หมอหญิงยอดมือสังหาร 464 แต่งตั้ง (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 464 แต่งตั้ง (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 464 แต่งตั้ง (2)
“องค์หญิงฉังผิงมองเซียวเชียนเยี่ยอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ย “ฝ่าบาทยังรู้จักคำว่ากตัญญูก็ดี” ดวงตาของเซียวเชียนเยี่ยหดเกร็ง รอยยิ้มแข็งขึ้น “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว”

องค์หญิงฉังผิงถอยไปหนึ่งก้าว มองไปยังพระสนมหลินกุ้ยเฟยที่นอนอยู่บนพื้น เอ่ย “เรื่องต่อจากนี้ของพระสนมหลินกุ้ยเฟย ไม่รู้ฝ่าบาทและผู้สำเร็จราชการแทนคิดจะจัดการเยี่ยงไร”

เซียวเชียนเยี่ยกับพระสนมหลินกุ้ยเฟยมิได้มีความแค้นต่อกัน ตอนนี้คนตายไปแล้วเรื่องอื่นจึงง่ายขึ้น ได้ยินที่องค์หญิงฉังผิงเอ่ยถาม จึงรีบเอ่ย “พระสนมหลินกุ้ยเฟยมีความรักลึกซึ้งต่อเสด็จปู่ ยินดีถูกฝังไปพร้อมกับเสด็จปู่ แต่งตั้งเป็นหวงกุ้ยเฟย[1]”

“เอาเช่นนั้นเถิด” องค์หญิงฉังผิงกล่าวอย่างเบื่อหน่าย นางเข้าใจว่าเรื่องมาถึงจุดนี้แล้วไม่มีอันใดต้องถกเถียงแล้ว ต่อให้เถียงอย่างไรคนก็ตายไปแล้ว อย่างไรวังหลวงแห่งนี้ยามนี้นั้นเป็นถิ่นของเซียวเชียนเยี่ยและเซียวฉุน

ไม่นานก็มีคนเข้ามาจัดการกับร่างของพระสนมหลินกุ้ยเฟย พระสนมที่เรียกว่าได้รับความโปรดปราน หากจากไปเมื่อครั้งที่อดีตฮ่องเต้ยังอยู่ แน่นอนคงจัดพิธียิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้กลับถูกคนยกออกไปฝังเท่านั้น สุดท้ายถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นหวงกุ้ยเฟยเพียงเท่านั้น หากพระสนมหลินกุ้ยเฟยไม่ตายในเวลานี้ หากอยู่ในวังหลวงต่อไปจากนี้ ตายไปยามใดก็คงไม่มีใครรับรู้

เซียวฉุนยังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น ไม่คิดจะหลบให้ฝ่าบาทเลยแม้แต่น้อย และเซียวเชียนเยี่ยรู้สึกไม่พอใจที่ไม่มีที่สำหรับพระองค์จึงโกรธและไม่พอใจยิ่งขึ้น ราวกับมองไม่เห็นความสนุกสนานของเซียวฉุน หนานกงมั่วที่มองได้แต่ส่ายศีรษะอยู่ในใจ ท่าทางเช่นนี้ของเซียวเชียนเยี่ย หากไม่เพราะตนเองนั้นมีความอดทนอดกลั้นมากเกินไป ไม่ก็อ่อนแอจนเกินไป ยามนี้คงอ่อนแอกว่าอีกฝ่ายแม้กระทั่งเรื่องที่สมควรยังไม่กล้าโต้แย้ง

มีความอดทนเกินไปเดิมทีก็เป็นความอ่อนแออย่างหนึ่ง

“จวิ้นจู่ เข้าวังมากะทันหันมีเรื่องอันใดหรือไม่ คงไม่ใช่บังเอิญมาหาพระสนมหรอกใช่หรือไม่” เซียวฉุนมองหนานกงมั่วและเอ่ยถาม

หนานกงมั่วเงยหน้ามองเซียวฉุน ยิ้มบาง เอ่ย “ผู้สำเร็จราชการแทนคิดมากแล้ว หนานกงมั่วเพียงเข้าวังมาเป็นเพื่อนเสด็จแม่เคารพพระศพของอดีตฮ่องเต้เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีเรื่องอื่นใด” เซียวฉุนส่งเสียงหยัน คล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้มมองไปยังหนานกงมั่ว เห็นชัดว่าไม่เชื่อสิ่งที่นางบอก

“ได้ยินว่าเมื่อวานจวิ้นจู่กลับจวนฉู่กั๋วกงหรือ” เซียวฉุนเอ่ยถาม

เอ่ยถึงเรื่องนี้ หนานกงมั่วพลันรู้สึกดีขึ้นมาในใจ ยิ้มหวาน “ใช่แล้วเพคะ ท่านพ่อยังสั่งสอนข้าว่าให้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ทำงานรอบคอบและทุ่มเทสติปัญญาให้ถึงที่สุด” รอยยิ้มบนใบหน้าเซียวฉุนจางลงไปมาก เห็นได้ชัดว่าการดึงหนานกงไหวมาเป็นพวกเขาอาจจะพบกับกำแพงแล้ว อย่างไรหนานกงไหวก็มีบุตรีเป็นเชื้อสายรองของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ มีแนวโน้มที่จะจงรักภักดีต่อฮ่องเต้องค์ใหม่ หากหนานกงไหวมีสมองสักนิดก็คงไม่มีทางไปเลือกเซียวฉุนที่อายุมากทว่าไม่มีอันใดโดดเด่น

ดังนั้น เซียวเชียนเยี่ยจึงรู้สึกลำพองขึ้นมา ตอนแรกยังรู้สึกเสียใจที่สร้างเรื่องใหญ่กับหนานกงซู ยามนี้แม้ดูเหมือนหนานกงซูถูกหนานกงไหวทิ้งขว้าง แต่เมื่อเทียบกับเซียวฉุนที่ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับหนานกงไหวนั้นดีกว่ามาก แม้ในวังมีขุนนางและองครักษ์ไม่น้อยที่อยู่ในกำมือของเซียวฉุน แต่ในกองทัพเขามีเอ้อกั๋วกง ฉู่กั๋วกงคอยสนับสนุน เซียวฉุนอยากควบคุมเขานั่นไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

ใบหน้าเซียวฉุนทะมึนลง มองใบหน้ายิ้มแย้มของหนานกงมั่ว เอ่ย “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ไม่เพียงฉลาดเกินใคร แม้แต่ฝีปากเองก็คมคายกว่าใคร”

“มิกล้า อย่างไรก็สู้ผู้สำเร็จราชการแทนมิได้” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ

ยามนี้องค์หญิงฉังผิงไม่มีความรู้สึกดีต่อเซียวเชียนเยี่ยและเซียวฉุนเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่ายอมเห็นเซียวฉุนพูดจาเสียดสีลูกสะใภ้ของตนไม่ได้ และไม่สนใจว่าเซียวฉุนเป็นผู้อาวุโสกว่า เอ่ยเสียงเรียบ “ในเมื่อที่นี่ไม่มีเรื่องอันใดแล้ว พวกเราคงต้องขอตัวก่อน”

เซียวเชียนเยี่ยมีเรื่องอยู่ในใจ จึงไม่มีเวลาไปเอ่ยสิ่งใดกับทั้งสองมาก โบกมือบอกใบ้ให้ทั้งสองออกไป เซียวฉุนแม้ยังมีคำพูดทว่าจะไม่ไว้หน้าเซียวเชียนเยี่ยก็ไม่ได้ ทำได้เพียงมองทั้งสองเดินออกไปแบบนั้น

รอจนร่างขององค์หญิงฉังผิงและหนานกงมั่วหายลับจากประตูไป เซียวเชียนเยี่ยพลันพุ่งเข้าไปหาเซียวฉุน แม้จะถูกองครักษ์ข้างกายเซียวฉุนขวางเอาไว้ ทว่ายังคงตกใจ เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “เจ้าเป็นบ้าแล้วหรือ”

เซียวเชียนเยี่ยดวงตาแดงก่ำมองไปยังเซียวฉุน เอ่ยเสียงดัง “เรื่องที่เจ้าทำหนานกงมั่วรู้ได้เยี่ยงไร เจ้าเก่งนักมิใช่หรือ แม้แต่สตรีเพียงคนเดียวยังปิดไม่ได้” เซียวฉุนรู้สึกยอมไม่ได้ ส่งเสียงหยัน “ทำสิ่งใดมักมีเรื่องไม่คาดคิดอยู่แล้ว ข้าจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าตอนนั้นหนานกงมั่วเองก็อยู่ในวัง”

“ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ไยจึงไม่สังหารนาง” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยด้วยความโกรธ

เซียวฉุนมองเขาราวกับกำลังมองคนโง่ หากฆ่าได้เขาจะปล่อยหนานกงมั่วให้ออกมาพูดพร่ำเพรื่ออยู่ข้างนอกแบบนี้หรือ สถานการณ์ในคืนนั้น หากบีบหนานกงมั่วเกินไปไม่แน่ว่าทั้งสองฝ่ายอาจพ่ายแพ้และบาดเจ็บก็เป็นได้ เขาไม่คิดจะเอาชีวิตไปเดิมพันกับหนานกงมั่วหรอกนะ ยิ่งไปกว่านั้น ในมือของเขามีสิ่งที่หนานกงมั่วไม่สนใจไม่ได้อยู่ เขาไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้เสี่ยงชีวิตกับนาง

เห็นได้ชัดว่าเซียวเชียนเยี่ยไม่พอใจต่อความคิดของเซียวฉุนนัก แต่ก็ทำสิ่งใดไม่ได้ ยามนี้เซียวฉุนไม่ใช่คนที่เขาจะควบคุมได้ แต่ว่า…หนานกงมั่วนั้นไม่อาจเก็บไว้ได้อย่างแน่นอน

“คิดไม่ถึง…พระสนมหลินกุ้ยเฟยจะ…” บนรถม้า องค์หญิงฉังผิงถอนหายใจออกมา

หนานกงมั่วพยักหน้าช้าๆ การตายของพระสนมหลินกุ้ยเฟยนั้นแม้ไม่คาดคิดแต่ก็สมเหตุสมผล รู้จักกันไม่มากแต่หนานกงมั่วสัมผัสได้ถึงสตรีผู้หยิ่งทะนงผู้นั้น นางจะยอมอยู่อย่างอ้างว้างลำพังในวังหลังต่อไปได้เยี่ยงไร สามารถทำให้ฮ่องเต้ทิ้งสิ่งสำคัญเพียงนั้นไว้ในมือของนางได้ พระสนมหลินกุ้ยเฟยแน่นอนคงมิใช่พระสนมธรรมดาทั่วไป ต้องเป็นสตรีที่ฉลาดเฉลียวอย่างแน่นอน

นึกถึงคำพูดที่ฝ่าบาทบอกให้นางดูแลพระสนมหลินกุ้ยเฟย หนานกงมั่วถอนหายใจ ความจริงนางอยู่นอกวังอีกทั้งยังเป็นเพียงจวิ้นจู่นางจะไปปกป้องดูแลพระสนมได้เยี่ยงไร คำพูดของฮ่องเต้ บอกใบ้ให้นางไปหาพระสนมหลินกุ้ยเฟย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการตัดเส้นทางการมีชีวิตอยู่ต่อไปของพระสนมหลินกุ้ยเฟย พระสนมหลินกุ้ยเฟยเองก็เข้าใจเรื่องนี้ดี แม้นางไม่รู้ว่าของที่ฝ่าบาททิ้งไว้ที่นั่นคืออันใด แต่ก็เข้าใจ หากต้องการรักษาความลับนี้ต่อไปนั่นมีเพียงความตายเท่านั้นแล้ว บนโลกใบนี้มีเพียงคนตายเท่านั้นที่จะพูดไม่ได้

“องค์หญิง พระชายาซื่อจื่อ ถึงแล้วขอรับ” รถม้าหยุดลงที่หน้าจวนเยี่ยนอ๋อง คนขับรถม้าเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม

องค์หญิงฉังผิงถอนหายใจออกมาเบาๆ “อีกสองวันพวกเชียนอวี้ก็คงมาถึงจินหลิงแล้ว สองวันนี้ให้คนจัดการทำความสะอาดจวนเยี่ยนอ๋องเสียหน่อย พวกเรา…เลือกวันที่จะย้ายไปอยู่จวนองค์หญิงเถิด” จวนองค์หญิงที่อดีตฮ่องเต้ประทานให้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้หนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วไม่อยู่ องค์หญิงฉังผิงก็คร้านจะย้ายบ้าน แต่ตอนนี้ผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องของเยี่ยนอ๋องนั้นจะกลับมาเคารพพระศพ ไม่ย้ายออกไปก็คงไม่เหมาะสม

[1] หวงกุ้ยเฟย ชายารองชั้นสูงสุด เป็นตำแหน่งที่รองจากฮองเฮา และเหนือกว่ากุ้ยเฟย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *