หมอหญิงยอดมือสังหาร 247 ยาวกว่าสิบลี้และคืนแต่งงาน (5)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 247 ยาวกว่าสิบลี้และคืนแต่งงาน (5) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่” ลิ่นฉังเฟิงเปลี่ยนทิศทาง มองเข้าไปในเรือนแทน ที่นี่สามารถมองเห็นพื้นที่ของเรือนซูอวิ๋นได้ทั้งหมด อยากเฝ้ามองภรรยาทำไมไม่กลับไปนั่งมองที่เรือนซูอวิ๋นเลยเล่า มาอยู่บนหอสูงเพียงนี้ไปทำไมกัน เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว “ข้ามารอคน”

“รอใคร” ลิ่นฉังเฟิงชะงัก เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ไม่นานจึงนึกขึ้นได้ เอ่ยต่อ “เจ้าหมายถึงกงอวี้เฉินหรือ” คนผู้นี้ก็พูดยาก กงอวี้เฉินไม่รู้เคยถูกสุนัขกัดหรือไม่ถึงได้เป็นราวกับคนบ้า อย่างไรเสียไม่ว่าเรื่องใดที่เกี่ยวกับเว่ยจวินมั่วเขามักจะยื่นมือเข้ามายุ่งเสมอ อย่างเช่นหลายวันก่อนที่หนานกงมั่วหายตัวไป เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการให้งานแต่งงานนั้นราบรื่น หากคืนนี้จะมาก่อเรื่องอีกก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

“เรื่องนี้…คืนนี้จวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องป้องกันหนาแน่น พวกเราเองก็แฝงตัวอยู่ลับๆ ไอ้คนนั้นคงไม่พยายามขนาดนั้นหรอกกระมัง” ลิ่นฉังเฟิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ค่อยมั่นใจ

เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้ว เขามิใช่กงอวี้เฉินเสียหน่อย ไหนเลยจะรู้ได้ว่าอีกฝ่ายจะมาหรือไม่

“ซื่อจื่อไปไหนแล้วหรือ” ด้านล่างมีเสียงองค์หญิงฉังผิงดังขึ้น ลิ่นฉังเฟิงยิ้ม เอ่ย “โอ้ องค์หญิงตามหาเจ้าแล้ว รีบไปเถิด วางใจ…หากกงอวี้เฉินมาจริงๆ เดี๋ยวข้าจะช่วยเจ้าขวางเอาไว้เอง” เมื่อนึกถึงกำลังของกงอวี้เฉินแล้ว คุณชายฉังเฟิงพลันรู้สึกว่าตนเองยิ่งใหญ่ขึ้นมา เพื่อให้เพื่อนได้เข้าหอเขาจะยอมสู้สุดชีวิต

เว่ยจวินมั่วพยักหน้า ลุกขึ้นและกระโดดลงไปทางหน้าต่าง

“…” เจ้าไม่คิดหน่อยหรือว่าหากกงอวี้เฉินมาจริงๆ แล้วข้าจะโดนเขาฆ่าตายหรือไม่

องค์หญิงพาคนออกตามหาอยู่ด้านล่าง “เด็กคนนี้จริงๆ เลย เวลาเช่นนี้ยังจะหนีหายไปไหนอีก” ปกติทำตัวลึกลับก็ช่างเถิด ในพิธีแต่งงานของตนยังไม่เห็นแม้แต่เงา

“มารดา” ลอยล่องลงมาจากด้านบน เว่ยจวินมั่วเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ องค์หญิงฉังผิงตกใจ เอ่ย “เจ้าเด็กคนนี้ไยจึงหนีขึ้นไปอยู่ด้านบนได้เล่า มา งานเลี้ยงใกล้จะเลิกแล้ว รีบเข้าไปคารวะเหล้ากับเสด็จลุงเยี่ยนอ๋องของเจ้า อีกทั้งยังมีองค์รัชทายาทด้วย องค์รัชทายาทจะกลับจวนแล้ว” เมื่อคารวะเหล้าเรียบร้อย งานวันนี้ก็จะถือได้ว่าเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นก็จะเป็น…พิธีเข้าหอ คนอายุมากเช่นพวกเขาคงไม่ร่วมด้วย แต่แน่นอนว่าย่อมหวังว่าอีกสิบเดือนข้างหน้าพวกเขาจะได้อุ้มหลาน องค์หญิงฉังผิงอดไม่ได้ยิ้มจนดวงตาโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

งานเลี้ยงจวนอ๋องนั้นพิถีพิถัน เชื้อพระวงศ์นั่งอยู่เหนือขึ้นไปในห้องโถงใหญ่ ขุนนางทั้งหลายนั่งอยู่สองฝั่งด้านข้างของห้องโถง เจ้าหน้าที่ธรรมดาทั่วไปถูกจัดให้อยู่ด้านนอก เมื่อเว่ยจวินมั่วเดินตามองค์หญิงฉังผิงเข้ามา คนในห้องโถงก็ดื่มกินไปพอสมควรแล้ว บางคนเผยท่าทางเมามายออกมาเล็กน้อย องค์รัชทายาทนั่งอยู่ด้านหน้าสุด มองเห็นเว่ยจวินมั่วเดินตามองค์หญิงฉังผิงเข้ามาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “จวินมั่ว แต่งงานแล้วต้องพึ่งตนเองแล้วนะ”

เว่ยจวินมั่วยกแก้วเหล้าขึ้นคารวะ “ขอบพระทัยองค์รัชทายาทที่ชี้แนะพ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทก็ดื่มไปพร้อมกับเขา ส่ายหน้ายิ้มๆ พลางเอ่ย “องค์รัชทายาทอันใดกัน เรียกเสด็จลุงสิ น้องสามและน้องหกไม่ค่อยอยู่เมืองหลวง มีเรื่องอันใดก็มาหาข้าที่จวนรัชทายาทก็ได้ เจ้าเด็กคนนี้เจ้าช่างทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้”

เว่ยจวินมั่วเอ่ยเรียกเสด็จลุงไปตามน้ำ องค์รัชทายาทตบไหล่เว่ยจวินมั่วอย่างพึงพอใจ หันกลับไปยิ้มให้เยี่ยนอ๋อง เอ่ย “พวกเจ้าสองคนก็วางใจได้แล้วใช่หรือไม่” เยี่ยนอ๋องยิ้มบาง “พี่ใหญ่กล่าวได้ถูกต้องแล้ว ข้าเองก็เคยเจอกับอู๋สยาถึงสองครั้ง เป็นสตรีที่ดีจริงๆ เข้ากับน้องห้าได้เป็นอย่างดี”

“เสด็จลุง” เว่ยจวินมั่วรินเหล้าส่งให้เยี่ยนอ๋อง เยี่ยนอ๋องรับมาดื่มหมดรวดในคราเดียว เอ่ยกับเว่ยจวินมั่ว “ต่อไปจงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับอู๋สยา”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ฉีอ๋องขยับเข้ามาชิดด้านข้าง กอดไหล่เว่ยจวินมั่วไว้ เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “จวินมั่ว ต่อไปหากมีอันใดให้น้อยใจต้องรีบบอกเสด็จลุงเช่นข้า หรือไม่ เจ้าก็พาหลานสะใภ้มาอยู่ที่เขตปกครองของข้าก็ได้ มีเสด็จลุงคอยปกป้องใครจะกล้ารังแกเจ้าได้”

มุมปากของเว่ยจวินมั่วยกยิ้ม คารวะเหล้าฉีอ๋องไปหนึ่งจอก “ขอบพระทัยเสด็จลุงพ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทมองพวกเขาพลางหัวเราะออกมา “รู้ดีว่าลุงกับหลานอย่างพวกเจ้าเข้ากันได้ดี ช่างเถิด วันนี้นับว่าเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ข้าคงต้องกลับก่อน น้องสาม น้องหก พรุ่งนี้หากมีเวลามาดื่มกันสักหน่อย”

ทุกคนรีบลุกขึ้นน้อมส่งองค์รัชทายาท เมื่อองค์รัชทายาทจากไปแล้ว คนอื่นๆ ก็ค่อยๆ ทยอยแยกย้าย เหลือเพียงเด็กๆ ในตระกูลที่วุ่นวายจะเข้าหอ

เรือนซูอวิ๋นที่สงบเงียบยามนี้เต็มไปด้วยเสียงจอแจจากบรรดาพี่น้องทั้งหลายซึ่งก่อกวนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู เว่ยจวินมั่วจึงหันกลับมามองคนอื่นๆ มองสบตากับพวกเขา นี่มันบ้าอันใดกัน

“ทำอันใด” ดวงตาเรียบนิ่งของเว่ยจวินมั่วมองตรงไปยังพวกเขาเหล่านั้น เอ่ยถามเสียงเรียบ

“นี่หรือ…ปลุกห้องเจ้าสาวไง” มีคนเอ่ยตอบ

“ปลุกห้องเจ้าสาว” เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้ว ตวัดมือขึ้นใช้กำลังภายใน ทันใดนั้นดาบในฝักขององครักษ์ด้านข้างก็สั่นไหวและลอยเข้ามาอยู่ในมือเว่ยจวินมั่ว ผู้คนพากันก้าวถอยหลัง ก็แค่จะมาปลุกห้องเจ้าสาว คงไม่ต้องใช้ดาบหรอกใช่หรือไม่ เว่ยจวินมั่วเอ่ย “รับห้าสิบกระบวนท่าของข้าได้ ข้าจะยอมให้เข้าไปได้”

เอ่อ…หากเป็นปกติคงไม่มีใครกล้าต่อกรกับเว่ยจวินมั่ว ในกลุ่มนี้ก็ล้วนมิใช่คนเก่งกาจอันใด ทุกคนต่างเป็นลูกหลานคนมีสกุลที่ติดเล่นที่สุดในเมืองหลวง แต่เพราะฤทธิ์เหล้าทำให้คนมีความกล้ามากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น…แต่งงานจะไม่ปลุกห้องเจ้าสาวได้เยี่ยงไร ดังนั้น…ไม่รู้ใครเอ่ยขึ้นว่า “ทุกคน ลุยพร้อมกัน”

ดังนั้นบรรดาคุณชายที่เมาไปกว่าเจ็ดส่วนจึงพากันพุ่งเข้าหาเว่ยจวินมั่วที่อยู่ในอาภรณ์สีแดง ผลลัพธ์ที่ได้แน่นอนว่าสามารถจินตนาการได้ไม่ยาก ไม่ต้องเอ่ยถึงการประมือกับเว่ยจวินมั่วด้วยซ้ำ เพียงยืนด้วยตนเองยังยาก อีกทั้งยังถูกคนอื่นเหยียบไปกว่าเจ็ดแปดคน เมื่อเข้ามาถึงตัว เว่ยจวินมั่วก็แทบไม่ต้องเปลืองแรงอันใดแล้ว เว่ยจวินมั่วเพียงสะบัดแขนเสื้อครั้งเดียวก็ทำร้ายไปกว่าสามคน

“โอ้ โยว โยว”

“เหยียบข้าแล้ว เจ้าโง่”

“ทำไมพื้นถึงนุ่มเล่า เว่ยซื่อจื่อยืนอยู่นิ่งๆ อย่าขยับไปมา ข้าจะสู้กับเจ้าสามร้อยยก”

“โง่เง่า ข้าเอง เจ้าต่อยผิดคนแล้ว”

เว่ยจวินมั่วยืนอยู่อีกฝั่ง มองผู้คนที่กำลังชุลมุนวุ่นวาย อดไม่ได้แสยะยิ้มมุมปาก ตั้งมั่นอยู่ในใจ ไม่มีทางปล่อยพวกเขาผ่านเข้าไปเป็นแน่ คนโง่เง่าพวกนี้หากเข้าไปแล้ว ห้องยังจะอยู่ดีได้หรือ เวลาเพียงไม่นาน ทุกคนต่างพากันนอนหอบเหนื่อยกองกันอยู่เกลื่อนกลาด เว่ยจวินมั่วเงยหน้าขึ้น มองเห็นชายหนุ่มหล่อเหลานอนเล่นท่าทางเกียจคร้านอยู่บนหลังคา

“นี่ ดูเหมือนผงมัวเมาของข้าจะทำงานได้ไม่เลวเลย จะขอบคุณข้าเช่นไร” คุณชายเสียนเกอยิ้มจนตาหยีพลางเอ่ยถาม

“ขอบคุณมาก” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง

คุณชายเสียนเกอขมวดคิ้วไม่ชอบใจ “เว่ยซื่อจื่อช่างขอบคุณได้…”

“บุญคุณยิ่งใหญ่เกินจะกล่าวขอบคุณ” เว่ยจวินมั่วเอ่ยจบก็ไม่สนใจเขาอีกต่อไป หมุนตัวเดินเข้าห้องหอไป ไม่นานก็ปิดประตูลง เหลือไว้เพียงองครักษ์ที่ถือดาบเอาไว้ คนเมาที่นอนกองกันอยู่เกลื่อนพื้น…และคุณชายเสียนเกอที่โดดเดี่ยวเดียวดาย

“เขาหมายความเช่นไร” มักรู้สึกได้ว่าคำพูดของเว่ยจวินมั่วนั้นมีอะไรแฝงอยู่เสมอ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *