Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2322 บุกพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2322 บุกพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2322 บุกพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ

เขตแดนดาราทอดทิ้ง

หลินสวินเก็บยานขนส่งอวกาศ ข้ามห้วงอากาศไปยังเขตแดนดาราอันรกร้างและทรุดโทรมแห่งนี้ด้วยกันกับต้าหวง

เพิ่งไปได้ไม่นาน เสียงเจนโลกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ขอสหายหยุดอยู่ก่อน ที่นี่เป็นที่ตั้งของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ ไม่ใช่ผู้ฝึกปราณดินแดนรกร้างโบราณจะเข้าไปไม่ได้”

จิตรับรู้หลินสวินแผ่ขยาย ทันใดนั้นก็เห็นคนผู้หนึ่งนั่งตัวตรงอยู่บนยอดเขาบนดวงดาวไกลลิบดวงหนึ่ง ผมดำปลิวไสว แววตาเคร่งขรึมดุดัน

“ข้าคนแซ่หลินมาจากดินแดนรกร้างโบราณ” หลินสวินเอ่ย

ตูม!

จิตรับรู้อันน่าหวาดกลัวพุ่งออกมาจากชายชุดเทาคนนั้นราวกับกระแสธาร ทะยานสู่ฟ้าดารามาปกคลุมหลินสวิน

แต่ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกกลิ่นอายทั้งตัวหลินสวินสลายไปอย่างเงียบเชียบ

ชายชุดเทานัยน์ตาหดรัด รับรู้ได้ถึงความร้ายกาจ ลุกออกมาจากยอดเขา เอ่ยเสียงน่าเกรงขาม “การล่งเกินเมื่อครู่ยังขอให้สหายยุทธ์อภัยด้วย เพียงแต่ไม่รู้ว่าสหายยุทธ์มาจากที่ใด ทั้งมาทำอะไรที่นี่”

หลินสวินเอ่ย “ข้ามีนามว่าหลินเต้ายวน มาหามหาจักรพรรดิอีกาทอง”

“จักรพรรดิเต้ายวนหรือ”

ชายชุดเทาผู้นั้นจ้องเขม็งทันที สูดหายใจสะท้าน ตระหนักได้แล้วว่าหลินสวินเป็นอริยะเทพจากไหน

ไม่กี่ปีก่อนแดนปรินิพพานปิดฉากลง หลินเต้ายวนกลายเป็นผู้ที่บรรลุมกุฎจักรพรรดิคนแรกในรอบหนึ่งแสนปี!

คนระดับตำนานเช่นนี้ บนทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ใครจะไม่รู้จัก

ทันใดนั้นชายชุดเทาก็เผยสีหน้าประหลาด “สหายยุทธ์ เจ้าบอกว่าต้องการมาหามหาจักรพรรดิอีกาทองหรือ”

หลินสวินพยักหน้า

ชายชุดเทาอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนหัวเราะแหะออกมา “สหายยุทธ์ไม่รู้อะไร ตอนนั้นหลังจากจอมจักรพรรดิไร้นามแพ้ไม่นาน เจ้าเฒ่าอีกาทองก็ถูกกำราบไปแล้ว ตอนนี้ใครก็หาไม่เจอ”

หลินสวินไม่ได้ประหลาดใจ พวกจ้าวหยวนจี๋สองสามีภรรยาบอกเขาไว้ก่อนแล้ว ตอนนั้นชายหนุ่มจักจั่นทองกับเฉินหลินคงไปฟากฝั่งฟ้าดาราด้วยกัน ชายหนุ่มจักจั่นทองได้ลงมือกำราบมหาจักรพรรดิอีกาทองที่เพิ่งออกมาจากการปิดด่านด้วยตัวเอง ไม่อาจหลุดพ้นได้

หลินสวินเอ่ยถาม “ข้าคนแซ่หลินอยากรู้เพียงว่าตอนนี้เขาถูกกำราบอยู่ที่ไหน หวังว่าสหายยุทธ์จะบอกได้”

ชายชุดเทาลังเลเล็กน้อย เอ่ยว่า “พวกเรายามแรกก่อตั้งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ ก็มีกฎที่ไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรข้อหนึ่ง ว่าไม่ว่าใครมาทวงแค้น จะถูกมองเป็นศัตรูของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณของพวกเราทุกคน

“สหายยุทธ์ ความแค้นส่วนตัวของเจ้ากับเจ้าเฒ่าอีกาทอง ทุกคนในพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณของข้าต่างรู้ดี เรื่องนี้ข้าไม่อาจช่วยเจ้าได้ กระทั่งว่าถ้าเจ้ายังดื้อดึง ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือคนอื่นที่จำศีลอยู่ในเขตแดนดาราแห่งนี้ ต่างจะขัดขวางเต็มกำลัง”

“ข้าคนแซ่หลินเคารพกฎพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ แต่คราวนี้ถ้าไม่ได้พบเจ้าเฒ่าอีกาทองนั่น ข้าคนแซ่หลินจะม่ใช่มาเสียเที่ยวหรือ ยังขอให้ท่านผ่อนปรนสักหน่อย”

หลินสวินกุมมือคารวะพลางเอ่ย

ชายชุดเทายิ้มเจื่อน “จักรพรรดิเต้ายวน นี่เจ้ากำลังทำให้พวกเราลำบากใจ ขออภัยที่ข้าไม่อาจตอบรับได้”

“เช่นนั้นก็ทำได้เพียงบุกไปตรงๆ แล้ว”

ต้าหวงเอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ “ถึงอย่างไรขอแค่ไม่ฆ่าคนก็ไม่ถือว่าล่วงเกินพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ แต่ไม่รู้ว่าผู้แข็งแกร่งที่ยังอยู่ที่นี่ตอนนี้จะขวางไว้ได้หรือไม่แล้ว”

ชายชุดเทาสีเทาหน้าเปลี่ยนไปในทันใด

ก็ในตอนนี้เสียงแผ่วจางราบเรียบเสียงหนึ่งดังขึ้นจากส่วนลึกของเขตแดนดาราทอดทิ้งแห่งนั้น

“พวกเราได้ยินชื่อเสียงของจักรพรรดิเต้ายวนมานานแล้ว วันนี้ถ้าได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับจักรพรรดิเต้ายวนเสียหน่อย ต่อให้พ่ายแพ้ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง”

“แต่ข้าต้องเตือนเจ้าประโยคหนึ่ง ตั้งแต่อดีตนานมา ต่อให้แข็งแกร่งอย่างจอมจักรพรรดิไร้นามก็ไม่มีอาจทะลวงเข้าที่นี่ได้ ถ้าจักรพรรดิเต้ายวนมั่นใจว่าตัวเองทำได้ จะลองดูก็ไม่เสียหาย”

พูดจบเสียงนี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว

“คนผู้นี้เป็นใคร” หลินสวินถาม

“หัวหน้าพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณคนปัจจุบัน บรรพจารย์จักรพรรดิหลีชาง”

เสียงชายชุดเทาเจือน้ำเสียงยำเกรง

หลินสวินร้องอ้อแล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าคนแซ่หลินก็จะทำตามที่ท่านต้องการ”

ชายชุดเทางุนงง “จะบุกเข้าไปจริงๆ หรือ”

หลินสวินยิ้ม เดินไปข้างหน้า

ต้าหวงก็เดินตามอยู่ข้างหลัง

“จักรพรรดิเต้ายวน เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่ปรานี” ขณะที่ชายชุดเทาพูด เสียงชิ้งดังขึ้น มีทวนใหญ่สีทองโดดเด่นสะดุดตาเล่มหนึ่งพุ่งออกมาจากเบื้องหลังเขา

“ทะยาน!”

ทวนใหญ่สีทองที่เขาครอบครองกรีดฟ้ากว้างพุ่งเข้าสู่ห้วงอากาศ ประหนึ่งบ้าคลั่งดุดัน ราวกับสายฟ้าสีทองพาดผ่าน กึกก้องฟ้าดารา

“ถอยไป”

หลินสวินดีดนิ้วอย่างง่ายๆ คราหนึ่ง

ก็เห็นว่าท่ามกลางเสียงดังสะเทือนจนหูแทบดับ แสงทองกระจัดกระจายปั่นป่วนลมเมฆ

ส่วนเงาร่างของชายชุดเทามาไวแต่ไปไวยิ่งกว่า ถูกซัดกระเด็นถอยหลังออกไป ล้มลงบนยอดเขาดวงดาวที่เขายืนอยู่เดิมนั้น

ปึง!

ยามเขายืนมั่น ยอดเขานั้นก็ถล่มดังสนั่น ฝุ่นควันอบอวล เพียงคิดก็รู้ว่าพลังดีดนิ้วนี้ของหลินสวินอหังการปานไหน

ชายชุดเทาสีหน้าสับเปลี่ยนไปมาครู่หนึ่ง สักพักก็ยิ้มเจื่อนอย่างอดไม่ได้ “สมเป็นผู้บรรลุมกุฎจักรพรรดิคนแรกในรอบแสนปี…”

พอเขาเงยขึ้นมองอีกครั้ง เงาร่างของหลินสวินพาดผ่านฟ้าดารา หายลับไปในส่วนลึกนานแล้ว

“สถานที่แห่งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณแห่งนี้ไม่ได้บุกเข้าไปง่ายปานนั้น จักรพรรดิเต้ายวน… ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะได้ตามใจปรารถนาหรือไม่”

ชายชุดเทาพึมพำ

เขตแดนดาราทอดทิ้งใหญ่นัก รองรับดวงดารามากมายนับไม่ถ้วน ในนั้นยังมีโลกและแผ่นดินใหญ่ลอยอยู่มากมาย

เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ล้วนมีแต่กลิ่นอายหนาวเย็น ทรุดโทรม และแห้งแล้ง

หลินสวินเดินหน้าไม่นาน ประกายเทพละอองแสงเป็นริ้วๆ คล้ายแสงไหวเคลื่อนพุ่งเข้ามาจากแผ่นดินใหญ่ที่ลอยอยู่ไกลออกไปแห่งหนึ่ง

สุดท้ายแปลงเป็นชายวัยกลางคนแบกกระบี่โบราณไว้ที่หลัง จอนผมทั้งสองข้างแซมสีขาว แววตาฉายแววเจนโลก

“กู้ปอทง ระดับจักรพรรดิขั้นหก ผู้ฝึกกระบี่ ขอจักรพรรดิเต้ายวนชี้แนะ” ชายวัยกลางคนแบกกระบี่สีหน้าเคร่งขรึม แววตาเฉียบคม สุขุมเยือกเย็น

หลินสวินสังเกตเห็นว่าจักรพรรดิกระบี่เช่นนี้กลับเรียกตัวเองว่าผู้ฝึกกระบี่ นี่ไม่ใช่การเรียกตัวเองอย่างถ่อมตัว แต่เป็นท่าทีเฉพาะที่เสมอต้นเสมอปลายกับการฝึกมรรคกระบี่

“เชิญ”

หลินสวินยกมือทำท่าเชิญ

ชิ้ง!

ที่หลังกู้ปอทงกระบี่โบราณออกจากฝัก กระบี่ครวญก้องสะท้อน คมกระบี่ไร้เทียมทานฟันโจมตีตามการพลิกข้อมือของเขา

ห้วงอากาศเงียบสงัดถูกกรีดออกเป็นรอยขาดตรงแน่วเหมือนกระดาษ รอบรอยขาดมีแต่กระแสยุ่งเหยิงชนิดทำลายล้าง

อานุภาพหนึ่งกระบี่สำแดงความสง่างามของมหาจักรพรรดิจนหมดสิ้น

ทันใดนั้นเสียงตื่นตะลึงดังขึ้นในมุมมืด

และยามเผชิญหน้ากับกระบี่นี้ มือขวาของหลินสวินก็ดึงไปในอากาศเหมือนชักดาบ คมกระบี่เก้าชุ่นสายหนึ่งอุบัติขึ้นในอากาศ

ยามนี้ห้วงอากาศดำมืดเหมือนถูกส่องสว่าง สาดส่องฟ้าดารา

พอประกายกระบี่แผ่ออกมา กู้ปอทงที่อยู่ตรงข้ามส่งเสียงหนักทึบ ถอยหลังซวนเซไปหลายก้าว แววตาแข็งทื่ออย่างอดไม่ได้ “มรรคชักกระบี่ของจอมกระบี่จูคง!”

หลินสวินประสานมือ “ออมมือแล้ว”

กู้ปอทงแววตาซับซ้อน พลันตะคอกลั่นว่า “วิชามรรคกระบี่จักรพรรดิเต้ายวนไร้เทียมทานชั่วกัลป์ เฒ่าชราอย่างพวกเจ้า… รู้จักชั่งน้ำหนักมือหน่อยได้หรือไม่ หาไม่จะรนหาที่ตายเองแล้ว”

ชิ้ง!

เขาเก็บกระบี่เข้าฝัก หันหลังจากไป

หลินสวินยิ้มแล้วเดินหน้าต่อ ตลอดทางเขามือไพล่หลังอย่างกับเดินเล่นในสวนชมนกชมไม้ สุขุมเยือกเย็น

“ให้ข้าไปสู้แล้วกัน อย่างไรก็ไม่อาจให้ความน่าเกรงขามของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณของพวกเราดูอ่อนแอไม่ได้”

เสียงถอนใจเบาๆ ดังขึ้น ก็เห็นว่าในโลกที่อยู่ไกลออกไป เงาร่างสูงใหญ่ห่อหุ้มแสงเทพสะดุดตาหาใดเทียบร่างหนึ่งเดินออกมาจากห้วงอากาศ

แต่ละก้าวจักรวาลฟ้าดาราโดยรอบจะสั่นสะเทือนไปด้วย หมื่นดาราสั่นระรัว วงคลื่นคล้ายอากาศแผ่กระจายขึ้นลง

และอานุภาพของเงาร่างนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นในทุกย่างก้าว!

พอพินิจดู กลับเป็นหญิงคนหนึ่งที่สวมเกราะสีแดงสด ผมยาวสีน้ำหมึกรวบเป็นหางม้า เผยใบหน้างามล้ำออกมา

นางถือกระบองยาวเล่มหนึ่ง แสงมรรคสีทองเจิดจ้าปลิวว่อน มีแววอหังการน่าสะพรึงเผยออกมาจากความเย็นชาของตัวนาง

ประหนึ่งเทพยุทธ์หญิงที่ตะบึงไปตามภูเขาศพทะเลเลือดองค์หนึ่ง!

“แปดพันปีแล้ว ในที่สุดก็ได้เห็นจักรพรรดิซิงอู่ออกศึกอีกครั้ง ยังคงแกร่งกล้า อหังการ และงดงามปานนั้น!”

“เฮอะๆๆ จักรพรรดิซิงอู่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นแปด ตลอดชีวิตต่อสู้ทั่วหล้า สังหารเด็ดขาด แม้ไม่ใช่บุรุษก็ได้ชัยชนะเหมือนบุรุษ จักรพรรดิเต้ายวนผู้นี้เพิ่งมีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสี่ เกรงว่าจะลำบากแล้ว…”

เสียงพึมพำดังขึ้นในมุมมืดเป็นระลอก

และในตอนนี้หญิงซึ่งถูกเรียกว่าจักรพรรดิซิงอู่ผู้นั้นพุ่งไปยังฟ้าดาราแห่งนี้แล้ว อานุภาพทั้งตัวปกฟ้าคลุมดิน กดข่มหมู่ดาวในห้วงอากาศให้ส่งเสียงอึงอล ระเบิดกระจุยสะเทือนเลื่อนลั่น น่ากลัวเป็นที่สุด

“เอาศาตราจักรพรรดิของเจ้าออกมา”

จักรพรรดิซิงอู่เอ่ยปาก แววตาประหนึ่งสายฟ้าไหววูบฉีกทึ้งห้วงอากาศ พุ่งเป้าไปยังที่หลินสวิน

“มือเปล่าหมัดเปลือยก็พอ”

หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบ

ปฏิกิริยาเช่นนี้ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าที่สังเกตการต่อสู้นี้ต่างอึ้งไป เหมือนทำใจเชื่อได้ยาก เจ้าหนุ่มนี่… ถึงกับบ้าระห่ำเช่นนี้เชียวหรือ

พวกเขาไม่รู้วีรกรรมของหลินสวินในโลกมืด หาไม่เกรงว่าคงไม่เกิดปฏิกิริยาใหญ่โตเช่นนี้

“ข้าจะไม่ออมมือ”

ขณะที่จักรพรรดิซิงอู่พูด กระบองยาวในมือก็โบกสะบัด

ตูม!

แสงมรรคไร้สิ้นสุดแปลงเป็นกระแสไหลหลั่งดั่งน้ำขึ้นน้ำลง ซัดความว่างเปล่าให้พลิกคว่ำ ดุดันหาใดเทียบ ราวกับว่าเมื่อฟาดกระบองนี้จะทำให้ฟ้าดารานี้ระเบิด

หลินสวินเห็นดังนี้ก็ผ่อนคลายร่างกาย เคลื่อนหมัดไปข้างหน้า ยามยกมือวาดเท้าแสงมรรคไหลหลั่ง สำแดงท่วงทำนองเรียบง่ายไพศาล คืนสู่สัจจะอย่างหนึ่ง

ตูม!

หนึ่งการโจมตี หมัดกระบองปะทะกัน ละอองแสงเชี่ยวกรากนับหมื่นพันซัดสาด อานุภาพที่จักรพรรดิซิงอู่โจมตีมาถูกต้านไว้ทั้งอย่างนั้น

สัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่ในที่ลับต่างหน้าเปลี่ยนสี เก็บงำความดูแคลนในใจ จดจ่อชมการต่อสู้

สำหรับพวกเขาแล้ว ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นความสง่างามของมกุฎมหาจักรพรรดิเช่นกัน เพียงแต่ก่อนหน้านี้ใครก็คิดไม่ถึงว่ามกุฎมหาจักรพรรดิขั้นสี่อย่างหลินสวิน จะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้

“ฆ่า!”

จักรพรรดิซิงอู่ก็ตระหนักได้ว่าหลินสวินไม่ธรรมดา พุ่งตัวโจมตี กระบองปราดเปรียวคล่องตัว กระแสมหามรรคนับหมื่นพันม้วนขึ้น สำแดงปรากฏการณ์ประหลาดทั้งปวง แข็งแกร่งไม่อาจจินตนาการ

อย่างน้อยในความคิดของหลินสวิน เจ้าสำนักโบราณจรัสเทพอวี้คุนจื่อซึ่งเป็นระดับจักรพรรดิขั้นแปดปลายยอดเหมือนกันยังด้อยกว่าจักรพรรดิซิงอู่

น่าเสียดาย ทั้งหมดนี้คุกคามหลินสวินไม่ได้สักนิด

พอการต่อสู้เริ่มขึ้น ไม่นานทั้งสองก็ประมือกันหลายร้อยครั้ง การจู่โจมทั้งหมดของจักรพรรดิซิงอู่ล้วนถูกหลินสวินสลายไปได้ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด

นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่ในมุมมืดหวาดหวั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง นี่ก็คือพลังของมกุฎมหาจักรพรรดิหรือ จะเย้ยฟ้าเกินไปแล้ว!

ก็ในตอนที่ทุกคนรู้สึกว้าวุ้นอยู่นี้เอง จู่ๆ จักรพรรดิซิงอู่ก็ถอนตัวถอยออกมา ใบหน้างามเย็นชาปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ

ในที่สุดนางก็ถอนหายใจยาว “ข้าสู้เจ้าไม่ได้ สู้ต่อก็ต้องเป็นข้าแพ้ ขอบคุณมาก”

นางเก็บกระบองยาวประสานมือคารวะหลินสวิน

นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าถ้าหลินสวินใช้ศาตราจักรพรรดิเกรงว่าตนคงแพ้ไปนานแล้ว และสาเหตุที่ตนสู้มาจนถึงตอนนี้ได้ ย่อมเป็นเพราะอีกฝ่ายออมมือให้!

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2322 บุกพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2322 บุกพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2322 บุกพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ

เขตแดนดาราทอดทิ้ง

หลินสวินเก็บยานขนส่งอวกาศ ข้ามห้วงอากาศไปยังเขตแดนดาราอันรกร้างและทรุดโทรมแห่งนี้ด้วยกันกับต้าหวง

เพิ่งไปได้ไม่นาน เสียงเจนโลกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ขอสหายหยุดอยู่ก่อน ที่นี่เป็นที่ตั้งของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ ไม่ใช่ผู้ฝึกปราณดินแดนรกร้างโบราณจะเข้าไปไม่ได้”

จิตรับรู้หลินสวินแผ่ขยาย ทันใดนั้นก็เห็นคนผู้หนึ่งนั่งตัวตรงอยู่บนยอดเขาบนดวงดาวไกลลิบดวงหนึ่ง ผมดำปลิวไสว แววตาเคร่งขรึมดุดัน

“ข้าคนแซ่หลินมาจากดินแดนรกร้างโบราณ” หลินสวินเอ่ย

ตูม!

จิตรับรู้อันน่าหวาดกลัวพุ่งออกมาจากชายชุดเทาคนนั้นราวกับกระแสธาร ทะยานสู่ฟ้าดารามาปกคลุมหลินสวิน

แต่ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกกลิ่นอายทั้งตัวหลินสวินสลายไปอย่างเงียบเชียบ

ชายชุดเทานัยน์ตาหดรัด รับรู้ได้ถึงความร้ายกาจ ลุกออกมาจากยอดเขา เอ่ยเสียงน่าเกรงขาม “การล่งเกินเมื่อครู่ยังขอให้สหายยุทธ์อภัยด้วย เพียงแต่ไม่รู้ว่าสหายยุทธ์มาจากที่ใด ทั้งมาทำอะไรที่นี่”

หลินสวินเอ่ย “ข้ามีนามว่าหลินเต้ายวน มาหามหาจักรพรรดิอีกาทอง”

“จักรพรรดิเต้ายวนหรือ”

ชายชุดเทาผู้นั้นจ้องเขม็งทันที สูดหายใจสะท้าน ตระหนักได้แล้วว่าหลินสวินเป็นอริยะเทพจากไหน

ไม่กี่ปีก่อนแดนปรินิพพานปิดฉากลง หลินเต้ายวนกลายเป็นผู้ที่บรรลุมกุฎจักรพรรดิคนแรกในรอบหนึ่งแสนปี!

คนระดับตำนานเช่นนี้ บนทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ใครจะไม่รู้จัก

ทันใดนั้นชายชุดเทาก็เผยสีหน้าประหลาด “สหายยุทธ์ เจ้าบอกว่าต้องการมาหามหาจักรพรรดิอีกาทองหรือ”

หลินสวินพยักหน้า

ชายชุดเทาอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนหัวเราะแหะออกมา “สหายยุทธ์ไม่รู้อะไร ตอนนั้นหลังจากจอมจักรพรรดิไร้นามแพ้ไม่นาน เจ้าเฒ่าอีกาทองก็ถูกกำราบไปแล้ว ตอนนี้ใครก็หาไม่เจอ”

หลินสวินไม่ได้ประหลาดใจ พวกจ้าวหยวนจี๋สองสามีภรรยาบอกเขาไว้ก่อนแล้ว ตอนนั้นชายหนุ่มจักจั่นทองกับเฉินหลินคงไปฟากฝั่งฟ้าดาราด้วยกัน ชายหนุ่มจักจั่นทองได้ลงมือกำราบมหาจักรพรรดิอีกาทองที่เพิ่งออกมาจากการปิดด่านด้วยตัวเอง ไม่อาจหลุดพ้นได้

หลินสวินเอ่ยถาม “ข้าคนแซ่หลินอยากรู้เพียงว่าตอนนี้เขาถูกกำราบอยู่ที่ไหน หวังว่าสหายยุทธ์จะบอกได้”

ชายชุดเทาลังเลเล็กน้อย เอ่ยว่า “พวกเรายามแรกก่อตั้งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ ก็มีกฎที่ไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรข้อหนึ่ง ว่าไม่ว่าใครมาทวงแค้น จะถูกมองเป็นศัตรูของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณของพวกเราทุกคน

“สหายยุทธ์ ความแค้นส่วนตัวของเจ้ากับเจ้าเฒ่าอีกาทอง ทุกคนในพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณของข้าต่างรู้ดี เรื่องนี้ข้าไม่อาจช่วยเจ้าได้ กระทั่งว่าถ้าเจ้ายังดื้อดึง ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือคนอื่นที่จำศีลอยู่ในเขตแดนดาราแห่งนี้ ต่างจะขัดขวางเต็มกำลัง”

“ข้าคนแซ่หลินเคารพกฎพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ แต่คราวนี้ถ้าไม่ได้พบเจ้าเฒ่าอีกาทองนั่น ข้าคนแซ่หลินจะม่ใช่มาเสียเที่ยวหรือ ยังขอให้ท่านผ่อนปรนสักหน่อย”

หลินสวินกุมมือคารวะพลางเอ่ย

ชายชุดเทายิ้มเจื่อน “จักรพรรดิเต้ายวน นี่เจ้ากำลังทำให้พวกเราลำบากใจ ขออภัยที่ข้าไม่อาจตอบรับได้”

“เช่นนั้นก็ทำได้เพียงบุกไปตรงๆ แล้ว”

ต้าหวงเอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ “ถึงอย่างไรขอแค่ไม่ฆ่าคนก็ไม่ถือว่าล่วงเกินพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ แต่ไม่รู้ว่าผู้แข็งแกร่งที่ยังอยู่ที่นี่ตอนนี้จะขวางไว้ได้หรือไม่แล้ว”

ชายชุดเทาสีเทาหน้าเปลี่ยนไปในทันใด

ก็ในตอนนี้เสียงแผ่วจางราบเรียบเสียงหนึ่งดังขึ้นจากส่วนลึกของเขตแดนดาราทอดทิ้งแห่งนั้น

“พวกเราได้ยินชื่อเสียงของจักรพรรดิเต้ายวนมานานแล้ว วันนี้ถ้าได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับจักรพรรดิเต้ายวนเสียหน่อย ต่อให้พ่ายแพ้ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง”

“แต่ข้าต้องเตือนเจ้าประโยคหนึ่ง ตั้งแต่อดีตนานมา ต่อให้แข็งแกร่งอย่างจอมจักรพรรดิไร้นามก็ไม่มีอาจทะลวงเข้าที่นี่ได้ ถ้าจักรพรรดิเต้ายวนมั่นใจว่าตัวเองทำได้ จะลองดูก็ไม่เสียหาย”

พูดจบเสียงนี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว

“คนผู้นี้เป็นใคร” หลินสวินถาม

“หัวหน้าพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณคนปัจจุบัน บรรพจารย์จักรพรรดิหลีชาง”

เสียงชายชุดเทาเจือน้ำเสียงยำเกรง

หลินสวินร้องอ้อแล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าคนแซ่หลินก็จะทำตามที่ท่านต้องการ”

ชายชุดเทางุนงง “จะบุกเข้าไปจริงๆ หรือ”

หลินสวินยิ้ม เดินไปข้างหน้า

ต้าหวงก็เดินตามอยู่ข้างหลัง

“จักรพรรดิเต้ายวน เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่ปรานี” ขณะที่ชายชุดเทาพูด เสียงชิ้งดังขึ้น มีทวนใหญ่สีทองโดดเด่นสะดุดตาเล่มหนึ่งพุ่งออกมาจากเบื้องหลังเขา

“ทะยาน!”

ทวนใหญ่สีทองที่เขาครอบครองกรีดฟ้ากว้างพุ่งเข้าสู่ห้วงอากาศ ประหนึ่งบ้าคลั่งดุดัน ราวกับสายฟ้าสีทองพาดผ่าน กึกก้องฟ้าดารา

“ถอยไป”

หลินสวินดีดนิ้วอย่างง่ายๆ คราหนึ่ง

ก็เห็นว่าท่ามกลางเสียงดังสะเทือนจนหูแทบดับ แสงทองกระจัดกระจายปั่นป่วนลมเมฆ

ส่วนเงาร่างของชายชุดเทามาไวแต่ไปไวยิ่งกว่า ถูกซัดกระเด็นถอยหลังออกไป ล้มลงบนยอดเขาดวงดาวที่เขายืนอยู่เดิมนั้น

ปึง!

ยามเขายืนมั่น ยอดเขานั้นก็ถล่มดังสนั่น ฝุ่นควันอบอวล เพียงคิดก็รู้ว่าพลังดีดนิ้วนี้ของหลินสวินอหังการปานไหน

ชายชุดเทาสีหน้าสับเปลี่ยนไปมาครู่หนึ่ง สักพักก็ยิ้มเจื่อนอย่างอดไม่ได้ “สมเป็นผู้บรรลุมกุฎจักรพรรดิคนแรกในรอบแสนปี…”

พอเขาเงยขึ้นมองอีกครั้ง เงาร่างของหลินสวินพาดผ่านฟ้าดารา หายลับไปในส่วนลึกนานแล้ว

“สถานที่แห่งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณแห่งนี้ไม่ได้บุกเข้าไปง่ายปานนั้น จักรพรรดิเต้ายวน… ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะได้ตามใจปรารถนาหรือไม่”

ชายชุดเทาพึมพำ

เขตแดนดาราทอดทิ้งใหญ่นัก รองรับดวงดารามากมายนับไม่ถ้วน ในนั้นยังมีโลกและแผ่นดินใหญ่ลอยอยู่มากมาย

เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ล้วนมีแต่กลิ่นอายหนาวเย็น ทรุดโทรม และแห้งแล้ง

หลินสวินเดินหน้าไม่นาน ประกายเทพละอองแสงเป็นริ้วๆ คล้ายแสงไหวเคลื่อนพุ่งเข้ามาจากแผ่นดินใหญ่ที่ลอยอยู่ไกลออกไปแห่งหนึ่ง

สุดท้ายแปลงเป็นชายวัยกลางคนแบกกระบี่โบราณไว้ที่หลัง จอนผมทั้งสองข้างแซมสีขาว แววตาฉายแววเจนโลก

“กู้ปอทง ระดับจักรพรรดิขั้นหก ผู้ฝึกกระบี่ ขอจักรพรรดิเต้ายวนชี้แนะ” ชายวัยกลางคนแบกกระบี่สีหน้าเคร่งขรึม แววตาเฉียบคม สุขุมเยือกเย็น

หลินสวินสังเกตเห็นว่าจักรพรรดิกระบี่เช่นนี้กลับเรียกตัวเองว่าผู้ฝึกกระบี่ นี่ไม่ใช่การเรียกตัวเองอย่างถ่อมตัว แต่เป็นท่าทีเฉพาะที่เสมอต้นเสมอปลายกับการฝึกมรรคกระบี่

“เชิญ”

หลินสวินยกมือทำท่าเชิญ

ชิ้ง!

ที่หลังกู้ปอทงกระบี่โบราณออกจากฝัก กระบี่ครวญก้องสะท้อน คมกระบี่ไร้เทียมทานฟันโจมตีตามการพลิกข้อมือของเขา

ห้วงอากาศเงียบสงัดถูกกรีดออกเป็นรอยขาดตรงแน่วเหมือนกระดาษ รอบรอยขาดมีแต่กระแสยุ่งเหยิงชนิดทำลายล้าง

อานุภาพหนึ่งกระบี่สำแดงความสง่างามของมหาจักรพรรดิจนหมดสิ้น

ทันใดนั้นเสียงตื่นตะลึงดังขึ้นในมุมมืด

และยามเผชิญหน้ากับกระบี่นี้ มือขวาของหลินสวินก็ดึงไปในอากาศเหมือนชักดาบ คมกระบี่เก้าชุ่นสายหนึ่งอุบัติขึ้นในอากาศ

ยามนี้ห้วงอากาศดำมืดเหมือนถูกส่องสว่าง สาดส่องฟ้าดารา

พอประกายกระบี่แผ่ออกมา กู้ปอทงที่อยู่ตรงข้ามส่งเสียงหนักทึบ ถอยหลังซวนเซไปหลายก้าว แววตาแข็งทื่ออย่างอดไม่ได้ “มรรคชักกระบี่ของจอมกระบี่จูคง!”

หลินสวินประสานมือ “ออมมือแล้ว”

กู้ปอทงแววตาซับซ้อน พลันตะคอกลั่นว่า “วิชามรรคกระบี่จักรพรรดิเต้ายวนไร้เทียมทานชั่วกัลป์ เฒ่าชราอย่างพวกเจ้า… รู้จักชั่งน้ำหนักมือหน่อยได้หรือไม่ หาไม่จะรนหาที่ตายเองแล้ว”

ชิ้ง!

เขาเก็บกระบี่เข้าฝัก หันหลังจากไป

หลินสวินยิ้มแล้วเดินหน้าต่อ ตลอดทางเขามือไพล่หลังอย่างกับเดินเล่นในสวนชมนกชมไม้ สุขุมเยือกเย็น

“ให้ข้าไปสู้แล้วกัน อย่างไรก็ไม่อาจให้ความน่าเกรงขามของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณของพวกเราดูอ่อนแอไม่ได้”

เสียงถอนใจเบาๆ ดังขึ้น ก็เห็นว่าในโลกที่อยู่ไกลออกไป เงาร่างสูงใหญ่ห่อหุ้มแสงเทพสะดุดตาหาใดเทียบร่างหนึ่งเดินออกมาจากห้วงอากาศ

แต่ละก้าวจักรวาลฟ้าดาราโดยรอบจะสั่นสะเทือนไปด้วย หมื่นดาราสั่นระรัว วงคลื่นคล้ายอากาศแผ่กระจายขึ้นลง

และอานุภาพของเงาร่างนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นในทุกย่างก้าว!

พอพินิจดู กลับเป็นหญิงคนหนึ่งที่สวมเกราะสีแดงสด ผมยาวสีน้ำหมึกรวบเป็นหางม้า เผยใบหน้างามล้ำออกมา

นางถือกระบองยาวเล่มหนึ่ง แสงมรรคสีทองเจิดจ้าปลิวว่อน มีแววอหังการน่าสะพรึงเผยออกมาจากความเย็นชาของตัวนาง

ประหนึ่งเทพยุทธ์หญิงที่ตะบึงไปตามภูเขาศพทะเลเลือดองค์หนึ่ง!

“แปดพันปีแล้ว ในที่สุดก็ได้เห็นจักรพรรดิซิงอู่ออกศึกอีกครั้ง ยังคงแกร่งกล้า อหังการ และงดงามปานนั้น!”

“เฮอะๆๆ จักรพรรดิซิงอู่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นแปด ตลอดชีวิตต่อสู้ทั่วหล้า สังหารเด็ดขาด แม้ไม่ใช่บุรุษก็ได้ชัยชนะเหมือนบุรุษ จักรพรรดิเต้ายวนผู้นี้เพิ่งมีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสี่ เกรงว่าจะลำบากแล้ว…”

เสียงพึมพำดังขึ้นในมุมมืดเป็นระลอก

และในตอนนี้หญิงซึ่งถูกเรียกว่าจักรพรรดิซิงอู่ผู้นั้นพุ่งไปยังฟ้าดาราแห่งนี้แล้ว อานุภาพทั้งตัวปกฟ้าคลุมดิน กดข่มหมู่ดาวในห้วงอากาศให้ส่งเสียงอึงอล ระเบิดกระจุยสะเทือนเลื่อนลั่น น่ากลัวเป็นที่สุด

“เอาศาตราจักรพรรดิของเจ้าออกมา”

จักรพรรดิซิงอู่เอ่ยปาก แววตาประหนึ่งสายฟ้าไหววูบฉีกทึ้งห้วงอากาศ พุ่งเป้าไปยังที่หลินสวิน

“มือเปล่าหมัดเปลือยก็พอ”

หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบ

ปฏิกิริยาเช่นนี้ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าที่สังเกตการต่อสู้นี้ต่างอึ้งไป เหมือนทำใจเชื่อได้ยาก เจ้าหนุ่มนี่… ถึงกับบ้าระห่ำเช่นนี้เชียวหรือ

พวกเขาไม่รู้วีรกรรมของหลินสวินในโลกมืด หาไม่เกรงว่าคงไม่เกิดปฏิกิริยาใหญ่โตเช่นนี้

“ข้าจะไม่ออมมือ”

ขณะที่จักรพรรดิซิงอู่พูด กระบองยาวในมือก็โบกสะบัด

ตูม!

แสงมรรคไร้สิ้นสุดแปลงเป็นกระแสไหลหลั่งดั่งน้ำขึ้นน้ำลง ซัดความว่างเปล่าให้พลิกคว่ำ ดุดันหาใดเทียบ ราวกับว่าเมื่อฟาดกระบองนี้จะทำให้ฟ้าดารานี้ระเบิด

หลินสวินเห็นดังนี้ก็ผ่อนคลายร่างกาย เคลื่อนหมัดไปข้างหน้า ยามยกมือวาดเท้าแสงมรรคไหลหลั่ง สำแดงท่วงทำนองเรียบง่ายไพศาล คืนสู่สัจจะอย่างหนึ่ง

ตูม!

หนึ่งการโจมตี หมัดกระบองปะทะกัน ละอองแสงเชี่ยวกรากนับหมื่นพันซัดสาด อานุภาพที่จักรพรรดิซิงอู่โจมตีมาถูกต้านไว้ทั้งอย่างนั้น

สัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่ในที่ลับต่างหน้าเปลี่ยนสี เก็บงำความดูแคลนในใจ จดจ่อชมการต่อสู้

สำหรับพวกเขาแล้ว ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นความสง่างามของมกุฎมหาจักรพรรดิเช่นกัน เพียงแต่ก่อนหน้านี้ใครก็คิดไม่ถึงว่ามกุฎมหาจักรพรรดิขั้นสี่อย่างหลินสวิน จะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้

“ฆ่า!”

จักรพรรดิซิงอู่ก็ตระหนักได้ว่าหลินสวินไม่ธรรมดา พุ่งตัวโจมตี กระบองปราดเปรียวคล่องตัว กระแสมหามรรคนับหมื่นพันม้วนขึ้น สำแดงปรากฏการณ์ประหลาดทั้งปวง แข็งแกร่งไม่อาจจินตนาการ

อย่างน้อยในความคิดของหลินสวิน เจ้าสำนักโบราณจรัสเทพอวี้คุนจื่อซึ่งเป็นระดับจักรพรรดิขั้นแปดปลายยอดเหมือนกันยังด้อยกว่าจักรพรรดิซิงอู่

น่าเสียดาย ทั้งหมดนี้คุกคามหลินสวินไม่ได้สักนิด

พอการต่อสู้เริ่มขึ้น ไม่นานทั้งสองก็ประมือกันหลายร้อยครั้ง การจู่โจมทั้งหมดของจักรพรรดิซิงอู่ล้วนถูกหลินสวินสลายไปได้ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด

นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่ในมุมมืดหวาดหวั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง นี่ก็คือพลังของมกุฎมหาจักรพรรดิหรือ จะเย้ยฟ้าเกินไปแล้ว!

ก็ในตอนที่ทุกคนรู้สึกว้าวุ้นอยู่นี้เอง จู่ๆ จักรพรรดิซิงอู่ก็ถอนตัวถอยออกมา ใบหน้างามเย็นชาปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ

ในที่สุดนางก็ถอนหายใจยาว “ข้าสู้เจ้าไม่ได้ สู้ต่อก็ต้องเป็นข้าแพ้ ขอบคุณมาก”

นางเก็บกระบองยาวประสานมือคารวะหลินสวิน

นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าถ้าหลินสวินใช้ศาตราจักรพรรดิเกรงว่าตนคงแพ้ไปนานแล้ว และสาเหตุที่ตนสู้มาจนถึงตอนนี้ได้ ย่อมเป็นเพราะอีกฝ่ายออมมือให้!

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+