หมอหญิงยอดมือสังหาร 756 ชื่อของแฝดชายหญิง (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 756 ชื่อของแฝดชายหญิง (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 756 ชื่อของแฝดชายหญิง (2)
คุณชายเสียนเกอพิงตัวกับเสาด้วยท่าทีสบายๆ ส่งเสียงหยัน “หลบไปอย่างนั้นหรือ หลบให้เจ้าเข้าไปทำหมอตำแยตื่นตกใจอย่างนั้นหรือ” ความเยือกเย็นของคุณชายเว่ยหากเป็นเวลาปกติก็ยังดี หากมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นจะมีเพียงไม่กี่คนที่จะทนรับไหว อย่างน้อยก็ไม่ได้รวมหมอตำแยเหล่านั้น เข้าไปยามนี้ยิ่งจะเพิ่มความวุ่นวายเข้าไปอีก

“โอ๊ย” เสียงเจ็บปวดของหนานกงมั่วดังมาจากด้านใน คิ้วคมของเว่ยจวินมั่วขมวดมุ่นยิ่งขึ้น “อู๋สยา! อู๋สยา!”

หนานกงมั่วที่อยู่ด้านในได้ยินเสียงของเว่ยจวินมั่ว ไม่รู้ทำไมจึงรู้สึกผ่อนคลายอยู่ในใจ สูดหายใจเข้า ส่งเสียงดังออกมา “ข้าไม่เป็นไร อาจารย์อา อย่าให้เขาเข้ามานะเจ้าคะ” แม้การเป็นสามีเข้ามาอยู่กับภรรยายามคลอดจะทำให้รู้สึกอุ่นใจ แต่คุณหนูใหญ่หนานกงกลับไม่ต้องการให้เว่ยจวินมั่วได้เห็นตนในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้

ได้ยินคำของหนานกงมั่ว คุณชายเสียนเกอยิ้มตาหยีมองชายตรงหน้า “เจ้าลงมือเสียสิ จะได้ให้อาจารย์ทุบเจ้าให้สลบ ถึงตอนนั้นไม่อาจได้อุ้มลูกแล้วอย่ามาโทษข้าเล่า”

คุณชายเว่ยหันกลับไป จ้องคุณชายเสียนเกอด้วยสายตาเยือกเย็น คุณชายเสียนเกอกุมขมับก้มหน้าลง เขาลืมไป เว่ยจวินมั่วสู้อาจารย์ไม่ได้แต่จัดการกับเขานั้นย่อมมิใช่เรื่องยาก เขายังไม่อาจทำให้สามีของศิษย์น้องตายขึ้นมาจริงๆ ได้ ถอนหายใจออกมา คุณชายเสียนเกอคลายมือออก เอ่ย “อย่ามามองข้าเช่นนั้น หากเจ้าเข้าไปยิ่งทำให้หมอตำแยวุ่นวายขึ้นไปอีก เจ้าจะทำคลอดเองได้หรือ”

เว่ยจวินมั่วไม่เอ่ยสิ่งใดอีก เดินไปพิงเข้ากับขอบหน้าต่างด้านข้าง ยืนเฝ้าประตูซ้ายขวาคนละข้างกับคุณชายเสียนเกอ

เวลายืดยาวไปอีกกว่าสองชั่วยาม กระทั่งตกค่ำทุกคนจึงได้ยินเสียงร้องไห้แรกเกิดของทารกดังขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียง คุณชายเสียนเกอจึงเลิกคิ้วขึ้นด้วยรอยยิ้ม เอ่ย “เป็นเด็กที่แข็งแรงเสียจริง” องค์หญิงฉังผิงน้ำตารื้นด้วยความยินดีอย่างอดไม่ได้ สองมือพนมขึ้นมาสวดมนต์

“คลอดแล้วหรือ” หน้าประตู เยี่ยนอ๋องและพระชายาเยี่ยนอ๋องเดินเข้ามา เยี่ยนอ๋องหัวเราะเสียงดัง “ยังไม่ทันได้ก้าวเข้าประตูก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้แล้ว” ด้านข้างของเยี่ยนอ๋องมีกงเสี่ยวเตี๋ยและเนี่ยนหย่วนตามเข้ามา เนี่ยนหย่วนยิ้มให้เว่ยจวินมั่ว เอ่ย “ยินดีกับคุณชายเว่ยด้วย”

เว่ยจวินมั่วพยักหน้าเบาๆ เพียงแต่มีท่าทีเหม่อลอยเล็กน้อย เห็นชัดว่าจิตใจนั้นเข้าไปอยู่ด้านในประตูแล้ว ไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจพวกเขา เยี่ยนอ๋องเองก็ไม่ถือสา เพียงส่ายศีรษะ เอ่ยยิ้ม ๆ “เจ้าเด็กคนนี้จริงๆ เลย…เมื่อครั้งนั้นข้าเองยังไม่กระวนกระวายเพียงนี้เลย”

ทุกคนลอบเอ่ย เยี่ยนอ๋องพระองค์ยังดูออกด้วยหรือว่าเขากระวนกระวาย พวกเขาเห็นเพียงใบหน้าและท่าทางเหม่อลอยของเขาเท่านั้น

เด็กคนแรกคลอดออกมาแล้ว คนที่สองก็ใกล้แล้ว ไม่นานพลันได้ยินเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาอีกครั้ง เว่ยจวินมั่วทนไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งตัวเข้าไปด้านในทันที ครั้งนี้อาจารย์อาก็ไม่ได้ขวางเขาเอาไว้ เพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ในห้องยังหลงเหลือกลิ่นคาวเลือดจางๆ หมอตำแยหลายคนกำลังใช้ผ้าอ้อมเช็ดและห่อตัวทารกที่ถูกเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อย มองเห็นคนพุ่งเข้ามาจึงตกใจ รีบเอ่ย “เข้ามาได้อย่างไรกัน รีบออกไป บุรุษจะเข้ามาในห้องทำคลอดได้อย่างไร”

คุณชายเว่ยก้มมองทารกตัวแดงในห่อผ้า ยื่นมือไปปัดหมอตำแยออกแล้วพุ่งเข้าไปที่เตียง ใบหน้าของหนานกงมั่วขาวซีด ทว่ายังไม่ได้หลับไป มองเห็นเว่ยจวินมั่วเดินเข้ามา มุมปากจึงยกยิ้มขึ้น เว่ยจวินมั่วยื่นมือออกไปลูบใบหน้าซีดขาวของนางเบาๆ จากนั้นยื่นไปกุมมือข้างหนึ่งของนางที่วางอยู่บนเตียง

“อู๋สยา…”

หนานกงมั่วยิ้ม เอ่ย “ข้าไม่เป็นไร คลอดแล้วก็สบายขึ้นมาก” หันกลับไปมองทารกน้อยที่อยู่ในห่อผ้ายับยุ่งในอ้อมแขนของหมอตำแย หนานกงมั่วกะพริบตา ในที่สุดลูกกลมๆ นี้ก็คลอดออกมาแล้ว ท้องของนางอุ้มตุ๊กตาสองตัวนี้เอาไว้ได้ ยิ่งคิดยิ่งน่าประหลาด

“อุ้มเข้ามา ให้ข้าดูสักหน่อย” หนานกงมั่วเอ่ย

เว่ยจวินมั่วกดนางกลับคืนไปบนเตียงอย่างไม่เห็นด้วย หนานกงมั่วกะพริบตามองเขา เว่ยจวินมั่วถอนหายใจเบาๆ ออกมา เอ่ย “ข้าจะอุ้มมาให้เจ้าดู”

หมอตำแยสองคนรีบอุ้มทารกมาหยุดอยู่ข้างเตียง ไม่สนใจที่เว่ยจวินมั่วบุกเข้ามาในห้องทำคลอดอีก คุณชายเว่ยผู้นี้เพียงมองก็รู้แล้วว่ามิใช่คนที่จะทำให้ขุ่นเคืองใจได้ เพียงแต่บุรุษเป็นห่วงภรรยาเพียงนี้ พวกนางเคยเห็นไม่มากในตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้

เด็กทารกสองคนถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมผืนนุ่มที่มีลวดลายสวยงามสีแดงสองห่อ วางลงข้างเตียงของหนานกงมั่วโดยพร้อมเพรียง หนานกงมั่วพยุงตัวขึ้นมาเล็กน้อย ก้มลงไปมองซาลาเปาสีแดงสองลูกตรงหน้า ยกยิ้มขึ้นมา “ลูกลิงทั้งสอง”

หมอตำแยที่ยืนอยู่ด้านข้างอดยิ้มออกมาไม่ได้ “จวิ้นจู่วางใจ ผ่านไปไม่กี่วันคุณชายน้อยคุณหนูน้อยก็จะเกลี้ยงเกลาเจ้าค่ะ คุณชายเว่ยและจวิ้นจู่รูปงามเพียงนี้ คุณชายน้อยคุณหนูน้อยจะต้องงดงามโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ” นี่ไม่ใช่การยกยอ ซิงเฉิงจวิ้นจู่และคุณชายเว่ยเป็นบุคคลที่งดงามโดดเด่นที่สุดเท่าที่พวกนางเคยพบเจอมา บุตรที่ทั้งสองให้กำเนิดมาจะด้อยกว่าได้หรือ แม้ยามนี้ตรงหน้าจะดูมิได้น่ามองนัก แต่ว่าพวกเขาเคยเห็นเด็กทารกมามิใช่น้อย แน่นอนดูออกถึงความแตกต่าง

หนานกงมั่วถอนหายใจ “เอาเถิด รอพวกเขาเติบโตก่อนค่อยดูอีกที” อดไม่ได้ยื่นมือไปจิ้มแก้มของซาลาเปาน้อยตัวแดงเบาๆ “บิดามารดาของเจ้างดงามเพียงนี้ พวกเจ้าอย่าได้ด้อยไปเล่า”

ซาลาเปาก้อนเล็กที่เพิ่งคลอดออกมายังไม่ทันลืมตาได้ ทำได้เพียงขยับปากเล็กไม่สนใจนาง

“ข้าจะคิดเสียว่าพวกเจ้าได้ยินแล้วก็แล้วกัน” หนานกงมั่วพูดเองเออเอง

เว่ยจวินมั่วถอนหายใจเบาๆ ยื่นมือไปดันหนานกงมั่วให้นอนกลับลงไป นางจึงเลิกคิ้วมองท่าทางจริงจังของเขา “ท่านไม่ชอบซาลาเปาน้อยหรือ”

คุณชายเว่ยหน้าเอือมระอา คิ้วคมเลิกขึ้นอย่างอดไม่ได้ “พวกเขามิใช่ซาลาเปา”

หนานกงมั่วยิ้มเจื่อน “เพียงคำเรียกเท่านั้น รอพวกเขาเกลี้ยงเกลาแล้วก็จะขาวๆ อวบๆเหมือนซาลาเปาน้อย ท่านไม่คิดว่าน่ารักหรือ”

เขาไม่คิดว่าลูกเหมือนซาลาเปาแล้วจะน่ารักตรงไหน หากโตมาเหมือนซาลาเปาจริงๆ นางคงจะร้องไห้

มองใบหน้าเรียบเฉยของเขามองมายังตน เห็นชัดว่าไม่เห็นด้วย หนานกงมั่วเสียดายถอนหายใจออกมา สองยุคสมัยไม่อาจก้าวความสุนทรีย์และเรื่องน่าขำขันได้ ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของเขา “ท่านยังไม่บอกเลย ชอบหรือไม่”

“ชอบ” เสียงทุ้มต่ำของคุณชายเว่ยเอื้อนเอ่ยเสียงเบา ก้มลงไปมองหนานกงมั่ว จากนั้นหันไปมองซาลาเปาน้อยที่ยังมีสีแดงซึ่งนอนอยู่ด้านข้าง เกิดความรู้สึกตื้นตันจนไม่อาจอธิบายได้ขึ้นมาในใจ

“ข้าก็ชอบมาก” หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านว่า จะตั้งชื่อลูกว่าอย่างไรดี”

คุณชายเว่ยลังเล หลายวันมานี้เขาก็อาศัยเวลาว่างเพื่อเปิดหนังสือ มีชื่อมากมาย ทว่าเหมือนกับคนที่กำลังเป็นบิดาคนอื่นๆ รู้สึกว่าชื่อที่ตนเองตั้งนั้นยังไม่ดีพอ “อีกสักสองสามวันค่อยตั้งดีหรือไม่”

แน่นอนว่าหนานกงมั่วรู้ดีว่าคุณชายเว่ยมีชื่อมากมายที่คิดเอาไว้ กลอกตา เอ่ยขึ้นว่า “ข้าแนะนำให้ท่านเร็วสักหน่อย มิเช่นนั้นเกรงว่าท่านคงไม่มีโอกาสแล้ว” ด้านนอกยังมีคนอีกกลุ่มกำลังรออยู่ ไม่ต้องเอ่ยถึงอาจารย์ที่ไร้เหตุผลหรือศิษย์พี่ที่ไม่อาจเอาชนะได้ ก่อนหน้านี้เยี่ยนอ๋องยังแอบบอกกับนางว่าจะตั้งชื่อเด็กๆ ด้วยตนเอง เพียงแต่หนานกงมั่วคิดว่าลูกท้องแรกทั้งสองของพวกเขา อย่างไรก็ให้บิดามารดาเป็นคนตั้งจะดีกว่า

เว่ยจวินมั่วเงียบไปเนิ่นนาน ก่อนจะเอ่ย “บุตรีชื่อจั๋วหวา บุตรชายชื่อจิ่งเสาเป็นอย่างไร”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *