หมอหญิงยอดมือสังหาร 792 ตั้งครรภ์หนึ่งครั้งโง่สามปี (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 792 ตั้งครรภ์หนึ่งครั้งโง่สามปี (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 792 ตั้งครรภ์หนึ่งครั้งโง่สามปี (2)
“แล้วแต่เจ้า” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเบา สิ่งทีอู๋สยาตัดสินใจแน่นอนว่าดีที่สุดแล้ว ไม่ใช่พวกเขาไม่อยากเลี้ยงดูบุตรด้วยตนเอง แต่สถานการณ์ในภายภาคหน้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะควบคุมได้ เพียงแต่หากเอ่ยขอโทษในยามนี้คงจะเป็นการเสแสร้งโดยไม่อาจเลี่ยงได้ เว่ยจวินมั่วเพียงลูบผมนางเบาๆ ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก

หนานกงมั่วช้อนดวงตาขึ้นไปมองใบหน้าเย็นชาของเขา อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “แล้วแต่ข้าหรือ”

คุณชายเว่ยพยักหน้าเบาๆ หนานกงมั่วยิ่งรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมา “แล้วแต่ข้าทั้งหมดเลยหรือ”

คุณชายเว่ยเลิกคิ้วเล็กน้อย ก้มลงกระซิบข้างหนูนาง “…แล้วแต่ข้า”

สาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูแม้ไม่ได้ยินว่าคุณชายเว่ยเอ่ยสิ่งใด ทว่าเห็นซิงเฉิงจวิ้นจู่เบิกตามองเขาได้อย่างชัดเจน ใบหน้าสวยมุดหน้าลงด้วยความเขินอาย

“เว่ยจวินมั่ว” หนานกงมั่วยกมือกำลังจะตบไปที่ใบหน้าเรียบนิ่งร้อยปีไม่เปลี่ยนของใครบางคน น่าเสียดายที่ยกขึ้นมายังไม่ทันได้ตีออกไป “อย่าขยับ แผลยังไม่หาย”

“…” ท่านคิดว่าข้าลืมหรือว่าแผลของข้าอยู่ที่ไหล่ขวา ท่านจับมือซ้ายข้าเอาไว้หมายความเยี่ยงไร

“นี่ จีบกันแต่เช้าเลยนะ” เสียงของคุณชายเสียนเกอดังมาจากด้านนอกประตู ทั้งสองมองออกไปเห็นคุณชายเสียนเกอในอาภรณ์สีขาวราวกับหิมะกำลังเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า ด้านหลังของเขายังมีฉินจื่อซวี่ หนานกงชวี่และชวีเหลียนซิงตามเข้ามา พักผ่อนมาหนึ่งคืน ยามนี้ดูทุกคนจะมีชีวิตชีวาไม่เลว

“ศิษย์พี่ พี่ใหญ่ คุณชายฉิน” ถูกคนกดไหล่เอาไว้ หนานกงมั่วเองก็ไม่ลุกขึ้น เพียงหันหน้ากลับไปส่งยิ้มให้ เอ่ย “เข้ามานั่งคุยกันก่อนเถิด”

คุณชายเสียนเกอเดินตรงเข้ามาที่เปลและอุ้มเยาเยาขึ้นมา “เยาเยาน้อยช่างเปลี่ยนไปทุกวัน ต่อไปโตแล้วคงสวยกว่ามารดาไม่ได้เรื่องของเจ้าอย่างแน่นอน”

ฉินจื่อซวี่และหนานกงชวี่ที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว เด็กทั้งสองหน้าตาเหมือนกัน หากโตขึ้นแล้วบุตรสาวจะสวยกว่าหนานกงมั่วคงไม่เลว เช่นนั้นอานอาน..อดไม่ได้ส่งสายตาเห็นใจไปให้หลานชาย

หนานกงชวี่เองก็เลียนแบบคุณชายเสียนเกออุ้มอานอานขึ้นมา เพียงแต่ท่าทางดูเกร็งกว่าก็เท่านั้น อานอานเป็นเด็กดี ลืมตาใสแจ๋วคู่นั้นมองลุงที่ไม่คุ้นเคยตรงหน้า

“มีเรื่องอันใดหรือ” เว่ยจวินมั่วปล่อยหนานกงมั่วนั่งดีๆ พลางเอ่ยถาม

คุณชายเสียนเกอส่งเสียงหยัน ยื่นกระดาษบางหนึ่งแผ่นให้เขา เว่ยจวินมั่วยื่นสองนิ้วออกไปคีบกลับมา ได้ยินคุณชายเสียนเกอเอ่ย “เพื่อช่วยเจ้าป้องกันเมือง ยาที่ข้าสะสมมานานหมดเกลี้ยงแล้ว นี่คือค่าชดใช้ เอาเงินและยาคืนมาให้ข้าด้วย” ช่วยศิษย์น้องก็ช่วยศิษย์น้อง แต่การป้องกันเมืองคงไม่ได้โยนมาให้ศิษย์น้องหรอกใช่หรือไม่

แน่นอนว่าคุณชายเว่ยไม่มีทางทะเลาะกับเขาเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ โยนกระดาษกลับไป “ไว้ไปรับเงินคืนจากคลังจวนอ๋อง”

หนานกงชวี่อุ้มอานอานนั่งลงอีกฝั่ง หยิบกระดาษพับออกมาโยนออกไป เอ่ยเสียงเรียบ “นี่คือรายงานการบาดเจ็บล้มตายของการป้องกันเมืองครั้งนี้ อีกทั้งข้อเสนอแนะของข้าเกี่ยวกับการป้องกันเมืองโยวโจวด้วย เจ้าคิดว่าใช้ประโยชน์ได้ก็ใช้” ครั้งนี้เว่ยจวินมั่วอ่านละเอียดกว่ารายการของคุณชายเสียนเกออยู่มาก เพียงแต่หนานกงชวี่เขียนเยอะเกินไป เวลาเพียงชั่วครู่ไม่อาจอ่านจบได้ อ่านไปไม่กี่หน้าก็ส่งให้หนานกงมั่ว เว่ยจวินมั่วมองไปยังหนานกงชวี่ เสียงทุ้มเอ่ยว่า “ขอบคุณมาก”

หนานกงชวี่ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ไม่เอ่ยสิ่งใด

ฉินจื่อซวี่มองคนอื่นๆ กระแอมไอชั่วครู่ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้มีเรื่องอันใด เพียงแต่จวิ้นจู่…ก่อนหน้านี้ท่านสัญญาว่าจะจ่ายเงินรางวัลให้แก่ชาวบ้านที่ไปคุ้มกันเมือง ตอนนี้คงต้องจ่ายแล้ว ยามนี้ทางที่ดีจวนเยี่ยนอ๋องอย่าพึ่งทำให้ผู้คนต้องเสียความเชื่อมั่น”

หนานกงมั่วยิ้มเจื่อน เอ่ย “ขอบคุณคุณชายฉินที่เอ่ยเตือน เรื่องนี้แน่นอนอยู่แล้ว” สั่งให้ชวีเหลียนซิงและจือซูไปเอาตั๋วเงินมา ทว่าถูกเว่ยจวินมั่วห้ามเอาไว้ คุณชายเว่ยเอ่ย “ไม่ต้อง เงินพวกนี้ไปเอาที่จวนอ๋อง”

หนานกงมั่วชะงัก เอ่ย “นี่เป็นสัญญาที่ข้ารับปากไปเอง ไม่ได้ผ่านการยินยอมจากเสด็จลุงและเสด็จป้า อีกทั้งเงินจวนอ๋องเองก็ดูจะมีไม่มาก…”

เว่ยจวินมั่วส่ายศีรษะ “ไม่มากก็ต้องเอาจากจวนอ๋อง”

ฉินจื่อซวี่ยิ้มพลางเอ่ย “จวิ้นจู่ เรื่องนี้ฟังคุณชายเว่ยเถิด เขาเอ่ยถูกแล้ว เอาจากจวนอ๋องจะดีกว่า” มองหนานกงชวี่ที่มีท่าทีเห็นด้วย หนานกงมั่วยักไหล่อยากให้เงินยังให้ไม่ได้ ไม่ต้องใช้เงินตนเองนางก็ยินดี เก็บเอาไว้ให้อานอานและเยาเยาใช้ก็ไม่เลว

พวกเว่ยจวินมั่วกลับมาแล้วคนบาดเจ็บอย่างหนานกงมั่วก็วางใจไปมาก ทั่วทั้งจวนเยี่ยนอ๋องเองดูเหมือนจะกลับมาสงบเหมือนเดิมแล้ว หนานกงมั่วนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในเรือน มีความสุขกับเวลาว่างและอิสระที่ไม่มีมานาน เว่ยจวินมั่วถูกพวกลิ่นฉังเฟิงเชิญไปคุยเรื่องธุระในกองทัพตั้งแต่เช้า หนานกงมั่วที่ถูกลิดรอนอำนาจเพราะอาการบาดเจ็บจึงกลายเป็นคนที่ว่างที่สุดในจวนเยี่ยนอ๋อง

“จวิ้นจู่”

กงเสี่ยวเตี๋ยเดินนำคนเข้ามาจากที่ไม่ไกล ใบหน้าสวยมีความกังวลเล็กน้อย ก่อนหน้านี้มีสงครามตึงเครียด เหล่าภรรยารองทั้งหลายจึงถูกจำกัดไม่ให้ออกจากเรือนตามใจชอบ กงเสี่ยวเตี๋ยเองรู้ดีว่าเยี่ยนอ๋องไม่อยู่ตนย่อมขาดที่พึ่ง หลายวันมานี้จึงอยู่นิ่งๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะมาหานางด้วยตนเองได้ นึกถึงคำของเว่ยจวินมั่ว หนานกงมั่วจึงไม่ได้มองข้ามนาง นั่งหลังตรงขึ้นมา เอ่ย “ที่แท้ก็เป็นพระชายารองกง มีเรื่องอันใดหรือ เชิญนั่งลงคุยกันก่อนเถิด”

กงเสี่ยวเตี๋ยเอ่ยขอบคุณ นั่งลงตรงข้ามหนานกงมั่ว เอ่ยถามด้วยความกังวล “ไม่มีเรื่องใหญ่อันใด เพียงได้ยินว่าจวิ้นจู่บาดเจ็บจึงได้มาดู อีกทั้ง…จวิ้นจู่พอรู้หรือไม่ ท่านอ๋องจะกลับมาเมื่อใดหรือ”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว กงเสี่ยวเตี๋ยเป็นใครนางรู้อยู่แก่ใจ เพียงแต่…มองดูคนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลตรงหน้า คงไม่ได้อยู่กับเยี่ยนอ๋องนานจนเกิดความรักหรอกกระมัง

เอ่ยตามตรง แม้เยี่ยนอ๋องจะอายุไม่น้อยแล้ว ทว่าได้รับการบำรุงดูแลอย่างดี บุคลิกความสามารถยิ่งไม่อาจมีคนเทียบได้ ทำให้เด็กสาวตกหลุมรักได้ย่อมมิใช่เรื่องแปลก แต่ว่าแม่นางผู้นี้…นางรู้หรือไม่ว่าตนเองมาทำอันใด ในมือของกงอวี้เฉินมีคนไม่ได้เรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ หรือว่ากงอวี้เฉินต้องการท่าทางไม่ได้เรื่องและไม่มีแผนการของนางหรือ อย่างไรเสีย ไม่มีแผนการก็ไม่มีอันตรายทำให้คนวางใจได้ง่าย เช่นนั้น…หากนางไม่ใช่เด็กที่กงอวี้เฉินโยนมาทิ้งไว้ สิ่งที่กงอวี้เฉินมั่นใจว่าจะทำให้ชนะได้นั้นคือสิ่งใด

แม้ในใจของหนานกงมั่วจะมีความคิดมากมาย ทว่าใบหน้ายังคงเรียบนิ่ง “เสด็จลุงหรือ ได้ยินว่าอีกไม่กี่วันแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเวลาที่แน่นอนคือเมื่อใด พระชายารองเป็นห่วงความปลอดภัยของเสด็จลุงหรือ เสด็จลุงมีองครักษ์ฝีมือเก่งกาจข้างกายมากมาย ไม่ต้องกังวลไป”

กงเสี่ยวเตี๋ยส่ายศีรษะ เอ่ยเสียงเบา “ข้ารู้ดีว่าความกังวลของข้ามิได้มีประโยชน์อันใด เพียงแต่…ไม่ได้เจอท่านอ๋องนาน ข้าอยู่ในจวนคนเดียวไม่รู้จะทำอย่างไร”

หนานกงมั่วไม่คิดปลอบโยนนางอย่างจริงใจ “ไม่นานเสด็จลุงก็กลับมา ชายารองวางใจเป็นพอ ชายารองห่วงใยเสด็จลุง ข้าช่างดีใจ” ใบหน้าของกงเสี่ยวเตี๋ยเผยท่าทีเขินอายออกมา กำลังจะเอ่ยบางสิ่ง ทว่ามองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหนานกงมั่วพลันเปลี่ยน มีความงดงามและยินดีมากขึ้น “ศิษย์พี่ ท่านมาได้เยี่ยงไรเจ้าคะ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *