หมอหญิงยอดมือสังหาร 817 เคราะห์ร้ายออกจากปาก (3)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 817 เคราะห์ร้ายออกจากปาก (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 817 เคราะห์ร้ายออกจากปาก (3)

เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปยังหันอิงอาน เอ่ยเสียงเย็น “เกี่ยวอันใดกับเจ้า”

หันอิงอานสะอึก โกรธจนหน้าดำหน้าแดง “ซิงเฉิงจวิ้นจู่เป็นสตรีมาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนก็ช่างเถิด ยังมาพูดคุยเรื่องเช่นนี้กับบุรุษ เรื่อง…เรื่องเสื่อมเสียต่อประเพณีและศีลธรรมเช่นนี้ ไม่รู้สึกละอายบ้างเลยหรือ”

เซี่ยสือชีปรายตามองหันอิงอานอย่างเกียจคร้าน เอ่ย “ข้าคุยถึงวิธีการดูแลดอกไม้กับแม่นางผู้นี้ จะเสื่อมเสียต่อประเพณีและศีลธรรมได้เยี่ยงไร ต่อให้ข้าอยากแต่งสตรีงดงามมาช่วยปลูกดอกไม้ ก็คงไม่เกี่ยวกับ…ท่านผู้นี้หรือไม่”

“โบราณว่า คนหยาบโลนเจอเรื่องหยาบโลนหรือ” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงราบเรียบ

เซี่ยสือชีตบมือ “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เอ๋ ที่แท้แม่นางคนงามก็คือซิงเฉิงจวิ้นจู่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วหล้านี่เอง มีโอกาสได้เจอกับจวิ้นจู่ผู้งดงาม ช่างเป็นวาสนาไปสามภพสามชาติแล้ว”

“…” จริงๆ เลย แสดงได้ปลอมเสียจริง

หนานกงมั่วปรากฏรอยยิ้มปลอมๆ “คุณชายชมเกินไปแล้ว”

“เจ้า…พวกเจ้า” หันอิงอานโกรธจนตัวสั่น เขาเติบโตในครอบครัวในตระกูลนักปราชญ์ บิดายังเป็นหันหมิ่นผู้มีความรู้ แม้จะเคยลำบากเมื่อครั้งหันหมิ่นถูกเนรเทศเมื่อหลายปีก่อน ทว่ายังไม่เคยมีใครเอ่ยเสียดสีเขาต่อหน้าเพียงนี้ พลันปากร้ายโดยไม่ทันคิดขึ้นมาทันใด “หน้าไม่อายเสียจริง”

ดวงตาของเซี่ยสือชีพลันเย็นยะเยือกขึ้นมา ทว่าไม่นานพลันปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน มองไปยังหันอิงอาน เอ่ยด้วยรอยยิ้มลึกซึ้ง “อ้อ หน้าไม่อายงั้นหรือ ได้โปรดชี้แนะด้วย”

หันอิงอานส่งเสียงหยัน เอ่ย “กลางวันแสกๆ เกี้ยวพาราสีสตรีที่แต่งงานไปแล้ว ไม่เรียกว่าหน้าไม่อายแล้วจะเป็นอันใด ซิงเฉิงจวิ้นจู่มานั่งพูดคุยสนุกสนานกับชายอื่นต่อหน้าสามี…เหอะ”

เซี่ยสือชีคล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้มมองไปยังเว่ยจวินมั่ว เว่ยจวินมั่วปรายตามองเขาคร้านจะพูดคุยกับเขา เงยหน้าขึ้นมา สีหน้าเรียบนิ่งมองไปยังหันอิงอาน เอ่ยถาม “เจ้าอยากตายเยี่ยงไร”

หันอิงอานตกใจรีบก้าวถอยหลังไปสองก้าว ชนเข้ากับโต๊ะด้านหลังจนถ้วยกระเบื้องหล่นแตกระเนระนาด “เจ้า…เจ้าจะทำอันใด ข้าเป็นผู้แทนของราชสำนักนะ”

“เอ๋ ที่แท้เป็นตัวแทนจากราชสำนักหรือ” เซี่ยสือชียิ้มเอ่ย “ดูเหมือนวันนี้คุณชายอย่างข้าจะโชคดีไม่เลว วันนี้ถึงได้เจอแต่ผู้คนสูงส่ง”

หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง “บางทีอาจเพราะว่า ตัวคุณชายเซี่ยเองก็เป็นคนสูงส่ง”

เซี่ยสือชีอารมณ์ดี “แม่นางคนงาม เจ้าชมเสียข้าอารมณ์ดี เจ้าเด็กนี่…ปล่อยให้คุณชายอย่างข้าจัดการเป็นอย่างไร รับรองว่าจะช่วยระบายอารมณ์ให้แม่นางได้”

หนานกงมั่วหันกลับไปมองเว่ยจวินมั่ว เว่ยจวินมั่วดึงสายตากลับเลื่อนอาหารที่หนานกงมั่วชอบไปไว้ตรงหน้านาง “อู๋สยา กินข้าว”

นี่คือการเห็นด้วยแล้วใช่หรือไม่

เซี่ยสือชีลุกขึ้นเดินไปหาหันอิงอานด้วยความกระตือรือร้น หันอิงอานมองเว่ยจวินมั่วอย่างหวาดระแวง ทว่าไม่มองเซี่ยสือชีอยู่ในสายตา เพียงมองเขาด้วยท่าทางโอหัง “เจ้าคิดจะทำอันใด”

เซี่ยสือชียิ้ม เอ่ย “ไม่ต้องกังวล พวกเราเปลี่ยนสถานที่พูดคุยสักหน่อยดีหรือไม่”

“เหอะ ข้าไม่มีเวลาว่างมาคุยกับผู้ใดไปเรื่อย” หันอิงอานเอ่ยอย่างไม่พอใจ เขาเพิ่งเสียหน้าไปเพราะบุรุษในอาภรณ์สีม่วงผู้นี้ แน่นอนว่าไม่มีอารมณ์มาคุยกับเขา

“อย่าเป็นเช่นนี้เลย เรามาคุยกันสักหน่อยเถิด” เซี่ยสือชีไม่แปลกใจแม้แต่น้อย เกือบจะขยับชิดร่างหันอิงอานไปแล้ว “มาๆๆ เพื่อนใหม่พบหน้า วันนี้คุณชายอย่างข้าจะให้เจ้าดูของดีเป็นอย่างไร ข้ารับรองว่าเพียงเจ้าเห็นเจ้าจะอยากคุยกับข้า”

เพราะหันหลังให้กับพวกหนานกงมั่ว ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาเอาสิ่งใดให้หันอิงอานดู จากนั้นพลันมองเห็นสีหน้าแข็งค้างของหันอิงอาน ยอมเดินตามเซี่ยสือชีออกไป ก่อนไปเซี่ยสือชียังหันมาโบกไม้โบกมือเอ่ยกับทั้งสองว่าไว้เจอกันใหม่อย่างมีความสุข

บนโรงเตี๊ยมเงียบสงบลง หนานกงมั่วกินข้าวไปด้วยพลางเอ่ยถาม “ปล่อยหันอิงอานไปง่ายๆ เช่นนี้ มักรู้สึกว่าไม่ใช่นิสัยของท่านเลย”

ริมฝีปากของคุณชายเว่ยกระตุกยิ้มเย็นขึ้นมา “หันอิงอานตกอยู่ในมือของเขา น่าเวทนายิ่งกว่า”

หนานกงมั่วครุ่นคิด พยักหน้า เอ่ย “คุณชายผู้นี้ ช่างพิสดารเสียจริง”

ในคืนวันนี้ มีข่าวประหลาดมาจากหอนางโลมที่ใหญ่ที่สุดบนถนนดอกไม้[1]ที่มีคนพลุกพล่านกลางเมืองอานเซี่ย ว่ากันว่ามีลูกค้าคนหนึ่งดูไม่ธรรมดาและมิได้อ่อนแอ เพียงมองก็รู้ว่ามีชื่อเสียงและมีอำนาจ แต่ก็เป็นแขกที่แปลกประหลาด บุรุษที่เที่ยวหอนางโลม ส่วนใหญ่ก็มีความแปลกประหลาดอยู่บ้าง ทว่าคนผู้นี้กลับแปลกประหลาดเสียจนสตรีในหอนางโลมยากจะรับได้

เดิมทีไม่รู้นายท่านผู้นี้เป็นอย่างไร ไม่ชื่นชอบทารุณผู้อื่นทว่าชอบให้ผู้อื่นทารุณตนเอง ว่ากันว่าเขาชอบที่สุดคือการมัดตนเองไว้จากนั้นให้เหล่าหญิงสาวใช้แส้ฟาดเขา อีกทั้งไม่ใช่การฟาดธรรมดาหรือฟาดไปพร้อมกับการแสดงอารมณ์ แต่เป็นการเฆี่ยนจนเลือดซิบอันใดเช่นนั้น เพราะแบบนี้เหล่านางโลมที่คอยดูแลปรนนิบัติเขาจึงตกใจจนอาเจียนออกมา ทว่านายท่านผู้นี้ก็ยังไม่พอใจ สั่งให้เปลี่ยนสตรีเข้ามาใหม่ สุดท้ายสตรีทั่วทั้งหอนางโลมต่างก็ได้ยินเสียงรันทดของนายท่านผู้นี้

วันต่อมา หอนางโลมต้องหยุดกิจการหนึ่งคืน ว่ากันว่า…สตรีป้ายแดงสี่ห้าคนของหอนางโลมต้องตกใจจนฝันร้าย สตรีคนอื่นๆ เห็นร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเลือดเช่นนั้นก็ตกใจจนแข้งขาอ่อนไม่อาจปรนนิบัติแขกได้

ในโรงน้ำชาห่างออกไปจากถนนดอกไม้ไม่ไกล พวกหนานกงมั่วทั้งสองกำลังนั่งดื่มชาอยู่ริมหน้าต่าง พอดีมองเห็นใครบางคนกำลังถูกหามออกมาจากถนนดอกไม้ ถนนดอกไม้คับแคบ บาดเจ็บหนักเพียงใดก็ไม่อาจนั่งเกี้ยวได้ ดังนั้นจึงใช้คนแบกออกมาเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แม้บนร่างถูกผ้าคลุมเอาไว้ ทว่าหนานกงมั่วยังคงมองเห็นรอยแผลบนใบหน้าและมือที่โผล่ออกมา

ด้านหลังของพวกเขา ผู้คนทั่วทั้งโรงน้ำชากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในหอนางโลมเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทั่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยฐานะของหันอิงอานออกมา ทุกคนต่างต้องถอนหายใจอย่างเสียดาย ไม่คิดว่าบุตรชายของนักปราชญ์แห่งราชสำนัก ขุนนางขั้นสามของราชสำนักกลับมีนิสัยแปลกประหลาดเช่นนี้ ทำให้ชาวเมืองต้องหวาดกลัวไม่น้อย

“ท่านเอ่ยไม่ผิดเลย หันอิงอานตกไปอยู่ในมือเขาช่างน่าเวทนามากจริงๆ” หากถูกเว่ยจวินมั่วทำร้ายหรือฆ่าทิ้งก็ช่างเถิด อย่างน้อยก็ยังเหลือชื่อเสียงที่ดีเอาไว้ได้ ไม่แน่ว่าเซียวเชียนเยี่ยอาจยกย่องเชิดชูว่าเขาเสียสละเพื่อบ้านเมือง แต่ว่าตอนนี้…บาดแผลของหันอิงอานจะหายดีหรือไม่ยังไม่ต้องเอ่ยถึง ต่อให้หายดี ทั่วทั้งร่างเองก็คงเสียหายแล้ว

คุณชายเว่ยสีหน้าเรียบนิ่งไม่เอ่ยวาจา สายตากลับวาดผ่านร่างของคนที่ถูกแบกผ่านไป หากหันอิงอานคิดว่าเพียงการสั่งสอนเช่นนี้ครั้งเดียวก็จบลงแล้ว นั่นคงบอกได้เพียงว่าเขาคงชื่นชมคุณชายเว่ยเกินไปแล้ว

“อู๋สยา พวกเราควรออกเดินทางได้แล้ว”

หนานกงมั่วพยักหน้า “ก็ดีเหมือนกัน ทานข้าวเช้าเสร็จก็ออกเดินทางเถิด” แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ายามนี้ใครบางคนอยู่ที่ใด แต่หากยังไม่ถึงสีโจวใครบางคนคงไม่มีทางยอมหารือเรื่องสำคัญกับพวกเขาอย่างจริงจังเป็นแน่

หนึ่งเดือนหลังจากนั้นข่าวของหันอิงอานที่ตายไปเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหวถูกส่งมาถึงโยวโจว ในตอนที่ใครบางคนถูกหันหมิ่นโกรธจนต้องกัดฟัน ใครบางคนนั้นแสดงออกมาว่าตนไร้เดียงสา เพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น ต่อให้มีเลือดออกรักษาไปเดี๋ยวก็หาย จะตายเพราะบาดเจ็บหนักได้เยี่ยงไร อีกทั้งบาดแผลดีขึ้นแล้วยังกลับมาหนักอีก หนักแล้วก็ดีขึ้น ความทรมานกลับไปกลับมาทั้งยังมีจุดด่างคล้ายกับเป็นกามโรค นี่คือการวางยาพิษต่างห่างเล่าเจ้าพวกโง่

[1] ถนนดอกไม้ หมายถึงแหล่งซ่องนางโลม

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *