หมอหญิงยอดมือสังหาร 422 ข้าโกหกเขา (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 422 ข้าโกหกเขา (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 422 ข้าโกหกเขา (1)
เห็นหนานกงมั่วไม่เอ่ยอันใดต่อ คุณชายเสียนเกอจึงเอ่ยว่า “ข้าเข้าไปก็เห็นว่า สถานการณ์ข้างในเลวร้ายกว่าที่อู๋ปั๋วเขียนไว้ในจดหมายเสียอีก โรคระบาดข้างใน…อืม จะเอ่ยว่าเป็นพิษก็ไม่เหมือน ตั้งแต่อู๋ปั๋วได้รับบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิตเป็นเวลาครึ่งเดือน ผู้ติดตามสองคนของเขาตั้งแต่ล้มป่วยจนเสียชีวิตเป็นเวลาสี่วัน แต่คนที่อยู่ข้างในนั้นดีกว่า… คนที่ไม่เคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ หลังจากติดโรคระบาดแล้วยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้สิบวันหรือครึ่งเดือน และที่สำคัญที่สุด พวกเขาไม่มีรอยสีเขียวบนร่างกาย คนที่เสียชีวิตล้วนแต่เป็นคนที่เกาผิวหนังตัวเองจนเป็นแผลจึงเป็นหนองจนเสียชีวิต”

“มีชีวิตอยู่นานหน่อยเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือ” หนานกงมั่วเอ่ย ยื้อเวลาได้นานหน่อย ความหวังในการมีชีวิตรอดย่อมเยอะขึ้น

เสียนเกอถอนหายใจ เอ่ย “หากเป็นเช่นนั้นก็คงดี แต่ว่าเช่นนั้นก็หมายความว่าไม่มีใครมองออกว่าพวกเขาป่วยหรือไม่ เจ้าก็รู้ว่าคนที่ทำงานใช้แรงงานในสถานที่เช่นนั้น แม้จะป่วยบ้างเป็นครั้งคราวย่อมไม่นึกสนใจ หากโรคนี้ค่อยๆ แสดงอาการ ตอนแรกคงไม่มีคนสนใจ หากไม่สังเกตจริงๆ ย่อมไม่รู้ จากที่ข้าสังเกตตอนนั้น ในบรรดาคนสิบคนที่ข้าเจอระหว่างทางมีคนติดโรคระบาดแล้วอย่างน้อยสี่ถึงห้าคน ยามนี้ผ่านมาสี่วันแล้ว นอกจากนี้ ยังดูเหมือนว่าโรคนี้หากอยู่ในเขาลั่วหยางแล้วจะมีผลยับยั้งบางอย่าง ข้าพาคนที่พึ่งติดเชื้อคนหนึ่งออกมา เพียงวันเดียวก็เสียชีวิตลงทันที”

หลังจากฟังเสียนเกอจบแล้ว สีหน้าของทั้งสองคนก็เคร่งขรึมขึ้นมา นางเอ่ยถาม “ศิษย์พี่ ท่านแน่ใจหรือว่าโรคนี้ยังไม่แพร่กระจายออกมาข้างนอก”

เสียนเกอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ย “ไม่มีทาง คนบนเขานั้นมิได้โง่ คงรู้แล้วว่าที่นั่นผิดปกติ อีกทั้งตอนที่ข้ากลับลงมา ก็พบที่โดนสัตว์ป่ากัดตายบนภูเขามากมาย เป็นไปได้ที่…”

หนานกงมั่วขมวดคิ้ว “ผู้อาวุโสอู๋ผู้นั้นยืนยันว่า…โรคนี้เป็นโรคติดต่อจริงๆ หรือ…เพียงเคราะห์ร้ายเท่านั้นหรือ”

เสียนเกอเอ่ย “ต้องใกล้ชิดกันมากถึงจะติดต่อ หากเป็นโรคติดต่อจริงๆ ผ่านมานานเพียงนี้…เป็นไปไม่ได้ที่ในเขาลั่วหยางจะยังมีคนหลงเหลืออยู่ แน่นอนว่ายังมีคนถูกส่งคนเข้าไปข้างในอยู่ ข้าอยากขึ้นเขาไปตรวจดูสักหน่อย เรื่องข้างนอกคงต้องให้พวกเจ้าเป็นผู้จัดการ ทางที่ดีที่สุดคือ…ส่งทหารมาควบคุมในรัศมีร้อยลี้ไว้ ไม่เช่นนั้นข้าเกรงว่าจะมีปัญหาไม่น้อย นอกจากนั้น…หวงจั่งซุนของพวกเจ้า อย่าให้เขามุ่งอยู่แต่กับการฆ่าคน ที่นี่เป็นภูเขาใหญ่ มิใช่เมือง ภูเขาย่อมเต็มไปด้วยสัตว์ป่า ใช่ว่ามีเพียงคนที่แพร่โรคระบาดได้ อย่าปล่อยให้สัตว์ป่าวิ่งออกไปข้างนอกได้…”

หนานกงมั่วพยักหน้า “ทราบแล้ว ศิษย์พี่ ให้ข้าไปกับท่านเถิด”

“ไม่ได้” เว่ยจวินมั่วเอ่ย หนานกงมั่วหันไปมองเขา เว่ยจวินมั่วยกมือขึ้นมาลูบแก้มนางแล้วเอ่ยว่า “ข้าจะไปกับคุณชายเสียนเกอเอง เจ้าอยู่ที่นี่เถิด”

หนานกงมั่วกลอกตา “อย่าดื้อ ท่านไม่มีความรู้เรื่องการรักษาโรค ไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด แล้วเจ้าก็บอกว่าหากหวงจั่งซุนเอาจริงขึ้นมาข้าคงหยุดเขาไม่ได้” จวิ้นอ๋องและจวิ้นจู่ฟังดูแล้วเหมือนจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่หากเอ่ยตามความจริงแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นหลิงโจวคือดินแดนของเซียวเชียนเยี่ย หากเซียวเชียนเยี่ยตัดสินใจเด็ดขาด หนานกงมั่วคงห้ามเขาไม่ได้จริงๆ

เว่ยจวินมั่วเอ่ยอย่างเย็นชา “ห้ามไป ไม่เช่นนั้นก็ฟาดให้เซียวเชียนเยี่สงบไปเสีย กลับไปถึงจินหลิงแล้ว ข้าจะอธิบายต่อฮ่องเต้เอง”

“แต่ว่า…” หนานกงมั่วขมวดคิ้ว เอ่ย “แม้ข้าจะสู้ศิษย์พี่ไม่ได้ แต่อย่างน้อยข้าก็รู้มากกว่าท่าน หาก…”

“ข้ามีพลังภายในปกป้อง ตราบใดที่ไม่ได้รับบาดเจ็บภายนอก ข้าไม่มีทางติดเชื้อง่ายเช่นนั้น” เว่ยจวินมั่วเอ่ย

คุณชายเสียนเกอมองดูพวกเขาสองคนทุ่มเถียงกัน จากนั้นจึงขยี้จมูกแล้วกระแอมเบาๆ “เอาล่ะ มั่วเอ๋อร์ ให้เว่ยซื่อจื่อไปกับข้าเถิด”

“ทำไมกัน!” หนานกงมั่วไม่พอใจ ทั้งที่นางไปเองจะเหมาะสมกว่า เว่ยจวินมั่วไม่มีความรู้เรื่องการรักษาโรคเลยแม้แต่น้อย เขาไปก็ช่วยอันใดศิษย์พี่ไม่ได้ คุณชายเสียนเกอเอ่ยเรียบๆ “เขามีศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า”

หนานกงมั่วมองดูศิษย์พี่ตัวเอง “ศิษย์พี่ ท่านดูหมิ่นข้าหรือ”

“ถูกต้องแล้ว” คุณชายเสียนเกอไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย “ฝากชีวิตตัวเองไว้กับเจ้าหรือไว้กับเว่ยซื่อจื่อ เลือกเขาย่อมปลอดภัยกว่ามิใช่หรือ”

เว่ยจวินมั่วจึงเอ่ยปลอบใจนาง “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่เป็นอันใดแน่นอน”

คุณชายเสียนเกอมองทั้งสองคน “ที่แท้ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของสามี สมเป็นหญิงที่ออกเรือนแล้ว ศิษย์พี่เช่นข้ากลับไร้ซึ่งคนห่วงใย”

“ในเมื่อศิษย์พี่อยากมีคนห่วงใยก็รีบหาพี่สะใภ้เถิด” หนานกงมั่วเอ่ยด้วยท่าทีไม่เขินอาย

ต้องไปในที่อันตรายเพียงนั้นจะไม่ให้เป็นห่วงได้อย่างไร หนานกงมั่วเองก็รู้สาเหตุที่เว่ยจวินมั่วไม่ให้ตัวเองไป เพราะเว่ยจวินมั่วเป็นห่วงนาง นางเองก็เป็นห่วงเว่ยจวินมั่ว ภายในห้อง มองดูเว่ยจวินมั่วที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วนางก็ถอนหายใจออกมา เอ่ย “ศิษย์พี่น่าจะเตรียมยาไว้แล้ว ออกมาครั้งนี้ข้าไม่ได้นำสิ่งใดมาด้วย เช่นนั้นข้าก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่เจ้าต้องระวังให้ดี อย่าปล่อยให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บในสถานที่เช่นนั้นเด็ดขาด”

รู้ว่านางไม่สบายใจ เว่ยจวินมั่วจึงยื่นมือออกไปจับนางมานั่งข้างตัวเอง เอ่ยด้วยความอ่อนโยน “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะระวังตัว เจ้าอยู่ที่เมืองลั่วหยางก็ต้องระวังตัวเช่นกัน เรื่องนี้มิใช่เรื่องเล็ก คนเช่นเซียวเชียนเยี่ยทำได้ทุกอย่าง”

หนานกงมั่วยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ท่านเคยเห็นข้าเสียเปรียบเช่นนั้นหรือ”

เว่ยจวินมั่วเอ่ยตอบ “ข้าสั่งให้ฝังนำคนของวังจื่อเซียวมาแล้ว อย่างช้าคงจะมาถึงพรุ่งนี้ยามเที่ยง หากเจ้าไม่ไหว ต้องพาคนออกไปจากที่นี่ทันที ข้าและคุณชายเสียนเกอจะเอาตัวรอดเอง ไม่ต้องเป็นห่วงพวกข้า” หนานกงมั่วยิ้มบาง เอื้อมไปจับมือเขาแล้วเอ่ย “ข้าจะรอท่านและศิษย์พี่อยู่ที่นี่ ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะระวังตัว ท่านย่อมรู้ดีว่าข้ามิใช่คนที่ชอบเอาตัวเองไปเสี่ยง”

นึกถึงนิสัยของหนานกงมั่วแล้ว เว่ยจวินมั่วก็พยักหน้าเบาๆ กอดนางไว้ในอ้อมแขนแล้วเอ่ยด้วยท่าทีอ่อนโยน “ไม่ต้องกลัว ข้าจะกลับมาในไม่ช้า”

“อยากจะซัดเซียวเชียนเยี่ยไปสักหมัดแรงๆ” ไม่ว่าเซียวเชียนเยี่ยจะใช่ต้นเรื่องนี้หรือไม่ แต่เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเซียวเชียนเยี่ยแน่นอน หนานกงมั่วล่ะอยากชกเขาให้น่วม

“กลับมาแล้ว ข้าจะช่วยเจ้าต่อยเขา” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเบาๆ

หนานกงมั่วนั่งอยู่ในห้องด้านหลังของโรงเตี้ยม ตั้งใจฟังฝังรายงานอยู่ด้านข้าง เว่ยจวินมั่วเละคุณชายเสียนเกอออกเดินทางไปยังเขาลั่วหยางตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว คนของวังจื่อเซียวก็มาถึงในยามเช้าวันนี้ ตอนนี้คนที่อาศัยอยู่ที่เมืองนี้มีไม่มากนัก คุณชายเสียนเกอมองการณ์ไกลจึงเหมาโรงเตี้ยมนี้ไว้หมดแล้ว ตอนนี้คนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมล้วนแต่เป็นคนของวังจื่อเซียว แม้จะทำให้สถานะของเว่ยจวินมั่วอาจถูกเปิดเผย แต่ไม่นับว่าสำคัญอันใดในเวลานี้ หากควบคุมโรคระบาดไม่ได้ หรือเมื่อเซียวเชียนเยี่ยทำเรื่องใดไม่สมควร ล้วนแต่ต้องใช้กำลังคนทั้งนั้น

เห็นว่าฝังหยุดรายงานแล้ว หนานกงมั่วจึงเงยหน้าขึ้นมองเขา ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วเอ่ยถาม “เช่นนั้น เมืองนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเซียวเชียนเยี่ยใช่หรือไม่”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *