Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2944 วิชาก้นกรุของแต่ละคน

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2944 วิชาก้นกรุของแต่ละคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2944 วิชาก้นกรุของแต่ละคน

“ฆ่า!”

หลินสวินกระโจนขึ้นไป กายมรรคทั้งห้าแต่ละร่างต่างมีประกายเทพสะดุดตา ร่วมต่อสู้กับร่างต้น

ตูม!

ชั่วพริบตาที่การต่อสู้ดุเดือดปะทุขึ้น หลินสวินกับกายมรรคทั้งห้าก็ถูกซัดให้ถอยออกไปหลายสิบจั้ง แต่ละคนกลิ่นอายปั่นป่วน

ด้วยพลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้ จะสังหารรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สักคนไม่ได้เปลืองแรงมากเกินไป

แต่ยามเผชิญหน้ากับรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สิบสี่คนนั้นก็ดูจะกินแรงไปสักหน่อย

ต่อให้เขาใช้มรรควิถีของตนถึงขีดสุด แต่ท่ามกลางการล้อมโจมตีเช่นนี้ก็ยังถูกซัดสะเทือนเช่นเดิม!

ในใจเสวียนเฟยหลิงบีบรัด

ซย่าจื้อสีหน้าสงบนิ่งเช่นเดิม แต่เสื้อผ้าไหวกระพือ กลิ่นอายทั้งร่างไหลเวียน เห็นชัดว่าสั่งสมกำลังรอแล้ว

พวกถูมู่หุนกับจี้คงที่อยู่ไกลออกไปนอกจากลอบถอนหายใจแล้ว ในใจยังสั่นสะท้านไม่หยุดโดยมิได้นัดหมาย

ไม่อาจสังหารได้ในการโจมตีเดียว

ทั้งไม่ได้ทำให้บาดเจ็บสาหัส

รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สิบสี่คนลงมือ กลับได้แต่ซัดหลินสวินให้ถอยไป!

เมื่อเห็นภาพนี้ใครจะไม่สั่นสะท้านกับพลังต่อสู้ของหลินสวิน

และใครจะกล้าเชื่อว่านี่เป็นพลังที่ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนหนึ่งจะมีได้

ตูม!

ฟ้าดินพังทรุด สรรพสิ่งโรยรา

หลังจากรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สิบสี่คนลงมือก็ไม่คิดจะให้โอกาสหลินสวินได้พักหายใจแต่อย่างใด แต่ละคนอานุภาพแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าอีกคน

บ้างควบคุมแส้เทพระเบียบ ลำแสงกฎเกณฑ์สีทองเจิดจ้าหวดฟาด

บ้างครอบครองลมไฟสายฟ้า วิวัฒน์เป็นแก่นอัศจรรย์นิรันดร์ อาละวาดทั่วหล้า

บ้างใช้ปราณกระบี่ นัยเร้นลับที่ประทับในกระบี่แต่ละเล่มสามารถบดขยี้ท้องนภา ทะลวงสุริยันจันทรา

และยังมีเงาขวานใหญ่หนา ปราณดาบลึกลับ คมหอกพร่างพราว เงาทวนอหังการ… สารพัดวิชาสังหารปรากฏออกมา ไม่มีวิชาใดไม่อาจเรียกว่าแข็งแกร่งยิ่งยวด!

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงถูกสังหารในชั่วพริบตา

เพียงไม่นานหลินสวินกับร่างแยกมหามรรคทั้งห้าของเขาก็ถูกปิดล้อม!

ครืน…

เสียงมรรคซัดสาดดุจอสนีบาตเก้าชั้นฟ้า คลื่นพลังต่อสู้ทำลายล้างแผ่ขยาย ภาพการต่อสู้เหล่านั้นสร้างความตะลึงจนเหงื่อกาฬไหลไปทั้งตัวให้เหล่าคนที่ดูการต่อสู้อยู่ที่นั่น

กล่าวอย่างไม่เกินจริง หากการต่อสู้เช่นนี้เกิดขึ้นในโลกภายนอก ไม่รู้ว่าจะทำลายเมืองและภูผาธาราไปเท่าไร ถึงกับสามารถทำลายต้นกำเนิดโลกใหญ่แห่งหนึ่งได้!

ก็ในการล้อมโจมตีเช่นนี้เอง หลินสวินสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าพลังต่อสู้ของเขาจะเย้ยฟ้าเพียงไหน แม้ว่ากฎเกณฑ์อมตะทั้งร่างจะไปถึงขั้นต้านทานพลังระเบียบระดับเทพได้แล้ว

แต่เขาก็เป็นแค่ขั้นหลุดพ้นอยู่ดี!

ยามเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีของรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์เหล่านั้นย่อมดูไร้พลัง ไม่ได้สบายอย่างตอนจัดการอูหวนเจิน

ภาพเหล่านี้ทุกคนนอกสนามรบล้วนมองเห็นอยู่ในสายตา

โดยเฉพาะพวกถูมู่หุนกับจี้คง พวกเขาต่างไม่กล้าคิดว่าถ้าหากชายหนุ่มที่มีศักยภาพแฝงยอดมรรคาอมตะอย่างหลินสวินแจ้งมรรคนิรันดร์ เช่นนั้นจะมีอานุภาพน่าครั่นคร้ามเพียงไหน

ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ อย่าว่าแต่สองหอบรรพจารย์อย่างลัทธิพ่อมดกับลัทธิฌาน เกรงว่าเผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าเหล่านั้นยังต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับ!

ยังดีที่หลินสวินในตอนนี้ถูกกักตัวไว้ เผยสัญญาณว่าสู้ไม่ได้ นี่ทำให้พวกถูมู่หุนกับจี้คงต่างรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง

‘ต้องระวังทางเสวียนเฟยหลิง ลัทธิแรกกำเนิดจะต้องมีไพ่ตายที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ไม่น้อย มิหนำซ้ำพวกเขาไม่มีทางมองดูหลินสวินถูกฆ่าไปต่อหน้าต่อตาแน่’ไอรีนโนเวล

ถูมู่หุนรีบสื่อจิต

‘เวลาแบบนี้นอกจากร่างต้นระดับนิรันดร์ลงมือ ใครจะยังช่วยหลินสวินได้ ด้วยรากฐานพลังของลัทธิแรกกำเนิดตอนนี้ อย่างมาก็แค่ส่งรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์จำนวนหนึ่งออกมาเท่านั้น นี่ย่อมไม่มีทางเปลี่ยนสถานการณ์ได้’

จี้คงสีหน้าสงบนิ่งเรียบเฉย ‘ยิ่งกว่านั้นนอกจากของพวกนี้ หรือพี่ถูจะไม่มีไม้ตายอื่นแล้ว’

ถูมู่หุนแววตาไหววูบ เอ่ยว่า ‘พวกเราก็พอๆ กัน ถึงอย่างไรถ้าอยากจัดการทั้งลัทธิแรกกำเนิด หากไม่เตรียมตัวมาพอจะสั่นคลอนรากฐานอีกฝ่ายได้อย่างไร”

ขณะที่กำลังสนทนา ในสนามรบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นตะลึง…

หลินสวินที่ถูกเล่นงานมาตลอดใช้อภินิหาร ‘ประตูเนรเทศ’ ในตอนนี้

ครืน!

รอยแยกมิติมหึมาหาใดเทียบสายหนึ่งปรากฏขึ้น ประตูมิติที่มีครอบคลุมพันจั้งปกคลุมลงมา ปรากฏกลิ่นอายกลืนกินน่าหวาดผวา

ชั่งพริบตารูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์เหล่านั้นล้วนชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าเผยแววเคร่งเครียดแต่ไม่ได้ลนลานแต่อย่างใด

“โอม!”

รูปจำลองเจตจำนงที่เหมือนเฒ่าชราสูงวัยคนหนึ่งตะโกนลั่น เรียกธงศึกหนังสัตว์เลือดหลั่งรินออกมาผืนหนึ่งเคลื่อนกวาดอากาศ กลางธงศึกหนังสัตว์ปรากฏแสงโลหิตเป็นระลอก ทั้งยังสำแดงพลังกาลเวลาอันพิศวงไม่อาจคาดเดาได้ ถึงกับสามารถขัดขวางพลังกลืนกินของประตูเนรเทศ!

“ธงเลือดเหล็กประหัตโลกา!”

เสวียนเฟยหลิงนัยน์ตาหดรัด

นี่เป็นหนึ่งในยอดสมบัติพิทักษ์สำนักของลัทธิพ่อมด เป็นศาสตรามรรคนิรันดร์ที่แท้จริง อานุภาพน่าครั่นคร้าม ตามข่าวลือ เมื่อคลี่ธงนี้พลังจะสามารถปกคลุมโลกใบใหญ่ได้ทันที หลอมกฎระเบียบโลกได้อย่างง่ายดาย

ในขณะเดียวกันแสงธรรมไพศาลแถบหนึ่งอุบัติขึ้น พุทธคัมภีร์ทองอร่ามม้วนหนึ่งคลี่ออกกลางอากาศ อักษรสันสกฤตที่ลึกลับคลุมเครือนับไม่ถ้วนเปล่งแสงสว่างจ้า สำแดงแก่นอัศจรรย์นิรันดร์ขวางพลังประตูเนรเทศเอาไว้

แปดมหาคัมภีร์!

นี่เป็นสมบัติพิทักษ์สำนักของลัทธิฌาน ลือกันว่าระดับนิรันดร์คนหนึ่งหลอมขึ้นโดยใช้กฎระเบียบมรรคธรรม ในคัมภีร์แบ่งออกเป็นแปดบท ต่างประทับยอดแก่นอัศจรรย์ไว้ สามารถใช้ควบคุมลมสายฟ้าดินไฟ ต้านทานกาลเวลาและห้วงมิติได้

เทียบกับธงเลือดเหล็กประหัตโลกาแล้ว สมบัตินี้ย่อมไม่ด้อยกว่าสักนิด!

ชั่วพริบตาประตูเนรเทศของหลินสวินก็ถูกศาสตรามรรคนิรันดร์สองชิ้นสกัดไว้ ทั้งยังทำให้รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สิบสี่คนสลายไม้ตายของหลินสวิน อยู่รอดปลอดภัย

ภาพนี้เสวียนเฟยหลิงเห็นแล้วในใจกังวลขึ้นมาทันที

เขารู้ดีว่าในมือหลินสวินไม่ได้มีสมบัติอย่าง ‘ศาสตรามรรคนิรันดร์’ นี่ยังจะเอาอะไรไปสู้กับเฒ่าชราที่เตรียมตัวมาพร้อมพวกนั้น

หลินสวินหรี่ตาลงเล็กน้อย ย่อประตูเนรเทศลงเป็นแสงเงาสายหนึ่ง ควบรวมไว้บนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งโดยไม่ลังเล

ตูม โครมๆ…

พลังสังหารต่างๆ พุ่งมาโจมตี แต่ทันทีที่มาถึงเบื้องหน้าหลินสวินก็ถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลืนกินไปหมด หายลับไปราวกับวัวดินจมทะเล

ภาพอันพิสดารนี้ทำให้รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์เหล่านั้นยังอึ้งไปอย่างอดไม่ได้ คล้ายยากจะเชื่อ

นี่ย่อมเป็นความสามารถของประตูเนรเทศ

มีอานุภาพของมันแนบอยู่บนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง พลังที่จู่โจมมาทั้งหมดล้วนถูกกลืนเข้าไปในแดนเนรเทศ!

และฉวยโอกาสนี้ หลินสวินกับห้าร่างแยกใหญ่กระโจนเข้าไปพร้อมกัน

“ฆ่า!”

เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับนิรันดร์เหล่านั้นร่วมมือกันโจมตี

แต่นอกจากพลังของธงเลือดเหล็กประหัตโลกกับแปดมหาคัมภีร์ที่สามารถสั่นคลอนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งได้แล้ว การโจมตีอื่นล้วนถูกประตูเนรเทศที่อยู่บนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลืนกินทั้งหมด

พูดอีกอย่างก็คือ เหนือศีรษะหลินสวินตอนนี้มีเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งลอยอยู่ นอกจากศาสตรามรรคนิรันดร์ทั้งสองแล้ว การโจมตีของคนอื่นล้วนไม่ต้องให้เขาต้านทานเองสักนิดก็ถูกประตูเนรเทศกลืนกินไปแล้ว

เรื่องนี้ทำให้แรงกดดันของเขาลดลงทันที

ดูคล้ายต้านทานรูปจำลองเจตจำนงสิบสี่คน แต่ความจริงแล้วไม่ต่างอะไรกับต้านทานสองคน!

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวอาจจะเป็น แม้ประตูเนรเทศจะหดเล็กลงหลายเท่า แต่เพราะพลังที่ต้องกลืนกินน่ากลัวเกินไป พลังของเขาถึงได้ผลาญไปอย่างรวดเร็วยิ่งเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา

แต่ก่อนสามารถยืนหยัดได้ครึ่งชั่วยาม ตอนนี้อยากมากก็ยืนหยัดได้ครู่เดียว

แต่หลินสวินไม่ได้สนใจ

เขาฉวยโอกาสนี้พุ่งออกไปเต็มกำลัง ชั่วพริบตาก็ทะลวงวงล้อมเข้าจู่โจมรูปจำลองเจตจำนงคนหนึ่งเต็มกำลัง!

รูปจำลองเจตจำนงนี้เป็นชายในชุดหนังสัตว์คนหนึ่ง ร่างกายสูงใหญ่กำยำ พลังต่อสู้ร้ายกาจยิ่ง ควบคุมพลังกฎระเบียบเหมือนแส้เทพระเบียบ โจมตีมาครั้งหนึ่งฟ้าดินถล่มแยก อหังการหาใดเทียบ

เพียงแต่บัดนี้การจู่โจมของเขากลับถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลืนกินไปหมด ไม่ว่าอานุภาพการโจมตีจะอหังการเพียงไหน สำหรับหลินสวินล้วนไม่อาจทำอันตรายได้สักนิด!

เปรี้ยง!

เพียงไม่กี่พริบตาเท่านั้น

ชายชุดหนังสัตว์ก็ถูกระเบิดกลายเป็นละอองแสงปลิวว่อนสลายไปหมด

“นี่…”

รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์คนอื่นต่างตกตะลึง ล้วนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

“สมควรตาย! เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร”

ไกลออกไปสัตว์ประหลาดเฒ่าลัทธิพ่อมดอย่างพวกถูมู่หุนหน้าเปลี่ยนสี

หลินสวินก่อนหน้านี้ยังถูกยับยั้งและกดข่ม แต่ตอนนี้ดันโจมตีโต้กลับได้แล้ว!

ถึงขั้นว่าในสนามรบตอนนี้มีแต่ศาสตรามรรคนิรันดร์สองชิ้นนั้นที่สามารถข่มอานุภาพโจมตีของเขาได้ วิชาต่อสู้ของคนอื่นต่างถูกกลืนกินไปหมด

เรื่องนี้พิสดารและน่ากลัวเกินไป ใครจะกล้าเชื่อ

มือซ้ายของเสวียนเฟยหลิงที่กำยันต์ลับเตรียมไว้เนิ่นๆ อยู่ในแขนเสื้อคลายลงเงียบๆ เดิมทีเขาเตรียมจะลงมือแล้ว

แต่เห็นชัดว่ายังไม่ต้องใช้ชั่วคราว

เวลาเดียวกันเสวียนเฟยหลิงก็สังเกตเห็นว่าพลังขับเคลื่อนที่สั่งสมถึงขีดสุดของซย่าจื้อก็ค่อยๆ คลายลงเช่นกัน

เห็นชัดว่าเมื่อครู่นางคิดจะลงมือเหมือนกับตน!

ตูม!

การต่อสู้ยังปะทุ การเสียรูปจำลองเจตจำนงไปคนหนึ่งทำให้คนอื่นๆ ต่างเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที

ฝั่งลัทธิพ่อมดให้รูปจำลองเจตจำนงที่ควบคุมธงเลือดเหล็กประหัตโลกเป็นผู้นำ เข้าจู่โจมหลินสวินด้วยกัน

ฝั่งลัทธิฌานก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ใช้พลังทั้งหมดควบคุมศาสตรามรรคนิรันดร์แปดมหาคัมภีร์โจมตีหลินสวิน

เพียงแต่อย่างไรก็มีสมบัติเพียงสองชิ้น แม้ไม่หวั่นอานุภาพของประตูเนรเทศที่อยู่บนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง แต่ก็คุกคามหลินสวินไม่ได้มาก

ตูม!

ทว่าสถานการณ์เช่นนี้คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะไม่นานนักพลังของประตูเนรเทศบนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็สลายไปแล้ว

พริบตานี้รูปจำลองเจตจำนงเหล่านั้นฉวยโอกาสโจมตีเต็มกำลังโดยไม่ลังเลสักนิด

พวกเขาต่างรับรู้ได้ว่าอภินิหารต้องห้ามที่หลินสวินสำแดงนี้ย่อมไม่อาจพิชิตได้ แต่ขอเพียงจู่โจมอยู่ตลอดก็ต้องหายไป

และหลินสวินจะต้องสิ้นเปลืองพลังมหาศาลไปเพราะเหตุนี้!

“ดี!”

พวกถูมู่หุนต่างส่งเสียงร้องอย่างอดไม่ได้ ดวงตาเปล่งประกาย พลังอภินิหารถูกทำลาย หลินสวินยังจะเอาอะไรมาพลิกสถานการณ์ได้อีก

พวกจี้คงเองก็เผยสีหน้าผ่อนคลายลงอย่างอดไม่ได้เช่นกัน

ยังดีที่อภินิหารเช่นนี้ยืนหยัดได้ไม่นาน หาไม่แล้วผลลัพธ์คงไม่กล้าคาดคิด

ตูม!

ทว่าก็ในตอนนี้เอง หลินสวินกลับสำแดงอภินิหารประตูเนรเทศอีกครั้ง ประตูมิติที่มีขอบเขตพันจั้งย่อเล็กลงเป็นเงาแสงกลุ่มหนึ่งในพริบตา ประทับอยู่บนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

ถึงขนาดที่นอกจากการโจมตีของศาสตรามรรคนิรันดร์สองชิ้นนั้น การโจมตีอื่นๆ ต่างถูกกลืนกิน

แต่ต่อให้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์คนหนึ่งของลัทธิฌานกลับหัวเราะร่าเอ่ยว่า “ทุกท่าน พลังขับเคลื่อนของเขาอ่อนแรงลงเกือบสามส่วน ไม่มีทางใช้พลังเช่นนี้ได้ตลอดแน่!”

ประโยคเดียวทำให้สีหน้าคนอื่นผ่อนคลายไม่น้อย

พลังกายสามส่วนถึงแลกพลังอภินิหารมาได้ครู่หนึ่ง นี่หมายความว่าด้วยมรรควิถีทั้งตัวหลินสวินนั้น ก็ใช้พลังเช่นนี้ได้เพียงสามครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย!

แต่หลินสวินกลับไม่สนใจเรื่องพวกนี้สักนิด ชั่วพริบตานี้เขาออกโจมตีอย่างองอาจ ลงมือกับรูปจำลองเจตจำนงที่ส่งเสียงหัวเราะร่านั้นทันที

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด