หมอหญิงยอดมือสังหาร 885 การเป็นขุนนาง จบที่ความภักดี (2)
ตอนที่ 885 การเป็นขุนนาง จบที่ความภักดี (2)
“เช่นนั้นแล้วอย่างไร” เว่ยหงเฟยปรายตามองซังหรง เอ่ย “ในเมื่อแม่ทัพซังไม่ต้องการประจำการที่เอ้อโจว ก็นำกองกำลังไปประจำการที่ชิงหยางเถิด”
“ท่านอ๋อง” น้ำเสียงของซังหรงมีความโกรธเพิ่มขึ้นมา อำเภอชิงหยางเป็นเพียงอำเภอเล็กๆ ในเขตเอ้อโจว ไม่ได้เป็นปราการทางทหารหรือศูนย์กลางทางการค้า ยิ่งไม่มีชัยภูมิอันตรายสำคัญใดๆ จำเป็นต้องคุ้มกัน แม้แต่กองกำลังประจำการณ์ก็มีเพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น เว่ยหงเฟยเอ่ยเช่นนี้เห็นชัดว่ากีดกันเขาออกจากกองกำลังรักษาการณ์เอ้อโจว
เว่ยหงเฟยไม่รอเขาเอ่ยวาจา หยิบแผ่นพับเล่มหนึ่งโยนไปบนโต๊ะตรงหน้าของซังหรง “นี่คือสิ่งที่ฝ่าบาทส่งม้าเร็วมาให้ เจ้ารีบอ่านดูเถิด”
ซังหรงยื่นมือไปหยิบแผ่นพับขึ้นมาดู ในใจเย็นวูบขึ้นมา รายงานที่เขาเขียนถวายฮ่องเต้ ฮ่องเต้ไม่เปิดอ่านแม้เพียงนิดทว่ากลับส่งกลับมาให้เว่ยหงเฟย ความหมายที่แฝงอยู่ไม่ต้องเอ่ยก็คงรู้ ดวงตาเว่ยหงเฟยมีความพึงพอใจ เอ่ย “ราชโองการจากฝ่าบาท ซังหรงขัดต่อคำสั่งทหาร หลอกลวงเบื้องบน ปลดเป็นพลทหารทั่วไป”
ใบหน้าของซังหรงเย็นชา ไม่ปล่อยให้เว่ยหงเฟยได้เห็นท่าทางผิดหวังหรือพ่ายแพ้แม้เพียงนิด ทำให้เว่ยหงเฟยที่กำลังมีความสุขรู้สึกเสียดายขึ้นมา เพียงแต่การกำจัดซังหรงออกไปจากกองทัพได้นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ตราบใดที่ไม่มีซังหรงมาแทรกแซง เขาคิดจะปราบนายทหารชั้นสูงเหล่านั้นแน่นอนว่าง่ายลงไปมาก
ซังหรงมองท่าทางลำพองใจของเว่ยหงเฟยที่เดินจากไป จากนั้นนั่งเงียบไม่เอ่ยวาจาอยู่นาน
“ท่านแม่ทัพ พวกเราควรทำเช่นไรขอรับ” ด้านข้าง องครักษ์เอ่ยถามเสียงเบา ขณะเดียวก็รู้สึกไม่ยุติธรรม “คิดไม่ถึงว่าฝ่าบาทจะ…”
ซังหรงถอนหายใจ “เดิมจวิ้นอ๋องก็มีความสงสัยมากอยู่แล้ว มีความสัมพันธ์กับฮุยเอ๋อร์เรื่องนี้ ยากที่ฝ่าบาทจะเชื่อใจข้าได้ เพียงแต่ข้าไม่คิดว่าแม้แต่คำของข้าฝ่าบาทยังไม่ยอมรับฟัง” จดหมายที่ซังหรงเขียนไม่ได้รายงานถึงเว่ยหงเฟย และไม่ได้คาดหวังว่าเพียงจดหมายรายงานฉบับเดียวจะกลับไปคุมกองกำลังรักษาการณ์เอ้อโจวได้ ในจดหมายเพียงเขียนวิเคราะห์ถึงสถานการณ์และแผนการที่หุบผาอี๋เซี่ยน เดิมทีคิดว่าฝ่าบาทอ่านแล้วอาจจะส่งแม่ทัพคนใหม่มา เสียดสีเว่ยหงเฟยได้บ้าง น่าเสียดาย…ไม่มีสิ่งใดทั้งนั้น
“หรือว่าพวกเราจะเป็นดั่งคำของเว่ยหงเฟย ไปประจำการ…อำเภอชิงหยางหรือขอรับ” องครักษ์มีสีหน้าราวกับเหยียบอุจจาระ อำเภอชิงหยางสถานที่แบบนั้นมีสิ่งใดให้ดูแลกัน ต่อให้กองกำลังไท่หนิงโจมตีมาถึงก็คงไม่ส่งคนไปประจำการที่อำเภอชิงหยางอย่างแน่นอน บางทีข้อดีเดียวที่อำเภอชิงหยางมีก็คืออยู่ใกล้กับเอ้อโจวและหุบผาอี๋เซี่ยนเท่านั้นแล้วกระมัง ท่านแม่ทัพจะไปอยู่ที่นั่นจริงหรือ ไม่สนใจเรื่องเอ้อโจวแล้วหรือ
ซังหรงหลุบตาลง “ไม่อาจขัดราชโองการฝ่าบาท คำสั่งทหารดุจภูเขา ช่างเถิด ไปเตรียมตัวเถิด”
องครักษ์พยักหน้าแล้วเดินออกไปเงียบๆ ซังหรงนั่งเงียบอยู่หลังโต๊ะหนังสือเนิ่นนานก่อนจะหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ได้เขียนหาเซียวเชียนเยี่ยแล้ว ทว่าเป็นเอ้อกั๋วกง หยวนชุนที่มีอายุมากแล้ว หวังว่าคงจะทัน เพียงหวังว่าท่านกั๋วกงจะได้รับจดหมายของเขา นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำเพื่อต้าเซี่ยได้
ผู้ส่งสารคนหนึ่งเดินทางออกจากกองทัพมุ่งหน้าไปยังจินหลิงโดยไว ทว่ากลับถูกขัดขวางเมื่อตอนที่อยู่ห่างจากเอ้อโจวออกไปไกลถึงร้อยลี้ หนานกงชวี่ที่อยู่ในชุดสีดำ ควบม้าเข้ามาใกล้ผู้ส่งสารที่ล้มอยู่บนพื้น ออกคำสั่ง “เอาตัวเขาออกไปเถิด”
ชายชุดดำสองคนเดินเข้าไปจับตัวคนที่ล้มสลบไปขึ้นมา ค้นเจอจดหมายปิดผนึกบนร่างกายของเขาหนึ่งฉบับ คนหนึ่งยื่นจดหมายให้หนานกงชวี่ อีกคนกลับพาคนผู้นั้นหายไปในป่าลึก หนานกงชวี่รับจดหมายมา เปิดซองจดหมายและหยิบจดหมายด้านในออกมาโดยไร้ความลังเล
ผ่านไปชั่วครู่ ก่อนจะยัดจดหมายกลับเข้าไป ยื่นไปให้คนข้างกาย เอ่ย “ส่งกลับไปให้เว่ยจวินมั่วเถิด”
“ขอรับ คุณชายหนานกง”
หนานกงชวี่เอ่ยเสียงเบา “ช่างเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ที่หาได้ยาก” น่าเสียดาย…เซียวเชียนเยี่ยกลับไม่ได้เชื่อใจขุนนางซื่อสัตย์ผู้นี้ ไม่เช่นนั้นซังหรงก็คงไม่ถูกบีบจนต้องเขียนจดหมายหาเอ้อกั๋วกง น่าเสียดาย จดหมายฉบับนี้เอ้อกั๋วกงคงไม่ได้เห็นแล้ว
“ตอนนี้ซังหรงอยู่ที่ใด” หนานกงชวี่เอ่ยถาม
องครักษ์เอ่ยเสียงเบา “ซังหรงถูกเว่ยหงเฟยส่งไปอยู่ที่ชิงหยางขอรับ ตอนนี้คงอยู่ระหว่างทางแล้ว”
หนานกงชวี่พยักหน้า ครุ่นคิดอยู่นาน เอ่ย “เช่นนั้นพวกเราเองก็ไปด้วย”
“คุณชายหนานกงก็จะไปชิงหยางหรือขอรับ”
หนานกงชวี่เอ่ย “จะไปชิงหยางหรือไม่ไม่เป็นไร ขอเพียงได้เจอกับแม่ทัพซังและได้พูดคุยดีๆ ก็เพียงพอแล้ว ต่อให้ไม่อาจเกลี้ยกล่อมแม่ทัพซังในเวลาเพียงชั่วครู่ อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาไม่กลับไปช่วยเว่ยหงเฟยก็พอ” องครักษ์เอ่ย “ไยพวกเราจึงไม่จับตัวแม่ทัพซังกลับไปด้วยเล่าขอรับ ก่อนหน้านี้ไม่ง่ายเพราะอยู่ในกองทัพ แต่ว่าครั้งนี้ซังหรงถูกลดขั้นส่งไปอยู่ที่ชิงหยางคงมีทหารติดตามไปไม่มาก”
หนานกงชวี่ยิ้มเย็น เอ่ย “คนอย่างซังหรง หากไม่ใช่เพราะเขายอมไปกับเจ้า เจ้าจับตัวเขาครั้งนี้ เวลาต่อมาเขาก็จะตายให้เจ้าดูได้เช่นกัน พวกเราไปกันเถิด”
“ขอรับ”
ซังหรงนำทหารไปเพียงไม่กี่สิบนายมุ่งหน้าไปชิงหยางจริงๆ ดังนั้นเมื่อเจอหนานกงชวี่นั่งดื่มชาอยู่ในเพิงน้ำชาที่อยู่ห่างจากชิงหยางไม่กี่สิบลี้จึงอดตกใจไม่ได้ ซังหรงไม่สนิทสนมกับหนานกงชวี่นัก ต่อให้เขาเป็นพี่ใหญ่ของบุตรเขยของตนก็ตาม แต่ว่าเรื่องราวของหนานกงชวี่ที่เขาได้ยินมาก็มีไม่น้อย คุณชายใหญ่หนานกงผู้นี้เมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้นเงียบเชียบไร้ข่าวคราว แต่สุดท้ายที่น่าตกใจที่สุดคือเขาได้ทำลายจวนฉู่กั๋วกงจนย่อยยับไปด้วยกัน อีกทั้งก่อนหน้านั้นยังส่งน้องชายน้องสาวแยกย้ายออกไปแต่งงาน แรกเริ่มหลายคนอาจคิดว่าเขากำลังแย่งชิงตำแหน่งกับน้องชายของเขา ต่อมาเกิดเรื่องของหนานกงไหวถึงได้เข้าใจ เห็นชัดว่าหนานกงชวี่วางแผนมานานแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นคนอย่างไร อย่างน้อยบุตรเขยที่บริสุทธิ์ไร้ความเจ้าเล่ห์ของเขาเองก็ตามไม่ทัน
“แม่ทัพซัง” หนานกงชวี่ยกถ้วยขึ้นมา เอ่ยเสียงเรียบ
ซังหรงยืนอยู่หน้าประตู ชะงักเท้าไปชั่วครู่ไม่นานก็กลับมาสงบนิ่งเช่นเดิม ก้าวเดินเข้าไปในเพิงน้ำชา พยักหน้าเบาๆ เอ่ย “คุณชายหนานกง คุณชายใหญ่หนานกงมาอยู่ที่นี่ได้เยี่ยงไร” หนานกงชวี่เองก็ไม่อ้อมค้อม “แน่นอนว่ามารอแม่ทัพซัง” ซังหรงขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงเข้ม “ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าข้ามีความสนิทสนมกับคุณชายใหญ่หนานกงเพียงนี้”
หนานกงชวี่ถอนหายใจเบาๆ “แม่ทัพซังเป็นพ่อตาของฮุยเอ๋อร์ จะใช่ความสนิทสนมหรือไม่นั้น ข้าไม่ต้องการให้น้องรองต้องเสียใจ แน่นอนว่าไม่อยากให้น้องสะใภ้ต้องโศกเศร้าเพราะสูญเสียบิดา”
ได้ยินเช่นนั้น ซังหรงจึงหัวเราะพร้อมกับนั่งลงตรงหน้าหนานกงชวี่ “หากคุณชายใหญ่หนานกงคิดจะมาเจรจาเพื่อคุณชายเว่ย เช่นนั้นก็เชิญกลับไปเถิด”
หนานกงชวี่ส่ายศีรษะ เอ่ย “แม่ทัพซังดึงดันเพียงนี้ไปจะมีประโยชน์อันใด ฝั่งฝ่าบาท ท่านลองไปแล้วมิใช่หรือ”
“คนของคุณชายเว่ย ข่าวสารรวดเร็วยิ่งนัก” ซังหรงเอ่ยเสียงเข้ม “อดีตฮ่องเต้มีบุญคุณกับข้า เป็นขุนนางจบที่ความซื่อสัตย์ ข้าเดินคนละเส้นทางกับคุณชายเว่ยและเยี่ยนอ๋อง คุณชายหนานกงเชิญกลับไปเถิด” หนานกงชวี่ส่ายศีรษะ เอ่ย “มุมมองของข้าและท่านแม่ทัพไม่เหมือนกัน”
“โอ้ ได้โปรดชี้แนะ” ซังหรงยิ้มเย็นพลางเอ่ยขึ้น
Comments