หมอหญิงยอดมือสังหาร 676 คืนกลับ (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 676 คืนกลับ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 676 คืนกลับ (2)
“ไม่คิดว่า…จะได้รู้จักกับซิงเฉิงจวิ้นจู่ ช่าง…เป็น วาสนา ของชีวิตเสียจริง” หลูอวิ๋นเฟินกล่าวเน้นย้ำในคำพูด

หนานกงมั่วหันกลับไปมองเขาเล็กน้อย เอ่ย “สกุลหลูทรยศประเทศ อย่างไรหลูฉี่หลินก็ต้องตาย ข้าช่วยเจ้าออกมาเพียงเพราะเจ้าเป็นคนดี หากเจ้าคิดว่าข้าทำพลาดไป…” หนานกงมั่วโยนกริชลงไปบนพื้น เป็นกริชที่หลูอวิ๋นเฟิงลอบเอาให้หนานกงมั่วในวันนั้น ได้ยินหนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าจะฆ่าตัวตายก็ได้ ข้าไม่ห้าม ขอเพียงตระกูลหลูมิได้มีใจทรยศทั้งหมด ข้ารับรองว่าจะรักษาชีวิตคนบริสุทธิ์เอาไว้”

หลูอวิ๋นเฟิงหยิบกริชขึ้นมา หลับตาครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะลืมตาขึ้น เอ่ย “ไม่ ข้าจะกลับไปกับพวกเจ้า”

หนานกงมั่วพยักหน้า กระตุกแส้ในมือให้คลายออกจากเอวของหลูอวิ๋นเฟิง

ในตอนที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ฝั่งที่กำลังต่อสู้นั้นถูกเว่ยจวินมั่วฟันล้มระเนระนาด ยังเหลือคนรอดชีวิตอยู่เพียงไม่กี่คน แต่ก็ไม่อาจลุกขึ้นมาได้แล้ว คุณชายเว่ยถือกระบี่อ่อนอาบไปด้วยเลือดเดินตรงเข้ามาหาพวกเขา สะบัดไล่หยดเลือดที่เกาะอยู่บนกระบี่ออก เว่ยจวินมั่วเก็บมันเข้าฝักไป เอ่ยเสียงเข้ม “พวกเราไปกันเถิด”

“แล้วพวกนั้น…” หนานกงมั่วเชิดปลายคางชี้ไป เอ่ยถาม

เว่ยจวินมั่ว เอ่ย “ไม่ต้องสนใจพวกเขา”

หนานกงมั่วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ นี่คิดจะข่มขู่กงอวี้เฉินหรือ

เสียงม้าวิ่งตรงมาทางนี้ หนึ่งคนขี่ม้านำมาอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันใกล้มาถึงก็ส่งเสียงดังขึ้น “พวกเจ้าสองคน หยุดเดี๋ยวนี้”

หนานกงมั่วหัวเราะขึ้นมา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หัวหน้าหวัง อันใดกันหรือ” ด้านหลังหวังป้ามีคนขี่ม้าน้อยใหญ่นับร้อยตามมา อีกทั้งทุกคนต่างมีสัมภาระติดมาด้วย ดูแล้วไม่เหมือนตามมาส่ง

หวังป้ากระโดดลงจากหลังม้า เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าสองคน…ทำให้ข้าต้องลำบาก”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว หวังป้าเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ข้าช่วยพวกเจ้าเผาค่ายทหารของฮูตุน ยังไม่ทันได้เงินหรือผลประโยชน์ใด พวกเจ้าก็คิดหนีไปแล้วอย่างนั้นหรือ” ตกลงกันไว้แล้วว่าแบ่งสินค้าของตระกูลหลูครึ่งต่อครึ่ง สินค้าเล่า แล้วที่บอกว่าจะจ่ายเงินเล่า เงินที่พวกเขาจะจ่ายคือทหารเป่ยหยวนมาล้อมรังหรือ ดีที่เขาเตรียมพร้อม มิเช่นนั้นคงต้องตายเพราะสองคนนี้แน่

หวังป้ากำลังจะเอ่ยบางอย่าง ทว่าหางตาพลันเหลือบไปเห็นศพที่กองอยู่ไม่ไกลและร่างที่กำลังจะกลายเป็นศพ แทบหยุดหายใจไปทันที เหล่าโจรที่ตามหลังมาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า มองเห็นภาพตรงหน้าไม่เพียงคนที่ความเย่อหยิ่งหดหาย แม้แต่ม้าเองก็ยังกระสับกระส่ายขึ้นมา

หนานกงมั่วรู้สึกผิดขึ้นมา พวกนางมัวแต่หนีจนลืมหวังป้าไปแล้ว พวกนางหนีออกมาได้เพราะหวังป้าพาคนไปล้อมเผาค่ายทหารเอาไว้ ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นมาไม่น้อย

“นี่พวกเจ้า…” หนานกงมั่วมองคนอื่นๆ หวังป้าคงไม่ได้พาคนทั้งหมู่บ้านย้ายออกมาได้ไวขนาดนี้หรอกกระมัง หรือว่านางดูถูกคนผู้นี้เกินไปอย่างนั้นหรือ

หวังป้าส่งเสียงหยัน เอ่ยด้วยความภาคภูมิใจ “ก่อนเข้าไปในกองทัพ เจ้าให้ข้าเตรียมคนมารอรับพวกเจ้า ข้าก็รู้แล้วว่าพวกเจ้าคงต้องทำอันใดบ้าๆ เป็นแน่ จึงสั่งให้ทุกคนเก็บข้าวของมารออยู่ที่ตีนเขา พวกเจ้าก็คิดจะเบี้ยวจริงๆ ด้วย”

เดิมคิดว่าคงจะย้ายเพียงชั่วคราวเท่านั้น รอเรื่องซาลงแล้วค่อยกลับไป ไม่คิดว่าเจ้าสองคนนี้จะสร้างความวุ่นวายแล้วคิดหนีไป หวังป้าจึงตัดสินใจพาคนมาตามล่า เพราะทั้งสองคนทำให้เขาต้องสูญเสียบ้าน หากสองคนนี้ไม่ยอมจ่ายเขาไม่มีวันเลิกราแน่ ต่อให้ต้องตามเข้าไปถึงในด่านเขาก็จะตามไปคิดบัญชีให้ได้

คุณชายเว่ยกวาดตามองหวังป้า หวังป้าหุบปากลงทันที อดกลืนน้ำลายไม่ได้ ความจริง…เขาอาจจะทำอันใดผิดพลาดไปแล้วก็ได้ที่คิดไล่ตามปีศาจซาเสินผู้นี้มา… สมองของเขาคงถูกประตูหนีบอัดจนบ้าไปแล้วแน่ๆ หันไปมองร่างที่ถูกตัดแขนตัดขา หวังป้าจึงหัวเราะขึ้นมา “เอ่อ…บังเอิญทีเดียว พวกเราตั้งใจจะย้ายถิ่นฐานไม่คิดว่าจะมาเจอพวกเจ้าอยู่ที่นี่”

เหล่าโจรทั้งหลายแทบอยากยกมือขึ้นปิดหน้า มีหัวหน้าเช่นนี้ช่างน่าขายหน้านัก

เว่ยจวินมั่วมองหวังป้า เอ่ยเสียงเข้ม “กลับในด่านกับพวกเรา”

หวังป้ารีบส่ายศีรษะ “ไม่ได้หรอก” พวกเขาเป็นโจร กลับเข้าไปไม่ว่าเยี่ยนอ๋องหรือหนิงอ๋องจับได้ พวกเขาก็ต้องตายทั้งนั้น

เว่ยจวินมั่วเอ่ย “อดีตที่ผ่านมาลืมสิ้นไปเสีย หากยังกล้าสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน จุดจบของพวกเขาก็คือจุดจบของพวกเจ้า”

“…” คนของสำนักหอธาราที่นอนใกล้ตายอยู่บนพื้น พวกข้าไม่ได้ไปทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนนะ

หวังป้าลังเลเล็กน้อย เขาพาคนตามมาด้วยแน่นอนว่ามีความคิดอยากติดตามกลับจงหยวน ครั้งนี้คนที่ติดตามเขามาเองก็เป็นคนที่พาออกมาจากในด่าน อย่างไรเสียเกิดเรื่องใหญ่เพียงนี้พวกเขาก็คงอยู่นอกด่านต่อไปไม่ได้แล้ว แต่เขาก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าติดตามเว่ยจวินมั่วกลับไปนั่นดีหรือไม่ เกิดเว่ยจวินมั่วกลับไปแล้วคิดตลบหลังพวกเขา…

เว่ยจวินมั่วส่งเสียงหยัน โยนป้ายไปยังมือของหวังป้า หวังป้ารีบหยิบขึ้นมาดู ตรงกลางของเท้ามังกรบนป้ายทองคำนั้นมีตัวอักษร เยี่ยน ตัวใหญ่ หวังป้ากำป้ายทองในมือแน่น “เจ้าเป็นคนของเยี่ยนอ๋องหรือ”

เว่ยจวินมั่วคร้านจะสนใจเขา เพียงเอ่ยถาม “ไปหรือไม่ไป”

หวังป้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ กัดฟัน พยักหน้า “ไป”

เมื่อทั้งสองมา ก็ได้พาเหล่ากองโจรกลับไป คุณชายเว่ยช่างมีวาสนากับความมืดดำ ไม่เป็นหัวหน้ามือสังหารก็เป็นหัวหน้าโจร หนานกงมั่วครุ่นคิดพลางยิ้มจนตาหยี

มาก่อเรื่องในพื้นที่ของคนอื่นแน่นอนว่าต้องได้รับผลที่จะตามมา หนานกงมั่วเข้าใจหลักการนี้ดี ดังนั้นพวกเขาจึงหลบหลีกทหารเป่ยหยวนและมุ่งหน้ากลับสู่เขตชายแดนให้เร็วที่สุดโดยไม่หยุดพัก ทว่ากลับถูกกองทัพเป่ยหยวนตามมาทันเมื่ออยู่ห่างจากเขตชายแดนประมาณสิบลี้

มองดูกองกำลังทหารม้าที่วิ่งตามมาจนพื้นดินสั่นสะเทือน หวังป้าที่ตามพวกเขาอยู่ด้านข้างอดตัวสั่นไม่ได้ เอ่ย “ตอนนี้จะทำอย่างไร”

หนานกงมั่วยิ้ม เอ่ย “จะทำอย่างไรได้ สู้สิ”

หวังป้ายกนิ้วชี้หน้านาง ปลายนิ้วสั่นระริก “สู้หรือ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน เป็นเทพหล่นลงมาจากสวรรค์หรืออย่างไร ทหารพวกนั้น…แม้แต่กีบม้ายังสามารถเหยียบคนน้อยนิดอย่างพวกเราให้ตายได้เลย แย่แล้ว แย่แล้ว…ติดตามพวกเจ้าช่างน่าปวดหัว ข้าช่างโชคร้ายที่ไปปล้นหายนะอย่างพวกเจ้า”

หนานกงมั่วไหวไหล่ “เช่นนั้นเจ้าว่าต้องทำเช่นไร”

“ตอนนี้ข้าไปร้องขอชีวิตจะทันหรือไม่” หวังป้าเอ่ยถาม

“เจ้าก็ลองดูเสียสิ” หนานกงมั่วตอบ

หวังป้ามองกองทัพทหารม้าที่วิ่งมายังพวกเขา กลืนน้ำลายลงไป “ช่างเถิด…ข้าเป็นคนรักพวกพ้อง จะไปกลัวตายได้อย่างไร เพียงแต่…รู้สึกผิดกับเหล่าพี่น้องก็เท่านั้น”

หนานกงมั่วหัวเราะที่แกล้งเขาได้ เอ่ย “วางใจเถิด เจ้าไม่ตายหรอก ที่นี่ห่างจากเขตชายแดนเพียงสิบกว่าลี้ เจ้าคิดว่ากองทัพเป่ยหยวนมากมายเพียงนี้มุ่งหน้ามายังเขตชายแดน ทหารประจำชายแดนจะไม่รู้ตัวหรือ”

หวังป้ามองนางอย่างเย้ยหยัน “แน่นอนว่าข้ารู้ แต่ทหารเฝ้าประจำการที่ชายแดนจะมาต่อสู้เพื่อพวกเรา…” หวังป้ายังเอ่ยไม่ทันจบ ไกลออกไปพลันมีเสียงม้าวิ่งดังเข้ามา

หนานกงมั่วหัวเราะเบาๆ ตีเบาๆ ไปที่ม้า เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “รีบไปเถิด กองหนุนมาแล้ว”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *