หมอหญิงยอดมือสังหาร 409 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (3)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 409 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 409 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (3)
“พวกเจ้ายังมีอารมณ์มาคุยเรื่องพวกนี้อีกหรือ” จิ้วจั๋วกวาดตามองทุกคนอย่างอารมณ์ไม่ดี เอ่ย “สองคนนั้นสรุปว่าใครแพ้ใครชนะ”

“แน่นอนว่าจวินมั่วชนะ” ลิ่นฉังเฟิงและหนานกงมั่วเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง เพียงแต่น้ำเสียงของลิ่นฉังเฟิงนั้นมีความประชดประชัน ส่วนหนานกงมั่วกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ จิ้นจั๋วเลิกคิ้ว “ตั้งตารอชม”

ผู้คนด้านข้างกำลังพูดคุยสนุกสนาน สองคนอีกด้านกลับไม่ได้ผ่อนคลายด้วย เมื่อฝีมือใกล้เคียงกันคิดจะเอาชนะย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย ชั่วพริบตาทั้งสองพลันผ่านไปกว่าพันกระบวนท่าแล้ว หนึ่งกระบี่หนึ่งแส้ยาวกำลังเต้นระบำงดงามน่าหลงใหล เวลานี้หากใครเข้าใกล้พวกเขาเกรงว่าคงจะถูกซัดราวกับถูกบดขยี้ พื้นที่ที่ทั้งสองก้าวผ่านต้นหญ้าต่างราบเป็นหน้ากลอง สม่ำเสมอราวกับมีใครเอากรรไกรอันมหึมามาตัด

ในส่วนที่ใครมองไม่เห็น ใบหน้าของกงอวี้เฉินที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ แส้ยาวในมือก็ชะงักบ้างเป็นบางชั่วขณะ ชะงักในระยะเวลาสั้นๆ คนอื่นอาจดูไม่ออก แม้กระทั่งหนานกงมั่ว จิ้นจั๋วเองก็ไม่อาจรับรู้ได้ แต่กลับปิดบังเว่ยจวินมั่วที่อยู่ในการต่อสู้ด้วยไม่ได้ ดวงตาเว่ยจวินมั่วหรี่แคบ กระบี่ยาวในมือแทงไปยังมือขวาของกงอวี้เฉินโดยไม่ลังเล แน่นอนกงอวี้เฉินไม่ยอมให้เขาแทงได้ง่ายเพียงนั้น เบี่ยงตัวหลบออกไป แต่กระบี่ของเว่ยจวินมั่วนั้นราวกับเป็นเงาตามตัว ยังคงพุ่งต่อไปไม่หยุด

“เป็นเว่ยซื่อจื่อที่ได้เปรียบจริงๆ” จิ้นจั๋วถอนหายใจ เพียงแต่ในน้ำเสียงนั้นไม่ได้มีความเย้ยหยันต่อกงอวี้เฉิน กำลังของกงอวี้เฉินแม้จะสู้เว่ยจวินมั่วไม่ได้ แต่ยังคงแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก เมื่อเป็นผู้อ่อนแอกว่าแน่นอนย่อมไม่กล้าดูถูกผู้ที่แข็งแกร่งกว่า

“เว่ยจวินมั่ว คาดไม่ถึงว่าวรยุทธ์ของเจ้าจะพัฒนาขึ้นไปอีกก้าวแล้วหรือ” กงอวี้เฉินที่ก้าวถอยล่นไปหลายก้าวจ้องเว่ยจวินมั่วเขม็ง เอ่ยขึ้นเสียงเย็น

เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้ว ไม่เอ่ยสิ่งใดชี้ปลายกระบี่ตรงไปที่เขา

สามปีก่อนเมื่อครั้งที่พวกเขายังเด็ก เป็นการต่อสู้ที่ทั้งสองต่างบาดเจ็บหนัก กงอวี้เฉินราวกับมั่นใจได้ว่า หลายปีข้างหน้าวรยุทธ์ของพวกเขาคงไม่อาจพัฒนาได้อีกแม้เพียงก้าวเดียว เมื่อเผชิญหน้ากันครั้งที่แล้วเป็นหลักฐานยืนยันความคิดของเขาได้แล้ว ทว่าคาดไม่ถึงว่าระยะเวลาไม่ถึงสองสามเดือน วรยุทธ์ของเว่ยจวินมั่วจะก้าวหน้าไปมากถึงเพียงนี้ กงอวี้เฉินคล้ายจะมั่นใจได้ว่าตอนนี้ตนเองนั้นมิใช่คู่ต่อสู้ของเว่ยจวินมั่วอีกแล้ว

สายตามองไปยังหนานกงมั่วที่ยืนอยู่ไม่ไกล กงอวี้เฉินยิ้มเย็น “แต่งงานกับศิษย์น้องของคุณชายเสียนเกอ ข้อดีไม่น้อยเลยจริงๆ”

ไม่นานกงอวี้เฉินก็เข้าใจได้ในทันใด สามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่มีมานานของเว่ยจวินมั่วได้ นอกจากคุณชายเสียนเกอแล้วจะมีใครได้

“พูดมาก กงอวี้เฉิน เจ้ากลัวตายหรือ” เว่ยจวินมั่วเอ่ยถามเสียงเย็น อาการบาดเจ็บของเขาหายแล้วนั่นไม่ผิด อีกทั้งเคล็ดวิชายุทธของอาจารย์อาที่ปรากฏตัวเมื่อวันแต่งงานก็เป็นประโยชน์ต่อเว่ยจวินมั่วไม่น้อย เพียงแต่สิ่งเหล่านี้แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องบอกกับกงอวี้เฉิน

กงอวี้เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น “ใครตายยังไม่อาจรู้ได้” ยกมือขึ้นสะบัด กลุ่มชายชุดดำที่หลบซ่อนตัวอยู่พลันพุ่งตัวออกมา ล้อมรอบทุกคนเอาไว้ ใบหน้าของเว่ยจวินมั่วยังคงนิ่งเรียบ เพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “กงอวี้เฉิน เจ้าคิดจะสู้ว่าใครคนเยอะกว่ากันกับข้าอย่างนั้นหรือ”

ยกมือขึ้นขยับเพียงสองครั้ง ได้ยินเสียง ‘ซู่’ ดังขึ้น ลูกธนูขนนกพลันทะลุผ่านอากาศออกมา แส้ยาวในมือกงอวี้เฉินพลันสะบัด ปัดเปลี่ยนเส้นทางของลูกธนูทั้งสองฝั่ง ลูกธนูปักเข้ายังต้นไม้ที่อยู่ด้านข้าง แม้จะถูกตัดกำลังจากกงอวี้เฉินไปแล้ว ทว่าลูกธนูกลับปักเข้าไปในต้นไม้ลึกกว่าสามส่วน เห็นถึงพลกำลังแรงกล้าของผู้ยิงธนู

กองกำลังติดอาวุธปรากฏตัวอยู่บนเขาห่างออกไปไม่ไกลนัก ในมือนั้นมีธนู ใบหน้าแต่ละคนนั้นมีแววอาฆาต เพียงมองก็รู้ว่าเป็นทหารของราชสำนัก เมื่อมองกลับไป พลันเห็นทหารกว่าหลายพันคน

กงอวี้เฉินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จ้องมองเว่ยจวินมั่ว เอ่ย “ครั้งนี้ข้ามิได้พ่ายแพ้ต่อเจ้า”

เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้วไม่เอ่ยสิ่งใด แต่ความหมายของเขานั้นเว่ยจวินมั่วย่อมเข้าใจเป็นอย่างดี คนที่พ่ายแพ้มักไม่ยอมรับว่าตนเองแพ้

กงอวี้เฉินสูดหายใจเข้าลึกระงับความโกรธในใจ จ้องมองเว่ยจวินมั่วเขม็ง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ เว่ยซื่อจื่อคิดจะทำเยี่ยงไร”เว่ยจวินมั่วเงียบไปชั่วครู่ “เมื่อครู่เจ้าทำร้ายอู๋สยา”

“ดังนั้น”

“รับฝ่ามือของข้า ไม่ตายเจ้าก็ไปได้”

กงอวี้เฉินเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดัง “เว่ยจวินมั่ว เจ้ากล้าฆ่าข้าจริงหรือ”

เว่ยจวินมั่วมองเขาด้วยสายตานิ่งสงบ คนอย่างพวกเขาไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเตรียมเส้นทางเอาไว้เสมอ ไม่สิ้นหนทางจริงๆ เว่ยจวินมั่วไม่มีทางบีบบังคับให้กงอวี้เฉินต้องตายไปพร้อมกันเป็นแน่ ต่อให้ตอนนี้มีคนมากมายกำลังล้อมกงอวี้เฉินอยู่ แต่หากกงอวี้เฉินคิดจะหนีไปเกรงว่าคงไม่อาจขัดขวางเขาได้ และหากเขาคิดจะให้กงอวี้เฉินตายอยู่ตรงนี้ ตนเองก็ย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย หากไม่มีการวางแผนเว่ยซื่อจื่อไม่คิดจะทำ

“รู้หรือไม่ว่าครั้งนี้เจ้าแพ้อย่างไร” เว่ยจวินมั่วเอ่ยถาม

กงอวี้เฉินมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น เว่ยจวินมั่วเอ่ย “เจ้าไม่ควรปรากฏตัวอยู่ที่นี่” เว่ยจวินมั่วมิได้รีบมาที่นี่ ตั้งแต่ได้รับข่าวว่ากงอวี้เฉินอยู่ที่เขาฝูวั่งเขาก็รู้ว่ากงอวี้เฉินไม่มีทางหยุดเป็นแน่ ดังนั้นจึงเริ่มวางแผนขึ้น มิเช่นนั้นเว่ยจวินมั่วก็คงไม่อาจพาทหารจำนวนมากมายังที่นี่ได้ในทันที พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นอีกสักนิด หากสำนักในยุทธภพของกงอวี้เฉินคิดจะต่อกรกับกองทัพของราชสำนัก นั่นก็เป็นความผิดแล้ว คนในยุทธภพนั้นสามารถรับมือได้กับคนนับสิบ ทว่าไม่แน่ว่าจะรับมือกับคนนับร้อยนับพันได้

“เจ้ามองตัวเองสูงเกินไป” เว่ยจวินมั่วเอ่ย

เนิ่นนาน กงอวี้เฉินจึงเอ่ยเสียงเข้ม “เจ้ากล่าวไม่ผิด ข้ารับปากเจ้า เจ้าลงมือเถิด”

เว่ยจวินมั่วเก็บกระบี่คืน ฟาดฝ่ามือไปยังกงอวี้เฉินโดยไม่คิดลังเล ดูเหมือนเป็นฝ่ามือที่ไม่รุนแรง กงอวี้เฉินไม่ได้ก้าวถอยหลังไปแม้เพียงก้าวด้วยซ้ำ แต่คนที่อยู่ใกล้นั้นมองเห็นเลือดไหลซึมจากมุมปากที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั่น ลมหายใจของกงอวี้เฉินเองก็ปั่นป่วนขึ้นมาไม่น้อย

“เจ้าสำนัก” ชายชุดดำสองคนทนไม่ไหวพุ่งเข้ามาด้านหน้า ทว่าถูกลูกธนูที่ลอยเข้ามาปักขวางทางเอาไว้ไม่ให้ไปต่อ กงอวี้เฉินยกมือห้ามพวกเขา จ้องมองเว่ยจวินมั่ว เอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น “ดี เว่ยซื่อจื่อลงมือช่าง…ไม่ธรรมดา เพียงแต่…เว่ยจวินมั่ว หลายปีมานี้ข้าคิดผิดแล้ว ครั้งหน้าเจอกัน ข้าจะไม่เล่นแบบนี้กับเจ้าแล้ว”

“ให้เวลาเจ้าหนึ่งเค่อ” เว่ยจวินมั่วเอ่ย เห็นชัดว่าคำขู่ของกงอวี้เฉินนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย

“ไป” กงอวี้เฉินหันกลับไปมองหนานกงมั่วเล็กน้อย แล้วจึงเอ่ยเสียงเข้ม

“เจ้าสำนัก” คนของสำนักหอธาราจ้องชายในชุดสีครามตรงหน้าเขม็ง แม้ฝ่ามือของเว่ยจวินมั่วเมื่อครู่จะดูไม่หนัก ทว่าการเป็นศัตรูกับวังจื่อเซียวมานานหลายปี ไยพวกเขาจะไม่รู้ว่าคุณชายจื่อเซียวนั้นเคลื่อนไหวว่องไวดุจสายลม

“หุบปาก สลายตัว” กงอวี้เฉินเอ่ยเสียงดัง ชายสองคนจึงเดินเข้ามาประคองกงอวี้เฉิน หลบหนีออกไปในทันใด ผู้คนด้านหลังของคุณชายจื่อเซียวเองก็จ้องมองผู้ที่หนีไปอย่างระแวดระวังจากนั้นจึงถอยออกไป ไม่นานก็หายไปจนหมด

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *