หมอหญิงยอดมือสังหาร 798 ไพ่ดี? ไพ่เสีย! (1)
ตอนที่ 798 ไพ่ดี? ไพ่เสีย! (1)
แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร องค์หญิงฉังผิงก็เอ่ยคำพูดเหล่านั้นออกมาไม่ได้ นอกเสียจากนางจะเป็นคนไม่รู้ความ ในฐานะน้องสาวเยี่ยนอ๋อง นางย่อมไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเรื่องในครอบครัวพี่ชาย ยามนี้เห็นพระชายาเยี่ยนอ๋องนิ่งเงียบนางก็โล่งใจขึ้นมา อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าข้างนอกกำลังวุ่นวาย ข้างในก็กำลังจะลุกเป็นไฟ
เห็นท่าทีขององค์หญิงฉังผิง พระชายาเยี่ยนอ๋องก็อดหัวเราะไม่ได้ “น้องห้าคิดมากเกินไปแล้ว ช่วงที่ผ่านมาจวนอ๋องแห่งนี้ก็มีบุตรชายารองมาตลอด ข้ายังจะหึงหวงเขาเช่นนั้นหรือ เมื่อเทียบกับท่านอ๋องอื่นๆ แล้ว ท่านอ๋องของข้าถือว่าดีที่สุด”
พระชายาเยี่ยนอ๋องเอ่ยถูกต้องแล้ว เมื่ออยู่ในเขตปกครองตัวเอง บรรดาอ๋องก็คือฮ่องเต้ ในครอบครัวของบรรดาอ๋องล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยชายาหลักชายารองเต็มไปหมด เมื่อเทียบกันแล้ว เยี่ยนอ๋องยับยั้งใจตัวเองเรื่องสตรีดีที่สุดแล้ว ในครอบครัวของพระองค์มีเพียงชายารองสามคน สนมหนึ่งคน มีบุตรชายสามคน บุตรีสองคน บุตรเชื้อสายหลักทั้งสามคนล้วนแต่เป็นบุตรของพระชายา เมื่อเทียบกับครอบครัวของบรรดาอ๋องอื่นๆ แล้ว ที่มารดาแต่ละคนฉวยโอกาสมีลูกแล้วทำตัวหยิ่งทะนง ชีวิตของพระชายาเยี่ยนอ๋องถือว่าดีมากแล้ว
องค์หญิงฉังผิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ นางคิดมากเกินไปจริงๆ แต่ว่า “ชายารองกงผู้นั้น ข้ามักจะรู้สึกว่า…พี่สะใภ้สามต้องระวังตัวนะเพคะ”
“ระวังตัวอันใดหรือ” พระชายาเยี่ยนอ๋องเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก “ท่านอ๋องชอบนางก็นับเป็นวาสนาของนาง เพียงนางประพฤตตัวตามกฎเกณฑ์ ไม่ก่อเรื่องต่อหน้าข้า ข้าย่อมไว้หน้านางอยู่บ้าง มาถึงจุดนี้แล้ว ข้าหวังเพียงลูกๆ ของข้ามีชีวิตที่ปลอดภัยก็พอ” สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตนและเยี่ยนอ๋อง หากจะบอกว่าเดิมทีนางไม่เคยคิดอันใดก็คงเป็นไปไม่ได้ ทว่าแต่งงานกันมานานเพียงนี้แล้ว สิ่งที่นางมีต่อพระองค์ก็มีเพียงความรักความผูกพันที่อยู่ด้วยกันมาเนิ่นนาน รวมถึงความเคารพนับถือเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป ความรักชายหญิงเหล่านั้นก็ย่อมจืดจางหายไป นางเป็นคนมีเหตุผลและท่านอ๋องก็เคารพนางมาตลอดจึงไม่เคยรู้สึกไม่พอใจ สำหรับเรื่องที่เหตุใดท่านอ๋องถึงดีต่อกงเสี่ยวเตี๋ย นางไม่อยากรู้ เพราะถึงแม้กงเสี่ยวเตี๋ยจะคลอดบุตรชายขึ้นมาจริงๆ หากอยากขึ้นมาอยู่เหนือนางก็ยังเร็วเกินไป
องค์หญิงฉังผิงถอนหายใจอยู่ในใจ ทว่าไม่ได้เอ่ยอื่นใดอีก
พี่สะใภ้สามเป็นเช่นนี้มิใช่เรื่องแย่ บนโลกใบนี้คู่สามีภรรยาที่เหมือนอู๋สยากับจวินเอ๋อร์จะมีสักกี่คู่ ส่วนมากก็แค่อยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกว่าไม่เลวจึงอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต
“รายงานพระชายา ท่านอ๋องมาเพคะ” นอกประตู สาวใช้เดินเข้ามารายงาน
พระชายาเยี่ยนอ๋องพยักหน้า “เชิญท่านอ๋องเข้ามาเถิด”
สาวใช้คนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ท่านอ๋องพาชายารองกงมาด้วยเพคะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของพระชายาเยี่ยนอ๋องหายไป พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “เชิญท่านอ๋องและชายารองกงเข้ามาเถิด”
เยี่ยนอ๋องพากงเสี่ยวเตี๋ยเดินเข้ามา ทั้งสองเดินตามกันเข้ามาอย่างใกล้ชิด พระชายาเยี่ยนอ๋องลุกขึ้นย่อตัวเคารพ “ถวายพระพรท่านอ๋อง ไยท่านถึงมีเวลามาที่นี่ได้เพคะ” ยามที่เยี่ยนอ๋องกลับมาถึง เขามาหานางแล้ว จากนั้นก็ไปจัดการเรื่องของบ้านเมืองต่อ พระชายาเยี่ยนอ๋องคิดไม่ถึงว่าเยี่ยนอ๋องจะมาหาตัวเองตอนนี้อีกครั้งเช่นนี้
“พี่สาม”
เยี่ยนอ๋องมองพระชายาเยี่ยนอ๋องตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ้มพลางเอ่ย “น้องห้ากำลังเอ่ยอันใดกับพี่สะใภ้สามเช่นนั้นหรือ”
องค์หญิงฉังผิงยิ้มบางๆ แล้วจึงเอ่ยตอบว่า “กำลังเอ่ยถึงเรื่องที่ชายารองกงตั้งครรภ์เพคะ สองสามวันที่ผ่านมาพี่สะใภ้สามยังไม่ฟื้นจึงละเลยชายารองกงไป ชายารองกงสบายดีใช่หรือไม่”
กงเสี่ยวเตี๋ยรู้ว่าองค์หญิงฉังผิงไม่ชอบตนเอง ได้ยินองค์หญิงฉังผิงเอ่ยกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรแต่กลับมีความเย็นชาในนั้น
“เสี่ยวเตี๋ยมิกล้า องค์หญิงเอ่ยหนักเกินไปแล้วเพคะ” กงเสี่ยวเตี๋ยหลบอยู่ด้านหลังเยี่ยนอ๋องแล้วพึมพำเอ่ยเบาๆ
องค์หญิงฉังผิงเลิกคิ้ว พระชายาเยี่ยนอ๋องยิ้มแล้วจึงเอ่ยว่า “ชายารองกำลังตั้งครรภ์ ไยถึงไม่พักผ่อนที่เรือนเตี๋ยเล่า”
เยี่ยนอ๋องยิ้มพลางเอ่ย “ชายารองบอกว่าไม่ได้มาถวายพระพรพระชายานานแล้ว ข้าจึงพานางมาที่นี่ อีกอย่าง พระชายา เงินเดือนของเรือนเตี๋ย…”
พระชายาเยี่ยนอ๋องฉลาดมีไหวพริบ เพียงยิ้มบางๆ “แน่นอนเพคะ ในเมื่อกำลังตั้งครรภ์ ก็ถือว่ามีจำนวนคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ต่อไปต้องเพิ่มเงินเดือนของเรือนเตี๋ยเป็นสองเท่า” เยี่ยนอ๋องเอ่ยขอบคุณพระชายา “ลำบากพระชายาแล้ว”
“เป็นหน้าที่ของหม่อมฉันเพคะ ท่านอ๋องกล่าวเกินไปแล้ว” พระชายาเยี่ยนอ๋องยิ้มบาง
องค์หญิงฉังผิงมองดูเยี่ยนอ๋องและพระชายาเยี่ยนอ๋องสนทนากัน ไม่รู้ว่าควรเอ่ยสิ่งใดจึงเงียบไป แต่เยี่ยนอ๋องให้ความสำคัญกับน้องสาวคนนี้ของตัวเองเป็นอย่างมาก เห็นนางเงียบพระองค์จึงเอ่ยถามว่า “น้องห้าเป็นอันใดไปหรือ ใครทำให้เจ้าไม่พอใจหรือไม่” องค์หญิงฉังผิงส่ายศีรษะ ยิ้ม “พี่สามเอ่ยอันใดกันเพคะ อยู่ในจวนเยี่ยนอ๋อง มีพี่สะใภ้สามคอยดูแล ใครจะกล้าทำให้หม่อมฉันไม่พอใจได้ เพียงแต่…นึกถึงอานอานกับเยาเยา จึงเป็นห่วงทั้งสองเพคะ”
เอ่ยถึงเด็กสองคนนี้ เยี่ยนอ๋องก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า “ข้าก็ได้ยินมาว่า มีคนกล้าเข้ามาลักพาตัวทั้งคู่ถึงในจวนเยี่ยนอ๋อง เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะสั่งให้คนคุ้มกันหนาแน่นมากขึ้น ไม่มีทางปล่อยให้เด็กทั้งสองเป็นอันใดแน่นอน”
องค์หญิงฉังผิงพยักหน้า เอ่ย “ยามนี้เด็กทั้งสองมีอาจารย์เหวินคอยดูแล หม่อมฉันเห็นท่าทีจวินเอ๋อร์และอู๋สยาผ่อนคลายไร้กังวล เพียงแต่ว่า…ดูเหมือนอู๋สยาจะให้อาจารย์เหวินเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กทั้งสอง พี่สามคิดเห็นเช่นไร”
“อาจารย์เหวินหรือ” เยี่ยนอ๋องขมวดคิ้ว จำได้ว่านั่นคืออาจารย์อาของหนานกงมั่ว เยี่ยนอ๋องเคยส่งคนไปสืบเรื่องหนานกงมั่วกับคุณชายเสียนเกอทว่ากลับไม่เจอสิ่งใด กระทั่งยามนี้ทั้งอาจารย์และศิษย์ร่วมรุ่นของหนานกงมั่วรวมกันก็มีอยู่เพียงสี่คน ชาวหยวนเหนือปกครองที่ราบตอนกลางมาหลายสิบปีแล้ว ต่อมาเกิดสงครามจึงมีหลายสิ่งที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย อาจารย์เหวินคนนั้นลึกลับกว่าคุณชายเสียนเกอเสียอีก ไม่ว่าในยุทธภพหรือราชสำนักล้วนแต่ไร้ซึ่งข่าวคราวของเขา แต่เขากลับมีวรยุทธ์ที่ไม่ธรรมดา ในเมื่อจวินมั่วยอมให้เขาเป็นคนดูแลเด็กๆ เห็นได้ชัดว่าเชื่อใจอาจารย์เหวินคนนั้น แต่ว่า…คิดดูแล้วก็เสียใจ หลานชายตัวเองเชื่อใจคนนอกมากกว่าเสด็จลุงแท้ๆ อย่างพระองค์เสียอีก…
เห็นสีหน้าของเยี่ยนอ๋องแล้ว องค์หญิงฉังผิงก็เดาออกว่าเขาคิดสิ่งใด นางเพียงยิ้มบางๆ ส่งให้แต่กลับไม่เกลี้ยกล่อม แท้จริงแล้วย่อมมิใช่เรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจ ถึงแม้จวินเอ๋อร์กับอู๋สยาจะมอบลูกของทั้งสองให้พี่สามเป็นคนดูแล ก่อนอื่นเขาต้องมีเวลาดูแลด้วย เพราะเเม้แต่ลูกชายแท้ๆ ของเขาก็ยังไม่ได้ดูแลเลย
เยี่ยนอ๋องเองก็เข้าใจหลักการนี้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงคิด เงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “ศีลธรรมและวรยุทธ์ของอาจารย์เหวินไม่ธรรมดา ให้เขาเป็นคนดูแลเด็กทั้งสองนั้น จวินเอ๋อร์กับอู๋สยาจะได้ไม่ต้องห่วง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่า…คนที่เติบโตมาในยุทธภพไม่ชอบกฎเกณฑ์ อาจารย์เหวินอาจจะดูแลเด็กทั้งสองไม่เป็น…” หากอาจารย์เหวินพาเด็กทั้งสองไปเร่ร่อน เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรตนก็ไม่มีทางเห็นด้วย ถึงแม้เขาจะเลี้ยงดูสั่งสอนคุณชายเสียนเกอและอู๋สยาจนมีความสามารถได้ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องการดูแลสั่งสอน เพียงแต่เด็กทั้งสองนั้นไม่เหมือนอู๋สยาและคุณชายเสียนเกอ ไม่ว่าอย่างไรจะให้ทั้งสองเร่ร่อนในยุทธภพตั้งแต่แบเบาะไม่ได้
องค์หญิงฉังผิงยิ้มพลางเอ่ยว่า “เรื่องนี้พี่สามไม่ต้องห่วง หม่อมฉันได้ยินอาจารย์เหวินบอกว่าพวกเขาวางแผนจะลงหลักปักฐานอยู่ที่โยวโจว เรือนนอกที่อู๋สยาสร้างบนเขาชุ่ยเวย พี่สามกับพี่สะใภ้สามยังไม่เคยไปใช่หรือไม่ หม่อมฉันเคยไปมาแล้วหนหนึ่ง เห็นอย่างนั้นแล้วก็ไม่อยากกลับมาเลย เพราะหากจะนำตัวเด็กทั้งสองไปเลยหม่อมฉันก็ไม่ยอมอยู่แล้ว”
Comments