หมอหญิงยอดมือสังหาร 564 ลุงที่แสนดีแห่งอาณาจักรเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ (3)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 564 ลุงที่แสนดีแห่งอาณาจักรเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 564 ลุงที่แสนดีแห่งอาณาจักรเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ (3)
องค์หญิงฉังผิงพยักหน้า เอ่ย “นิสัยของจวินเอ๋อร์ข้ารู้ดี พวกเจ้าอยากแยกออกไปอยู่ข้างนอกใช่หรือไม่”

หนานกงมั่วตกใจเล็กน้อย หันกลับมามององค์หญิงฉังผิง องค์หญิงฉังผิงยิ้มพลางลูบหลังมือนางเบาๆ เอ่ย “ไม่เป็นไร ข้าเองก็คิดว่าย้ายออกไปก็ดีเหมือนกัน แม้พี่สามกับพี่สะใภ้จะใจดี แต่หากอยู่นานไปก็คงไม่เหมาะ คนหนุ่มสาวอย่างพวกเจ้าก็คงไม่เป็นอิสระ เพียงแต่…พี่สามคงโกรธแน่”

หนานกงมั่วเอ่ย “เสด็จลุงเยี่ยนอ๋องปรารถนาดี พวกเราผู้น้อยไม่รู้ความเองเพคะ…”

องค์หญิงฉังผิงส่ายศีรษะ เอ่ย “เป็นเพราะพวกเจ้ารู้ความจึงนึกถึงสิ่งเหล่านี้ได้ หากมีเพียงพี่สาม ต่อให้อยู่กินที่บ้านเขาไปตลอดชีวิตข้าเองก็ไม่ว่า แต่อย่างไรจวนเยี่ยนอ๋องก็เป็นหนึ่งครอบครัว ครอบครัวมีคนเยอะเนิ่นนานไปอาจเป็นปัญหาได้ ถึงตอนนั้นอาจจะทำลายความรู้สึก ทุกคนเว้นระยะห่างกันบ้างนับเป็นเรื่องดี”

“เสด็จแม่กล่าวถูกแล้วเพคะ” หนานกงมั่วพยักหน้าเอ่ยตอบ

องค์หญิงฉังผิงยิ้ม เอ่ย “คงต้องรอดูว่าจวินเอ๋อร์จะเอ่ยกับพี่สามอย่างไรแล้ว ไม่เป็นไร พี่สามโกรธง่ายแต่ก็หายเร็วเหมือนกัน”

“เอ่อ…เสด็จลุงเยี่ยนอ๋องคงไม่ต่อยจวินมั่วใช่ไหมเพคะ” หนานกงมั่วรู้สึกลังเลขึ้นมา เยี่ยนอ๋องมีรูปลักษณ์สง่างาม ทว่านิสัยเมื่อเทียบกับรูปลักษณ์แล้วไม่ดีเท่าใดนัก เพียงดูว่าเซียวเชียนจย่งโดนตีไปบ่อยเพียงใดก็พอรู้ได้ องค์หญิงฉังผิงชะงัก เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร พี่สาม…อืม จวินมั่วโดนตีก็ไม่เลว”

นี่คือมารดาที่คอยกังวลเมื่อยามเกิดเรื่องกับเว่ยจวินมั่วผู้นั้นจริงหรือ

ส่งองค์หญิงกลับไปพักผ่อนแล้ว บ่าวรับใช้ของเยี่ยนอ๋องจึงมาบอกว่าเยี่ยนอ๋องเชิญฮูหยินน้อยไปยังห้องหนังสือ คนมารายงานมองหนานกงมั่วด้วยสายตาแปลกประหลาด ห้องหนังสือของเยี่ยนอ๋องแล้วนอกจากพระชายาเยี่ยนอ๋องก็ไม่อาจมีสตรีใดเข้าไปได้ เห็นได้ชัดว่าท่านอ๋องคงให้ความสำคัญกับคุณชายเว่ยมากทีเดียว

ในห้องหนังสือของเยี่ยนอ๋อง เยี่ยนอ๋องกำลังจ้องมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าโกรธจัด ของที่อยู่ในมือยกแล้วยกอีกทว่าไม่ได้ขว้างมันออกไป เว่ยจวินมั่วยืนก้มหน้าอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ ใบหน้าเรียบนิ่งราวกับมองไม่เห็นว่าสิ่งที่อยู่ในมือเยี่ยนอ๋องนั้นสามารถทำให้ศีรษะของเขาเป็นแผลได้

“ขอเสด็จลุงได้โปรดไตร่ตรอง”

“ไตร่ตรองบ้าน่ะสิ” เยี่ยนอ๋องวางของในมือลงด้วยความโมโห จ้องเว่ยจวินมั่วเขม็ง เนิ่นนานจึงเอ่ย “เจ้าลองว่ามาสิ จวนเยี่ยนอ๋องมีอันใดที่เจ้าไม่พอใจ ทำให้คุณชายเว่ยอยู่แล้วต้องทุกข์ทรมาน ข้าให้เสด็จป้าเจ้าตกแต่งจัดเตรียมมากว่าหนึ่งเดือน เจ้ามาอยู่วันแรกก็จะไปแล้วหรือ” เยี่ยนอ๋องเกิดในกองทัพ ยามนี้เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในกองทัพ เมื่ออารมณ์ไม่ดีก็อย่าได้หวังความสุภาพอ่อนโยนจากเขาเลย

ดวงตาของเว่ยจวินมั่วมีแววจนปัญญาพาดผ่าน “เสด็จลุง กระหม่อมหมายถึงผ่านไปอีกสักพักพ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วนั่นไม่เหมือนกันหรือ” เยี่ยนอ๋องกลอกตา เอ่ย “เจ้าเอ่ยมาให้ชัดเจน อยู่ที่จวนเยี่ยนอ๋องแล้วไม่ดีอย่างไร”

“ที่นี่คือจวนเยี่ยนอ๋อง” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ ไม่มีอันใดไม่ดี แต่อย่างไรก็ยังคงเป็นจวนเยี่ยนอ๋อง ไม่ใช่บ้านของเขาและอู๋สยา

เยี่ยนอ๋องชะงักนิ่ง ความจริงใช่ว่าเขาไม่เข้าใจเว่ยจวินมั่ว เพียงแต่ได้ยินหลานชายบอกว่าจะไป มองตนเองว่าเป็นคนนอก ทำให้เขาโมโหขึ้นมา เยี่ยนอ๋องถอนหายใจแล้วนั่งลงอีกครั้ง โบกปัดมือ เอ่ย “ช่างเถิด ข้างจวนเยี่ยนอ๋องมีบ้านสามทางเข้าว่างอยู่ เดี๋ยวข้าให้คนไปจัดการให้พวกเจ้าเข้าไปอยู่”

“ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจวินมั่วปฏิเสธโดยไม่ลังเล เอ่ย “เดี๋ยวกระหม่อมจะให้คนไปหาเองพ่ะย่ะค่ะ”

“เว่ยจวินมั่ว เจ้าอยากโดนต่อยใช่หรือไม่” สีหน้าเยี่ยนอ๋องน่ากลัวขึ้นมา “อยากโดนโบยเจ้าก็รีบบอก นี่ก็ไม่ได้นั่นก็ไม่ได้ แล้วเจ้าจะให้ลุงเช่นข้าทำเยี่ยงไร”

“เสด็จลุง” เว่ยจวินมั่วลังเล ดวงตาสีม่วงมองเขา “เชียนชื่อ เชียนเหว่ย และเชียนจย่งล้วนยังไม่มีบ้าน พระองค์ให้บ้านกับกระหม่อมนั่นเหมือนอันใด อีกอย่างกระหม่อมก็ไม่ได้ขาดเงินจะซื้อบ้าน” จวนเยี่ยนอ๋องไม่ได้แออัด แน่นอนเว่ยจวินมั่วรู้ดี เยี่ยนอ๋องวางแผนการปกครองเมืองโยวโจวด้วยความใส่ใจ ปกครองมายี่สิบกว่าปีไม่เคยเก็บภาษีใดๆ แต่ทหารที่เลี้ยงเอาไว้นั้นต้องออกศึกทุกปี จวนเยี่ยนอ๋องเองก็ต้องกินอยู่อย่างประหยัด

“ให้ตาย จวนเยี่ยนอ๋องเป็นของข้า ข้าจะยกบ้านให้ใครมีผู้ใดกล้าว่าอันใดเล่า” เยี่ยนอ๋องเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ

เว่ยจวินมั่วไม่เคยคิดมาก่อนว่าเสด็จลุงผู้แข็งแกร่งห้าวหาญของตนจะก่อกวนไม่มีเหตุผลเช่นนี้ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการพูด “เสด็จลุง กระหม่อมกับอู๋สยาตั้งใจจะตั้งหลักปักฐานที่โยวโจว บ้านหลังนั้นจะเป็นบ้านของพวกเราในอนาคตข้างหน้า กระหม่อมตั้งใจอยากเลือกที่ที่อู๋สยาชอบเพื่อนางพ่ะย่ะค่ะ”

เยี่ยนอ๋องชะงัก ไม่รู้ว่านึกถึงอันใดทว่าความโกรธเมื่อครู่พลันมลายหายไป นั่งลงบนเก้าอี้นิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะโบกปัดมือ เอ่ย “ช่างเถิด ข้าเข้าใจความต้องการของเจ้า กลัวว่าข้าจะให้อันใดเจ้ามากเกินไปแล้วน้องชายน้องสาวของเจ้าจะไม่พอใจ พวกเขาเป็นบุตรของข้า ข้าจะให้อันใดหรือไม่ให้อันใดพวกเขาจะพอใจหรือไม่พอใจได้หรือ ในเมื่อเจ้าเอ่ยเช่นนี้ เอาไป ไปซื้อเอาเอง”

เว่ยจวินมั่วก้มหน้าลงไปมอง เป็นตั๋วเงินหนึ่งปึก มองดูความหนานั่นแล้วคาดว่าคงราวๆ สองหมื่นตำลึง ทันใดนั้นคุณชายเว่ยที่เคยมีสีหน้าเฉยชากลับมีท่าทีจะร้องไห้ก็ไม่ได้จะขำก็ไม่ออก เขา ขาด เงิน หรือ ต่อให้เขาขาดเงิน มารดาของเขาก็ไม่ขาดเงินนะ

เห็นเว่ยจวินมั่วกำลังจะเอ่ยบางอย่าง เยี่ยนอ๋องจึงปรายตามองเขา เอ่ยเสียงเย็นขึ้นมา “เอ่ยอันใดดีๆ ไม่ได้ก็หุบปากไปเสีย หากพูดมากอีกข้าจะตัดขาเจ้า”

เว่ยจวินมั่วลูบปลายจมูก รับตั๋วเงินมาเงียบๆ เดี๋ยวค่อยหาวิธีเอากลับไปคืนก็ได้ มองตั๋วเงินในมือ เว่ยจวินมั่วอดละอายใจไม่ได้ ตั๋วเงินเหล่านี้ล้วนใหม่ทั้งนั้น แต่เป็นตั๋วเงินที่ถูกประทับตรามาเมื่อหลายปีที่แล้ว เห็นชัดว่าไม่ใช่พึ่งเตรียมเอาไว้

เห็นว่าเขารับไปแล้ว เยี่ยนอ๋องจึงชี้ไปยังเก้าอี้ด้านข้าง เอ่ย “นั่งลง เล่าเรื่องที่จินหลิงมา”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ตอนที่หนานกงมั่วมาถึง บรรยากาศในห้องหนังสือนั้นดูมีความสุข เยี่ยนอ๋องนั่งพิงพนักเก้าอี้ฟังเว่ยจวินมั่วเล่าเรื่องราว แม้แผ่นหลังของเว่ยจวินมั่วจะเหยียดตรงทว่ากลับดูออกว่าเขาผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง

“อู๋สยามาแล้ว นั่ง” เยี่ยนอ๋องชี้ไปยังเก้าอี้ด้านข้างจวินมั่วพลางเอ่ย

บ่าวรับใช้ด้านหน้ารีบยกน้ำชาเข้ามาให้ จากนั้นจึงเดินหายออกไปเงียบๆ หนานกงมั่วยกถ้วยชาขึ้นมาอุ่นมือ

“ฉังผิงพักผ่อนแล้วหรือ” เยี่ยนอ๋องเอ่ยถาม หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ย “โคลงเคลงมาตลอดทาง เสด็จแม่จึงหลับไปแล้วเพคะ” เยี่ยนอ๋องพยักหน้า สายตาที่มองไปยังหนานกงมั่วอบอุ่นขึ้นมา “เรื่องที่จินหลิงจวินมั่วเล่าให้ข้าฟังแล้ว หลายวันมานี้ลำบากเจ้าแล้ว เจ้าเด็กนี่เจ้าช่างเก่งกาจ หนานกงไหวมีบุตรีเช่นเจ้า ข้ากลับนึกไม่ถึง”

เมื่อครั้งอยู่จินหลิงรู้สึกว่าหนานกงมั่วไม่เลว ทว่าก็เพียงไม่เลวเท่านั้น ต่อมาเขาใช้ยาของหนานกงมั่วร่างกายกลับดีขึ้นมามาก ได้ยินมาว่าหนานกงมั่วไปร่วมอยู่ในสนามรบและมีความดีความชอบ รู้สึกว่าแม่นางผู้นี้ไม่เลวสมแล้วที่เกิดในตระกูลขุนศึก ทว่าเมื่อได้ฟังเว่ยจวินมั่วเอ่ยถึงช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนมานี้ ความชื่นชมที่เยี่ยนอ๋องมีต่อหนานกงมั่วจึงทบทวีมากยิ่งขึ้น เด็กคนนี้มีความกล้าหาญและสติปัญญาเกินไปมาก ไม่ว่าจะเป็นแผนการ ความใจกล้า เล่ห์เหลี่ยม แผนการและกลอุบายไม่มีสิ่งใดไม่ดี อยู่ในสถานการณ์แบบนั้นในจินหลิง ยังสามารถปกป้องครอบครัวและทำให้เซียวเชียนเยี่ยยอมปล่อยออกมาได้ แม้แต่เยี่ยนอ๋องเองยังไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดีเยี่ยงนางหรือไม่

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *