หมอหญิงยอดมือสังหาร 816 เคราะห์ร้ายออกจากปาก (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 816 เคราะห์ร้ายออกจากปาก (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 816 เคราะห์ร้ายออกจากปาก (2)

หนานกงมั่วยกถ้วยชาขึ้นมา “คุณชายเดินดีๆ เล่า”

เซี่ยสือชีโมโห เนิ่นนานกว่าจะถอนหายใจออกมา วางถ้วยชาลงแรงๆ เพียงเอ่ยหนึ่งประโยคว่าเรายังต้องเจอกันอีก จากนั้นก็เดินออกไปด้วยความโกรธ

มองเซี่ยสือชีที่เดินหนีไปโดยไม่แม้จะหันกลับมา หนานกงมั่วก็ฟุบลงบนโต๊ะหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ เนิ่นนานก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยถามเว่ยจวินมั่ว “โกรธเพียงนี้เขาจะไม่เป็นอันใดจริงๆ หรือ เกิดเขาโมโห…” เซี่ยสือชี ชัดเจนเพียงนี้หากยังทายตัวตนที่แท้จริงของเขาไม่ได้ พวกเขาคงต้องตายไปได้แล้วจริงๆ

เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เป็นไร หากเขาไม่ยอมร่วมมือ ต่อให้พวกเราประจบประแจงเพียงใดก็ไร้ประโยชน์”

หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ขอให้เป็นเช่นท่านเอ่ยเถิด”

ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ เดินมาจากนอกเมืองยังไม่ทันได้เข้าประตูใหญ่หอเย่ว์ปิน ก็พบเข้ากับหันอิงอานที่เจอเมื่อคืนกำลังเดินนำคนเข้าไปด้านใน ทั้งสองฝ่ายเจอกันที่หน้าประตู แน่นอนว่าต่างฝ่ายต่างหยุดฝีเท้า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้หันอิงอานระวังหนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วมากขึ้น แม้จะเป็นตอนกลางวันก็ยังมีองครักษ์ผู้ติดตามนับสิบคนได้ แม้ฝั่งหนานกงมั่วจะมีเพียงสี่คน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายกลับไม่มีความรู้สึกด้อยกว่า

ผู้จัดการโรงเตี๊ยมที่ออกมาต้อนรับเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ในใจได้แต่หวังว่าอย่าได้มีเรื่องกันเลย ทั้งสองฝ่ายดูแล้วมิใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ อย่างไรก็คุ้นเคยกับฝั่งหนานกงมั่วมากกว่า ผู้จัดการร้านรีบเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณชาย ฮูหยินกลับมาแล้วหรือ เชิญด้านในเถิดขอรับ ยังไม่ทานข้าวเที่ยงมาใช่หรือไม่ ข้าน้อยจะสั่งคนไปจัดเตรียมให้เดี๋ยวนี้ขอรับ”

หนานกงมั่วเห็นท่าทางกระตือรือร้นของผู้จัดการจึงเข้าใจความลำบากใจของเขา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นก็รบกวนผู้จัดการแล้ว หิวขึ้นมาแล้วจริงๆ ขออันใดง่ายๆ มาก่อนเถิด”

เอ่ยจบ จึงจูงมือเว่ยจวินมั่ว เอ่ยเสียงเบา “ข้าหิวแล้ว”

“ไปกินข้าวก่อน” คุณชายเว่ยก้มลงไปมองหนานกงพร้อมเอ่ยเสียงเบา

หนานกงมั่วหันไปพยักหน้าให้หันอิงอานเบาๆ เดินตามเว่ยจวินมั่วเข้าไปในหอเย่ว์ปินก่อน หันอิงอานสีหน้าเย็นยะเยือก กวาดตามองผู้จัดการร้าน ผู้จัดการร้านรีบเอ่ย “เชิญลูกค้าด้านในขอรับ” แม้หันอิงอานไม่ได้อยู่ในชุดขุนนาง แต่เอิกเกริกเพียงนี้ไม่ใช่คนมีเงินทั่วไปจะมีได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่านายท่านผู้นี้เป็นใครมาจากไหนก็เท่านั้น

หันอิงอานส่งเสียงหยัน เดินตามขึ้นไปชั้นบนโดยดี ผู้จัดการที่อยู่ด้านหลังถอนหายใจออกมา ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปด้านหลังเพื่อสั่งให้เสี่ยวเอ้อร์และคนครัวเตรียมอาหาร

หนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วจูงมือขึ้นตึกไป เห็นคนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างหัวเราะร่ามองมายังตนก็แสดงสีหน้าเอือมระอาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เซี่ยสือชียกจอกหันมาหาทั้งสองคน เอ่ย “ทั้งสองท่าน พวกเราช่างมีวาสนา เจอกันอีกแล้ว”

หนานกงมั่วกุมขมับ หันกลับไปมองเว่ยจวินมั่ว เว่ยจวินมั่วกลับไม่ใส่ใจ จูงมือหนานกงมั่วมานั่งลงที่โต๊ะตรงข้ามกับเซี่ยสือชี

หันอิงอานที่เดินตามมาด้านหลังพบว่ามีใครบางคนเพิ่มขึ้นมา ทว่ากลับชะงักนิ่ง ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา เดินตรงไปนั่งยังโต๊ะว่างที่อยู่ด้านข้าง

ยามนี้ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองต่างก็อยู่นอกเมืองยังไม่กลับมา ดังนั้นชั้นบนจึงไม่มีใคร ทว่าเพียงหันอิงอานพาคนขึ้นมาก็กลับคึกคักคนเต็มไปหมด

เซี่ยสือชีราวกับมองไม่เห็นคนมากมายที่มีท่าทางไม่เป็นมิตรซึ่งปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน หยิบเหยือกเหล้าขึ้นมารินเหล้าให้พวกเว่ยจวินมั่วสองคนด้วยตนเอง เว่ยจวินมั่วยกมือขึ้นมาขวางจอกเหล้าตรงหน้าหนานกงมั่ว เซี่ยสือชีเลิกคิ้วคมขึ้นทว่าไม่ได้เอ่ยบังคับพวกเขาแต่อย่างใด

หนานกงมั่วจิบชาที่เสี่ยวเอ้อร์นำมาให้อย่างสบายอารมณ์ พลางเอ่ยถาม “คุณชายเซี่ยเองก็มาท่องเที่ยวที่อานเซี่ยหรือ”

เซี่ยสือชีฟุบลงไปกับโต๊ะโดยไม่สนภาพลักษณ์ “ทำไมหรือ แม่นางสนใจข้าแล้วหรือ”

หนานกงมั่วเขี่ยจมูก “คิดเสียว่าข้าไม่ได้ถาม” กับคนผู้นี้ไม่อาจพูดคุยดีด้วยได้จริงๆ มิน่าเซียวเชียนชื่อถึงได้เอ่ยว่านิสัยของเขาแปลกประหลาด เดิมนางคิดว่านิสัยแปลกประหลาดคงจะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไม่ปกติ ทว่าตอนนี้ นี่นิสัยแปลกประหลาดที่ใดกัน นี่มันนิสัยพิสดารชัดๆ ผู้ใดจะเชื่อว่าคนผู้นี้คือผู้ปกครองเมืองแถบชายแดนที่มีชื่อเสียง

เซี่ยสือชีทำราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่หนานกงมั่วเอ่ย “อย่าทำเช่นนี้สิแม่นางคนงาม ข้าจะบอกอันใดให้เจ้าฟัง…เรื่องของคุณชายอย่างข้า ทำให้คนโศกเศร้า ใครได้ยินก็ร้องไห้ กล่าวว่าเมื่อครั้งข้ายังหนุ่มเคยสาบานเอาไว้ว่าจะแต่งหญิงงามอันดับหนึ่งที่สวยที่สุดในใต้หล้ามาเป็นภรรยา”

“…” ตอนนี้อายุท่านก็ไม่ได้มากนะ

“แต่ว่า ตาเฒ่าบ้านข้ากลับไร้ความปรานีไม่มีเหตุผล กลับเลือกให้ข้า…อย่างไรเสีย ก็มิใช่ภรรยาในแบบที่ปรารถนา แบบนี้ก็ช่างเถิด คุณชายอย่างข้าเป็นบุตรชายกตัญญู เป็นบุรุษที่มีความรับผิดชอบ ใครจะไปรู้ว่าในตอนที่คุณชายอย่างข้ากำลังฟูมฟักความรู้สึกกับภรรยา นางกลับต้องมาป่วยตาย ดังนั้น ตาเฒ่าไม่เพียงหาภรรยาที่น่าเกลียดให้ข้า แม้แต่ร่างกายเองก็ยังไม่ดี เจ้าว่าเขาคิดอย่างไร”

หนานกงมั่วยังเงียบต่อไป

“หลังจากคุณชายอย่างข้าไว้ทุกข์ให้ภรรยาอยู่สามปี ก็ตัดสินใจออกเดินทางไปทั่วหล้าออกตามหาหญิงงามในฝัน แต่ว่า” คุณชายเซี่ยสือชีตบโต๊ะอย่างโมโห “ระหว่างนั้นสตรีที่ข้าได้พบและอยากแต่งงานด้วยมีห้าคน แต่ว่า…พวกนางมีฐานะไม่เหมาะสม ให้ตายตาเฒ่าก็ไม่ให้ข้าแต่ง แน่นอนตอนนี้เขาตายแล้ว แต่หญิงงามแก่แล้ว อีกคนนิสัยไม่ดี อีกคนร่างกายอ่อนแอยิ่งกว่าภรรยาข้าอีก คนสุดท้าย…” เซี่ยสือชีมองหนานกงมั่วด้วยท่าทางเศร้าสร้อย กัดฟันพลางเอ่ย “มีเจ้าของแล้ว”

หนานกงมั่วถอนหายใจ “บนโลกใบนี้หญิงงามมากมาย คุณชายพยายามหาต่อไปอย่างไรก็จะได้เจออย่างแน่นอน”

เซี่ยสือชีกะพริบตา “แม่นาง เจ้าต้องรู้จักหญิงงามไม่น้อย มีแนะนำให้ข้าสักคนสองคนหรือไม่ ต่อให้ไม่ได้งดงามโดดเด่นมากมายคุณชายอย่างข้าก็รับได้”

ต่อให้มี เมื่อได้เห็นท่านที่นิสัยพิสดารก็คงไม่มีแล้ว นางไม่มีความสนใจผลักใครเข้าสู่กองไฟ

“ข้าถามได้หรือไม่ เรือนหลังของคุณชายเซี่ย ท่านสตรีที่ไม่ค่อยงดงามโดดเด่นมีกี่คนกัน” หนานกงมั่วเลิกคิ้วถาม

ดวงตาเซี่ยสือชีวาวขึ้นมา อดไม่ได้กำลังจะยื่นมือไปตบไหล่หนานกงมั่ว “แม่นางคนงามเป็นคนรู้ใจของคุณชายอย่างข้าจริงๆ…” มือข้างหนึ่งยื่นมาขวางมือที่กำลังจะตบลงไปของเขา เซี่ยสือชีกระตุกมุมปากดึงมือกลับคืน มักรู้สึกว่า…หากตบลงไปได้สำเร็จ ผลที่จะตามมาคงร้ายแรงมาก

“ในสวนดอกไม้หอม[1]ของคุณชายข้า ยามนี้มีดอกไม้ที่มีชื่อเสียงสิบสองต้น อีกทั้งดอกไม้หลากสีสันสามสิบหกดอก คุณชายข้าต้องการใครสักคนที่มาเป็นผู้นำเหล่านางฟ้างดงาม เจ้ามีความเห็นเยี่ยงไร” เซี่ยสือชีเอ่ยถามอย่างความกระตือรือร้น

หนานกงมั่วเงียบไปนานก่อนจะเอ่ย “เยี่ยมมาก ยิ่งใหญ่มาก”

ทางด้านพวกเขา คุณชายเว่ยนั่งดื่มชาเงียบๆ หนานกงมั่วและเซี่ยสือชีมาคุยถึงสวนดอกไม้หอมของเซี่ยสือชี ไม่มีผู้ใดรู้สึกว่าไม่มีอันใดไม่ถูก ทว่าทางด้านหันอิงอานที่นั่งอยู่ตรงข้ามกลับทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว อดไม่ได้ลุกขึ้นหันมาเอ่ยเสียงดังกับทั้งสามคน “คุณชายเว่ย ท่านตามใจซิงเฉิงจวิ้นจู่เยี่ยงนี้หรือ ช่าง…” ไม่รู้ว่านึกถึงเรื่องที่ทั้งสองสยบเขาเมื่อคืน หรือเพราะไม่มีคำจะเอ่ยออกมา แต่เพียงคิดก็รู้ว่าไม่ใช่วาจาน่าฟังแต่อย่างใด

[1] สวนดอกไม้หอม หมายถึงบรรดานางสนมของหนิงอ๋อง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *