หมอหญิงยอดมือสังหาร 804 ข้อห้ามอำนาจทหาร (2)
ตอนที่ 804 ข้อห้ามอำนาจทหาร (2)
“เจ้า…”
กงซียิ้มอย่างอ่อนโยน “คุณหนูไม่ต้องกลัว นายท่านเป็นพี่ชายของท่าน ย่อมไม่มีทางทำร้ายท่านแน่นอน ขอแค่ท่านรู้ความ ท่านก็จะได้ครอบครองทุกอย่างที่ท่านต้องการเจ้าค่ะ”
กงเสี่ยวเตี๋ยฟุบลงบนโต๊ะตรงหน้า แล้วเอ่ยด้วยความเกลียดชัง “เขายังทำร้ายข้าไม่พอเช่นนั้นหรือ หากไม่ใช่เพราะเขาทำให้ท่านพ่อต้องตาย…ข้าจะ”
สายตาของกงซีฉายแววเย็นชา ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับอ่อนหวานมากกว่าเดิม “คุณหนู นายท่านคือคนในครอบครัวของท่านแค่คนเดียว ท่านลองคิดดูให้ดีเถิดว่าท่านจะยอมฟังคำสั่งของนายท่าน หรือเผชิญทุกอย่างด้วยตัวเอง ท่านเอ่ยถูกต้องแล้ว ยามนี้เยี่ยนอ๋องยังไม่ชอบท่าน แล้วท่านคิดว่า…ทำไมเขาถึงดีกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”
สีหน้าของกงเสี่ยวเตี๋ยซีดเซียวลง กงซีตบหลังนางเบาๆ ด้วยความสงสาร “คุณหนูไม่ต้องกลัว ยามนี้ท่านตั้งครรภ์ลูกของเยี่ยนอ๋อง บุตรชายสามคนของเยี่ยนอ๋อง คนโตและคนเล็กล้วนแต่ไร้ความสามารถ ถึงแม้ว่าคุณชายรองจะมีเล่ห์เหลี่ยมอยู่บ้าง แต่น่าเสียดายที่แต่งงานกับผู้หญิงอย่างจูชูอวี้ แค่ท่านคลอดคุณชายน้อยออกมาอย่างปลอดภัย บ่าวมีวิธีทำให้เยี่ยนอ๋องชอบท่านจริงๆ เจ้าค่ะ“
“จริงหรือ” กงเสี่ยวเตี๋ยเอ่ยถามด้วยความสงสัย
กงซียิ้มพลางเอ่ย “ถึงแม้คุณหนูจะสงสัยบ่าว แต่คุณหนูไม่ควรสงสัยในความสามารถของนายท่านไม่ใช่หรือ ท่านเคยเห็นนายท่านทำสิ่งใดผิดพลาดเช่นนั้นหรือเจ้าคะ ไม่ว่าเยี่ยนอ๋องจะเก่งกาจเพียงใด แต่เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง แต่ว่าคุณหนูต้องระงับอารมณ์ของตัวเอง ต้องเปลี่ยนนิสัยของตัวเองเจ้าค่ะ” กงเสี่ยวเตี๋ยก้มหน้าลงราวกับกำลังคิดอันใดอยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งก็เอ่ยว่า “ตกลง ข้าจะฟังเจ้า”
กงซีพยักหน้าด้วยความพอใจ “ถูกต้องแล้ว คุณหนูไม่ต้องห่วง บ่าวจะทำให้คุณหนูกลายเป็นผู้หญิงที่เยี่ยนอ๋องโปรดปรานมากที่สุดเจ้าค่ะ”
กงเสี่ยวเตี๋ยมองดูกงซี จากนั้นจึงพยักหน้าแล้วเอ่ยตอบ “ตกลง”
“เช่นนั้น นี่คือซุปบำรุงร่างกายที่บ่าวทำเองกับมือ คุณหนูรีบดื่มเถิด ยามนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกในท้อง ตราบใดที่มีเด็กคนนี้อยู่ เยี่ยนอ๋องต้องเห็นท่านอยู่ในสายตาแน่นอนเจ้าค่ะ” กงซีหัวเราะเบาๆ “สำหรับคุณชายเว่ยและซิงเฉิงจวิ้นจู่ ยามนี้เราอย่างเพิ่งไปต่อสู้กับพวกเขา คุณชายเว่ยมีสถานะสูงส่ง การที่เยี่ยนอ๋องให้ความสำคัญกับเขาย่อมเป็นเรื่องปกติ ดูเหมือนว่าเยี่ยนอ๋องจะให้ความสำคัญกับคุณชายเว่ยมากกว่าคุณชายตระกูลเซียวทั้งสามอีกใช่หรือไม่”
กงเสี่ยวเตี๋ยรับซุปมาแล้วพยักหน้าเบาๆ ราวกับยอมรับฟังคำเอ่ยของกงซี
ในเรือนด้านข้าง คุณชายฉังเฟิงย่อตัวลงบนพื้นอย่างไม่มีมาด มองเด็กทารกทั้งสองที่กำลังนอนหลับน้ำลายย้อยอยู่ในเปล หากปล่อยให้แม่ทัพในกองทัพเห็นท่าทีเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคงจะไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน นี่คือมือซ้ายที่มีความสามารถที่สุดของคุณชายเว่ยเช่นนั้นหรือ ล้อเล่นหรือเปล่า
“เว่ยมั่วจวิน เด็กทั้งสองหน้าตาน่ารักกว่าเจ้าตอนเด็กเสียอีก” คุณชายฉังเฟิงมองดูคุณชายเว่ยแล้วถอนหายใจ คุณชายเว่ยเลิกคิ้ว แล้วจะทำไมหรือ
เพียงหน้าตาของคุณชายเว่ยก็เกินพอแล้ว ไม่สนว่าลูกชายของตัวเองจะ…น่ารักกว่างั้นหรือ ยิ่งไปกว่านั้นลูกของเขาและอู๋สยา หน้าตางดงามก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ใช่หรอกหรือ
สุดท้ายแล้ว…
“อะแฮ่ม คุณชายฉังเฟิง เจ้าเคยเห็นเว่ยจวินมั่วตอนเด็กเช่นนั้นหรือ” หนานกงมั่วนั่งอยู่ด้านข้างถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“แค่กๆ!” คุณชายฉังเฟิงไอออกมาซ้ำๆ ก่อนจะไอแรงๆ ออกมาครั้งหนึ่ง เขากับเว่ยจวินมั่วอายุพอๆ กัน อีกทั้งพวกเขายังพบกันในตอนเด็ก แน่นอนว่าจำไม่ได้อยู่แล้วว่าเว่ยจวินมั่วหน้าตาเช่นไร หนานกงมั่วมองคุณชายฉังเฟิงที่กระแอมจนหน้าแดงด้วยความงุนงน นางก็เพียงถามดูเท่านั้น คำถามเช่นนี้ต้องแตกตื่นเพียงนี้เลยหรือ
ฉินจื่อซวี่ หนานกงชวี่ และคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ข้างๆ มองท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคุณชายฉังเฟิง ไม่ได้อยากจะช่วยเขาเลยแม้แต่น้อย ลิ่นฉังเฟิงพลันยิ้มแล้วเอ่ยว่า “เอ่อ เด็กน้อยตื่นแล้วหรือ คนนี้คือเยาเยาหรือว่าอานอาน มาเร็ว มาให้พ่อบุญธรรมอุ้มเร็ว”
พ่อบุญธรรมหรือ คุณชายฉังเฟิงคิดเองเออเองเช่นนี้ คนอื่นเห็นด้วยแล้วหรือ
อย่างน้อย ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะไม่เห็นด้วยอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่เขาอุ้ม เด็กน้อยก็ร้องไห้โฮอย่างไม่ไว้หน้า
“ไปให้พ้น” เว่ยจวินมั่วเดินเข้ามา อุ้มลูกออกมาจากอ้อมแขนของเขาแล้วผลักคุณชายฉังเฟิงออกไป เด็กน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของบิดาพลันหยุดร้องไห้ทันที กะพริบตาสองสามครั้งแล้วค่อยๆ หลับตาลง คุณชายฉังเฟิงรีบวิ่งกลับมาหาเว่ยจวินมั่วด้วยความโมโห แต่เมื่อเห็นเว่ยจวินมั่วอุ้มลูกตบลูกเบาๆ ด้วยท่าทีสบายใจ เด็กน้อยที่เมื่อครู่ยังร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของตัวเองทว่าตอนนี้กลับนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของเว่ยจวินมั่ว น่ารักราวกับตุ๊กตาหยกขาว
เขาจึงหุบปากตัวเอง มือของลิ่นฉังเฟิงชี้ไปที่เว่ยจวินมั่วอย่างสั่นเทา “เจ้า… เจ้า เจ้าคือเว่ยจวินมั่วจริงๆ หรือ”
คุณชายเว่ยกลอกตาใส่เขา คุณชายฉังเฟิงจึงต้องเชื่อ แต่เขายังลูบคางตัวเองเดินวนรอบคุณชายเว่ย มองคุณชายเว่ยด้วยสายตาไม่อยากเชื่อนัก “เว่ยจวินมั่ว คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะอุ้มเด็กได้เชี่ยวชาญเช่นนี้ หรือว่าเจ้าแอบไปฝึกเงียบๆ เด็กน้อยคนนี้ไม่กลัวเจ้า ช่างกล้าหาญจริงๆ สมกับที่เป็นลูกของเจ้ากับแม่นางมั่วจริงๆ”
ที่จริงแล้วนอกจากท่าทีที่เย็นชาของเขาแล้ว คุณชายเว่ยก็ดูสบายตา ยังไม่ถึงจุดที่ใครเห็นก็ต้องกลัว สำหรับเด็กทารกที่ยังไม่มีความสามารถในการแยกแยะยิ่งไม่มีทางกลัวเขา ทำหน้าตาน่ากลัวใส่ทารกที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ นั่นคือสิ่งที่สมองของคนอย่างลิ่นฉังเฟิงเท่านั้นที่จะคิดออกมาได้
หนานกงมั่งยิ้มพลางเอ่ย “คุณชายฉังเฟิงชอบเด็กเช่นนี้ ไยจึงไม่รีบแต่งงานมีลูกเล่า” ลิ่นฉังเฟิงอายุเท่ากันกับเว่ยจวินมั่ว อายุเท่านี้นอกจากคุณชายเสียนเกอที่อยู่ตัวคนเดียวและพระเนี่ยนหย่วนที่เดินทางธรรม ยามนี้ก็เหลือแค่คุณชายฉังเฟิงที่ยังอยู่คนเดียว เจี่ยนชิวหยางและซิงเวยไม่เกี่ยว แต่ว่า…ควรคิดเรื่องแต่งงานของพวกเขาได้แล้ว ในเมื่อไม่เป็นนักฆ่าแล้วพวกเขาก็ต้องแต่งงานมีลูก ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป
ลิ่นฉังเฟิงถอนหายใจ “ใช่ว่าข้าไม่อยากแต่งงาน แต่ว่า… บนโลกใบนี้ แม่นางที่คู่ควรกับข้าล้วนแต่มีเจ้าของหมดแล้ว แม่นางที่ไม่มีเจ้าของ ข้าก็ไม่ชอบ”
ยังเอ่ยไม่จบพลันได้ยินเสียงน้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นข้างๆ “คุณชายฉังเฟิงไม่ต้องห่วง น้องหญิงของข้าไม่ต้องการความโปรดปรานของคุณชายฉังเฟิงขอรับ”
คุณชายฉังเฟิงหันหน้ากลับไป มองดูคุณชายฉินที่กำลังยิ้มให้ตัวเองอย่างเย็นชา เหอะๆ ลืมไปเลย…ว่าที่นี่ยังมีคนที่รักน้องสาวตัวเอง แล้วยังมีน้องสาวอยู่ในจวนอยู่แห่งนี้ด้วย เจี่ยนชิวหยางอดไม่ได้ที่จะแตะหน้าผากตัวเอง ยิ่งร่วมงานกับคุณชายฉังเฟิงนานเท่าใดก็ยิ่งรู้ว่าคนคนนี้เป็นคนเช่นไร เดิมทีพวกเขายังเคยคิดว่าคุณชายฉังเฟิงคนนี้คือบุคคลอันดับหนึ่งในวังจื่อเซียว ทุกครั้งที่คิดเช่นนี้เจี่ยนชิวหยางอยากจะไปเชิญคุณชายเสียนเกอมาตรวจดวงตาของตัวเอง “คุณชายฉังเฟิงขอรับ เรามีเรื่องสำคัญมารายงานขอรับ” เจี่ยนชิวหยางเอ่ยอย่างเคร่งขรึม
ลิ่นฉังเฟิงรู้ว่าเจี่ยนชิวหยางกำลังช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ตัวเอง มองเจี่ยนชิวหยางด้วยสายตาขอบคุณ สหายร่วมสำนักวังจื่อเซียวช่างพึ่งพาได้จริงๆ
Comments