หมอหญิงยอดมือสังหาร 951 การทะเลาะกันของพี่น้อง (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 951 การทะเลาะกันของพี่น้อง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 951 การทะเลาะกันของพี่น้อง (1)

กระโจมใหญ่เงียบสงัดราวกับได้ยินเสียงหายใจของตนเอง หมอหลายคนยืนอยู่ด้านข้างรอให้ความช่วยเหลือเมื่อหนานกงมั่วต้องการ แม้ว่าพวกเขาไม่กล้าจัดการกับบาดแผลของเยี่ยนอ๋อง แต่อย่างไรก็เป็นแพทย์ทหารมาหลายปี รู้จัดบาดแผลภายนอกดีกว่าคนทั่วไปอยู่มาก เว่ยจวินมั่วนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ไม่ไกล ใบหน้าเย็นชาหล่อเหลางดงามราวกับชิ้นหยกแกะสลัก ตรงหน้าเขาคือเซียวเชียนเหว่ยที่จับจ้องมือหนานกงมั่วไม่ละสายตา ทว่าไม่กล้าส่งเสียงกลัวไปรบกวนหนานกงมั่ว

หนานกงมั่วทำความสะอาดมือจึงเดินเข้าไป ใช้กริชสั้นตัดเสื้อผ้าของเยี่ยนอ๋องออกไป เผยให้เห็นบาดแผลที่มีเลือดซึม จี้หยกหนึ่งชิ้นหล่นออกมาจากเสื้อของเขา หนานกงมั่วยื่นมือไปรองเอาไว้กลัวจี้หยกจะหล่นมาบนบาดแผล จี้หยกนั้นมีขนาดไม่ถึงหนึ่งชุ่นด้วยซ้ำ หยกสีขาวชั้นดีถูกแกะสลักอย่างประณีต หนานกงมั่วเองไม่ทันได้มองให้ละเอียดก็ตัดสายให้ขาดออก เก็บจี้หยกไว้ใต้ฟูกนุ่มที่เยี่ยนอ๋องนอนอยู่ ในเมื่อเป็นของติดตัวของเยี่ยนอ๋อง คาดว่าคงเป็นของสำคัญกระมัง เพียงแต่…ไม่คิดว่าเยี่ยนอ๋องผู้สง่างามห้าวหาญ จะมีของติดตัวเป็นจี้หยกชั้นดี หนานกงมั่วเพียงคิดและปล่อยผ่านไป

นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บุรุษศรัทธาในหยก[1] ต่อมาไม่ว่าจะชายหญิง คนแก่หรือเด็ก เชื้อพระวงศ์หรือชาวบ้านธรรมดาต่างชื่นชอบพกหยกติดตัว แต่ทั่วไปแล้วบุรุษจะพกชิ้นหยกหรือแผ่นหยกติดตัว น้อยมากจะเห็นเป็นจี้หยก เพียงแต่หยกชิ้นนี้ช่างคุ้นตาเสียจริง

ความคิดนี้เพียงผ่านมาชั่วครู่เท่านั้น ในเวลานี้ไม่มีเวลาให้นางได้ใจลอยคิดถึงสิ่งอื่นใด

หยิบมีดสั้นแหลมคมบางที่ถูกวางเอาไว้อย่างครบครันที่ด้านข้าง หลังจากราดสุราฆ่าเชื้อโรคไปแล้ว จึงเผาไฟชั่วครู่ หนานกงมั่วจึงลงมีดกดลงไปบริเวณแผลลูกธนู หนึ่งมีดผ่านไป คนที่ถูกมีดผ่าและคนที่ลงมีดไม่เท่าใดนัก ทว่าคนที่ยืนดูอยู่ด้านข้างกลับตัวสั่นเทาโดยไม่อาจห้ามได้

หนานกงมั่วดูลูกธนูที่เก็บมาจากสนามรบแล้ว ไห่รื่อกู่ใช้ลูกธนูแข็งของเป่ยหยวน ลูกธนูแตกต่างไปจากของจงหยวน ลูกธนูทำจากเหล็กอย่างดี หัวลูกธนูอยู่ในรูปแบบสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ระหว่างหัวลูกธนูและตัวลูกธนูมีรูเปิด หากไม่ใช่เพราะเว่ยจวินมั่วสกัดเส้นลมปราณของเยี่ยนอ๋องเอาไว้ เกรงว่าคงไม่ต้องรออย่างอื่น เพียงเลือดที่ซึมออกมาก็ทำให้ถึงชีวิตได้ ไม่อาจส่งผ่านลูกธนูออกไปทางด้านหลังได้ ทำได้เพียงดึงออกมาทางเดิม ทั้งนี้ยังมีตะขอเกี่ยวเพิ่มขึ้นมาอีกสองอัน บาดแผลลูกธนูของเยี่ยนอ๋องจำเป็นต้องใหญ่กว่าทั่วไปกว่าเท่าตัว

หนานกงมั่วสูดหายใจเข้าลึก ลงมือครั้งที่สองอย่างมั่นคง ทันใดนั้นพลันมีเลือดพุ่งออกมาจากบาดแผลลูกธนูไม่น้อย ปากของเยี่ยนอ๋องเองก็กระอักเลือดออกมา คนที่อยู่ในสถานการณ์พลันเกิดความวุ่นวายขึ้นมา “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ ท่านอ๋อง…”

“เสด็จพ่อ”

“หุบปาก” เว่ยจวินมั่วลุกขึ้นทันใด ยื่นมือไปคว้าเซียวเชียนเหว่ยที่คิดจะพุ่งตัวเข้าไปหาแล้วโยนไปด้านหลัง ก้าวเดินเข้าไปหยุดอยู่ด้านข้างหนานกงมั่ว “อู๋สยา ไม่ต้องร้อนใจ”

หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ย “ไม่เป็นไร บาดแผลด้านในของเสด็จลุงฉีกขาด เลือดอาจไหลเข้าสู่ปอด”

“ทำอย่างไร” เว่ยจวินมั่วเอ่ยถาม

“ต้องเอาเลือดออกมาก่อน” เอ่ยจบจึงหันหน้าไปหาแพทย์ทหารด้านข้าง เอ่ย “ให้คนเตรียมน้ำตาลและน้ำเกลือให้พร้อม”

ใบหน้าแพทย์ทหารซีดขาว ราวกับอยากออกไปจากที่นี่แทบรอไม่ไหว รีบพยักหน้ารัวเร็ว ล้มลุกคลุกคลานวิ่งออกไป

หนานกงมั่วหยิบอุปกรณ์ที่มีลักษณ์คล้ายหลอดที่ปลายหัวแหลมคมและโปร่งใส ขึ้นมาจากอ่างด้านข้าง กดลงไปกับบาดแผลของเยี่ยนอ๋องชั่วครู่ หนานกงมั่วสอดหลอดเข้าไปในบาดแผลของเยี่ยนอ๋องโดยไม่ลังเล ไม่นานเลือดก็ไหลทะลักออกมา กระเด็นไปบนพื้นรวมไปถึงบนรองเท้าของเซียวเชียนเหว่ยที่อยู่ไม่ไกล เซียวเชียนเหว่ยใบหน้าซีดขาว อดไม่ได้ก้าวถอยหลังสองก้าว อดกลั้นเอาไว้ไม่ส่งเสียงร้องออกมา

แพทย์ทหารด้านข้างกลับตกใจจนหน้าซีด

รอกระทั่งลมหายใจของเยี่ยนอ๋องกลับมาเป็นปกติ หนานกงมั่วจึงเริ่มดึงลูกธนูออก เมื่อครู่มีเลือดมากมาย ยามนี้กลับไม่มีเครื่องมือในการถ่ายเลือด หากปล่อยเอาไว้นานอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต แม้ว่าหนานกงมั่วจะมียาเม็ดหวานเพิ่มเลือดป้อนเข้าปากเยี่ยนอ๋อง แต่อย่างไรยาก็ไม่อาจเปลี่ยนเป็นเลือดมาเสริมในร่างกายเยี่ยนอ๋องได้ทันที

หนึ่งเค่อผ่านไป ลูกธนูที่ฝังเข้าไปในที่สุดก็ถูกหนานกงมั่วดึงออกมาด้วยความระมัดระวังเรียบร้อย หนานกงมั่วลอบถอนหายใจ ครั้งนี้แตกต่างไปจากเมื่อครั้งที่ช่วยชีวิตทหารในกองกำลังรักษาการณ์โยวโจวครั้งนั้น เมื่อเทียบกันแล้วเยี่ยนอ๋องนั้นอันตรายยิ่งกว่า เพียงไม่ระวังก็สามารถบาดเจ็บไปถึงหัวใจของเยี่ยนอ๋องได้ ถึงตอนนั้นต่อให้เป็นเทพเซียนก็ไม่อาจช่วยได้ อีกทั้งบาดแผลภายในของเยี่ยนอ๋องบวกกับการถูกพิษ ทำให้ร่างกายอ่อนแอเป็นอย่างมาก ไม่อาจรับกำลังภายในของเว่ยจวินมั่วได้ เพียงถ่ายเทกำลังภายในเข้าไปหนึ่งครั้ง เกรงว่าเยี่ยนอ๋องคงมีเลือดออกปากออกจมูกจนตายเป็นแน่

รอกระทั่งเย็บปิดบาดแผลด้วยด้ายพิเศษ อีกทั้งยังพันบาดแผลเป็นอย่างดี หนานกงมั่วจึงลุกขึ้น ทว่าภาพตรงหน้ากลับดับมืด นางล้มลงในอ้อมแขนของเว่ยจวินมั่ว

“อู๋สยา”

หนานกงมั่วลืมตาขึ้นมามองดวงตาสีม่วงที่ดูร้อนใจ ฝืนยิ้มออกมา “ข้าไม่เป็นไร…เพียงรู้สึกเหนื่อยเท่านั้น ตอนนี้เสด็จลุงไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกังวล”

เว่ยจวินมั่วพยักหน้า ย่อตัวช้อนอุ้มหนานกงมั่วขึ้น เอ่ย “ข้าจะไปส่งเจ้ากลับไปพักผ่อนก่อน”

หนานกงมั่วเองรู้สึกเหนื่อยมาก พยักหน้าและพิงตัวหลับลงในอ้อมแขนของเว่ยจวินมั่ว ยังเดินไม่ถึงกระโจมของตนเองก็หลับสนิทไปแล้ว

หนานกงมั่วพลันตื่นขึ้นมาในยามบ่ายของอีกวัน หลายวันมานี้นางเหนื่อยไม่น้อย เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพลันแข็งเกร็งไปทั้งตัว ลุกขึ้นจากเตียง บิดตัวไปมาอยู่ชั่วครู่ พลันมองเห็นหลิ่วหันยกถาดอาหารเดินเข้ามา

“คุณชายเอ่ยไม่ผิดเลย เวลานี้จวิ้นจู่คงจะตื่นแล้ว”

หนานกงมั่วนวดหัวคิ้ว เอ่ยถาม “ตอนนี้เวลาใดแล้ว”

หลิ่วหันเอ่ย “ผ่านยามเที่ยงมาแล้วเจ้าค่ะ จวิ้นจู่ไม่ได้กินอาหารเช้า แม้แต่อาหารเที่ยงก็ไม่ได้กิน เพียงแต่คุณชายให้ข้าเตรียมอาหารไว้ให้จวิ้นจู่ บอกว่าเวลานี้จวิ้นจู่คงจะตื่นแล้ว”

อย่าว่าแต่อาหารเช้าอาหารเที่ยง แม้แต่อาหารเย็นเมื่อคืน หนานกงมั่วก็กินอย่างสะลึมสะลือ จำได้ว่าเว่ยจวินมั่วปลุกขึ้นมากินข้าว กินโจ๊กไปไม่กี่คำก็ล้มตัวลงบนเตียงหลับต่อไป หลังจากล้างหน้าล้างตาเล็กน้อย หนานกงมั่วจึงเดินกลับมายังโต๊ะ เริ่มทานอาหารที่หลิ่วหันยกมาให้ ท้องที่หิวได้รับการปลอบประโลมด้วยอาหารชั้นยอด พลันรู้สึกสบายขึ้นมามาก คิ้วที่ขมวดมุ่นของหนานกงมั่วเริ่มคลายออกไปมาก

ทานข้าวไปพลางเอ่ยถาม “เยี่ยนอ๋องเป็นอย่างไรแล้ว”

หลิ่วหันส่ายศีรษะ เอ่ย “ท่านอ๋องยังไม่ฟื้นเลยเจ้าค่ะ”

หนานกงมั่วพยักหน้าไม่แปลกใจ “บาดเจ็บหนักเกินไป อีกทั้งข้ายังใช้ยาชา แต่ว่าวันมะรืนก็คงฟื้นแล้ว” เพียงแต่ฟื้นขึ้นมาแล้วจะเป็นอย่างไรบ้างยังไม่อาจบอกได้

“จะว่าไป เยี่ยนอ๋องบาดเจ็บได้เยี่ยงไร” หนานกงมั่วเพิ่งมีเวลาว่างมาถามเรื่องนี้ ต่อให้ไห่รื่อกู่จะเป็นยอดมือยิงธนูอันดับหนึ่งของเป่ยหยวน แต่จะทำร้ายใครในกำมือของเว่ยจวินมั่วคงไม่ใช่เรื่องง่ายกระมัง แน่นอนว่าหลิ่วหันเองก็ไปสืบมาเรียบร้อย ถอนหายใจออกมา “คนที่อยู่ในสถานการณ์บอกว่า เป่ยหยวนเริ่มโจมตีคุณชายรองเซียวก่อน เมื่อคุณชายรองเซียวถูกช่วยเหลือก็เริ่มโจมตีคุณชาย สุดท้ายค่อยยิงไปที่เยี่ยนอ๋อง คนของสำนักหอธาราเองก็เป็นบ้าไปแล้ว เพื่อไม่ให้คุณชายช่วยเยี่ยนอ๋องได้จึงเอาตัวไปขวางกระบี่ของคุณชาย ร่างกายของทั้งสองคนที่เข้ามาขวางถูกฟันขาดเป็นสองท่อน เมื่อถูกขัดขวาง…เยี่ยนอ๋องถึงได้…”

[1] บุรุษศรัทธาในหยก ในสมัยโบราณมีความเชื่อกันว่า หยกเป็นตัวแทนของคุณธรรม ไม่ว่าชายหรือหญิงก็มักมีหยกติดตัวแสดงถึงคุณธรรมในตัว

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *