หมอหญิงยอดมือสังหาร 908 อำนาจ (2)
ตอนที่ 908 อำนาจ (2)
หรือเขาสอนลูกผิดวิธีงั้นหรือ แต่จวินเอ๋อร์ไม่เคยมีใครสั่งสอนตั้งแต่เล็กจนโต
ช่างหายากเสียจริง เยี่ยนอ๋องเริ่มรู้สึกหนักใจกับบุตรชายของตัวเอง
“ท่านอ๋อง” องครักษ์เรียกอย่างลังเล รู้สึกตกใจกับท่าทีที่ไม่รู้ว่าเหม่อลอยหรือครุ่นคิดของท่านอ๋อง
เยี่ยนอ๋องสีหน้าเฉยเมย เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก “นำเรื่องที่นี่ไปบอกจวินเอ๋อร์ บอกเขาว่ายั้งมือได้แล้ว อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ กงเสี่ยวเตี๋ยยังมีประโยชน์”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง” องครักษ์ตอบรับด้วยความนอบน้อม โยนการคาดเดาอันไม่เหมาะสมเมื่อครู่ไปไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว
เยี่ยนอ๋องเคาะโต๊ะเบาๆ พลางเอ่ย “เซียวเชียนเยี่ย…หลานชายของข้าคนนี้…ในเมื่อเขาไม่ยอมต่อสู้กับข้าอย่างเปิดเผยในสนามรบ เช่นนั้น…ถ่ายทอดคําสั่งออกไป ให้สายลับที่อยู่ในวังหลวงเริ่มทำงาน เป้าหมายคือบุตรของชายารองจู เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงหรือ” จะว่าไปแล้ว เขายังมีความเมตตาอยู่บ้าง ที่ไม่ได้จัดการทายาทที่กำเนิดจากฮองเฮาโดยตรง แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ แต่นั่นก็เป็นบุตรคนที่สองที่เซียวเชียนเยี่ยมีในชาตินี้
“รายงานท่านอ๋อง เป็นโอรสพ่ะย่ะค่ะ” ตอนเกิดการก่อกบฏ ชายารองจูไม่ได้รับบาดเจ็บอันใด สองสามเดือนผ่านไป นางจึงคลอดโอรสองค์ที่สองของเซียวเชียนเยี่ยออกมาอย่างปลอดภัย
เยี่ยนอ๋องพยักหน้า “เขาช่างโชคดี ส่งจดหมายไปบอกเขา ในเมื่อเขามาหาเรื่องลูกของจวินเอ๋อร์ก่อน ก็อย่าโทษข้าว่าตาต่อตาฟันต่อฟัน”
“ท่านอ๋อง ทิ้งเป็นข้อความลับหรือให้บอกกล่าวอย่างเปิดเผยพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้ายังต้องกวาดล้างคนเลวเคียงข้างฮ่องเต้ไม่ใช่หรือ ยื่นฎีกาไปแล้วกัน”
“…” ทําสงครามเช่นนี้แล้วยังจะยื่นฎีกา ไม่มีปัญหาจริงหรือ และที่สําคัญที่สุดก็คือฎีกาเช่นนี้ยื่นได้จริงหรือ
ในจวนว่าการเฉินโจว หนานกงมั่วเอนตัวพิงเตียงนุ่ม อ่านจดหมายที่เพิ่งได้รับ อีกด้านหนึ่งของเตียงนุ่มขนาดใหญ่ เด็กน้อยทั้งสองกําลังนั่งเล่นกันอย่างมีความสุข ด้านข้างมีหมิงฉินคอยดูแลอย่างดี หนานกงมั่วไม่ได้สนใจพวกเขา มองดูจดหมายที่อยู่ในมือแล้วหัวเราะหยันเบาๆ
หลังโต๊ะหนังสือที่อยู่ไม่ไกล คุณชายเว่ยที่กําลังจับพู่กันเขียนหนังสือเงยหน้าขึ้นมา เลิกคิ้วขึ้น “มีเรื่องใดทำให้อู๋สยาดีใจเช่นนี้”
หนานกงมั่วยกจดหมายที่อยู่ในมือขึ้น ยิ้มแล้วจึงเอ่ย “เพิ่งได้รับข่าวจากจื่อเยียน ได้ยินมาว่าองค์ชายรองของชายารองจูที่อยู่ในวังหลวงเกิดไม่สบายกะทันหัน แล้วยังอาการหนัก จากนั้นเซียวเชียนเยี่ยก็ได้รับฎีกาของเสด็จลุงเยี่ยนอ๋อง ส่งไปบอกว่าฮ่องเต้โจมตีเด็กทารกที่ยังอายุไม่ถึงหนึ่งขวบ อาจจะเป็นบาปกรรมก็ได้ เขาอ่านฎีกานั้นต่อหน้าบรรดาขุนนางในราชสำนัก ได้ยินว่าเซียวเชียนเยี่ยโมโหจนแทบจะกระอักเลือด” ไม่มีใครรู้ว่าเยี่ยนอ๋องทำให้ฎีกาเล่มนั้นไปอยู่ในราชสำนักได้เช่นไร เพราะใช่ว่าฎีกาทุกเล่มจะมีโอกาสปรากฏต่อหน้าผู้คน ฎีกาบางเล่มแม้แต่ฮ่องเต้ยังไม่เห็นก็ถูกขุนนางใต้บังคับบัญชาคัดออกไปก่อนแล้ว แต่ฎีกาเช่นนี้กลับสามารถเข้าไปในราชสำนักได้ ครั้งนี้เพื่อจัดการเซียวเชียนเยี่ย เกรงว่าเยี่ยนอ๋องคงใช้ความพยายามไปไม่น้อย
เห็นท่าทีเฉยเมยของเว่ยจวินมั่วแล้ว หนานกงมั่วเลิกคิ้วพลางเอ่ย “ท่านก็มีส่วนเกี่ยวข้องหรือ”
คุณชายเว่ยเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง “ข้าบอกแล้วว่าจะส่งของขวัญชิ้นใหญ่ไปให้เซียวเชียนเยี่ย ข้าต้องรักษาคำพูด”
“ข้าคิดว่าท่านหมายถึงซิ่นหลิงเสียอีก” สองสามวันก่อน กองกำลังไท่หนิงรบชนะซิ่นหลิง ตอนนี้ทางเหนือและทางใต้ของแม่น้ำหลีเจียง ทางตะวันตกของเย่ว์โจวและตะวันออกของซิ่นหลิงจึงตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา นับวันดูแล้วยังไม่ถึงห้าเดือนเลยด้วยซ้ำ เว่ยจวินมั่วเอ่ยขึ้น “ซิ่นหลิงย่อมอยู่ในแผนการอยู่แล้ว”
หนานกงมั่วยักไหล่ เอ่ย “เอาเถิด ตอนนี้พวกเราหยุดทําสงครามก่อนดีกว่า เกรงว่าทางฝั่งของเสด็จลุงคงจะกดดันไม่น้อย” แต่ฝั่งพวกเขาก็สู้รบต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ กองกำลังไท่หนิงกำลังถอนทัพ แม้ว่าพวกเขาจะพยายามเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางฝึกทหารหลายแสนนายให้มีความสามารถเทียบเท่ากับกองกำลังไท่หนิงได้ภายในเวลาหนึ่งถึงสองเดือน ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องทําคือปกครองดูแลและฟื้นฟูสถานที่แห่งนี้เท่านั้น
“เสด็จลุงจะเรียกท่านกลับไปหรือไม่” หนานกงมั่วเอ่ยถาม พวกเขาไม่มีอันใดต้องทำแล้ว แต่เรื่องทางเหนือยังมีอีกเยอะ เยี่ยนอ๋องอาจจะเรียกเว่ยจวินมั่วกลับไปนำทัพ เว่ยจวินมั่วส่ายหน้าพลางเอ่ย “ไปเฉินโจวไม่ได้หรอก อย่ากังวลไปเลย ข้าจะไม่ไป อู๋สยา เจ้าเองก็เช่นกัน”
หนานกงมั่วยิ้ม “แน่นอนว่าข้าไปไม่ได้อยู่แล้ว เพิ่งจะได้พบอานอานและเยาเยา ข้าจะไปได้เช่นไร…แล้วเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ” สายตาของหนานกงมั่วเป็นประกาย รีบเอ่ยถาม หากเยี่ยนอ๋องเรียกเขากลับไปจริงๆ เว่ยจวินมั่วคงไม่ปฏิเสธเด็ดขาดเช่นนี้ นอกเสียจากว่าจะมีเรื่องใดเกิดขึ้น
เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว จากนั้นก็ยกมือขึ้นแล้วยื่นจดหมายที่วางอยู่ขวามือให้นาง
หนานกงมั่วรับมาอ่าน อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “นี่คือความต้องการของเชียนเหว่ยหรือจูชูอวี้กันแน่”
เว่ยจวินมั่วเงียบ หนานกงมั่วถอนหายใจ เซียวเชียนเหว่ยไม่ใช่คนหูเบา เรื่องที่จูชูอวี้เอ่ยแล้วเขายอมฟัง แสดงว่าจูชูอวี้เอ่ยตรงกับที่เขาคิด เพียงแต่ยืมปากของจูชูอวี้เอ่ยออกมาก็เท่านั้น นางถอนหายใจอย่างหนักใจ หนานกงมั่วเอ่ย “เดิมทีข้ายังเป็นห่วงว่าวันหนึ่งพวกเขาสามพี่น้องจะขัดแย้งกัน แต่ใครจะรู้ว่า…ไฟนี้กลับย้อนกลับมาเผาตัวพวกเราเอง” ด้วยนิสัยของสามพี่น้องตระกูลเซียว ไม่ช้าก็เร็วย่อมต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน แต่ยังไม่ทันได้เกิดเรื่อง พวกเขาก็ถูกเล็งเป้าเสียแล้ว นี่คือการที่นอนอยู่ดีๆ ก็ถูกลูกหลงเช่นนั้นหรือ
เว่ยจวินมั่วส่ายหน้า “ไม่ว่าใครจะอยู่ตรงนี้ก็ล้วนแต่ต้องเจอแบบเดียวกัน” ถึงแม้เรื่องที่เสด็จลุงให้ความสําคัญกับเขาจะเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่กลับไม่ใช่เหตุผลหลัก ตอนนี้ไม่ว่าใครอยู่ในตําแหน่งของเขา หากเซียวเชียนเหว่ยยังมีความคิดเช่นนั้น ก็ย่อมต้องโจมตีพวกเขา และคงเป็นเพราะคนที่อยู่ตรงนี้คือเขา เซียวเชียนเหว่ยทนมาตั้งนาน หากเปลี่ยนเป็นแม่ทัพคนอื่น เพียงเซียวเชียนเหว่ยเอ่ยกับเสด็จลุงว่าอยากมาช่วยเหลือหรือเรียนรู้ ล้วนแต่เป็นเหตุผลที่เหมาะสม เมื่อมาถึงที่นี่แล้วยังจะมีแม่ทัพคนใดที่สามารถควบคุมคุณชายรองจวนเยี่ยนอ๋องได้เช่นนั้นหรือ
หนานกงมั่วถอนหายใจ “เอาล่ะ ตอนนี้เราก็อยู่ห่างจากโยวโจว เฉินโจวเองก็ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ พวกเราย่อมไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องที่อยู่ตั้งไกล”
คุณชายเว่ยยิ้ม ลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างเตียงนุ่ม ยื่นมือออกไปอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งมากอดไว้ในอ้อมแขนตัวเองแล้วจึงเอ่ยว่า “ไม่ต้องห่วง ข้ารู้”
เยาเยาที่กำลังเล่นกับพี่ชายอย่างมีความสุขถูกท่านพ่อขัดจังหวะกะทันหัน นางจึงไม่พอใจ
“แง” นางยื่นมือเล็กๆ มาตบมือใหญ่ๆ ของท่านพ่อ คุณชายเว่ยก้มหน้ามองเด็กผู้หญิงตัวน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าเล็กๆ ของนาง ฟันของนางกำลังจะงอก เห็นมือที่กำลังจับหน้าตัวเองอยู่ นางจึงก้มหน้าลงแล้ว…กัด!
คุณชายเว่ยเลิกคิ้ว เด็กตัวเล็กที่ฟันน้ำนมเพิ่งจะงอกออกมาสี่ซี่จะกัดเขาเจ็บได้เช่นไร หากไม่ใช่เพราะเขากลัวว่าจะทำให้นางเป็นอันใด นางกัดเขาเช่นนี้อาจทำให้ฟันน้ำนมหักก็ได้ เขาค่อยๆ ดึงมือกลับมาอย่างใจเย็น รับผ้าเช็ดหน้าที่หมิงฉินส่งมาแล้วเช็ดให้เยาเยา เยาเยามองดูท่านพ่อตัวเอง นางเบะปากจะร้องไห้
อานอานที่อยู่ด้านข้างเห็นน้องสาวจะร้องไห้จึงรีบคลานเข้ามา ยื่นมือเล็กๆ ออกมาตบแขนน้องสาวเบาๆ เยาเยาที่กำลังจะร้องไห้ถูกพี่ชายดึงความสนใจไป พวกเขาทั้งสองจึงเล่นตบกับไปตบกันมาแทน สุดท้ายก็รวมตัวกันเป็นก้อนกลม
Comments