจากสำแดงอภินิหารหยุดเวลากับดาบกาลเวลาติดต่อกันจะถูกผลาญพลังไปราวสามส่วน

หรือพูดได้ว่าด้วยพลังปราณของเขาตอนนี้ อย่างมากคงใช้อภินิหารดาบกาลเวลาได้แค่สามครั้ง

แต่นี่ก็เพียงพอแล้ว

อภินิหารเช่นนี้สิ่งสำคัญอยู่ที่คำว่าเกิดขึ้นฉับพลัน โจมตีโดยไม่ให้ตั้งตัว

ถ้าศัตรูระวังตัวก็ยากลงมือแล้ว

ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจใช้โดยง่าย แต่ถ้าจะใช้ต้องเล็งโอกาสที่ดีที่สุด ปลิดชีพในคราเดียว

“มีคนออกมาแล้ว!”

“ไม่ถูกสิ นั่นไม่ใช่ผู้อาวุโสสามคนของเผ่าเทพต้าฉิน ทุกคนระวังด้วย”

นอกเขตหวงห้ามที่เจ็ด เสียงแปลกใจสงสัยดังขึ้นทั่วทิศ

เมื่อมองอย่างละเอียด บนทิศทางที่แตกต่างกันล้วนมีเงาร่างของผู้แข็งแกร่งประจำการอยู่แน่นหนา แต่ละฝ่ายล้วนมีมากถึงสามร้อยคน

เห็นชัดว่านี่คือผู้แข็งแกร่งจากเก้าขุมอำนาจใหญ่นั่น

ในสายตาของพวกเขา เขตหวงห้ามที่เจ็ดซึ่งมืดมิดอันตรายนั่นมีเงาร่างหนึ่งเดินนวยนาดออกมา อาภรณ์สะบัดโบก ผมดำพลิ้วไหว ทั้งตัวโอบล้อมด้วยไอพลังเจตะราบเรียบพ้นโลกีย์เป็นสายๆ

ไม่ปิดบังร่องรอยแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าคนผู้นี้คือหลินสวิน

“หยุดนะ!”

ทันใดนั้นชายเกราะทององอาจไม่ธรรมดาคนหนึ่งตวาดลั่น

“พวกเจ้าแค่ขายชีวิตให้คนอื่น ควรหลีกทางไปตอนนี้ดีกว่า”

หลินสวินก้าวมาแต่ไกล เหมือนเดินเล่นในสวนบ้าน เสียงราบเรียบนั้นดังก้องฟ้าดิน

ผู้คนพลันแตกตื่น แปลกใจสงสัยไม่หยุด

ชายเกราะทองตวาดลั่น “ทุกท่าน ผู้อาวุโสสามคนของเผ่าเทพต้าฉินล้วนออกคำสั่ง ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามออกจากเขตหวงห้ามที่เจ็ด! ครั้งนี้ไม่ว่าใครถอยหนี วันหน้าต้องถูกเผ่าเทพต้าฉินสะสางบัญชีแน่!”

คนมากมายล้วนเผยไอสังหาร เตรียมพร้อมลงมือ

กลับเห็นหลินสวินยิ้มกล่าว “เจ้าพูดถึงเฒ่าชราสามคนนั้นหรือ พวกเขาล้วนตายหมดแล้ว พวกเจ้าแยกย้ายไปเถอะ อย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย”

คำพูดเรียบง่ายสบายๆ แต่กลับทำให้ผู้แข็งแกร่งของเก้าขุมอำนาจใหญ่นั้นอึ้งงัน

ตายแล้ว!?

เป็นไปได้อย่างไร

ในสายตาของพวกเขา เผ่าเทพต้าฉินเป็นเหมือนนายเหนือหัวสูงสุดของใต้หล้านี้ สูงส่งเหนือผู้อื่น ไม่อาจดูหมิ่น ไม่อาจล่วงเกินได้โดยง่าย

ใครจะกล้าเชื่อว่าผู้อาวุโสสามคนของเผ่าเทพต้าฉินจะประสบเคราะห์

“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! ทุกท่านอย่าไปฟังเขาพูดข่มขวัญ ไม่ว่าอย่างไรก็จับคนผู้นี้ก่อนค่อยว่ากัน!”

ชายเกราะทองตวาดลั่น

“ไม่ผิด ทุกท่านไม่อาจลังเลได้แล้ว หากให้คนผู้นี้หนีไป ผลลัพธ์นั้นพวกเราไม่ว่าใครก็แบกรับไม่อยู่”

“ลงมือพร้อมกัน!”

ทุกเสียงดังขึ้น จากนั้นบุคคลสำคัญระดับจอมยุทธ์ด่านแรกเก้าคนออกโรงก่อน แต่ละคนถืออาวุธ ทั้งตัวอบอวลด้วยแสงมรรคชวนประหวั่น พุ่งโจมตีเข้าใส่หลินสวิน

พวกเขาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นเลิศที่ผ่านศึกมาอย่างโชกโชน ฆ่าฟันมานับไม่ถ้วน ต่อให้คนที่เผชิญหน้าคือหลินสวินคนเดียวก็ไม่มีทางออมแรงแน่ ได้แต่ใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดบดขยี้หลินสวินโดยตรง

ตูม!

จอมยุทธ์ที่ทัดเทียมขั้นอายุขัยเทียมฟ้าเก้าคนลงมือพร้อมกันต้องน่ากลัวเพียงใด

ก็เห็นห้วงอากาศฟ้าดินทรุดตัวลง ราวกับถูกสูบกลืนในพริบตา พลังที่แตกต่างกันออกไปเก้าอย่างรวมตัวเป็นกระแสมหามรรคเชี่ยวกราก ทิ้งตัวลงมาจากเก้าชั้นฟ้าเหมือนธารดาราระเบิดก้อง

เผชิญหน้ากับการโจมตีทลายฟ้ามลายดินนี้

เหล่าผู้แข็งแกร่งจากเก้าขุมอำนาจใหญ่ที่ประจำการอยู่ห่างไกลล้วนสั่นสะท้าน

หากเกิดขึ้นในโลกภายนอก เกรงว่าคงทำลายล้างโลกหล้าแห่งหนึ่งได้!

แต่ครู่ต่อมากลับเห็นหลินสวินแค่สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่งเหมือนปัดฝุ่น กระแสมหามรรคเชี่ยวกรากที่ตัดผ่านอากาศเข้ามา การโจมตีชวนประหวั่นที่ระเบิดโลกหล้าแห่งหนึ่งได้ ถึงกับสลายหายไปกลางอากาศ

“เป็นไปได้อย่างไร”

จอมยุทธ์เก้าคนล้วนไม่กล้าเชื่อภาพตรงหน้านี้

“โจมตีอีก!”

ชายเกราะทองห้าวหาญนั่นตวาดลั่น

พวกเขาจอมยุทธ์เก้าคนร่วมมือกันอีกครั้ง ระเบิดพลังไร้สิ้นสุด แต่เมื่อไปถึงหน้าหลินสวินก็เหมือนก่อนหน้านี้ หายไปอย่างราบเรียบ ไม่อาจทำให้เส้นผมของหลินสวินขยับได้แม้แต่เส้นเดียว

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่จอมยุทธ์เก้าคน แม้แต่ผู้แข็งแกร่งมากกว่าพันจากเก้าขุมอำนาจใหญ่ที่อยู่ห่างไปยังร้องเสียงหลง จับจ้องอย่างตกตะลึงตาค้าง

“อ่อนแอเกินไป ข้าให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว แต่พวกเจ้ากลับไม่ฟัง”

ในที่สุดหลินสวินก็เอ่ยปาก

เขาหน่ายใจอยู่บ้าง ตอนนี้เขามีพลังปราณขั้นอายุขัยเทียมฟ้าสมบูรณ์แล้ว ต่อให้เผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ระดับเดียวกันเก้าคนก็ไม่อาจสร้างแรงกดดันและภัยคุกคามใดได้อีก

แน่นอนว่าน่าเบื่อนัก

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าหาว่าข้าไร้ปรานี”

ท่ามกลางเสียงทอดถอนใจ ภายใต้การจับจ้องอย่างตกตะลึงตาค้างของผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน หลินสวินชี้นิ้วออกไปลวกๆ เรียบง่ายสบายๆ

แต่ชายเกราะทองที่เอ็ดตะโรตลอดคนนั้น ผู้แข็งแกร่งระดับจอมยุทธ์ขั้นสมบูรณ์ กลับถูกเขาชี้นิ้วร่างระเบิดโดยตรง เลือดสดแดงก่ำนับไม่ถ้วนสาดกระจายเต็มห้วงอากาศ แขนขาขาดวิ่นปลิวว่อนทั่วฟ้า

หลังจากนั้นหลินสวินวาดนิ้วกระบี่ ปราณกระบี่สีเขียวยาวหมื่นจั้งฟันตัวจอมยุทธ์สองคนขาดเป็นสองท่อนโดยตรง ทำให้พวกเขาวิญญาณแตกซ่านท่ามกลางเสียงหวีดร้องหวาดผวา

ถึงตอนท้ายหลินสวินพลันทะยานตัว กลายเป็นรุ้งเทพสายหนึ่งพุ่งตรงไปนอกเขตหวงห้ามที่เจ็ด พริบตานั้นเขาเหมือนเหล็กหมาดปลายแหลมแหวกผ่านเวิ้งฟ้า เคลื่อนขวางท้องนภา พุ่งตัวผ่านเหล่าศัตรู ประหนึ่งใบมีดคมกริบถึงขีดสุดเฉือนตัดไขมันวัว

ตูม!

ในที่นั้นมีจอมยุทธ์หลายคนถูกหลินสวินพุ่งชนกลางอากาศ เพียงพริบตาก็ระเบิดเป็นหมอกโลหิตสาดกระเซ็น กายมรรคอมตะที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งไม่เสื่อมสลายนั่นกลับเหมือนกระดาษเปื่อยยุ่ย แม้แต่จิตวิญญาณยังแตกเป็นเสี่ยงทันที

ใช่ว่าจอมยุทธ์พวกนี้ไม่ต้านทาน ถึงขั้นใช้ไพ่ตายสุดชีวิต แต่ยังคงไร้ประโยชน์ ถูกเงาร่างของหลินสวินทะลวงเป็นทางโลหิตอย่างแข็งกร้าว!

มองจากไกลๆ รอยเลือดสายหนึ่งทอดยาวกลางอากาศ แดงก่ำบาดตาชวนประหวั่น

ตูม!

ผู้แข็งแกร่งนับพันที่อยู่ห่างไปนั้นไร้แรงต้านโดยสิ้นเชิง ถูกหลินสวินพุ่งตัวผ่านไป ตามมาด้วยพายุโลหิตตลอดทาง

กระทั่งเงาร่างหลินสวินหายไปจากขอบฟ้าห่างไกล ในที่นั้นจึงมีเสียงร้องโหยหวน หวาดผวา สิ้นหวัง พังทลายระลอกหนึ่งดังขึ้น

นองเลือดดุจภาพวาด

พริบตานั้นจอมยุทธ์สองคนกับผู้ฝึกปราณคนอื่นที่โชคดีรอดชีวิตราวกับพังทลาย แต่ละคนตัวสั่นเทา ใบหน้าซีดเซียว

เหตุการณ์เมื่อครู่นั้นประทับอยู่ในใจพวกเขาทุกคนดุจเงามืดแล้ว

หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เขตหวงห้ามที่เก้า

เงาร่างของหลินสวินปรากฏตัวกลางอากาศ

ในรัศมีสามหมื่นลี้นี้มีด่านตรวจมากมายกระจายอยู่ ทั้งมีกระบวนผนึกปกคลุม กลายเป็นแนวปิดล้อมอย่างสมบูรณ์

สิ่งสำคัญที่สุดคือที่นี่มีพลังระเบียบปกคลุมอยู่!

ตอนนั้นยามหลินสวินเข้าสู่เขตหวงห้ามที่เก้าก็ถูกพลังระเบียบของที่นี่จับกลิ่นอายบนตัว กระทั่งออกจากเขตหวงห้ามที่เก้าไปจึงถูกฉินเซ่าเหมิ่งตามทันในเวลาอันสั้นเช่นนั้น

หลินสวินมาครั้งนี้ก็เพื่อหลอมพลังระเบียบนี่!

วู้ม!

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแหวกผ่านอากาศ แสงมรรคนับหมื่นแสนไหลวน พุ่งไปหาพลังผนึกที่ห่างไกล

ตูม!

พลังระเบียบที่กระจายอยู่ในกระบวนผนึกสั่นสะเทือนทันที ละอองแสงสลัวรางดุจหิมะน้ำแข็งแผ่คลุม

แต่เกือบจะเวลาเดียวกัน ระเบียบนิพพานก็กลายเป็นลายดอกบัวพุ่งออกไป กำราบพลังระเบียบที่ทัดเทียมระดับสวรรค์ขั้นแปดสายนี้ จากนั้นจึงเริ่มผลาญเผาและหล่อหลอม

อาณาเขตสามหมื่นลี้ในเขตหวงห้ามที่เก้าซึ่งเดิมถูกพลังระเบียบปกคลุมนั้นเริ่มสั่นสะเทือน ภูผาธาราผืนพสุธาที่หิมะน้ำแข็งปกคลุมนั่น ตอนนี้เหมือนได้รับแรงโจมตีชวนประหวั่น เริ่มพังทลาย เขม่าควันอบอวล หมอกควันโหมกระหน่ำ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“ทำไมถึง…”

“แย่แล้ว! พลังระเบียบถูกทำลาย!”

เวลานี้ผู้แข็งแกร่งที่ประจำการในแต่ละด่านตรวจล้วนถูกทำให้ตกใจ พุ่งตัวออกมาทันที

จากนั้นพวกเขาก็เห็นพลังระเบียบของฟ้าดินที่วางโดยเผ่าเทพต้าฉินมานานปี พังทลายดังสนั่นราวกับธารน้ำแข็งละลายในยามนี้

พริบตานั้นพวกเขารู้สึกเพียงว่าเหมือนฟ้าถล่ม!

ทั้งมีคนเห็นว่าใต้เวิ้งฟ้าที่ห่างไกล เงาร่างสูงโปร่งหนึ่งยืนอยู่ราวกับเทพไท้ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

แต่ไม่มีใครกล้าบุ่มบ่ามเข้าไป

บุคคลที่ทำลายพลังระเบียบซึ่งเผ่าเทพต้าฉินวางไว้ได้ ไม่ใช่คนที่พวกเขาไปขวางได้แต่แรก

ไม่นานนักหลินสวินเก็บเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งลงไป

“นายท่าน ท่านยกระเบียบระดับสวรรค์ขั้นแปดนี้ให้ข้าเพียงคนเดียวจริงหรือ” ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง อู๋ซวงเด็กสาวไร้เดียงสาในชุดขาวกล่าวยินดี

“แน่นอน”

หลินสวินกล่าวง่ายๆ

ก่อนหน้านี้ยามอยู่ระดับจักรพรรดิ เขาอาจสนใจและเห็นคุณค่าของระเบียบระดับสวรรค์อยู่บ้าง แต่ตอนนี้นอกเสียจากว่าจะเป็นพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้า ไม่อย่างนั้นก็ไม่อยู่ในสายตาเขาจริงๆ

“ขอบคุณนายท่าน เมื่อหลอมพลังระเบียบนี้แล้ว ข้าก็จะฟื้นฟูพลังระดับสวรรค์ขั้นเจ็ด เมื่อข้าฟื้นฟูถึงระดับสวรรค์ขั้นเก้าก็ช่วยนายท่านต่อสู้ได้แล้ว”

น้ำเสียงอู๋ซวงอ่อนหวานน่ารัก ดวงตาโตเจือความยินดีและมุ่งหวัง

นางเป็นวิญญาณระเบียบมรรคสวรรค์ของแดนต้นกำเนิดในยุคก่อน สามารถรอดชีวิตจากการดับสิ้นของยุคสมัยมาได้ เดิมทีก็ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง

กล่าวได้ว่าวิญญาณระเบียบในความหมายทั่วไปไม่อาจเทียบกับอู๋ซวงได้

ก่อนหน้านี้อู๋ซวงบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นได้แต่ฟื้นตัวอยู่ในระเบียบนิพพาน

แต่หลายปีนี้นางดูดซับและหลอมพลังระเบียบมากมาย พลังต้นกำเนิดฟื้นฟูมานานแล้ว

เป็นอย่างที่นางกล่าว เมื่อฟื้นตัวถึงระดับสวรรค์ขั้นเก้าก็ช่วยหลินสวินต่อสู้ได้!

หลินสวินเฝ้ารอนัก ว่าเมื่ออู๋ซวงออกศึกได้จะสำแดงอานุภาพระดับใด

ความจริงในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งของเขาตอนนี้ นอกจากอู๋ซวงแล้ว ยังมีพลังระเบียบอย่างเสี่ยวหมิงกับเสี่ยวเซียนอยู่ด้วย ฝ่ายหนึ่งคือระเบียบนรก อีกฝ่ายคือระเบียบมรรคเซียน ล้วนแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง

แต่ระเบียบสองอย่างนี้ถูกระเบียบนิพพานสร้างขึ้นมาใหม่ หลายปีนี้แม้จะถูกระเบียบนิพพานหล่อเลี้ยงตลอดเวลา แต่การเปลี่ยนแปลงกลับเชื่องช้านัก ถึงตอนนี้กลิ่นอายของต้นกำเนิดของระเบียบสองชนิดนี้เพิ่งพอจะฝืนอยู่ในระดับปฐพีขั้นแปด

ต้องโทษหลินสวินที่ลำเอียง หลายปีนี้พลังระเบียบที่รวบรวมได้ เกือบทั้งหมดล้วนยกให้อู๋ซวงเพียงคนเดียว…

แน่นอนว่าหลินสวินไม่สนใจเรื่องพวกนี้โดยสิ้นเชิง

สำหรับตอนนี้ เขายังไม่รู้สึกถึงจุดที่ควรค่าแก่การใส่ใจจากตัวเสี่ยวหมิงและเสี่ยวเซียนเท่าไรนัก ในเมื่อใช้การไม่ได้ชั่วคราว เขาก็ไม่ค่อยใส่ใจนัก

‘ควรไปแล้ว’

เมื่อเก็บเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแล้ว หลินสวินหันหลังจากไป ไม่นานก็หายไปจากขอบฟ้า

วันนี้เขตหวงห้ามที่เจ็ดมีข่าวกระจายออกมา ฉินจิงเทียน ฉินจิงเหวิน ฉินจิงเลวี่ย ผู้อาวุโสสามคนของเผ่าเทพต้าฉินประสบเคราะห์ ผู้แข็งแกร่งเก้าขุมอำนาจใหญ่ที่ประจำการอยู่ใกล้เคียงบาดเจ็บล้มตาย!

วันนี้เขตหวงห้ามที่เก้าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ฟ้าพลิกดินตลบ พลังระเบียบที่วางโดยเผ่าเทพต้าฉินถูกทำลายสิ้นซาก

ทั้งสองข่าวแพร่ออกมาในวันเดียวกัน ทำให้ใต้หล้าสั่นสะเทือน นำมาซึ่งความปั่นป่วนโกลาหล!

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด