หมอหญิงยอดมือสังหาร 780 คุ้มกันเมือง (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 780 คุ้มกันเมือง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 780 คุ้มกันเมือง (1)
เซียวเชียนจย่งโบกดาบที่อยู่ในมือ เอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ “พี่สะใภ้วางใจ มอบหน้าที่ให้ข้าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

หนานกงมั่วยิ้มบาง ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงหันไปหาหนานกงชวี่ เอ่ยถาม “พี่ใหญ่ดูว่าจะสามารถป้องกันได้กี่วันหรือ” คนที่อยู่ตรงนี้ นอกจากเซียวเชียนจย่งแล้วก็คงมีเพียงหนานกงชวี่ที่เคยร่ำเรียนการสู้รบอย่างจริงจัง ส่วนเซียวเชียนจย่ง อายุยังน้อยอารมณ์ร้อนไม่อาจวางใจได้

หนานกงชวี่ไตร่ตรองอยู่เนิ่นนาน เอ่ย “มากที่สุดสามวัน” ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นกำลังทหาร ช่วงเวลา ผู้คนต่างไม่เป็นผลดีต่อพวกเขา สามารถป้องกันได้ถึงสามวันก็นับว่าโชคดีแล้ว

หนานกงมั่วครุ่นคิด เอ่ย “น่าจะพอแล้ว”

หนานกงชวี่พยักหน้า “วางใจ ข้ารับรองว่าภายในสามวันจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน” ส่วนหลังจากสามวันนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะควบคุมได้แล้ว

ทหารที่อารักขาในจวนเยี่ยนอ๋องและจวนอื่นๆ รวมกันแล้วมีกว่าสามสี่พันนาย บวกกับทหารที่เพิ่งยอมจำนนอีก ทั้งหมดรวมกันได้เกือบหนึ่งหมื่นนาย แต่เมื่อเทียบกับทหารนับแสนที่เฝ้าอยู่นอกเมืองแล้ว ยังคงมีกำลังน้อยกว่า หากปะทะก็คงเป็นดั่งแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

ยกประตูเมืองให้เป็นหน้าที่ของเหล่าหนานกงชวี่ หนานกงมั่วจึงพาฉินจื่อซวี่กลับมายังจวนเยี่ยนอ๋อง จวนเยี่ยนอ๋องยังมีพระชายาเยี่ยนอ๋องที่สลบไสล องค์หญิงฉังผิงที่อ่อนแอ หญิงตั้งครรภ์อย่างซุนเหยียนเอ๋อร์ แม้ว่าฉีซั่วจะตกมาอยู่ในมือของนางแล้ว ทว่าไม่ได้หมายความว่าในเมืองจะไม่มีอันตรายแล้ว

กลับมาถึงจวนเยี่ยนอ๋อง จูชูอวี้และซุนเหยียนเอ๋อร์ก็พาคนรีบเข้ามาต้อนรับ

“พี่สะใภ้ ด้านนอกไม่เป็นไรนะเจ้าคะ” ซุนเหยียนเอ๋อร์เอ่ยถามด้วยความกังวล เสียงดังมาจากกำแพงเมือง แม้แต่อยู่ในจวนเยี่ยนอ๋องก็ยังได้ยิน

หนานกงมั่วส่ายศีรษะ จับข้อมือของซุนเหยียนเอ๋อร์มาตรวจชีพจร ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไรอย่างแน่นอน ตอนนี้ร่างกายของเจ้าไม่เหมือนเดิมแล้ว ต้องพักผ่อนมากๆ จึงจะถูก” ซุนเหยียนเอ๋อร์พยักหน้า เอ่ยตอบ “ข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ ท่านมีเรื่องยุ่งมากมายไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกเจ้าค่ะ”

“เสด็จป้าเป็นอย่างไรบ้าง” หนานกงมั่วเอ่ยถาม

จูชูอวี้ย่นคิ้ว เอ่ย “เสด็จแม่ยังไม่ฟื้น เสด็จอากำลังดูแลอยู่เจ้าค่ะ” แม้นางเองก็ไม่คาดคิด ว่าเฉินซื่อจะทำเรื่องโง่เง่าเพียงนี้ หากเป็นยามปกตินางคงรู้สึกยินดีที่ได้เห็นความโง่ของเฉินซื่อ แต่ว่าเป็นในยามนี้ หากพระชายาเยี่ยนอ๋องเป็นอันใดไปไม่เป็นผลดีต่อพวกนางอย่างแน่นอน พระชายาเยี่ยนอ๋องอยู่ที่โยวโจวมายี่สิบปี อำนาจต่อตระกูลผู้มีอำนาจนอกจากเยี่ยนอ๋องแล้วไม่มีใครเทียบได้ แม้กระทั่งนางและหนานกงมั่วเองก็ไม่อาจเทียบได้ เวลานี้พระชายาเยี่ยนอ๋องสลบไสลไม่รู้สึกตัวยิ่งทำให้พวกเขาที่เดิมก็เสียเปรียบอยู่แล้วต้องแย่ลงไปอีก

“เข้าไปก่อนค่อยว่ากันเถิด” หนานกงมั่วถอนหายใจเสียงเบา

เมืองเล็กๆ ไกลออกไปจากโยวโจวร้อยกว่าลี้ กองทัพนับแสนของเว่ยจวินมั่วพักแรมอยู่ตรงนี้ เว่ยจวินมั่วนั่งอยู่บนหลังม้า ยืนนำอยู่หน้ากองทัพเงยหน้ามองไปยังประตูเมืองตรงหน้า ทหารบนกำแพงมองลงมายังกองทัพด้านล่างท่าทางระแวดระวัง ทั่วทุกที่ราวกับมีไอสังการแผ่กระจายเข้มข้น

ด้านข้างเว่ยจวินมั่ว เป็นลิ่นฉังเฟิงและเซียวเชียนเหว่ยที่นั่งอยู่บนหลังม้าเหมือนกัน ลิ่นฉังเฟิงมองไปยังด้านบนกำแพง เลิกคิ้วพลางเอ่ย “ดูเหมือนจะปิดล้อมเมืองโยวโจวจนถึงที่สุด ผู้ที่นำทัพคือใครกัน”

เจี่ยนชิวหยางยิ้มพร้อมกับเอ่ยตอบว่า “นายทหารชั้นสูงใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพเซี่ยก็มีเพียงไม่กี่คน ดูเหมือนว่าจะอยู่ในการรบทั้งหมดขอรับ” เซี่ยลี่รู้ว่าตนเองต้องตาย จึงไม่ดึงลูกน้องของตนต้องมาตายไปด้วย เมื่อยามที่พวกเขาไปถึงเซี่ยลี่ ขุนพลใต้บังคับบัญชาของเขาต่างก็ถูกส่งไปปิดล้อมโยวโจวแล้ว แต่นี่ก็สร้างปัญหาให้กับพวกตนไม่น้อย เห็นชัดว่าแต่ละจุดที่คอยขัดขวางพวกตนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นแม่ทัพมากประสบการณ์ในสนามรบมานานหลายปีทั้งนั้น

“หรือว่าพวกเขาคิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะสามารถขวางพวกเราได้” ลิ่นฉังเฟิงแสยะยิ้มเอ่ย

เจี่ยนชิวหยางถอนหายใจ เอ่ย “พวกเขาไม่จำเป็นต้องขวางพวกเราเอาไว้ตลอด เพียงขัดขวางเอาไว้จนกว่ากองทัพของราชสำนักจะมาถึงเท่านั้น”

เซียวเชียนเหว่ยขมวดคิ้ว หันกลับไปเอ่ยถามเว่ยจวินมั่วที่นิ่งเงียบอยู่นาน “พี่ชาย พวกเราจะทำอย่างไรหรือขอรับ”

เว่ยจวินมั่วเอ่ย “บุกตีเข้าไป”

“รายงานท่านแม่ทัพ” ม้าเร็ววิ่งเข้ามา คนที่อยู่บนหลังม้าพลิกตัวลงมาเอ่ยรายงาน “รายงานท่านแม่ทัพ ศัตรูด้านหน้าเริ่มโจมตีเมืองโยวโจวแล้วขอรับ” คนที่กลับมาคือหน่วยสอดแนมที่ส่งไปสอดแนมก่อน

สีหน้าของเซียวเชียนเหว่ยพลันแปรเปลี่ยน “เร็วเพียงนี้เลยหรือ”

หน่วยสอดแนมมองเซียวเชียนเหว่ย ลังเลอยู่ชั่วครู่ เอ่ย “นอกจากนี้ ในเมืองโยวโจว…พระชายาเยี่ยนอ๋องถูกพิษสลบไปยังไม่ฟื้นเลยขอรับ ซิงเฉิงจวิ้นจู่และซื่อจื่อจับตัวฉีซั่วเอาไว้ได้แล้ว ตอนนี้คุณชายเซียวสามและคุณชายใหญ่หนานกงเป็นผู้นำในการคุ้มกันเมืองขอรับ”

“เสด็จแม่หรือ” เซียวเชียนเหว่ยเกือบจะตกลงจากหลังม้า รีบจับเชือกเอาไว้แน่น ควบคุมสติตนเอง เอ่ยถามอย่างร้อนรน “เสด็จแม่จะถูกพิษได้เยี่ยงไร”

หน่วยสอดแนมส่ายศีรษะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ เพียงแต่เรื่องนี้ไม่อาจเอ่ยออกมาต่อหน้าผู้คนได้ เซียวเชียนเหว่ยเองก็เข้าใจหลักการนี้ ตั้งสติแล้วจึงเอ่ย “มีพี่สะใภ้กับคุณชายเสียนเกออยู่ เสด็จแม่จะต้องไม่เป็นอันใดแน่ พี่ชาย ฝั่งน้องสามเกรงว่าคงจะยื้อไว้ได้ไม่กี่วัน”

ลิ่นฉังเฟิงพยักหน้า เห็นด้วยกับความเห็นของเซียวเชียนเหว่ย “มากที่สุดสองวันเมืองโยวโจวก็คงป้องกันไม่อยู่แล้ว ไม่แน่ว่าคงจะเพียงหนึ่งวันเท่านั้น”

“สามวัน” เสียงทุ้มของเว่ยจวินมั่วเอ่ยขึ้น

ลิ่นฉังเฟิงลูบหน้าผาก ไม่รู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจมาจากที่ใด เอ่ยอย่างจนปัญญา “ต่อให้เป็นสามวัน พวกเราก็คงไม่ทัน” ตรงหน้ามีทหารเกือบแสนขวางอยู่ แม้ว่าทหารของพวกเขาก็ไม่น้อย แต่ว่าทหารเก่ามีประสบการณ์การรบมานานหลายปี รับมือกับพวกเขาที่อายุเฉลี่ยไม่ถึงยี่สิบห้าปี อีกทั้งเพิ่งรับทหารมาแน่นอนว่าไม่คุ้นเคยกับพวกเขา สามวันอยากตีไปถึงโยวโจวอีกทั้งจัดการกับพวกที่ปิดล้อมโยวโจวเอาไว้ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

“คุณชายเว่ยท่านมีแนวคิดดีๆ อันใด” ลิ่นฉังเฟิงเอ่ยถาม

เว่ยจวินมั่วปรายตามองเขาเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่มีแนวคิด สังหารไปทีละคน”

ในจวนเยี่ยนอ๋อง หนานกงมั่วนั่งอยู่ข้างเตียงคลายมือที่วางอยู่บนจุดชีพจรที่ข้อมือของพระชายาเยี่ยนอ๋อง จากนั้นวางมือของพระชายาเยี่ยนอ๋องกลับเข้าไปในผ้าห่มเช่นเดิมก่อนจะลุกขึ้น

“อู๋สยา พี่สะใภ้สามเป็นอย่างไรบ้าง”

องค์หญิงฉังผิงเอ่ยถามด้วยความกังวล หนานกงมั่วส่ายศีรษะ เอ่ย “ยาที่ศิษย์พี่ให้สามารถกำจัดพิษในร่างกายได้ เพียงแต่พิษที่สามารถทำให้ลำไส้ทะลุรุนแรงเกินไป เสด็จป้าเองก็ไม่มีวรยุทธ์ ดังนั้นเวลาเพียงไม่นานคงไม่อาจรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้เพคะ” อีกทั้ง ต่อให้ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ ในระยะเวลายาวนาน ยังต้องดูแลรักษาร่างกายให้ดี

องค์หญิงฉังผิงถอนหายใจ “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดี”

องค์หญิงฉังผิงวางใจแล้ว แต่ว่าจูชูอวี้และฉินจื่อซวี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ พระชายาเยี่ยนอ๋องรักษาชีวิตเอาไว้ได้นับเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่า…ยามนี้พระชายาเยี่ยนอ๋องสลบไม่รู้สึกตัวเป็นเรื่องดีได้เยี่ยงไร หนานกงมั่วมองทั้งสองคน เอ่ย “น้องสะใภ้ คุณชายฉิน พวกเราออกไปเอ่ยด้านนอกเถิด”

ทั้งสองพยักหน้า หมุนตัวเดินตามหนานกงมั่วออกไป

นั่งอยู่ที่ห้องโถงรับแขกด้านนอก ฉินจื่อซวี่ขมวดคิ้ว เอ่ย “จวิ้นจู่ กองกำลังสนับสนุนของเยี่ยนอ๋องจะมาถึงในสามวันหรือไม่” สิ่งที่ฉินจื่อซวี่กังวลและยังไม่ได้เอ่ยออกไปคือ เขาสงสัยว่าเมืองนี้อาจจะป้องกันได้ไม่ถึงสามวัน จูชูอวี้เองก็กังวลเหมือนฉินจื่อซวี่ แม้ว่านางจะไม่รู้เรื่องการศึก ทว่าทหารนับแสนกว่านายคอยขัดขวางตลอดทาง เวลาสามวันคงไม่เพียงพอ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *