หมอหญิงยอดมือสังหาร 131 มาถึงเฉินโจวครั้งแรก (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 131 มาถึงเฉินโจวครั้งแรก (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ศาสตราวุธ ความมั่งคั่ง หญิงงาม และอำนาจ สิ่งที่จอมยุทธ์ต้องการก็คือสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น จังติ้งฟังเอาสิ่งเหล่านี้มากองไว้ตรงหน้า มิน่ายุทธภพจึงมีความเคลื่อนไหว

“หญิงงามอันดับหนึ่งอย่างนั้นหรือ” หนานกงมั่วเลิกคิ้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“…ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่จังติ้งฟังกล้าพูดเช่นนี้คาดว่าคงไม่ธรรมดา” เพียงแต่คุณหนูสนใจผิดจุดแล้วหรือไม่ สิ่งสำคัญคือจังติ้งฟังรู้ชื่อของคุณชายกับเซียวเชียนเยี่ยที่เป็นผู้นำทัพได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ได้เช่นไร ในกองทัพมีไส้สึกหรือ หรือว่าไม่ว่าจะเป็นสตรีเช่นไรก็จะสนรูปลักษณ์ก่อนเสมออย่างนั้นหรือ

คืนนั้น ทั่วทั้งโรงเตี๊ยมก็ครึกครื้นขึ้นมา ยังไม่ถึงเที่ยงคืนก็ได้ยินเสียงต่อสู้ดังเข้ามา แต่มีฝังและเวยเฝ้าอยู่ด้านนอก อย่างไรเสียก็เข้ามาไม่ถึงตัวหนานกงมั่ว แต่นางเป็นคนระมัดระวังตัว ไหนเลยจะนอนหลับได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้นหนานกงมั่วจึงลุกขึ้นและพาผู้อารักขาทั้งสองของนางปีนขึ้นมานั่งดูสถานการณ์บนหลังคา

เหนือหลังคามีดวงจันทร์และดวงดาวส่องสว่างเต็มท้องฟ้า ส่วนด้านล่างกลับเจิ่งนองไปด้วยเลือด หนานกงมั่วเท้าคาง หันกลับไปถามฝังอย่างไม่เข้าใจ “จอมยุทธ์นี่สมองมีปัญหาทุกคนเลยหรือไม่”

เวยหันไปมองนางอย่างจนปัญญา ไม่เอ่ยตอบอันใด คุณหนู ข้าเองก็เป็นจอมยุทธ์นะขอรับ

หนานกงมั่วเอ่ยต่อ “พวกเขาจะไปช่วยจังติ้งฟังมิใช่หรือ ตอนนี้แม้แต่เงายังมิได้สัมผัสพบเจอ ก็หันมาฆ่ากันเองแล้วหรือ”

ฝังเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกเขาไปช่วยนั้นไม่ผิดขอรับ เพียงแต่คุณหนูลืมแล้วหรือ ฉู่กั๋วกงมีเพียงผู้เดียว ดาบหงหมิงก็มีเพียงหนึ่งเล่ม หญิงงามอันดับหนึ่งก็มีเพียงผู้เดียว ผู้ที่จะไปสังหารแน่นอนว่าต้องมีผู้เดียวเช่นกัน”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “พวกเขามั่นใจว่าตนเองจะทำสำเร็จถึงเพียงนั้นเลยหรือ” ฝังเอ่ย “เรื่องนี้…อย่างน้อยในเรื่องวรยุทธ์คนในยุทธภพต่างมั่นใจว่าตนเองดีกว่าคนที่อยู่ในราชสำนักอย่างแน่นอน” หนานกงไหวเก่งการสงครามนั้นไม่ผิด แต่ก็รู้อีกว่าหนานกงไหวเคยเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ไม่เคยได้ยินว่าเขาฝึกวรยุทธ์มาก่อน เพียงแต่ในสนามรบ หนานกงไหวเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่ง แต่ก็มิได้เป็นแม่ทัพที่โหดร้าย

“แม้ไม่รู้ว่าคนพวกนี้เอาความมั่นใจมาจากไหน แต่ว่า…ข้าเสียใจเล็กน้อยที่ออกมา” ฝีมือของคนพวกนี้ หากฆ่าเว่ยจวินมั่วให้ตายได้ก็ปล่อยให้เขาตายไปเถิด

ฝังเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณหนู ยอดฝีมือจริงๆ คงไม่มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่หรอกขอรับ พวกนี้…อย่างมากก็แค่ฝีมือชั้นสองหรือสาม เพียงมาร่วมสนุกก็เท่านั้น” หนานกงมั่วมองดูกลุ่มคนที่ตะลุมบอนกันอยู่ด้านล่าง พยักหน้าลงพลางเอ่ย “ก็ดูเหมือนพวกฝีมือชั้นสามจริงๆ”

“หึๆ สาวน้อย เจ้าช่างวาจาอาจหาญเสียจริง เพียงเจ้าฆ่าเจ้าจินอู๋เฮ่อนั้นสำเร็จก็มาดูหมิ่นคนไปทั่วหล้าเช่นนี้ได้แล้วหรือ” น้ำเสียงน่าเกลียดดังขึ้นจากมุมหนึ่ง หนานกงมั่วหันไป มองเห็นชายชราร่างอ้วนร่างผอมสองคนที่เคยเจอเมื่ออยู่ห้องโถงใหญ่ปรากฏตัวขึ้นบนหลังคา ชายชราร่างผอมกำลังจ้องหนานกงมั่วด้วยแววตามาดร้าย

หนานกงมั่วหันไปมองพวกเขา “คนทั่วหล้างั้นหรือ หมายถึงพวกเจ้าหรือไม่”

ชายชรายิ้มร้าย “เด็กน้อย เจ้าดูไม่ออกหรือว่าพวกเราคือคู่หูกวนจง”

“คู่หู…กวนจงหรือ” หนานกงมั่วมองสองคนตรงหน้าด้วยท่าทางตกใจ ในขณะที่ทั้งสองกำลังได้ใจว่าหนานกงมั่วหวาดกลัวพวกเขา ฝังจึงเดินเข้ามาใกล้พลางกระซิบบอก “คู่หูกวนจงเป็นชื่อของชายแก่ประหลาดสองคนนี้เมื่อครั้งอายุยังน้อย เมื่อสามสิบปีก่อน สองคนนี้มิได้มีหน้าตาเช่นนี้ขอรับ ได้ยินมาว่าไม่ดูตาม้าตาเรือไปหาเรื่องยอดฝีมือเข้า ถูกคนวางยา… อืม ตอนนี้คนในยุทธภพต่างเรียกพวกเขาว่าผีคู่หูกวนจง นั่น…ผีสูง นั่น…ผีเตี้ยขอรับ”

ดวงตาของหนานกงมั่วเปล่งประกาย ไอสังหารปรากฏขึ้นในดวงตา

“พวกเจ้าสองคน….เมื่อหนึ่งปีก่อนเคยไปที่เมืองตานหยางและสังหารสองแม่ลูกของชายผู้หนึ่งใช่หรือไม่” หนานกงมั่วเอ่ยถามเสียงเรียบ

ทั้งสองคนชะงัก ไม่นานจึงหัวเราะออกมา เอ่ยตอบ “เด็กน้อย ข่าวของเจ้าช่างรอบรู้ดีนัก ถูกแล้ว ปีก่อนพวกเราสองพี่น้องไปเล่นที่เมืองตานหยางอยู่หลายวัน จะว่าไป…แม้ไอ้แก่นั้นจะมิได้เรื่อง แต่ภรรยาและลูกสาวของเขานั้นงดงามราวกับหยก พวกเราใช้ประโยชน์แทนเขาแล้ว”

หนานกงมั่วยกยิ้มมุมปาก “เยี่ยมไปเลย”

“เอ๋ หรือว่าเด็กน้อย เจ้าเคยได้ยินชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของพวกเราแล้วงั้นหรือ อยากทดสอบความอดทนของข้าหรือ” ผีร่างสูงคนนั้นยิ้มหยันออกมา

เสียงชิ้งดังขึ้น กระบี่สะท้อนกับแสงจันทร์วาววับพร้อมทั้งพุ่งตรงเข้าไป กระบี่ยาวในมือของเวยพุ่งเข้าหาทั้งสองคนนั้นทันที

“เด็กเหิมเกริม คิดว่าสังหารพวกมิได้เรื่องไม่กี่คนสำเร็จแล้วจะทำอันใดข้าได้อย่างนั้นหรือ” ผีร่างสูงนั่นเอ่ยข่มขู่ มีความมั่นใจในฝีมือของตนอยู่บ้าง ปลายกระบี่ของเวยยังไปไม่ถึง พวกเขาก็หลบหลีกไปแล้ว ขณะเดียวกันผีเตี้ยที่กลิ้งหลบอยู่บนหลังคานั้นตวัดมีดไปที่ขาทั้งสองข้างของเวย ใบหน้าเวยทะมึนขึ้น ตีลังกาม้วนตัวเหวี่ยงกระบี่กลับไป แม้ไม่ได้ทำร้ายถึงร่างกายของผีเตี้ย ทว่ากระเบื้องหลังคานั้นแตกกระจาย และกระเด็นเข้าหาชายชราทั้งสอง

ผู้จัดการร้านที่ซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่งถอนหายใจออกมาด้วยความขมขื่น ต้องซ่อมอีกแล้วหรือ

เถ้าแก่เนี้ยกลับทนได้ไม่นาน สองมือเท้าเอวมองไปบนหลังคา “แม่นาง พวกเจ้าลงมาสู้กันข้างล่างดีกว่าไหม ทำลายร้านข้านะ” หนานกงมั่วหันกลับมาส่งยิ้มให้ “ต้องขอโทษด้วยเจ้าค่ะพี่สาว เดี๋ยวข้าจะชดใช้ให้ท่านนะเจ้าคะ”

เถ้าแก่เนี้ยบ่น “ใครต้องการเงินของเจ้ากัน โรงเตี๊ยมในที่ทุรกันดารเช่นนี้มันซ่อมลำบากนะ” ใบหน้ากลับอ่อนลงไม่น้อย ไม่บังคับให้พวกเขาลงมาแล้ว

แม้ปกติเวยจะเงียบไม่พูดไม่จา แต่วรยุทธ์นั้นสูงกว่าฝังอยู่มาก ยามที่อยู่ในสำนักวังจื่อเซียวก็นับว่าเขาเป็นมือสังหารอันดับหนึ่ง เมื่อต่อสู้กับลิ่นฉังเฟิงก็ยังเรียกได้ว่าสูสี ชายชราสองคนนี้แม้จะอายุมากแล้ว ทว่ากำลังภายในและฝีมือการต่อสู้มิได้ลุ่มลึกมากนัก สาเหตุที่ยุทธภพหวาดกลัวพวกเขานั้น หนึ่งเพราะพวกเขานั้นเล่นสกปรก สองเพราะสองคนนี้เจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหด และสามเพราะสองคนนี้เชี่ยวชาญเรื่องยาพิษและอาวุธลับ

“เวย ถอยไป” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ

เวยลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเดินกลับไปอยู่ด้านหลังหนานกงมั่วเงียบๆ ขณะเดียวกันหนานกงมั่วก็ก้าวออกมาอยู่ด้านหน้า กวาดตามองผีทั้งสอง

“เจ้าเด็กรนหายที่ตาย” ผีตัวเตี้ยเอ่ยเสียงดัง อาวุธลับปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ หนานกงมั่วยิ้มเย็น กระโดดเบาๆ อาวุธลับที่ซ่อนอยู่ที่เท้าก็พุ่งเข้าหาผีเตี้ย ผีร่างเตี้ยคนนั้นตระหนกแล้วรีบหลบไปด้านข้าง ทว่าคาดไม่ถึงว่าหนานกงมั่วจะลงมือในเวลาเดียวกัน แสงสีเงินเล็กๆ พุ่งเข้าหาเขาอย่างไร้ความปรานี

“ฝีมือไม่เลวนี่เด็กน้อย” ผีร่างสูงเมื่อเห็นศิษย์พี่เป็นอันตรายจึงก้าวเข้าหาเพื่อโจมตีหนานกงมั่ว อาวุธในมือของเขาคือแส้เหล็กที่มีตุ่มหนามแข็ง หากถูกแส้นี้ฟาดเข้าล่ะก็ ผิวเนื้อคงหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสีแปลกๆ ที่ถูกทาอยู่บนหนามแหลมนั่น เพียงมองก็รู้แล้วว่ามันคือยาพิษ

“คุณหนู ระวังขอรับ” ฝังเอ่ยเสียงเข้ม

หนานกงมั่วแสยะยิ้ม ดวงตามองผีสองตัวตรงหน้าด้วยสายตาเยือกเย็น “ปีที่แล้วที่ตานหยางข้าปล่อยพวกเจ้าหนีไป ก็ควรเก็บตัวอยู่ในรังดีๆ อย่าได้ออกมาเที่ยวเพ่นพ่าน ในเมื่อวันนี้ได้เจอกันแล้ว พวกเจ้าก็ลงไปไถ่โทษต่อท่านตาหวังเสียเถิด”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *