Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 2662 วิชาต้องห้าม

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 2662 วิชาต้องห้าม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความจริงแล้วไม่ได้มีแต่ทางหลินสวินที่สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือด

ในบริเวณอื่น การต่อสู้กันระหว่างลั่วซิวกับเหยาเทียนหาน การชิงชัยระหว่างลั่วยงกับเหยาชิงลู่ และการห้ำหั่นระหว่างลู่ป๋อหยากับหลิงฉิงอู๋ก็ดุเดือดเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน

กลางฟ้าดินแห่งนี้ นอกจากเขาเทพหลังมังกรที่มีพลังผนึกปกคลุมแล้ว ที่อื่นก็มีแต่ภาพพังถล่มถูกทำลาย

ภูผาธาราเหี่ยวเฉา ไร้ซึ่งพลังชีวิต!

ถึงกระนั้นหากพินิจดูโดยละเอียดก็จะพบได้ไม่ยาก ว่าไม่ว่าจะเป็นลั่วซิว ลั่วยง หรือลู่ป๋อหยา ต่างค่อยๆ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปเช่นเดียวกับหลินสวิน

นี่ทำให้เหล่าคนสำคัญตระกูลลั่วต่างจิตใจบีบคั้น สีหน้าแปรผันไม่ว่างเว้น

พวกเขาล้วนรู้สาเหตุดี

ผู้เฒ่าอย่างลั่วซิวกับลั่วยงถูกกำราบกักขังมาเนิ่นนาน พลังจิตบาดเจ็บสาหัส พลังต่อสู้ที่เผยออกมาเทียบกับสภาพสมบูรณ์สูงสุดไม่ติด

ด้านลู่ป๋อหยา ภายในร่างยังหลงเหลือเคราะห์มรรคห้าเสื่อมจึงไม่กล้าใช้พลังทั้งหมด หาไม่จะถูกพลังสะท้อนกลับ

ส่วนหลินสวิน…

กลับทำให้ผู้คนแปลกใจ ด้วยเคยเห็นภาพที่เขาสังหารระดับอมตะอย่างลั่วฉง เผยหรูในตอนนั้นมาแล้ว เมื่อได้เห็นความสามารถที่เขาเผยออกมาในตอนนี้ กลับให้ความรู้สึกแตกต่างกันยิ่งนัก

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้

นี่เป็นความกังขาของใครหลายคน

ส่วนอีกด้านหนึ่ง

ระดับบรรพจารย์อย่างตระกูลเหยา ตระกูลหลิงกลับรู้สึกคึกคักยิ่ง มองเห็นสถานการณ์การต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ตอนนี้ทั้งหมดเช่นกัน

สำหรับพวกเขาแล้ว ขอเพียงได้ชัยชนะในศึกนี้ ตระกูลลั่วก็เท่ากับเสียที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุดไป ถึงตอนนั้นเขาเทพหลังมังกรแห่งนี้ก็จะไม่มีภัยคุกคามอะไรให้พูดถึงอีก จะถูกเหยียบย่ำได้อย่างง่ายดาย!

ตูม!

สถานการณ์การต่อสู้ยิ่งรุนแรงแล้ว

“ท่านลู่!” ระหว่างต่อสู้หลินสวินส่งเสียงทันควัน

ที่ตามมาติดๆ คือลู่ป๋อหยาทะลวงอากาศเข้ามาคล้ายจะเสริมทัพให้หลินสวิน

“หึ! ตัวเองยังเอาไม่รอดยังจะไปช่วยเจ้าหมอนั่นอีก น่าขันขนาดไหนกัน”

หลิงฉิงอู๋แค่นหัวเราะ ตามมาโจมตี

แทบจะในขณะเดียวกัน ลั่วซิวที่กำลังห้ำหั่นกับเหยาเทียนหาน รวมถึงลั่วยงที่กำลังประมือกับเหยาชิงลู่ต่างถอนตัวถอยหลังไปทางหลินสวินเหมือนรู้ใจกัน

เหตุไม่คาดฝันนี้ทำให้พวกเหยาเทียนหาน เหยาชิงลู่ต่างรู้สึกเกินคาดอย่างอดไม่ได้ กังขายิ่งนักว่าเหตุใดเฒ่าชราตระกูลลั่วพวกนี้จึงสนใจความเป็นตายของเศษเดนคีรีดวงกมลคนหนึ่งเช่นนี้

แต่พวกเขาไม่อาจคิดมากความ พากันไล่โจมตีต่อ

ชั่วขณะเดียวสถานการณ์ก็แปรเปลี่ยนจากแยกกันสู้เป็นการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย!

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้พวกคนสำคัญตระกูลลั่วเหล่านั้นต่างประหลาดใจ นี่เกิดอะไรขึ้น

หรือหลินสวินจะยันไว้ไม่ไหวแล้ว

ตูม!

ก็ในตอนนี้เอง พลังระเบียบอสนีสีม่วงต่างผุดออกมาจากมือลู่ป๋อหยา ลั่วซิวและลั่วยง อบอวลไปด้วยกลิ่นอายน่าครั่นคร้าม

“นี่คิดจะเอาชีวิตเข้าแลกหรือ น่าเสียดาย ต่อให้มีพลังระเบียบก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้!”

เหยาเทียนหานหัวเราะหยัน พลังระเบียบหรือ

พวกเขาก็มี!

ก็เห็นเหนือศีรษะเขามียันต์ชิ้นหนึ่งปรากฏ เผยพลังระเบียบเพลิงทองของตระกูลเหยาออกมา หลอมรวมเข้ากับศาสตรามรรคในมือเขาทั้งหมด

พร้อมกันนั้นศาสตรามรรคที่อยู่ในมือเหยาชิงลู่ หลิงฉิงอู๋และหลิงเสวี่ยเฮิ่นต่างก็มีคลื่นพลังระเบียบอุบัติขึ้นมา

เมื่อเห็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งตนเองหรือศัตรู เหล่าผู้ชมการต่อสู้ต่างก็กังวลใจขึ้นมา เมื่อจะวัดพลังระเบียบกัน ก็หมายความว่าการต่อสู้มาถึงช่วงเวลาชี้ขาดแล้ว!

“ฆ่า!”

พวกเหยาเทียนหานลงมืออย่างไม่ลังเลสักนิด

พลังระเบียบอันน่าสะพรึงปะปนไปกับกฎเกณฑ์อมตะ หมายปั่นป่วนจักรวาล บดขยี้เวิ้งฟ้าแห่งนี้!

การโจมตีเช่นนี้ทำให้คนตระกูลลั่วที่กำลังดูอยู่เหล่านั้นต่างตกตะลึง หน้าถอดสีอย่างอดไม่ได้

พวกลู่ป๋อหยาย่อมไม่นั่งรอความตาย ทว่าเบื้องหน้าพลังระเบียบที่พวกเขาสำแดงออกมา กลับมีเตากระบี่เตาหนึ่งชิงพุ่งโจมตีออกไปก่อน

นี่ย่อมเป็นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งของหลินสวิน

เพียงแต่ในตอนนี้กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าเหลือเชื่อ

วู้ม!

พร้อมๆ กับเสียงกังวานที่สะเทือนไปทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ระเบียบนิพพานที่ประหนึ่งลวดลายดอกบัวปรากฏขึ้นกลางอากาศ ละอองแสงคลุมเครือน่าพิศวงปลิวว่อน

พวกเหยาเทียนหานรู้สึกเพียงศาสตรามรรคในมือแข็งทื่อไปทันที พลังระเบียบที่ปกคลุมอยู่บนนั้นแยกออกจากกันในชั่วพริบตาเหมือนถูกกลืนกิน!

พวกเขาหน้าเปลี่ยนสีทันที ถูกเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้เล่นงานจนตั้งตัวไม่ทัน

เกิดอะไรขึ้น!?

พวกเขาฝึกปราณมาจนบัดนี้ แต่ไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน นี่กะทันหันเกินไป ล้มล้างความรู้ความเข้าใจทั้งหมดของพวกเขา

แล้วในขณะเดียวกัน…

พวกลู่ป๋อหยาที่สั่งสมพลังรอท่าไว้นานแล้วก็ออกโจมตีอย่างอุกอาจ

ตูม!

กระบี่มรรคในมือลั่วซิวทลายเกราะป้องกันรอบตัวเหยาเทียนหาน พลังอสนีสีม่วงที่ปกคลุมบนตัวกระบี่ปะทุออก ระเบิดครึ่งร่างของเหยาเทียนหานให้แหลกกระจุย เลือดสดๆ สาดกระเซ็น

ฟุบ!

ทวนยาวสีนิลที่ลั่วยงถืออยู่แทงทะลุร่างสูงโปร่งของเหยาชิงลู่อย่างจัง ตวัดทั้งร่างนางขึ้นมา ฝ่ายหลังส่งเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวด

อีกด้านหนึ่งหลิงฉิงอู๋ก็ถูกกระบวนค่ายกลกระบี่ที่เต็มไปด้วยพลังระเบียบปกคลุม ปราณกระบี่ไร้เทียมทานอาละวาด ทำให้ตัวเขาเหมือนถูกแล่เนื้อเถือหนัง เลือดเนื้อกระจัดกระจายร่วงพรู

ด้านหลิงเสวี่ยเฮิ่นกลับถูกเพลิงระเบียบที่หลินสวินเตรียมไว้ก่อนสิบกว่าสายลอบโจมตี เผาจนเขาเนื้อตัวแตกยับ ส่งเสียงคำรามสะท้านฟ้า

ตั้งแต่พวกเหยาเทียนหานลงมือ กระทั่งระเบียบนิพพานเคลื่อนออกมา จนถึงพวกลู่ป๋อหยาออกโจมตีอย่างเหี้ยมหาญ… การเคลื่อนไหวต่อเนื่องนี้ล้วนเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ

ยามทุกคนได้สติกลับมา ระดับอมตะอย่างเหยาเทียนหาน เหยาชิงลู่ หลิงฉิงอู๋ หลิงเสวี่ยเฮิ่นต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว!

“เปิด!”

มองเห็นว่าพวกเหยาเทียนหานกำลังจะประสบเคราะห์ ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนี้เหยาเทียนหานพลันส่งเสียงคำรามสะท้านฟ้า เบื้องหน้ามีประทับลับสายหนึ่งปรากฏขึ้นทันที

ประทับลับดุจเพลิง พลันระเบิดออกกลางอากาศ เกิดเป็นกระแสเพลิงน่าสะพรึง

พวกลู่ป๋อหยาพาหลินสวินหลบหนีทันที

เมื่อฝุ่นควันจางหาย ก็พบว่าในห้วงอากาศไกลออกไปเหยาเทียนหานเสื้อผ้ารุ่งริ่ง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ร่างครึ่งหนึ่งแหลกกระจุย เลือดสดๆ หลั่งรินพรั่งพรู

กลางอกเหยาชิงลู่เกิดรอยแหวกสีเลือดรอยหนึ่ง กระดูกขาวๆ โผล่ออกมา น่าตกตะลึงยิ่งนัก

ร่างหลิงฉิงอู๋ถูกกระบวนค่ายกลกระบี่ไพศาลบดขยี้ ตอนนี้เพิ่งฟื้นตัวกลับมา แต่สีหน้าซีดเผือดถึงที่สุด

ส่วนหลิงเสวี่ยเฮิ่นน่าอนาถที่สุด ถูกเผาจนเนื้อตัวแตกยับ ร่างกายไหม้ดำเป็นตอตะโก

เมื่อเห็นภาพนี้ ความรู้สึกสั่นสะท้านที่ไม่อาจบรรยายคืบคลานเข้าไปในใจผู้ชมการต่อสู้ทุกคน พวกเขามือเท้าเย็นเฉียบ ในดวงตามีแต่ความตื่นตะลึง

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้

หลังจากการชิงชัยอันดุเดือดในชั่วพริบตา ไยพวกเหยาเทียนหานกลับได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในตระกูลลั่วบนเขาเทพหลังมังกร เหล่าคนตระกูลลั่วก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

มีเพียงลั่วเซียวที่เยือกเย็นที่สุด

เพราะเดิมทีนี่ก็คือกลศึกที่หลินสวินกับลู่ป๋อหยาวางแผนไว้ล่วงหน้า!

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

พวกเหยาเทียนหานพาคนบุกโจมตี ย่อมเตรียมตัวมามากพอ และหากอยากชนะการต่อสู้นี้ อีกทั้งชนะอย่างงดงาม ก็ต้องเล่นงานตอนอีกฝ่ายเผลอ

และเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งของหลินสวินมีอานุภาพที่สามารถควบคุมพลังระเบียบได้ เป็นเพราะใช้ประโยชน์จากจุดนี้ จึงเกิดเหตุการณ์ที่พวกเหยาเทียนหานบาดเจ็บสาหัสนี้ได้!

หาไม่แล้วเพียงอาศัยการปะทะซึ่งหน้า ทางพวกเขาตระกูลลั่วแทบไม่มีโอกาสชนะเท่าไร

ถึงอย่างไรพลังชีวิตของลั่วซิวกับลั่วยงก็บาดเจ็บสาหัส ลู่ป๋อหยาติดอยู่กับเคราะห์มรรคห้าเสื่อม ในการปะทะซึ่งหน้าย่อมตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ!

“เป็นฝีมือเจ้าสวะตัวจ้อยนี่!”

ไกลออกไปเหยาเทียนหานเสียงเหี้ยมเกรียม เผยความชิงชังอย่างไม่ปกปิด แววตาเขาจับจ้องที่หลินสวิน แทบอยากกลืนกินเขาทั้งตัว

“มิน่าในอดีตที่ผ่านมาเขาถึงสามารถบุกจากน่านฟ้าที่หนึ่งมาถึงน่านฟ้าที่ห้าได้ ที่แท้เป็นเพราะสมบัติในมือเขาสามารถทำลายพลังระเบียบได้อย่างง่ายดาย…”

สีหน้าพวกเหยาชิงลู่ หลิงฉิงอู๋และหลิงเสวี่ยเฮิ่นก็อึมครึมและไม่น่าดูเป็นที่สุด

การโจมตีเมื่อครู่นั้น ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาต้านทานและสลายเต็มกำลังก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด และตอนนี้ต่อให้พ้นเคราะห์ไปได้ก็บาดเจ็บไปแล้ว

เหล่าบรรพจารย์จักรพรรดิตระกูลเหยาและตระกูลหลิงต่างฉงนใจไม่หยุด ใครก็คิดไม่ถึงว่าในการประลองน่ากลัวเช่นนี้ มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างหลินสวินดันมีประโยชน์อย่างไม่อาจประเมินได้

เรื่องนี้น่าเหลือเชื่ออย่างเห็นได้ชัด

“ตอนนี้เพิ่งเข้าใจก็สายไปแล้ว”

หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบ

เขาในตอนนี้เหมือนกลายเป็นจุดสนใจที่คนทั้งสนามรบจับตามอง

“น่าขัน สถานการณ์ตระกูลลั่วของพวกเจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิด คราวนี้จัดการพวกเจ้าไม่ได้ คราวหน้า… พวกเจ้าจะยังโชคดีได้อย่างวันนี้หรือ”

เหยาเทียนหานเอ่ยปากเย็นชา ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะถอยทัพ

ตอนนี้เขากับระดับอมตะอีกสามคนต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว สู้ต่อไปย่อมมีแต่ร้ายมากกว่าดี

ส่วนพ่ายแพ้กลับไปจะขายหน้าหรือไม่ เขาไม่สนใจสักนิด

เรื่องสำคัญตอนนี้คือมีชีวิตรอด!

“ไป!”

เขาหมุนตัวจะนำทุกคนถอยทัพกลับ

“ในเมื่อมาแล้ว ยังจะจากไปได้หรือ”

เสียงราบเรียบของหลินสวินดังขึ้น

ก็ในชั่วพริบตานี้เอง ฟ้าดินเงียบสงัดอย่างน่าประหลาด เงาร่างระดับอมตะทั้งสี่อย่างพวกเหยาเทียนหานก็ชะงักไปเหมือนถูกหยุดการเคลื่อนไหวไปพริบตาหนึ่ง

และก็เป็นพริบตานี้เอง

ลู่ป๋อหยา ลั่วซิว ลั่วยง และหลินสวินเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ ปรากฏตัวตรงหน้าพวกเหยาเทียนหาน

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

ร่างของพวกเหยาเทียนหาน เหยาชิงลู่และหลิงฉิงอู๋ถูกกฎเกณฑ์อสนีอันน่าครั่นคร้ามที่ปกคลุมลงมาฟาดกระจุยแทบจะพร้อมๆ กัน ถึงขั้นพลังจิตยังไม่ทันหนีก็ถูกพลังระเบียบบดขยี้เป็นผุยผง!

ด้านหลิงเสวี่ยเฮิ่นก็ถูกหลินสวินใช้เพลิงระเบียบเผาให้ตายทั้งเป็น กลายเป็นเถ้าธุลีปลิวว่อนเต็มฟ้า

ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มจนจบไม่ถึงชั่วพริบตา!

แต่ก็ในชั่วพริบตาที่แทบจะมองข้ามไปนี้ บุคคลขั้นดับเทพอย่างเหยาเทียนหานผู้นี้ รวมถึงระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้าอีกสามคนต่างร่วงหล่น!

ทั้งที่นั้นเงียบสงัด

ไร้ซึ่งเสียงใด

บรรพจารย์จักรพรรดินับร้อยของตระกูลเหยาและตระกูลหลิงคล้ายถูกสายฟ้าฟาด แต่ละคนอึ้งงันแทบพังทลายอยู่ตรงนั้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้เล่นงานพวกเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวโดยสิ้นเชิง!

ชั่วพริบตานั้น ระดับอมตะสี่คนร่วงหล่น!

ที่น่ากลัวที่สุดคือทั้งหมดนี้ยังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา ทว่าตั้งแต่เริ่มจนจบพวกเขายังไม่ทันรู้ตัวเสียด้วยซ้ำ

ส่วนในตระกูลลั่วตอนนี้

ลั่วเซียวก็ไม่อาจสงบได้เช่นกัน เอ่ยพึมพำอย่างตื่นเต้นว่า “อภินิหารหยุดเวลา กี่ปีแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้เห็นพลังเฉกเช่นสิ่งต้องห้ามนี้ปรากฏขึ้นบนโลกอีกครั้ง…”

บิดาของเขาก็คือเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ เขาจะไม่รู้ถึงความน่ากลัวของอภินิหารหยุดเวลาได้อย่างไร

ผู้อาวุโสตระกูลลั่วเหล่านั้นก็จิตใจปั่นป่วน แววตาเลื่อนลอย หยุดเวลา นี่ก็คือการหยุดเวลาสินะ…

เงาร่างสูงโปร่งที่อยู่ไกลออกไปนั้นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นคลุมเครือในสายตาพวกเขา ชั่วพริบตาก็เหมือนเห็นเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ในอดีต สูงตระหง่านดุจเทพ!

“นี่ก็คืออภินิหารหยุดเวลาของตระกูลลั่วของพวกเราหรือ…”

“น่ากลัวยิ่ง!”

“นี่ถึงเป็นวิชาต้องห้ามที่แท้จริง!”

บัดนี้คนตระกูลลั่วเหล่านั้นต่างอื้ออึง ตื่นเต้นจนร้องดังลั่น คลื่นเสียงพุ่งทะลุเมฆา

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด