หมอหญิงยอดมือสังหาร 343 ความซวยที่โหมกระหน่ำ (3)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 343 ความซวยที่โหมกระหน่ำ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 343 ความซวยที่โหมกระหน่ำ (3)
สาวใช้ไม่เอ่ยวาจาอีก ราวกับมองไม่เห็นความโกรธเกรี้ยวของหร่วนอวี้จือ แม้จะเข้าไปไม่ได้ หร่วนอวี้จือกลับไม่ยอมจากไปง่ายๆ เช่นกัน เขากลับรั้งรออยู่ด้านนอกซีอวี้เซวียน ระหว่างนั้นสาวใช้ของฉินซีก็ทำเป็นไม่สนใจเขาราวกับมองไม่เห็น สองปีมานี้หร่วนอวี้จือนับว่าได้รับเกียรติจากจวนตระกูลฉินมาตลอด ใบหน้าไม่น่ามองขึ้นมาทันใด

เวลาหนึ่งเค่อผ่านไป ในที่สุดซีอวี้เซียนก็มีความเคลื่อนไหวขึ้นมาบ้าง หร่วนอวี้จือรีบลุกขึ้นมาดูทว่าเห็นฉินซีเดินพูดคุยหัวเราะออกมากับหนานกงมั่ว ฉินซีร่างกายอ่อนแอ นานแล้วที่ไม่ได้ออกจากซีอวี้เซวียน แม้แต่นายท่านฉินและฉินฮูหยินมาเยี่ยมยังไม่ยอมให้นางเดินออกมาส่ง ตอนนี้ฉินซีกลับเดินออกมาส่งหนานกงมั่วด้วยตัวเอง เห็นได้ชัดว่าทั้งสองนั้นถูกชะตากันมากทีเดียว

หร่วนอวี้จือสีหน้าเข้มขึ้น ก้าวเดินเข้าไปใกล้ “ซีเอ๋อร์”

รอยยิ้มบนใบหน้าฉินซีเลือนหาย พยักหน้ารับเบาๆ “อวี้จือ ไยเจ้าจึงอยู่ที่นี่”

หร่วนอวี้จือกวาดตามองหนานกงมั่ว จ้องมองฉินซีพลางเอ่ย “ซีเอ๋อร์ ไยเจ้าจึงไม่ยอมพบข้า”

ฉินซีขมวดคิ้ว “จวิ้นจู่มาเยี่ยม ข้าจะทิ้งจวิ้นจู่มาหาเจ้าได้เยี่ยงไร สาวใช้มิได้บอกเจ้าหรือ” สาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูย่อตัวลง เอ่ยอย่างนอบน้อม “ตอบคุณหนู บ่าวบอกกับคุณชายหร่วนไปว่ามีแขกมาเยี่ยม คุณหนูไม่สะดวกพบเจ้าค่ะ” ฉินซีพยักหน้าเบาๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไยเจ้าจึงไม่กลับไปก่อนทว่ามายืนรออยู่เช่นนี้ นี่ค่อนข้าง…เกินไปสักหน่อย”

แน่นอนหร่วนอวี้จือรู้ว่าการรออยู่หน้าประตูไม่ดีนัก แต่ตอนนี้แต้มต่อที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือฉินซีแล้ว ไยจะไม่รีบคว้าเอาไว้ เหลือบมองหนานกงมั่วที่อยู่ด้านข้าง ดวงตาของหร่วนอวี้จือเผยความระแวดระวังและเป็นศัตรูออกมา “จวิ้นจู่ไยจึงมาอยู่ที่นี่ได้”

หนานกงมั่วชื่นชมการแสดงที่พลิกไปมาของหร่วนอวี้จือ เอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี “ข้าอยากเป็นเพื่อนกับซีเอ๋อร์ ทำไมหรือ ต้องรายงานกับคุณชายหร่วนหรือไม่ ซีเอ๋อร์ ข้าขอตัวลาแล้ว ไว้จะมาหาเจ้าใหม่” ฉินซีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ได้ ข้าจะรอเจ้า”

หนานกงมั่วโบกมือเดินออกไปอย่างร่าเริง ความจริง…นางยังอยากรู้ว่าต่อหน้าฉินซีหร่วนอวี้จือจะให้ร้ายนางเช่นไร

มองหนานกงมั่วที่เดินออกไปแล้ว หร่วนอวี้จือจึงรีบเอ่ยถาม “ซีเอ๋อร์ ซิงเฉิงจวิ้นจู่พูดสิ่งใดกับเจ้าหรือ”

ฉินซียิ้มบาง เอ่ย “เพียงพูดคุยไปเรื่อย ซิงเฉิงจวิ้นจู่มีประการณ์มากมายมีเรื่องเล่าน่าสนใจเยอะมากทีเดียว ยังบอกอีกว่าอีกสองวันจะกลับมา เล่าเรื่องน่าสนใจที่เจอในตานหยางให้ฟัง”

“อย่าไปฟังนางพูดเหลวไหล” หร่วนอวี้จือเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน

ฉินซีชะงัก ใบหน้าซีดขาวฉายแววสงสัย “อวี้จือ เจ้าทำอันใด ซิงเฉิงจวิ้นจู่ทำสิ่งใดให้เจ้าไม่พอใจหรือ”

หร่วนอวี้จือสงบสติอารมณ์ รู้ตัวว่าตัวเองพลาดไป รีบเผยรอยยิ้มฝืนออกมา “ได้อย่างไรกัน…เพียงแต่ ชื่อเสียงของซิงเฉิงจวิ้นจู่อยู่ข้างนอกไม่ดีเท่าใดนัก ซีเอ๋อร์ เจ้าอย่าไปมาหาสู่กับนางบ่อยๆ ได้หรือไม่”

“ชื่อเสียงไม่ดีหรือ”

หร่วนอวี้จือรีบเอ่ยตอบ “ก็ใช่น่ะสิ นางห่างเหินจากบิดาและพี่ชาย เรื่องราวที่นางต่อว่าแม่เลี้ยงและพี่สะใภ้โด่งดังไปทั่วเมืองหลวง นี่พึ่งแต่งงานออกเรือนไปไม่กี่วันก็ทำจนองค์หญิงฉังผิง ซื่อจื่อและจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องต้องแตกแยก สตรีเช่นนี้จะดีได้เยี่ยงไร”

ฉินซีขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างไม่พอใจ “อวี้จือ มั่วเอ๋อร์คือเพื่อนของข้า เจ้าพูดถึงนางเช่นนี้ได้อย่างไร ข้าไม่ชอบ จะกลับไปพักผ่อนแล้ว เจ้าก็รีบกลับไปเถิด”

เอ่ยจบ ไม่สนว่าหร่วนอวี้จือมีปฏิกิริยาเช่นไร ฉินซีก็หมุนตัวเดินเข้าไปในซีอวี้เซวียน

“ซีเอ๋อร์”

“คุณชายหร่วน คุณหนูจะพักผ่อนแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ก้าวขึ้นมาขวางทางหร่วนอวี้จือ แน่นอนหร่วนอวี้จือไม่มีสิทธิ์มาก่อความวุ่นวายในจวนตระกูลฉิน ทำได้เพียงเดินจากไปอย่างแสนเสียดาย

ส่งหนานกงมั่วและลิ่นฉังเฟิงแล้ว ฉินจื่อซวี่ก็เดินกลับไปยังซีอวี้เซวียน มองเห็นว่าฉินซีกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่าง ท่าทางไม่ต่างจากปกติ ฉินจื่อซวี่ถอนหายใจนึกเชื่อคำพูดของหนานกงมั่วขึ้นมา บางทีซิงเฉิงจวิ้นจู่ก็เอ่ยไม่ผิด น้องสาวของเขาไม่ได้อ่อนแอเหมือนภาพลักษณ์ภายนอก

ฉินซีเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ “พี่ใหญ่ มั่วเอ๋อร์กลับแล้วหรือเจ้าคะ”

“มั่วเอ๋อร์หรือ” ฉินจื่อซวี่เลิกคิ้ว เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนเจ้ากับซิงเฉิงจวิ้นจู่จะถูกชะตากัน” ฉินซียิ้มบางๆ “สตรีเยี่ยงซิงเฉิงจวิ้นจู่ ใครจะไม่ชอบบ้าง”

ฉินจื่อซวี่ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ สตรีเช่นซิงเฉิงจวิ้นจู่สามารถทำให้คนชื่นชมได้ง่ายๆ และขณะเดียวกันคนที่ไม่ชอบก็มีไม่น้อย ฉินจื่อซวี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ “ซิงเฉิงจวิ้นจู่บอกว่าอีกไม่กี่วันจะให้คนส่งใบสั่งยามาให้ หากมีโอกาสนางจะเชิญอาจารย์และศิษย์พี่ของนางมาช่วยตรวจอาการเจ้า ซีเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล” บอกว่าไม่ผิดหวังก็คงโกหก แต่ฉินจื่อซวี่ก็เข้าใจอาการของฉินซีเป็นอย่างดี หากมีวิธีรักษาถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ไม่มีวิธีรักษาถือว่าไม่เกินความคาดหมาย

ฉินซีหยิบยาสองขวดมาไว้ตรงหน้า “นี่คือยาที่มั่วเอ๋อร์ให้มา” ขณะเดียวกันก็อธิบายตามที่หนานกงมั่วบอกมา ฉินจื่อซวี่เปิดฝาออกมาดมกลิ่น กลิ่นอ่อนๆ ของยาเข้าสู่จมูก ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมา แม้ไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร แต่สามารถสัมผัสได้ว่าต้องเป็นยาชั้นยอด โดยเฉพาะยาคืนชีพจรขวดนั้น ฉินจื่อซวี่เก็บให้เรียบร้อยและส่งให้ฉินซี “เก็บไว้ให้ดี อย่าให้ห่างจากตัว พรุ่งนี้ตอนที่หมอหลวงมา ให้ท่านหมอดูยาบำรุงขวดนี้ หากต้องใช้เป็นเวลานานเราจะทำเองได้หรือไม่ คงจะรบกวนจวิ้นจู่ส่งยามาให้ไม่ได้”

ฉินซีพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว พี่ใหญ่”

มองฉินซี ฉินจื่อซวี่เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยถาม “ซีเอ๋อร์ เรื่องหร่วนอวี้จือเจ้าคิดอย่างไร”

“พี่ใหญ่จะยอมบอกข้าแล้วหรือเจ้าคะ”

ฉินจื่อซวี่พยักหน้าหนักๆ เวลาหลายวันมานี้ก็เพียงพอให้ฉินจื่อซวี่ได้สืบเรื่องราวของหร่วนอวี้จืออย่างชัดเจนแล้ว แม้คนที่ส่งไปสืบข่าวที่ตานหยางจะยังไม่กลับมา แต่หลายปีมานี้หร่วนอวี้จืออยู่ในจินหลิงก็ไม่ได้อยู่เฉย เมื่อก่อนเพราะตระกูลฉินไม่มีใครสงสัยว่าหร่วนอวี้จือปกปิดสิ่งใดอยู่ แต่หากตระกูลฉินจะสืบขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะยากเพียงใดย่อมพบเจอได้ในที่สุด อย่างไรเสียเมื่อไม่มีตระกูลฉินแล้ว หร่วนอวี้จือก็เป็นเพียงบัณฑิตยากจนคนหนึ่งเท่านั้น

ฉินจื่อซวี่เล่าทุกอย่างที่สืบได้ในหลายวันมานี้โดยละเอียด แม้กระทั่งเรื่องที่หร่วนอวี้จืออาจจะเป็นสายลับที่ฮ่องเต้ส่งเข้ามาอยู่ในตระกูลฉินก็ไม่ปิดบัง ฟังสิ่งที่ฉินจื่อซวี่เล่าให้ฟังจบแล้วฉินซีก็นิ่งเงียบไม่เอ่ยสิ่งใด ในตอนที่น้ำเสียงของฉินจื่อซวี่กำลังติดขัด จึงได้เอ่ยขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็แล้วแต่พี่ใหญ่จะจัดการเลยเจ้าค่ะ”

“ซีเอ๋อร์ เจ้าไม่สนใจหรือ” ฉินจื่อซวี่เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง สองปีมานี้น้องสาวเรียกได้ว่าเชื่อฟังหร่วนอวี้จือ มีความรักลึกซึ้ง ดังนั้นตระกูลฉินจึงคอยระมัดระวัง กลัวว่าฉินซีจะทิ้งหร่วนอวี้จือไม่ได้และทำร้ายตนเอง

ฉินซียิ้มบาง “พี่ใหญ่คิดมากเกินไปแล้วเจ้าค่ะ คนที่ข้าชอบเดินเขาก็ไม่มีตัวตนไม่ใช่หรือ ฉินซีไยต้องเก็บของปลอมเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้น…การมีอยู่ของเขาเป็นอันตรายต่อตระกูลฉิน” อย่ากล่าวหาว่านางไม่ใช้ความรู้สึกในการรักแบบที่คนอื่นคิด ต่อให้เป็นเช่นนั้นจริงๆ ในเมื่อหร่วนอวี้จือเลือกแล้วว่าจะเป็นศัตรูกับตระกูลฉิน เช่นนั้นแล้วก็ย่อมเป็นศัตรูของนางด้วย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *